"กษัตริย์ผู้ชนะใจคนทั้งโลก" สังฆราชทรงยกย่องในหลวง

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 4 ธันวาคม 2007.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,657
    "กษัตริย์ผู้ชนะใจคนทั้งโลก" สังฆราชทรงยกย่องในหลวง
    3 ธันวาคม 2550 23:43 น.


    [​IMG]
    ในหลวงสมเด็จพระสังฆราชทรงถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยกย่องเป็นพระมหากษัตริย์ที่ชนะใจคนทั้งโลกไม่มีใครเสมอเหมือน ขณะที่ "ธงทอง" เผยในหลวงเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จเป็นครั้งแรกในรัชสมัย ระบุทรงเป็นพระราชประสงค์

    ในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างถวายความจงรักภักดี พร้อมตั้งใจทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล โดยในโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทรงยกย่องว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ชนะใจคนทั้งโลกอย่างไม่มีใครเสมอเหมือน

    สังฆราชทรงถวายพระพรชัยมงคล

    เมื่อวันที่3 ธันวาคม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาความว่า วันที่5 ธันวาคมเป็นวันที่บรมมงคลเกิดขึ้นในประเทศไทย ชีวิตจิตใจคนไทยทั้งปวง วันนั้น เมื่อ 80 ปีมาแล้วเจ้าชายน้อยๆ พระองค์หนึ่งเสด็จพระราชสมภพในราชสกุลมหาจักรีบรมราชวงศ์ และบัดนี้ทรงความงดงามด้วยพระพุทธธรรมในน้ำพระราชหฤทัย นำให้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สุดรักสุดเทิดทูน ข่าวทรงพระประชวรเป็นเครื่องประกาศรับรองความเป็นพระมหากษัตริย์ที่ไม่เคยมีเสมอเหมือน ประกาศความเป็นพระผู้ทรงชนะใจคนทั่วไปในโลก

    การละเลยไม่รักษาพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชนคือ การละเลยไม่รักษาพระผู้ทรงเป็นดั่งแก้วตาและดวงใจของพวกเราเอง พึงถือเป็นคติสำคัญของชีวิต นึกไว้ให้ทุกเวลานาทีว่าจะเทิดทูนรักษาพระองค์พระบรมมงคลของเราด้วยมีสติ ไม่ทำความไม่ดีใดๆ จะมีสติทำแต่ความดี และจะรักษาใจให้ไกลความสกปรกเศร้าหมองของกิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง จะมีสติมุ่งมั่นทำให้ได้ดังนี้ เพราะไม่มีพรใดสิ่งใดเสมอเหมือน ที่จะได้เทิดทูนบูชาในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาสำคัญในปีพระพุทธศักราช 2550 นี้และแม้จะคิดแบบเห็นแก่ตัว ที่มีคุณแก่ประเทศชาติ ก็คิดได้เลยว่าการรักษาพระราชหฤทัย ที่จริงก็คือการรักษาใจเราทุกคนนั่นเอง ควรจะรักษาให้เต็มสติปัญญาความสามารถทุกคน พระพุทธศาสนาก็ตาม สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือหัวใจของเรา ตระหนักในความจริงนี้ไว้

    ด้วยสัจจะพิเศษสูงสุดนี้ขอพระราชทานถวายพระพร พร้อมพุทธศาสนิกชนทุกถ้วนหน้า ขอให้ทรงพระเจริญยั่งยืนนาน พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระผู้ทรงพระคุณคู่พระบรมบาทเสมอมา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2007
  2. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,657
    นายกฯนำข้าราชการถวายสัตย์ฯ
    วันเดียวกันเมื่อเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน โดยมีคณะรัฐมนตรี ข้าราชการระดับสูงทุกส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ทหาร ตำรวจ และรัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมพิธี ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกล่าวนำบรรดาข้าราชการเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อให้ข้าราชการแสดงความมุ่งมั่นที่จะเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน โดยปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาทในฐานะข้าของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและข้าราชการร่วมร้องเพลง พ่อแห่งแผ่นดิน และเพลงสรรเสริญพระบารมี
    พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 หน่วยราชการทุกส่วนจัดงานพร้อมเพรียงกันทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค นอกจากนี้ ในวันที่ 5 ธันวาคม ส่วนราชการทั่วประเทศจัดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงเช่นเดียวกัน
    3 ประมุขร่วมพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์
    จากนั้นเวลา16.00 น. พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์ พร้อมคณะรัฐมนตรี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา เดินทางถึงพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เพื่อร่วมในรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศโดยมีประชาชนจำนวนมากอยู่รายรอบบริเวณพระอุโบสถ
    ในเวลา16.09 น. สมเด็จพระพุฒาจารย์ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มาถึงพระอุโบสถวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร จากนั้นในเวลา 16.19 น. นายกรัฐมนตรีประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานศาลฎีกา เทน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศลงในขันพระสาคร เพื่อเริ่มรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ก่อนอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม
    ทั่วปท.จัดกิจกรรมถวายพระพร
    ส่วนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 หลายหน่วยงานทั่วประเทศร่วมแสดงความจงรักภักดี พร้อมจัดงานเฉลิมฉลอง และกิจกรรมต่างๆ อย่างพร้อมเพรียง โดยเมื่อเวลา 13.30 น. นายจรัญภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นประธานเปิดโครงการ ปฏิบัติธรรม3 ศาสนาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ระหว่างวันที่3-7 ธันวาคมนี้โดยเจ้าหน้าที่ทัณฑสถาน 148 แห่ง1.1 หมื่นคน ผู้ต้องขังกว่า 1.6 แสนคนทั่วประเทศ ร่วมกันปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนของศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม ซึ่งพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน
    เช่นเดียวกับที่จ. สิงห์บุรี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสิงห์บุรี จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จัด ประกวดภาพเก่าเล่าเรื่องเมืองสิงห์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 มีประชาชนให้ความสนใจนำภาพแห่งความปลื้มปีติที่เก็บรักษาไว้ เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานในพิธีต่างๆ ที่ จ.สิงห์บุรี ส่วนที่จ.เชียงใหม่ นายไมตรี เยาวรัตน์ ผู้อำนวยการสวนเฉลิมพระเกียรติ : ราชพฤกษ์ 2549 กล่าวว่า ในวันที่ 5 ธันวาคม จ.เชียงใหม่ จะจัดพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล บริเวณด้านหน้าหอคำหลวง ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติ ในตอนเย็น งานดังกล่าวเป็นการจัดร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จุดเด่นของการจัดงานครั้งนี้จะมีการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติ จำนวนกว่า 12 ชุด รวมทั้งสิ้นกว่า 2,700 นัด ใช้เวลาในการแสดงกว่า 45 นาที โดยการจุดพลุจะมีขึ้นหลังจากพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลเสร็จสิ้นลง
     
  3. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,657
    ทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัส
    จากพระบรมราโชวาทที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนามของทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยทรงขอให้คนไทยปรองดอง ลดอคติ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่แยกพวกแยกเหล่า ทรงห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่ยังไม่น่าไว้วางใจ อีกทั้งยังทรงเตือนสติให้คนไทยอย่าขาดสำนึกรักชาติ อย่าขาดความสามัคคี ล่าสุดบรรดารัฐมนตรี ข้าราชการ นักการเมือง และพสกนิกร ต่างน้อมนำมาปฏิบัติตาม
    พล.อ.บุญสร้างเนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์ถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า กำลังพลของกองทัพไม่ได้มีอะไร ทหารปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบอยู่แล้ว แต่เรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ได้มีอะไรที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ทหารตั้งอกตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เป็นหลักอยู่แล้ว การที่พระองค์ทรงเตือนสติก็จะต้องไปกำชับกำลังพลให้ช่วยกัน รวมถึงคนไทยทั้งชาติต้องน้อมนำไปปฏิบัติด้วย
    ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า กองทัพบกจะให้หน่วยงานต่างๆ ช่วยกันเน้นย้ำว่า พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นสิ่งที่ประเสริฐ และคนไทยทุกหมู่เหล่าควรน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรับไปปฏิบัติในทุกๆ เรื่อง

    เช่นเดียวกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะน้อมรับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงขอให้คนไทยรู้รักสามัคคี ลดอคติ และขอให้คนไทยทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติตาม เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบสุข และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา

    พระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมวันเฉลิมพระชนมพรรษา5 ธันวามหาราช ถือเป็นวันมหามงคลวันหนึ่งที่สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรชาวไทยอย่างไม่รู้ลืม เพราะในวันดังกล่าวปวงชนชาวไทยจะได้ชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ถือเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ดังนั้น พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาที่จัดขึ้น นับเป็นพระราชพิธีแห่งประวัติศาสตร์ไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะการเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ถือเป็นช่วงเวลาอันเลิศล้ำของชาวไทยทุกคนที่เฝ้ารอถวายความจงรักภักดีอย่างไม่มีสิ่งใดเปรียบเสมอเหมือน
    ในส่วนของกำหนดการพระราชพิธีในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคลณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 นั้น รัฐบาลเตรียมความพร้อมในการจัดพระราชพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยเริ่มจากให้เจ้าพนักงานเตรียมการตกแต่งพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ณ ท้องพระโรงกลาง เจ้าพนักงานเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุดตานถม พร้อมเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องขัตติยราชูปโภค แวดล้อมด้วยต้นไม้ทอง เงิน ที่มุขเด็จพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ทอดผ้าทิพย์ตราพระครุฑพ่าห์ เป็นที่สำหรับเสด็จออกมหาสมาคม เพื่อรับการถวายพระพรชัยมงคล ที่สนามหน้ามุขเด็จพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตั้งแท่นพร้อมเสาบัววางพานดอกไม้ธูปเทียนแพสำหรับสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทูลเกล้าฯ ถวาย และตั้งเสาบัววางพานดอกไม้ธูปเทียนแพสำหรับนายกรัฐมนตรี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกา ทูลเกล้าฯ ถวาย ตามลำดับ ถัดมาด้านหลังเป็นแถวคณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการทหาร-พลเรือน ผู้แทนศาสนาอื่นๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทตามตำแหน่งหน้าที่ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท 8 ตำรวจหลวงยืนเฝ้ารักษาการณ์ และนายทหารราชองครักษ์ ยืนเฝ้าตามหน้าที่ ส่วนที่สนามหน้าศาลาสหทัยสมาคมและท้องสนามหลวง ราษฎรทุกหมู่เหล่า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคล
    เสด็จออกมหาสมาคมณ มุขเด็จ
    จากนั้นในเวลา09.30 น. พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี คณะรัฐมนตรี คณะทูตานุทูต สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ข้าราชการทหาร-พลเรือน ผู้มีตำแหน่งเฝ้า เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพร้อมในมณฑลพระราชพิธีพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ต่อมาในเวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่อัฒจันทร์ทิศตะวันออก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    ต่อมาในเวลา10.30 น. พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี เลขาธิการพระราชวัง ราชเลขาธิการ สมาชิกราชสกุล และสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทที่ท้องพระโรงหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยืนเฝ้าฯ ที่แท่นหน้ามุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระสงฆ์ทั่วราชอาณาจักรเจริญชัยมงคลคาถา ย่ำฆ้อง กลองระฆัง พร้อมกับการประกอบพิธีกรรมของศาสนาอื่นๆ

    พระบรมฯถวายพระพรชัยมงคล
    ครั้นสุดเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีแล้วสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนพระบรมวงศานุวงศ์ จบเสด็จพระราชดำเนินไปเฝ้าฯ ณ ท้องพระโรงหน้า พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลแทนคณะรัฐมนตรี ข้าราชการทหาร-พลเรือน และราษฎรทุกหมู่เหล่า ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานศาลฎีกากราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนข้าราชการตุลาการ

    มีพระราชดำรัสตอบ
    จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสตอบ จบแล้ว ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมดถวายความเคารพ ชาวพนักงานกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตรฝรั่ง ทหารกองเกียรติยศ 3 เหล่าทัพถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ ต่อมาเวลา 16.45 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    กระทั่งเวลา17.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง เข้าทางประตูวิเศษไชยศรี เสด็จเข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์ชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ จบแล้วพระสงฆ์ 10 รูปเจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร เครื่องประกอบสมณศักดิ์แด่รองสมเด็จพระราชาคณะ ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาตามลำดับ
    ภายหลังจากนั้นทรงประเคนสัญญาบัตรพัดยศ แด่พระสงฆ์ซึ่งได้รับพระราชทานตั้งเลื่อนสมณศักดิ์ใหม่อีกตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานสัญญาบัตรฐานันดรศักดิ์แก่พราหมณ์ประจำพระราชสำนัก ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่ง เจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา นิมนต์พระสงฆ์ 81 รูป ที่จะเจริญพระพุทธมนต์พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์พร้อมแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์ และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปเทวรูปพระเคราะห์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ แล้วทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาแด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
    จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกฯ แด่สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะจนครบ 81 รูป แล้วเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรกถวายพระพรลา เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่พระทวารเวศรรักษา เสด็จพระราชดำเนินกลับ
    ในหลวงเสด็จออกมุขเด็จครั้งแรก
    เกี่ยวกับการเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคลณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นครั้งแรก ทั้งที่ก่อนหน้านี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชรนั้น ซึ่งความนี้ นายธงทอง จันทรางศุ กรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวว่า การเสด็จออกมหาสมาคมโดยออก ณ สีหบัญชรนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกหลายครั้งแล้ว อย่างเสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท พระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ. 2499 หรือเสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ซึ่งแต่ละครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ด้วยพระองค์เอง
    "ในพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็มีพระราชประสงค์ออกมหาสมาคมโดยสร้างพระที่นั่งชั่วคราวขึ้นที่ท้องสนามหลวง ส่วนการเสด็จออกมุขเด็จ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ครั้งนี้ก็เป็นพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถือเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระองค์ที่เสด็จออกมุขเด็จนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระราชพิธีราชาภิเษก" นายธงทอง กล่าว
    เผยเป็นพระราชประสงค์
    ส่วนการเสด็จออกมุขเด็จณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ครั้งนี้แตกต่างจากการเสด็จออกสีหบัญชรเมื่อครั้งงานฉลองสิริราช 60 ปี ที่ผ่านมาอย่างไร นายธงทอง อธิบายว่า สีหบัญชร หมายถึง หน้าต่างสำหรับพระเจ้าแผ่นดินเสด็จออกให้ประชาชนเฝ้าฯ ในโอกาสสำคัญ หรือใช้ในการว่าราชการ หากแปลตามคำแล้วนั้น "สีหบัญชร" คือ หน้าต่างที่มีสัณฐานประดุจกรงเล็บแห่งสิงห์ แต่เป็นหน้าต่างขนาดเล็กที่ทำไว้ลักษณะเฉพาะ ส่วน มุขเด็จ คือ ส่วนหน้ามุขที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารนั่นเอง จึงมีขนาดใหญ่กว่า เช่น มุขเด็จพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท หรือมุขเด็จพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
    ทั้งนี้การเสด็จออกทั้งสองแบบด้วยเหตุผลเนื่องในโอกาสสำคัญทั้งหลาย เช่น เนื่องในโอกาสงานเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ซึ่งเป็นพระที่นั่งอยู่ในหมู่พระมหามณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง มีพื้นที่ขนาดเล็กคนเฝ้าฯ ได้จำกัด ในพระราชพิธีสำคัญที่มีประชาชนมาเฝ้าฯ จำนวนมากเช่นงานฉลอง 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จออกในพื้นที่กว้างขวาง


    ถวายพระพรชัยมงคล4 ธ.ค.
    ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา80 พรรษา หลายหน่วยงานทั่วประเทศจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติทั่วทุกแห่ง โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรตินับจากวันที่ 4-9 ธันวาคม โดยเวลา 06.45 น. กรุงเทพมหานครจัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จำนวน581 รูปณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นเวลา 07.30 น. มีขบวนแห่อัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดพระเชตุพนฯไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ซึ่งประชาชนสามารถรับชมขบวนแห่อันงดงามได้บนเส้นทางผ่าน วันที่5 ธันวาคม เวลา10.30 น. ขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการเสด็จออกมหาสมาคมรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร รองปลัดกรุงเทพมหานคร ข้าราชการระดับสูงของกรุงเทพมหานคร จะเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลบริเวณหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทด้วย โดยประชาชนร่วมแสดงความจงรักภักดีโดยการรับ-ส่งเสด็จบริเวณถ.ราชดำเนินมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ถ.ราชดำเนินนอกเส้นทางเสด็จจนถึงพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิดให้ประชาชนได้รับชมพร้อมกันบริเวณ ถ.ราชดำเนินและสนามหลวงด้วย ซึ่งข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมถวายพระพรชัยมงคลในครั้งนี้ประมาณ 5 แสนคน
    เวลา18.00 น. มีพิธีถวายเครื่องราชสักการะณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครนำคณะผู้บริหารระดับสูงถวายเครื่องราชสักการะด้วย จากนั้นเวลา 19.29 น. ขอเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติโดยสามารถจุดเทียนชัยพร้อมกันได้ทุกแห่ง
    ชมซุ้มนิทรรศการ9 ซุ้ม
    นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจัดนิทรรศการภายใต้แนวคิดหลักคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ด้วยทศพิธราชธรรมทำให้ ทรงเป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่าง ที่ดีของพสกนิกรชาวไทยโดยจัดนิทรรศการสะท้อนผ่านพระราชประวัติ พระราชจริยวัตรในทุกช่วง 10 พระชนมพรรษาจำนวน 9 ซุ้มได้แก่ ซุ้มที่ 1 พระราชประวัติในภาพรวมและภาพรวมของงาน ซุ้มที่ 2 (เสด็จพระราชสมภพ-10 พรรษา) ยุวกษัตริย์พลังแผ่นดิน ซุ้มที่3 (11-20 พรรษา) ปวงประชามหาปีติ ซุ้มที่4 (21-30 พรรษา) องค์อัครศิลปิน ซุ้มที่5 (31-40 พรรษา) พระราชไมตรีเผยแผ่ทั่วหล้า ซุ้มที่6 (41-50 พรรษา) พระวิริยะเพื่อปวงชาวไทย ซุ้มที่7 (51-60 พรรษา) พระบารมีปกแผ่ไพศาล ซุ้มที่8 (61-70 พรรษา) ปวงประชาแซ่ซ้องมหากรุณาธิคุณ
    และซุ้มที่ 9 (71-ปัจจุบัน) ทั่วโลกแซ่ซ้องสรรเสริญ ซึ่งในซุ้มนิทรรศการนี้มีกิจกรรมให้ผู้เข้าชมร่วมลงนามถวายพระพรและรับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวซุ้มละ 1 แบบรวม 9 แบบเมื่อครบแล้วนำไปแลกรับสมุดสะสมภาพเป็นที่ระลึก ณ ซุ้มสนามหลวง และซุ้มลานพลับพลาฯ นอกจากนั้น กรุงเทพมหานครยังแจกคู่มือชมซุ้มซึ่งจะแจกให้แก่ประชาชนในทุกซุ้มด้วย
    38 ซุ้มบนตลอดราชดำเนิน
    ส่วนกิจกรรมการแสดงกทม.จัดแสดงดนตรีพระราชนิพนธ์ ซึ่งเป็นการแสดงดนตรีไทยผสมผสานกับดนตรีสากลของนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 200 คนบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์และเพลงอื่นๆ โดยแสดง ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ระหว่างวันที่ 4-6 ธันวาคม เวลา17.30-19.00 น. นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงแสงสี เสียงเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้แนวคิด ทรงเป็นแรงบันดาลใจ ที่สอดคล้องกับชุดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติจัดแสดงระหว่างวันที่ 1-9 ธันวาคม ณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
    นอกจากนี้กทม.ยังจัดซุ้มเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 38 ซุ้มโดยสำนักการโยธาดำเนินการ ภายใต้แนวคิด ทรงเป็นแรงบันดาลใจ แบ่งเป็นซุ้มบริเวณ ถ.ราชดำเนินในเป็นซุ้มช้างคู่บารมี 1 ซุ้มซุ้มบน ถ.ราชดำเนินกลางเป็นซุ้มเครื่องราชสักการะ 3 ซุ้มและซุ้มทศพิธราชธรรม 5 ซุ้มซุ้มบริเวณ ถ.ราชดำเนินนอกและสนามเสือป่า ประกอบด้วย ซุ้มพระราชประวัติ 5 ซุ้มซุ้มพระอัจฉริยภาพ 4 ซุ้มซุ้มโครงการตามแนวพระราชดำริ 5 ซุ้มและซุ้มเฉลิมพระเกียรติคร่อมถนน 6 ซุ้มซุ้มบริเวณมุมรอบพระตำหนักจิตรลดา ประกอบด้วย ซุ้มองค์คู่บุญบารมี ลักษณะรูปปราสาท 4 ซุ้มซุ้มบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า-วัดเบญจมบพิตร5 ซุ้มรวมทั้งได้จัดสร้างซุ้มเฉลิมพระเกียรติในพื้นที่ 50 สำนักงานเขตแล้ว

    เปิดไฟดอกไม้ น้ำพุเสริมความงาม
    ด้านการสร้างความงดงามตลอดแนวถนนพระราชดำเนินกรุงเทพมหานครเปิดไฟเฉลิมพระเกียรติ บริเวณซุ้มต่างๆ และตลอดเส้นทาง ถ.ราชดำเนินตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา19.00-21.00 น. และวันที่5 ธันวาคม ตลอดทั้งคืนจากนั้นจะเปิดไฟประดับเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ไปจนถึงวันที่ 13 มกราคม 2551 ด้วย
    พร้อมกันนี้กทม.ยังได้ตกแต่งเมืองด้วยไม้ดอกไม้ประดับในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์สวนสาธารณะ ถนนสายสำคัญๆ จำนวนกว่า 1.9 ล้านต้นเป็นไม้ดอก เช่น ดาวเรือง กล้วยไม้ ดาวกระจาย ทานตะวัน พุทธรักษา จำนวน 1 ล้านต้นไม้ประดับ เช่น ไทรทอง กระดุมทอง ไทรอังกฤษ เฟิร์น จำนวน 9 แสนต้นและยังมีน้ำพุลีลาประกอบเพลงบริเวณลานรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และบริเวณซุ้ม ถ.ราชดำเนินกลาง10 จุด
    นอกจากนี้กทม.ร่วมกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) และบริษัทแกรมมี่ฯจัดแสดงนิทรรศการ รูปที่มีทุกบ้าน โดยจัดสร้างและติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ประวัติศาสตร์ขนาด 10x15 เมตรโดยรวบรวมพระบรมฉายาลักษณ์จากประชาชนทั่วประเทศที่มีในบ้านและส่งมาร่วมโครงการ รูปที่มีทุกบ้าน แล้วนำมาตัดต่อโดยมีพระบรมฉายาลักษณ์อยู่ตรงกลาง ติดตั้งหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
    รถรางชมเมืองยามราตรี ส่วนรถรางชมเมืองยามราตรีเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00-20.30 น. รถชมเมืองสองชั้นยามราตรีมี2 รอบคือ รอบแรก เริ่มเวลา 18.00-19.30 น. รอบสองเริ่มเวลา 19.00-20.30 น.โดยรถทั้งสองแบบจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1-9 ธันวาคมยกเว้นวันที่ 5 ธันวาคม การเดินทางเริ่มจากกองการท่องเที่ยวเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ไปตาม ถ.พระอาทิตย์ผ่านสวนสาธารณะสันติชัยปราการ ผ่านย่านบางลำพู เข้าสู่ ถ.ราชดำเนินกลางข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้า ถ.ราชดำเนินนอกสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า พระที่นั่งอนันตสมาคม รัฐสภา สวนสัตว์ดุสิต เข้า ถ.ราชวิถีผ่านพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วัดเบญจมบพิตร ทำเนียบรัฐบาล กลับเข้าสู่ ถ.ราชดำเนินนอกข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ และสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ผ่านลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ดินสอผ่านศาลาว่าการ กทม. เสาชิงช้าวัดสุทัศนฯ ถ.ตีทองแยกเฉลิมกรุง พาหุรัด โรงเรียนสวนกุหลาบ วัดราชบูรณะ ปากคลองตลาด วัดพระเชตุพนฯ พระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้ว สนามหลวง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สิ้นสุดที่กองการท่องเที่ยว

    -------------
    ที่มา:คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2007/12/04/a001_178299.php?news_id=178299
    <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>
     
  4. สุริยันจันทรา

    สุริยันจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +4,588
    อนุโมทนาครับ
    ________________________________________

    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  5. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  6. s_thit

    s_thit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2007
    โพสต์:
    785
    ค่าพลัง:
    +3,027
    ร่วมถวายพระพร ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    เพราะพระองค์ทรงพระเจริญด้วย
    ทศพิธราชธรรม
    ทศพิธราชธรรม ๑๐ คือธรรมสำหรับพระราชา ในการใช้พระราชอำนาจและการบำเพ็ญประโยชน์ต่ออาณาประชาราษฎร ดังพระราชกรณียกิจที่ปรากฎ ๑๐ ประการ ดังนี้



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    <DD>๑. ทานัง หรือการให้ หมายถึงการพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ การทรงเสียสละพระกำลังในการปกครอง แผ่นดิน การพระราชทานพระราชดำริอันก่อให้เกิดสติปัญญาและพัฒนาชาติ การพระราชทานเสรีภาพอันเป็นหัวใจแห่งมนุษย์ <DD>๒. ศีลัง หรือการตั้งและทรงประพฤติพระราชจรรยานุวัตร พระกาย พระวาจา ให้ปราศจากโทษ ทั้งในการปกครอง อันได้แก่ กฎหมายและนิติราชประเพณี และในทางศาสนา อันได้แก่ เบญจศีลมาเสมอ <DD>๓. ปริจาคัง หรือการบริจาค อันได้แก่ การที่ทรงสละสิ่งไม่เป็นประโยชน์หรือมีประโยชน์น้อยเพื่อสิ่งที่ดีกว่า คือ เมื่อถึง คราวก็สละได้ แม้พระราชทรัพย์ ตลอดจนพระโลหิต หรือแม้แต่พระชนม์ชีพ เพื่อรักษาธรรมและพระราชอาณาจักรของ พระองค์ <DD>๔. อาชชะวัง หรือความซื่อตรง อันได้แก่ การที่ทรงซื่อตรงในฐานะที่เป็นผู้ปกครอง ดำรงอยู่ในสัตย์สุจริต ซื่อตรงต่อ พระราชสัมพันธมิตร และอาณาประชาราษฎร <DD>๕. มัททะวัง หรือทรงเป็นผู้มีอัธยาศัยอ่อนโยน เคารพในเหตุผลที่ควร ทรงมีสัมมาคารวะต่อผู้อาวุโสและอ่อนโยนต่อบุคคลที่ เสมอกันและต่ำกว่า


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    <DD>๖. ตะปัง หรือความเพียรที่แผดเผาความเกียจคร้าน คือ การที่พระมหากษัตริย์ทรงตั้งพระราชอุตสาหะปฏิบัติพระราช กรณียกิจให้เป็นไปด้วยดี โดยปราศจากความเกียจคร้าน <DD>๗. อักโกธะ หรือความไม่แสดงความโกรธให้ปรากฎ ไม่พยายามมุ่งร้ายผู้อื่นแม้จะลงโทษผู้ทำผิดก็ทำตามเหตุผล และสำหรับ พระมหากษัตริย์นั้นต้องทรงมีพระเมตตาไม่ทรงก่อเวรแก่ผู้ใด ไม่ทรงพระพิโรธโดยเหตุที่ไม่ควร และแม้จะทรงพระพิโรธ ก็ทรงข่มเสียให้สงบได้ <DD>๘. อะวีหิสัญจะ คือ ทรงมีพระราชอัธยาศัย กอปรด้วยพระมหากรุณา ไม่ทรงก่อทุกข์หรือเบียดเบียนผู้อื่น ทรงปกครอง ประชาชนดังบิดาปกครองบุตร <DD>๙. ขันติญจะ คือ การที่ทรงมีพระราชจริยานุวัตร อันอดทนต่อสิ่งทั้งปวง รักษาพระราชหฤทัย และพระอาการ พระกาย พระวาจา ให้เรียบร้อย <DD>๑๐. อะวิโรธะนัง คือ การที่ทรงตั้งอยู่ในขัตติยราชประเพณี ไม่ทรงประพฤติผิดจากพระราชจริยานุวัตร นิติศาสตร์ ราชศาสตร์ ไม่ทรงประพฤติให้คลาดจากความยุติธรรม ทรงอุปถัมภ์ยกย่องคนที่มีความชอบ ทรงบำราบคนที่มีความผิดโดย ปราศจากอำนาจอคติ ๔ ประการ และไม่ทรงแสดงให้เห็นด้วยพระราชหฤทัยยินดียินร้าย
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    </DD>
     
  8. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
    ^^
     
  9. noombouy

    noombouy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,191
    ค่าพลัง:
    +483
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
     
  10. วรธมฺโม

    วรธมฺโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +131
    ขอกุศลผลบุญของข้าพเจ้า จงสำเร็จแก่พระองค์ท่าน....ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  11. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ขอขอบคุณสารระดีดีอันมงคล มหามงคล ครับ
     
  12. nakoruru

    nakoruru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,120
    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญครับ
     
  13. bunlert

    bunlert เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +820
    ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
     
  14. helloartdy

    helloartdy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +504
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  15. สุวรรณหงส์

    สุวรรณหงส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +572
    เกล้าจะประพฤติปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์ จะเป็นคนดีของสังคมตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2007
  16. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG] ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ[​IMG]
     
  17. [11.59]

    [11.59] Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +54
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    "คงไม่มีคำอธิบายคำว่าพอเพียงอีกแล้ว
    เพราะพ่อได้อธิบายอย่างเพียงพอแล้วจากสิ่งที่พ่อทำให้ลูกเห็น"
    ลูกๆทุกคนจะพอเพียงตามที่พ่อสอนครับ
     
  18. ปมณฑ์

    ปมณฑ์ บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ทุกครั้งที่ได้เห็น ได้ยิน ท่าน และ เห็นพสกนิกร ตะโกนคำว่า
    " ทรงพระเจริญ " ดิฉัน จะรู้สึก น้ำตาไหลแทบทุกครั้ง และ มีความรู้สึก ว่า ดิฉันมีบุญเหลือเกิน ที่ได้เกิด เป็นคนไทย น้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม นี้ จะตราตรึง อยู่ในใจของคนไทย ตลอดนานเท่านนาน

    ดิฉันเชื่อว่า มิใช่มีดิฉันคนเดียวที่เป็นอย่างนี้ ยังมีหลายๆคน ที่เป็นแบบดิฉัน ท่านทรงเป็นแบบอย่างที่ดี ของพสกนิกร และนี่คือเหตุผล หนึ่ง ทึ่ทำไม ดิฉันจึงตั้งใจ ช่วยเหลือคน เท่าที่ดิฉันมีโอกาส เท่าที่ดิฉัน มีลมหายใจ ขอแค่เป็นส่วนเล็กๆ ที่ได้เดินตามรอยท่าน ขอแค่เป็นส่วนหนึ่ง ที่ได้เป็น ผู้ให้ ด้วยหัวใจ และจิตที่มุ่งมั่น ตราบเท่าที่มีชีวิต ดิฉันเอง อาจจะไม่ได้เป็นคนดี ทั้งหมด แต่ขอแค่ได้พยายาม ทำดี มากที่สุด ก็พอแล้ว

    ดิฉันเอง ก็ขอกล่าว คำว่า " ทรงพระเจริญ "

    พระเจ้าข้า

    อีกสิ่งหนึ่งที่ลืมเสียไม่ได้คือ ดิฉันเอง คงไม่มีโอกาสได้กราบเท้า พ่อของดิฉัน เหมือนเช่นเคย ถึงแม้ตลอดชีวิตนี้ พ่อของดิฉัน ไม่เคยกอดดิฉันเลย ตั้งแต่แม่ของดิฉันได้ตายไป เกือบ 40 ปี ที่ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อของดิฉันเลย แต่สิ่งที่บอกได้อย่างหนึ่งคือ " ดิฉันรักพ่อเสมอ " อยากให้พ่อรู้ว่า ลูกคนนี้ถึงแม้ว่า พ่อไม่เคยสนใจเลยว่าลูก จะเป็นอย่างไร แต่พ่อเป็นคนเดียว ที่ทำให้ลูกคนเดียว ร้องไห้เสมอ ลูกอยากให้พ่อสบาย ไม่อยากให้พ่อเหนื่อยมากเกินไป อยากให้พ่อมีความสุขมากๆ อย่างเดียวที่ลูก ตั้งใจไว้

    " ลูกคนนี้คงมีโอกาส ได้ทดแทนบุญคุณพ่อ อย่างที่ตั้งใจไว้ "

    ทุกครั้งที่ลูกใส่บาตร ลูกจะขอให้เทวดาที่ปกปักรักษาพ่ออยู่ ขอให้ช่วยคุ้มครองพ่อเสมอ ลูกหวังเหลือเกิน ว่า ท่านจะดูแล พ่อ แทนลูกคนนี้ ที่ไม่สามารถ ไปอยู่ใกล้ดุแล ท่านได้ ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ซึ่งคิดวาส พ่อคงรู้ว่า เพราะ เหตุผลใด ในวันพ่อ วันนี้ ลูกก็ขอให้
    " พ่อมีสุขภาพ แข็งแรง อยู่เป็นรมโพธิ์ ร่มไทร ของลูกไปอีกนานๆ และเดือนนี้ ก็เป็นวันเกิด ของพ่อเองด้วย ถึงแม้ลูกไม่มีโอกาส ไปอวยพรพ่อด้วยตัวเอง แต่ลูกก็รักพ่อเสมอค่ะ ยังรักและพูดถึงพ่อทุกวัน หวังว่า พ่อคงได้รับลูก สิ่งที่ลูกคนนี้ได้ทำให้พ่อน่ะค่ะ "

    ลูกคนนี้ จะขอเป็นคนดี และ ทำดี ให้พ่อดูค่ะ
     
  19. thanya sukjaem

    thanya sukjaem Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +95
    ขออนุโมทนา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยหระหม่อมขอเดชะ
     
  20. หนุ่ย ลำพูน

    หนุ่ย ลำพูน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...