ในหลวงทรงพระเมตตาเด็ก12ถวายฎีกาจน-แม่สติไม่ดี

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 20 พฤศจิกายน 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,489
    'ในหลวง'ทรงพระเมตตาเด็ก12ถวายฎีกาจน-แม่สติไม่ดี

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>"ในหลวง"ทรงพระเมตตาเด็ก12ถวายฎีกาจน-แม่สติไม่ดี </TD></TR><TR><TD vAlign=top>20 พฤศจิกายน 2550 01:35 น.</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] เด็กเมืองพิจิตรถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี ให้ทรงช่วยเหลือครอบครัวที่มีความเป็นอยู่สุดแร้นแค้น พร้อมมีพระราชกระแสรับสั่งผ่านผู้ว่าฯ เร่งช่วยเหลือทันที เผยต้องรับจ้างแบกข้าวสาร เฝ้าเล้าเป็ด หาเงินจุนเจือครอบครัว ระบุอยากเรียนหนังสือ ด้านเด็กน้อยหลั่งน้ำตาร่ำไห้หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ

    นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยไปทั่วหล้า วันนี้น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ทรงแผ่ไพศาลไปถึงเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งใน จ.พิจิตร หลังจากเด็กชายยื่นถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี เพื่อขอให้พ่อหลวงของแผ่นดินพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัวที่มีความเป็นอยู่แร้นแค้นอย่างมาก
    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นางปิยะธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านไผ่สีรุณ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อไปตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ และเตรียมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร อายุ 12 ปี หลังจากเด็กชายเขียนจดหมายยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ครอบครัวมีความเป็นอยู่เดือดร้อนอย่างมาก
    หนังสือที่ ด.ช.ชาตรี ยื่นถวายฎีกามีความว่า เขียนที่โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 เรื่อง ขอพระราชทานความเมตตา "กราบแทบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน กระผม ด.ช.ชาตรี นัดดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง กระผมมีพี่น้อง 3 คน พี่สาวเรียนอยู่ชั้น ป.6 น้องชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.3 ครอบครัวของกระผมมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก ประกอบกับคุณแม่สติไม่สมประกอบ คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
    ทั้งนี้ วันใดโรงเรียนหยุด กระผมจะไปรับจ้างชาวบ้านเฝ้าเล้าเป็ดได้คืนละ 40 บาท ถ้าวันใดเขาไม่จ้าง กระผมก็จะไปรับจ้างแบกข้าวเปลือกขึ้นรถที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ได้ค่าแรงงาน 50 บาท เพื่อนำไปจุนเจือครอบครัว ถ้าวันใดไม่มีคนจ้างไปทำงาน เวลากลางคืนก็จะออกไปจับกบ จับเขียดและงู มาเป็นอาหาร บางวันที่ไม่สามารถหาอาหารได้ก็จะไปขออาหารจากหลวงพ่อบุญเลิศ วัดบึงสีไฟ เพื่อนำไปให้พ่อแม่และพี่น้องรับประทาน กระผมทำอย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวกระผมยากจนมาก หมดที่พึ่ง

    กระผมขอพึ่งบารมีพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิต และครอบครัว ทางด้านการศึกษาและที่อยู่อาศัย กระผมและน้องๆ อยากเรียนสูงๆ เมื่อจบแล้วก็จะได้มีงานทำเลี้ยงดูทดแทนพระคุณพ่อพระคุณแม่ ตั้งแต่ผมเกิดมาเห็นพ่อแม่สุดแสนลำบาก กระผมจะขอพึ่งอาศัยพระพ่อหลวงของแผ่นดินเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรตลอดชีวิตของกระผม กราบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน ลงชื่อ ด.ช.ชาตรี นัดดา (ด.ช.ชาตรี นัดดา) ผู้ร้องขอความเมตตา"
    ภายหลังจาก ด.ช.ชาตรี ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักราชเลขาธิการได้ตอบหนังสือดังกล่าว พร้อมมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ที่ รล 0009.5/18916 สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง กทม.10200 วันที่ 3 ตุลาคม 2550 เรื่อง ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ระบุว่า เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาฎีกาของ ด.ช.ชาตรี นัดดา ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2550 ด้วย ด.ช.ชาตรี นัดดา ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ความว่า ด.ช.ชาตรี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบึงสีไฟ อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง กับบิดา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มารดาสติไม่สมประกอบ และพี่สาวกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบึงสีไฟ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และปีที่ 3 ตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะยากจน ได้รับความลำบากด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอพระราชทานทุนการศึกษา และที่อยู่อาศัย ความละเอียดตามสำเนาฎีกา ที่แนบมาพร้อมนี้
    ทั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากมีหนทางคลี่คคลายปัญหาหรือมีข้อคิดเห็นประการใด กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยจะขอบพระคุณยิ่ง เพราะจะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไป ขอแสดงความนับถือ นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ เลขาธิการคณะองคมนตรี ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ไปตรวจสอบสภาพที่อยู่อาศัยของ ด.ช.ชาตรี พบว่า ครอบครัว ด.ช.ชาตรี ปลูกกระท่อมอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน บ้านเป็นโครงสร้างไม้ไผ่แต่ฝาบ้าน ส่วนหลังคามุงด้วยกระเบื้องที่เก็บมาจากกองขยะ และมีรูโหว่จำนวนมาก ขณะที่พื้นบ้านเป็นไม้ไผ่สับ มีช่องโหว่จำนวนมาก สาเหตุเกิดจากเมื่อฤดูฝนที่ผ่านมามีอากาศหนาว ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี ไม่สามารถหาฟืนไปก่อไฟไล่ความหนาว จึงต้องนำพื้นบ้านมาก่อไฟ เพื่อป้องกันความหนาว
    จากการตรวจสอบข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน พบเพียงเตาหุงข้าวที่ต้องใช้ฟืน และหม้อเพียง 1 ใบ และกระทะ 1 ใบ ไม่มีเครื่องปรุงจำพวกซอส หรือแม้แต่น้ำปลา มีเพียงเกลือป่นที่ใช้ในการประกอบอาหารเท่านั้น ส่วนที่นอนมีผ้านวมเก่า 2 ผืน และมุ้งเก่าๆ มีรอยขาดจำนวนมาก 1 หลัง พร้อมกับเสื้อผ้าที่เก็บมาจากกองขยะอีก 1 กองใหญ่ เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่ากระท่อมทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เสาบ้าน 2 เสา ล้มลงจนพื้นบ้านเอียงติดกับพื้นดิน

    เบื้องต้นนายปรีชาเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคมอบให้ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี พร้อมให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวงก่อสร้างบ้านตามโครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันในที่ดินขององค์การบริหารส่วนตำบล ที่หมู่ 5 ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะติดหนองน้ำ และให้สภากาชาดให้ความช่วยเหลือในส่วนของการศึกษา นายปรีชา กล่าวว่า วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะสามารถช่วยเหลือ ด.ช.ชาตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าครอบครัว ด.ช.ชาตรี มีความเดือดร้อน และอยู่ในฐานะที่ลำบากมาก ส่วนบิดามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ขณะที่มารดามีร่างกายไม่สมบูรณ์ ทั้งคู่ทำงานได้เพียงหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ เท่านั้น ซึ่งการช่วยเหลือต้องดูที่เด็กเป็นหลัก
    "ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ลูกๆ ทั้ง 3 คนเราต้องดูแลในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องนอน อาหารการกิน และทุนการศึกษา ในส่วนของการศึกษาจังหวัดจะหาทุนให้เป็นกรณีพิเศษตลอดไป จนกว่าเด็กจะไม่อยากเรียน" นายปรีชา กล่าว
    ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวต่อว่า ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น ขณะนี้สภากาชาดนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือแล้ว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลเรื่องต้นทุนทางสังคมเกี่ยวกับการดำรงชีพ นอกจากนี้ยังให้แรงงานจังหวัดช่วยหางานให้พ่อแม่ เช่นเดียวกับเรื่องที่อยู่อาศัยได้ให้โครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันสร้างบ้าน ขณะนี้ออกแบบบ้านเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า จังหวัดจะดูแลครอบครัวนี้เป็นอย่างดี เพราะดูจากหน่วยก้านของ ด.ช.ชาตรี น่าจะเป็นเยาวชนที่มีอนาคตยาวไกล ด้าน นางลมัย สังคริทร์ อาจารย์ประจำชั้น โรงเรียนบึงสีไฟ กล่าวว่า ด.ช.ชาตรี เป็นเด็กที่มีความกตัญญู รักพ่อแม่ พี่สาว น้อง และรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง ชีวิตความเป็นอยู่น่าสงสาร ตลอดเวลาสังเกตว่า ทุกวันเมื่อ ด.ช.ชาตรี ออกไปทำงานรับจ้างได้เงินมาก็จะไปซื้อขนมให้น้องชายคนเล็กกินก่อนทันที และเมื่อน้องกินอิ่ม หากขนมเหลือก็จะกินต่อจากน้อง ส่วนการเรียนอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ไม่ดี เนื่องจาก ด.ช.ชาตรี เป็นห่วงครอบครัว เวลาครูให้การบ้านก็จะบอกว่า ไม่มีเวลา เพราะต้องรีบไปทำงานรับจ้าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
    ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ด.ช.ชายชาตรี กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอขอบพระคุณในหลวงที่ให้การช่วยเหลือครอบครัว" จากนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมา และร้องไห้ตลอดเวลา

    -->[​IMG]
    เด็กเมืองพิจิตรถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี ให้ทรงช่วยเหลือครอบครัวที่มีความเป็นอยู่สุดแร้นแค้น พร้อมมีพระราชกระแสรับสั่งผ่านผู้ว่าฯ เร่งช่วยเหลือทันที เผยต้องรับจ้างแบกข้าวสาร เฝ้าเล้าเป็ด หาเงินจุนเจือครอบครัว ระบุอยากเรียนหนังสือ ด้านเด็กน้อยหลั่งน้ำตาร่ำไห้หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ

    นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยไปทั่วหล้า วันนี้น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ทรงแผ่ไพศาลไปถึงเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งใน จ.พิจิตร หลังจากเด็กชายยื่นถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี เพื่อขอให้พ่อหลวงของแผ่นดินพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัวที่มีความเป็นอยู่แร้นแค้นอย่างมาก [​IMG]
    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นางปิยะธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านไผ่สีรุณ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อไปตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ และเตรียมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร อายุ 12 ปี หลังจากเด็กชายเขียนจดหมายยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ครอบครัวมีความเป็นอยู่เดือดร้อนอย่างมาก
    หนังสือที่ ด.ช.ชาตรี ยื่นถวายฎีกามีความว่า เขียนที่โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550 เรื่อง ขอพระราชทานความเมตตา "กราบแทบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน กระผม ด.ช.ชาตรี นัดดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง กระผมมีพี่น้อง 3 คน พี่สาวเรียนอยู่ชั้น ป.6 น้องชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.3 ครอบครัวของกระผมมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก ประกอบกับคุณแม่สติไม่สมประกอบ คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
    ทั้งนี้ วันใดโรงเรียนหยุด กระผมจะไปรับจ้างชาวบ้านเฝ้าเล้าเป็ดได้คืนละ 40 บาท ถ้าวันใดเขาไม่จ้าง กระผมก็จะไปรับจ้างแบกข้าวเปลือกขึ้นรถที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ได้ค่าแรงงาน 50 บาท เพื่อนำไปจุนเจือครอบครัว ถ้าวันใดไม่มีคนจ้างไปทำงาน เวลากลางคืนก็จะออกไปจับกบ จับเขียดและงู มาเป็นอาหาร บางวันที่ไม่สามารถหาอาหารได้ก็จะไปขออาหารจากหลวงพ่อบุญเลิศ วัดบึงสีไฟ เพื่อนำไปให้พ่อแม่และพี่น้องรับประทาน กระผมทำอย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวกระผมยากจนมาก หมดที่พึ่ง
    กระผมขอพึ่งบารมีพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิต และครอบครัว ทางด้านการศึกษาและที่อยู่อาศัย กระผมและน้องๆ อยากเรียนสูงๆ เมื่อจบแล้วก็จะได้มีงานทำเลี้ยงดูทดแทนพระคุณพ่อพระคุณแม่ ตั้งแต่ผมเกิดมาเห็นพ่อแม่สุดแสนลำบาก กระผมจะขอพึ่งอาศัยพระพ่อหลวงของแผ่นดินเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรตลอดชีวิตของกระผม กราบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน ลงชื่อ ด.ช.ชาตรี นัดดา (ด.ช.ชาตรี นัดดา) ผู้ร้องขอความเมตตา"
    ภายหลังจาก ด.ช.ชาตรี ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักราชเลขาธิการได้ตอบหนังสือดังกล่าว พร้อมมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ที่ รล 0009.5/18916 สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง กทม.10200 วันที่ 3 ตุลาคม 2550 เรื่อง ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ระบุว่า เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาฎีกาของ ด.ช.ชาตรี นัดดา ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2550 ด้วย ด.ช.ชาตรี นัดดา ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ความว่า ด.ช.ชาตรี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบึงสีไฟ อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง กับบิดา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มารดาสติไม่สมประกอบ และพี่สาวกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบึงสีไฟ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และปีที่ 3 ตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะยากจน ได้รับความลำบากด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอพระราชทานทุนการศึกษา และที่อยู่อาศัย ความละเอียดตามสำเนาฎีกา ที่แนบมาพร้อมนี้
    ทั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากมีหนทางคลี่คคลายปัญหาหรือมีข้อคิดเห็นประการใด กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยจะขอบพระคุณยิ่ง เพราะจะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไป ขอแสดงความนับถือ นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์ เลขาธิการคณะองคมนตรี ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ
    หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ไปตรวจสอบสภาพที่อยู่อาศัยของ ด.ช.ชาตรี พบว่า ครอบครัว ด.ช.ชาตรี ปลูกกระท่อมอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน บ้านเป็นโครงสร้างไม้ไผ่แต่ฝาบ้าน ส่วนหลังคามุงด้วยกระเบื้องที่เก็บมาจากกองขยะ และมีรูโหว่จำนวนมาก ขณะที่พื้นบ้านเป็นไม้ไผ่สับ มีช่องโหว่จำนวนมาก สาเหตุเกิดจากเมื่อฤดูฝนที่ผ่านมามีอากาศหนาว ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี ไม่สามารถหาฟืนไปก่อไฟไล่ความหนาว จึงต้องนำพื้นบ้านมาก่อไฟ เพื่อป้องกันความหนาว
    จากการตรวจสอบข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน พบเพียงเตาหุงข้าวที่ต้องใช้ฟืน และหม้อเพียง 1 ใบ และกระทะ 1 ใบ ไม่มีเครื่องปรุงจำพวกซอส หรือแม้แต่น้ำปลา มีเพียงเกลือป่นที่ใช้ในการประกอบอาหารเท่านั้น ส่วนที่นอนมีผ้านวมเก่า 2 ผืน และมุ้งเก่าๆ มีรอยขาดจำนวนมาก 1 หลัง พร้อมกับเสื้อผ้าที่เก็บมาจากกองขยะอีก 1 กองใหญ่ เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่ากระท่อมทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เสาบ้าน 2 เสา ล้มลงจนพื้นบ้านเอียงติดกับพื้นดิน
    เบื้องต้นนายปรีชาเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคมอบให้ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี พร้อมให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวงก่อสร้างบ้านตามโครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันในที่ดินขององค์การบริหารส่วนตำบล ที่หมู่ 5 ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะติดหนองน้ำ และให้สภากาชาดให้ความช่วยเหลือในส่วนของการศึกษา
    นายปรีชา กล่าวว่า วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะสามารถช่วยเหลือ ด.ช.ชาตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าครอบครัว ด.ช.ชาตรี มีความเดือดร้อน และอยู่ในฐานะที่ลำบากมาก ส่วนบิดามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ขณะที่มารดามีร่างกายไม่สมบูรณ์ ทั้งคู่ทำงานได้เพียงหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ เท่านั้น ซึ่งการช่วยเหลือต้องดูที่เด็กเป็นหลัก
    "ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ลูกๆ ทั้ง 3 คนเราต้องดูแลในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องนอน อาหารการกิน และทุนการศึกษา ในส่วนของการศึกษาจังหวัดจะหาทุนให้เป็นกรณีพิเศษตลอดไป จนกว่าเด็กจะไม่อยากเรียน" นายปรีชา กล่าว
    ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวต่อว่า ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น ขณะนี้สภากาชาดนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือแล้ว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลเรื่องต้นทุนทางสังคมเกี่ยวกับการดำรงชีพ นอกจากนี้ยังให้แรงงานจังหวัดช่วยหางานให้พ่อแม่ เช่นเดียวกับเรื่องที่อยู่อาศัยได้ให้โครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันสร้างบ้าน ขณะนี้ออกแบบบ้านเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า จังหวัดจะดูแลครอบครัวนี้เป็นอย่างดี เพราะดูจากหน่วยก้านของ ด.ช.ชาตรี น่าจะเป็นเยาวชนที่มีอนาคตยาวไกล ด้าน นางลมัย สังคริทร์ อาจารย์ประจำชั้น โรงเรียนบึงสีไฟ กล่าวว่า ด.ช.ชาตรี เป็นเด็กที่มีความกตัญญู รักพ่อแม่ พี่สาว น้อง และรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง ชีวิตความเป็นอยู่น่าสงสาร ตลอดเวลาสังเกตว่า ทุกวันเมื่อ ด.ช.ชาตรี ออกไปทำงานรับจ้างได้เงินมาก็จะไปซื้อขนมให้น้องชายคนเล็กกินก่อนทันที และเมื่อน้องกินอิ่ม หากขนมเหลือก็จะกินต่อจากน้อง ส่วนการเรียนอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ไม่ดี เนื่องจาก ด.ช.ชาตรี เป็นห่วงครอบครัว เวลาครูให้การบ้านก็จะบอกว่า ไม่มีเวลา เพราะต้องรีบไปทำงานรับจ้าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ด.ช.ชายชาตรี กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอขอบพระคุณในหลวงที่ให้การช่วยเหลือครอบครัว" จากนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมา และร้องไห้ตลอดเวลา <TABLE align=center><TBODY></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ----------
    ที่มา:คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2007/11/20/a001_173280.php?news_id=173280
     
  2. pechklang

    pechklang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    400
    ค่าพลัง:
    +829
    ขอจงทรงพระเกษมสำราญ พระชนม์มายุยั่งยืนนาน
    จาก ครอบครัว เพ็ชร์กลาง
     
  3. mmie

    mmie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,986
    รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้ พออ่านจบ รู้สึกว่าน้ำตาเอ่อขึ้นมาทันที...ปลื้มปิติแทนน้องเขาจริง ๆ

    ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยไปตราบนานเท่านาน ขอถวายพระพร...
     
  4. กองทัพเทพ

    กองทัพเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +2,629

    เมื่อนักข่าวช่อง ๙ อ่านข่าวนี้จบ
    ก็เปรยเอาไว้ว่า
    การที่ชาวบ้าน ส่งฎีกาถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กันมากขึ้น
    ก็สะท้อน อะไรบางอย่างของ ข้าราชการไทย และสังคมไทย ไม่น้อย


    ทำไมจะต้องให้ กระตุ้น ให้ สั่ง


     
  5. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    อ่านจบน้ำตาไหล"สะอื้น"ออกมาเลยจริงๆ ลืมตัวไป.....สงสานมากชีวิตจนตรอกจนแต้มแล้ว ที่พึ่งสุดท้ายที่นึกได้คือ"เจ้าเหนือหัวเจ้าชีวิต"
    ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนานพระพุทธเจ้าค่ะ......
     
  6. ปกรณ์

    ปกรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +3,761
    ครับอ่านแล้วร้องไห้ เพราะนึกถึงความแร้นแค้นและความทุกข์ของชีวิตทุกชีวิต และนึกถึงพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ พระมหาโพธิสัตว์เจ้าที่ยิ่งใหญ่ เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ยากจะบรรยายจริงๆครับ :)
     
  7. watana_21

    watana_21 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +52
    ซึ้งใจมากครับ ( น้ำตาคลอเลยละ )
     
  8. Satanina

    Satanina สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +11
    โอกาสที่มิเคยเข้าถึงสิ่งใดๆในสังคมแบบไท ไท... แต่สิ่งหนึ่ง และ สิ่งเดียว ที่เข้าถึงมือ และ หัวใจดวงน้อยๆ เสมอ ... คือ พระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ของ พระภัทรมหาราช ของคนทั้งโลก ค่ะ ... ดีใจด้วย นะหนูน๊ะ !!!
     

แชร์หน้านี้

Loading...