วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

รายการที่ 308 ล๊อกเก็ตจัมโบ้ 8 รอบ รุ่น ลายเซ็นต์ภาษาอังกฤษ ฉากทอง ปี 2554
หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ นนทบุรี

บูชา 2,500- คุณ putsudsoi จองแล้ว




ล๊อกเก็ตรุ่นนี้จัดสร้างโดย คณะของคุณธันยกานต์ วงศ์อ่อน
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายให้หลวงปู่แจกเป็นของขวัญปีใหม่ 2554

จำนวนสร้าง
- ฉากทอง 147 อัน
- ฉากธรรมดา 300 อัน
ทั้ง 2 แบบอุดด้านหลังด้วยมวลสารแบบเดียวกัน ตอกโค๊ต "สติ" ลงบนแผ่นโลหะ

การอธิษฐานจิต
อธิษฐานจิตเดี่ยว 2 วาระโดย ลป.บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ณ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ นนทบุรี

ครั้งแรก ท่านอธิษฐานล๊อกเก็ต (ที่ยังไม่ได้อุดมวลสาร) ให้เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม ปี 2553
ตอนเสกท่านจับถุงล๊อกเก็ตขึ้นมาพนมทีละถุงแล้วพูดว่า “ สติ นิพพาน ” ทุกถุงจนหมด
ครั้งที่ 2 เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม ปี 2553 เมื่อเวลาประมาณเที่ยงเศษๆ
โดยท่านเอามือจับกองวัตถุมงคลทั้งหมดแล้วลืมตาเพ่งใช้เวลาแป๊บเดียวประมาณนาทีเศษๆ

พุทธคุณ เป็นที่น่าแปลกว่าวัตถุมงคลของท่านแทบทุกอย่าง จะออกไปทางบู๊ เหนียว คงกระพันเสียเป็นส่วนใหญ่
ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์ท่านที่ดูใจดี มีเมตตา แสดงให้เห็นว่ากำลังจิตของท่านกล้าแกร่ง เด็ดเดี่ยวปานใด
ลพ.วิชัย เคยบอกว่าพลังจิตของท่านนี่เปรียบได้กับพระนเรศวรทรงช้างออกศึกเลยทีเดียว

 

ขอจองรายการนี้ครับพี่หมอ

 

รายการที่ 309 ล็อกเก็ตแปดเหลี่ยม ลป.มั่น ภูริทัตโต หลังอุดมวลสาร ตะกรุดเงิน รุ่น 3 ปี 2556
(แบบพิเศษฝังอัฐิลป.อ่อนสา+เกศา จีวร ข้าวก้นบาตรหลวงตามหาบัว)
วัดป่ารัตนประสิทธิ์ไพศาล อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี

คุณ พิชญ์ บูชาแล้ว EK 169166926 TH



จำนวนการจัดสร้าง
1. ล็อกเก็ตรูปคู่หลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่น
1) จัมโบ้ ตะกรุดทองคำ 1 ดอก +ทองเหลือง 2 ดอก + เงิน 1 ดอก +อัฐิธาตุ 20 องค์
2) ล็อกเก็ตรองจัมโบ้
- ฝังตะกรุดทองคำ + อัฐิธาตุ 17 องค์
- ฝังตะกรุดเงิน 83 องค์
2. ล็อกเก็ตหลวงปู่มั่นแบบแปดเหลี่ยม (ขนาดเท่าเหรียญห้าบาท)
- ตะกรุดทองคำคู่ + อัฐิธาตุ 10 องค์
- ตะกรุดเงิน 40 องค์

มวลสารที่เพิ่มพิเศษจากแบบธรรมดา คือ
1. เกศา จีวร ข้าวก้นบาตร หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
2. ข้าวก้นบาตร หลวงปู่บุญหนา วัดป่าโสตถิผล สกลนคร
3. แร่เก่าที่ผ่านการอธิษฐานจิตจาก หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
4. แร่ดูดทรัพย์ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ เชียงใหม่
5. ปฐวีธาตุ หลวงพ่อสมศรี
6. ตะกรุดที่อยู่ด้านหลังผ่านพิธีปลุกเสกที่วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ ซึ้งมีครูบาอาจารย์ร่วมในพิธีมากหลายองค์

การปลุกเสก พิมพ์พิเศษ ปลุกเสกวาระเดียวกันกับแบบธรรมดาโดยพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดย
1. หลวงปู่เคน วัดป่าหนองหว้า จ.สกลนคร 12 พฤษภาคม 2556
2. หลวงปู่หนูเพชร วัดป่าภูมิพิทักษ์ จ.สกลนคร 12 พฤษภาคม 2556
3. หลวงปู่บุญมา วัดป่าสีห์พนม จ.สกลนคร 12 พฤษภาคม 2556\
4. หลวงตาบุญหนา วัดป่าโสตถิผล สกลนคร 13 พฤษภาคม 2556
5. พระอาจารย์แหวน วัดป่าหนองนกกรด สกลนคร 13 พฤษภาคม 2556

 

รายการที่ 310 รูปถ่ายทำน้ำพระพุทธมนต์หลังเกศา
หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) กทม.

คุณ twato บูชาแล้ว EK 169165554 TH



เป็น 1 ในชุดรูปถ่ายที่หายากของท่าน รูปนี้ทันท่านนะครับ

 

รายการที่ 310 รูปถ่ายทำน้ำพระพุทธมนต์หลังเกศา
หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) กทม.

จองครับ

 

รายการที่ 311 ล๊อกเก็ต ลป.วิไล รุ่นแรก “ อายุ 77 ปี” ปี 2553 (สร้างน้อย หายาก)
พระครูณาณวราจาร (วิไลย์ เขมิโย) วัดถ้ำพญาช้างเผือก ชัยภูมิ

บูชา 2,000-




มวลสารที่บรรจุหลังล๊อกเก็ต
๑. ผงอังคารธาตุหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
๒. ผงอังคารธาตุหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
๓. ผงอังคารธาตุหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
๔. ผงอังคารธาตุหลวงปู่เข่ง โฆษธัมโม
๕. ผงอังคารธาตุครูบาพรหมจักร พรหมจักโก
๖. ผงพุทธคุณจากพระแตกหักทั่วประเทศ ผงว่าน ๑๐๘

สิ่งมงคลที่บรรจุหลังล๊อกเก็ต
๑. เกศาหลวงปู่วิไล เขมิโย
๒. อังสะหลวงปู่วิไล เขมิโย
๓. ชานหมากหลวงปู่วิไล เขมิโย
๔. เศษงาช้างอธิษฐานหลวงปู่วิไล เขมิโย
๕. ทรายคำ
๖. ข้าวสารหิน
๗. เศษแบงค์ ๑๐๐
๘. ทองคำเปลวปิดองค์หลวงพ่อแก่นจันทร์ จ.ราชบุรี
๙. แร่ไหลคำดำ จากประเทศลาว
๑๐. ลูกปัด จากประเทศเขมรอายุกว่า ๑,๐๐๐ ปี
๑๑. พระธาตุข้าวบิณฑ์ ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา
๑๒. แผ่นทองจังโก๋หุ้มพระเจดีย์ที่วัดพันอ้น จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ ๕

หลวงปู่วิไลย์ เขมิโย พระอริยเจ้าแห่งวัดถ้ำพญาช้างเผือก อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
พระผู้ดำเนินปฏิปทาอย่างช้างเผือกซ่อนเร้นอยู่ในเขาผู้มีศีลาจารวัตรอัน เรียบง่าย สมถะ งดงามอย่างพระกรรมฐาน
ท่านเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล ซึ่งท่านได้อบรมอยู่กับหลวงปู่ขาว อนาลโย ถึง ๑๐ กว่าปี
องค์หลวงปู่ท่านเคยร่วมธุดงค์พร้อมหลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย และ หลวงปู่บุญพิน กตปุญโญ วัดผาเทพนิมิตร ,
หลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโม ,หลวงปู่หวัน จุลปัณฑิโต ,หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต,หลวงปู่ขาล ฐานวโร และครูบาอาจารย์อีกหลายรูป

ด้วยข้อวัตรปฏิปทาการดำเนินของท่านทำให้องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด
ถึงกับออกปากชมท่านในคราวที่มาเยี่ยมองค์หลวงปู่อย่างลับๆ ที่วัดว่า

" หลวงพ่อวิไลย์นี้ท่านสมเป็นช้างเผือกน่ะ ซ่อนเร้นอยู่ในป่า
อย่างนี้ซิถึงเรียกว่าศิษย์ของพระตถาคต ท่านต้องเอาแบบการดำเนินอย่างผมน่ะ"

 

รายการที่ 312 ล็อกเก็ตหลวงปู่สุพีร์ หลังบรรจุเกศา,จีวร,แร่เสก,โลหิตธาตุ ปี 2555
ลป.สุพีร์ สุสัญญโม วัดถ้ำซับมืด นครราชสีมา

บูชา 800-



คณะศิษย์จัดสร้างถวายเป็นที่ระลึกฉลองอายุครบ 79 ปี เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2555
โดยในคราวแรกที่ไปขอท่านสร้างตอนท่านมารักษาตัวอยู่ที่รพ.จุฬาฯ ท่านยังไม่อนุญาตในทันที
จนไปหาท่านอีก 3-4 ครั้งท่านจึงได้อนุญาตให้สร้างเพื่อแจกในงานทำบุญฉลองอายุของท่าน

ด้านหลังอุดด้วยผงมวลสารของครูบาอาจารย์ที่สะสมไว้อีกทั้งเถ้าอังคารของครูบาอาจารย์ต่างๆ อีกมาก
ที่สำคัญหลวงปู่ได้มอบหลอดใส่เลือดของท่าน ที่ทางรพ.จุฬาฯ เจาะเลือดไปตรวจแล้วเหลือให้มาเป็นมวลสาร
อีกทั้งยังได้มอบเกศาและอังสะตัวเก่าของท่านที่ใช้อยู่ประจำมาให้ด้วย

การปลุกเสก ท่านอธิษฐานจิตให้ 2 วาระ

ครั้งแรก ท่านอธิษฐานลีอกเก็ตเปล่าและมวลสารที่จะบรรจุให้ก่อน ซึ่งในวันนั้นพวกเราไปหาท่านที่วัดถ้ำซับมืดเย็นมากแล้ว (ประมาณ 6 โมงเย็น)
ช่วงนั้นฝนเพิ่งหยุดตกพอดี ก็เริ่มมีแมลงเม่าบินมาเล่นหลอดไฟ
แต่พอหลวงปู่ท่านเริ่มอธิษฐานจิตให้ ปรากฏว่าแมลงเม่าไม่บินเข้าไปในรัศมีรอบองค์ท่านเลย
แต่พวกเราที่นั่งอยู่รอบๆ องค์ท่านเจอแมลงเม่าที่บินเล่นไฟตกลงมาโดนตัวกันจนต้องปัดออกกันเป็นระยะๆ
ท่านปลุกเสกให้อย่างดีโดยตอนแรกท่านสวดสรรเสริญพุทธคุณก่อน แล้วก็ลืมตาเพ่งโดยไม่กระพริบตาอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเข้าสมาธิปลุกเสกให้อีกที
เสร็จแล้วท่านหันมาย้มด้วยความเมตตาและบอกพวกเราว่า "ทำให้ดัง"

ครั้งที่ 2 หลังจากที่อุดมวลสารหลังล๊อกเก็ตเสร็จหมดเรียบร้อย ก็ได้นำไปถวายให้ท่านอธิษฐานจิตประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนวันงานของท่าน

 

รายการที่ 313 ล๊อกเก็ตโคตรเศรษฐี ฉากทอง (กรรมการ) หลังอุดผง-เกศา ปี 2555 (1ใน 10 องค์)
ลป.บุญศรี อินทวัณโณ วัดใหม่ศรีสุทธาวาส จ.นครสวรรค์

บูชา 2,500-



รูปที่เอามาทำล๊อกเก็ตนี้ นำมาจากรูปถ่ายหลวงปู่บุญศรีขณะท่านกำลังอธิษฐานจิตปลุกเสกแก้วที่อยู่ในมือของท่าน
ซึ่งรูปของลป.บุญศรีทุกภาพท่านจะลง “ นะปัดตลอด ” เอาไว้ ซึ่งเมื่อนำไปอัดเป็นภาพใหม่ก็ยังมีอานุภาพดุจดังภาพเดิม

องค์นี้เป็นฉากทอง (กรรมการ) สร้างน้อยมาก แค่ 10 อัน
ด้านหลัง ฝังแผ่นทองแดงตอกโค๊ตแพโบสถ์น้ำ เกศาลป.บุญศรี แร่โคตรเศรษฐี และผงต่างๆ

หมายเหตุ แผ่นทองแดงที่บรรจุหลังพิมพ์กรรมการ เป็นแผ่นทองแดงเก่าของลป.บุญศรีที่ท่านเสกให้เพื่อทำตะกรุดบรรจุในด้ามมีดหมอของท่าน
แผ่นทองแดงที่เหลือจากการทำมีดก็ให้ท่านเสกมาเรื่อยๆ นับร้อยกว่าครั้ง (เสกในพิธีพระกริ่งแพโบสถ์น้ำด้วย) จนท่านมรณภาพ

มวลสารอุดหลังล๊อกเก็ต
1. เกศาลป.บญศรี อินทวัณโณ
2. แร่โคตรเศรษฐี จากสำนักแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ที่ท่านท้าวธตรฐนำมาให้
3. ผงปูนเพชรและน้ำมันตังอิ้ว (สูตรผสมพระผงทั่วไป)
4. ผงปูนที่มีส่วนผสมของโพลิเมอร์ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
5. ผงดินสอพอง
6. ว่านต่างๆ เช่น ว่านธรณีสาร ว่านสาวหลง

การปลุกเสก นำเข้าร่วมในพิธีพุทธาภิเษกสมเด็จองค์ปฐม ณ วัดท่าซุง อุทัยธานี ในวันที่ 28 มกราคม 2555
และพระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน ได้เมตตาอัญเชิญบารมีหลวงปู่ให้

 

รายการที่ 314 พระกริ่งมหาสมปรารถนา (กริ่งลอยน้ำ) กริ่งรุ่น 3 โลหะผสม ปี 2544
ลป.อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพลพัฒนาราม อุดรธานี

บูชา 5,000-




พุทธลักษณะ เป็นพิมพ์ลพบุรี มีเนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และ โลหะผสม

จำนวนการสร้าง ทองคำ 15 องค์
เงิน 45 องค์
นวt 500 องค์
โลหะผสม 3,000 องค์

วัตถุประสงค์ จัดเป็นกองผ้าป่าถวายหลวงปู่อ่อนสาสำหรับจัดงานวันเกิด และมอบให้ท่านเป็นค่าใช้จ่ายรักษาส่วนตัว

จัดสร้างโดย คณะศิษย์อุดรธานี นำโดย คุณนพรัตน์ โคตรพันธุ์กุล และ คุณศุภกร หอมระรื่น
ซึ่งหลวงปู่ท่านได้เมตตาจารแผ่นทองแดงให้หลายแผ่น ผสมกับแผ่นยันต์ของสายพระป่าจำนวนมากที่หลวงปู่ท่านแผ่เมตตาให้อีกครั้ง
ผสมด้วยพระพุทธชินราชอินโดจีนอีก 8-9 องค์เป็นชนวน

หลวงปู่บอกว่า มึง เอาให้คักใจมึงโลด ถ้าเบิ่งกู กะซิเอาคักใจ กูคือกัน
(มึงเอาให้สมใจอยากมึงเลย คอยดูกูก็จะเอาให้สมใจอยากกูเหมือนกัน)
จึงตั้งชื่อรุ่นนี้ว่า มหาสมปรารถนา (สมปรารถนาที่ยิ่งใหญ่)

พระกริ่งนี้จัดเป็นพระกริ่งรุ่นที่ 3 ของหลวงปู่ เหตุที่เรียก รุ่นลูกเขยผู้ว่าฯ ก็เพราะ...
มีลูกเขยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในยุคนั้น ขับรถเบนซ์แหกโค้งที่อำเภอกุดจับ
รถพุ่งออกนอกเส้นทางตรงทางโค้งเนื่องจากไม่ชำนาญทางและฝนตก
เลยกระแทกเอากับต้นยางใหญ่ สภาพรถราคาเรือนล้าน เหลือไม่ถึงแสน
ส่วนคนขับ คือ ลูกเขยผู้ว่า ฯ แค่หัวโนเล็กน้อย ไม่มีแตกหัก หรือ ที่เรียกว่า แมลงวันไม่ได้กินเลือดเลยแม้แต่น้อย

เหตุที่เรียก กริ่งลอยน้ำ คือเมื่อแปดปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2544 เวลา 08.30 น
เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่อำเภอหนองหาน ขนาดรถยนต์ปาเจโรน้ำยังท่วมถึงพวงมาลัย
ผม (คุณนพรัตน์) เอาพระกริ่งชุดนี้ประมาณหนึ่งกล่องไว้ในห้องทำงาน
น้ำได้ท่วมกวาดเอาคอมพิวเตอร์ โต๊ะทำงาน เอนไซโคร์ปิเดียของผมเกลี้ยงห้อง ขนาดตู้เย็นแปดคิว มันลากมาไว้หน้าบ้านเฉยเลย

ตกเย็นน้ำยังไม่ยอมลด มีเพื่อนบ้านที่มาขออาศัยหลบน้ำที่บ้าน คือ
ครอบครัวร้านอาหารครัวกานดา นายบอลลูกชายร้านตัดผมรีเล๊ค นายสุวิทย์ พนารัตน์
ต่างมองเห็นฝูงปลาลูกครอกลอยวนในบ้านของผมตรงใกล้ๆ บันไดขึ้นชั้นสองของบ้าน
ผมมองดูฝูงปลาลูกครอกอยู่อย่างใจจดใจจ่อ มันไม่ใช่ปลาแต่เป็นพระกริ่งรุ่นมหาสมปรารถนา จำนวน 200 องค์ ที่ผมเก็บไว้ในห้องทำงาน
ต่างลอยวนเหมือนฝูงปลา เนื่องจากเป็นเนื้อทองแดงผสมน้ำโคลน เลยมองดูเหมือนลูกปลาช่อน
ผมเลยเอาฝาละมีพลาสติกช้อนขึ้นมาต่อหน้าบุคคลต่างๆ ที่ผมได้ระบุนานไว้
ยายเอื้อย คุณแม่ร้านครัวกานดา บอกว่า พระเป็นเหล็ก คือ ลอยน้ำได้หือคุณ ?
ผมบอกว่า ใครอยากได้ ก็เก็บเอาจากน้ำเลย หลวงปู่เมตตาให้แล้ว ไม่ตายแล้ว

 

รายการที่ 315 พระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก “ มหาชัยมงคล ” โรยเกศา-ฝังพลอย ปี 2535
ลป.อ่อนสา สุขกาโร วัดป่าประชาชุมพลพัฒนาราม อุดรธานี

คุณ j999 บูชาแล้ว EK 169149551 TH



พระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก “ มหาชัยมงคล ” โรยเกศา-ฝังพลอย
เป็นพระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก ของ หลวงปู่อ่อนสา สุกกาโร ออกวัดป่าสีทน อุดรธานี

 

รายการที่ 316 พระผงพระเจ้าเพชรเงินล้าน บรรจุปฐวีธาตุ วัดศรีมุงเมือง เชียงใหม่ ปี 2553
ลพ.ประสิทธิ์ ปุญญมากโร อธิษฐานจิต

บูชา 300-



มวลสาร
1. ปฐวีธาตุ หลวงพ่อประสิทธิ์
2. ผงพุทธคุณ พระธาตุเจดีย์นพีสีพิศาลมงคล
3. ผงธูปพุทธคุณ เสาร์ ๕
4. ผงดอกไม้บูชาพระเจ้าเพชรเงินล้าน ตั้งแต่ปี ๕๐-๕๒ หลวงพ่อประสิทธิ์ เสกทุกวาระ ที่มีการเสกพระ
- งานเสกมวลสารพระเจ้าเพชรศรีมุงเมือง รุ่นแรก และหล่อพระเจ้าเพชรเงินล้าน วิสาขะ พ.ค. ๕๐
- งานเสกพระเจ้าเพชรศรีมุงเมืองรุ่นแรก และเสกพระเจ้าเพชรเงินล้าน ๕ ธ.ค. ๕๐
- งานเสกรูปเหมือนลอยองค์ หลวงพ่อประสิทธิ์ ๑๖ ม.ค. ๕๒
- งานกฐินมหากุศล และเสกประเจ้าเพชรเงินล้าน รุ่นแรก ๒๒ ต.ค.๕๒
- งานเสกพระสิวลี (ต่ออายุ) ๑๕ เม.ย. ๕๓
- งานบรรจุหัวใจ พระสิวลี (ต่ออายุ) ๒๕ ก.ค. ๕๓ (เป็นองค์พระแล้ว)
5. ทรายเสก เสาร์ ๕
6. กล้วยน้ำว้า เสาร์ ๕
7. ข้าวก้นบาตร เสาร์ ๕
8. น้ำมนต์ เสาร์ ๕
9. ผงตะไบพระสิวลี (ต่ออายุ) องค์ใหญ่ โรยหลังพระทุกองค์
10. ผงเบ้าหลอมพระเจ้าเพชรเงินล้าน

การอธิษฐานจิต หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ เชียงใหม่ ได้เมตตาอธิษฐานจิตในวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม ปี 2553
และการขอเมตตาหลวงพ่อในครั้งนี้ได้กราบเรียนหลวงพ่อเรื่องอธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุด้วย ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตาพยักหน้ารับ

ความเป็นมาของปฐวีธาตุที่บรรจุในองค์พระ

ปฐวีธาตุชุดนี้ มูลเหตุเกิดจากเมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา มีพี่ท่านหนึ่งได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
ซึ่งบังเอิญวันนั้นท่านพระครูปลัดอรรถสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดศรีมุงเมือง ก็ได้เข้าไปกราบหลวงพ่อประสิทธิ์เช่นกัน
เป็นการไปโดยไม่ได้นัดหมาย เพื่อนผมได้กราบเรียนถามหลวงพ่อประสิทธ์ว่า
“ หลวงพ่อครับ หลวงพ่อเคยได้ยินเรื่องปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันธ์รึเปล่าครับ ”
“ เคยได้ยินอยู่ ”
“ หลวงพ่อทำได้รึเปล่าครับปฐวีธาตุ ”
“ ทำได้อยู่ ”
“ เขาว่าปฐวีธาตุท่านเจ้าคุณนรฯ กับหลวงปู่คำพันธ์ กันนิวเคลียร์ได้ ถ้าหลวงพ่อทำจะกันได้เหมือนกันรึเปล่าครับ ”
หลวงพ่อพยักหน้ารับ
“ ท่านเจ้าคุณนรฯใช้หินบางบ่อ หลวงปู่คำพันใช้หินแม่น้ำโขง ไม่ทราบของหลวงพ่อจะต้องใช้หินที่ไหนครับ ”
“ ปฐวีธาตุ ก็คือ ธาตุดิน หินที่ไหนก็ใช้ได้หมด ”

หลังจากนั้น ก็ได้นำหินชุดแรกที่มีผู้ศรัทธานำมาจากแม่น้ำโขง พร้อมทรายและมงคลวัตถุต่างๆ ไปขอเมตตาหลวงพ่อประสิทธิ์อธิษฐานในวันเสาร์ห้า
และได้กราบเรียนขอให้หลวงพ่ออธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ และหลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งหลวงพ่อก็พยักหน้ารับ

แต่เนื่องจากปฐวีธาตุชุดแรกได้แต่หินก้อนใหญ่ ไม่สามารถบรรจุลงในพระได้
จึงเกิดปฐวีธาตุชุดที่สอง โดยนำหินจากแม่น้ำโขงเหมือนเดิมแต่เป็นขนาดเล็ก
นำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษกพระสิวลี เมื่อพญาวันที่ 15 เมษายน 2553
แต่ไม่ได้กราบเรียนเรื่องขอให้อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ

หลังจากนั้นได้นำปฐวีธาตุชุดที่สองนี้มาบรรจุในพระผงพระเจ้าเพชรเงินล้านพิมพ์หกเหลี่ยม
ซึ่งหลวงพ่อประสิทธิ์ ได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ในวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม 2553
และการขอเมตตาหลวงพ่อในครั้งนี้ได้กราบเรียนหลวงพ่อเรื่องอธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุด้วย ซึ่งหลวงพ่อก็เมตตาพยักหน้ารับ

 

รายการที่ 317 พระนางพญา ผงโสฬสมหาพรหม พิมพ์หน้านาง (นิยม) ปี 2500
ลป.จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

บูชา 1,800- คุณ Natchapon จองแล้ว



ในคราวที่ อ.ประถม อาจสาคร ได้รับผงโสฬสมหาพรหม ของ ลป.สีทัตต์ วัดท่าอุเทน
จากศิษย์ของท่าน คือ ลป.สนธ์ วัดท่าดอกแก้ว มา 1 บาตรพระ
ก่อนที่ท่านจะนำผงนี้มาสร้างพระชุดโสฬสมหาพรหมให้กับ ลป.ทิม วัดละหารไร่ ระยอง เมื่อปี 2503 นั้น
ท่านได้นำผงนี้ไปตระเวณเสกตามที่ต่างๆ โดยองค์แรกที่ท่านนำไปให้เสกก็คือ ลป.จันทร์ วัดศรีเทพ
ซึ่งท่านมีศักดิ์เป็นหลานของ ลป.สีทัตต์ (ใช้นามสกุลเดียวกัน "สุวรรณมาโจ")
ซึ่งเมื่อ ลป.จันทร์เห็นผงนี้ท่านก็จำได้ ทักขึ้นมาว่าเป็นผงของหลวงน้าท่านทำไว้นี่
แล้วท่านก็เลยขอแบ่งผงนี้ไป 1 ชั้นปิ่นโต เพื่อนำมาสร้างพระคราวฉลอง 25 พุทธศตวรรษของท่าน
มีทั้งพิมพ์สมเด็จ พิมพ์นาคปรก พิมพ์นางพญา และนางกวัก ซึ่งพิมพ์นางพญาเป็นพิมพ์ที่หายากกว่าพิมพ์อื่นๆ
เพราะสร้างน้อยกว่าพิมพ์อื่น และเป็นพิมพ์ที่ปลอมน้อยที่สุด ถ้าเจอแบบสามเหลี่ยมหัวตัดให้ระวังให้ดี และเนื้อต้องแบบนี้เท่านั้น

ผงโสฬสมหาพรหม เป็นผงที่ หลวงปู่สีทัตต์ สุวรรณมาโจ วัดพระธาตุท่าอุเทน นครพนม
พระอภิญญาจารย์ศิษย์เอกของสำเร็จลุน ได้ใช้เวลาในการเขียนลบผงอยู่ที่ภูเขาควายนานถึง 1 ปี
ลป.สีทัตต์ท่านรู้ภาษาสัตว์ มีอนาคตังสญาณ เมื่อคราวสร้างพระธาตุท่าอุเทนก็ได้พวกบังบดเอาหน่อคำมาถวาย
ท่านเคยเขียนผ้ายันต์ผืนหนึ่งให้กับลป.สนธ์ วัดท่าดอกแก้ว ไว้ใช้นั่งแทนเรือข้ามแม่น้ำโขงไปหาท่านที่ภูเขาควาย
ซึ่งอ.ประถมเคยถาม ลป.สนธ์ ว่าได้เคยใช้บ้างไหม ท่านบอกว่าเคยใช้อยู่ 3 ครั้ง

การลบผงโสฬสนั้นต้องลงด้วยอักขระตัวขอม เป็นกลยันต์
โดยภาวนาจากจากตัวต้นจนถึงตัวสุดท้าย ผูกสลับเป็นกลยันต์ 16 มุม
ในแต่ละมุมแบ่งเป็น 16 ชั้น แต่ละชั้นลงอักขระ 16 ช่อง อักษรในแต่ละตัว
แต่ละช่อง ต้องลบถม เรียกสูตร 16 คาบ ผูกอธิษฐานเสกครบถือเป็น 1 ครั้ง
และต้องทำแบบเดียวกันครบ 16 ครั้ง แล้วรวบรวมผงที่เสกทั้ง 16 ครั้ง
มาอธิษฐานจิตตามตำราจนครบถ้วนตามฤกษ์
แล้วจึงนำผงมาลูบในกระดานบังเกิดเป็นอักขระยันต์โสฬสมหาพรหมโดยไม่ได้เขียน
จึงจะถือว่าสำเร็จสมบูรณ์ใช้ได้
ผงที่ได้นี้ครบตามสูตร เชื่อกันว่า
เทพเทวาทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 บาดาล 21 ชั้นพรหมต่างๆ ทุกพระองค์
จะลงมาอนุโมทนาอำนวยพรให้

ผงวิเศษนี้จึงมีอานุภาพแรง ทรงความขลังศักดิ์สิทธิ์ ผู้บูชาผงนี้
จะอุดมด้วยลาภสักการะ วาสนา บารมี ปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จดังใจปรารถนาทุกประการ
เพียบพร้อมด้วยเมตตามหานิยม ดลบันดาลให้หายจากสรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพภัย
และอันตรายทั้งปวงจากคุณไสย คุณดำและสิ่งซึ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวง
ปรารถนาหายหมดสิ้น ไม่มีการเบียดเบียนได้

พระนางพญาหลวงปู่จันทร์ฯ วัดศรีเทพฯ รุ่นแรก ปี 2500 ประกอบด้วย
ผงพุทธคุณ+น้ำมันงาเสกของหลวงปู่จันทร์
ผงพระสมเด็จบางขุนพรหมที่แตกหักชำรุดตอนเปิดกรุจำนวนมาก
และผงโสฬสมหาพรหมอันลือลั่น ของหลวงปู่สีทัตต์

ลป.จันทร์ วัดศรีเทพฯ ท่านเป็นศิษย์ของ ลป.เสาร์ กันตสีโล ถือได้ว่าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมอาจารย์เดียวกับ ลป.มั่น
ลป.จันทร์ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ มีบารมีมาก ที่เรียกว่า อนุพุทธะ
คือถ้าละความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเสียก็จักบรรลุอรหัตผลในทันที เพราะบารมีที่ทำมาเกินระดับสาวกภูมิแล้ว
แต่เนื่องจากจิตโพธิญาณที่เปี่ยมด้วยความเมตตาไม่มีประมาณที่ต้องการสงเคราะห์สัตว์โลกให้พ้นทุกข์ ท่านจึงมุ่งมั่นในความตั้วใจเดิม
บารมีของหลวงปู่ท่านมีมากแม้แต่ยมฑูตที่จะมาเอาชีวิตเณรในวัดที่เป็นวิญญาณหนีมาเกิด ก็ยังเกรงใจไม่กล้ามาเอาไปโดยพลการ
ต้องมาบอกกล่าวขอกับหลวงปู่ท่านก่อน ซึ่งท่านก็ได้เตือนเณรองค์นั้นแล้วว่าอย่าออกนอกเขตวัดแต่เณรไม่เชื่อ
อีกทั้งปลาพระโพธิสัตว์ (พระโพธิสัตว์องค์หนึ่งมาเสวยพระชาติเป็นปลา) ก็ยังมาขอให้ท่านช่วยชีวิต เพราะไปติดอยู่ในลอบของชาวบ้านเข้า
พอรุ่งเช้าหลวงปู่ท่านก็ไปบิณฑบาตที่บ้านของโยมผู้นั้นและขอชีวิตปลาที่ติดอยู่ในลอบ
พอนำไปปล่อยปลาพระโพธิสัตว์ก็กระโดดขึ้นมาคำนับท่าน 3 ครั้งก่อนจะดำน้ำไป

หมายเหตุ พระของ ลป.จันทร์ วัดศรีเทพฯ ท่านไม่ชอบให้ห้อยรวมกับพระอื่น
แม้แต่จะเป็นรูปพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ ถ้าห้อยรวมกันพระของท่านจะหลุดออกมาจากสร้อยเอง (มีประสบการณ์กับตัวเองมาแล้ว แปลกมากๆ ทั้งๆ ที่ห่วงก็เป็นปกติ)
เคยมีพระลูกศิษย์ถามท่านถึงเรื่องนี้ ท่านบอกว่าท่านเกรงใจเวลาที่ข่วยเหลือ
และถ้าห้อยพระของท่านแล้วพระของท่านหลุดจากสร้อยโดยที่สร้อยยังปกติ (ห้อยเดี่ยว) แสดงว่าจะมีเคราะห์หรือมีเหตุร้ายเกิดขึ้นให้พึงระมัดระวังตัวไว้
แต่ถ้าพระหายไปเลยแสดงว่าตัวท่านหมดอายุขัยเสียแล้ว

ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของหลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ นำพระสมเด็จวัดระฆังกับพระของหลวงปู่จันทร์
ไปสอบถามหลวงปู่คำพันธ์ว่า พระทั้งสองนี้เป็นอย่างไร
หลวงปู่คำพันธ์ตอบว่า "เหมือนไข่เป็ดกับไข่ไก่"
ด้วยความยังงงๆ ลูกศิษย์กลุ่มนี้เลยถามต่อว่า "ยังไงหรือครับหลวงปู่"
"เป็นไข่เหมือนกัน ต่างกันนิดเดียว พุทธคุณแทบไม่แตกต่าง"

 

รายการที่ 317 พระนางพญา ผงโสฬสมหาพรหม พิมพ์หน้านาง (นิยม) ปี 2500
ลป.จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

ขอจองครับ

 

รายการที่ 318 พระสมเด็จผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ พิมพ์ 3 ชั้น รุ่นสร้างโบสถ์วัดมะค่า ปี 2525

คุณ บุญยัง บูชาแล้ว Ek 169171435 th



พระผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ ลพบุรี มีการสร้างกันหลายวัด แต่ที่หลักๆ ก็จะมี วัดยวด วัดมะค่า และวัดเยื้องคงคาราม
เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ สมเด็จวัดยวด ที่หลวงตายม จัดสร้างขึ้น ส่วนของวัดมะค่าสร้างน้อยจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าใดนัก

ผงวัดอิทธิเจ กรุวัดสัมฤทธิ์ คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป
เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง น่าจะราวๆ สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
(พบแผ่นจารอักขระจารึกบอกไว้ว่าเป็นผงอิทธิเจ)
ปาฏิหาริย์ของผงนี้มีมากมายเป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรีและอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำเจ้าพระยา
รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดทุกวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง
เช่น หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และพระมหาสังเวียน วัดไชโย เป็นต้น
แม้แต่ หลวงปู่ฉาบ วัดศรีสาคร ก็ยังให้ลูกศิษย์ไปหาผงฯ นี้มาผสมใส่ในพระเครื่องของท่าน

ผงวัดสัมฤทธิ์ หรือ ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย
ทั้งแก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ ปกป้องคุ้มครอง ทั้งรถยนต์ การเดินทาง หรือแม้แต่ในสนามรบ ทหารหาญเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี
ฃและพุทธคุณที่หลายคนปรารถนา คือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการได้
แม้แต่ในวัดสัมฤทธิ์เวลานี้ก็มีการเจาะบ่อบาดาลใกล้ๆ กับแหล่งที่พบผงอิทธิเจนี้
น้ำที่โยกขึ้นมาก็กลาย เป็นน้ำพระพุทธมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้

ในราวๆ ปี ๒๕๐๗ กำนันสุวรรณ เชื้อน้อย กับ ตาพูล คนบ้านโคกคา ต.โพธิ์ตรุ
เป็นชุดแรกที่ได้เข้าไปขุดค้นหาของดีที่ซ่อนอยู่บนโคกวัดสัมฤทธิ์
โดยหลังจากทำพิธีพลีกรรมขอขมาแล้ว ก็ทำการขุดที่บริเวณโคกดังกล่าว
ขุดพบเป็นผงอิทธิเจสีขาวประมาณ ๕ ปีบ แต่ก็ไม่ทราบว่าว่าผงขาวๆ ที่ค้นพบนี้ดีอย่างไร
เมื่อขุดพบได้มาจึงนำออกมาแต่เพียงพอสมควร มิได้ขนออกมาทั้งหมด
เมื่อได้ผงฯ มาแล้วก็มิได้นำไปทำอะไร จะขายก็ไม่มีใครซื้อ
ตาพูลซึ่งเป็นคนชอบเสี่ยงดวงมักตะเวนไปหาพระหาหวยตามวัดต่างๆ จนรู้จักมักคุ้นพระอาจารย์ดังแถวนี้ทุกวัด
ก็ได้นำผงฯ นี้ไปให้พระอาจารย์หลายๆ ท่านดูจึงได้รู้ว่าผงนี้ดีอย่างไร จึงได้ถวายผงนี้ให้แก่เกจิดังๆ ในย่านนั้นจนหมดสิ้น
ซึ่งเมื่อนำผงนี้ไปสร้างเป็นพระเครื่องก็ปรากฏปาฏิหาริย์เป็นอันมากทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของผงฯ นี้ขจรขจายไปไกล
โดยเฉพาะ พระสมเด็จเนื้อผงของหลวงพ่อซวง พระสมเด็จแพพัน แพ ๒ พัน ของหลวงพ่อแพ
พระสมเด็จรุ่นแรก ของหลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ และพระสมเด็จรุ่นแรก ของพระอาจารย์บุญลือ วัดคำหยาด ต่างก็มีประสบการณ์และได้รับความนิยมสูงมาก
พระเกจิอาจารย์จากวัดอื่นๆ จึงพยายามขวนขวายหามาเพื่อสร้างพระเครื่องให้ญาติโยมบูชาทำบุญหาทุนสร้างวัด

ความต้องการนี้เองนำไปสู่การขุดค้นครั้งที่สอง โดย พระครูสุนทรธรรมกิจ (สมัย) เจ้าอาวาสวัดมะค่า มี ผู้ใหญ่น้อย มาสำราญ ให้การสนับสนุน
และผู้ใหญ่น้อยนี้เองที่ได้นำผงอิทธิเจจำนวนมากจากการขุดค้นครั้งที่สองนี้มามอบให้ หลวงตายม วัดยวด สร้างพระสมเด็จวัดยวดอันลือชื่อมากประสบการณ์
การขุดค้นครั้งที่สองนี้ได้ผงฯ มากกว่าครั้งแรก โดยเฉพาะวัดมะค่าอยู่ใกล้กับวัดสัมฤทธิ์มากกว่าวัดอื่น (ระยะเดินเท้าได้ไม่เกิน ๑ กม.)
เมื่อได้ผงก็นำมาให้หลวงพ่อสมัยท่านเก็บไว้ และต่อมาได้นำผงฯ นี้ไปสร้างพระสมเด็จเนื้อผงของวัดมะค่าขึ้นมา 4 รุ่น คือ
รุ่นกฐิน ปี 2514 รุ่นสร้างโบสถ์ ปี 2525 รุ่นฝังลูกนิมิต ปี 2530 และรุ่นฉลองโบสถ์ ปี 2533
ซึ่ง 3 รุ่นแรกสร้างด้วยผงสัมฤทธิ์ล้วนโดยใช้กล้วยเป็นตัวประสาน
เวลานี้จะหาพระรุ่นดังกล่าวดูก็ยังหาไม่เจอเพราะได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนใหญ่จะเจอแต่ของวัดยวด

พระสมเด็จ 3 ชั้น รุ่นสร้างโบสถ์ ปี 2525 นี้เป็นพระรุ่น 2 ของวัดมะค่าที่นำเอาผงอิทธิเจเก่าของวัดสัมฤทธิ์มาทำ
โดยเมื่อประมาณ ปี 2514 พระครูสุนทรธรรมกิจ (สมัย) เจ้าอาวาสวัดมะค่าองค์ปัจจุบัน ได้ขอแรงชาวบ้านมาบูรณะอาณาบริเวณรอบวัด และได้ขุดค้นพบผงอิทธิเจจากกรุวัดร้างวัดสัมฤทธิ์จำนวนมาก
พระรุ่นนี้สร้างด้วยผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ล้วนๆ โดยใช้กล้วยเป็นตัวประสาน เนื้อจึงออกสีเหลืองๆ

 

ขอจองครับ-----------------

 

โอนให้แล้วครับรายการ 307
ผ้าขอด 10 ปม
-มายศ

 

ได้โอนเงิน ๘๕๐ บาท เมี่อ ๓ กย. เวลาประมาณ๑๐.๓๕ น. เป็นค่าพระ ๑.รายการ๓๑๕ สมเด็จปรกโพธิ์ลป.อ่อนสา
ที่อยู่ ดูในpmครับ

 

รายการที่ 319 พระสมเด็จ 3 ชั้น เนื้อผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ (ผงล้วน) วัดมะค่า รุ่นแรก ปี 2514

คุณ อนุรุทธ บูชาแล้ว EK 169166912 TH



พระวัดมะค่า เป็นพระชุดแรกที่นำผงอิทธิเจจากรุวัดร้าง...วัดสัมฤทธิ์...มาผสมสร้างพระ
โดยเมื่อประมาณ ปี 2514 พระครูสุนทรธรรมกิจ (สมัย) เจ้าอาวาสวัดมะค่า ได้ขอแรงชาวบ้านมาบูรณะอาณาบริเวณรอบวัด
และเนื่องจากวัดมะค่ามีอาณาบริเวณติดกับวัดสัมฤทธิ์ จึงได้บูรณะไปถึงวัดสัมฤทธิ์ด้วยและได้ขุดค้นพบผงอิทธิเจจากกรุวัดร้างวัดสัมฤทธิ์จำนวนมาก

ทางเจ้าอาวาสจึงได้นำผงอิทธิเจดังกล่าวมาสร้างพระสำหรับแจกกฐินในปีนั้น
โดยพระยุคแรกๆ จะเป็นเนื้อผงจากกรุวัดสัมฤทธิ์ล้วนๆ โดยใช้กล้วยไข่เป็นตัวประสาน พระยุคแรกจึงมีสีออกเหลือง เนื้อละเอียด
ต่อมาในยุคหลังจากปี 2530 เป็นต้นมา ผงจากกรุวัดสัมฤทธิ์เหลือน้อยลง ท่านจึงนำมาผสมกับมวลสารอื่นแทน

หลวงพ่อสมัยได้เริ่มสร้างพระด้วยผงอิทธิเจจากกรุวัดสัมฤทธิ์ตั้งแต่ปี 2514 เป็นต้นมา มีทั้งหมด 4 รุ่น คือ
รุ่นแรก ปี 2514 รุ่นสร้างโบสถ์ ปี 2525 และรุ่นฝังลูกนิมิต ปี 2530 จะสร้างด้วยผงล้วนผสมกับกล้วยสุกเป็นตัวประสาน
ส่วนปี 2533 จะเป็นเนื้อผงผสมมวลสารวัดสัมฤทธิ์แทน

พระสมเด็จ 3 ชั้น วัดมะค่า รุ่นแรก สร้างแจกงานกฐินปี 2514 เป็น 1 ใน 4 พิมพ์ที่จัดสร้างในปีนั้น
คือ พิมพ์ฐานเก้าชั้น (เกศไชโย) พิมพ์ฐาน 3 ชั้น พิมพ์คะแนน และพิมพ์นางพญา
พระรุ่นนี้สร้างด้วยผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ล้วนๆ โดยใช้กล้วยเป็นตัวประสาน เนื้อจึงออกสีเหลืองๆ

 

รายการที่ 320 พระสมเด็จคะแนน เนื้อผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ (ผงล้วน) วัดมะค่า รุ่นแรก ปี 2514 (หายาก)

คุณ แปดเหลี่ยม บูชาแล้ว Ek 169171413 th



พระผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ ลพบุรี มีการสร้างกันหลายวัด แต่ที่หลักๆ ก็จะมี วัดยวด วัดมะค่า และวัดเยื้องคงคาราม
แต่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็คือ สมเด็จวัดยวด ที่หลวงตายม จัดสร้างขึ้น เพราะสร้างไว้มากพอจะหาพบได้บ้าง
ส่วนของวัดมะค่าและวัดเยื้องคงคารามสร้างไว้น้อยจึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันเท่าใดนัก

ผงวัดอิทธิเจ กรุวัดสัมฤทธิ์ คาดว่าน่าจะมีอายุอยู่ประมาณ ๔๐๐ ปีขึ้นไป
เพราะวัดสัมฤทธิ์นี้เป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นในยุคอยุธยาตอนกลาง น่าจะราวๆ สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
(พบแผ่นจารอักขระจารึกบอกไว้ว่าเป็นผงอิทธิเจ)
ปาฏิหาริย์ของผงนี้มีมากมายเป็นที่ประจักแก่ผู้คนทั้งลพบุรีและอ่างทอง ตลอดจนผู้คนในบริเวณใกล้เคียงทั้งย่านแม่น้ำลพบุรีและแม่น้ำเจ้าพระยา
รู้จักกันดีในวงการพระสงฆ์ว่า วัดทุกวัดในเขตภาคกลางนี้เมื่อมีวาระจะต้องสร้างพระเครื่อง จะต้องมาขอแบ่งผงนี้ไปเป็นมงคลวัตถุผสมอยู่ด้วยทุกครั้ง
เช่น หลวงพ่อซวง วัดชีปะขาว หลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง และพระมหาสังเวียน วัดไชโย เป็นต้น
แม้แต่ หลวงปู่ฉาบ วัดศรีสาคร ก็ยังให้ลูกศิษย์ไปหาผงฯ นี้มาผสมใส่ในพระเครื่องของท่าน

ผงวัดสัมฤทธิ์ หรือ ผงหลวงพ่อสัมฤทธิ์ นี้ มีพุทธคุณศักดิ์สิทธ์ยิ่งนัก มีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย
ทั้งแก้คุณไสย ถูกของถูกกระทำ ปกป้องคุ้มครอง ทั้งรถยนต์ การเดินทาง หรือแม้แต่ในสนามรบ ทหารหาญเมืองลพบุรีที่ได้ไปต่างทราบกันดี
และพุทธคุณที่หลายคนปรารถนา คือ สามารถอธิษฐานขอในสิ่งที่ต้องการได้
แม้แต่ในวัดสัมฤทธิ์เวลานี้ก็มีการเจาะบ่อบาดาลใกล้ๆ กับแหล่งที่พบผงอิทธิเจนี้
น้ำที่โยกขึ้นมาก็กลาย เป็นน้ำพระพุทธมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่เคารพบูชาของคนแถวนั้นตราบเท่าทุกวันนี้

ในราวๆ ปี ๒๕๐๗ กำนันสุวรรณ เชื้อน้อย กับ ตาพูล คนบ้านโคกคา ต.โพธิ์ตรุ
เป็นชุดแรกที่ได้เข้าไปขุดค้นหาของดีที่ซ่อนอยู่บนโคกวัดสัมฤทธิ์
โดยหลังจากทำพิธีพลีกรรมขอขมาแล้ว ก็ทำการขุดที่บริเวณโคกดังกล่าว
ขุดพบเป็นผงอิทธิเจสีขาวประมาณ ๕ ปีบ แต่ก็ไม่ทราบว่าว่าผงขาวๆ ที่ค้นพบนี้ดีอย่างไร
เมื่อขุดพบได้มาจึงนำออกมาแต่เพียงพอสมควร มิได้ขนออกมาทั้งหมด
เมื่อได้ผงฯ มาแล้วก็มิได้นำไปทำอะไร จะขายก็ไม่มีใครซื้อ
ตาพูลซึ่งเป็นคนชอบเสี่ยงดวงมักตะเวนไปหาพระหาหวยตามวัดต่างๆ จนรู้จักมักคุ้นพระอาจารย์ดังแถวนี้ทุกวัด
ก็ได้นำผงฯ นี้ไปให้พระอาจารย์หลายๆ ท่านดูจึงได้รู้ว่าผงนี้ดีอย่างไร จึงได้ถวายผงนี้ให้แก่เกจิดังๆ ในย่านนั้นจนหมดสิ้น
ซึ่งเมื่อนำผงนี้ไปสร้างเป็นพระเครื่องก็ปรากฏปาฏิหาริย์เป็นอันมากทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของผงฯ นี้ขจรขจายไปไกล
โดยเฉพาะ พระสมเด็จเนื้อผงของหลวงพ่อซวง พระสมเด็จแพพัน แพ ๒ พัน ของหลวงพ่อแพ
พระสมเด็จรุ่นแรก ของหลวงพ่อโต๊ะ วัดสระเกศ และพระสมเด็จรุ่นแรก ของพระอาจารย์บุญลือ วัดคำหยาด ต่างก็มีประสบการณ์และได้รับความนิยมสูงมาก
พระเกจิอาจารย์จากวัดอื่นๆ จึงพยายามขวนขวายหามาเพื่อสร้างพระเครื่องให้ญาติโยมบูชาทำบุญหาทุนสร้างวัด

อาจารย์อัมพล เชื้อน้อย บุตรชายของกำนันสุวรรณผู้ขุดค้นพบผงอิทธิเจวัดสัมฤทธิ์เป็นกลุ่มแรก ได้กรุณาให้ข้อมูลเบื้องหลังว่า
หลังจากที่พ่อกำนัน และตาพูลได้ขุดพบแล้วก็ไม่รู้จะนำผงฯ ไปทำอะไร
ก็ได้แต่เที่ยวนำไปถวายวัดนั้นวัดนี้ให้ท่านสร้างพระเครื่องให้เป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
แต่ตัวท่านเองเวลานี้กลับมีผงฯ นี้บูชาติดตัวอยู่เพียงหลอดเดียวเท่านั้น

อาจารย์อัมพล เล่าถึงตอนที่นำผงฯ นี้ไปถวายให้ หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร สิงห์บุรี ว่า
ทันทีที่ท่านถือกระป๋องบรรจุผงฯ ขึ้นไปบนกุฏิหลวงพ่อฉาบนั้น
หลวงพ่อท่านได้ตะโกนสั่งมาว่า " ระวังๆ ผงนี้สุดยอด ระวังๆ อย่าทำหกเป็นอันขาด "
คณะที่ไปด้วยกันทั้งหมดต่างมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจว่าท่านรู้ได้อย่างไรว่าเป็นผงอะไร ?
และรู้ได้อย่างไรว่าจะนำมามอบให้ท่าน จึงทำให้ท่านถึงกับแสดงอาการตื่นเต้นดีใจออกมากมายเช่นนั้น
และหลังจากที่หลวงพ่อฉาบได้ใช้ผงฯ ชุดนี้สร้างพระเครื่องจนหมดไปแล้ว
ทราบว่าท่านก็ได้ให้คนมาเช่าผงฯ นี้ไปจากชาวบ้านแถววัดมะค่าไปอีกจำนวนหนึ่งแต่ไม่ทราบว่าท่านนำไปสร้างพระรุ่นใดบ้าง

ขุดค้นพบครั้งที่สอง โดย พระครูสุนทรธรรมกิจ (สมัย) เจ้าอาวาสวัดมะค่า มี ผู้ใหญ่น้อย มาสำราญ ให้การสนับสนุน
และผู้ใหญ่น้อยนี้เองที่ได้นำผงอิทธิเจจำนวนมากจากการขุดค้นครั้งที่สองนี้มามอบให้ หลวงตายม วัดยวด สร้างพระสมเด็จวัดยวดอันลือชื่อมากประสบการณ์
การขุดค้นครั้งที่สองนี้ได้ผงฯ มากกว่าครั้งแรก โดยเฉพาะวัดมะค่าอยู่ใกล้กับวัดสัมฤทธิ์มากกว่าวัดอื่น (ระยะเดินเท้าได้ไม่เกิน ๑ กม.)
เมื่อได้ผงก็นำมาให้หลวงพ่อสมัยท่านเก็บไว้ และต่อมาได้นำผงฯ นี้ไปสร้างพระสมเด็จเนื้อผงของวัดมะค่าขึ้นมา 4 รุ่น คือ
รุ่นกฐิน ปี 2514 รุ่นสร้างโบสถ์ ปี 2525 รุ่นฝังลูกนิมิต ปี 2530 และรุ่นฉลองโบสถ์ ปี 2533
ซึ่ง 3 รุ่นแรกสร้างด้วยผงสัมฤทธิ์ล้วนโดยใช้กล้วยเป็นตัวประสาน
เวลานี้จะหาพระรุ่นดังกล่าวดูก็ยังหาไม่เจอเพราะได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนใหญ่จะเจอแต่ของวัดยวด

พระวัดมะค่า เป็นพระชุดแรกที่นำผงอิทธิเจจากรุวัดร้าง...วัดสัมฤทธิ์...มาผสมสร้างพระ (สร้างก่อนวัดยวดและวัดเยื้องคงคาราม)
โดยเมื่อประมาณ ปี 2514 พระครูสุนทรธรรมกิจ (สมัย) เจ้าอาวาสวัดมะค่า ได้ขอแรงชาวบ้านมาบูรณะอาณาบริเวณรอบวัด
และเนื่องจากวัดมะค่ามีอาณาบริเวณติดกับวัดสัมฤทธิ์ จึงได้บูรณะไปถึงวัดสัมฤทธิ์ด้วยและได้ขุดค้นพบผงอิทธิเจจากกรุวัดร้างวัดสัมฤทธิ์จำนวนมาก

ทางเจ้าอาวาสจึงได้นำผงอิทธิเจดังกล่าวมาสร้างพระสำหรับแจกกฐินในปีนั้น
โดยพระยุคแรกๆ จะเป็นเนื้อผงจากกรุวัดสัมฤทธิ์ล้วนๆ โดยใช้กล้วยไข่เป็นตัวประสาน พระยุคแรกจึงมีสีออกเหลือง เนื้อละเอียด
ต่อมาในยุคหลังจากปี 2530 เป็นต้นมา ผงจากกรุวัดสัมฤทธิ์เหลือน้อยลง ท่านจึงนำมาผสมกับมวลสารอื่นแทน

พระสมเด็จคะแนน วัดมะค่า รุ่นแรก สร้างแจกงานกฐินปี 2514 เป็น 1 ใน 4 พิมพ์ที่จัดสร้างในปีนั้น
คือ พิมพ์ฐานเก้าชั้น (เกศไชโย) พิมพ์ฐาน 3 ชั้น พิมพ์คะแนน และพิมพ์นางพญา
พระรุ่นนี้สร้างด้วยผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์ล้วนๆ โดยใช้กล้วยเป็นตัวประสาน เนื้อจึงออกสีเหลืองๆ

 

รายการที่ 321 พระสมเด็จวัดยวด พิมพ์ซุ้มข้างจุด เนื้อผงอิทธิเจกรุวัดสัมฤทธิ์

คุณ แปดเหลี่ยม บูชาแล้ว Ek 169171413 th



พระสมเด็จวัดยวด เนื้อผงอิทธิเจจากกรุวัดสัมฤทธิ์ สร้างโดย หลวงตายม ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดยวด
ท่านเป็นผู้ที่มีใจฝักใฝ่ในงานช่างศิลป์ งานด้านช่างศิลป์ของวัดยวดทั้งหมดเป็นภาระของท่าน
เมื่อมีการขุดค้นพบกรุวัดสัมฤทธิ์ ได้มีญาติโยมนำผงอิทธิเจจำนวนมากมาถวายท่าน
โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่น้อย มาสำราญ ได้นำผงฯ มาให้ท่านมากที่สุด
ท่านจึงดำริสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆ ให้พุทธศาสนิกชนได้ติดตัวบูชาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

ครั้งแรกที่หลวงตายมสร้างพระพิมพ์ด้วยเนื้อผงฯ นี้ พระในวัดและบุคคลรอบๆ วัดต่างติฉินหาว่าท่านคงเสียสติไปแล้ว
ต่อมาภายหลังท่านจึงได้เล่าให้คนใกล้ชิดฟังว่า มีพระภิกษุชรามากมาเข้าฝันท่านบอกให้ท่านสร้างพระ พร้อมกับบอกวิธีการสร้างให้ท่าน
ท่านจึงดำริสร้างขึ้นเป็นพระพิมพ์ต่างๆ ขึ้น อีกทั้งเป็นการรักษาผงอิทธิเจอันมีค่าสูงสุดนี้มิให้มลายหายไป
สมดั่งเจตนาของพระเกจิฯ โบราณที่ได้บำเพ็ญเพียรสร้างสรรค์ไว้ เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา

แรกเริ่มท่านได้แกะแม่พิมพ์และผสมเนื้อผงขึ้นมาเองแบบลองผิดลองถูก
มีหลักฐานปรากฏเป็นพระพิมพ์ที่เนื้อร่วนซุย หักชำรุด และแม่พิมพ์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก
จนในที่สุดหลวงตายมก็สามารถนำผงอิทธิเจล้วนๆ มาสร้างเป็นพระพิมพ์ต่างๆ ได้สำเร็จ
ท่านสร้างเองตามลำพัง มีคนอื่นช่วยบ้างเป็นบางครั้ง บ้างก็ช่วยหาผงฯ มาให้
บ้างก็ช่วยท่านตำผงที่จับแข็งเป็นก้อน แต่ท่านจะกดพระใส่พิมพ์ด้วยตัวท่านเองทั้งหมด

สูตรที่มีผงอิทธิเจมากที่สุด คือ ผงกล้วยผสมน้ำมันตังอิ้ว เนื้อพระจะค่อนข้างใส เนียน ดูคล้ายขนมเข่งตากแห้ง
แต่ข้อเสียคือ พระจะแตกลั่นอ้าทุกองค์ เนื้อนี้พบได้น้อยถือว่าเป็นเนื้อที่มีผงฯ ผสมอยู่มากสุดและหายากสุด
นอกจากนั้นก็ยังมีการผสมว่าน ๑๐๘ เกสรดอกไม้ ดอกไม้บูชาพระตากแห้ง กล้วย ผงก้านธูปหน้าแท่นบูชาหลวงพ่อใหญ่
และที่มีน้อยอีกสูตรหนึ่งคือ เนื้อผงฯ ผสมดินก้นกรุวัดสัมฤทธิ์ (หายากสุดๆ) และเนื้อผงฯ โรยผงตะไบพระพุทธรูปเก่าโบราณวัดสัมฤทธิ์

ประมาณว่าหลวงตายมท่านสร้างพระสมเด็จวัดยวดนี้ราวๆ ปี ๒๕๒๘ - ๒๕๓๔
ได้พระสมเด็จและพิมพ์อื่นๆ ได้ประมาณ ๙,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ องค์
ท่านสร้างพระเป็นประจำทุกวัน ทำไปแจกไป ท่านมักนำพระไปแจกในขณะที่ออกไปบิณฑบาตด้วยเสมอ
แจกแบบนับหัวตามจำนวนคนในครัวเรือนกันเลยทีเดียว คนในพื้นที่จึงไม่ค่อยจะเห็นคุณค่าของพระสมเด็จวัดยวดนี้กัน

เวลาที่ทางวัดมีงาน ท่านจะนำพระพิมพ์เนื้อผงฯ วัดสัมฤทธิ์นี้เข้าร่วมพิธีสำคัญต่างๆ ทุกครั้ง
และนำพระบางส่วนมาปั๊มตราวัดด้วยหมึกสีแดงที่ด้านหลัง ใส่ซองพลาสติก (ซองยา)
เตรียมให้เจ้าอาวาสแจกตอบแทนแก่ญาติโยมผู้มาร่วมงานและร่วมทำบุญที่วัด
แสดงถึงเจตนาในการสร้างพระของท่านที่มุ่งเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ตามเจตนาเดิมของผู้ทรงอภิญญาที่สร้างผงอิทธิเจนี้บรรจุกรุไว้แต่โบราณกาล
มิได้มีจิตเจตนาด้านพุทธพาณิชย์แต่ประการใด

หลวงตายมได้หยุดสร้างพระสมเด็จวัดยวดในราวๆ ปี ๒๕๓๔ และหันไปจับงานวาดภาพสีน้ำแทน
แต่ท่านได้เหลือผงฯ ที่ท่านผสมแล้วไว้จำนวนหนึ่ง อีกทั้งแม่พิมพ์พระสมเด็จของท่านไว้ที่วัดทั้งหมด
ซึ่งต่อมา พระพิจารย์ ขันติโพ พระในวัดยวดที่เป็นผู้อุปัฏฐากดูแลท่านได้นำผงฯ ที่ท่านผสมไว้นี้ไปสร้างพระสมเด็จวัดยวดขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง