เปิดจักระ 100%ในงาน มินิมหกรรมพลังจิต ครั้งที่ 3

อย่ากลัวจักระจะปิด ถ้าคุณเ้ปิด 100 % แล้ว
ที่บอกว่าใช้พลังเกินขั้นตัวเองจักระจะปิด
เปิดจักกระ ขั้น4 มา 2ปีแล้ว พอดีเรียนหมออยู่โรงพยาบาลก็ส่งพลังช่วยคนไข้โดยไม่ได้สัมผัสเพราะไม่มีเวลา การส่งพลังนี้เป็นของระดับ 5 กระมังครับ แต่ผมทำมานานแล้ว จักรกระยิ่งร้อนเหมือนมีพลังมาก ไม่เห็นว่าจักระจะปิดตรงไหนเลยครับ ยิ่งทำบ่อยยิ่งคล่อง ใช้เวลาหมุนจักระน้อยแป๊บเดียวก็ร้อน(พลังเต็มแล้ว)

ผมเรียนมาฟรี เพราะตอนนั้นเป็นตัวแทนร่วมงานจัดงานพิเศษเปิดจักระที่ ขอนแก่น โดย อ.ธาดา +อ.ระไว ที่มาจากอุดรธานี
อ.ใหญ่ เป็นคนเปิดจักระให้ทาง โทรศัพท์
เอาพลังมาช่วยคนไม่ต้องกลัวว่าจะปิดหรอกครับ

ถ้าอยากปิดพลังผม ไม่ให้รักษาก็ผิดจุดประสงค์ของพลังจักรวาล


ว่าจะไปเรียนเพิ่มเติมระดับ 5 -6 แต่ยังไม่รู้จะไปเรียนไหนเพราะตอนเรียนผมไม่ไดใบประกาศผมเรียนฟรี เพื่อนที่เรียนด้วยบอกว่าจะเรียนต่อไดต้องมีใบประกาศไปยืนยันว่าสำเร็จขั้น 4 แล้ว
น่าคิดนะครับว่าคนที่จะสอนขั้น5-5.1-5.2 -6 ให้ผมเขาไม่สามารถรู้เหรอว่าผมเรียนถึงขั้นไหนแล้ว ทั้งที่ อ.ธาดาที่ อุดร มองปราดเดียวก็บอกได้แล้วว่าผมเรียนถึงขั้น4 แต่ท่านบอกว่าท่านสอนขั้น 5 -6 ให้ไม่ได้เพราะ อ. ใหญ่ไม่อนุญาติ แม้ความจริงท่านจะทำได้ก็ตาม

 

เป็นความสามารถ เฉพาะบุคคลครับ มีหลายท่านที่มีความสามารถเช่นเดียวกับคุณครับ ที่ไม่อยากให้ใช้เกินระดับที่คุณเรียนเกรงว่า พลังของคุณจะไม่พอครับ และจะทำให้หมดแรงไปครับจนดูเหมือนว่าจักระได้ถูกปิดไปครับ และยังมีเหตุผลอื่นๆอีกด้วยครับ และเป็นกฏเกณฑ์ที่อาจารย์ ด๋างเป็นผู้กำหนดไว้ครับ

 

ขอถามอีกอย่าง ครับ ท่าน

ว่าจะไปเรียนเพิ่มเติมระดับ 5 -6 แต่ยังไม่รู้จะไปเรียนไหนเพราะตอนเรียนผมไม่ไดใบประกาศผมเรียนฟรี เพื่อนที่เรียนด้วยบอกว่าจะเรียนต่อไดต้องมีใบประกาศไปยืนยันว่าสำเร็จขั้น 4 แล้ว
น่าคิดนะครับว่าคนที่จะสอนขั้น5-5.1-5.2 -6 ให้ผมเขาไม่สามารถรู้เหรอครับว่าผมเรียนถึงขั้นไหนแล้วเพราะผมตอนนี้มีกำลังทุนพอจะเรียนได้อยากเรียนพอดีแต่ไม่รู้จะไปติดต่อที่ไหน ทั้งที่ อ.ธาดาที่ อุดร มองปราดเดียวก็บอกได้แล้วว่าผมเรียนถึงขั้น4 แต่ท่านบอกว่าท่านสอนขั้น 5 -6 ให้ไม่ได้เพราะ อ. ใหญ่ไม่อนุญาติ แม้ความจริงท่านจะทำได้ก็ตาม

 

(y) Cool (y) (sing)

 

ไม่ใช่ว่าทุกท่านที่เรียนพลังจักรวาล จะมีความสามารถเท่ากันและเหมือนกันครับ ทุกท่านเรียนมาด้วยกันยังคิดไม่เหมือนกันเลยครับ Dr.choo สามารถให้ certificate ได้ครับถ้าท่านได้เป็นผู้สอน เดี๋ยวผมจะลองถามท่านให้ครับ ส่วนผมแค่มีความรู้งูๆปลาๆ เท่านั้นเองครับ คงยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากครับ ถ้าไม่รังเกียจก็ลองเข้ามาดูในกระทู้นี้ก็แล้วกันครับ บางครั้งตามศูนย์ต่างๆยังยึดติดกับอะไรบางอย่างครับ ถ้าอยากเรียนต่อก็อย่างที่เรียนไว้ข้างต้นครับและต้องมาเรียนต่อที่ กทม ครับ จะมีศูนย์ใหญ่ลองรับอยู่ครับ ตอนนี้อาจารย์ ด๋างเสียชีวิตแล้ว กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ครับ ทุกศูนย์คงยังไม่สามารถเปิดสอนตามหลักระดับสูงได้ครับ ต้องรอ มาดาม เทเรซา มาเมืองไทย ประมาณต้นปีนี้ครับ

 

สวัสดีค่ะคุณสามเหลี่ยม(chouหญิง)
อยากทราบว่า มาดามเทเรซาเป็นชาวคริสต์โรมันคาทอลิคหรือไม่ค่ะ แล้วถ้าใช่พี่ช่วยแจ้งให้ทราบหน่อยนะค่ะ ว่าท่านมาที่ไหน วันที่เท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ

 

ผมไม่ทราบครับว่าท่านนับถือ ศาสนาใดครับ เพราะไม่กล้าถาม มาดามคงจะมาประมาณเดือน มกราคม แต่วันไหนต้องขอเช็คเวลาก่อนครับ เพราะที่ท่านมาเมืองไทย จะมาทำการสอนระดับ 16-17-18 ครับประมาณกลางเดือนครับ เดี๋ยวเอาไว้ใกล้ๆวันจะพยายยามแจ้งให้ทราบล่วงหน้าครับ

 

ขอบคุณนะคะที่ให้ความกระจ่าง....

อยากจะขอถามอีก (มากๆ) หน่อยค่ะ คือว่าถ้าจะรักษาคนป่วยเช่น ปวดหัว ปวดข้อ ปวดหลัง ก็คิดไปที่จักระ 7 ของเขา หรือของเราคะ แล้วเราก็ไม่ต้องวางมือไปที่เขาปวดใช่ไหมคะ แค่คิดไปที่จักระที่สัมพันธ์กับอาการใช่ไหมคะ ใช้เวลา 30 วิ จากนั้นก็ฟอกเลือด 30 วิ รวมเป็น 1 นาที ใช่ไหมคะ

แล้วถ้าเรามีคนป่วยเป็นโรคความดันสูง กับเบาหวานแต่ว่าไม่สามารถมาให้เรารักษาได้ทุกวัน แบบว่าอยู่ไกล เราจะรักษาเขาโดย นำรูป ชื่อ อาการของโรคมาใส่รวมกันแล้วเราก็คิดไปที่จักระเราทีละจักระ/30 วิ แล้วฟอกเลือด รวม 5 นาที หรือว่า รักษาเป็นรายๆไปคะ

แล้วต่อไปนี้เวลารักษาในระดับ 5.1 ไม่ต้องสูดสั้นพ่นยาวอีกแล้วใช่ไหมคะ คือใช้จักระ 6 รักษาแล้วคิดไปเลยใช่ไหมคะ (แบบว่ากับลังงงงง..อยู่ค่ะ)(||)

 

ลองใช้โทรศํพท์ดูสิคะสำหรับทางไกล ได้ผลดีมากค่ะ ดิฉันก็ใช้วิธีนี้อยู่ อย่างไรเดี๋ยวให้คุณ Triangle-w and Mr. Choo ตอบอีกทีนะคะ

 

วิธีที่คุณ JINTAWADEE แนะนำเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุดครับ แล้วจินตนาการให้เขามาอยู่ข้างหน้าเราครับ แล้วทำการรักษาได้เลยครับ บางครั้งอาจจะสัมผัสได้เองเวลาคุยโทรศัพท์กับผู้ป่วยว่าเขาเป็นอะไรอยู่ครับ ในกรณีนี้ถ้าคุณเรียนระดับ 5.1 แล้วครับไม่ต้องใช้วิธีวางมืออีกครับ แต่บางครั้ง ผู้ป่วยไม่เข้าใจอยากให้คุณสัมผัสตัวบ้าง คุณก็ใช้วิธีวางมือในระดับ 4 แต่ใช้วิธีรักษาในระดับ 5.1 ครับ

 

การที่จะรักษาผู้ป่วยอาจจะคิดที่จักระที่ 7 ของตัวเองได้ครับ ถ้าเราสัมผัสได้ว่าผู้ป่วยเป็นอะไรครับ หรือคิดที่จักระที่ 7 ของผู้ป่วยก็ได้เหมือนกันครับ ที่ผมเคยกล่าวไว้ว่า " จินตนาการไม่รู้จบ " ก็คือแบบนี้ครับขึ้นอยู่ว่าคุณใช้วิธีไหนในการรักษาแล้วได้ผลที่สุดสำหรับตัวคุณเองครับ ไม่จำเป็นต้องยึดติดอะไรตายตัวมากจนเกินไปครับ เพียงแต่ขอให้เรามีจิตเมตตา ต้องการให้ผู้ที่เราทำการรักษาอยู่ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บก็เพียงพอแล้วครับ บางครั้งลูกสาวผมไม่สบายผมยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยสบายเหมือนกันครับ แต่หลังจากรักษาเสร็จแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้นเองตามลำดับครับหรือใช้วิธีคลายพลังก็ได้ครับ แต่บางครั้งไม่ใช้เพราะอยากจะรู้ว่าลูกสาวดีขึ้นหรือป่าวครับ ก็ต้องทนนิดหน่อยแต่ซักพักก็หายไปเองครับ

 

มาดันกระทู้ค่ะ(||)

 

สำหรับมะเร็งตับระยะสุดท้าย ส่งวันละ 2 รอบ ห่างกัน 6 ชม. นั้น รักษาทุกวันจนกว่าเขาจะดีขึ้นมาก ๆ ได้ไหมคะ (สรุปดิฉันเลยปวดท้องเหมือนเขาทุกวันเลย แต่พอจะจับได้ค่ะว่าเขาดีขึ้นมาก)

 

ขอโทษค่ะดิฉันกดผิดน่ะคะ ดันไปกดไม่เห็นด้วย จริง ๆ จะกดอนุโมทนาค่ะ

 

ถ้ากดผิดก็ยกเลิกได้ครับ ไม่ว่ากันครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

ลองทดสอบรักษาไปเรื่อยๆครับ เพียงแต่อย่าส่งพลังนานจนเกินไปครับพลังจะตีกลับ แล้วตัวเองจะเดี้ยงเอาครับ ต้องขึ้นอยู่กับบุญและกรรมของเขาเองครับว่าจะหายหรือไม่ ถ้าไม่หายก็อย่าไปโทษตัวเองครับ เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปลดกรรมของเขาลงได้ครับ ทำเท่าที่เราทำได้ครับ คิดเสียว่าเป็นบททดสอบเราอยู่ครับ

 

ผมเชื่อในเรื่องของพลังที่อยู่ในธรรมชาติและจักรวาลครับ ผู้ใดที่เรียนรู้เรื่องของพลังธาตุในธรรมชาติและรู้วิธีที่จะดึงนำมาใช้รักษาการป่วยไข้ได้ต้องมีพลังจิตที่ฝึกมาดีแล้ว มีจิตเมตตา และศึลที่บริสุทธิ์ สามารถที่จะทำการเปิดจักระของตนเองได้ ผมมีกลุ่มผู้ปฎิบัติธรรมที่ศึกษาเกี่ยวกับการฝึกจิตให้เกิดพลังแล้วนำมาใช้รักษาโรคได้ มีอยู่คนหนึ่งสามารถรักษาผู้เป็นมะเร็งที่สมองที่อยู่อเมริกาได้โดยไม่ต้องพบกันให้หายได้ และบ้างคนรักษาผู้เป็นมะเร็งหายมา 3 ถึง 4 คนแล้ว โดยไม่ต้องให้กินยา นับเป็นเรื่องที่น่าศึกษามากครับเกี่ยวการดึงพลังงานในธรรมชาติมารักษาคน ขอให้ผู้มีศรัทธาทุกท่านลองฝึกดูด้วยตนเองนะครับ จะได้ช่วยรักษาสุขภาพตัวเองได้ และช่วยเหลือผู้อื่นด้วย

 

เอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟังค่ะ

เมื่อก่อน รักษาใคร เราก็จะมีอาการไปกับคนที่เรารักษาด้วยค่ะ ถึงได้รับรู้รสชาติว่า อ้อ การเจ็บป่วยนี่มันทรมานน่าดูเหมือนกัน เพราะฉนั้นใครก็อย่าได้ให้การป่วยไข้เกิดขึ้นเลยนะคะ....มีอาการเกือบทุกครั้งที่เรารักษาคนอื่นค่ะ .. ทีนี้ก็เลยได้เคล็ดลับจาก คุณ triangle-w ว่า ก่อนรักษา หรือหลังรักษา ให้แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร ทั้งของคนที่เรารักษา และของเราเอง ลองดูนะึคะ ได้ผลดีมากๆ เลยค่ะ . ....ตอนนี้ ตัวเองก็ยังมีอาการอยู่ แต่น้อยลงค่ะ หรือถ้าเจ็บก็ไม่เจ็บมาก เจ็บนานเหมือนเมื่อก่อนค่ะ พอเราเห็นเค้าดีขึ้น เราก็มีกำลังใจที่จะรักษาต่อไปให้เค้าหายค่ะ.........

 

I already done, but still pain so much. Thanks very much for your advise. Sorry, some ploblem with my computer. Thai letter doesn't work.

 

(||) ขอบคุณครับ