ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    Adepto Perfectus = dutchsinse
    10 ชั่วโมงที่แล้ว ·
    7.0M earthquake Alaska -- Aleutian Islands...

    M7.0 - 94km ESE of Adak, Alaska 2013-08-30 16:25:02 UTC

    วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เว็บภัยพิบัติ
    เมื่อ 23.25 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 บริเวณ กลุ่มเกาะแอนเดรียน หมู่เกาะอะลูเชียน , อลาสกา ที่ความลึก 34.50 กม.
    เมื่อ 23.25 ตามเวลาไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.8 บริเวณ กลุ่มเกาะแอนเดรียน หมู่เกาะอะลูเชียน , อลาสกา ที่ความลึก 33.00 กม.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      367.7 KB
      เปิดดู:
      1,335
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2013
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุฝุ่นดาวบุกระบบสุริยะ
    28 สิงหาคม 2546รายงานโดย: วิมุติ วสะหลาย (wimut@hotmail.com)
    นับตั้งแต่ปี 2535 ยานยูลีสซีสได้สำรวจระบบสุริยะมาอย่างต่อเนื่องจากหลายมุมมอง ภารกิจหนึ่งในหลายภารกิจของยูลีสซีสคือ สำรวจกระแสของฝุ่นดาวที่พัดผ่านระบบสุริยะ ปัจจุบันดวงอาทิตย์พุ่งผ่านกลุ่มเมฆของฝุ่นดาวก้อนหนึ่งด้วยอัตราเร็ว 26 กิโลเมตรต่อวินาที ด้วยอัตราเร็วเท่านี้ ฝุ่นแต่ละเม็ดจะใช้เวลา 20 ปีในการเดินทางผ่านระบบสุริยะ จากการสำรวจด้วยอุปกรณ์ที่ชื่อว่าดัสต์ของยานพบว่าสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์มีผลต่อกระแสของฝุ่นดาวอย่างมาก

    ในช่วงทศวรรษ 1990 สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์แผ่ออกไปไกลจากระบบสุริยะ ช่วยป้องกันฝุ่นดาวส่วนใหญ่ไม่ให้เข้ามายังระบบสุริยะส่วนในได้ จากข้อมูลล่าสุดจากยานยูลีสซีสที่สำรวจมาจนถึงปี 2545 แสดงว่าในช่วงกัมมันต์สูงสุดของดวงอาทิตย์ที่ผ่านมาสนามแม่เหล็กได้อ่อนกำลังลง ทำให้มีฝุ่นดาวแพร่เข้ามายังระบบสุริยะมากขึ้นกว่าปกติถึงสามเท่า

    สาเหตุที่สนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์อ่อนกำลังลงเนื่องจากในช่วงกัมมันต์สูงสุดสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์เกิดความปั่นป่วนและไร้ระเบียบอย่างมากอีกทั้งยังมีการสลับขั้วอีกด้วย จึงเปิดช่องทางให้ฝุ่นดาวจากนอกเขตระบบสุริยะแทรกซึมเข้ามาได้ ต่างจากในช่วงที่กัมมันต์ต่ำซึ่งสนามแม่เหล็กจะมีรูปแบบเป็นขั้วคู่ชัดเจน จึงเป็นปราการป้องกันฝุ่นดาวที่มีประสิทธิภาพ

    ฝุ่นดาวมีขนาดเล็กมาก มีเส้นผ่านศูนย์กลางราวหนึ่งในหนึ่งร้อยของเส้นผมเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีผลโดยตรงต่อดาวเคราะห์และโลก อย่างไรก็ตาม โลกยังคงได้รับผลทางอ้อมจากปรากฏการณ์นี้ เนื่องจากฝุ่นเหล่านี้เคลื่อนที่เร็วมาก เมื่อชนเข้ากับดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางจะทำให้เกิดชิ้นส่วนแตกหลุดออกมา กลายเป็นการเพิ่มปริมาณฝุ่นในระบบสุริยะ จำนวนฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์ที่จะตกลงสู่โลกจึงเพิ่มมากขึ้นด้วย จากการวัดพบว่า ในแต่ละปีมีฝุ่นจากดาวเคราะห์น้อยและดาวหางตกลงสู่โลกถึง 40,000 ตัน
    ----------------------------------
    [​IMG]
    ดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์ข้างเคียงขณะเคลื่อนที่ตัดสายธารของเมฆดาราจักร (ภาพจาก P. C. Frisch, University of Chicago). ดูภาพประกอบ

    http://thaiastro.nectec.or.th/news/2003/news2003aug01.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.1 KB
      เปิดดู:
      1,155
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล แชร์ รูปภาพ ของ End Time Headlines
    12 นาทีที่แล้ว ·
    เริ่มรอบใหม่ หลังเงียบได้ไม่กี่วัน

    ว่าแต่รอบนี้จะยิงยาวข้ามปีหรือไม่ มาลุ้นกัน?
    BREAKING NEWS: A series of Powerful Earthquakes has rocked Atka, Alaska measuring 6.8 and 7.0 Magnitude. M7.0 - 94km ESE of Adak, Alaska 2013-08-30 16:25:02 UTC
    1 คนที่ถูกใจ
    ถูกใจ
    แสดงความคิดเห็น
    แชร์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.6 KB
      เปิดดู:
      1,175
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    29 นาทีที่แล้ว ·
    ระวังพายุ EMP วิกฤษจากดวงอาทิตย์

    ข้อมูลจากอาจารย์ Piyacheep S.Vatcharobol บอกว่า "มหาพิบัติภัยทางธรรมชาติ อันจะเกิดขึ้นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากวันที่ ๕ กันยายนนี้เป็นต้นไป" คือ "แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หลุมยุบ พายุ แผ่นดินแยก น้ำพุร้อนพุดขึ้นบ่อใหม่ หลุมไฟร้อนๆ แม่เห็บ-ยายเห็บ รวมทั้งก้อนน้ำแข็งลักษณะแบบเป็นกั๊กๆ พายุฝนลมหมุด ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง แบบไม่ต้องมีเมฆฝน"

    "การเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ เรือ จะประสบอุบัติเหตุมากเพิ่มยิ่งขึ้น การใช้โทรศัพทืมือถือ อุปกรณ์วายฟาย จะเกิดปัญหารบกวนคลื่นสมองมากขึ้นกว่าเดิม และอาจเกิดการช้อต เครื่องระเบิดได้ ยามสนามแม่เหล็กผ่านมาในขณะที่ท่านใช้อยู่

    มหาภัยเหล่านี้จะเข้าขั้นวิกติฤมากที่สุด
    ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ ถึง ธันวาคม ๒๕๕๗
    จากนั้น โลกจะปรับสมดุลย์ กว่าจะสงบนิ่งจริง ภัยธรรมชาติลดลง ฤดูกาลปกติ ก็ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒
    https://www.facebook.com/photo.php?...97655350301889&type=1&relevant_count=1&ref=nf

    ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลที่เราได้รับรู้มาในส่วนของพายุ EMP ทั้งจากดวงอาทิตย์ และ ในส่วนที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นอาวุธลับไว้ถล่มกันเล่น.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      70.4 KB
      เปิดดู:
      1,183
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]
    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    เสัยงแปลกเหมือนแตรดังขึ้นได้ยินทั่วบริติชโคลัมเบีย, แคนาดา

    เสียงแปลก เหมือนเสียงแตรในพระคำภีร์ดังขึ้นในช่วงที่โลกกำลังจะมีสงคราม
    หลายคนงัวเงียตื่นขึ้นมากับเสียงค่อนข้างประหลาด ซึ่งก็ได้ยินในหลายส่วนของเมืองในช่วงเวลาอยู่ที่ประมาณ 07:30 เสียงที่กินเวลานานประมาณ 10 นาที - และถูกบันทึกไว้โดยคนจำนวนมาก และคลิปที่บันทึกนี้ถูกส่งไปให้กับผู้สื่อข่าวโดย คิมเบอร์ลี Wookey

    ฟัง..
    Strange Sounds in Terrace, BC Canada August 29th 2013 7:30am (Vid#1) - YouTube

    Strange Sounds in Terrace BC Canada August 29th 2013 7:30am (Vid#2) - YouTube

    Strange Sounds in Terrace BC Canada Aug 29th 2013 7:30am (vid#3) - YouTube

    เสียงที่คล้ายกันได้รับรายงานทั่วโลกในปีที่ผ่านมา - รวมทั้งรัสเซียสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา คำอธิบายต่าง ๆ ได้มีการกล่าวอ้างว่าเป็นสิ่งที่ทำขึ้น
    ศาสตราจารย์ฟิสิกส์ที่ University of Saskatchewan บอกว่าเป้นสัญญาณรบกวนแม่เหล็กไฟฟ้า มันน่าจะมาจาก auroras

    ในส่วนของพระคำภีร์ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับแตรทั้งเจ็ดในวิวรณ์ ข้อ 8.13 ว่า "แล้วข้าพเจ้าก็มองดูและได้ยินทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่บินอยู่ในท้องฟ้า ร้องประกาศเสียงดังว่า "วิบัติ วิบัติ วิบัติ จะมีแก่คนทั้งหลายที่อยู่บนแผ่นดินโลก เพราะเสียงแตรของทูตสวรรค์ทั้งสามองค์กำลังจะเป่าอยู่แล้ว"
    รูปภาพบนไทม์ไลน์ · 1 ชั่วโมงที่แล้ว ·


    ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล
    FREE Online KJV Thai Bible.
    FREE Online KJV Thai Bible.
    webcache.googleusercontent.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.3 KB
      เปิดดู:
      1,152
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol

    [​IMG]

    ผมแปลให้น่ะครับ failure is not an option. = ความล้มเหลว ไม่ได้เป็น ตัวเลือก

    สั้นๆ ง่ายๆ ตามมคำบนแก้วนะครับ — ที่ CAT Telecom Tower Bangrak
    รูปภาพบนไทม์ไลน์ · 5 นาทีที่แล้ว
    ดูภาพขนาดเต็ม · ส่งเป็นข้อความ · รายงานรูปภาพ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122 KB
      เปิดดู:
      1,159
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol
    วิกฤติณการณ์ มหาพิบัติภัยทางธรรมชาติ อันจะเกิดขึ้นหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ จากวันที่ ๕ กันยายนนี้เป็นต้นไป

    แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หลุมยุบ พายุ แผ่นดินแยก น้ำพุร้อนพุดขึ้นบ่อใหม่ หลุมไฟร้อนๆ แม่เห็บ-ยายเห็บ รวมทั้งก้อนน้ำแข็งลักษณะแบบเป็นกั๊กๆ พายุฝนลมหมุด ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง แบบไม่ต้องมีเมฆฝน

    การเดินทางโดยเครื่องบิน รถไฟ เรือ จะประสบอุบัติเหตุมากเพิ่มยิ่งขึ้น การใช้โทรศัพทืมือถือ อุปกรณ์วายฟาย จะเกิดปัญหารบกวนคลื่นสมองมากขึ้นกว่าเดิม และอาจเกิดการช้อต เครื่องระเบิดได้ ยามสนามแม่เหล็กผ่านมาในขณะที่ท่านใช้อยู่

    มหาภัยเหล่านี้จะเข้าขั้นวิกติฤมากที่สุด
    ในช่วงเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ ถึง ธันวาคม ๒๕๕๗
    จากนั้น โลกจะปรับสมดุลย์ กว่าจะสงบนิ่งจริง ภัยธรรมชาติลดลง ฤดูกาลปกติ ก็ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๖๒

    สิ่งที่ท่านต้องเตรียมการในเบื้องต้น

    ******สำคัญที่สุดคือ สติสัมปชัญญะ*****

    ต้องฝึกสติ เจริญสมาธิมากๆ เมื่อมีสติ สติจะกำหนดบทบาทพฤติกรรมของเราเอง สัญชาติญาณดีๆจากจิตใต้สำนึกจะออกมาแสดงให้ท่านรับรู้แนวทางดำรงชีวิตที่ดี

    จากนั้น จงเตรียมการต่อไปนี้

    ๑. อาหาร น้ำ ยารักษาโรคเฉพาะทาง พลังงานสำรอง อย่างน้อย ๓๐ วัน สำหรับท่านและครอบครัว

    ๒. เสื้อผ้า อุปกรณ์ผจญอากาศหนาวเย็นแบบหิมะตก

    ๓. เมล็ดพันธุ์พืช-ผัก-ผลไม้ *****สมุนไพร****ท้องถิ่นดั้งเดิม ที่ไม่ใช่ GM แบบเจี๋ยงไต๋ สำหรับปลูกอาหารกินเอง

    ๔. ข้อมูลทักษะการเกษตร การดำรงชีพในป่า

    ๕. ข้อมูลทักษณะการปฐมพยาบาลรักษาโรค

    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

    สวัสดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      407.1 KB
      เปิดดู:
      79
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jimmy Siri
    1 ชั่วโมงที่แล้ว
    เจอดอกนี้เข้าไปเล่นเอาวงแตก เมื่อมีการเปิดข้อมูล ซาอุสนับสนุนอาวุธเคมีให้กลุ่มต่อต้านใช้ในการทำสงครามกับรัฐบาลอัสซาด!!
    Don't Show Obama This Report About Who Really Is Behind The Syrian Chemical Attacks | Zero Hedge
    As we showed mere days ago, it appears the truth of who the real puppet-master in the Middle-East is becoming plainer to see. The incredibly frank discussion between Saudi's spy-chief Prince Bandar and Russia's Putin exposed a much deeper plot is afoot and the following details from the actual peopl...
    zerohedge.com

    Don't Show Obama This Report About Who Really Is Behind The Syrian Chemical Attacks | Zero Hedge

    Don't Show Obama This Report About Who Really Is Behind The Syrian Chemical Attacks
    Submitted by Tyler Durden on 08/30/2013 10:33 -0400

    China Middle East Saudi Arabia Turkey

    As we showed mere days ago, it appears the truth of who the real puppet-master in the Middle-East is becoming plainer to see. The incredibly frank discussion between Saudi's spy-chief Prince Bandar and Russia's Putin exposed a much deeper plot is afoot and the following details from the actual people on the ground in the chemically-attacked region of Syria suggest Obama is playing right into the Saudi's plan. While Obama is 'certain' that the chemical attacks took place on al-Assad's orders, as MPN reports, "from numerous interviews with doctors, Ghouta residents, rebel fighters and their families, a different picture emerges. Many believe that certain rebels received chemical weapons via the Saudi intelligence chief, Prince Bandar bin Sultan, and were responsible for carrying out the dealing gas attack."

    The narrative for public consumption is well-known and quite clear - it was all as-Assad's fault. And yet...

    Via MPN,

    ... from numerous interviews with doctors, Ghouta residents, rebel fighters and their families, a different picture emerges. Many believe that certain rebels received chemical weapons via the Saudi intelligence chief, Prince Bandar bin Sultan, and were responsible for carrying out the dealing gas attack.

    “My son came to me two weeks ago asking what I thought the weapons were that he had been asked to carry,” said Abu Abdel-Moneim, the father of a rebel fighting to unseat Assad, who lives in Ghouta.

    Abdel-Moneim said his son and 12 other rebels were killed inside of a tunnel used to store weapons provided by a Saudi militant, known as Abu Ayesha, who was leading a fighting battalion. The father described the weapons as having a “tube-like structure” while others were like a “huge gas bottle.”

    Ghouta townspeople said the rebels were using mosques and private houses to sleep while storing their weapons in tunnels.

    Abdel-Moneim said his son and the others died during the chemical weapons attack. That same day, the militant group Jabhat al-Nusra, which is linked to al-Qaida, announced that it would similarly attack civilians in the Assad regime’s heartland of Latakia on Syria’s western coast, in purported retaliation.

    “They didn’t tell us what these arms were or how to use them,” complained a female fighter named ‘K.’ “We didn’t know they were chemical weapons. We never imagined they were chemical weapons.”

    “When Saudi Prince Bandar gives such weapons to people, he must give them to those who know how to handle and use them,” she warned. She, like other Syrians, do not want to use their full names for fear of retribution.

    A well-known rebel leader in Ghouta named ‘J’ agreed. “Jabhat al-Nusra militants do not cooperate with other rebels, except with fighting on the ground. They do not share secret information. They merely used some ordinary rebels to carry and operate this material,” he said.

    “We were very curious about these arms. And unfortunately, some of the fighters handled the weapons improperly and set off the explosions,” ‘J’ said.

    Doctors who treated the chemical weapons attack victims cautioned interviewers to be careful about asking questions regarding who, exactly, was responsible for the deadly assault.

    The humanitarian group Doctors Without Borders added that health workers aiding 3,600 patients also reported experiencing similar symptoms, including frothing at the mouth, respiratory distress, convulsions and blurry vision. The group has not been able to independently verify the information.

    More than a dozen rebels interviewed reported that their salaries came from the Saudi government.
    About the report authors: Dale Gavlak is a Middle East correspondent for Mint Press News and the Associated Press. Gavlak has been stationed in Amman, Jordan for the Associated Press for over two decades. An expert in Middle Eastern Affairs, Gavlak currently covers the Levant region of the Middle East for AP, National Public Radio and Mint Press News, writing on topics including politics, social issues and economic trends. Dale holds a M.A. in Middle Eastern Studies from the University of Chicago. Contact Dale at dgavlak@mintpressnews.com Yahya Ababneh is a Jordanian freelance journalist and is currently working on a master’s degree in journalism, He has covered events in Jordan, Lebanon, Saudi Arabia, Russia and Libya. His stories have appeared on Amman Net, Saraya News, Gerasa News and elsewhere.

    For those who may have forgotten, here are the details that were exposed a few days ago...

    what are some of the stunning disclosures by the Saudis? First this:

    Bandar told Putin, “There are many common values and goals that bring us together, most notably the fight against terrorism and extremism all over the world. Russia, the US, the EU and the Saudis agree on promoting and consolidating international peace and security. The terrorist threat is growing in light of the phenomena spawned by the Arab Spring. We have lost some regimes. And what we got in return were terrorist experiences, as evidenced by the experience of the Muslim Brotherhood in Egypt and the extremist groups in Libya. ... As an example, I can give you a guarantee to protect the Winter Olympics in the city of Sochi on the Black Sea next year. The Chechen groups that threaten the security of the games are controlled by us, and they will not move in the Syrian territory’s direction without coordinating with us. These groups do not scare us. We use them in the face of the Syrian regime but they will have no role or influence in Syria’s political future.”

    It is good of the Saudis to admit they control a terrorist organization that "threatens the security" of the Sochi 2014 Olympic games, and that house of Saud uses "in the face of the Syrian regime." Perhaps the next time there is a bombing in Boston by some Chechen-related terrorists, someone can inquire Saudi Arabia what, if anything, they knew about that.

    But the piece de resistance is what happened at the end of the dialogue between the two leaders. It was, in not so many words, a threat by Saudi Arabia aimed squarely at Russia:

    As soon as Putin finished his speech, Prince Bandar warned that in light of the course of the talks, things were likely to intensify, especially in the Syrian arena, although he appreciated the Russians’ understanding of Saudi Arabia’s position on Egypt and their readiness to support the Egyptian army despite their fears for Egypt's future.

    The head of the Saudi intelligence services said that the dispute over the approach to the Syrian issue leads to the conclusion that “there is no escape from the military option, because it is the only currently available choice given that the political settlement ended in stalemate. We believe that the Geneva II Conference will be very difficult in light of this raging situation.”

    At the end of the meeting, the Russian and Saudi sides agreed to continue talks, provided that the current meeting remained under wraps. This was before one of the two sides leaked it via the Russian press.

    Since we know all about this, it means no more talks, an implicit warning that the Chechens operating in proximity to Sochi may just become a loose cannon (with Saudi's blessing of course), and that about a month ago "there is no escape from the military option, because it is the only currently available choice given that the political settlement ended in stalemate." Four weeks later, we are on the edge of all out war, which may involve not only the US and Europe, but most certainly Saudi Arabia and Russia which automatically means China as well. Or, as some may call it, the world.

    And all of it as preordained by a Saudi prince, and all in the name of perpetuating the hegemony of the petrodollar.
    Again we remind: Russia and Saudi Arabia account for 25% of global oil production, but far more importantly absent the Qatari natgas (and a potential pipeline crossing under a receptive Syrian regime - i.e., not Assad - and going into Turkey), Europe will remain beholden to every rate-hiking whim by Putin and Gazpromia.

    Average:
    4.883335
    Your rating: None Average: 4.9 (60 votes)
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผมว่าการที่เอาคนมานอนเรียงกัน และยิงทิ้ง เหี้ยมยิ่งกว่าการใช้อาวุธเคมียิงใส่ คนใจเหี้ยมขนาดนี้แม้แต่พวกเดียวกัน หรือแม้แต่ลูก หลานตัวเองก็สละได้เพื่อความสำเร็จ

    [​IMG]

    Phakpurin Pimatukan
    เมื่อวานนี้ เวลา 23:00 น.
    อย่าให้สื่อหลอกคุณ สื่อมักจะเอียงข้างละบอกเราด้านเดียว...

    นี่คือกบฏซีเรีย ที่ประหารทหารรัฐบาลทีละคนๆ
    http://www.longwarjournal.org/images/Nusrah-executes-Syrian-soldiers.png
    http://www.longwarjournal.org/images/Nusrah-executes-Syrian-soldiers.png
    longwarjournal.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.3 KB
      เปิดดู:
      2,571
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    SuperMega Terran
    เมื่อวานนี้ เวลา 21:07 น.
    ซาอุบอกรัสเซียว่าจะขายน้ำมันราคาพิเศษให้ ถ้าไม่มาจุ้นเรื่องซีเรีย

    Saudis offer Russia secret oil deal if it drops Syria - Telegraph
    Saudis offer Russia secret oil deal if it drops Syria - Telegraph
    Saudi Arabia has secretly offered Russia a sweeping deal to control the global oil market and safeguard Russia’s gas contracts, if the Kremlin backs away from the Assad regime in Syria.
    telegraph.co.uk
    Saudis offer Russia secret oil deal if it drops Syria

    OPEC raised production by 400,000 barrels per day to 29.7m
    Picture: AP

    By Ambrose Evans-Pritchard12:00PM BST 27 Aug 2013
    Saudi Arabia has secretly offered Russia a sweeping deal to control the global oil market and safeguard Russia’s gas contracts, if the Kremlin backs away from the Assad regime in Syria.

    The revelations come amid high tension in the Middle East, with US, British, and French warship poised for missile strikes in Syria. Iran has threatened to retaliate.

    The strategic jitters pushed Brent crude prices to a five-month high of $112 a barrel. “We are only one incident away from a serious oil spike. The market is a lot tighter than people think,” said Chris Skrebowski, editor of Petroleum Review.

    RELATED ARTICLES
    US shale threatens Saudi funding crisis and demise of OPEC
    Russia warns West over 'illegal' Syria intervention
    Syria: Russia 'astonished' by 'illegal' Western war plans
    Leaked transcripts of a closed-door meeting between Russia’s Vladimir Putin and Saudi Prince Bandar bin Sultan shed an extraordinary light on the hard-nosed Realpolitik of the two sides.

    Prince Bandar, head of Saudi intelligence, allegedly confronted the Kremlin with a mix of inducements and threats in a bid to break the deadlock over Syria. “Let us examine how to put together a unified Russian-Saudi strategy on the subject of oil. The aim is to agree on the price of oil and production quantities that keep the price stable in global oil markets,” he said at the four-hour meeting with Mr Putin. They met at Mr Putin’s dacha outside Moscow three weeks ago.

    “We understand Russia’s great interest in the oil and gas in the Mediterranean from Israel to Cyprus. And we understand the importance of the Russian gas pipeline to Europe. We are not interested in competing with that. We can cooperate in this area,” he said, purporting to speak with the full backing of the US.

    The talks appear to offer an alliance between the OPEC cartel and Russia, which together produce over 40m barrels a day of oil, 45pc of global output. Such a move would alter the strategic landscape.

    The details of the talks were first leaked to the Russian press. A more detailed version has since appeared in the Lebanese newspaper As-Safir, which has Hezbollah links and is hostile to the Saudis.

    As-Safir said Prince Bandar pledged to safeguard Russia’s naval base in Syria if the Assad regime is toppled, but he also hinted at Chechen terrorist attacks on Russia’s Winter Olympics in Sochi if there is no accord. “I can give you a guarantee to protect the Winter Olympics next year. The Chechen groups that threaten the security of the games are controlled by us,” he allegedly said.

    Prince Bandar went on to say that Chechens operating in Syria were a pressure tool that could be switched on an off. “These groups do not scare us. We use them in the face of the Syrian regime but they will have no role in Syria’s political future.”

    President Putin has long been pushing for a global gas cartel, issuing the `Moscow Declaration’ last to month “defend suppliers and resist unfair pressure”. This would entail beefing up the Gas Exporting Countries Forum (GECF), a talking shop.

    Mr Skrebowski said it is unclear what the Saudis can really offer the Russians on gas, beyond using leverage over Qatar and others to cut output of liquefied natural gas (LGN). “The Qataris are not going to obey Saudi orders,” he said.

    Saudi Arabia could help boost oil prices by restricting its own supply. This would be a shot in the arm for Russia, which is near recession and relies on an oil price near $100 to fund the budget.

    But it would be a dangerous strategy for the Saudis if it pushed prices to levels that endangered the world’s fragile economic recovery. Crude oil stocks in the US have already fallen sharply this year. Goldman Sachs said the “surplus cushion” in global stocks built up since 2008 has been completely eliminated.

    Mr Skrebowski said trouble is brewing in a string of key supply states. “Libya is reverting to war lordism. Nigerian is drifting into a bandit state with steady loss of output. And Iraq is going back to the sort of Sunni-Shia civil war we saw in 2006-2007,” he said.

    The Putin-Bandar meeting was stormy, replete with warnings of a “dramatic turn” in Syria. Mr Putin was unmoved by the Saudi offer, though western pressure has escalated since then. “Our stance on Assad will never change. We believe that the Syrian regime is the best speaker on behalf of the Syrian people, and not those liver eaters,” he said, referring to footage showing a Jihadist rebel eating the heart and liver of a Syrian soldier.

    Prince Bandar in turn warned that there can be “no escape from the military option” if Russia declines the olive branch. Events are unfolding exactly as he foretold.

    MORE FROM THE TELEGRAPH
    AOL boss fires executive in front of hundreds of staff
    Some Italian 'big babies' not hungry for work, says Venice manufacturer

    Poland's shale drive will transform Europe, if it does not drop the ball
    MORE FROM THE WEB

    This difficult-to-watch video illustrates the realities of Asian couples who struggle to conceive (Youtube)
    Why I Check My Luggage On Every Flight (The TIBCO Blog)
    How Iran Would Retaliate to a U.S. Strike on Syria (The Daily Beast)
    [?]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23 KB
      เปิดดู:
      1,031
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]
    Phakpurin Pimatukan
    เมื่อวานนี้ เวลา 23:07 น.
    เรามาดูซีเรียกันอีกที กบฏตอนนี้โดนไล่ต้อนขึ้นเหนือ ทางใต้ก็จนตรอก แต่ก็รังควานกรุงดามัสกัสเมืองหลวงได้ (โซนที่เขาอ้างว่าโดนรัฐบาลใช้อาวุธเคมีนั้นละ)

    สรุปนี่เป็นการ บล็อก ฝ่ายรัฐบาลอย่างชัดเจน ไม่ให้ไปไหนได้ พวกตะวันตกถ้าจะขึ้นบกถล่มชายทะเลก็สบายๆ แต่อาจแค่ยิงจรวดใส่เรื่อยๆ เครื่องบินถล่มเรื่อยๆแบบลิเบีย แล้วให้กบฏเคลียร์กันเอง เปิดทางให้แล้ว..
    http://upload.wikimedia.org/wikiped..._Civil_War.svg/725px-Syrian_Civil_War.svg.png
    http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/3/3f/Syrian_Civil_War.svg/725px-Syrian_Civil_War
    upload.wikimedia.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.1 KB
      เปิดดู:
      1,227
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]
    Kaokala Fc
    49 นาทีที่แล้ว ·
    31 ส.ค. ภูเขาไฟในอะแลสกาปะทุรุนแรง

    แองเคอเรจ 31 ส.ค.- ภูเขาไฟในรัฐอะแลสกาของสหรัฐ ปะทุรุนแรงเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น พ่นกลุ่มเถ้าถ่านสูงขึ้นไปในอากาศมากกว่า 4.8 กิโลเมตร หลังจากปะทุพ่นเถ้าถ่าน ไอร้อนและลาวาขนาดเล็กเป็นครั้งคราวตั้งแต่เดือนมิถุนายน

    ภูเขาไฟวีเนียมินอฟ อยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจ เมืองเอกของรัฐอะแลสกาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 805 กิโลเมตร มีความสูง 2,507 เมตร หอสังเกตการณ์ภูเขาไฟอะแลสกาเตือนว่า ภูเขาไฟลูกนี้อาจปะทุรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่คิดว่าเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวขนาด 7 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นในน่านน้ำนอกชายฝั่งเกาะอะดักของรัฐอะแลสกาในวันเดียวกัน และอยู่ห่างออกไปไกลถึง 1,280 กิโลเมตร แม้ว่าตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกเดียวกันก็ตาม

    (ลิ้งก์ข่าว 31 ส.ค. แผ่นดินไหว 7.0 ริคเตอร์เขย่ารัฐอะแลสกาhttps://www.facebook.com/photo.php?...80590679.24197.100003730939110&type=1&theater)

    เถ้าถ่านจากการปะทุก่อนหน้านี้ปกคลุมหมู่บ้านใกล้เคียงซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงมีประชากร 112 คนอยู่แล้ว เถ้าถ่านจากการปะทุครั้งใหม่มีปริมาณมากกว่าที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผลกระทบต่อการจราจรทางอากาศ.- สำนักข่าวไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      58.3 KB
      เปิดดู:
      1,117
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    28 นาทีที่แล้ว ·
    31 ส.ค. โอบามาลั่นโลกไม่สามารถอยู่เฉยต่อปัญหาซีเรีย

    ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐเผยว่า แม้จะเหนื่อยหน่ายกับสงคราม แต่นั่นก็ไม่ใช่คำแก้ตัวสำหรับชาติมหาอำนาจของโลกที่จะต้องละเลยหน้าที่ในการลงโทษซีเรีย หลังจากใช้แก๊สพิษทำร้ายผู้หญิงและเด็กจนเสียชีวิตไปหลายร้อยคน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน หลังจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยรายงานข่าวกรองซึ่งได้ข้อสรุปว่า รัฐบาลซีเรียได้เปิดฉากการโจมตีด้วยอาวุธเคมี ชานกรุงดามัสกัส เมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,429 ศพ ในจำนวนนี้เป็นเด็กถึง 426 คนว่า การโจมตีเช่นนี้ถือว่าเป็นการท้าทายโลก เราไม่สามารถยอมรับได้ว่า โลกที่มีผู้หญิงและเด็ก พลเรือนผู้บริสุทธิ์ ต้องมาถูกทำร้ายด้วยแก๊สอย่างน่าสยดสยองเช่นนี้

    เขาเคยกล่าวไว้แล้วว่า โลกมีพันธกรณีที่จะต้องรักษาบรรทัดฐานในการต่อต้านการใช้อาวุธเคมี และเขายังกล่าวโจมตีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ไม่มีศักยภาพที่จะจัดการเรื่องนี้ โอบามาลั่นโลกไม่สามารถอยู่เฉยต่อปัญหาซีเรีย | เดลินิวส์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.7 KB
      เปิดดู:
      75
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    22 นาทีที่แล้ว ·
    31 ส.ค. กลุ่มหัวรุนแรงในอิรักขู่โจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในอิรัก และในภูมิภาคสหรัฐหากเดินหน้าถล่มซีเรีย

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ว่า กลุ่มหัวรุนแรงชาวชีอะห์นอิรัก เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในอิรัก และในภูมิภาคหากสหรัฐปฏิบัติการโจมตีซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงเมื่อวานนี้เช่นกันว่า สหรัฐจะยังคงเดินหน้าแผนการตอบโต้การใช้อาวุธเคมีในซีเรีย

    กลุ่มหัวรุนแรงอัล-นูจาบา เป็นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งรวมทั้งกลุ่มหัวรุนแรงชีอะห์ชาวอิรัก ที่เคลื่อนไหวอยู่ทั่วซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารที่จงรักภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ซึ่งผู้นำซีเรียเป็นชาวมุสลิม “อะลาไวท์” ซึ่งเป็นนิกายย่อยของชาวชีอะห์

    กลุ่มหัวรุนแรงชาวชีอะห์ ขู่ที่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในอิรักในเดือนกันยายน ปีที่แล้ว กรณีภาพยนตร์ล้อเลียนพระศาสนามูฮัมหมัด ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการประท้วงในลิเบีย อียิปต์และเยเมน
    กลุ่มหัวรุนแรงในอิรักขู่โจมตีสหรัฐหากเดินหน้าถล่มซีเรีย | เดลินิวส์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.3 KB
      เปิดดู:
      78
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลุมยุบอีกแล้ว?

    [​IMG]

    The Event แชร์ รูปภาพ ของ ABC7
    29 นาทีที่แล้ว ·
    BREAKING NEWS: A massive house collapse in East L.A. has firefighters and search and rescue teams desperately sifting through the rubble.

    It is unclear what caused the large structure to suddenly give way.

    AIR7 HD is over the scene. Live coverage just minutes away at 11 from ABC7 Eyewitness News.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      314.9 KB
      เปิดดู:
      1,192
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมุนตามโลก
    ชนวนสงคราม
    [​IMG]
    กลายเป็นประเด็นร้อนแรงสุด ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศในตอนนี้ หลังเกิดการโจมตีด้วยอาวุธเคมี ในหลายจุดพร้อม ๆ กัน แถบชานกรุงดามัสกัส เมืองหลวงซีเรีย เมื่อวันพุธที่แล้ว ทำให้ประชาชนรวมถึงลูกเล็กเด็กแดงล้มตายบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

    ตอนแรกฝ่ายค้านซีเรียบอกว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,300 ศพ แต่กลุ่ม “แพทย์ไร้พรมแดน” องค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ บอกว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 355 ศพ จากผู้ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลทั้งหมดราว 3,600 คน ด้วยอาการของผู้ป่วยจากแก๊สทำลายประสาท

    เหตุเกิดขณะที่ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมี 20 คนขององค์การสหประชาชาติ เพิ่งจะเดินทางถึงดามัสกัส และเริ่มออกตรวจสอบภาคสนาม ตามข้อกล่าวอ้างมีการใช้อาวุธเคมีใน 3 เมืองของซีเรียก่อนหน้านี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลักสิบต้น ๆ การตรวจสอบน่าจะเริ่มที่เหตุการณ์ล่าสุดก่อน หลังจากได้รับอนุญาตจากทางการซีเรีย เมื่อวันอาทิตย์ (25 ส.ค.)

    การโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งหลังสุดนี้ ถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญสุดของสงครามกลางเมืองซีเรีย ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 29 เดือน ระหว่างทหารกองทัพรัฐบาลของประธานา ธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และฝ่ายกบฏ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 1 แสนศพ ก็ว่าได้ เพราะจะเป็นจุดเริ่มไปสู่การรบแบบรู้ผลแพ้ชนะในอีกไม่นาน จากการโดดเข้าไปร่วมแบบเต็มตัวของคนนอก

    ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายกบฏต่างก็โทษเป็นฝีมือของอีกฝ่าย การตรวจพิสูจน์คงไม่ยากสำหรับทีมผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเมื่อฟันธงออกมาแล้ว ความปั่นป่วนจะเริ่มตอนนั้น แต่เท่าที่จับกระแสข่าวดูตอนนี้ ส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายรัฐบาล เพราะเป้าหมายโจมตีล้วนแต่เป็นพื้นที่ยึดครองของฝ่ายกบฏ

    นายชัค ฮาเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ซึ่งกำลังเดินทางเยือนหลายประเทศในเอเชีย แถลงที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย เมื่อวันอาทิตย์ ว่า กองทัพสหรัฐพร้อมแล้วที่จะปฏิบัติการทางทหารต่อรัฐบาลซีเรีย รอเพียงคำสั่งจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ซึ่งกำลังปรึกษาหารือเจ้าหน้าที่ระดับสูง และบรรดาประเทศพันธมิตร

    ก่อนหน้านี้โอบามาเคยประกาศว่า หากรัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีและชีวภาพ ที่มีอยู่ในสต๊อกหลายร้อยตันโจมตีพลเรือน จะถือเป็นการล้ำ “ขีดเส้นแดง” ที่สหรัฐจำเป็นจะต้องเข้าแทรกแซง แม้ว่าตามจริงไม่อยากจะก่อสงครามอีก เพราะเพิ่งจะมีบทเรียนราคาแพงจากสมรภูมิอัฟกานิสถานและอิรัก ซึ่งกว่าจะหาทางออกได้แบบไม่เสียหน้ามากก็แทบแย่

    เมื่อวันเสาร์ โอบามาเรียกประชุมฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ทั้งรองประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน รัฐมนตรีต่างประเทศ กลาโหม ผอ.ซีไอเอ และผู้นำเหล่าทัพ นอกจากนั้น ยังโทรศัพท์ถึง นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ ประเทศพันธมิตรร่วมศึกสงครามกันแทบทุกสมรภูมิในช่วงหลัง

    ขณะเดียวกัน กองทัพสหรัฐสั่งเคลื่อนกำลังเรือรบ ในน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอ่าวเปอร์เซีย ให้เข้าไปใกล้ซีเรีย ซึ่งอยู่ริมฝั่งทางตะวันออกสุดของเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อสร้างแรงกดดันอีกด้าน

    นักวิเคราะห์มองว่า หากผลการตรวจพิสูจน์ออกมาว่า การโจมตีด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันพุธเป็นฝีมือของกองทัพซีเรีย และโอบามา ไฟเขียวกองทัพสหรัฐปฏิบัติการทางทหาร การโจมตี ซึ่งฮาเกลบอกว่าเตรียมแผนไว้พร้อมทุกสรรพกำลัง จะต้องรุนแรงและเด็ดขาด แบบยกหรือไม่เกินสองยกรู้ผล เพื่อยับยั้งการตอบโต้ของกองทัพซีเรีย ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า เครือข่ายระบบป้องกันภัยทางอากาศ ในโลกนี้เป็นรองแค่เกาหลีเหนือกับรัสเซียเท่านั้น

    ฮุสเซน อิบบิช นักวิเคราะห์ตะวันออกกลาง ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษอเมริกัน ฝ่ายกิจการปาเลสไตน์ เชื่อว่า ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐต่อซีเรีย มีความเป็นไปได้ แต่สหรัฐจะไม่ส่งทหารเข้าไปยุ่งเกี่ยวเต็มตัวเหมือนอัฟกานิสถานหรืออิรัก โดยจะใช้วิธีโจมตีทางอากาศ หรือยิงถล่มจากฐานทัพลอยน้ำเป็นหลัก

    ซีเรียและอิหร่านประเทศพันธมิตรบอกว่า หากสหรัฐตัดสินใจโจมตีซีเรียเมื่อไหร่ รับรองภูมิภาคตะวันออกกลางจะลุกเป็นไฟแน่นอน

    เลนซ์ซูม/สังคมโลก
    เดลินิวส์ออนไลน์, วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2556
    ชนวนสงคราม | เดลินิวส์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      230.8 KB
      เปิดดู:
      1,257
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การล้างโลกอธรรม ตามพุทธทำนายปี 2556 ตอนที่ 2

    ประเด็นที่น่ากลัวคือมหันตภัยที่รุนแรงซึ่งมนุษยชาติไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และมหันตภัยนี้เป็นที่ยอมรับของนักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานการศึกษาวิจัย มีพุทธทำนายที่พระพุทธเจ้าโคตมตรัสไว้ และมีพยากรณ์โลกรองรับ ที่บ่งบอกในเรื่องเดียวกัน พวกเราควรสนใจไหมครับ

    สิ่งที่กล่าวชี้แนะว่ามหันตภัยโลกมีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้นั้น นับว่าทำไมวิทยาศาสตร์ ศาสนาและพยากรณ์ถึงชี้ในเรื่องเดียวกันประจวบเหมาะพอดีแบบนี้ พวกเราควรถือเอาประโยชน์นี้ มาทำความกระจ่างให้กับการอยู่รอดของทุกชีวิตบนโลกว่า จะทำอย่างไรต่อไป เพราะยังพอมีเวลาอยู่ ถึงแม้จะมีเวลาน้อยมากก็ตาม ก็ยังดีกว่าหมดเวลาแล้ว และยังดีกว่าที่พวกเราจะคิดหนี หรือคิดไปว่าการล้างโลกอธรรมไม่เกิดขึ้น ขอให้คิดถึงคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้าโคตมว่าผู้เป็นอริยะจะไม่มีความประมาทอยู่ในจิต

    ในเรื่องการที่จะหนีให้พ้นจากการล้างโลกอธรรมลูกนี้ ตามพยากรณ์นั้น โอกาสรอดชีวิตไม่มี ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสโคตมในพุทธทำนายชัดเจนว่าพวกอธรรมไร้ศีลธรรมจะหมดไปจากโลก ผู้ที่รอดชีวิต คือท่านต้องเป็นคนดีมากๆ คือมีคุณธรรมในจิตใจและปฏิบัติได้ด้วยกาย วาจาและใจ ถึงจะมีโอกาสรอดจากการล้างโลกอธรรมครั้งนี้ ด้วยการช่วยเหลือจากจอมเทพหรือท้าวสักกะเทวราชหรือ (The Creator God) สำหรับทางด้านวิทยาศาสตร์อะไรเกิดขึ้น ซึ่งจะได้กล่าวถึงเหตุและผลต่อไป ฉะนั้นโปรดทำความเข้าใจเรื่องที่จะกล่าวต่อไปให้เข้าใจ

    เรื่องที่จะกล่าวครอบคลุมหลายสิ่งเข้าด้วยกัน และจะขอพิจารณาเฉพาะเรื่องที่เป็นไปทางธรรมชาติเท่านั้น จะไม่ขอกล่าวว่าจะเกิดสงครามโลกด้วยรังสีแกมมา(Gamma ray) มาสู่ชีวิตบนโลก ซึ่งเป็นผลมาจาก Electromagnetic Pulse Bomb (EMP Bomb) ในอวกาศ แต่จะกล่าวถึงเรื่อง EMP เดียวกันนี้ที่จะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติเป็นเหตุให้เกิดมหันตภัยถึงขั้นล้างโลกด้วย 3 กรณี ดังนี้

    I. พายุสุริยะครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้น นำไปสู่มหันตภัยล้างโลก
    II. เส้นแรงแม่เหล็กโลกกลับขั้ว ซึ่งในเวลานี้มีโอกาสมาก แล้วเกิด
    มหันตภัยล้างโลก
    III. ทั้งสองรายการ ทั้งพายุสุริยะและเส้นแรงแม่เหล็กโลกกลับขั้ว

    มหันตภัยทั้ง 3 ข้อดังกล่าว โดยสรุปของการคาดการงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จะเกิดขึ้นในช่วงพยากรณ์ประมาณปลายปี 2555 และปี 2556 พุทธทำนายบ่งไว้ 2556 และหลักฐานที่มายัน (Mayan) และแอซเทค (Aztec) ซึ่งได้กล่าวถึงโลกในยุคที่ 5 โดยจะถือว่า 21 ธันวาคม 2012 เป็นจุดสิ้นสุดของยุค 4 และเริ่มต้นยุคที่ 5 ต่อไป

    ถ้ามหันตภัยล้างโลกดังที่กล่าวเกิดขึ้น จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปบนโลกอย่างรวดเร็ว และจะทำลายชีวิตลงด้วยไฟจากฟ้า มหาพายุและน้ำท่วม และแผ่นดินไหวใหญ่ พุทธทำนายบ่งถึงขั้นแผ่นดินถล่มเป็นทะเล บรรยากาศโลกจะถูกเผาผลาญ ด้วยรังสีแกมมา(Gamma ray) แล้วท่านจะหนีไปไหน นอสตราดามุสบ่งบอกถึงฝนตกต่อเนื่องเป็นหลายๆ เดือน ซึ่งเป็นไปได้จากการที่โลกร้อนขึ้น น้ำแข็งบนพื้นโลกในที่ต่างๆ ละลาย US-Geology Survey (USGS) ได้คาดการมาแล้วน้ำจะสูงขึ้นอีก 60-70 เมตร สำหรับน้ำแข็งในทะเลและมหาสมุทรละลายไม่มีผลการเพิ่มปริมาณความสูงของระดับน้ำ แถมสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง เกิดมหาพายุอย่างต่อเนื่อง
    อย่างนี้ไม่กล่าวว่าเป็นการล้างโลกอธรรม แล้วควรกล่าวว่าอะไรครับ การเกิดมหันตภัยล้างโลกครั้งนี้ ตามพุทธทำนายจะดำเนินต่อเนื่องไปถึง 7 ปี .......
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปีที่ ๙ ฉบับที่ ๑๐ Un title page
    อาวุธพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า (EMP) น.ท.ศิลป์ พันธุรังษี

    หน้า 1
    สงครามในทศวรรษหน้ามีแนวโน้ม การใช้ยุทธวิธีที่เปลี่ยนแปลงไป จากการใช้กำลังในรูปแบบเดิม
    ไปสู่สงคราม ข้อมูลข่าวสาร การสะสมยุทโธปกรณ์เพียงอย่างเดียวด้วย งบประมาณมหาศาล อาจจะไม่มีโอกาสใช้อาวุธเหล่านั้น เนื่องจากจะถูกทำลายด้วยอาวุธ EMP ประเทศที่ไม่เคยมีศัตรู อยู่ด้วยความสงบสุข มิได้ตั้งอยู่ในพื้นที่สงคราม แต่อยู่ในรัศมีทำลายล้างของอาวุธ EMP จะได้รับผลเสียหายตามไปด้วย
    นิยามของอาวุธ EMP
    คืออาวุธที่ใช้พัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Pulse) สามารถทำลายหรือ ทำความเสียหายต่อเป้าหมายซึ่งได้แก่ระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ใด ๆ ที่มี ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นองค์ประกอบ
    แหล่งกำเนิด
    อาวุธ EMP มีแหล่งกำเนิด ๒ ประการคือ เกิดจากระเบิดนิวเคลียร์ระดับสูง (High Altitude Nuclear Explosion, HANE) และระเบิดอิเล็กทรอนิกส์ (Electromagnetic Bomb, E-Bomb) หรือรู้จักกันในนามระเบิดไมโครเวฟ (High Power Microwave, HPM)
    HANE คือการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ระดับสูง ซึ่งทำให้เกิดรังสีเอกซ์ทำลายอุปกรณ์ ในอวกาศ
    เช่นดาวเทียม กระสวยอวกาศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเกิดรังสีแกมม่า เป็นตัวกระตุ้นพลังงานให้กับโมเลกุล
    ในอากาศ ส่งผลให้เกิดอิเล็กตรอนจำนวนมาก มีทิศทางตามการเคลื่อนที่ของรังสี หลักการเกิดนี้เรียกว่า "Compton effect"1 ตามรูปที่ ๑ เมื่ออิเล็กตรอนวิ่งในสนามแม่เหล็กโลก จะทำให้เกิด EMP หรือ HEMP มีย่านความถี่ต่ำกว่า ๑๐๐ Mhz แต่แถบความถี่กว้าง และเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์จำนวนมาก
    ระเบิด E-Bomb หรือระเบิดไมโครเวฟ มีแถบความถี่แคบกว่า HANE แต่ครอบคลุมความถี่สูงกว่า HEMP และฟ้าผ่า คือในช่วง ๑๐๐ Mhz ถึง ๑๐๐ Ghz โดยที่ความเข้มของสนาม ขึ้นอยู่กับขนาดแรงระเบิด การเลือกใช้ความถี่ไมโครเวฟด้วยเหตุผลคือคลื่นในย่านนี้ เหมาะสำหรับการแพร่ในชั้นบรรยากาศ
    แอตโมสเฟียร์ และชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความอ่อนไหวต่อคลื่นนี้ อีกทั้งยังสามารถใช้ สายอากาศขยายสัญญาณได้อีก E-Bomb ต้องใช้พลังงานสูงในการขับ EMP ปัจจุบันมีหลักการผลิต ๓ แนวทาง2 คือใช้แรงระเบิดขับ ฟลักซ์ที่ถูกบีบอัด (Flux Compression Generator, FCG)
    ไมโครเวฟกำลังสูง (High Power Microwave, HPM) และ Magneto-Hydrodynamic (MHD)
    Generator FCG3 ใช้การสร้างแหล่งขับระเบิด ที่บรรจุในท่อทองแดงรูปทรงกระบอก ทำหน้าที่เป็น แกนอาเมเจอร์ พันด้วยลวดทองแดง ๒ ช่วง เป็นสเตเตอร์ เพื่อเหนี่ยวนำพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า เปลือกนอกห่อหุ้มด้วยปูนซีเมนต์หรือ ไฟเบอร์กล๊าสอัดด้วยอิพอกซี่กั้นกลางระหว่าง ลวด ๒ ช่วง
    ตามรูปที่ ๒

    รูปที่ ๒ ตัวขับระเบิดไมโครเวฟแบบ FCG
    กระแสไฟฟ้าแรงสูงจะกระตุ้นขับการระเบิดที่แกนอาเมเจอร์เป็นรูปกรวย ในขณะที่กระแสไฟฟ้า ถูกแยก จะเกิดการบีบอัดสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าที่มีพัลส์สูงมาก ก่อนที่อุปกรณ์จะระเบิดออก วิธีนี้ให้ความถี่สูงกว่า ๑ Mhz ขึ้นไป ปัจจุบันมีขนาดกำลังงานสูงสุดถึงเทอราวัตต์
    HPM4 เป็นเทคโนโลยีเก่าที่สร้างพลังงานสำหรับคลื่นไมโครเวฟในการสื่อสาร (เช่น TWT) เทคโนโลยีมีการปรับปรุงเรื่อยมาจากไคลตรอน แมกเนตรอนหรือไตรโอด เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าแรงสูง ใช้ขับบีมอิเล็กตรอน จากคาโธดไปสู่ อาโหนดหรือเวอร์เคเตอร์ (Vircator, Virtual Cathode Ray
    Oscillator) ส่งผลให้เกิดเรโซแนนซ์ด้านหลังอาโหนด สามารถปรับจูนความถี่ออกสู่สายอากาศได้ วิธีนี้สามารถแก้ไขข้อจำกัดของ FCG ที่ไม่สามารถใช้งานความถี่ต่ำกว่า ๑ Mhz ปัจจุบันมีขนาดกำลังงาน
    ระหว่าง ๑๗๐ กิโลวัตต์ ถึง ๔๐ กิกะวัตต์ กำลังขับขั้นแรกอาจสร้างจาก วงจร Marx Generator5
    ตามรูปที่ ๓ สำหรับอุปกรณ์ประกอบเช่นท่อนำคลื่นสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ High Temperature Superconductor (HTS)6 ช่วยลดขนาดชิ้นส่วนลง ๑๐ เท่า ตามรูปที่ ๔
    รูปที่ ๓ วงจร Mark Generator
    รูปที่ ๔ เทคโนโลยี HTS ลดขนาดท่อนำคลื่น 10 เท่า
    MHD ซึ่งเป็นการสร้างสนามแม่เหล็กแบบฟิวส์ชัน โดยการยิงพลาสมาหรือแก๊ส ที่ไอโอไนซ์ด้วยความเร็วสูงผ่านสนามแม่เหล็ก ที่ถูกกักกัน เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าต้านการ
    แพร่คลื่นที่เรียกว่า Shear Alfv'en Wave ควบคุมการเคลื่อนที่ขยายเป็นทอดต่อเนื่อง เป็นรูปกรวย Anisotropic ทำให้เกิดกระแสไหลย้อนทิศทางการเคลื่อนที่ของพลาสมา สามารถผลิตพลังงาน ฟิวส์ชัน
    ตั้งแต่ ๑๐ เมกะวัตต์ ขึ้นไป ข้อดีคือ มีขนาดกะทัดรัด นับเป็นหลักการสร้างพลังงานสำหรับอนาคตแบ่ง
    เป็น ๒ แนวทางคือโทคามัค (Tokamac)7 ตาม รูปที่ ๕ และ สเตลลาเรเตอร์ (Stellarator)8 ต่างจากโทคามัคคือสนามถูกกักกันจากคอลย์ภายนอกและไม่ขึ้นอยู่กับกระแสพลาสมา อุปกรณ์ที่สำคัญ
    ได้แก่ Large helical Device(LHD) สร้างที่เมืองโตกิ, ญี่ปุ่น ในปี ๑๙๙๘ และ Vendelstein VII-X
    เยอรมัน ตามรูป ที่ ๖

    รูปที่ ๕ MHD แบบโทคามัค
    รูปที่ ๖ MHD แบบสเตลลาเรเตอร์ สามารถ ทดแทนพลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต
    ความเสี่ยงต่อประเทศไทย
    รัศมีทำการของ HANE ขึ้นอยู่กับความสูงของการระเบิด (Height of Burst, HOB) ตาม สมการระยะทาง
    RT = Re cos-1[Re /( Re + HOB)]
    เมื่อ Reคือรัศมีของโลก ระเบิดที่ความสูง ๓๐๐ กม. จะมีรัศมีครอบคลุม ๑,๙๒๐ กม. และระเบิดที่ความสูง
    ๓๐๐ กม.จะมีรัศมีครอบคลุม ๒,๔๕๐ กม. ดังนั้นการเกิด HANE ที่อินเดียจะมีรัศมีครอบคลุมถึงประเทศไทย
    ทั้งนี้ความรุนแรงมิได้สัมพันธ์กับระยะทางจากจุดระเบิดถึงเป้าหมาย แต่สัมพันธ์กับจุดที่เกิดพัลส์ และขนาดของระเบิด(ตัน) โดยปกติระเบิดนิวเคลียร์ขนาด ๕๐ กิโลตัน (ขนาดเบา) จะให้ EMP สูงสุด ๕๐ kV ที่ที่ระยะทาง ๕ เท่าของความสูงแต่ความแรงลดลงเพียง ๒๕% เช่น ความสูง ๕๐๐ กม. สำหรับระเบิด ๕๐
    กิโลตัน ให้ความแรงสูงสุด ๕๐ กิโลโวลต์/เมตร ที่จุดระเบิด แต่ห่างออกไปทางทิศใต้ของ สนามแม่เหล็กโลก ๒,๕๐๐ กม. จะมีความแรง ๓๗.๕ กิโลโวลต์/เมตร เพียงพอที่จะทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับบริเวณ เส้นศูนย์สูตรซึ่งมีสนามแม่เหล็กโลกน้อย รูปที่ ๗ รัศมีครอบคลุมของ HANE (HOB คือความสูงของ
    การระเบิด)ความแรงของของสัญญาณก็จะลดลง ที่สำคัญคืออิเล็กตรอนที่วิ่งสวนทางหรือขวางกับ สนามแม่เหล็กโลกเท่านั้นที่จะเกิด EMP หากอิเล็กตรอนเคลื่อนที่ตามสนามแม่เหล็กโลกจะเกิด EMP
    น้อยมาก
    ตามรูปที่ ๗
    สำหรับระเบิดไมโครเวฟสามารถสร้างเป็นอาวุธนำวิถี ติดตั้งบนยานรบแบบต่างๆ ทั้งแบบกระเป๋าหิ้ว
    บนเครื่องบิน และติดตั้งบนดาวเทียม สามารถควบคุมความถี่ และขยายความรุนแรงโดยใช้สายอากาศ
    ตามรูปที่ ๘ ใช้ทำอันตรายอุปกรณ์ได้ทั้งเชิงรับและเชิงรุก โดยให้ระเบิดเหนือเป้าหมายตามความสูงและบีมที่ต้องการ ตามรูปที่ ๙
    การทะลุทะลวงของ EMP เข้าสู่อุปกรณ์
    รูปที่ ๘ การใช้สายอากาศขยาย E-Bomb
    รูปที่ ๙ การควบคุมบีมให้ทำลายเฉพาะจุด
    จุดเข้าสู่อุปกรณ์ มีหลายเส้นทางที่คลื่น จะแพร่เข้าไปในอุปกรณ์ได้ ถ้า EMP แพร่เข้าทางสายอากาศ หรือเซ็นเซอร์อื่นๆ เช่นทรานซ์ดิวเซอร์ ก็จะเรียกว่าเข้าทาง"ประตูหน้า (Front Door)" หากคลื่นแพร่
    เข้าทางรอยต่อ หน้าจอ ท่อร้อยสาย สายไฟฟ้า จะเรียกว่า "ประตูหลัง (Back Door)" ปกติ EMP มีการทะลุทะลวงผ่านอาคาร เรือหรือยานพาหนะได้ ๓ แบบ
    ๑ การทะลุทะลวงเข้าทางช่องเปิด (Aperture penetration) ซึ่งรวมถึง ประตู หน้าต่าง รูเจาะหรือรอยแตก ช่องระบายอากาศ สายเคเบิลที่ที่ชิลด์ไม่ดี และสายดินที่ติดตั้งไม่เรียบร้อย สัญญาณ EMP จะทะลุทะลวงตามขนาดของ ช่องเปิด ชนิดของโครงสร้างอาคาร หรือเรือ ตลอดจนตำแหน่งที่ตั้ง ได้ทั้งสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า การป้องกันที่ดีที่สุดได้แก่การปิดล้อมในลักษณะกล่องปิด
    ๒ การแทรกซึมผ่านชิลด์ (Diffusion Penetration) ผ่านทางผนังที่มีค่าตัวนำไม่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่สนามแม่เหล็กจะซึมผ่านได้ดีกว่าสนามไฟฟ้า โดยเฉพาะความถี่จะแทรกซึมได้มาก การชิลด์แข็ง การชิลด์แบบรีบาร์ สามารถลดการ แทรกซึมลงได้
    ๓ เข้าโดยตรงทางสายอากาศ หรือสายไฟฟ้า เนื่องจากสายอากาศ ออกแบบไว้สำหรับดักรับสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าและยังมีวงจรช่วยขยายสัญญาณ ส่วนสายไฟฟ้าก็รับสัญญาณไฟฟ้า โดยตรง ส่วนใหญ่สายอากาศจะมีวงจรกรองเฉพาะแถบความถี่ที่ต้องการ สำหรับสายไฟฟ้า ก็จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก แต่การป้องกันทั้ง ๒ ประการยังไม่เพียงพอ
    สำหรับ EMP
    อันตรายของ EMP
    EMP เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ที่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นองค์ประกอบใน ๔ ระดับ 9 คือ
    ๑. ปฏิเสธการใช้งาน (Deny หรือ Upset หรือ Jam) คือขีดความสามารถในการปฏิเสธ การใช้งานโดยไม่ทำลายระบบ กล่าวคือระดับความแรงเช่นเดียวกับการรบกวนในสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    EMP อาจเข้าไปหยุดการทำงานของชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่งชั่วขณะเช่นรีเลย์สวิตช์ การเปลี่ยนสถานะ
    เฉพาะครั้ง (Single Event Upset, SEU) หรือเปลี่ยนลอจิก โดยเฉพาะสวิตช์ต่างๆ สถานะทางดิจิตอลที่เปลี่ยนจากศูนย์เป็นหนึ่ง เป็นการควบคุมการทำงาน การปิด-เปิด หรือการสั่งงานทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะลอจิกเกตต่างๆ
    ๒. ลดทอนสมรรถนะของระบบ (Degrade หรือ Lock-up) คือปฏิเสธขีดความสามารถในการใช้งาน
    แบบถาวร แต่ก็ทำลายชิ้นส่วนเพียงเล็กน้อย เช่นเดียวกับการปิดเปิดอุปกรณ์ การกระโดดข้ามฟังก์ชัน ล็อคบางฟังก์ชัน พนักงานอาจจะต้อง เปิดเครื่องใหม่อีกรอบจึงจะทำงานได้ ในยามสงครามเวลาในการบูตเรดาร์ใหม่ก็เพียงพอสำหรับการเข้าโจมตีโดยเครื่องบิน
    ๓. ทำให้เสียหาย (Damage หรือ latch-up) หมายถึงการทำลายในระดับกลางต่ออุปกรณ์
    สื่อสารระบบอาวุธ หรือระบบย่อยของฮาร์ดแวร์ เพื่อหยุดยั้งขีดความสามารถของข้าศึกในระยะเวลาหนึ่ง แต่บางครั้งก็สามารถทำลายอุปกรณ์อย่างถาวรได้
    ๔. ทำลาย(Destroy)หมายถึงการสร้างความหายนะให้อุปกรณ์แบบถาวร ทำให้ข้าศึกต้องเปลี่ยนอุปกรณ์หรือระบบทั้งหมด
    (๑) สารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) มีความอ่อนไหวต่อทรานเซี่ยน ของ EMP อาทิ เช่นชิ้นส่วนทรานซิสเตอร์ และไดโอด ส่วนใหญ่จะเกิดการหลอมเหลวช่วงรอยต่อ (P-N Junction) ทำให้เกิดการลัดวงจร
    (๒) ชิ้นส่วนเชิงรับ (Passive Elements) มีความอ่อนไหวต่อกระแสที่เหนี่ยวนำจาก EMP โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่มีค่าความทนทานต่อกระแส หรือแรงดัน (Rate) ต่ำ เช่นตัวต้านทาน กระแสเหนี่ยวจะทำให้เกิดความร้อนและแรงดันพัง ส่วนตัวเก็บประจุจะสะสมแรงดันตามเวลาและพังใน ที่สุด หม้อแปลงไฟฟ้า และตัวนำไฟฟ้า อาจทนต่อแรงดันได้ถึง ๕ กิโลโวลต์ ตัวอย่างค่าแรงดันพังตามตารางที่ ๑
    ชิ้นส่วนอุปกรณ์ แรงดันพัง (V)
    1. Bipolar Transistor 15-65
    2. Field Effect Transistor (FET) 10
    3. Dynamic RAM (DRAM) 7
    4. ชิ้นส่วนอื่นของคอมพิวเตอร์ 7
    5. ลอจิก CMOS 7-15
    6. ไมโครโพรเซสเซอร์ ประมาณ 5
    7. Power Supply 2000-3000
    ตารางที่ ๑ ตัวอย่างแรงดันพัง
    หลักนิยมในการใช้อาวุธพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้าด้วยหลักการของสงครามข้อมูลข่าวสาร คือองค์ภาครัฐ
    ทางทหาร และทางเศรษฐกิจจะไม่สามารถทำงานได้ถ้าปราศจากการไหลของข้อมูลข่าวสาร ภาคเศรษฐกิจ และภาครัฐจะให้ความสำคัญของข้อมูลคอมพิวเตอร์ มิอาจถูกทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงไป ส่วนทางทหารจะเน้นทั้งข้อมูลในส่วนของคอมพิวเตอร์อันได้แก่ระบบสารสนเทศทั้งเพื่อการบริหารและ
    เพื่อการยุทธ นอกจากนี้ยังต้องใช้ประโยชน์ข้อมูลข่าวสารสนับสนุนฝ่ายเรา และทำลายข้อมูลข่าวสารข้าศึก ตั้งแต่เซ็นเซอร์ การสื่อสาร การประมวล จนกระทั่งการนำเสนอ ตัดวงจรการตัดสินใจ (OODA)
    ในการใช้งานเชิงรุกสามารถใช้ EMP ทำลายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในช่วงเริ่มต้นของการรบ หากฝ่ายตรงข้ามไม่มีการป้องกัน EMP ที่เพียงพอจะสามารถทำลายระบบ C3I ยานพาหนะ เรือรบ
    เครื่องบิน รถถัง ทีวี วิทยุ โทรศัพท์ ระบบไฟฟ้าและอื่น ๆ มิให้ใช้ราชการได้ จากนั้นก็ทำการรบแบบเดิม ซึ่งฝ่ายเรามีอาวุธพร้อม แต่ยุทโธปกรณ์ข้าศึกส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ ราชการได้
    ในปฏิบัติการป้องกันนั้น สามารถจำแนกเป็นการป้องกันเชิงรุกซึ่งใช้ EMP ทำลายยุทโธปกรณ์ในฐานทัพ หรือในพื้นที่ของข้าศึก สามารถใช้ยิงให้ระเบิดเพื่อสกัดกั้นเครื่องบินโจมตี หรือขีปนาวุธ หรือทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกองเรือได้ ส่วนการป้องกันเชิงรับนั้น การยิง E-Bomb ให้ระเบิดสกัดกั้นข้าศึกจะต้องพิจารณา มิให้เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ฝ่ายเรา วิธีที่ดีที่สุดคือการยิง EMP จากยานรบบนพื้นดิน หรือบน เครื่องบินเพื่อต่อต้านเฉพาะจุด ในลักษณะเดียวกับอาวุธ พาร์ติเคิ้ลบีม10
    สำหรับการใช้งาน EMP ทำลายเป้าหมายเชิงรุกนั้นสามารถพิจารณาความสำคัญสำหรับยุทโธปกรณ์ที่เป็นเป้าหมายตามจุดศูนย์ดุล ตามรูปแบบวงแหวน ๕ วง ของวอร์เดน11 ซึ่งยุทโธปกรณ์ในแต่ละวงมีความอ่อนไหวต่อ EMP ทั้งสิ้น
    ตามรูป ๑๐
    วงในสุด ความเป็นผู้นำ (Leadership) ซึ่งมีอุปกรณ์ที่สำคัญได้แก่ เครือข่ายระบบ C3I
    ของทั้งทางทหาร ภาครัฐ และเอกชน ซึ่งต้องพึ่งพา อุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ การจัดระบบ C3I แบบกระจาย เชื่อมต่อด้วยระบบใยแก้วนำแสง และเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในห้องที่มีการชิลด์
    รูปที่ ๑๐ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ตามจุดศูนย์ดุลในวงแหวน ๕ วงของวอร์เดน
    จะเป็นอุปสรรคต่อการโจมตี (การจัดระบบ C3I แบบกระจายเป็นการแก้ปัญหาจุดอ่อนจากการ โจมตีทาง
    อากาศด้วยอาวุธแบบเดิม แต่จะเป็นการง่ายต่อการโจมตีด้วย EMP ที่การสื่อสาร ยกเว้น ว่าจะแก้ไข
    การสื่อสารด้วยระบบใยแก้วนำแสง เก็บอุปกรณ์ในห้องสำรองข้อมูล) การใช้ EMP ต่อต้านความเป็น
    ผู้นำโดยการทำลายระบบ C3I จะให้ผลคุ้มค่า หากใช้อาวุธตามจำนวนและ แนวทางที่เหมาะสม จะทำให้การ
    ปฏิบัติการ ทางทหารในระดับยุทธศาสตร์เป็นอัมพาต ส่งผลกระทบ ได้เช่นเดียวกับการทิ้งระเบิดทำลาย
    ล้างแบบเก่าวงที่สอง โครงสร้างที่สำคัญทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีอุปกรณ์สำคัญได้แก่ อุปกรณ์ควบคุม
    อัตโนมัติสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์และไมโครโพรเซสเซอร์แทบ
    ทุกกระบวนการ นอกจากนี้ยังมีธนาคาร และสถาบันการเงินโดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอ่อนไหว
    EMP ที่สามารถทำลายเป้าหมายทางเศรษฐกิจ สามารถตัดตอนกระบวนการต่างๆ ทำให้การผลิตหยุดชะงัก
    เป็นการตัดแขนขาความเป็นผู้นำ การโจมตีอุปกรณ์และสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญทางเศรษฐกิจด้วย EMP
    โดยเฉพาะในช่วงแรกของสงคราม จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ลดทรัพยากรที่จะสนับสนุน ทางทหารในการโจมตีจะต้องเลือกทำลายจุดศูนย์ดุลทางเศรษฐกิจให้ได้ วงที่สาม โครงสร้าง
    ด้านการคมนาคมและการขนส่ง (Transport/ Communications Infrastructure) อุปกรณ์ที่สำคัญ
    ได้แก่ระบบสัญญาณการจราจร สัญญาณไฟทั้งทางถนน รถไฟ และการจราจรทางอากาศ หากถูกทำลาย
    จะทำให้เกิดความเสียหาย ความสับสน ระบบไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์รถยนต์ รถไฟ เรือสินค้า เครื่องบิน
    โดยสาร ล้วนแต่อ่อนไหวต่อ EMP ทั้งสิ้น วงที่สี่ ประชากร (Population) การทำลายประชาชนเป็น
    สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง สิ่งที่น่าจะดำเนินการคือทำลายขวัญ ปิดข่าวสาร ซึ่งสามารถทำลายอุปกรณ์อำนวย
    ความสะดวก ไฟฟ้า แสงสว่าง วิทยุ โทรทัศน์ ทั้งภาครัฐและเอกชน แต่อย่างไรก็ตามการใช้ EMP
    กับเป้าหมายนี้จะต้องพิจารณาให้ ถ้วนถี่ เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อภาพพจน์ของผู้ใช้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่อาจขัดต่อข้อตกลงตามกฎการใช้กำลังทำลายสิ่งบริการที่มิใช่เป้าหมาย
    ทางทหาร (Denial of Services to non-combatants) ซึ่งสหรัฐฯ เคยทำในลักษณะนี้ในสงคราม
    โคโซโว กล่าวคือใช้ระเบิดริบบิ้นทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง12 วงที่ห้า กองกำลังทางทหาร
    (Field Military Forces) ได้แก่ยุทโธปกรณ์ทางทหาร ฐานทัพ รถถัง เครื่องบิน เรือรบ เรือดำน้ำ
    อุปกรณ์-สื่อสารประจำหน่วย การทำลายหรือทำให้เสียหายต่ออุปกรณ์ทางทหารจะเป็นการลดทอน
    ขีดความสามารถในการรบ ทั้งการต่อต้านและ การใช้งานอุปกรณ์ ทำลายคลังอุปกรณ์เพื่อลด
    ขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง นอกจากนี้ ยังสามารถทำลายยานพาหนะเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนที่
    ของกองกำลังข้าศึก

    การป้องกัน
    ในการป้องกันจะต้องพิจารณาความสำคัญของอุปกรณ์ตลอดจน ความเสี่ยงที่จะเกิด EMP
    ในส่วนของอุปกรณ์ที่มีใช้งานอยู่ สามารถป้องกันได้แต่ก็มีความยุ่งยากกว่าการออกแบบสำหรับระบบ
    ที่จะจัดหาใหม่ ที่จะต้องเตรียมการป้องกันตั้งแต่การออกแบบ กำหนดคุณลักษณะ การตรวจรับ และ
    การบำรุงรักษาซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบ และซ่อมแซมอย่างต่อเนื่อง

    ๑ การป้องกันในระดับอุปกรณ์แบบ Component or Room Hardening มีข้อควรคำนึง ได้แก่ การแยกอุปกรณ์ให้ห่างกันเป็นการยากที่จะชิลด์ได้ทั้งหมด นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่า จะชิลด์อะไร อุปกรณ์บางอย่างหากเก็บในห้องที่ชิลด์ด้านนอกแล้วก็ไม่ต้องชิลด์หรือไม่ต้องระบุคุณสมบัติป้องกัน EMP ในการจัดหา (ดูรูปที่ ๑๑ ห้องชิลด์) แต่อุปกรณ์ประกอบที่จะต้องระวังเช่นช่องระบายความร้อน วงจรกรองทางไฟฟ้า

    ๒ การชิลด์อุปกรณ์อำนวยความสะดวก (Facility Shielding) เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากเป็น จุดอ่อนที่สัญญาณจะเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องได้ ห้องที่มีความสำคัญยิ่งยวดได้แก่ห้องควบคุมและสั่งการ ห้องที่เก็บข้อมูลและคอมพิวเตอร์ ประมวลผล หากมีความต้องการประสิทธิภาพ ในการชิลด์ (Shielding Effectiveness, SE) มากกว่า ๑๐๐ dB แล้ว จำเป็นต้องชิลด์อุปกรณ์อำนวยความสะดวก
    รูปที่ ๑๑ ห้องชิลด์
    (๑) ช่องเปิดในลักษณะท่อนำคลื่น เช่นช่องทางเดิน ช่องระบายอากาศ ช่องแอร์ ควรติดตั้งสายนำสัญญาณในท่อ ระบบแสงไฟควรติดตั้งไว้ด้านบน หากมีวงจรไฟฟ้าจะต้องติดตั้งวงจรกรองด้วย หากเป็นประตูควรเปิดใช้งานทีละข้าง
    (๒) ระบบสายดิน เป็นการต่อสายดินของอุปกรณ์กับระบบสายดินรวม เพื่อให้ความต่างศักดิ์เป็นศูนย์เมื่อเทียบกับดิน หรือเมื่อเทียบระหว่างจุด
    (๓) อุปกรณ์สนับสนุนหรืออุปกรณ์เสริมในห้อง เช่นอุปกรณ์สำรองไฟฟ้า จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟกระชากตามสายไฟด้วย
    (๔) ท่อร้อยสาย เป็นจุดอ่อนที่จะเชื่อมออกนอกตึก เช่นระหว่างอุปกรณ์ในห้องกับ เจนเนอเรเตอร์นอกห้อง จำเป็นต้องชิลด์ด้วย โลหะแข็งและตามรอยต่อ
    ๓ การแบ่งโซน เป็นวิธีการป้องกันอุปกรณ์ตามระดับความสำคัญ อุปกรณ์ที่สำคัญ ที่สุดจะถูกจัดไว้ตรงกลาง และมีค่า SE ๑๐๐dB ขึ้นไป ส่วนอุปกรณ์ที่มีความสำคัญรองลงไป ก็จะถูกจัดรองลงไป และค่า SE ก็จะลดลงด้วย
    (๑) โซนศูนย์ คือภายนอก ไม่มีการโซน
    (๒) โซนหนึ่ง คือ ชั้นนอกสุด ปกติตั้งค่า SE ไว้ ๔๐ dB อุปกรณ์ที่สำคัญได้แก่ เจนเนอเรเตอร์ ในทางปฏิบัติจะใช้วิธีรีบาร์
    (๓) โซนสอง คือ โซนกลาง ปกติ ตั้งค่า SE ไว้ ๖๐ dB อุปกรณ์ที่สำคัญได้แก่ อุปกรณ์สื่อสาร และอุปกรณ์สนับสนุนจ่าย/ สำรองไฟ
    (๔) โซนสาม คือชั้นในสุดปกติตั้งค่า SE ไว้ ๑๐๐ dB อุปกรณ์ที่สำคัญได้แก่ อุปกรณ์ประมวลผลสำหรับการควบคุม บังคับบัญชา รวมทั้งฐานข้อมูลที่สำคัญ เช่นฐานข้อมูลระบบสารสนเทศเพื่อการยุทธ
    ๔ การป้องกันโดยรวม (Global Approach) เป็นกระบวนการออกแบบในภาพรวมครั้งเดียวครอบคลุมอุปกรณ์ภายในทั้งหมด
    (๑) การออกแบบ ต้องมีความรู้ในด้านการแผ่รังสี จุดอ่อนของอุปกรณ์และมาตรฐานเช่นตารางที่ ๒ ทั้งยังต้องรองรับการขยายตัวในอนาคต สามารถดำเนินการพร้อมกับการก่อสร้าง เช่นการสร้างเรือกำหนดความต้องการห้อง ศูนย์ยุทธการไว้ ๑๐๐ dB อุปกรณ์ภายในห้องที่ ไม่มีการอินเตอร์เฟสออกนอกห้อง ก็ไม่จำเป็นต้องป้องกันเพิ่ม นอกนั้นต้องคำนึงถึง ช่องระบายอากาศ และสายสัญญาณ ท่อร้อยสายซึ่งต้องเผื่อการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
    (๒) สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ภาคการค้าภายในห้อง เนื่องจากมีการป้องกันรวมแล้ว
    (๓) ไม่ต้องกังวลการลดทอนขีดความสามารถและการบำรุงรักษา ด้าน SE ของอุปกรณ์ย่อย
    (๔) งบประมาณ สำหรับอุปกรณ์ที่มีการป้องกันอยู่บ้างแล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ อุปกรณ์ที่จะเก็บไว้ในห้องชิลด์ก็ไม่จำเป็นต้องป้องกัน จะช่วยประหยัดงป.
    (๕) มีกรอบการป้องกันรวม (Envelope) สามารถแก้ไขฟังก์ชันการทำงาน การตั้งค่า โดยไม่ต้องแก้ไขระบบย่อย แต่หากมีการแยกห้องจะต้องแยกดำเนินการ
    ๕. อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระดับ SE ที่ยอมรับได้ในการป้องกันคือ ๘๐ - ๑๐๐ dB ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความคงทนของอุปกรณ์ภายในอาจใช้การเชื่อมท่อโลหะโดยรอบ หรือใช้ท่อพีวีซีเพื่อลดผลกระทบจากท่อนำคลื่น สายโทรศัพท์อาจใช้ระบบใยแก้วนำแสง หรือหากเป็นสายทองแดงต้องใช้การกรอง ทั้งนี้รวมถึงสายไฟฟ้า สายส่ง และสายอากาศ หากจำเป็นต้องติดตั้งวงจรกันไฟกระโชก ท่อแอร์และท่อระบายอากาศจะต้อง ป้องกันความถี่ที่ผ่านด้วยการชิลด์แบบรังผึ้ง
    ๖.ข้อควรคำนึงในการป้องกันเมื่อติดตั้งระบบ เนื่องจากการดำเนินการจะต้องทำควบคู่กับงานอื่นเช่นการก่อสร้างตึก การสร้างเรือ แม้ว่าการป้องกัน EMP จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง แต่การติดตั้งของงานทั้งสองด้าน ต้องสอดคล้องทั้งเวลาและพื้นที่ แบ่งงานออกเป็น ๓ กลุ่มคือ
    (๑) การป้องกันระบบ การป้องกันด้าน EMC/EMI การป้องกัน EMP จะช่วยป้องกัน EMI สัญญาณความลับ(TEMPEST) และฟ้าผ่าด้วย สัญญาณของฟ้าผ่ามี Rise Time ช้ากว่า แต่ขนาดของพัลส์สูงกว่า และย่านความถี่แคบกว่า EMP การออกแบบให้ครอบคลุมทั้งสองด้าน หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุดทำได้ยากนอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยทางกายภาพ
    (๒) ระบบภายใน การป้องกันระบบรักษาความปลอดภัย และระบบป้องกันไฟ ระบบรักษาความปลอดภัยบังคับให้มีทางออก ๒ ทาง ซึ่ง ขัดแย้งกับหลักการชิลด์ที่พยายามลดช่องทางออก ดังนั้นในทางปฏิบัติ จะต้องมี ๒ ประตูแต่เปิดปิดทีละบาน ระบบสัญญาณเตือน อุปกรณ์ดับไฟ ล้วนแต่เป็นอุปสรรคต่อการป้องกัน EMP นอกจากนี้ ระบบป้องกันการสึกกร่อนเรือในลักษณะ (Cathodic Protection) ต้องสอดคล้องกับระบบ สายดิน
    (๓) ระบบที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม มีผลต่อการซ่อมทำและการปรับปรุง การขยายตัวและการหดตัวเมื่อถูกความร้อน การชิลด์จึงต้องมีความอ่อนตัว เพื่อมิให้เกิดรอยแตกร้าว ความสั่นสะเทือน และการรบ ในการออกแบบบางครั้ง จำเป็นต้องเก็บอุปกรณ์ที่มีความสั่นสะเทือนไว้ ภายในระบบชิลด์ จำเป็นต้องระมัดระวังการ สั่นสะเทือน ซึ่งนอกจากจะทำให้รอยเชื่อมต่อ แตกร้าวแล้ว ยังเป็นต้นกำเนิดของสัญญาณรบกวนอีกด้วย นอกจากนี้แรงช็อก และการเคลื่อนที่ของผิวดิน โดยเฉพาะแผ่นดินไหว จะทำให้โครงสร้างระบบป้องกัน ชำรุดเสียหาย
    ตารางที่ ๒ ตัวอย่างมาตรฐานที่เกี่ยวกับ EMP/EMC/EMI
    มาตรฐาน/เอกสาร รายละเอียด
    Mil-std-188-124 การเชื่อมต่อ ต่อสายดิน และชิลด์
    Mil-hdbk-419 การเชื่อมต่อ ต่อสายดิน และชิลด์
    Mil-hdbk-411A การสื่อสารระยะไกล ระบบไฟฟ้า
    Mil-hdbk-232 คู่มือการติดตั้งอุปกรณ์ลับ
    Mil-hdbk-1195 RF Shield Enclosure
    Mil-Std-285 การวัดการลดทอนของอุปกรณ์ที่ชิลด์
    Mil-Std-461E EMI/EMC ปรับปรุงล่าสุด
    Mil-Std-464 มาตรฐานการอินเตอร์เฟส E3 (EMP)
    สรุป
    อาวุธพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า เป็นภัยคุกคามต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ที่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นองค์ประกอบ ทั้ง HANE และระเบิด E-Bomb เป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีความรุนแรงอันตรายต่ออุปกรณ์สูง สำหรับระเบิด E-Bomb นั้นเทคนิคการสร้างด้วย FCG มีความ รุนแรงสูงสุด สร้างได้ง่าย และราคาไม่แพง
    การทำให้อาวุธ EMP มีผลทำลายล้างนั้นมีหลักนิยมที่สำคัญคือ HANE จะให้ผลรุนแรงเมื่อระเบิดที่ความสูงเหมาะสม การยิงสกัดกั้นก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งการทำลายอุปกรณ์ลงได้ ในขณะที่ E-Bomb มีทางเลือกเพิ่มเติมคือปรับแต่งความสูงให้เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการทำลาย และสามารถติดตั้งบนยานรบหลากหลาย ทั้ง E-Bomb และ HANE สามารถส่งผลทำลายอุปกรณ์ฯ ตามความสำคัญของหลักการจุดศูนย์ดุลของวอร์เดนท์
    สำหรับการป้องกันอันตรายจากอาวุธ EMP นั้น สามารถป้องกันได้ทั้งระดับอุปกรณ์ และ ป้องกันในภาพรวม อีกทั้งยังสามารถป้องกันการแพร่ความลับของอุปกรณ์ในลักษณะ TEMPEST ได้อีกด้วย ในการแบ่งโซนจะเน้นจัดอุปกรณ์ที่สำคัญสูงสุดไว้ชั้นใน โดยให้มีประสิทธิภาพของการป้องกัน ๑๐๐ dB ขึ้นไป เริ่มตั้งแต่การออกแบบ และกำหนดคุณลักษณะในการจัดหา ขั้นตอนการตรวจรับ และการบำรุงรักษาที่ชัดเจน
    เอกสารอ้างอิง
    1. US Army, EP 1110-3-2 EMP/TEMPEST Protection, 1990
    2. Carlo Kopp, E_Bomb, A Weapon of Electrical Mass Destruction, Department of Computer Science, About us - Monash University
    3. C.N. Chosh, EMP weapon
    4. Marx Generator, http://www.kronjaejer.com
    5. http://www.ucc.ie/mhd/dt-fusion.htm
    6. http://www.nrc.gov/rt1996/images
    7. http://www.ucc.ie/mhd/tokamak.htm
    8. http://www.ucc.ie/mhd/stellarator.htm
    9. Eileen Walling, Colonel USAF, HPM, Air war college, http://au.af.mil/au/awc/awccsat.htm
    10. Richard Roberds, Introducing the Particle Beam Weapon
    11. ETS-Lindgren | EMC and RF Microwave Testing, Measurement and Shielding
    12. The Daily Time (Pakistan) Nov 17, 2002
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โปรตุเกสเร่งดับไฟป่าท่ามกลางกระแสลมแรง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 สิงหาคม 2556 13:24 น.

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของโปรตุเกส 1,300 นาย ยังคงต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อดับไฟป่าที่ลุกไหม้ ในเขตโซลาโด โคลามูโล ทางภาคเหนือของประเทศ ท่ามกลางอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 30 องศาเซลเซียส และกระแสลมแรง ส่งผลให้ไฟยิ่งลุกลามรวดเร็ว
    เช่นเดียวกันทหาร และชาวบ้านต้องช่วยกันสกัดไฟไม่ให้ลุกลามเข้าใกล้ชุมชน และมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหญิงเสียชีวิต 1 คน ขณะเข้าไปดับไฟ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ศูนย์เตือนภัย พิบัติโลก
    เมื่อวานนี้ เวลา 12:29 น. ·
    ปะทุพ่นเถ้า ภูเขาไฟ (Halmahera Island, อินโดนีเซีย)

    August 31, 2013 – INDONEISIA - VAAC Darwin reported an ash plume from the volcano at 8,000 ft (2.4 km) altitude yesterday morning. This might have originated from a larger than usual explosion. The rarely visited volcano is one of Indonesia’s almost permanently active volcanoes and often has strombolian to vulcanian activity. Dukono is a volcano located at the northernmost corner of Halmahera Island. It has a broad profile and is capped by compound craters. Dukono is an active volcano. During the major eruption in 1550, a lava flow filled in the strait between Halmahera and the north flank cone of Mount Mamuya. It was an eruption of scale 3 on VEI. Deaths were reported but the figure is unknown. Smaller eruptions occurred in 1719, 1868, and 1901. Since 1933, Dukono has been erupting continuously until the present. The volcano last erupted in 2012. –Volcano Discovery, Wikipedia
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.7 KB
      เปิดดู:
      1,415

แชร์หน้านี้

Loading...