หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

พุทธัง อโหสิกรรม ธัมมัง อโหสิกรรม สังฆัง อโหสิกรรม _/l\_

 

พุทธัง อโหสิกรรม ธัมมัง อโหสิกรรม สังฆัง อโหสิกรรม _/l\_

น้อมอาลัยแด่พระอาจารย์สมหวังด้วยครับ

 

น้อมอาลัยแด่พระอาจารย์สมหวัง สาธุ สาธุ

 

น้อมอาลัยแด่พระอาจารย์สมหวังครับ

 

_/\_​

​

 

น้อมกราบไว้อาลัย หลวงปู่สมหวังครับ
สิ่งใดที่กระผมได้ล่วงเกินต่อหลวงปู่ กราบขอเมตตาหลวงปู่ อโหสิกรรม เเละอดโทษนั้น ต่อกระผมด้วยครับ
เคยไปกราบท่านครั้งหนึ่ง สอบถามธรรมะกับท่าน ท่านเมตตาตอบปัญหาได้กระจ่าง เเละท่านเมตตามอบหนังสือสวดมนต์ให้ จากนั้นจึงลาท่านกลับ

 

กราบหลวงปู่พิศดูและครูบากฤษดาบรมครูที่เคารพ ลูกขอน้อมส่งพ่อสมหวัง น่าเสียดายมากครับ ท่านเป็นพระที่ใจดีมีเมตตามาก กรรมใดที่ลูกได้ร่วงเกินทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจลูกขอสมาลาโทษขอให้พ่อสมหวังโปรดอโหสิกรรมให้ลูกด้วย สาธุครับ

 

น้อมอาลัย พระอาจารย์สมหวัง ญาณสิริ เจ้าอาวาสวัดเทพธารทอง มรณภาพ

สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินทาง กายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี
ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งตั้งใจก็ดีและมิได้ตั้งใจก็ดี ขอให้พระอาจารย์สมหวัง ญาณสิริ อโหสิกรรมด้วยเทอญ นิพพานะปัจจโยโหตุ

เล่าความหลัง ในนามลูกศิษย์
ครอบครัวของผมได้เดินทางไปกราบหลวงปู่พิศดู อยู่เป็นประจำ ในบางทีการที่จะเข้าพบหลวงปู่นั้นต้องรอจังหวะเวลา ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บจะเข้าหาหลวงปู่ได้เลย ในหมู่ลูกศิษย์ที่อยู่กับหลวงปู่คงจะทราบในเรื่องนี้ดี อาจจะเป็นเพราะในบางเวลาอาจจะมีพวก กายทิพย์มารับฟังธรรมขององค์หลวงปู่พิศดู ก็อาจจะเป็นไปได้ ในระหว่างรอนั้น ทุกๆครั้ง พระอาจารย์สมหวัง จะเดินมาสนทนากับครอบครัวผมอยู่เป็นประจำ ในบางทีผมยังคิดอยู่ในใจว่า ท่านทราบได้อย่างไรว่าเรามาหาหลวงปู่่ เพราะกุฏิท่านก็ห่างจากกุฏิองค์หลวงปู่อยู่พอสมควร ในบางโอกาสท่านจะเทศน์สอนการภาวนา ว่าเป็นอย่างไร ถามสารทุกข์กับหมู่ลูกศิษย์แบบเป็นกันเอง
หลวงปู่พิศดูท่านเคยพูดแซว ท่านพระอาจารยฺสมหวังว่า ใบหน้าของท่านคล้ายท่านเจ้าคุณนรรัตร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพ ก็เป็นเรื่องขบขันในหมู่ลูกศิษย์
จริตนิสัยท่านพระอาจารย์สมหวัง ท่านเป็นคนรักสงบ สันโดษ พูดน้อย แต่เปี่ยมด้วยความเมตตา ท่านโปรดฉันหมากเป็นพิเศษ
ในวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖ ที่ผ่านนั้น ผมและครอบครัวได้เดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่พิศดู ที่วัดเทพธารทอง วันนั้นได้ตั้งใจจะไปถวายลายพระพุทธบาท ที่ได้บูชามาจากประเทศศรีลังกา โดยนำมาใส่กรอบอย่างสวยงาม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ถวายแด่องค์หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี โดยมีเจตนาที่ว่าใครได้ไปกราบหลวงปู่ ที่กุฏิ กราบบารมีหลวงปู่ และสวดลายลักษณ์พระพุทธบาทถวายหลวงปู่พิศดู ก็จะได้เห็นลายลักษณ์พระพุทธบาท ทั้ง หนึ่งร้อยแปดประการ อย่างชัดเจน โดยในวันนั้นพระอาจารย์สมหวังได้เมตตามาเป็นประธานรับมอบลายลักษณ์พระพุทธบาท และได้วางไว้ตรงหีบที่บรรจุอัฐิธาตุขององค์หลวงปู่พิศดู อย่างพอดีสวยงาม
ในวันสุดท้ายที่ได้พบท่าน
วันตักบาตรพระอุปคุตที่ผ่านมา ครอบครัวของผมได้ไปกราบท่านที่กุฏิโดยทราบมาก่อนนั้นแล้วว่าท่านป่วยไม่สบายมาก คงมีหลายคนคิดสงสัยว่าทำไมงานพุทธาภิเษกท่านพระอาจารย์หายไปไหน ที่จริงท่านป่วยจนเดินไม่ได้ เมื่อได้กราบท่านแล้วก็คิดใจหายว่า สงสารท่านเหลือเกิน มันเร็วมากที่ระยะเวลาไม่กี่เดือนท่านจะมาอาพาธหนักขนาดนี้ ตอนที่กราบหน้าตาท่านผ่องใสมาก พูดคุยได้หลายประโยค จนทำให้ผู้ดูแลท่านงงว่า ทำไมวันนี้ท่านพูดได้หลายประโยค พอจับใจความได้ว่า เวทนากับสังขารนั้น มันหนัก หากเราไม่พิจารนาแยกออกจากกัน แล้วท่านก็ ให้พร ให้โชคดี ปลอดภัย ไม่คิดเสียเลยว่าที่ท่านพูดนนี้เปรียบเสมือนเป็นการสั่งลากันครั้งสุดท้าย กระผมและครอบครัวได้บอกกับท่านว่า ขอบารมีองค์หลวงปู่พิศดู ให้พระอาจารย์นั้นมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรง ยังไงก็อยู่ทรงธาตุขันธ์ไว้ก่อน จะมาเยี่ยมบ่อยๆ ท่านก็พยักหน้า แล้วก็หลับตานอนจำวัดไป
ที่พูดมาก็อยากจะเล่าประสบการณ์ให้หมู่ลูกศิษย์ฟังว่าท่านเปรียบเสมือนปิดทองหลังพระ อยู่แบบเงียบๆ แต่ผมเคยถามท่านว่า อยู่กับองค์หลวงปู่มานาน ท่านสอนอะไรให้พระอาจารย์บ้าง ท่านตอบแต่เพียงสั้นๆว่า เราก็เต็มเม็ดเต็มหน่วยกับท่าน แค่นี้ ก็น่าจะพอรู้นะครับ

สุดท้ายนี้กระผมและครอบครัวก็ขอกราบส่งท่านพระอาจารย์สมหวัง ญาณสิริ สู่แดนนิพพานด้วยเทอญ สาธุ

 

วันนั้น แฟนผมก็ถามผมเหมือนกันครับ เเต่ผมก็ไม่กล้าถามใคร เข้าใจว่าหลวงปู่สมหวังอยู่ที่กุฏิ เเละด้วยที่ว่าฝนตก จึงนึกไม่ได้เลย พอพิธีตักบาตรพระอุปคุตเสร็จผมก็กลับ
ผมได้กราบท่านครั้งสุดท้ายวันที่ 13 เมษาที่ผ่านมา เดี๋ยวรอกำหนดการจากท่านทุเรียนทอดอีกครั้ง เพื่อมีโอกาสไปกราบสรีระหลวงปู่สมหวังครับ

 

กราบ กราบ กราบ น้อมส่งท่านพระอาจารย์สมหวัง สู่แดนนิพพาน
ท่านมีเมตตามากๆครับ ยิ้มแย้มตลอดเวลา
สิ่งใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินท่านทั้งทางกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ขอท่านอโหสิกรรมและอดโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เมื่อเช้า มีโอกาสไปทำบุญใส่บาตรหลวงปู่ท่อนครับ

 

น้อมอาลัยแด่หลวงพ่อสมหวังครับ กรรมใดที่ผมเคยล่วงเกินด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งเจตนาและไม่เจตนาก็ดี ขอให้หลวงพ่อสมหวัง อโหสิกรรมด้วยเทอญ

 

กำหนดการบำเพ็ญกุศล สรีระสังขาร ถวายแด่..
พระอาจารย์สมหวัง ญาณสิริ
ณ พระเจดีย์ใหญ่ วัดเทพธารทอง
ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี
​

ตั้งแต่....

วันพฤหัสบดี ที่ 29 สิงหาคม 2556 ถึง วันจันทร์ ที่ 2 กันยายน 2556
เวลา 19.00 น. สวดพระอภิธรรม (ทุกวัน)


วันอังคารที่ 3 กันยายน 2556
เวลา 13.00 น. (โดยประมาณ..) ประชุมเพลิงสรีระสังขาร


จึงขอเรียญเชิญศิษยานุศิษย์และผู้ที่ทราบข่าว ร่วมไว้อาลัยโดยพร้อมเพรียงกัน..

 

ท่านพระอาจารย์สมหวัง ญาณสิริ ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เปี่ยมไปด้วยเมตตาจิต มีปฏิปทาที่เรียบง่าย สันโดษ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ถวิล วัดยางระหงษ์(วัดธรรมหรรษาราม) และเป็นศิษย์อุปัฏฐากดูแลองค์หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี ต่อมาหลังจากหลวงปู่พิศดูได้มรณภาพลง พระอาจารย์สมหวังท่านก็ได้รับการแต่งตั้งจากทางคณะสงฆ์ ให้ดำรงค์ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพธารทอง ต่อจากองค์หลวงปู่ และได้ปกครอง และพัฒนาวัดด้วยดีเสมอมา ตราบจนกระทั้งอาพาธด้วยโรคมะเร็งตับ และมรณภาพ]'ด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 58 ปี

​

 

ขอถวายความเคารพ ความอาลัยกับพระอาจารย์สมหวังด้วยครับ ท่านเป็นพระที่น่ารักมากๆครับ ไปที่วัดสองครั้ง ท่านต้อนรับอย่างดีไม่ถือตัวเลย เป็นกันเองมาก อนุเคราะห์ผมหลายอย่าง ยังจำท่านไม่ลืม เสียดายท่านไปเร็วเหลือเกิน คิดอยู่ว่าถ้าไปเมืองไทยจะไปกราบหลวงปู่ และไปหาท่านอีก

 

กราบน้อม อาลัย หลวงพ่อสมหวัง ค่ะ

เพียรเอง ก็ไม่ทันกราบหลวงปู่พิศดู แต่เมื่อไปว้ดเทพธารทอง ได้พบหลวงพ่อสมหวัง ท่านต้อนรับอย่างอบอุ่น ท่านเป็นพระที่มีจิตเมตตา ต่อศิษย์ ไม่เลือกชั้นวรรณะ เพียร ยังได้รับความเมตตา จากท่านจนทุกวันนี้ไ่ม่มีวันลืม อาทิตย์ก่อนไปวัดเทพฯ ยังได้กราบเยี่ยมท่าน ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย กราบนมัสการหลวงพ่อสมหวัง ด้วยความอาลัยยิ่ง ...

 

น้อมกราบบูชาท่านพ่ออุปคุตและองค์หลวงปู่พิศดู ขอน้อมกราบอาลัยหลวงพ่อสมหวังและกรรมใดที่ผมได้ล่วงเกินต่อหลวงพ่อทั้งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมจะตั้งใจก็ดีและไม่ตั้งใจก็ดีขอหลวงพ่อสมหวังโปรดอโหสิกรรมต่อกระผมด้วยเทอญ สวัสดีครับคุณเอ็กซ์และท่านสมาชิกทุกๆท่าน ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสคุยกับคุณเอ็กซ์ถึงเรื่องอัฐิธาตุองค์หลวงปู่พิศดูส่วนพระเศียรที่เคยเป็นเรื่องเป็นราวในกระทู้นี้(ต้องขออภัยด้วยนะครับที่ต้องอ้างอิงถึง เป็นเพราะผมได้เข้ามาดูกระทู้นี้หลังจากเหตุการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว)ผมถามคุณเอ็กซ์ว่าทำไมทางวัดไม่เก็บรักษาอัฐิธาตุส่วนสำคัญๆไว้บูชา คุณเอ็กซ์บอกว่าหลวงพ่อสมหวังท่านเป็นพระที่สมถะและถ่อมองค์ ทั้งๆที่ท่านมีสิทธิ์โดยชอบธรรมแต่ท่านให้ความเคารพต่อศิษย์หลวงปู่รุ่นอาวุโสกว่าท่าน หลวงพ่อสมหวังท่านได้เข้าไปเก็บอัฐิธาตุหลวงปู่เป็นรูปสุดท้ายและได้มาจำนวนเล็กน้อย ที่วัดเทพธารทองเลยไม่ได้อัฐิธาตุส่วนสำคัญไว้บูชา ที่ผมเขียนมานี้เพื่อที่จะต้องการบูชาพระคุณหลวงพ่อสมหวังแสดงให้เห็นว่าท่านสมถะและปล่อยวางเพียงใดเท่านั้น ผมไม่ได้มีเจตนาให้ร้ายบุคคลท่านใดนะครับ ขอบพระคุณมากครับ...

 

ผมเคยไปกราบท่านเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทา่นได้ให้ดูอัฐิธาติหลวงปู่พิศดูที่กลายเป็นพระธาตุวรรณะสวยงามมากครับ สาธุ

 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกครับ

ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการบูชาพระสงฆ์สาวก ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
และ ขอกราบขอขมากรรม ในสิ่งที่ข้าพเจ้า ได้เคยล่วงเกินท่านไว้
ด้วย กาย วาจา และด้วยใจ ตั้งแต่ในอดีตชาติ ทุก ๆ ชาติ จนถึง
ปัจจุบันชาติ ครับ ขอท่านทรงเมตตาอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

 

อย่างนี้ละครับที่เขาบอกกันว่าความตายมีทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตาย ดังคำที่หลวงปู่ดู่ท่านสอนให้ศิษย์ภาวนาเข้าไว้ทุกวัน อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปภาวนาใกล้ตาย หลวงปู่เปรียบเหมือนกับคนที่เรือกำลังจะจมแล้วมาหัดว่ายน้ำไม่ทันกาล