เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    เมื่อร่วม 20 ปีที่ผ่านมา ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประชวร สมเด็จพระสังฆราชพร้อมด้วยสมเด็จพระราชาคณะที่ทรงภูมิธรรมขั้นสูงรวม 4 รูป ได้เข้าไปเฝ้าและเจริญสมาธิจิต กระทำสัตยาธิษฐานให้ทรงหายประชวร ก็ทรงหายประชวรโดยพลัน เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง
     
  2. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงประชวร มีพระอาการหนักมาก มีข่าวลือทั่วไปว่าทรงสิ้นพระชนม์แล้ว เป็นเหตุให้คณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหารซึ่งกำลังเดินทางไปประชุมที่กัมพูชาต้องรีบเดินทางกลับ เมื่อถึงกรุงเทพฯแล้วจึงได้รู้ว่ากลุ่มคนปล่อยข่าวลือ เพราะพระอาการดีขึ้น
    และเมื่อทรงฟื้นจากประชวรครั้งนั้น ก็ทรงเล่าให้ฟังว่า ความจริงครั้งนั้นประชวรหนักมาก เตรียมใจที่จะละสังขารอยู่แล้ว ในขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อไปทรงเยี่ยม ณ ที่ประทับรักษาพระองค์
    คณะแพทย์ได้ถวายรายงานว่าทรงประชวรอาการมาก และสิ้นหวังแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเข้าไปถึงเตียงที่บรรทม
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้พระหัตถ์ทั้งสองจับพระพาหา (ต้นแขน) ของสมเด็จพระองค์ แล้วกราบทูลว่า พระอาจารย์ พระอาจารย์! พระอาจารย์ หม่อมฉันและสมเด็จพระราชินีมาเยี่ยม ทรงตรัสอย่างนี้อยู่ 2 - 3 ครั้ง สมเด็จพระสังฆราชก็ทรงฟื้นพระสติ และทรงพยักหน้า
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสว่า คราวนี้ทรงประชวรหนัก คณะแพทย์บอกว่าเกินกำลังแล้ว หม่อมฉันเองก็ได้ใช้ความพยายามเต็มที่ หมอที่ไหนดีก็หามารักษา ยาอย่างไหนดีก็หามาถวาย แต่พระอาการไม่มีใครจะช่วยได้แล้ว พระอาจารย์ต้องช่วยพระองค์เองแล้วนะ พระอาจารย์ต้องช่วยพระองค์เองแล้วนะ
    สมเด็จพระสังฆราชทรงพยักหน้ารับคำอาราธนา
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จกลับ โดยมิได้ตรัสประการใดอีก
    สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานเล่าว่า เมื่อได้ยินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า พระอาจารย์ต้องช่วยพระองค์เองแล้ว ก็ทรงระลึกถึงคำสอนในพระบรมศาสดาเรื่องอิทธิบาท 4 ได้ว่า เป็นธรรมโอสถที่เมื่อเจริญแล้วสามารถดำรงพระชนม์ให้ยืนยาวได้ดังปรารถนาถึงกัลป์หรือเกินกว่ากัลป์
    เมื่อทรงระลึกได้ดังนี้จึงทรงเข้าสมาธิดำรงพระจิตอยู่ในวิหารธรรมที่มีชื่อว่าอิทธิบาทตามคำสอนของพระบรมศาสดา และในไม่ช้าพระอาการก็ทุเลาอย่างน่าอัศจรรย์ และทรงดำรงขันธ์เป็นมิ่งมงคลสูงสุดแก่ประเทศชาติและบวรพระพุทธศาสนามาตราบเท่าถึงปรัตยุบันวารนี้ฯ
    แสดงให้เห็นว่า สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกทรงมีภูมิธรรมขั้นสูงยิ่ง ที่สามารถเจริญอิทธิบาท 4 กำหนดอายุสังขารได้เสมอด้วยพระอริยเจ้าผู้ทรงวิสุทธาธิคุณอันประเสริฐสุดในอดีตกาลอย่างสิ้นสงสัย
    เหมือนกับเมื่อครั้งที่ท่านเจ้าคุณพุทธทาสรับอาราธนาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าอย่าเพิ่งดับขันธ์ แล้วใช้อำนาจแห่งสมาธิจิตเป็นธรรมโอสถรักษาอาการป่วยเจ็บจนหายเป็นปกติ
    และยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเจริญด้วยภูมิธรรมอันสูงในพระพุทธศาสนา ทรงเป็นธรรมิกมหาราชา จึงทรงสามารถรู้ได้ว่าจะทรงใช้ธรรมโอสถใดในการรักษาเยียวยาพระอาการที่เข้าขั้นวิกฤตในคราวนั้นได้
     
  3. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    ทราบข้อมูลเบื้องลึกจากวงใน แจ้งมาให้ทราบเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เหตุการณ์ตอนที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงพระประชวรหนัก ใกล้จะสิ้นพระชนม์เมื่อตอนที่ทรงมีพระชนมายุ 90 พรรษา(พ.ศ. 2546)นั้น ทั้งพระและโยมที่วัดบวรนิเวศวิหารเมื่อได้ทราบข่าวต่างพากันร่ำไห้อาลัยสมเด็จฯท่านกันไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้แต่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ก็ไม่อาจห้ามน้ำตามิให้ไหลถึงเจ้าพระคุณสมเด็จฯท่านได้
    แต่ในคราวที่วิกฤติอย่างจวนเจียนที่สุดนั้นเอง พระอุปัฏฐากที่เฝ้าดูแลอยู่ได้แลเห็นแสงสว่างพุ่งจากพระวรกายของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเรืองรองไปหมด เหมือนกับเป็นสัญญาณบอกให้ได้ทราบโดยทั่วกันว่า สมเด็จฯเตรียมจะถอดพระจิตทิ้งสังขารแล้ว ความนี้ได้ทราบถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทของล้นเกล้าฯทั้งสองพระองค์ จึงเสด็จพระราชดำเนินมาทรงอาราธนาให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงเจริญอิทธิบาท 4 ต่อพระชนมายุสังขารของพระองค์เองอย่างทันท่วงที อันนับเป็นบุญแก่บวรพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวด หาที่เปรียบมิได้ดังที่ท่านทั้งหลายคงจะได้เป็นที่ประจักษ์แก่ตาแก่ใจของมหาชนทั่วแผ่นดินอย่างเป็นรูปธรรมที่สุดในปัจจุบันวารนี้แล้ว
     
  4. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    เมื่อประมาณปี 2519 ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช มีผู้ศรัทธาแถวมีนบุรีท่านหนึ่งได้กราบอาราธนานิมนต์เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรไปทำบุญที่บ้านซึ่งอยู่แถวเขตมีนบุรี ซึ่งห่างไกลจากวัดบวรนิเวศวิหารหลายสิบกิโลเมตร
    ซึ่งตามปกติแล้ว หากรถไม่ติด ก็น่าจะใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 45 - 60 นาทีเป็นอย่างน้อย
    โดยผู้ศรัทธาท่านนั้น กราบอาราธนานิมนต์สมเด็จฯท่านไว้ที่ 11 นาฬิกาตรง
    พอถึงวัน สมเด็จพระญาณสังวรท่านติดภารกิจหลายประการ จนเวลาล่วงใกล้ 10 นาฬิกาแล้ว พระภาระก็ยังไม่เสร็จสิ้น จนผู้ที่ถวายงานและทราบหมายกำหนดการที่มีนบุรีดังกล่าวจึงกราบเรียนว่า เวลาจะไปไม่ทันที่นิมนต์แล้ว สมเด็จฯจะยังคงเสด็จไปอยู่อีกหรือไม่..??? ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวรก็ทรงยืนยันว่า จะเสด็จไปตามนิมนต์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
    จนเมื่อภารกิจที่วัดบวรนิเวศวิหารทั้งปวงลุล่วง และทรงขึ้นรถยนต์ที่มีผู้ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลท่านหนึ่งขับถวายออกจากวัด เวลาก็กว่า "10.30 น."แล้ว ซึ่งหากคำนวนตามเวลาเดินทางที่ต้องใช้เวลา 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ก็นับได้ว่า ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะไปทันงานตามเวลาด้วยประการทั้งปวง
    และสิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นในทันใดนั่นเอง
    หนึ่งในผู้ตามเสด็จในครั้งนั้นได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อรถได้เคลื่อนออกไปไม่เท่าไร ก็มีความรู้สึก"วูบๆๆๆ"ไปชั่วระยะหนึ่ง
    และมิพลันช้า พริบตาเดียว รถยนต์ที่ประทับก็ได้ไปถึงสถานที่นิมนต์ที่มีนบุรีโดยฉับพลันทันใดอย่างน่าอัศจรรย์ที่สุด.!?!?
    เข็มนาฬิกาบ่งบอกชัดเจนว่า เวลาที่รถยนต์ที่สมเด็จพระญาณสังวรทรงประทับไปถึงมีนบุรีนั้น เป็นเวลาประมาณ 10.50 น.
    ก่อนเวลา 11 นาฬิกาที่อาราธนาไว้ถึง 10 นาทีเต็มๆ
    ใช้เวลาเดินทางจากวัดบวรนิเวศวิหารถึงบ้านที่นิมนต์ที่มีนบุรีภายในเวลา "20 นาที"เท่านั้น..!!!!!!!
    ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เลย สำหรับ"กรณีปกติ" หากมิได้ทรงใช้"อิทธิวิธี"ในการ"ย่นระยะทาง"ทั้งคนทั้งรถให้ไปถึงที่หมายก่อนเวลาเห็นปานนั้นได้
    ยอดเยี่ยมและประเสริฐเลิศในทุกๆทางอย่างที่สุดแล้ว สำหรับ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชแห่งสยามประเทศของพวกเราท่านทั้งหลายพระองค์นี้
    ขอถวายอนุโมทนาสาธุการ.............
     
  5. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    คงจำได้ข่าวใหญ่หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2530 ต้นๆ ได้เกิดเหตุไฟไหม้ที่ชุมชนแออัดบางลำพู หลังวัดบวรนิเวศ ซึ่งตรงนั้นชาวบ้านอาศัยกันอยู่อย่างเนืองแน่น ไฟได้เริ่มลุกขึ้นโหมแดง เสียงรถน้ำของตำรวจหลายสิบคันมุ่งหน้ามาที่ซอยนี้ แต่ทว่ายังเข้าไม่ได้เพราะซอยเล็กมาก
    มีเรื่องเล่ากันว่า ในวันนั้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ทรงประทับอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ไม่มีภารกิจเสด็จไปไหน เมื่อทรงทราบข่าวว่ามีไฟไหม้หลังวัด ทรงดำเนินลงจากพระตำหนักมาทอดพระเนตรไปยังจุดที่เกิดเหตุอย่างจิตใจที่ตั้งมั่น ไม่มีผู้ใดทราบได้ว่าพระองค์ทรงดำริอะไร แม้แต่พระผู้ที่ติดตามในวันนั้น นายตำรวจที่ติดตามในวันนั้นเองก็ไม่ทราบ
    แต่ความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งธรรมได้ปรากฏ เมื่อพระองค์ละสายตาจากการทอดพระเนตรที่เพ่งมองด้วยจิตตั้งมั่นแล้วไม่ช้าไม่นาน ไฟที่ลุกโชตินั้นค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ ทีละน้อยทีละน้อย ทั้งที่รถน้ำยังไม่ได้ทำการฉีดน้ำสักหยดอย่างน่าตื่นตะลึงเป็นที่สุด..!!!!!
    ข่าวได้แพร่สะพัดไปอย่างกว้างขวางว่า ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรทรงอธิษฐานจิตดับไฟหลังวัดบวรนิเวศเพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่อาศัยในชุมชนหลังวัดบวรนิเวศวิหารให้พ้นจากวิบัติภัย นี่ก็นับได้ว่าเป็นความอัศจรรย์ของอานุภาพแห่งธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะปรากฏและมีได้ต่อผู้ที่มีศีลและธรรมอันบริสุทธิ์
    พระองค์เคยตรัสสอนเหล่าภิกษุนวกะบ้างพอสังเขปในเรื่องลักษณะเหตุแห่งธรรม ทรงตรัสว่า
    "หากเรามีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิที่สงบ จิตตั้งมั่นดีแล้ว อะไรๆ ก็ปรากฏเกิดขึ้นได้ สิ่งเหล่านั้นก็เป็นธรรมะชนิดหนึ่งเหมือนกัน..."
     
  6. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    "สังฆราชเรียกฝนดับไฟ"
    เมื่อประมาณปลายปีพ.ศ. 2534 ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่ชุมชนตรอกบวรรังษี หลังวัดบวรนิเวศวิหารในตอนกลางดึกประมาณตี 1 ต้นเหตุเกิดจากบ้านของแขกขายถั่วซึ่งติดอยู่กับตึกสว.ธรรมนิเวศที่เตรียมทอดถั่วสำหรับขายในวันต่อไป ไฟได้ลุกลามแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆอย่างใหญ่โตมโหฬารไม่อาจยับยั้งได้ อีกทั้งถนนเข้าชุมชนนั้นก็คับแคบมาก และมีสิ่งกีดขวางมากมาย ยากที่รถดับเพลิงจะเข้าไปทำการสกัดไฟใดๆได้
    ศิษย์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชบางท่านได้ทุบประตูพระตำหนักชั้นบนอันเป็นที่ประทับอย่างแรง เพื่อปลุกเจ้าพระคุณสมเด็จฯให้หนีไฟ ซึ่งตอนนั้นเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชกำลังทรงนั่งสมาธิอยู่ จึงทรงมีรับสั่งสั้นๆอย่างพระทัยเย็นแต่เพียงว่า

    “ไฟไหม้รึ..??”

    ครั้นแล้ว เจ้าพระคุณสมเด็จฯก็ทรงครองจีวรเสด็จลงจากพระตำหนัก ตอนนั้น พระสัทธิวิหาริกต้องการนำเสด็จไปที่ศาลา 150 ปีอันตั้งอยู่กลางวัด ซึ่งน่าจะเป็นที่น่าจะปลอดภัยกว่า แต่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชมิโปรดที่จะกระทำเช่นนั้น แต่กลับเสด็จเข้าไปที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ที่เพลิงกำลังโหมไหม้อย่างหนักหน่วงอยู่ โดยเสด็จขึ้นไปยังบนชั้น 5 ของตึกสว. ธรรมนิเวศซึ่งอยู่ติดๆกับเขตเพลิงไหม้อย่างน่ากลัวที่สุดโดยมิทรงหวั่นเกรงต่อภยันตรายใดๆ

    เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเสด็จขึ้นถึงชั้นที่ 5 ของตึกสว.ธรรมนิเวศ ก็มีรับสั่งให้ศิษย์เปิดหน้าต่างออก ทำให้แลเห็นพระเพลิงกำลังโชนไหม้ชุมชนแออัดอย่างรุนแรง เสียงไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ เสียงผู้คนที่ขนของหนีไฟเอาชีวิตรอดดังอึงคะนึงสับสนอลหม่านระงมไปหมด เป็นที่น่าหวาดหวั่นปนน่าสังเวชเวทนาเป็นที่ยิ่ง

    เมื่อสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงทอดพระเนตรเห็นเช่นนั้น ก็ทรงมองตรงไปยังเบื้องหน้า แล้วก็ทรงมองขึ้นไปยังฟ้าเบื้องบน ก่อนที่จะยกพระหัตถ์ขึ้นโบก 3 ครั้ง

    และแล้ว สิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่งที่สุด ก็พลันบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของทุกผู้คนในฉับพลัน

    พริบตาเดียว ก็ปรากฏมหาเมฆก้อนใหญ่ลอยเหนือบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ในทันใด ลมที่กำลังกรรโชกแรงที่ทำให้ไฟไหม้แผ่ขยายรุนแรงยิ่งขึ้นก็หยุดกึกราวกับปิดสวิทซ์ แม้กระทั่งใบไม้ก็ไม่ไหวกระดิก

    และในบัดดลนั้น ก็เกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก หนักเสียจนไม่มีทีท่าวี่แววว่าจะหยุดได้ง่ายๆ ทำให้เพลิงไหม้มหาวินาศนั้นค่อยๆบรรเทาความร้อนแรงลงจนมอดดับไปต่อหน้าต่อตาอย่างน่าตื่นตะลึงเป็นที่สุด..!!!!!!!!

    เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนปลายเดือนธันวาคม ซึ่งเป็น”ฤดูหนาว” ซึ่งตามธรรมดา ฝนได้ขาดช่วงไปตามธรรมชาตินานมากแล้ว....

    เมื่อทอดพระเนตรเห็นฝนตกลงมาดับไฟ บรรเทาทุกขเวทนาแก่สัตว์ผู้ยากได้สมพระประสงค์แล้ว สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชก็เสด็จกลับเข้ามากราบพระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ชั้น 5 อยู่พักใหญ่ จากนั้นก็เสด็จลงมายังชั้นล่างของตึกสว.ธรรมนิเวศ
    เพียงย่างพระบาทแรกที่เสด็จออกมา ฝนที่กำลังตกอยู่ก็หยุด ฟ้าที่กำลังฉ่ำด้วยเม็ดฝนก็เปิดโล่งขึ้นมาในทันที บรรดาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็มาคุกเข่ารับเสด็จ พลางส่งเสียงสาธุการแด่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชที่ได้ทรงพระเมตตา”เรียกฝนดับไฟ”ให้มอดดับไป หลายๆคนต่างร่ำไห้น้ำตาไหลอาบหน้าด้วยความตื้นตันและซาบซึ้งในพระกรุณาปาฏิหาริย์ซึ่งทรงสำแดงให้ปรากฏต่อหน้าต่อตาของทุกๆคนอย่างที่ไม่มีใครอายใครฯ"

    เรียบเรียงจาก “สมเด็จพระสังฆราช”โดย “กันตสีโลภิกขุ”(Karyl Bilbrey) จากนิตยสาร “น่านฟ้า”และ “เจ้าประคุณ” โดย”บรรณศาลา”จากหนังสือ"รวมเรื่องเล่า สิ่งที่เห็น")
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ความอัศจรรย์ของพระพุทธศาสนา
     
  8. ไม่เกิด

    ไม่เกิด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,916
    ค่าพลัง:
    +9,458
    ครั้งหนึ่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ท่านประทับเฮลิคอปเตอร์เพื่อทอดพระเนตรโครงการต่างๆในเขตวัดญาณสังวราราม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยมีนายตำรวจยศนายพล เป็นผู้ถวายการขับเครื่องบิน ด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ในขณะที่กำลังนำเครื่องลงลานจอดเฮลิคอบเตอร์ที่ติดกับอ่างเก็บน้ำของวัดญาณฯ นักบินนำเครื่องลงไม่ตรงลานจอด แต่กลับนำเฮลิคอปเตอร์ที่ประทับนั้นลงไปในอ่างเก็บน้ำจนน้ำท่วมเอ่อเข้าพื้นเฮลิคอปเตอร์ที่ประทับน้ำท่วมถึงฝ่าพระบาทท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ นักบินเมื่อรู้ตัวว่านำเครื่องลงผิดเป้าหมายจนประสพเหตุร้ายแรงถึงเพียงนั้น ก็รีบดึงเครื่องขึ้นเต็มกำลังจนเครื่องเกือบที่จะตีกลับพลิกคว่ำ แต่น่าเหลือเชื่อยิ่งที่นักบินกลับสามารถประคองเครื่องนำจอดได้สำเร็จโดยสวัสดิภาพ เมื่อผ่านเหตุการณ์อันน่าตกตะลึงไป นักบินกล่าวว่าต้องถือว่ามหัศจรรย์ที่นำเครื่องขึ้นได้น่าจะเป็นเพราะบารมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เพราะน้ำท่วมเข้ามาถึงพื้นเครื่องแล้ว ซึ่งโดยทั่วไปไม่น่าจะสามารถกู้เครื่องกลับให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ทรงตบที่อังสะที่ท่านเหน็บพระเครื่องของพระองค์ท่าน พร้อมตรัสว่า "หลวงพ่อช่วยๆ" พร้อมกับแย้มพระสรวล โดยที่มิได้ทรงตกพระทัยใดๆเลย
    งานนี้ ผู้ที่มิได้ทรงญาณอันแก่กล้า ก็ยากที่จะสรุปให้ถ่องแท้ลงไปได้ว่า"หลวงพ่อ"ที่ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยในครั้งนี้ จะเป็นพระเครื่องดีที่ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จทรงพกไว้ หรืออำนาจของพลังจิตบุญฤทธิ์บารมีของ"หลวงพ่อสังฆราช"(พระองค์ท่านเอง)บัดดลให้เป็นไป
    หรือทั้งสองอย่างผนวกกัน..?????
     
  9. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    ร่วมไว้อาลัย “สมเด็จพระสังฆราช” องค์ที่๑๙ครับ

    [​IMG]
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    RIMG0465.JPG RIMG0466.JPG

    เหรียญรุ่นแรก ปี ๒๕๒๕ แบบไม่เป็นทางการ ของสมเด็จพระญาณสังวร ออกก่อนเหรียญรุ่นแรก ๒๕๓๐

    กราบ ๆ ๆ สมเด็จพระเด็จพระสังฆราช พระญาณสังวร
     
  11. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    กราบหลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง และครู อาจารย์ทุกท่านครับ

    สวัสดีครับ พี่พี พี่ช้างและทุกๆท่าน

    เพิ่งกลับมา ลุยงานอยู่ 2 วัน เพิ่งจะค่อยมีเวลาครับ เอาบุญมาฝากพี่น้องทุกท่าน จากงานกฐินวัดโพธิ์ชัยนางัว อ.นาหว้า จ. นครพนม ได้ยอดเงินทำบุญ 554,909 บาท อานิสงค์ใดๆที่มีขออุทิศให้กับพี่น้องบ้านเหรียญบิน-แพโบสถ์น้ำแห่งนี้ด้วย ขอพี่น้องทุกท่านโมทนาร่วมกันนะครับ
     
  12. Suppasit_S

    Suppasit_S เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,147
    ค่าพลัง:
    +3,869
    ได้รับข่าวสมเด็จฯ ท่านตอนค่ำเมื่อวานเศร้าเลยครับ ทางพ่อ แม่ผม นับถือท่านมาก มีรูปท่านเดินจูงมือในหลวงท่าน เข้ากรอบไว้ เห็นแล้วรู้สึกดีมากๆครับ

    พ่อผมเองเคยได้รับรูปเหมือนขนาดห้อยคอของท่าน ที่ท่านประทานผ่านผู้ที่บ้านผมนับถือมาให้พ่อผมโดยตรง สวยมากครับ เดี๋ยววันหลังจะถ่ายรูปมาลงบ้าง

    ดูรูปที่คุณพิณพาทย์มาลง ปลาบปลื้มมากครับ ผมนั่งไหว้ที่หน้าจอทุกรูปเลย

    ไปตามอ่านก่อน ติดตามเสมอครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2013
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    RIMG0467.JPG

    แหนบหกรอบ สมเด็จพระญาณสังวร ๓ ต.ค. ๒๕๒๘

    อันนี้หวงมากครับ เอามาโชว์
     
  14. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,040
    [​IMG]
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ไม่พาดพิง ไปยัง เรื่องที่ดู ๆรอบข้างทุกวันนี้

    ที่ดูแล้ว ไม่สบายตา ไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
     
  16. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    พี่อ้อยค่ะ ภาพนี้คือภาพที่พระวิหารวัดบวรหรือเปล่าค่ะ เคยไปกราบไม่กี่ครั้งร่วมสิบปีจำภาพรวมๆ ไม่ค่อยได้แล้ว มีบางวันที่ไปพระวิหารปิดเนื่องจากมีพิธีสำคัญ
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระอุโบสถ หรือ โบสถ์ ครับ

    เป็นที่ที่พระมาทำสังฆกรรม ร่วมกัน เช่น ฟังพระปาติโมกข์ บวชกุลบุตร มีพระเสมาแสดงขอบเขตของพระพุทธศาสนา ชัดเจน จากพระเจ้าแผ่นดิน มาตั้งยุคพุทธกาล

    ( แม้จะร้างไปก็ยังเป็นธรณีสงฆ์ พวกแขก หรือ พี่ไทย มาทีหลังไม่ทราบไปยึดไว้ รับกรรมไปครับ )

    ส่วนพระวิหาร เป็นที่ที่ ทำพิธี ต่างๆได้ ส่วนใหญ่ไว้ใช้กับพวกญาติโยม มาถวายภัตตาหาร ฟังเทศ ฟังธรรม หรือ ทำพิธี ต่างๆ
     
  18. ตะวันมงคล

    ตะวันมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2010
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +711
    กราบ กราบ กราบ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
    และขอน้อมส่งเสด็จองค์สมเด็จพระสังฆราชครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2013
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    จุนฺโท, ดิ้นได้, บารมี, ปรอท, พระผง, มอญ, มีดหมอ, รามอินทรา, รูปหล่อ, วัดโพธิ์, สงคราม, สมเด็จพระสังฆราช, สับสน, หลวงปู่ทิม, หลวงปู่ปรง, หลวงพ่อกวย, หลวงพ่อปึก, องค์นี้, อีกตามเคย, เมตตา, เสน่ห์, เสื้อ, แฮะๆ 10407 Attachment(s) เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๗๗ (36 คน กำลังดูอยู่) (Multi-page thread 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... Last Page)
    Thread Rating: 52 votes, 500 average.พี เสาวภา

    เลขสวยทีเดียว เช้านี้คึกคักพอสมควรครับ
     
  20. SpringDove

    SpringDove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,488
    ค่าพลัง:
    +4,807
    ขอบพระคุณมากค่ะที่กรุณาอธิบาย เ็ด็กน้อยศึ็กษาน้อย ตกทั้งภาษาไทย และ เทศค่ะ แหะๆๆ.... ตกลงในภาพนี้เป็นพระอุโบสถหรือเปล่าค่ะ

    เคยไปกราบ 2-3 ครั้งน่าจะสิบปีที่แล้วก่อนย้ายมาที่นี่ค่ะ มีพี่ท่านหนึ่งทักว่า "เคยไปไหว้พระที่ไหนที่มีพระประธานองค์ใหญ่ๆ สูงเท่าตึกและมีพระพุทธรูปต่างๆ อยู่ด้านหน้าไหม?" พี่ท่านนี้บอกว่า "ที่นี่ศักดิ์สิทธิ์และมีเทวดาเยอะมาก กระแสท่านจะแสดงให้เห็นตอนที่คุยกับพี่ท่านนี้ค่ะ ให้ระลึกถึงที่ๆ นี่ไว้" พี่เค้าบอกมาอย่างนั้น...ก็บอกพี่เค้าไปว่าช่วงนั้นก็ไปแต่วัดบวรวัดเดียวที่เป็นลักษณะที่พี่เค้าบอกมา...เท็จจริงประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...