วัตถุมงคล หลวงพ่อฤาษีฯ- หลวงปู่ชื้น-เหล็กไหล หลวงพ่อหวล-ของทนสิทธ์ฯลฯ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย saipote, 19 สิงหาคม 2012.

  1. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **เครือเขาหลง (ตัวเมีย - ตัวผู้)**3


    เครือเขาหลง คือ ไม้ชนิดเดียวกันที่อยู่ในป่าลึก มีเทวดารักษา ผู้มีวิชาอาคมถึงไปขอตัดเอามาได้

    ที่ ชื่อ อย่างนี้ก็เพราะว่า ไม้นี้ ถ้าคนหรือสัตว์เผลอไปข้ามเข้าก็จะหลงป่า แม้แต่นกที่บินผ่านต้นก็จะหลงอยู่ที่ต้นไปไหนไม่ได้ ปละตกลงมาตาย ตรงใต้ต้นเครือเขาหลง นี้จึงเต็มไปด้วยซากสัตว์

    เครือสาวหลง เครือเขาหลง หรือ เครือเถาหลง ของอาถรรพ์..ทางธรรมชาติ ทนสิทธิ์ซึ่งผู้มีวิชาอาคมเท่านั้นถึงไปขอพลีตัดเอามาได้ ว่านสาวหลงนี้จัดอยู่ในประเภท ว่านเสน่ห์ เมตตามหานิยม บ้านเรือนอาศัยร้านค้าขายใด หากนำมาบูชาไว้จะเป็นศิริมงคลแก่บ้านเรือน ว่านนี้นิยมกันมาแต่โบราณ เป็นว่านที่มีสรรพคุณให้ผลถึงกับปิดบังไม่ยอมแพร่งพรายผู้เป็นเจ้าของนั้น หวงแหนยิ่งนัก ผู้มีว่านนี้อยู่ในครอบครองจะทำให้มีเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างมาก เครือสาวหลงนี้ ในกระบวนพิธีสร้างพระผงพระเครื่องด้าน เสน่ห์มหานิยมแล้วจะขาดว่านนี้ไม่ได้ ในจำนวนผงต่าง ๆ ที่นำมาผสมอยู่ในพระเครื่องจะต้องมีผงของว่านสาวหลงนี้ด้วยเสมอไปนอกจากนั้น เพียงแต่ใครมีว่านนี้พกพาติดตัว เดินทางไปยังทิศทางต่าง ๆ ผู้ที่ได้กลิ่น ว่านถึงกับให้งงงวย หลงใหล ยิ่งนำว่านนั้นมาฝนกับน้ำมัน... น้ำมันเ... หรือ ผสมกับ...ด้วยแล้วจะเป็นยอดของขบวนเสน่ห์มหานิยมอีกด้วย นักเลงเจ้าชู้พากันรู้จักมาแต่โบราณกาลและเป็นที่นิยมกันยิ่งนัก สำหรับคาถาที่ใช้เสกกำกับเวลานำออกใช้ โบราณท่านแนะนำไว้ก็หาได้ยุ่งยาก ท่านแนะนำก่อนใช้ให้เสกด้วย “นะโมพุทธายะ” หรือ “อิธะคะมะ” รับรองว่าจะสำเร็จผลตามที่ปรารถนา ยิ่งเสกด้วยมนตรามหาหลงที่ขึ้นต้นว่า “โอมมหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงที่กิ่งหลงทั้งก้านหลงทั้ง…....” แล้วละก็เรื่องเสน่ห์หาเด็ดขาดทีเดียวค่ะ


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN0080.jpg
      DSCN0080.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.3 KB
      เปิดดู:
      95
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤศจิกายน 2013
  2. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 28/10/56

    - อัฐวิศว์ EK 0253 16669 TH
    - คุณมกร RH 4852 3784 5 TH
    - คุณสันติสุข RH 4852 3785 9 TH
    - คุณพลภัทร RH 4852 3786 2 TH
    - คุณสายพิณ RH 4852 3787 6 TH
    - คุณจุมพล RH 4852 3788 0 TH
    - คุณปัณณวัฒน์ RH 4852 3789 3 TH
     
  3. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    แจ้งการจอง การโอนเงิน และที่อยู่ทาง PM แล้วค่ะ
     
  4. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบค่า ไซได้รับเิงินเรียบร้อยแล้วค่า เดี๋ยววันนี้ไซจัดส่งให้ค่าขอบคุณค่า:cool:
     
  5. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #ตะกรุดพญาเหล็กไหลสีปีกแมลงทับ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#34

    (ใช้ฝังในร่างกาย หรือเลี่ยมคู่กับวัตถุมงคล อื่นๆ) ของแแท้ 100%

    <a href="http://pic.free.in.th/id/c4a3c5658f1590ea40cd2a046bb3fa9e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ii/131103085644.jpg" alt="images by free.in.th" /></a><a href="http://pic.free.in.th/id/168185074751dc1da3249992d265a99b" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iu/131103085723.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2013
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 30/10/56

    - คุณศุภวัฒน์ RH 4852 5019 7 TH
    - คุณฐิตารัตน์ RH 4852 5020 6 TH
    - คุณพันยะมล RH 4852 5021 0 TH
    - คุณหทัยทิพย์ RH 4852 5022 3 TH
    - คุณสมหวัง RH 4852 5023 7 TH
     
  7. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
  8. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ได้รับของแล้วค่ะ ขอบคุณคุณไซมากค่ะ
     
  9. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    รับทราบค่า โมทนาสาธุค่า:cool:
     
  10. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **สมเด็จองค์ปฐม ครบรอบ 1 ปีมรณะ ปี 36 **2

    <a href="http://pic.free.in.th/id/c8ed17ca687cdc169b511bdebbb6a045" target="_blank">

    <img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iz/131103010011.jpg" alt="images by free.in.th"/></a>
    <a href="http://pic.free.in.th/id/1678600ee0eb5a5e5f7b9989846b3373" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ig/131103084905.jpg" alt="images by free.in.th" /></a><a href="http://pic.free.in.th/id/830f5c7d919ca8758aae6046b407ae2d" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ib/131103084933.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2013
  11. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 1/11/56

    - คุณกันต์ RH 4852 3993 4 TH
    - คุณประสิทธิ RH 4852 3994 8 TH
    - คุณทิพย์ตระการ RH 4852 3995 1 TH
    - คุณภาำกร RH 4852 3996 5 TH
    - คุณสมเกียรติ EK 2821 4553 0 TH
    - คุณสะอาด EK 2821 4554 3 TH
    - คุณประเสริิฐ EK 2821 4555 7 TH
     
  12. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #กำไรเหล็กไหลหลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#27

    (เส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ซม.) ของแแท้ 100%

    <a href="http://pic.free.in.th/id/bf0bf1fd1df5d92415f7c3227f1ce19f" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ix/131103013458.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    <a href="http://pic.free.in.th/id/39272758315637a5bf370e9c25403e49" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/im/131103013521.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    <a href="http://pic.free.in.th/id/f519a1a72aa3c3aa5a76686dbb0d9c88" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/in/131103013553.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง
    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว
    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่
    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2013
  13. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม (ผืนเล็ก)#

    (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก)

    <ahref="http://pic.free.in.th/id/3a6c477f2933cea805eae693b1608702" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iu/131103083859.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    อำนาจของผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม

    ในเหตุการณ์ระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๒๐ เล่าโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน
    (คัดบางตอนจากหนังสือ ลูกศิษย์บันทึก ๓ หน้า ๑๐๔-๑๐๗)

    ...สมัยนั้น ผกค.มีอิทธิพลสูง ได้ยึกเทือกเขาภูพานได้เป็นฐานใหญ่ของเขา และยังท้าทายฝ่ายทหารว่า หากจะตีเขาได้ต้องใช้กำลังหลายกองพล และใช้เวลาหลายเดือนจึงจะสำเร็จ พล.ต.ยุทธศิลป์ เกสรสุข ยศในขณะนั้น (ปัจจุบันมียศ พล.ท.) ซึ่งเป็นรองแม่ทัพ จึงนำเรื่องนี้มากราบเรียนหลวงพ่อๆ เป็นพระจะไปรบกับเขาก็ไม่สมควร แต่ท่านมีวิธีช่วยเป็นกำลังใจให้กับทหารดังนี้

    ๑. ท่านเดินทางไป พร้อมกับคณะเพื่อทำพิธีบวงสรวงก่อน ที่ฐานทัพของทหาร

    ๒. แจกผ้ายันต์ ธงมหาพิชัยสงคราม ให้กับทหารในหน่วยนั้น ทุกคน (ผ้ายันต์สีแดง)
    ๓. ให้ฤกษ์แก่ฝ่ายทหาร ทั้งนี้หมายถึงให้ฤกษ์ดีว่าเป็นมงคล ไม่ได้ระบุให้เข้าไปตีกันรบกัน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนเขาจะไปทำอะไรกันนั้น พระท่านต้องอุเบกขา
    ผมจำได้ว่า หลวงพ่อทำพิธีตั้งแต่เช้ามาก เพราะจากรูปถ่ายที่ นาวาตรี ประชาสิกขวานิช ร.น. ถ่ายไว้ ปรากฏพุทธนิมิตเป็นฉัตร ๕ ชั้น ทอดมาตามแสงแดดครอบคลุมองค์หลวงพ่อเท่านั้น ยังทำมุมน้อยมาก (มีรูปถ่ายที่บ้านสายลม และที่วัดท่าซุง) หลังพิธีแล้ว ฝ่ายทหารก็นำหลวงพ่อ หลวงปู่ธรรมชัย และคณะเข้าห้องยุทธการ เพื่อฟังการบรรยายสรุปของฝ่ายทหาร เมื่อบรรยายจบ ปรากฏว่ามีนายทหารที่ฉลาดถามได้ถามหลวงพ่อกับหลวงปู่ว่า ขณะนี้ ผกค.อยู่ที่ไหนบ้าง โดยให้ท่านเอาไม้เท้าชี้ไปที่แผนที่ทหาร ปรากฏว่าท่านชี้จุดให้ทันทีทันใด โดยไม่ต้องคิด หรือต้องเสียเวลา ฝ่ายทหารต่างร้อง อือ พร้อมๆ กันหลายคนและบอกว่าตรงจุดเป๋งเลยครับหลวงพ่อ บางคนไม่ฉลาดถามก็ถามวิธีเข้าโจมตี หลวงพ่อก็ปฏิเสธเพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ ส่วนวิธีการถามที่ฉลาดผมขอสงวนไว้ก่อนครับ...

    หลังจากจากหลวงพ่อและคณะ ได้เยี่ยมให้กำลังใจกับทหาร ตามหน่วยต่างๆ แล้ว ก็กลับไป กทม. และจากนั้นอีกไม่กี่วัน พล.ต.ยุทธศิลป์ ก็สั่งทหารแค่ ๑ กองร้อยเข้าโจมตีที่มั่น ผกค.เป็นการหยั่งเชิง โดยมีตัวท่านเป็นผู้สั่งการอยู่บนเครื่องบิน ผลปรากฏว่าดีมากเกินคาดหมาย แต่มีรายงานทางวิทยุว่ามีทหารตาย ๑ นาย ท่านเกิดสงสัยว่ามันตายได้อย่างไร เพราะท่านมั่นใจว่าทหารของท่านต้องไม่มีใครตาย ท่านให้แค่บาดเจ็บเท่านั้น จึงสั่งลงมาจากเครื่องบิน ให้ค้นตัวทหารที่ตายว่า พบอะไรติดตัวบ้าง โดยเฉพาะผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ทหารก็รายงานว่า ไม่พบผ้ายันต์แดงเลยในตัว ท่านรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่พกผ้ายันต์แดงไปด้วย ทั้งๆ ที่สั่งแล้ว เมื่อถอนตัวกลับฐานทัพ ก็สอบหาข้อเท็จจริงเรื่องพลทหารที่ตายว่าชื่ออะไร อยู่หน่วยไหน ทำไมจึงไม่มีผ้ายันต์แดงก็พบว่าเป็นทหารที่เพิ่งย้ายกลับเข้ามาเมื่อวานนี้เอง จากหน่วยทหารราชบุรี (อ.ปากท่อ) ท่านจึงร้องอ้อ

    วันที่ ๒ ท่านเพิ่มหน่วยจู่โจมเป็น ๒ กองร้อย ผลปรากฏว่ามีตาย ๒ คน และก็มีสาเหตุจากไม่มีผ้ายันต์แดงติดตัวเช่นกัน เพราะเพิ่งย้ายเข้ามาจากหน่วยอื่น "ความลับไม่มีในโลก" ทั่วทั้งกองทัพรู้ข่าว รู้อิทธิปาฏิหารย์ของผ้ายันต์ ธงมหาพิชัยสงคราม กันหมด ผลคือทหารทุกคนที่ไม่มีผ้ายันต์สีแดงจะไม่ยอมออกโจมตีในวันต่อไป จึงเดือดร้อนถึงท่านรองแม่ทัพ ดังนั้น เพื่อขัวญและกำลังใจของลูกน้อง ท่านรองจึงต้องบินมาหาหลวงพ่อในคืนนั้น เพื่อขอผ้ายันต์แดงไปแจกลูกน้องให้ครบทุกคน

    วันที่ ๓ ทุกคนมีขัวญ และกำลังใจเต็ม ๑๐๐% ใช้กำลังเป็น ๓ กองร้อย ปรากฏผลว่าสามารถยึดฐานโหญ่ และฐานย่อยของภูพานได้ทั้งหมด ชนิดที่ ผกค.ขัวญกระเจิงไม่ยอมสู้ด้วย เพราะวันที่ ๓ นี้ทหารทุกคนถือปืนวิ่งเข้ายึดฐานโดยไม่มีใครยอมหมอบ หรือวิ่งเข้าหาที่กำบังเหมือน ๒ วันแรก ทุกคนดาหน้าเข้ายึดเอาดื้อๆ โดยไม่กลัว ไม่ยอมหลบลูกปืนสักคน จึงยึดได้ด้วยเวลาอันสั้นและไม่มีใครเสียชีวิตเลย

    ผมนึกภาพเอาเองนะครับว่า หากผมเป็น ผกค.ผมก็คงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอด เพราะยิงเท่าใหร่ก็ไม่โดนตัว หรือโดนก็ไม่เข้า คงดาหน้าเข้ามาเต็มไปหมด เหมือนกับยิงทหารที่ทำจากหุ่น (เหมือนในสมัยขุนแผนท่านแม่ทัพเสกหุ่นให้เป็นทหารรบที่ไหนก็ชนะหมด)
    หลวงพ่อท่านทราบข่าวจากรองแม่ทัพ ท่านพร้อมคณะก็ไปเยี่ยมทหารหน่วยนั้น ในวันต่อมา หลังจากได้คุยกับทหารหน่วยรบพิเศษนี้แล้ว ผมพอสรุปย่อๆ ดังนี้

    ๑. ขณะที่ฝ่าย ผกค.ยิงปืนเข้าใส่พวกเรานั้น ส่วนใหญบอกว่าไม่โดนแต่เฉี่ยว หรือเฉียดตัวไป รู้สึกว่าลูกปืนมันวิ่งเต็มไปหมด แต่ไม่ยักโดนตัว

    ๒. บางคนบอกว่า บางครั้งก็โดน แต่ไม่เข้า ไม่รู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกคล้ายๆ มีแมลงหรือผึ้งบินมาชนตัวเท่านั้น

    ๓. มีอยู่ ๑ ราย ที่เล่าว่า ขณะที่เดินไปบ้าง วิ่งไปบ้าง ยิงปืนใส่ข้าศึกบ้าง รู้สึกหิวจึงเอามือล้วงมาม่า (เส้นหมี่) กินไปด้วย แต่แปลกใจว่า ทำไมมาม่ามันถึงแข็ง และเหนียวนักเลยคลายออกมาจากปากดู ปรากฏว่ามันไม่ใช่มาม่า แต่เป็นลูกปืนที่ข้าศึกยิงมาโดนตัว แต่ไม่เข้าลูกกระสุนแบนเหมือนถูกบี้ แล้วจึงหล่นลงไปในกระเป๋าเสื้อที่มีมาม่าอยู่

    ๔. บางคนเล่าว่า ขณะวิ่งไปยิงไปนั้น บางครั้ง ก็มองเห็นข้าศึก ที่ซุ่มอยู่ข้างทาง แต่มันไม่ยักยิง เห็นตามันค้างคล้ายกัยหุ่น หรือคนตกใจ ข้อนี้ขออนุญาตวิจารณว่า คงเป็นเพราะอานุภาพของผ้ายันต์แดงทำให้เกิดอาการ "นะ จัง งัง" ขึ้น หรือเพราะมันตกใจจริงๆ ที่ไม่เคยเห็คนที่ไม่ยอมหลบลูกปืน จึงมีสภาพคล้ายเห็นผี

    ๕. เรายึดได้ฐานใหญ่มาก จนไม่น่าเชื่อ เพราะฐานนี้ มีทั้งโรงพยาบาล และเวชภัณฑ์มากมาย มีโรงพลศึกษา สนามบาส โรงครัวขนาดใหญ่ พร้อมเสบียงกินได้เป็นปี อาวุธมากมาย เครื่องปั่นไฟ และน้ำมันโดยเฉพาะราวตากผ้า ท่านรองแม่ทัพบอกว่า ต้องใช้รถ ๑๐ ล้อทั้งคันอาจจะขนไม่หมด แสดงว่ามีกำลังพลไม่ใช่น้อยเกินกว่าที่เราคาดคะเนไว้อีก และมีการทดน้ำไว้ด้วย แสดงว่าเขาอยู่นานหลายปี

    ๖. เนื่องจากเราใช้กำลังพลน้อยแค่ ๓ กองร้อย หากยึดพื้นที่ไว้ ก็เสี่ยงเกินไป เพราะตอนกลางคืนมันอาจหวนกลับมาใหม่ก็ได้ จึงสั่งทำลายและเผาให้หมด สำหรับผมคิดเอาเองว่าหากผมเป็น ผกค. ก็ไม่ขอยอมหันหลังกลับมาตียึดคืนแน่ๆ เพราะเข็ดไปจนตาย จะไม่ขอพบทหารผี (ทหารหุ่น) เหล่านี้อีก

    ๗. เป็นจริงตามคาดหมาย เพราะตั้งแต่ครั้งนั้นมา ผกค.ก็หายซ่าไปเลย
    เรื่องของหลวงพ่อท่าน ยังมีอีกมากยากที่ผมจะเล่าให้ฟังหมดได้ และโดยธรรมแล้ว อะไรก็ตามที่มันมากเกินไปผลแทนที่มันจะมากตามส่วน กลับไม่ได้ผล หรือกลับเป็นผลเสีย...ผมจึงขอจบเรื่องไว้อีกตอนหนึ่งเพียงแค่นี้

    แต่ก่อนจะจบขอสรุป เรื่องผ้ายันต์แดงธงมหาพิชัยสงคราม ไว้เพื่อเตือนความจำไว้ดังนี้

    ๑. ความศักดิ์สิทธิ์ ของธงมหาพิชัยสงครามมีมากมาย เขียนอีก ๒-๓ ตอนก็ไม่จบ ที่เล่าให้ฟังนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางเรื่องเท่านั้น

    ๒. ผู้นำไปใช้ หากนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น เป็นโจร-ปล้น-ฆ่าเขา-โขโมยเขา ธงนี้ไม่คุ้มครอง ซ้ำยังให้ผลร้ายกับผู้นั้นด้วย หากถูกยิง ลูกปืนจะเข้าแสกหน้าทะลุท้ายทอยทุกราย

    ๓. ธงมหาพิชัยสงคราม ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่เป็นพุทธศาสตร์ จึงไม่เสื่อม (หากใช้ในทางที่ดี)
    ๔. เวลาทำ พิธีพุทธาภิเษกนั้น ธงแดงมหาพิชัยสงคราม กับ ผ้ายันต์เกราะเพชรซึ่งมีรูปหลวงพ่อปาน และ รูปยันต์เกราะเพชรนั้น ทำเหมือนกัน มีคุณภาพเหมือนกัน ทุกประการ ใช้แทนกันได้

    ๕. เรื่องป้องกัน หรือบรรเทาอุบัติเหตุ ไฟไหม้บ้าน พายุใหญ่ หรือวาตภัย มีผู้เล่าให้ฟังเสมอว่ามีผลดีอย่างอัศจรรย์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องอธิษฐานขอ และผลขึ้นอยู่กับความมั่นคงของจิตของแต่ละคนด้วย...สาธุ

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2013
  14. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    **สมเด็จองค์ปฐม ครบรอบ 1 ปีมรณะ ปี 36 **3

    <a href="http://pic.free.in.th/id/049dadb3464fbe43ff2d80591b87ada2" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ia/131103085240.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    <a href="http://pic.free.in.th/id/4a9bd88634ffc31d8c3176a4e80ac0d9" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ii/131103085317.jpg" alt="images by free.in.th" /></a><a href="http://pic.free.in.th/id/e025349f563f60d82cf93e636172d936" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iy/131103085338.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2013
  15. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    #ตะกรุดพญาเหล็กไหลสีปีกแมลงทับ หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์#35

    (ใช้ฝังในร่างกาย หรือเลี่ยมคู่กับวัตถุมงคล อื่นๆ) ของแแท้ 100%

    <a href="http://pic.free.in.th/id/519ee11aec3fb2fd5a57a39108ba99e5" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ik/131103090050.jpg" alt="images by free.in.th" /></a><a href="http://pic.free.in.th/id/7bd85a0900692eeacf56cdde0676c99f" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ie/131103090119.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    อานุภาพของธาตุกายสิทธิ์ (พญาเหล็ก/เหล็กไหล)
    …"เหล็กไหล" เป็น โลหะธาตุแปลกประหลาดที่มีชีวิต เป็นวิบากของกฏแห่งกรรม บันดาลให้วิญญาณอยู่ในสังสารวัฏ มาปฏิสนธิในสภาวะที่เป็นโลหะธาตุเหล็กไหล เคลื่อนไหวได้ เสพบริโภคผึ้งได้ ขับถ่ายได้ (เรียกว่าขี้เหล็กไหล)และสถานที่อยู่อาศัยนั้นชอบสถานที่สงบตามถ้ำ ดังนั้นจึงถือได้ว่าเหล็กไหลเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเทพ เป็นเทพที่มาใช้วิบากกรรมในโลก เหล็กไหลจึงมีทั้งเทพที่เป็นยักษ์ ที่เป็นคนธรรพ์คอยอารักขาอยู่ตลอดเวลา เหล็กไหลที่พบกันจึงมีหลากหลายชนิดที่ได้เห็นกัน เหล็กไหลเป็นธาตุที่ทรงอำนาจในการป้องกันตัว และ สิ่งที่อยู่ใกล้ตัว ให้พ้นจากภัยอันตราย อันเกิดจาก "อาวุธปืน" หรือ "ของมีคม" และ "ศาสตราวุธ" ทุกชนิด "เหล็กไหล" เป็นสสารที่มีชีวิตเป็นอมตะ และ หาได้ยากยิ่ง ต้องมีพิธีกรรมมากมาย กว่าจะได้มา ฉะนั้น เหล็กไหลจึงเป็นวัตถุอาถรรพ์ที่มีราคาแพง เพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และ เป็นที่เข้าใจกันทั่วไปว่า เหล็กไหลมีอานุภาพยอดเยี่ยม สามารถคุ้มครองชีวิตผู้ที่มีเหล็กไหลไว้ในความครอบครองหรือพกพาติดตัว และจะได้รับความคุ้มครองให้ปลอดภัยจาก "อุบัติภัยร้ายแรง" ต่างๆ รวมไปถึง "อาวุธร้ายแรง" นานาชนิด ได้อย่างอัศจรรย์นั่นเอง

    ผู้ที่จะทำพิธีตัดเหล็กไหลได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง และต้องประพฤติปฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตคิดละโมภ กล่าวคือ จะต้องขออนุญาตจาก "เทพยดา" ผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตจึงค่อยทำพิธีตัดเอาได้ มิฉะนั้น หากเราขืนตัดเหล็กไหลด้วยกำลัง หมายแย่งชิงเอาโดยพละการ ถือดีในพระเวทย์ก็อาจมีเภทภัยถึงแก่ชีวิต หรือ เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะจนถึงขั้นวิบัติเอาได้ ด้วยอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้รักษาเหล็กไหลนั้นเอง

    หลวงพ่อหวลท่านได้เรียนวิชาอาคม สุดยอดวิชาอาคมที่เกือบจะเรียกว่าสาบสูญไปแล้ว ได้แก่วิชาอาคมเรียกและเชิญเหล็กไหล หรือพญาเหล็กไหลสุดยอดแห่งธาตุกายสิทธิ์ ที่ทุกคนต้องการได้มาครอบครอง วิชาอาคมเรียกหรือเชิญเหล็กไหลนั้นไม่ใช่จะเปิดเผยกันง่ายๆการเรียกหรือเชิญเหล็กไหลก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ทำได้ เหล็กไหลเป็นธาตุกายสิทธิ์…..ย่อมเป็นอันตรายต่อผู้ที่จิตไม่บริสุทธิ์ หากทำการเรียกหรืออัญเชิญเหล็กไหล อาจถึงตายได้ ซึ่งหลวงพ่อหวล แห่งวัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้เล่าเรียนศึกษาวิชา "การเรียกและตัดเหล็กไหล" จากศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ หลายท่านบอกว่าหลวงพ่อเดิมท่านชอบเล่นแร่แปรธาตุ บางคนตั้งให้หลวงพ่อเดิมท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุเลยทีเดียว

    เหล็กไหลที่หลวงพ่อหวลได้ตัดไว้ มีด้วยกัน 3 วรรณะ ซึ่งแต่ละสีก็แบ่งแยกตามชั้นวรรณะของเหล่าบรรดา "เทพยดา หรือ ฤาษี" ที่ปกปักรักษา ได้แก่

    1.วรรณะเจ้าน้ำเงิน
    2.วรรณะท้องปลาไหล
    3.วรรณะเงินยวง

    และรูปแบบของเหล็กไหลที่ท่านตัดไว้มีหลายอย่าง อาทิเช่น แบบพิมพ์พระกริ่ง (นิยมสูงสุด และหายากมากที่สุด!!! ), พระพุทธ, แคปซูล, แหวน, กำไล, พระขรรค์ ,กรมหลวงชุมพร,หลวงปู่ทวด,รัชกาลที่ 5, พระสมเด็จ,พระนางพญา,พระผงสุพรรณ,พระซุ้มกอ,พระรอด,เจ้าแม่กวนอิม,พระขรรค์,ตรีสูญ,พระบูชา,พระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งเหล็กไหลแต่ละพิมพ์นั้น หลวงพ่อหวลจะต้องจัดสร้าง "หุ่นเทียน" ขึ้นมาไว้ก่อน จากนั้นหลวงพ่อท่านจึงนำเข้าไปในถ้ำกลางป่าลึก แล้วเมื่อท่านเจอ "เหล็กไหล" ท่านจึงทำ "พิธีอัญเชิญเหล็กไหล" ให้ "ไหลวิ่ง" ลงมาตามด้ายสายสิญจ์ โดยอัญเชิญให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง เพื่อให้เราสามารถที่จะจับต้องเหล็กไหลเป็นรูปธรรมได้ ตามรูปแบบทรงพิมพ์ของหุ่นเทียนที่หลวงพ่อท่านได้ขออนุญาตจัดสร้างเตรียมขึ้นมา (หุ่นเทียน 1 อัน จะได้เหล็กไหล มาเพียงแค่ 1 ชิ้นเท่านั้น) ซึ่งพิธีในขั้นตอนนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "พิธีหุงเหล็กไหล" โดยเป็นวิธีการหุงแบบตามธรรมชาติ โดยให้เหล็กไหลวิ่งมาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเอง ซึ่งในการทำพิธีแต่ละครั้ง ต้องใช้ "อำนาจพลังจิต" สูงมาก และเหล็กไหลที่ได้มาแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการหุงนานมาก จึงทำให้ในการทำพิธีแต่ละครั้งจะได้เหล็กไหลเพียงไม่กี่ชิ้น (โดยในแต่ละขั้นตอนในการทำพิธีนี้ ต้องเป็นผู้มีวิชาอาคมใน "การเรียกและตัดเหล็กไหล" โดยเฉพาะ) ไม่ได้มาทำกันเล่นๆๆ หรือ นำเหล็กมาปั๊ม หรือ นำมาหล่อ เหมือนอย่างพระเครื่องทั่วๆไป ซึ่งทำให้ "ของปลอม" ยากที่จะทำออกมาเลียนแบบได้ ซึ่งปัจจุบันเหล็กไหลของหลวงพ่อหวลนี้หายากมากๆๆ เดินตามสนามพระทั่วไปแล้ว ท่านจะไม่ได้พบเห็นเลยแม้แต่ชิ้นเดียว เพราะเป็นที่หวงแหนของผู้ที่มีไว้ครอบครองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ เป็นเหล็กไหลที่หาได้ค่อนข้างยากมากๆๆๆ (เพราะมีระดับสภาวะ ขั้นสูงสุด 31 ภพภูมิ ทั้งยังมีเทพยดา และ ฤาษี ชั้น "มหาเทพ" และ "มหาฤาษี" ลงมาปกปักรักษามากที่สุดและจะพบ "เหล็กไหล 3 สี 3 วรรณะ" นี้ได้ ต้องเป็นถ้ำที่มีอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก และอยู่ในกลางป่าลึก บริเวณใจกลางหุบเขา "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" มีคุณวิเศษทางด้านเมตตาแรงมากๆๆ มหาเสน่ห์ขั้นสูง คงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เรียกโชคลาภขั้นสูง บันดาลทรัพย์สินเงินทอง ดลจิตดลใจ พลิกดวงชะตา จากตกต่ำให้เป็นสูงขึ้น (จากหน้ามือเป็นหลังมือ) เตือนภัยเมื่อมีเหตุคับขัน และสามารถล่องหนกำบังตัวหลบภัยได้ (ครบวงจร) ชอบช่วยเหลือผู้ปฏิบัติธรรม หรือ จะดลจิตดลใจของผู้ครอบครองเหล็กไหลนี้ ให้ตั้งมั่นอยู่แต่ในศีลในธรรม ในความดี มุ่งแต่สร้างบุญสร้างกุศล เพราะเกิดจากฤทธิ์ของมหาเทพและมหาฤาษีในขั้นระดับ “อรูปฌาณ” ที่มีบารมีธรรมสูงมาก ที่เป็นผู้ปกป้องครอบครองเหล็กไหลประเภทนี้ อยู่นั้นเอง

    "เหล็กไหล ทั้ง 3 สี 3 วรรณะ" นี้ มักจะตกได้อยู่แต่ในความครอบครองของ "พระภิกษุ" หรือ "นักบวชต่างๆ" (ที่มีฌาณขั้นอุกฤษณ์) คนธรรมดาอย่างเราๆ ยากนักที่จะได้เป็นผู้ครอบครอง เพราะใช่ว่ามีเงินเพียงอย่างเดียวจะหามาไว้ในความครอบครองได้ง่ายๆๆ จะต้องเป็น "ผู้มีบุญญาธิการบารมี" และต้องมี "กรรมเก่าเกี่ยวกัน" จริงๆๆ จึงจะได้เป็นผู้ครอบครอง พระพญาเหล็กไหลนี้ มีคุณ 108 ประการตามแต่อธิษฐาน ท่านบอกว่าใครได้ครอบครองไว้จะมีอำนาจ บารมี เหนือผู้อื่นพกพาติดตัวแคล้วคลาดปลอดภัย กิจการงานเจริญก้าวหน้า เดินทางไปที่ใด มีเทพยดา ปกปักรักษา มีโชคลาภ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง และพระพญาเหล็กนี้ใช่ว่ามีเงินแล้วจะได้ครอบครอง ล.พ.หวลท่านบอกว่าต้องมีบุญวาสนาแต่ชาติปางก่อนจึงได้ครอบครอบครอง


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2013
  16. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 05/11/56

    - คุณบุญนาศ RH 4852 2674 5 TH
    - คุณกรรณิการ์ RH 4852 2675 4 TH
    - คุณธีระพงษ์ RH 4852 2676 8 TH
    - คุณสุวิทย์ RH 4852 2677 1 TH
    - พระวิมุตติยา RH 4852 2678 5 TH
    - พระนนทิชัย RH 4852 2679 9 TH
    - คุณภูวฤน RH 4852 2680 8 TH
    - คุณฌานุวัฒน์ RH 4852 2681 1 TH
    - คุณนคร RH 4852 2682 5 TH
    - คุณธัญบูรณ์ EK 2821 6686 6 TH
     
  17. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ชุดกล่อง 3 เหรียญขวัญถุง หลวงพ่อปาน วัดโพธิ์สุทธาวาส ปี 2530 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก)

    ชุดกล่องเหรียญขวัญถุง 3 เหรียญ (กะไหล่ทอง,กะไหล่เงิน,กะไหล่นาค)
    เหรียญขวัญถุง หลวงพ่อปาน ปี ๒๕๓๐ ออกวัดโพธิ์สุทธาวาส (หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสก)
    "เหรียญขวัญถุง ปี2530 พุทธาภิเษก โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยานวัดท่าซุง)
    หลังพุทธาภิเษกเสร็จ หลวงพ่อบอกกับ หลวงพ่อสุรินทร์ เหรียญมหาลาภนี้ห้ามลองถ้าลองปืนจะแตกใส่หน้า
    บูชาเหรียญนี้ติดตัวไว้ ลาภจะมีมาตลอด เงินจะไม่ขาดใช้
    ห้อยพระของหลวงพ่อฤาษีลิงดำไว้ จะไม่ตายก่อนอายุขัยและกระดูกจะไม่หัก สร้าง 10,000 เหรียญ"

    ให้บูชา 2800 บาท พร้อมจัดส่งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 พฤศจิกายน 2013
  18. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    จัดส่ง 6/11/56

    - คุณมนู RH 4852 6595 1 TH
    - คุณเสน่ห์ RH 4852 6596 5 TH
    - คุณกำธร RH 4852 6597 9 TH
     
  19. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    ** พระคำข้าว รุ่น 2 (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ปลุกเสก)**3


    <a href="http://pic.free.in.th/id/ae100983322691e41d8e5103e3bdc468" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ig/131107075136.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>
    <a href="http://pic.free.in.th/id/3170394be1b06310fb9c6f4533ea1228" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/is/131107075156.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

    สมเด็จพระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราชในวิหารแก้ว 100 เมตรวัดท่าซุง มี ๒ รุ่น

    รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
    รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔

    ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง

    วิธีอาราธนา พระคำข้าว และ พระหางหมาก

    คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นที่สุด

    แล้วตั้งนะโม ๓ จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า

    “ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด

    เกร็ดความรู้บางอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว

    (คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)

    อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน อันดับแรกนะ อย่างมี พระคำข้าว- พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือ สาธุ ว่า นะโม ตัสสะ ใช่ไหม ว่านะโมตัสสะ ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่า วันนี้ต้องการ...(ลาภอย่างไร)

    เป็นอันว่า เราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน อย่างนี้ถือว่าเป็น ฌาน ในพุทธานุสติกรรมฐาน ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็นฌานในพุทธานุสติ เป็นของง่าย ๆ เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่าย ๆ ใช้วิธีง่าย ๆ นะ ก็ว่าตามท่าน

    ...ทีนี้เมื่อเมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัท นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าลืมพระที่ คอ นี่คือพระพุทธเจ้า อย่าง พระคำข้าว เป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละ เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน และเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง คือเวลาทำจริง ๆ พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด สมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน อยู่ข้างบนใช่ไหม และ สมเด็จองค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน แล้วท่านก็สั่งว่า ให้ว่าอิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ ไม่เห็นของที่ปลุกเลย แสงพระพุทธเจ้ากลบหมด หนามาก พระคำข้าว เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ

    หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ

    (คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓)

    ..."องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า "พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ" ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน"...ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...

    ...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
    ...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
    ...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์

    ****************************************
    หลวงพ่อวิรัช โอภาโส เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน จ.เพชรบูรณ์
    (อดีตเลขาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

    ท่านกล่าวถึงการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อฯไว้ดังนี้ครับ

    เรื่องการปลุกเสก (10 พ.ค. 32) หลวงพ่อเล่าว่า เมื่อหลวงพ่อไปถึงวิหาร 100 เมตร ท่านนั่งหน้าพระประธาน พูดถึงการทำพิธีปลุกเสกพระ (พุทธาภิเษก) ไปถึงจะนั่งแน่นปั๋งไม่ได้ อารมณ์หนักเกินไป ต้องทำอารมณ์เบาๆ จึงจะถูกจึงจะคลุมได้ดี

    - ปกติพระสารีบุตร มาด้านปัญญา
    - พระโมคคัลลานะ มาด้านฤทธิ์

    ทั้ง 2 องค์ นั่งคนละข้างของหลวงพ่อ แต่ว่าเวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะ ท่านจะคุม เพราะว่าเสกของเรื่องของฤทธิ์ เป็นหน้าที่ของท่าน

    ท่านจะคุม บอกว่าอารมณ์หนักไปนิด เอาเบาอีกหน่อย บอกให้เขยิบอีกนิด พอเข้าที่ก็บอกให้ทรงอยู่อย่างนั้น

    จากนั้นทำอารมณ์เบาๆ ขอให้ท่านคลุมทุกอย่างหมด อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า และทำอารมณ์เบาๆ ขอท่านว่าเราต้องการอย่างไรบ้าง ท่านก็จะเมตตาทำให้เอง จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพระ เราก็คุยไปเรื่อยเดี๋ยวเดียวแสงสว่างคลุมหมด ก็เสร็จ (ไปถึงไปนั่งเป๋งไม่ได้หรอก อารมณ์มันหนักเกินไปไม่ได้ ต้องใช้อารมณ์เบาๆ)

    พอเสร็จ พระพุทธเจ้าจะตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหม และท่านปู่พระอินทร์มาบอกช่วยดูแลวัตถุมงคลเหล่านี้ด้วย ถ้าใครใช้ขอให้ช่วยดูแลด้วย (เว้นแต่พวกมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีผล)

    ถ้าท้าวมหาพรหม (ท้าวสหัมบดีพรหม) และท่านปู่พระอินทร์คุม ลูกน้องทั้งหมด ทั้งพรหมและเทวดา ต้องมาคุมวัตถุมงคลทั้งหมด ไปไหนก็สบาย

    ดังนั้น เวลาปลุกเสกพระโมคคัลลานะต้องมาคุม ต้องใช้ฤทธิ์ สำหรับพระพุทธเจ้ารวมทั้งสมเด็จองค์ปฐม มาเป็นประธานอยู่แล้ว


    (((ปิดรายการนี้ค่า)))
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2014
  20. ก้านมะยม

    ก้านมะยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,805
    จองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...