ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐเร่งขยายเพดานหนี้ มากกว่าเถียงกันเรื่อง “โอบามาแคร์"​

​

ชาวอเมริกันเกินครึ่งเห็นว่า การไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ทันก่อนเส้นตายวันที่ 17 ต.ค. คือหายนะ จึงเป็นเรื่องที่สภาคองเกรสต้องเร่งพิจารณาและให้ความสำคัญ มากกว่าจะมาขัดแย้งกันในตอนนี้เรื่องกฎหมายประกันสุขภาพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. อ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ร่วมกับสำนักวิจัยโออาร์ซี ในหัวข้อวิกฤตงบประมาณสหรัฐ รวบรวมข้อมูลจากชาวอเมริกันวัยทำงาน 803 คน โดยใช้วิธีสอบถามทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่รัฐบาลกลางสหรัฐประกาศการเข้าสู่ภาวะ “โกเวอร์นเมนท์ ชัทดาวน์” หรือการปิดหน่วยงานรัฐบางส่วน เมื่อวันที่ 1 ต.ค. เนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติงบประมาณจากสภาคองเกรส

ปรากฏว่า 56% มองว่า คงเป็นเรื่องเลวร้าย ถ้าสหรัฐเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะไม่ทันก่อนวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่กระทรวงการคลังประกาศเป็นระยะ ว่าปริมาณหนี้สินของประเทศจะถึงจุดสูงสุดในวันดังกล่าว ขณะที่ 38% คิดว่าไม่น่าเป็นปัญหาอะไร ซึ่งผู้ที่ตอบแบบนี้ส่วนใหญ่มีแนวคิดทางการเมืองแบบพรรครีพับลิกัน

เมื่อนำประเด็นมาตรการขยายเพดานหนี้ไปเปรียบเทียบกับนโยบายประกันสุขภาพ หรือ “โอบามาแคร์” 51% คิดว่าการเพิ่มเพดานหนี้ให้ได้สำคัญกว่า ส่วนอีก 43% ให้ความสำคัญกับโอบามาแคร์มากกว่า แต่หากมาตรการขยายเพดานหนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบ 53% มองว่าเป็นความผิดของพรรครีพับลิกัน 31% มองว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องรับผิดชอบเพียงผู้เดียว

ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยควินนิปิแอค เผยแพร่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. พอดี ระบุว่า 64% ไม่เห็นด้วยเรื่องการขัดขวางการเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ และกฎหมายประกันสุขภาพ และมีผู้เห็นด้วยเพียง 27%

เดลินิวส์ วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556 เวลา 18:55 น.

เจ้าหน้าที่เริ่มตรวจสอบอาวุธเคมีในซีเรีย​

​

คณะตรวจสอบอาวุธเคมีในซีเรีย เริ่มปฏิบัติภารกิจตรวจสอบบัญชีอาวุธเคมีของซีเรีย ก่อนทำลายภายในกลางปีหน้า ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ว่า คณะผู้เชี่ยวชาญด้านการปลดอาวุธระหว่างประเทศ เริ่มปฏิบัติภารกิจในการตรวจสอบอาวุธเคมีจำนวนมหาศาลของซีเรียแล้วในวันนี้ โดยได้ตรวจสอบรายชื่อสถานที่ตั้งที่ทางการดามัสกัสให้มา และทำการตรวจสอบก่อนทำลาย คณะเจ้าหน้าที่ ซึ่งมี 19 คน จากองค์การห้ามใช้อาวุธเคมี หรือโอพีซีดับเบิลยู ที่ตั้งอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เดินทางถึงเมืองหลวงซีเรียเมื่อวานนี้ เพื่อปฏิบัติตามมติ 2118 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่สั่งให้กำจัดอาวุธเคมีของซีเรีย ภายในกลางปี 2557

คณะเจ้าหน้าที่จะเริ่มงานหนึ่งวันหลังจากพรรคฝ่ายค้านซีเรีย เตือน “ภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม” ในเมืองโมดามีเยต อัล-ชาม ชานกรุงดามัสกัส หนึ่งในพื้นที่เป้าหมายที่มีรายงานว่า ถูกโจมตีด้วยแก๊สทำลายระบบประสาทซารินเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน

นอกจากนี้ ภารกิจนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีข่าวสารของซีเรีย ยืนยันว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด จะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป และอาจจะลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกในปีหน้า

ทั้งนี้ การลาออกของนายอัสซาด ถือเป็นข้อเรียกร้องสำคัญของฝ่ายค้าน ซึ่งยืนยันว่าต้องเป็นประเด็นหลักของการประชุมสันติภาพในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เดลินิวส์ วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556 เวลา 15:00 น.

ศรีสะเกษน้ำยังท่วมชาวบ้านต้องอยู่ศูนย์อพยพต่อ​

​

ศรีสะเกษน้ำยังท่วมขัง ชาวบ้านต้องอยู่ศูนย์อพยพต่อยาว หลายพื้นที่น้ำเริ่มเน่า

เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ จะเริ่มลดระดับลงเรื่อยๆอย่างช้าๆ ก็ตาม แต่ยังคงมีหลายพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหาน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ ในหลายชุมชน เนื่องจากบางแห่งไม่ใช่เส้นทางไหลของน้ำ จึงท่วมขังแน่นิ่ง ไม่ไหลเวียน ทำให้เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น ส่วนที่บริเวณชุมชนโนนกลาง ชุมชนกุลวดีหนองอุทัย ซึ่งเป็นหมู่บ้านจัดสรร ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ น้ำยังคงท่วมสูงประมาณ 50-80 ซ.ม. ชาวบ้านต้องพายเรือเข้าออกเพื่อไปเยี่ยมบ้านและดูแลทรัพย์สินของตนเอง

โดยทางจังหวัดคาดการณ์ว่า หากไม่ไม่พายุฝนไม่ตกลงมาสมทบอีกในระยะนี้ คาดว่าในวันที่ 15 ต.ค. นี้ ระดับน้ำจะลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันได้มีธารน้ำใจจากทั่วสารทิศ ทั้งหน่วยงาน องค์กร ภาครัฐและภาคเอกชน ยังคงหลั่งไหลเข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดย นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสิริพงศ์ อินนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธกส.ศรีสะเกษ และคณะได้นำสิ่งของถุงยังชีพมามอบให้กับผู้ประสบภัย ที่ชุมชนหนองอุทัยด้วย

ด้าน นายสุขสันต์ บุญโทแสง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ ประสบอุทกภัย ทั้ง 22 อำเภอ 162 ตำบล 1,584 หมู่บ้าน และ 15 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 107,589 ครัวเรือน ที่อยู่อาศัยเสียหายบางส่วน จำนวน 44,760 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 515,346 คน เสียชีวิต 9 ราย ส่วนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ มีราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนอพยพคนและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง จำนวน 15 ชุมชน 1,959 ครัวเรือน 5,923 คน ซึ่งได้ทำการอพยพมายังศูนย์อพยพชั่วคราว จำนวน 12 จุด

อย่างไรก็ตามขณะนี้อำเภอที่อยู่ปลายน้ำ 4 อำเภอ คือ อำเภอบึงบูรพ์ ศิลาลาด ยางชุมน้อย และอำเภอกันทรารมย์ สถานการณ์ยังมีน้ำท่วมหนักอยู่ โดยมีแนวโน้มสูงมากขึ้น เนื่องจากเป็นอำเภอที่น้ำจากลำห้วยต่างๆ จะไหลผ่านออกไปลำน้ำมูล จ.อุบลราชธานี โดยยังมีน้ำในแม่น้ำมูลที่มีปริมาณสูงขึ้นดันไว้ ทำให้น้ำในลำห้วยต่างๆ ในจังหวัดไหลไปได้อย่างช้าๆ.

เดลินิวส์ วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2556 เวลา 18:00 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ผู้ที่เขาทำหน้าที่ดูแลจักรวาล มีจริง
ผู้ที่อยู่เหนือโลก เหนือกาลเวลา เหนือความคิดความเชื่อมนุษย์มีจริง
ผู้ที่มาส่งมอบคำสอนที่นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์ ใน มีจริง
ผู้ที่เฝ้ามองสัตว์ด้วยความเป็นห่วง มีจริง
ฟ้าพูดได้ ดินพูดได้ หินพูดได้ สัตว์พูดได้
สิ่งที่มองไม่เห็น ก็มีอยู่จริง
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล
คือ โลกุตตระ

- " หนุมาน ผู้นำสาร " มีจริง ด

 

จำได้ว่ามี ตอนหนึ่งในเรื่อง(คำทำนายโลกแตก)ต่างๆที่ได้อ่านมาในเว็บบอร์ดนี้ ที่บอกว่า ก่อนจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ ผู้นำสหรัฐจะแถลงข่าวเรื่อง UFO ออก TV ด้วยตนเอง พร้อมกับ มนุษย์ต่างดาว แต่ที่อ่านมาจากที่ท่านโพสกัน มันผิดอยู่แค่ มนุษย์ต่างดาวไม่ได้ออก TV ด้วยเท่านั้นเอง มันชักจะทะแมงๆ

 

รวบประธานศาลรัฐธรรมนูญอินโดนีเซีย รับสินบน​

​

ปปช.อินโดนีเซียจับกุม นายอาคิล มอคตาร์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้แค่เดือนกว่า ฐานต้องสงสัยรับเงินสินบน หลังเจ้าหน้าที่บุกยึดเงินของกลางประมาณ 2-3 พันล้านรูเปียห์คาบ้านพัก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชั่นแห่งชาติอินโดนีเซีย จับกุม นายอาคิล มอคตาร์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันพุธ ตามข้อกล่าวหาทุจริตรับเงินสินบน ถือเป็นคดีทุจริตที่เกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศอีกคดี โดยนายอาคิลได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานศาลฎีกา วาระดำรงตำแหน่ง 5 ปีเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา การจับกุมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้บุกยึดเงินประมาณ 2-3 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 8.2 ล้านบาท) จากบ้านพักของนายอาคิล

นายโยฮัน บูดี โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกวาดล้างการทุจริตแห่งชาติอินโดนีเซีย เผยว่า เงินที่เจ้าหน้าที่บุกยึดเชื่อว่าเกี่ยวพันกับการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยมีสมาชิกรัฐสภารายหนึ่ง พร้อมกับประชาชนอีก 3 คน ถูกจับกุมในคดีเดียวกันนี้ด้วย การจับกุมนายอาคิลมีขึ้นไม่ถึง 2 เดือน หลังจากเจ้าหน้าที่จับกุมประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการพลังงานแห่งชาติ ฐานต้องสงสัยรับเงินสินบนจากเจ้าหน้าที่บริษัทน้ำมันเชื้อเพลิงแห่งหนึ่ง

การทุจริตคอร์รัปชั่นเรื้อรัง ยังคงเป็นตัวเหนี่ยวรั้งสำคัญ สำหรับการลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก ปัญหานี้สร้างรอยด่างให้กับ ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยูโดโฮโน ที่กำลังอยุ่ในช่วงปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2556 เวลา 01:40 น.

"เทปโก" เผยพบน้ำปนกัมมันตรังสีระดับสูงไหลออกมาจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ​

​

เกิดเหตุน้ำ 430 ลิตร ซึ่งปนเปื้อนกัมมันตรังสีสูงกว่ามาตรฐาน รั่วไหลออกมาจากหนึ่งในถังเก็บภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ฟูกูชิมะไดอิจิ" ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เป็นครั้งที่ 2 ในเวลาเพียงไม่ถึง 2เดือน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่านายมาซายูกิ โอโนะ โฆษกบริษัทผลิตไฟฟ้าโตเกียว ( เทปโก ) ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ "ฟูกูชิมะไดอิจิ" ซึ่งตั้งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์พบน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีราว 430 ลิตร หรือ 110 แกลลอน รั่วไหลออกมาจากถังเก็บใบหนึ่ง พร้อมกับยอมรับว่า น้ำบางส่วนอาจไหลลงสู่ทะเล ซึ่งอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้าเพียง 300 เมตร

ทั้งนี้ น้ำที่รั่วไหลออกมามีปริมาณไอโซโทปกัมมันตรังสี ที่รวมถึง "สตรอนเทียม 90" มากถึง 200,000 เบ็คเคอเรลต่อน้ำ 1 ลิตร ซึ่งถือว่าสูงกว่ามาตรฐานสากลมาก ที่กำหนดระดับการปนเปื้อนของสตรอนเทียม 90 ว่าไม่ควรเกิน 30 เบ็คเคอเรลต่อน้ำ 1 ลิตร

การรั่วไหลของกัมมันตรังสีครั้งล่าสุดนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ในรอบระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือนดี หลังเทปโกพบน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 300 ตันรั่วไหลออกมาเมื่อกลางเดือนส.ค. กระตุ้นให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศขอลงมาจัดการวิกฤตครั้งนี้เอง ที่รวมถึงการก่อสร้างกำแพงดินแช่แข็ง เพื่อกันไม่ให้น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีรั่วซึมลงสู่ทะเล ซึ่งนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น สั่งการให้เทปโกแก้ไขปัญหาให้เสร็จภายในเดือน มี.ค.2557

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2556 เวลา 11:31 น.

ทำเนียบขาว-คองเกรส ยังเสียงแตกเรื่องแก้วิกฤตงบประมาณ​

​

รัฐบาลสหรัฐและสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถร่วมกันหาทางออกในเรื่องการแก้ไขวิกฤตงบประมาณ ที่มีต้นเหตุมาจากกฎหมายประกันสุขภาพ จนนำไปสู่การต้องปิดหน่วยงานส่วนใหญ่ได้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มกังวลว่า วิกฤตครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงเรื่องการขยายเพดานหนี้ให้ทันกลางเดือนนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ว่าการเจรจาเพื่อหาทางยุติภาวะ "โกเวอร์นเมนท์ ชัทดาวน์" หรือการที่สภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณให้รัฐบาลกลาง จนทำให้ต้องมีการปิดสำนักงานเกือบทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ กับแกนนำสภาคองเกรสยังคงไม่ได้ข้อสรุป โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่า ขัดขวางกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์"

นายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน แถลงว่า ผู้นำสหรัฐเป็นฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อ ทั้งที่เขาเองก็ต้องการบรรลุข้อตกลงเรื่องโอบามาแคร์ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อผลประโยชน์ของชาวอเมริกันทุกคน โดยโบห์เนอร์ยังยืนกรานเรื่องการชะลอการบังคับใช้กฎหมายโอบามาแคร์ เพื่อแลกกับการอัดฉีดงบประมาณให้พอถึงปลายปีนี้ไปก่อน

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน นายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งมาจากพรรคเดโมแครต ที่แน่นอนว่าต้องสนับสนุนกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามา ออกมากล่าวโทษโบห์เนอร์ว่า เป็นฝ่ายปฏิเสธการเจรจา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่รอรับสิทธิประโยชน์จากโอบามาแคร์ ที่ศาลสูงอนุมัติให้บังคับใช้ได้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่โอบามาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี ก่อนเข้าร่วมประชุมกับตัวแทนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาคองเกรส กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า รู้สึกไม่พอใจกับท่าทีของพรรครีพับลิกันในตอนนี้ พร้อมกับเตือนให้ตลาดหลักทรัพย์วอลล์สตรีทเตรียมรับมือวิกฤตเพดานหนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากตราบใดที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางยังไม่สามารถกลับมาเปิดทำการได้ อาจส่งผลต่อการพิจารณาลงมติขยายเพดานหนี้ให้ทันก่อนวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่กระทรวงการคลังออกมาเตือนเป็นระยะ ว่าหากขยายเพดานหนี้ไม่ทัน สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2556 เวลา 08:32 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

สัมภาษณ์ข้าราชการชั่วในนรกอเวจี !!!​

​

เงินเดือน ราชการ ภาษีราษฏร์
มือสะอาด ใจซื่อ คือเป้าหมาย
ทุจริต คอรัปชั่น ตกอบาย
ยังมิสาย กลับตัวใหม่ สร้างความดี​

พระจี้กงประทับทรง วันที่ 8 เมษายน 2527 สัมภาษณ์ข้าราชการชั่วในนรกอเวจี

พระจี้กง :การเป็นข้าราชการที่ดี อยู่ที่ใจซื่อมือสะอาด ให้ความรัก ความเมตตาแก่ราษฏร์ หมั่นออกตรวจเยี่ยมเยียนถามทุกข์สุข จึงจะรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนแล้วทำการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนนั้น ทว่าข้าราชการบางคนไม่เพียงแต่ไม่ปฏิบัติเช่นนั้น แต่กลับอาศัยอำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกประชาชน การประพฤติเช่นนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ภาพพจน์อันทรงเกียรติของเครื่องแบบเสื่อมเสีย ยังเป็นภัยแก่สังคมอีกด้วย

ชิวเซิง :ถ้าหากผู้เป็นข้าราชการสามารถหมั่นออกตรวจเยี่ยม ถามทุกข์สุข บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ราษฏรอยู่เสมอ ข้าราชการเช่นนี้ก็เสมือนเป็นข้าราชการพ่อแม่ ทว่าในหน้าหนังสือพิมพ์มักจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับข้าราชการอาศัยอำนาจหน้าที่ แสวงหาผลประโยชน์ เข้าพกเข้าห่อส่วนตัวซึ่งเป็นเรื่องน่าละอายจริง ๆ

พระจี้กง :ควรต้องรู้ว่าที่ชาตินี้ได้เป็นข้าราชการนั้นล้วนเป็นบุญวาสนา อันได้บำเพ็ญมาแต่ชาติก่อน หากไม่รู้จักรักถนอมวาสนานี้ไว้ แต่กลับก่อกรรมทำเข็ญจะมิเป็นการสูญเปล่า การสร้างสม บุญบารมีจากชาติก่อนหรือ ?

ชิวเซิง :อาจารย์หมายความว่า ถ้าผู้เป็นข้าราชการซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ หมั่นบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฏร เมื่อบุคคลผู้นั้นละจากโลกนี้แล้ว ก็สามารถเป็นเทพเทวดาได้ แต่ถ้าหากว่าเที่ยวข่มเหงรังแก ราษฏร นรกก็มีสิทธิ์ไป แบบนี้ใช่ไหมครับ ?

พระจี้กง :ฮ่าฮ่า เธอพูดถูกต้อง เอาละ....วันนี้ได้เวลาลิขิตหนังสือแล้ว ชิวเซิงรีบขึ้นดอกบัว

ชิวเซิง :ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว อาจารย์ไปได้เลย

พระจี้กง :ชิวเซิงเธอกำลังคิดอะไรอยู่หรือ ?

ชิวเซิง :อ๋อ...ผมกำลังคิดว่า การปฏิบัติธรรมจะสามารถวัดขีดขั้นภูมิธรรมโดยดูจากลักษณะหน้าตาภายนอกได้หรือไม่ ?

พระจี้กง :ฮ่าฮ่า ถ้าหากสามารถวัดระดับภูมิธรรมโดยดูจากหน้าตาภายนอก อาตมาก็ไร้ภูมิธรรมแล้วซิ

ชิวเซิง :ทำไมหรือครับ ?

พระจี้กง :ใครไม่รู้ว่าหน้าตาภายนอกของอาตมาเป็นอย่างไร ทำไมต้องอธิบายอีก ยังดีที่พระพุทธองค์ได้หยั่งรู้ล่วงหน้า จึงได้กล่าวไว้ในพระสูตรกิมกังเก็งว่า “มิอาจเห็นพระตถาคตด้วยรูปกาย อันรูปกายก็คือปราศจากรูปกาย เป็นสักแต่ชื่อว่ารูปกายเท่านั้น” จากข้อนี้ก็จะรู้ว่าไม่อาจถือเอาหน้าตาภายนอก เป็นที่วัดระดับภาวะธรรมของนักปฏิบัติเปรียบเสมือนดังวัด ซึ่งมีทั้งเล็กและใหญ่ ถ้าหากถือว่าวัดที่สง่าภูมิฐานก็แสดงว่า ปฏิบัติธรรมได้สูงขั้นกว่า ส่วนวัดธรรมดาก็ปฏิบัติธรรมไม่ได้ผล แบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนัก ดังนั้นการบำเพ็ญธรรมที่ได้ผล จึงมิได้อยู่ที่การอวดอ้าง แต่อยู่ที่ใจมิใช่อยู่ที่หน้าตาภายนอก

ชิวเซิง :คำกล่าวของอาจารย์สูงส่งจริงแท้ จากข้อนี้ก็จะรู้ว่าการปฏิบัติธรรมคือการขัดเกลาจิตภายใน มิใช่การขัดเกลารูปภายนอก แต่เป็นการขัดเกลา “จิตเดิมแท้” ให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว มิใช่การขัดเกลา “รูปร่าง หน้าตา” ให้สวยงาม

พระจี้กง :ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว

ชิวเซิง :หวังว่าอาจารย์คงให้โอวาทชี้แนะอีก

พระจี้กง :ถึงนรกอเวจีแล้ว เบื้องหน้าที่เห็นคือสถานที่จองจำพวกข้าราชการทุจริตคอรัปชั่นโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นข้าราชการที่มุ่งแต่หาความสุขสำราญใส่ตน ทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ลำบากยากแค้น ชิวเซิง...ลงจากดอกบัว

ชิวเซิง :อาจารย์ครับ อากาศที่นี่ร้อนระอุจริง ผมเหงื่อท่วมตัวอีกแล้ว

พระจี้กง :ที่นี่เป็นทางระบายของเปลวไฟ ฉะนั้นเธอจึงรู้สึกเช่นนี้ กิน “น้ำทิพย์” นี่ซิ

ชิวเซิง :กินแล้ว ร่างกายไม่ร้อนอีกเลย อาจารย์...มีเสียงร้องโหยหวนดังแว่วมาจากเบื้องหน้า โอ ....ทำไมมีคนกลุ่มหนึ่งเบียดกันอยู่เป็นกลุ่ม ผมไหม้เกรียมจนหัวโล้นตัวก็ดำสนิท

พระจี้กง :ชิวเซิง...ทำไมไปหลบอยู่นั่นล่ะ?

ชิวเซิง :ภาพอันน่าสยดสยอง ทำให้ผมอกสั่นขวัญหายไปหมด

พระจี้กง :นั่น...หัวหน้าแดนกำลังเดินมาแล้ว เธอรีบไปคารวะ

ชิวเซิง :กระผมขอคารวะท่านหัวหน้า

หัวหน้า :ชิวเซิง..ตายสบาย วันนี้พัศดีได้รายงานว่าท่านจี้กงจะมาเยือนนรกขุมนี้ จึงได้รีบมาต้อนรับ

ชิวเซิง :คนข้างหน้านี้ หน้าตาดำเหมือนถ่าน เผยให้เห็นแต่ดวงตา ไม่ทราบว่าตอนเป็นมนุษย์ได้สร้างบาปกรรมใดไว้

หัวหน้า :เขาไม่สามารถพูดจาได้แล้ว

พระจี้กง :เดี๋ยว...อาตมาจัดการเอง

ชิวเซิง :อาจารย์อิทธิฤทธิ์สูงส่งจริงแท้ วิญญาณบาปฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว จากร่างที่ดำเหมือนถ่าน บัดนี้ได้กลายมาเป็นคนที่มีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์

หัวหน้า :เจ้าคนบาป...จงรีบเล่าการก่อกรรมชั่วของเจ้าครั้งอดีตมาให้หมด เพื่อบันทึกลงในหนังสือเป็นอุทาหารณ์แก่ชาวโลก

วิญญาณบาป :โอ...คิดไม่ถึงว่าผมจะต้องมีสภาพเช่นวันนี้ หวนรำลึกถึงสมัยเป็นมนุษย์ผมเป็นข้าราชการชั้นสูง เพียบพร้อมสมบูรณ์ด้วยเกียรติยศ มี 3 เมีย และเมียบำเรออีก 5 คน

หัวหน้า :ข้าไม่ใช่ถามเรื่องความมั่งมีศรีสุข แต่จะให้เล่าเรื่องที่ เจ้าใช้อำนาจหน้าที่ ประทุษร้ายผู้คนอย่างผิดกฏหมาย

วิญญาณบาป :โอ...เรื่องผิดกฏหมายมีมากนับไม่ถ้วน แต่ที่ทำให้ผมอยู่ไม่เป็นสุขก็คือ ครั้งหนึ่งผมพบผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง ผมอยากได้ตัวหล่อนมาก แต่หล่อนไม่ยอมสนใจผมเลย ต่อมาผมใช้วิธีการข่มขู่พ่อของหล่อนบีบบังคับให้ยกลูกสาวเป็นเมียบำเรอคนที่ 6 ของผม แต่พ่อของหล่อนดื้อดึง บอกว่าถึงตายก็ไม่ยอมทำตามประสงค์ ในที่สุดผมจึงจำใจต้องให้ลูกน้องไปจับเขามัดใส่กระสอบ แล้วนำไปทิ้งลงเหวตอนเที่ยงคืน เรื่องนี้ผมคิดว่าไร้คนรู้เห็น คิดไม่ถึงว่าเมื่อมาถึงเมืองนรก ถูกนำตัวไปอยู่ต่อหน้ากระจกส่องบาป ภาพการกระทำแต่หนหลังทุกอย่าง ปรากฏออกมาหมดดุจจอหนังหมดหนทางแก้ตัว เลยจำต้องรับสารภาพ

ชิวเซิง :แล้วต่อจากนั้นล่ะ?

วิญญาณบาป :ต่อจากนั้นท่ายมบาลได้ด่าประณามผมด้วยเสียงอันดังเสียพักใหญ่ ว่าผมเป็นข้าราชการไม่รู้จักประพฤติตนให้ใสสะอาด แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกราษฏรผู้บริสุทธิ์ แล้วตัดสินลงโทษผมสถานหนัก ซึ่งนอกจากต้องรับโทษทัณฑ์จากนรกขุมต่าง ๆ แล้ว ยังต้องถูกส่งต่อมาจองจำยังนรกอเวจีนี่ ไร้โอกาสผุดเกิดอีก

ชิวเซิง :แล้วตอนนี้รู้สึกเป็นไงบ้าง

วิญญาณบาป :โอ....ถ้ารู้แต่แรกว่า กฏบัญญัตินรกรุนแรงเช่นนี้ ผมคงไม่กล้าโอหังเช่นนั้น ทว่าตอนนี้สายเกินไปแล้ว

หัวหน้า :คนใจเยี่ยงสัตว์ รู้แต่การใช้อำนาจหน้าที่ข่มเหงรังแกชาวบ้านเช่นนั้น ถ้าไม่ได้ลิ้มรสกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของนรกอเวจีเสียบ้างย่อมไม่รู้สึก

ชิวเซิง :น่าเวทนาจริง ตอนเป็นมนุษย์ถ้ารู้จักประพฤติปฏิบัติตามตัวบทกฏหมาย เอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขประชาราษฏร์ก็คงไม่ต้องเป็นเช่นนี้

หัวหน้า :ตอนนี้พูดกับเขาเรื่องนี้ก็ไร้ประโยชน์คนใจทมิฬหินชาติ ไร้เมตตาธรรมเช่นนี้ ทำกรรมใดไว้กรรมนั้นย่อมสนองก็สมควรแล้ว

พระจี้กง :เอาละ....การลิขิตหนังสือในวันนี้ยุติเพียงเท่านี้ก่อน

ชิวเซิง :ขอลาท่านหัวหน้าก่อนครับ

หัวหน้า :ขอส่งท่านจี้กงและคุณชิวเซิง

พระจี้กง :ชิวเซิง...รีบขึ้นดอกบัว กลับกันเถอะ

ชิวเซิง :ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว อาจารย์กลับได้

พระจี้กง :ถึงสำนึกเซิ่งเทียนแล้ว ชิวเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าร่าง

ที่มา mindcyber.com!

 

ประตูมิติแห่งกาลเวลา !!!​

​

รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์อย่างลึกลับถึง ๔๒ ปี จู่ๆโผล่ออกมาทุกคนอายุเท่าเดิม..

...เรื่องประหลาดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลพากันปิดปากเงียบ ที่ขบวนรถด่วนขบวนหนึ่งพร้อมกับผู้โดยสารหายลึกลับอย่างไร้ร่องรอย ขณะเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๒ แล้วจู่ๆโผล่ออกมาอีกในสภาพเดิมทุกอย่าง เมื่อต้นปีนี้คือ พ.ศ.๒๕๓๕...

...ที่ประหลาดยิ่งขึ้น ผู้โดยสารจำนวน ๑๒๐ คน และพนักงานประจำรถ ๓ คน มีอายุเท่ากับวันที่หายเข้าไปในอุโมงค์ ไม่มีใครแก่อายุมากขึ้นสักวันเดียว รูปร่างเหมือนเดิมทุกอย่าง และพวกเขายังเชื่อว่า...ทุกวันนี้ยังเป็น พ.ศ. ๒๔๙๒ อยู่...

...รัฐบาลอิตาลีเก็บเรื่องนี้เงียบที่จะพูดถึงขบวนรถด่วนหมายเลข เอฟ ๖๒๖ และยังไม่ยอมพูดถึงว่า...เอาขบวนรถนั้นไปไว้ที่ไหนด้วย ไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้น ยังคอยจับตาผู้โดยสารทุกคนเว้นแต่มี ๒ คน...ที่เป็นชาวต่างประเทศหลบหนีการสอบสวนไป ส่วนพนักงานประจำรถ ๓ คน รัฐบาลได้เก็บตัวไว้ใน...สถานที่หนึ่ง ไม่ยอมเปิดเผยต่อสาธารณชน...

...ข่าวการหายไปของขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ หายลึกลับไป ๔๒ ปี และโผล่กลับมาอีกนั้น แม้ว่าทางการ พยายามปิดข่าว แต่หนังสือพิมพ์อิตาลีเกือบทุกฉบับสามารถที่จะติดตามมาเสนอได้ พยานทีได้รับทราบเหตุการณ์ครั้งนี้เผย ตั้งแต่เริ่มต้นที่ขบวนรถด่วนนี้มีด้วยกัน ๑๓ โบกี้ หายเข้าไปในอุโมงค์...รถไฟที่มีความยาว ๑ ใน ๔ ไมล์อย่างลึกลับไม่ยอมโผล่ออกไปอีกทางหนึ่ง

เจ้าหน้าที่จึงปิดอุโมงค์ทำการค้นหา ซึ่งมีทั้งตำรวจและ นักวิทยาศาสตร์ โดยได้ค้นทุกตารางนิ้ว แต่ไม่พบร่องรอยแม้แต่น้อยว่า มันหายไปได้อย่างไร รางถึงกับรื้อออกแล้วนำมาวางใหม่ เมื่อค้นหากันไม่พบทำให้หลายคนเชื่อว่า...มนุษย์ต่างดาวได้ทำการโจรกรรมโขมยรถด่วนนี้ไป ตามรายงานของ นสพ.อุโมงค์ได้เปิดอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี ๒๔๙๓ ตั้งแต่นั้นมา แม้ว่าจะมีขบวนรถไฟผ่านไปมาเป็นพันขบวนก็ไม่มีอุบัติเหตุอันแปลก...ประหลาดลี้ลับนั้นเกิดขึ้นอีกเลย...

...แต่อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ก็มีคนพยายามค้นหาขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ แต่ก็พบว่ามีแต่ความว่างเปล่า บางคนถึงกับสรุปว่า รถขบวนนี้ถูกหุ้มห่อด้วยกาลเวลาและเดินทางไปสู่อนาคตอันไกลพ้น...

เรื่องราวแบบนี้เคยเกิดขึ้นในสหรัฐ เรืออินเซอร่า ซึ่งเป็นเรือคุ้มครองเรือประจัญบานของกองทัพเรือสหรัฐ จู่ๆก็หายอย่างลึกลับจากอู่เรือที่ฟิลาเดลเฟียในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่แล้วจู่ๆก็ไปปรากฏตัวที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ด ซึ่งทุกวันนี้ยังหาคำตอบไม่ได้...

...เมื่อรัฐบาลปิดข่าว หนังสืออิตาลีก็พยายามที่จะขุดค้นออกมา ในที่สุดหนังสือพิมพ์โรมเดลี่ที่ขายดีมาก สามารถไปคว้าเอาเทปมาริโอ ฟรานซินี ช่างเครื่องรถไฟขบวนนี้มาตีแผ่ได้ ซึ่งมีดังนี้...

"ขณะที่ขบวนรถเคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์นั้น ไม่นานนักก็มีหมอกสีขาวหนาลอยฟ่อง สมองรู้สึกปั่นป่วนไปหมด จากนั้นก็หมดสติไม่รู้สึกตัว มาได้สติอีกครั้งหนึ่งเมื่อขบวนรถได้ออกจากอุโมงค์แล้ว เราคิดว่าเวลาคงจะห่างกันไม่ถึงนาทีดี แต่ที่ไหนได้ เมื่อขบวนรถเรากลับมาถึงสถานีโบล้อคน่าถึงได้ทราบว่า ได้ห่างกันถึง ๔๒ ปี นี่คือสิ่งเดียวที่เรารู้ "

...ผู้โดยสารอื่นๆก็ให้การคล้ายคลึงกันว่า มีหมอกลงจัดเมื่อเวลาเข้าอุโมงค์แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย...

...ผู้โดยสารขบวนรถด่วน เอฟ ๖๒๖ ซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ ๒ คน ที่หลบการให้การคือ อดอล์ฟ โรเนอร์ เป็นชาวเยอรมันกับมาร์ติน บาร์ตเลตต์ ชาวแอฟริกาใต้ สำหรับโรเนอร์มีนักข่าวอิตาลีได้โทรศัพท์ไป...หลอกถาม โดยอ้างว่าเป็นผู้โดยสารรถด่วนนั้นด้วยกัน...

...โรเนอร์ได้เล่าว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมาก ตอนที่เขาหายไปพร้อมกับขบวนรถไฟนั้นเขาอายุ ๓๐ ปี มีลูกชายอายุ ๑๐ ขวบ " เดี๋ยวนี้ลูกชายผมอายุ ๕๒ ปีแล้ว อ้วนและเป็นโรคหัวใจ ส่วนภรรยาผมก็ย่างเข้า ๗๐ ปีแล้ว กำลังเป็นโรคเบาหวาน ส่วนผมกลับอายุเพียง ๓๐ ปี เท่านั้น เท่ากับเมื่อปี ๒๔๙๒ ...

...เรื่องราวเหล่านี้เป็นความลึกลับของโลกที่อธิบายได้ยาก ซับซ้อน น่าอัศจรรย์ใจ ต่อผู้ที่ได้รับฟังเป็นอย่างยิ่ง...

...และเรื่องนี้นับว่าเป็นปริศนาอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ ชวนติดตาม สืบเสาะ ค้นหาที่มาความเป็นมาเป็นไป...สวัสดีครับ...

ที่มา นานาสาระ $ โหราศาสตร์: รถไฟหายเข้าไปในอุโมงค์ ๔๒ ปี

 

THE UNIVERSE : การเดินทางข้ามกาลเวลา !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IXSo05l_bb0]THE UNIVERSE : การเดินทางข้ามกาลเวลา - YouTube[/ame]​

 

โรคผิวหนังเริ่มระบาด !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=EE-VNU5HJQY]"ศรีสะเกษ" ยังท่วมหนัก โรคผิวหนังเริ่มระบาด ขาดสาธารณูปโภค - YouTube[/ame]​

ฟ้ารั่ว ๒

งูเงี้ยว เขี้ยวขอ เฝ้ารอ
วิ่งห้อ หนีน้ำ ถ้วนหน้า
พารา ต่างก็ ไม่กล้า
เพราะว่า เข้าหา ประชา

มหาประชาบดี ๙๗

ข่าวทางทีวีช่อง 3 เมื่อสองสามวันที่ผ่านมาได้ออกว่า มีการระบาดทางผิวหนังทางภาคเหนือ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กประมาณ 800 คน

เคอิสรา

ที่มา แจ้งข่าวเตือนภัยทางอีเมล์ จากคุณ k_97

 

เอเชียยังผวา‘วิกฤตราคาอาหาร’ แห่กักตุน‘ข้าว-ข้าวสาลี’จนล้นสต็อก

​

รอยเตอร์ - วิกฤตอาหารเมื่อ 5 ปีที่แล้วยังตามหลอกหลอนเอเชีย ส่งผลให้หลายประเทศเดินหน้าสำรองธัญญาหารแม้มีปัญหาในการจัดเก็บ
และงบประมาณตึงตัว รวมทั้งมีสต็อกรวมกันมากพอเลี้ยงคนจีนทั่วประเทศนานถึง 8 เดือนแล้ว ส่วนสำหรับไทยนั้นเตรียมสต็อกข้าวเพิ่มอีก 10 ล้านตัน
สิ้นปีนี้ ทั้งที่ยังมีคั่งค้างจากโครงการรับจำนำอยู่ถึง 16 ล้านตัน หรือครึ่งหนึ่งของปริมาณการซื้อขายทั่วโลกในแต่ละปี

อย่างไรก็ตาม ข้อดีของแนวโน้มนี้ก็คือ ช่วยกระตุ้นราคาให้กระเตื้องขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ทรุดลงเพราะคาดการณ์กันว่าผลผลิตธัญญาหารอุดมสมบูรณ์

แอ็บโดลีซา แอ็บบัสเซียน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่
อยู่ในกรุงโรม ชี้ว่า พวกประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด โดยเฉพาะในเอเชีย ยังคงลังเลอย่างมากที่จะปล่อยให้ปริมาณธัญญาหารคงคลังลดต่ำลง

“บทเรียนที่ได้มาทั้งจากช่วงทศวรรษ 1990 และช่วงปี 2007-2008 จะโน้มน้าวให้บรรดาผู้วางนโยบายเชื่อว่า ในเรื่องความมั่นคงด้านอาหารนั้น
ไม่อาจไว้วางใจตลาดระหว่างประเทศได้ 100%”

ด้วยเหตุนี้ประเทศผู้นำเข้าธัญญาหารในเอเชียจึงพากันกักตุนข้าวรวมกันถึง 100 ล้านตัน และข้าวสาลี 90 ล้านตัน นับตั้งแต่ที่ต้องเผชิญปัญหา
ราคาราคาธัญพืชพุ่งทะยานในปี 2008 สืบเนื่องจากปัจจัยหลายๆ ประการ ทั้งการที่ราคาน้ำมันแพง สภาพอากาศเลวร้าย
และความต้องการเชื้อเพลิงชีวภาพที่เพิ่มขึ้น

ตอนนั้นอินเดียซึ่งหวั่นเกรงการขาดแคลนภายในประเทศ ถึงขั้นประกาศระงับการส่งออกข้าว ขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่ง
ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ตันละ 1,050 ดอลลาร์ ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของแดนภารตะ ยังกระตุ้นให้ประเทศผู้ผลิตข้าวอื่นๆ
ดำเนินรอยตาม ส่วนประเทศผู้นำเข้าอย่างฟิลิปปินส์ก็เกิดความแตกตื่นเร่งรีบสั่งซื้อ

อย่างไรก็ตาม อินเดียถูกบีบให้ส่งออกธัญญาหารอีกครั้งในปี 2011 หลังจากภาพข้าวสาลีและข้าวเน่ากลางสนามเปิดโล่งถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก
แต่ความที่ไม่เต็มใจขายจึงทำให้สต็อกข้าวในโกดังของรัฐยังปักหลักอยู่ที่ 21 ล้านตัน ณ วันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เทียบกับเป้าหมาย
ของทางการซึ่งตั้งไว้ที่ 9.8 ล้านตันเท่านั้น ทั้งนี้ เป็นผลจากปริมาณฝนที่อุดมสมบูรณ์ 4 ปีติดต่อกัน สำหรับสต็อกข้าวสาลีนั้นอยู่ที่ 38 ล้านตัน
จากเป้าหมายที่ต้องการให้ลดเหลือ 17.1 ล้านตัน

นักวิเคระห์ในเมลเบิร์นเชื่อว่า ชาติเอเชียที่มีประชากรหนาแน่นจะไม่ยอมลดสต็อกอาหารจนกว่าจะเห็นปริมาณธัญญาหารคงเหลือในประเทศผู้ส่งออกสำคัญ
เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และรัสเซีย เพิ่มขึ้น

ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา อุปทานธัญญาหารโลกตึงตัวมาตลอด เนื่องจากต้องเผชิญวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งรวมถึงภาวะแห้งแล้งรุนแรงในอเมริกา
บราซิล และอาร์เจนตินาในปี 2012 ส่งผลให้อเมริกาที่เป็นผู้ส่งออกข้าวโพดรายใหญ่ มีสต็อกต่ำสุดในรอบ 16 ปีเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

เช่นเดียวกัน ออสเตรเลีย ผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับ 2 มีข้าวสาลีคงคลัง 3.7 ล้านตัน ณ สิ้นเดือนกันยายน หรือครึ่งเดียวของสต็อกเมื่อปีที่แล้ว

สถานการณ์การสำรองธัญญาหารในเอเชียมีแนวโน้มเลวร้ายลงเนื่องจากสภาพอากาศที่เกือบสมบูรณ์แบบที่สุดที่ชักชวนให้ประเทศต่างๆ
พากันกักตุนธัญญาหาร

ตัวอย่างเช่นอินเดียที่จัดเก็บข้าวและข้าวสาลีราว 12 ล้านตันในพื้นที่โล่งและคลุมด้วยผ้าใบเท่านั้น จะสต็อกข้าวเพิ่ม 30 ล้านตัน ณ สิ้นปีนี้

สำหรับไทย รัฐบาลได้ขยายโครงการรับจำนำข้าวเป็นปีที่ 3 และโครงการประชานิยมนี้จะทำให้สต็อกข้าว ณ สิ้นปีปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีก
ราว 10 ล้านตัน จากที่มีอยู่ 16 ล้านตันในขณะนี้ หรือครึ่งหนึ่งของปริมาณการซื้อขายทั่วโลกต่อปี โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณา
เช่าโรงเก็บเครื่องบินของกองทัพอากาศเพื่อใช้เป็นโกดังเก็บข้าวเนื่องจากพื้นที่เก็บข้าวของโครงการรับจำนำข้าวไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป

ส่วนจีนถูกคาดหมายว่าจะซื้อข้าวสาลี 9.5 ล้านตันในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน ศกหน้า

ที่ฟิลิปปินส์ ออร์ลัน คาลายัก ผู้บริหารสำนักงานอาหารแห่งชาติเผยว่า รัฐบาลมีแผนปรับปรุงและเพิ่มศักยภาพการจัดเก็บ
เพื่อความมั่นคงด้านอาหารและราคาที่มีเสถียรภาพ


Around the World - Manager Online - �������ѧ��ґ�ԡĵ�Ҥ�����Ò ����ѡ�ع�����-�������Ւ�����ʵ�͡

 

ไอเอ็มเอฟเตือนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลก หากสหรัฐล้มเหลวเพิ่มเพดานหนี้
​

​

คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ เตือนหากสหรัฐล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐและเศรษฐกิจโลกเลวร้ายกว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลในขณะนี้ และอาจรุนแรงพอ ๆ กับวิกฤติเศรษฐกิจปี 2551

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ว่า นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผย เมื่อวานนี้ว่า ความล้มเหลวในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ จะเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโลกรุนแรงยิ่งกว่าการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในปัจจุบัน เพราะไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น แต่อาจทำลายเศรษฐกิจโลกด้วย

ทั้งนี้ สหรัฐต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล เนื่องจากเกิดความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา และรัฐสภา แต่ปัญหาที่เลวร้ายยิ่งกว่ากำลังส่อเค้าลางขึ้น เมื่อสหรัฐจะขาดเงินสด หากไม่สามารถตกลงกันได้ในการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งทางกระทรวงการคลังสหรัฐก็สะท้อนถ้อยแถลงของนางลาการ์ด ระบุว่า การผิดนัดชำระหนี้ อาจก่อให้เกิดวิกฤติการเงินที่เลวร้ายพอกับที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2551

นางลาการ์ด กล่าวสุนทรพจน์ในกรุงวอชิงตัน ก่อนการประชุมประจำปีระหว่างไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก ในสัปดาห์หน้าว่า มันเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ปัญหานี้ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เธอบอกว่า อัตราการเติบโตในสหรัฐได้รับความเสียหายไปแล้ว จากปัญหางบประมาณ และจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 2 ในปีนี้ ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 1 ในปี 2557

เมื่อพูดถึงส่วนที่เหลือของโลก กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ระบุว่ามีสัญญาณความก้าวหน้าในยูโรโซน และญี่ปุ่น แต่การเปลี่ยนแปลงไปสู่การเติบโตที่มั่นคงขึ้นอาจสะดุดได้ เนื่องจากความปั่นป่วนวุ่นวายในสหรัฐ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ขนาดใหญ่ ลดลงประมาณร้อยละ 0.5-1

นางลาการ์ด กล่าวว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ประกาศแผนการผ่อนคลายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกระตุ้นให้เงินทุนไหลออก เพราะนักลงทุนเล็งเห็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 05:36 น.

เกิดเหตุยิงกันหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ​

​

เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายสหรัฐ เผยเกิดเหตุยิงกันด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีผู้หญิงเป็นผู้ต้องสงสัย พยายามที่จะขับฝ่าแนวเครื่องกีดขวางที่จะมุ่งหน้าไปยังทำเนียบขาวกรุงวอชิงตัน แต่ก็ถูกตำรวจวิสามัญในที่สุด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายสหรัฐ เปิดเผยว่า มีรถยนต์ของผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นผู้หญิงพยายามที่จะขับฝ่าแนวเครื่องกีดขวาง บนถนนเพนซิลวาเนีย ซึ่งมุ่งหน้าไปยังทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน แต่ฝ่าไปไม่ได้ จึงขับย้อนไปทางแคปิตอล ฮิลล์ อาคารที่ตั้งของรัฐสภาสหรัฐ แล้วเกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด

วุฒิสมาชิกหลายคนเปิดเผยว่า ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นราว 6 นัด ตำรวจจึงได้สั่งปิดล้อมทั่วบริเวณอาคารรัฐสภาสหรัฐ และ เข้าควบคุมพื้นที่ มีรถดับเพลิง รถพยาบาลรุดมายังที่เกิดเหตุ จากนั้นในราวครึ่งชั่วโมง ตำรวจจึงได้สั่งยกเลิกการปิดล้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เห็นผู้เคราะห์ร้าย 1 คนได้รับบาดเจ็บและได้รับการช่วยเหลือทำการปฐมพยาบาลบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารรัฐสภาสหรัฐ

รายงานข่าวต่อมา แจ้งว่า หญิงผู้ต้องสงสัยได้ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ด้านนอกอาคารรัฐสภา หลังจากเธอก่อเหตุขับรถไล่กันกับตำรวจ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็เป็นตำรวจ ซึ่งถูกรถยนต์ของผู้ต้องสงสัยรายนี้ชนด้านนอกอาคารรัฐสภา ตำรวจระบุอีกว่า เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 03:03 น.

สหรัฐเตรียมรับมือพายุโซนร้อน "คาเรน"​

​

พายุโซนร้อน "คาเรน" ก่อตัวขึ้นแล้วในอ่าวเม็กซิโก และมีแนวโน้มสูงที่จะเคลื่อนตัวเข้าถล่มชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐสุดสัปดาห์นี้ ทำให้หลายรัฐในพื้นที่เสี่ยงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่าศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ ( เอ็นเอชซี ) ออกประกาศเตือนภัยเรื่องพายุโซนร้อน "คาเรน" พายุหมุนลูกแรกในฤดูเฮอริเคนมหาสมุทรแอตแลนติก มีความเร็วลมศูนย์กลาง 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปทางตอนใต้ราว 580 กิโลเมตร

นอกจากนี้ การที่พายุมีทิศทางเคลื่อนที่ออกจากอ่าวเม็กซิโก ขึ้นมาทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 74 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่ากับว่าพื้นที่เสี่ยงได้แก่ แนวชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ไล่ตั้งแต่รัฐฟลอริดา แอละบามา มิสซิสซิปปี ไปจนถึงลุยเซียนา กระตุ้นให้บริษัทพลังงานที่มีแท่นขุดเจาะอยู่ในบนริเวณดังกล่าวประกาศระงับการเดินเครื่องจักร และปักธงสีแดงคู่สื่อให้เห็นถึงการเฝ้าระวังพายุที่ใกล้จะเคลื่อนตัวเข้ามา

ขณะที่นายบ็อบบี จินดาล ผู้ว่าการรัฐลุยเซียนา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั้วทั้งรัฐ เนื่องจากประเมินแล้วพบว่า พายุน่าจะทวีกำลังแรงเป็นเฮอริเคนภายในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนนายริค สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน 18 เขต

ทั้งนี้ เอ็นเอชซีเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐเพียงไม่กี่แห่ง ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการเต็มเวลาและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมาทำงานตามปกติ แม้รัฐบาลกลางกำลังเผชิญวิกฤตงบประมาณ ที่ทำให้หน่วยงานส่วนใหญ่ต้องปิดตัวชั่วคราว หรือ "โกเวอร์นเมนท์ ชัทดาวน์" เนื่องจากเอ็นเอชซีเป็นหน่วยงานที่ต้องเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชนทั้งในด้านชีวิตและทรัพย์สิน แม้ดาสเทียมสำรวจอากาศบางตัวอาจต้องถูกระงับใช้งานไปก่อน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายก็ตาม

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 08:00 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ในที่สุดก็บอกความจริงกันเสียทีน่ะว่ามีอยู่จริง และตัวของโอบาม่าเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ไม่เสียแรงที่บางท่านอุตส่าห์เฝ้ารอ หลังจากนี้ก็คงได้เวลาของภัยพิบัติใหญ่ล้างโลกแล้ว ใช่เปล่าครับ

 

เหตุการณ์ที่อเมริกามีอะไร เดี๋ยวในเมืองไทยก็จะเกิดขึ้นคล้ายกัน !!!​

​

เกริ่นหัวข้อไว้เพื่อให้มองเห็นภาพในเชิงเปรียบเทียบ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งใดๆ(ลัคนา) ย่อมมีผลถึงอีกสถานที่หนึ่งได้ ดังที่ท่าน อ.ประยูร พลอารีย์ เคยยกตัวอย่าง ทิ้งไว้เป็นปริศนาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอเมริกามีอะไร เดี๋ยวในเมืองไทยก็จะเกิดขึ้น ในลีลาแบบเดียวกัน โดยท่านยกตัวอย่างกรณี JFK ถูกลอบสังหาร ในเมืองไทยก็เกิดกรณี จอมพลสฤษดิ์เสียชีวิต สมดังคำกล่าวที่ว่า สรรพสิ่งต่างๆในโลกนี้จะเหมือนกันในทางปรัชญา

หากจะตีความต่อ วิเคราะห์ได้ว่า ระหว่าง 2 ประเทศจะต้องมีโครงสร้างปัจจัยทางโหราศาสตร์ สัมพันธ์กันในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยเฉพาะลัคนา หรือเมอริเดียน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญกับสถานที่ จึงสามารถตั้งเป็นข้อสมมุติฐานเบื้องต้นได้ว่า การที่เหตุการณ์ของ 2 ประเทศ เกี่ยวข้องกัน เพราะ ทั้ง 2 ประเทศ มีลัคนา หรือเมอริเดียน สัมพันธ์กัน

จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นมีข้อสังเกตุดังนี้

1. ดวงเมืองของไทย (21/04/2325 06:54 กรุงเทพ) ลัคนาทำมุม 135 องศา กับ เมอริเดียนของดวงเมืองอเมริกา (04/07/2319 17:10 Philadelphia) ดังนั้น ปัจจัยทางโหราศาสตร์ใดที่สัมพันธ์กับลัคนาหรือเมอริเดียน ย่อมเกี่ยวข้องกันทั้ง 2 ประเทศ

2. ดวงเหมายันปี 2458 ลัคนา USA ทำมุม 150 องศา กับ ลัคนา Thailand เป็นปีที่ JFK ถูกลอบสังหาร

เป็นเรื่องที่ควรเก็บข้อมูลต่อว่า การจับคู่ดังกล่าวทำให้เกิดเหตุการณ์ที่สมคล้อยกันทางปรัชญาหรือไม่ นอกจากนี้ จากที่เคยตั้งข้อสังเกตุถึงการอ่านดวงเมืองโดยใช้ดวงเหมายัน ใช้ได้ผลดีในประเทศไทย เพราะลัคนาดวงเมือง ทำมุมกับแกนโลก(45 องศา) ซึ่งในอเมริกา ก็เช่นกัน ซึ่งยังจินตนาการต่อได้ว่า โหราศาสตร์ยูเรเนียน ได้รับความนิยมทั้งในไทยและอเมริกา ก็ด้วยเหตุของการสัมพันธ์กับแกนโลกด้วย (อเมริกาเมอริเดียนอยู่ที่แกนตุลเป๊ะๆ)

ดังนั้น นักโหราศาสตร์ยูเรเนียนท่านใดที่ไม่ค่อยได้ใช้ดวงเมืองอ่าน ลองใช้ดู อ่านได้ทั้งดวงกำเนิดและดวงจรอายุขัย โค้งสุริยยาตร์ สัมพันธ์กับดวงประจำปี จะมองเห็นข้อมูลรายละเอียดมากขึ้น

กลับมาที่ปีนี้ จากการที่ได้เกริ่นหัวเรื่องไว้ ดูจากภาพด้านบนจะเห็นว่า ลัคนาไทย เล็งกับ ลัคนาอเมริกา ดังนั้น น่าที่จะติดตามเหตุการณ์เพื่อพิจารณาความเกี่ยวพันกันของทั้ง 2 ประเทศ เพราะในปีนี้เหตุการณ์บ้านเมืองในอเมริกา น่าสนใจทั้งในแง่เศรษฐกิจ และการเมือง พอๆกับประเทศไทย

ประเด็นต่างๆ คงจะได้ทยอยนำมาวิเคราะห์กันต่อไป ทั้งปัญหา Subprime การเทคโอเวอร์สถาบันการเงิน การเลือกตั้ง โดยเทียบเคียงกับสถานการ์บ้านเมืองของเรา

หมายเหตุ ความสมคล้อยกันทางปรัชญา เป็นไปได้ตั้งแต่ระดับ อะตอม หรือเล็กกว่าอะตอม (Quantom) ไปจนถึงระดับใหญ่สุดเช่นดังจัการวาลคู่ขนานเลย เรื่องแบบนี้มีในทฤษฎีระดับของควอมตัมฟิสิกส์

สมมุติฐานการจับคู่ประเทศ ไม่จำเป็นเฉพาะ 2 ประเทศนี้ น่าจะมีรูปแบบการจับคู่ของ ดวงเมือง ในคู่ต่างๆ ที่ซับซ้อนได้มากกว่านี้ เป็นเรื่องที่ต้องเก็บข้อมูลเพิ่มต่อ ซึ่งด้วยจำกัดเรื่องเวลาของตัวเอง ขอฝากให้ร่วมกันค้นคว้ากันต่อไปครับ

โดย Payakorn
วันที่ อังคาร เมษายน 2551

ที่มา www.oknation.net/blog/print.php?id=247314

 

พระคริสต์เทียมเท็จ อาจจะหมายถึงมนุษย์ต่างดาวฝ่ายชั่ว !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=Abl97yRYbYI]70 สัปตะ 6.2 - YouTube[/ame]
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=LRJ3wxSjnw8&feature=player_embedded#t=132"]70 ????? 7.1 - YouTube[/ame]
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Tf6knQn73lg&feature=player_embedded"]70 ????? 7.2 - YouTube[/ame]​

ในคัมภีร์ไบเบิ้ล ได้มีการทำนายเรื่องพระคริสต์เทียมเท็จ เอาไว้ว่าเขาจะมีฤทธิ์เดชเหมือนพระเจ้า ถ้ามนุษย์ต่างดาวที่โอบาม่าติดต่ออยู่ด้วยนั้น มาแสดงตัวโดยอ้างว่าตนเองคือพระเจ้าที่ชาวคริสต์นับถือ และแสดงฤทธิ์เดชนาๆประการได้(ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาว) จนคนทั้งโลกเชื่อถือว่าเป็นพระเจ้าตัวจริง ก็จะตรงกับที่ได้มีการกล่าวเอาไว้ในคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ

 

ฝนถล่มบุรีรัมย์อ่วมบ้านพังยับ​

​

บุรีรัมย์ฝนตกหนักน้ำป่าไหล กัดเซาะตลิ่งบ้านเรือนประชาชน รถยนต์ ข้าวของเครื่องใช้ลอยไปกับกระแสน้ำ เสาไฟฟ้าหักโค่น

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ น้ำจากคลองลำนางรองไหลกัดเซาะตลิ่งพังยุบไปกว่า 20 เมตร เสาไฟฟ้าหักโค่น บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง โดยเฉพาะ ที่บ้านโคกเพชร หมู่ 14 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ น้ำจากคลองลำนางรองกัดเซาะตลิ่งมานานส่งผลให้ริมตลิ่งยุบตัวลง กินบริเวณกว้างกว่า 500 เมตร ลึกกว่า 20 เมตร นต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น

นอกจากนี้น้ำยังกัดเซาะริมตลิ่งเข้าบ้าน นายล้ำ บุญมาก อายุ 66 ปี เลขที่ 152 หมู่ 14 ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ จนบ้านพังไปทั้งหลัง พร้อมกับยุ้งข้าว และรถยนต์ 4

นายล้ำ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00น. ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงไม้ขบกันบนหลังคา จึงได้เปิดไฟดูก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักพักพบว่าน้ำได้กัดเซาะบ้านของตนเองไหลลงไปในคลองลำนางรอ งส่วนข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านลอยไปกับกระแสน้ำไม่เหลืออะไร เมื่อตัวเองตั้งสติได้จึงกระโดดหนีออกจากตัวบ้านทัน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายเฉลิมพล พลวัน รอง ผวจ. บุรีรัมย์ นายณัฐวัฒน์ อ่อนสุวรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารภัย ได้ร่วมกันนำข้าว บะหมี่สำเร็จรูป อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค เข้าไปให้ผู้ประสบภัย เพื่อช่วยเหลือในเบื้องงต้น และจากการสำรวจเบื้องต้นบ้านที่ถูกน้ำกัดเซาะพังเสียหายจำนวน 2 หลัง เสาไฟฟ้าเสียหาย 10 ต้น เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้มาตัดกระแสไฟเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 19:01 น.

เตือนเนื้อเจทำจากแป้ง กินมากอ้วน!​

​

นักวิชาการแนะ ระวังเนื้อเทียม เลียนแบบ ช่วงเจ ชี้ทำจากแป้งกินมากยิ่งอ้วน ไม่ทดแทนโปรตีนจากถั่ว พร้อมระบุกินผักพื้นบ้านสร้างสมดุลการบริโภคได้ดี

เมื่อวันที่ 4 ต.ค. น.ส.อุรัจฉัท วิชัยดิษฐ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวในรายการตีข่าวแตก ทางเดลินิวส์ทีวี ในประเด็นเรื่องการบริโภคอาหารเจ โดยระบุว่า ต้องบริโภคเจ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และปรับสมดุลร่างกาย เพื่อให้ร่างกายได้รีบูท จากการบริโภคเนื้อสัตว์เป็นประจำ แต่ขณะนี้พบว่าในท้องตลาดที่มีการขายอาหารเจ จะพบว่ามีการทำเนื้อเจเทียม ออกมาวางขายจำนวนมาก ซึ่งพบว่าเนื้อเทียมที่ทำมานั้น ล้วนทำมาจากแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรต ไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ซึ่งหากบริโภคมากเกินไป อาจจะต้องใส่ใจเรื่องน้ำหนัก และไขมันด้วย ทางที่ดีควรเน้นโปรตีนจากถั่ว งา ข้าวกล้อง และการบริโภคผักต่างๆที่เป็นประโยชน์ หากอยู่ในต่างจังหวัดก็สามารถเลือกบริโภคผักพื้นบ้านได้

น.ส.อุรัจฉัท ยังกล่าวถึงแนวทางการบริโภคแบบแมคโครไบโอติกส์ ว่า เป็นแนวทางการกินแบบการสร้างสมดุล รวมทั้งการใช้วิถีชีวิตอย่างสงบ ซึ่งในช่วงกินเจ หากจะนำแนวทางนี้มาใช้ก็สามารถร่วมได้เป็นอย่างดี เพราะทางการบริโภคแบบแมคโครไบโอติกส์จะเน้นการเคารพธรรมชาติ และอยู่กับท้องถิ่นให้มากที่สุด โดยเฉพาะการบริโภคผักท้องถิ่น ในหลักการยึดหลักหยิน-หยางอย่างเหมาะสม ไม่ปรุงแต่งรสชาติมากจนเกินไป.

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 21:42 น.

ศรีสะเกษเร่งฉีดจุลินทรีย์แก้น้ำท่วมขังเน่า​

​

ชาวศรีสะเกษทุกข์ระทมซ้ำ น้ำท่วมขังเริ่มส่งกลิ่นเน่าโชย ชาวบ้านเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ผู้ว่าฯ สั่งฉีดจุลินทรีย์อีเอ็มแก้ พร้อมเตรียมโยนอีเอ็มบอล และสูบน้ำเน่าทิ้ง

วันที่ 4 ต.ค. นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้นายนุกูล แสงทอง ผอ.สถานีพัฒนาที่ดินศรีสะเกษ นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) กองร้อย อส.จ.ศรีสะเกษ ที่ 2 ลงพื้นที่ 3 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ทำการฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ประกอบด้วย ชุมชนโนนทรายทอง ชุมชนหนองอุทัย และชุมชนกุดหล่ม โดยได้นำน้ำหมักชีวภาพ หรือจุลินทรีย์อีเอ็ม ไปฉีดพ่นหรือเทใส่บริเวณที่มีน้ำเน่าเสีย และแจกจ่ายจุลินทรีย์อีเอ็มให้กับประชาชน ที่ประสบอุทกภัย นำไปปรับสภาพน้ำเน่าเสีย ในบ้านเรือนหรือที่พักของตนเอง

ทั้งนี้ จ.ศรีสะเกษ ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสีย จากการท่วมขังเป็นการด่วน ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้มอบหมายให้สถานีพัฒนาที่ดินศรีสะเกษ ดำเนินการฉีดจุลินทรีย์อีเอ็ม ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับน้ำเน่าเสีย ส่งผลให้กลิ่นเหม็นหายไป แต่หากไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ อาจต้องโยนอีเอ็มบอล หรือสูบน้ำเน่าทิ้งเป็นขั้นตอนต่อไป.

เดลินิวส์ วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2556 เวลา 17:20 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ถาม-ตอบเรื่อง "เพดานหนี้" ของสหรัฐ​

​

"เพดานหนี้" คืออะไร? "โอบามา" กำหนดเพดานหนี้เองได้หรือไม่? ถ้าสหรัฐจ่ายหนี้ไม่ทันจะเป็นอย่างไร?

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ว่าในขณะที่วิกฤตงบประมาณสหรัฐกำลังเป็นที่จับตามองอย่างใกล้ชินของคนทั่วโลก คำหนึ่งที่ทุกคนได้ยินบ่อยมากขึ้นตามไปด้วยก็คือคำว่า "เพดานหนี้" แต่สิ่งนี้คืออะไร

​เพดานหนี้ คือ ขีดความสามารถในการกู้ยิมเงินของรัฐบาลสหรัฐ กำหนดโดยสภาคองเกรส ในความเป็นจริงปริมาณหนี้ของวอชิงตันแตะระดับสูงสุดที่มีการกำหนดเอาไว้ คือ 16.699 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 526 ล้านล้านบาท ) มาตั้งแต่เดือนพ.ค. แต่กระทรวงการคลังใช้ "มาตรการพิเศษ" เพื่อเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้มาตลอด

เพราะเหตุใดรัฐบาลสหรัฐต้องกู้เงินมากขนาดนี้
วอชิงตันเพิ่มปริมาณการกู้ยืมเงินมาตั้งแต่ช่วงปี 2523 เป็นต้นมา ด้วยความที่เศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น จนมาถึงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2550 ทำให้เกิดช่องว่างครั้งใหญ่ระหว่างรายรับกับรายจ่ายของรัฐบางกลาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงพยายามคิดหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจและเพื่อพยุงเสถียรภาพสถาบันการเงิน ซึ่งนำไปสู่การขยายเพดานหนี้ 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2551 และอีก 2 ครั้งในปี 2552

เพราะเหตุใดประธานาธิบดีจึงสั่งเพิ่มเพดานหนี้เองไม่ได้
ผู้นำสหรัฐไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ รัฐบาลจะขยายเพดานหนี้ได้หรือไม่ และเป็นจำนวนเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสภาคองเกรส ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดวงเงินให้กระทรวงการคลังไปกู้ยืมมา

รัฐบาลกลางสหรัฐได้รับการอนุมัติเพิ่มเพดานหนี้มาแล้วกี่ครั้ง
นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2505 เป็นต้นมา สภาคองเกรสอนุมัติการขยายเพดานหนี้ให้รัฐบาลกลางไปแล้ว 77 ครั้ง ซึ่งแทบทุกครั้งไม่เคยเกิดปัญหา ต่างจากครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนต.ค.นี้

เพราะเหตุใดการขยายเพดานหนี้ครั้งนี้จึงมีปัญหามากนัก
การที่พรรคเดโมแครตสูญเสียการครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรครีพับลิกันมาตั้งแต่ปี 2553 ทำให้การ "ต่อสู้" เรื่องงบประมาณถือเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ตาม การที่พรรครีพับลิกันสามารถคว้าชัยชนะได้ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ถือเป็นการส่งสาส์นจากประชาชนให้สะท้อนกลับไปยังพรรคเดโมแครตของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ว่าชาวอเมริกันเริ่มไม่เห็นด้วยกับนโยบายหลายข้อของรัฐบาล โดยเฉพาะกฎหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ที่รู้จักกันในชื่อ "โอบามาแคร์"

แม้การอภิปรายก่อนการอนุมัติงบประมาณหลายครั้งที่ผ่านมา จะทำให้เกิดคำถามตามมาเกี่ยวกับอำนาจและขอบเขตในการบริหารของรัฐบาล แต่ครั้งนี้ดูเหมือนทุกฝ่ายจะพุ่งประเด็นไปยังโอบามาแคร์ ที่เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วบางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

การจัดการงบประมาณสหรัฐเป็นเรื่องยุ่งยากจริงหรือ
การที่กฎหมายสหรัฐระบุให้การอนุมัติงบประมาณกับเพดานหนี้เป็นคนละเรื่องกัน สภาคองเกรสจึงสามารถอนุมัติงบประมาณได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเงินจริงที่มีอยู่ ซึ่งคงเป็นเรื่องดีหากรัฐบาลมีรายรับมากกว่ารายจ่าย แต่โลกแห่งความจริงไม่เป็นเช่นนั้น กระทรวงการคลังมีหน้าที่ต้องบริหารรายรับกับรายจ่ายของแผ่นดินให้มีความสมดุล แน่นอนว่าหนึ่งในวิธีที่ต้องใช้ คือการกู้ยืมเงินจากเจ้าหนี้ต่างประเทศ

งบประมาณของรัฐบาลสหรัฐจะหมดลงเมื่อใด
แม้ที่ผ่านมาจะใช้วิธีเพิ่มเพดานหนี้มาตลอด แต่ในปีนี้การเพิ่มเพดานหนี้ช้าหรือไม่ทันเวลา กำลังจะทำให้เงินของประเทศหมดลงวันใดวันหนึ่ง ระหว่างวันที่ 22-31 ต.ค.นี้

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
รัฐบาลอาจใช้วิธีตัดงบประมาณส่วนกลางครั้งมโหฬาร หรือขึ้นภาษีประชาชน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้ทั้งสองวิธี แต่ในทางทฤษฎีถือว่าทำในเวลาเดียวกันยาก และเงินที่ได้ก็อาจยังไม่มากพอ

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2554 นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.กระทรวงการคลังในเวลานั้น เคยเตือนว่าการใช้วิธีดังกล่าวไม่สามารถทำให้รัฐบาลมีเงินเพิ่มขึ้นได้

ทั่วโลกจะรู้สึกอย่างไร
หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้จริง ตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกต้องอยู่ในอาการ “ช็อก” อย่างแน่นอน เนื่องจากตราสารหนี้ของสหรัฐถือว่ามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากเป็นลำดับต้นของโลก อย่างไรก็ตาม วิเคราะห์มองว่า เป็นการยากที่จะกล่าวอย่างเจาะจงในเวลานี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และเหตุการณ์นั้นจะกินระยะเวลานานแค่ไหน แต่สิ่งที่คงจะได้รับผลกระทบเร็วและเห็นชัดที่สุด น่าจะเป็น ราคาทองคำ

สหรัฐมีทางเลือกอื่นหรือไม่
นอกเหนือจากการยอมผิดนัดชำระหนี้ ที่จะส่งผลกระทบลูกโซ่ไปทั่วโลก และจะทำลายความเชื่อมั่นของทุกฝ่าย รวมถึงทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของชาวอเมริกันเพิ่มสูงขึ้นแล้ว สหรัฐแทบไม่มีทางเลือกอื่น การที่ประธานาธิบดีปฏิเสธมาตรการขยายเพดานหนี้ หรือต่อต้านนโยบายด้านการเงินที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสแล้ว ถือว่าผิดกฎหมายร้ายแรง และมีสิทธิ์ถูกลงมติถอดถอนสูง

อย่างไรก็ตาม หากทางเลือกของสภาคองเกรสหมายถึงการตัดงบประมาณสำหรับการสาธารณสุข การศึกษา และความมั่นคง อาทิ หน่วยสืบราชการลับกลางแห่งสหรัฐ ( เอฟบีไอ ) บางทีผู้นำสหรัฐอาจต้องหาทางออกอื่นที่จะทำให้ประเทศ "เจ็บปวด" น้อยที่สุด

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556 เวลา 07:47 น.

พายุโซนร้อน "คาเรน" จ่อขึ้นฝั่งรัฐลุยเซียนา​

​

พายุโซนร้อน "คาเรน" พายุหมุนลูกที่ 2 ของปีนี้ที่จะขึ้นฝั่งที่สหรัฐ มีแนวโน้มถล่มรัฐลุยเซียนาเป็นแห่งแรกช่วงสุดสัปดาห์นี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. อ้างอิงรายงานของศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติ ( เอ็นเอชซี ) ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ระบุพายุโซนร้อน "คาเรน" เคลื่อนที่ด้วยควาเมร็วลม 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ห่างจากปากแม่น้ำมิสซิสซิปปีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 378 กิโลเมตร คาดจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตะวันออกของรัฐลุยเซียนา แต่อาจเปลี่ยนเป็นที่รัฐแอละบามา หรือพื้นที่แอ่งกะทะในรัฐฟลอริดา ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

แม้จะยังไม่มีการประเมินจากเอ็นเอชซี เกี่ยวกับวันและเวลาที่พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ของสหรัฐอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ระบุว่าสุดสัปดาห์ แต่รัฐลุยเซียนา แอละบามา ฟลอริดา และมิสซิสซิปปี ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงพร้อมใจกันประกันสถานการณ์ฉุกเฉิน และอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งแล้ว โดยทางการรัฐมิสซิสซิปปีประกาศระงับการเดินเรือบริเวณแม่น้ำมิสซิสซิปปีทั้งหมดด้วย

ทั้งนี้ พายุโซนร้อนคาเรน ถือเป็นพายุหมุนในฤดูมรสุมมหาสมุทรแอตแลนติกลูกที่ 2 ของปีนี้ ที่จะเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งของสหรัฐ ต่อจากพายุโซนร้อน "แอนเดรีย" ซึ่งขึ้นฝั่งที่รัฐฟลอริดา เมื่อเดือนมิ.ย.

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556 เวลา 08:45 น.

ชายนิรนามจุดไฟเผาตัวเองใกล้ทำเนียบขาว​

​

เกิดเหตุชายนิรนามจุดไฟเผาตัวเองบริเวณสวนสาธารณะใกล้ทำเนียบขาว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่เผยเพียงว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการสาหัสมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายทิม วิลสัน โฆษกสำนักงานดับเพลิงกรุงวอชิงตัน แถลงว่าเกิดเหตุชายคนหนึ่งใช้น้ำมันเบนซินราดลงบนตัวเองแล้วจุดไฟเผา บริเวณ "เนชั่นแนล มอลล์" ซึ่งเป็นลานหญ้ารวมพิพิธภัณฑ์และอนุสรณ์ที่อยู่ใกล้กับทำเนียบขาว สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังช่วยกันหาทางดับไฟและติดต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพื่อความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าดับเพลิงซึ่งรุดมายังที่เกิดเหตุได้เร่งดับไฟบนตัวของชายคนดังกล่าว ก่อนเร่งนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำส่งโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่และคณะแพทย์ปฏิเสธจะเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชายผู้นี้ รวมถึงแรงจูงใจที่อาจกระตุ้นให้เกิดการก่อเหตุ แต่กล่าวเพียงว่า อาการของเขาสาหัสมาก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียง 1 วัน หลังหญิงคนหนึ่งพยายามขับรถฝ่าเครื่องกั้นของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อเข้าไปยังทำเนียบขาว แต่เมื่อไม่สำเร็จกลับขับรถหนีไปทางอาคารรัฐสภา เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงวิสามัญเธอเสียชีวิตคาที่

เดลินิวส์ วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2556 เวลา 08:20 น.

ที่มา เดลินิวส์ | อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์

 

ข้ามมิติเวลา (THE TIME TRAVELERS)​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ivdhzFe5cGg]Ancient Aliens - ตอน ข้ามมิติเวลา (THE TIME TRAVELERS) - YouTube[/ame]​

พบนาฬิกาสวิสอายุ 100 ปีในสุสานราชวงศ์หมิงที่ถูกปิดตายมากว่า 400 ปี​

​

ราชวงศ์หมิงปกครองประเทศจีน ระหว่างปี ค.ศ.1368 ถึง ค.ศ.1644 กินเวลาประมาณ 275 ปี พวกเราที่เคยชมภาพยนตร์จีนหรือเป็นคอนิยายกำลังภายในจะคุ้นเคยกับชื่อราชวงศ์นี้ดี เพราะช่วงเเวลานี้ถูกนำมาเป็นโครงเรื่องของนิยายดังๆ หลายเรื่อง เช่นมังกรหยกภาค 3 ที่มีเตียบ่อกี้เป็นตัวพระเอกของเรื่อง ก็เป็นเหตุการณ์ในช่วงแรกเริ่มของการเกิดราชวงศ์หมิง

นักธรณีวิทยาต่างก็สนใจที่จะศึกษาความเป็นไปในยุครุ่งเรืองของราชวงศ์หมิงว่าเป็นเช่นไร ล่าสุดก็มีการค้นพบสุสานในสมัยราชวงศ์หมิงในมณฑล Shangsi ทางตอนใต้ของประเทศจีน เป็นสุสานที่ถูกปิดตายมากว่า 400 ปีแล้ว นักธรณีวิทยากลุ่มนี้แน่ใจว่าพวกเขาเป็นกลุมแรกที่ค้นพบสุสานแห่งนี้ แต่ในระหว่างที่มีการขุดคุ้ยเศษหินและดินที่ปกคลุมโลงศพใบหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงหินที่ตกกระทบพื้น ที่มีเสียงกังวาลคล้ายกับเสียงของโลหะ หลังจากที่แกะเศษหินและดิน ออกก็พบว่าโลหะนั้นกลายเป็นนาฬิกาที่ทำเป็นรูปแหวน ผลิตที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นาฬิกาเรือนนี้บอกเวลาสุดท้ายที่มันหยุดทำงานตอน 10.06 นาฬิกา

ผู้สื่อข่าวที่ติดตามไปบันทึกเหตุการณ์เพื่อทำเป็นสารคดี รีบเก็บภาพไว้เป็นหลักฐาน และนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะในทันที หลังจากการตรวจสอบนาฬิกาที่ทำเป็นแหวนซึ่งผลิตในประเทศสวิสเซอร์แลนด์แล้ว ปรากฎว่ามีอายุเก่าแก่ประมาณ 100 ปี

ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นที่ถกเถียงกันว่านาฬิกาเรือนนี้ เข้าไปอยู่ในสุสานได้อย่างไร เพราะราชวงศ์หมิงล่มสลายมากว่า 360 ปีแล้ว ในยุคนั้นยังไม่มีการทำนาฬิกาขนาดเล็กแบบนี้ และยังไม่มีประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย จะบอกว่ามีคนเข้าไปในสุสานเมื่อร้อยปีก่อน พวกเขาก็แน่ใจว่าเป็นกลุ่มแรกที่พบสุสานแห่งนี้ เพราะสุสานแห่งนี้ถูกปิดตายมากว่า 400 ปี

ที่มา พบนาฬิกาสวิสอายุ 100 ปีในสุสานราชวงศ์หมิงที่ถูกปิดตายมากว่า 400 ปี ~ Just Blog

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=d1TkEH7Jn70&feature=player_embedded"]?????????????? ????????????? - YouTube[/ame]

 

นาฬิกาบอกเวลา10.06น. หรือจะเป็น ต.ค. วันที่ 06

 

เวลาของพวกท่านทั้งหลาย ยังมีอยู่อีกเพียง 5 ปี นับจากนี้ไป !!!​

​

จิตจักรวาลและหน้าที่ในการลงมาเกิดของมนุษย์

ขอนำส่งข่าวสารถึงพี่น้องแห่งดาวเคราะห์เสรีสีน้ำเงินที่ชื่อว่าโลก .. นับกาลต่อจากนี้เป็นต้นไป ภัยอันตรายจากธรรมชาติจะยังมีต่อดาวดวงนี้อย่างต่อเนื่องและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของโลก ผู้คนที่อยู่บนดาวดวงนี้ จะต้องได้พบเจอเหตุการณ์อันเกิดจากมหันตภัยร้ายของภัยธรรมชาติทุกคน ไม่มีการแยกดีมีจน หรือ ร่ำรวยล้นฟ้า ก็มิอาจทัดทานพลังแห่งการชำระล้างดาวเคราะห์เสรีแห่งนี้ได้

ในยุคปลายพลังงานเก่า มีคนหลายคนพยายามจะหาคำตอบและคำอธิบายปรากฏการณ์แห่งมหันตภัยร้ายนี้กันมากมาย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่ามันเกิดเพราะสิ่งใด?? เราขอสื่อให้ท่านทั้งหลายรับรู้เอาไว้ ณ.บัดนี้ว่า โลกและจิตสำนึกแห่งโลกซึ่งเป็นดาวที่ท่านอยู่อาศัยนั้น ล้วนมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงกันกับพลังชีวิตของทุกสรรพสิ่งบนดาวเคราะห์แห่งนี้ รวมทั้งของมนุษย์ทั้งหลายบนดาวแห่งนี้ ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางและการหมุนเวียนไปของธรรมชาติและฤดูกาล

“ได้ถูกโปรแกรมมาแล้วเป็นอย่างดีจากพลังงานที่ควบคุมเอกภพ หรือที่พวกท่านทั้งหลายเรียกว่าพระเจ้า บ้างก็เรียกว่าพระผู้สร้าง บ้างก็เรียกว่าสมเด็จองค์ปฐม บ้างก็เรียกว่าองค์พุทธธรรมมารดาเจ้า หรือแม้แต่จะเรียกว่าเป็นใครในแต่ละศาสนาและความเชื่อของพวกท่านก็ตามทีเถอะ..แต่ทั้งหมดนั้นคือสิ่งเดียวกัน พลังงานต้นกำหนดแห่งจิตวิญญาณและสรรพสิ่งในเอกภพ ที่มีจิตสำนึกของตนเอง หรือจะเรียกว่าเป็นจิตสำนึกของจักรวาลก็ไม่ผิด” ได้เป็นผู้กำหนดสร้างสนามพลังงานที่ชื่อว่าเอกภพไว้ เพื่อการจำลองการเปลี่ยนแปลงและการวิวัฒนาการของคำว่า ชีวิต

แต่สิ่งที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่งในแต่ละยุคที่ผ่านมา ซึ่งถูกกำหนดไว้ 60,000 ปีต่อหนึ่งยุคนั้น ผ่านห้วงเวลามาหลายล้านๆปีที่ผ่านมา มีการก่อเกิดสิ่งมีชีวิตที่มีรูปธรรมและทรงภูมิปัญญามากมายในเอกภพนี้ รุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่างก็หมุนเวียนเป็นวงรอบกันมายาวนานซ้ำเดิม จนเรียกว่าเป็นวัฏจักรในภาษาของพวกท่าน ทุกอย่างมีเกิดขึ้น เติบโต เสื่อมโทรมและดับสลายสูญหายไป และก็กลับมาเป็นวงรอบเดิมอีกครั้ง เป็นอย่างนี้มาจนนับเวลาไม่ถ้วน

“จนมาถึงช่วงเวลานี้ในยุคที่ 4 ของระบบแกแลคซี่ของพวกท่าน ดาวดวงนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นจุดศูนย์กลาง ของทางผ่านเข้าออกของประตูมิติที่ทุกๆดวงจิตธรรมญาณ จะต้องเดินทางกลับสู่ต้นกำเนิดแห่งพลังงานจักรวาลสากล หรือในภาษาของพวกท่านเรียกว่า นิพพาน” หรือ แดนสวรรค์ อะไรก็แล้วแต่ กลับถูกจิตวิญญาณที่มาเกิดกันมากในยุคนี้ ปิดประตูมิติอันเป็นทิพย์แห่งนี้ลงไปทุกขณะ”

ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมาอย่างใหญ่หลวงนั่นคือ การที่ดวงจิตธรรมญาณเก่าที่มาเวียนเกิดเวียนตายอยู่นี้ ไม่สามารถกลับบ้านอันเป็นดินแดนต้นกำเนิดเพื่อรายงานผลของการลงมาทำหน้าที่ค่ำจุนดาวเคราะห์ใบนี้ และเรียนรู้ความหมายของคำว่าชีวิตได้ ด้วยการที่หลงยึดติดกับมายาหรือภาพลวงตาของดาวเคราะห์โลกสีน้ำเงินใบนี้ จนวันเวลาล่วงเลยไปมากกว่าที่ถูกกำหนด “ดวงจิตธรรมญาณดวงใหม่ที่รออาสาลงมาทำหน้าที่ กลับไม่สามารถลงมาได้ ส่วนที่เหลือก็ไม่สามารถเดินทางกลับได้ เพราะเหตุแห่งมายาที่กักขังจิตวิญญาณเอาไว้ ทำให้ดาวดวงนี้เกิดการตกต่ำทางค่าพลังงานไปอย่างมหาศาล..”

จนกลายเป็นเสมือนอาการป่วยของมนุษย์อย่างพวกท่าน ที่นับวันจะย่ำแย่ลงไปทุกขณะ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต้องมีการนำส่งดวงจิตธรรมญาณของผู้ขันอาสาลงมาทำหน้าที่ชี้นำทางจิตวิญญาณ ให้กับทุกๆดวงจิตที่ยังหลงในวังวนของดาวดวงนี้ในนามของ ผู้นำจิตวิญญาณหรือที่ท่านเรียกในภาษาท่านว่า พระศาสดา ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่มีผู้ขันอาสาลงมาทำหน้าที่นี้ผ่านไปแล้ว มากถึง 24 ดวงจิตธรรมญาณ แต่ก็ยังมิอาจนำพาดวงจิตธรรมญาณทั้งหลายกลับแดนบ้านเกิดได้หมด เพื่อเปิดทางให้ผู้ขันอาสาใหม่ได้ลงมาทำหน้าที่กันได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

จนเวลาผ่านมาถึง 60,800 ปีเศษมาแล้วในปัจจุบันนี้ โลกใบนี้เจ็บป่วยมากขึ้นไม่ต่างอะไรกับผู้ที่กำลังเป็นโรคร้ายที่ชื่อว่ามะเร็งระยะสุดท้าย หากมิมีการเยียวยาแต่อย่างใด โลกใบนี้ต้องถึงจุดดับ อันนำพาให้ระบบดวงดาวต่างๆในเอกภพนี้ต้องล่มสลาย ซึ่งจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไมได้ กระบวนเยียวยารักษาดาวดวงนี้จึงเริ่มต้นขึ้นเหมือนในหลายยุคที่ผ่านมา แต่เป็นการเยียวยาเพื่อนำพาดาวดวงนี้และสรรพชีวิตที่รอด ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ดาวดวงนี้ต้องเข้ากลุ่มสมาพันธุ์แห่งดวงดาว ที่หลายๆดวงดาวที่มีรูปธรรมทรงภูมิปัญญาทั้งหลายต่างรวมตัวกัน เพื่อทำหน้าที่ค้ำจุนจักรวาลนี้ให้ดำรงค์อยู่ได้ตลอดไป

การที่จะทำเช่นนี้ได้ จำเป็นต้องทำการคัดแยกขยะและสิ่งปฏิกูล ที่เป็นต้นเหตุของการเจ็บป่วยของดาวดวงนี้ออกไป นั่นคือขยะเทคโนโลยีต่างๆที่พวกท่านสร้างขึ้น โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา รวมทั้งตัวพวกท่านเองที่มีจิตสำนึกบกพร่องในระดับที่เกินเยียวยา ซึ่งทางเราเรียกพวกท่านที่มีจิตสำนึกบกพร่องนี้ว่าขยะเช่นเดียวกัน จำต้องชำระขยะเหล่านี้ให้หมดไปจากระบบโลกตามคำสั่งของพลังงานต้นกำเนิด เพื่อสร้างความสมดุลของดาวดวงนี้ให้กลับคืนมาอีกครั้ง

และจะยกระดับพลังงานสนามแม่เหล็กของดาวท่าน ให้สูงขึ้นกว่าเดิม ประมาณ 60,000 กิโลเมตรจากพื้นผิวดาว เพื่อสร้างสนามพลังงานที่เข้มแข็ง อันจะยังผลต่อการเปลี่ยนแปลงในระดับโมเลกุุลและเซลส์ในร่างกายของพวกท่าน ซึ่งจะคงทนแข็งแรง และอายุของเซลส์ที่จะยาวนานขึ้นกว่าแต่ก่อนที่ผ่านมา ที่หมายความว่าท่านที่รอดและผู้เกิดใหม่ จะมีอายุขัยของท่าน ยาวนานกว่าผู้คนในยุคนี้นั่นเอง

เหตุนี้กระบวนการที่จะทำลายขยะรกโลกได้ มีอยู่แล้วในระบบของดวงดาวท่านนั่นคือ พลังงานจากธรรมชาติที่เป็นพลังงานของต้นกำเนิดแห่งเอกภพและจิตวิญญาณสากล ที่แฝงเร้นอยู่ในทุกอณูของทุกๆสรรพสิ่งในเอกภพนี้ ที่สามารถนำมาเพื่อใช้งานในสถานการณ์เช่นนี้ โดยผู้ที่จะถูกกระบวนการชำระล้างในครั้งนี้ เป็นไปตามที่เราได้บอกท่านทั้งหลายมาแล้ว นั่นคือผู้ที่มีค่าสนามพลังงานทางจิตวิญญาณ ต่ำกว่าที่ควรจะเป็นและได้รับการเยียวยา รวมทั้ง ขยะเทคโนโลยีต่างๆที่ต้องถูกกำจัดลงไป เพื่อรอให้มีสิ่งใหม่ที่ดีกว่ามาทดแทนในอนาคตอันไม่ไกลนี้ จากดวงจิตธรรมญาณที่ขันอาสาลงมาทำหน้าที่ดูแลพวกท่านในยุคต่อไป

และการส่งผ่านเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับในจักรวาลนี้ว่า จะนำพาให้เกิดความสันติสุขและความเจริญทางวัตถุ ที่ควบคู่ไปกับพลังทางจิตวิญญาณ จากพี่ๆน้องๆของท่านทั้งหลายที่อยู่ ณ ดาวดวงอื่นและต่างแกแลคซี่ ฉนั้น สิ่งที่เป็นข่าวสารที่เรานำสื่อกับพวกท่านทั้งหลายนี้ เป็นข้อมูลที่เราต้องการบอกท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ต้องตื่นตระหนกถ้าหากท่านได้เห็นเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นทั่วโลกอันเนื่องจากอุบัติภัยต่างๆ

เพราะเหตุว่า พวกท่านทั้งหลายนั่นแหล่ะคือผู้ก่อการและกระทำให้เกิดกระบวนการนี้ โดยที่เจตนาและไม่ได้เจตนาสืบเนื่องกันมาหลายภพชาติแห่งการถือกำเนิดมาแล้วมากมาย ความตายสำหรับพวกเรา มันเป็นเพียงแค่การย้ายมวลสารและคลื่นพลังงานผ่านมิติต่างๆ แล้วลงมาอาศัยเครื่องยนตร์แห่งกรรมชุดใหม่ เพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับและอาสาลงมาให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์เท่านั้นเอง แต่สำหรับพวกท่านมันช่างดูเป็นสิ่งน่าสพรึงกลัวเสียกระไร เราจึงขอร้องท่านทั้งหลายว่า

หากท่านทั้งหลายยังยึดติดในเครื่องยนตร์แห่งกรรมและมายาแห่งดาวดวงนี้ที่สร้างไว้ โดยไม่คำนึงถึงจิตวิญญาณเดิมของท่านที่อยู่ภายในบริเวณท้ายทอยของศรีษะพวกท่านแล้วไซร้ มันช่างยากเหลือเกินที่ท่านจะเดินทางกลับบ้าน อันเป็นต้นกำเนิดของตนเองได้ คำสอนต่างๆที่ดวงจิตธรรมญาณหลายรุ่นนำลงมาสั่งสอนตักเตือนพวกท่าน แต่ล่วงพ้นวันเวลาไปไม่นาน พวกท่านก็หลงลืม แถมยังถูๆไถๆเอากับสิ่งจอมปลอมที่ท่านสร้างกันขึ้นมาหลอกตัวเอง แถมยังไม่พอยังนำไปสั่งสอนผู้อื่นที่เขายังไม่เข้าใจให้ถูไถไปกับพวกท่านทั้งหลายอีกต่างหาก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้พวกท่านต้องถูกกระบวนการชำระล้างมาขัดสีฉวีวรรณท่านได้อย่างไรเล่า ..

ในเมื่อทุกๆคำสอนของแต่ละศาสนานั้น ล้วนแล้วมาจากแหล่งเดียวกัน ต้นกำเนิดเดียวกัน เราเศร้าใจยิ่งนักที่ยังเห็นพวกท่านดูถูกในผู้ที่นับถือต่างศาสนา และพากันยกยอว่าที่ท่านนับถือนั่นดีที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าท่านเองก็คือหนึ่งในผู้ที่ไม่เคยดีอะไรเลยในศาสนาหรือคำสั่งสอนของพระศาสดานั้นๆ ท่านยังลุ่มหลง งมงาย กับวัตถุทางกายภาพ อ้างมาเป็นคุณวิเศษในทางศาสนาโดยหารู้ไม่ว่า สิ่งเหล่านั้นไม่เคยนำท่านทั้งหลายได้ขึ้นสวรรค์จริงๆเลย เมื่อยามจิตวิญญาณท่านหลุดลอยออกจากเครื่องยนตร์แห่งกรรมที่ชื่อว่าร่างกายของท่านเลยซักคน น่าอนาถยิ่งนัก แล้วยิ่งในเวลานับจากนี้ไปไม่เกิน 8 ปี ดวงจิตธรรมญาณที่ขันอาสามาทำหน้าที่ผู้ดูแล และผู้เยียวยาจิตใจของพวกท่านทั้งหลายจะปรากฏตัว

ท่านก็ยังหลงงมงาย อวดดี ถือดีกันอยู่เช่นนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน แล้วเวลานั้นสำหรับท่านทั้งหลายจะมาถึงเหรอ เพราะท่านกำลังกลายเป็นหนึ่งในขยะที่ต้องถูกกำจัดไปจากสารบบของดาวดวงนี้ ก่อนที่ดวงจิตธรรมญาณนั้นจะปรากฏกายเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าท่านจะเป็นผู้ที่อยู่ในสภาวะนักบวชในศาสนาที่ท่านนับถือ หรือเป็นคนธรรมดาก็ตาม สิ่งที่ท่านทั้งหลายต้องทำให้ได้ก่อนวันล้างโลกครั้งสุดท้ายจะมาถึง ในปีที่เราได้สื่อข่าวความมานั้นมาถึง นั่นคือหาหนทางกลับสู่บ้านที่เป็นต้นกำเนิดแห่งจิตวิญญาณทั้งปวงให้ได้

เพราะหลังจากนั้นวันพิพากษาครั้งสุดท้ายจะมาเยือนพวกท่าน เราเองก็ไม่สามารถช่วยอะไรท่านได้อีกต่อไป มีหนึ่งข่าวสารที่กลายเป็นคำพยากรณ์ในภาษามนุษย์โลกของพวกท่าน ที่ชื่ออินทตวายโลก นั้นเราขอให้พวกท่านไปหาศึกษาข้อมูลข่าวสารในนั้นดูถึงวันเวลาแห่งการชำระและกำจัดขยะรกโลกในครั้งนี้ดู แล้วนำมาเทียบเคียงกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นไปทั่วโลกอันเนื่องจากภัยพิบัติต่างๆดูเอา

หากใครมีปัญญา ย่อมมองเห็นถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำพยากรณ์เก่าแก่ของพวกท่านได้ ซึ่งมีผู้ทรงภูมิธรรมบางท่านในอดีตกาลได้รับการส่งสารข้อมูลนี้จากพลังงานต้นกำเนิดของจักรวาล ผ่านทางผู้ทำหน้าที่ควบคุมระบบดาวเคราะห์ดวงนี้ในมิติละเอียด ส่งมอบข้อมูลข่าวสารให้ อันจะตกมาเป็นเหตุการณ์ในช่วงเวลานี้ของท่านทั้งหลาย .

* นี่คือสิ่งที่เราฝากบอกและเตือนพวกท่าน ในฐานะผู้ปฏิบัติการในกระบวนการชำระโลกครั้งนี้ด้วยความหวังดี ที่เหลือเราขอให้ท่านใช้ปัญญาญาณที่มีในกะโหลกอันน้อยนิดของพวกท่าน พิจารณาความอันยิ่งใหญ่นั้นให้ดีเถอะ แล้วหวังว่าท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่รอดจากผลของปฏิบัติการทางเท็คนิคในครั้งนี้ ซึ่งได้ติดตั้งโปรแกรมทำลายล้าง ในแต่ละภูมิภาคของดาวดวงนี้เป็นที่เรียบร้อยและสมบูรณ์แล้ว รอวันเวลาที่ระบบจะดำเนินไปตามขั้นตอนที่ถูกวางไว้ล่วงหน้า

เว้นหากพวกท่านในดาวดวงนี้ สร้างพลังงานอันตกต่ำมากไปกว่าที่ควรจะเป็นเช่น เข่นฆ่า ทะเลาะกัน แย่งชิงอำนาจกัน ไม่มีความรักให้ต่อกัน มากขึ้นมากขึ้นเมื่อไหร่ คำพยากรณ์ที่ถูกถ่ายทอดมาและระบบปฏิบัติการนี้จะถูกยกเลิกทันที เพื่อเริ่มขบวนการชำระโลกครั้งสุดท้าย 56 วัน 7 ราตรี ทันที ดังที่มีดวงจิตธรรมญาณผู้ขันอาสาลงมาทำหน้าที่ 1 ในผู้ดูแลโลกในยุคพลังงานใหม่ ซึ่งปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนของพวกท่านมานานนับเป็น 10 ปีแล้ว กล่าวเตือนไว้

ฉะนั้น เวลาของพวกท่านทั้งหลาย ยังมีอยู่อีกเพียง 5 ปีนับจากนี้ไป แต่เราขอภาวนาต่อพลังงานแห่งต้นกำเนิดของจักรวาลนี้ว่า ขอให้พวกท่านรอดจากเหตุการณ์การปรับสมดุลโลกครั้งที่ 4 นี้ และรอดกลายเป็นพลเมืองของดาวท่านที่จะเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์แผ่นดินใหม่ร่วมกันอย่างสันติสุข แต่อย่าได้สร้างเหตอันไม่พึงปรารถนา นำพาให้เวลาของกระบวนการนี้ต้องเร่งและย่นเวลาให้เร็วขึ้น จนท่านทั้งหลายตั้งตัวไม่ทันเลย..Mirkkuraly..

วันที่ลงประกาศ 2012-05-11 เวลา 05:40:49 น.

ที่มา www.baansuanpyramid.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&No=1401336

 

"อินทตวายโลก"​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jpK0Sta9XYU]1 เตวดาทายโลก สุวรรณ บ้านดอน - YouTube[/ame]​