ไม่เคยเกิดมาคู่กัน แต่พออยู่บนเทวโลกจะมีคู่ครองเป็นคนนี้ได้ไหม ?

อย่างเช่น คนๆนึงไม่มีแฟนแล้วตายไป เกิดบนเทวภูมิชั้นใดชั้นหนึ่ง เขาจะรักกับคนที่ไม่เคยคู่กับเขาได้ไหม (อาจเป็นเพราะฝ่ายตรงสามีหรือภรรยาเขาเป็นเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือตกนรกไป หรือไม่เคยเจอกัน) ฉะนั้น 2 คนนี้จะคู่กัน แต่งงานกันที่แห่งนี้บนเทวโลกนี้ได้ไหม

ถ้าถามง่ายผมไม่ถาม 555555
อนุโมทนามิการทุกท่านครับ

 

ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะคู่กันบนเทวโลก อย่างน้อยก็ต้องเคยทำบุญร่วมกันมาก่อนนะคะ อาศัยบุญในชาติใดชาติหนึ่งเป็นเหตุปัจจัยให้ได้มาครองคู่กัน

 

ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้เลย หากได้เหตุปัจจัยที่ประชุมพร้อมเพื่อสิ่งนั้น

....แต่ตอนไปเกิดเป็นเทวดา ท่านไผ่จะมีนางฟ้าแวดล้อมจนไม่ต้องพะวงเรื่องคู่เสียมากกว่านะครับ!!... อย่างไรก็อย่าส่งสาวๆไปเก็บดอกไม้เพลินจนจุติไปเกิดในนรกโดยไม่ทันรู้ตัวเลย เหมือนท้าวสักกะนะครับ...555

 

พี่ดีๆเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังหน่อยสิครับ ผมพึ่งเคยได้ยินจากพี่ดีๆนี่แหละครับ รบกวนทีขอรับ อิอิ

 

รู้สึกว่าท่าน Sir-Pai นี่ จะสนใจนางฟ้าเป็นพิเศษนะ 555

ทำบุญมากๆล่ะกันครับ จะได้สมหวัง

 

ที่จริงไม่ได้สนใจนางฟ้าด้านบนหรอกครับท่าน ผมหลงรักผู้หญิงคนนึงไงแต่อุปสรรค เงินทอง ศักดิ์ศรีต่างกับเขามากเหลือเกินเลยหวังว่าคงได้พบได้เจอบนสวรรค์ 55555+ // ผมอยากไปยามาภูมินะ ไม่รู้ไปไม่ได้ป่าวแต่ผมฝันชั้นนี้ไว้ ผมไม่บรรลุอะไรเลย แต่ได้อยู่ชั้นที่สมควรแก่เหตุ มีเพื่อนมีสังคมก็พอแล้ว

ยาวเลย 55555+

 

จะหาคู่ หาคนรัก ก็หาบนโลกนี้แหละ ไผ่เอ๋ย บนเทวโลกเค้าไม่คุยกันเรื่องนี้แล้ว ถ้าจะเข้าเขตสวรรค์ได้ก็แสดงว่าเป็นคนมีศีล มีบุญ มีวิมานทิพย์ กายทิพย์ ต่างคนต่างสวย ถึงตอนนั้นก็ไม่มีใครมองใคร เพราะต่างคนต่างสวย เลยไม่มีความหมายที่จะจีบกัน ถึงจะเป็นคู่รักกันขนาดไหนบนโลกนี้ แม่ลูกรักกันขนาดไหน แต่ไปเจอกันบนสวรรค์ ก็แค่ทักทายกันธรรมดา ไม่มีกอดรัดฟัดเหวี่ยง น้ำหูน้ำตาไหลเหมือนอยู่บนโลกนี้หรอก เชื่อได้หรือเปล่าไม่รู้งะ ยังไม่เคยไป แต่มีความรู้สึกแบบนั้น

 

ชั้นยามาฯเหรอ? เงียบฉี่ อยู่กันไม่เยอะเท่าไหร่หรอก Population บางตา
ถ้าจะให้คึกคักหน่อยก็ต้อง จาตุมฯ หรือไม่ก็ ดาวดึงส์
เหอะ เหอะ ล้อเล่นน่ะ

คนเรานี้ก็ว่าแปลกน่ะ
อยากไปเกิดในสวรรค์เพราะจะได้มีคู่ครอง
คนที่เค้าไปเกิดในสุคติภูมิได้นั้น แท้จริงแล้ว
เพราะเจริญกุศลอยู่เนืองๆแนบสนิทในจิตใจไปตลอดจนการพูด การกระทำ ก็ล้วนเป็นเรื่องกุศล ใฝ่ใจในกุศล ไม่ได้ใฝ่ใจในเรื่องนี้นั้นนู้น เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ต้องมานั่งเก๊กซิมในภายภาคหน้า บอกตัวเองว่า "รู้งี้....ดีกว่า"

ขอบอกส่งท้ายสักหน่อยว่า
ในชีวิตคนเราจากชาตินี้ไปตราบจนไม่ว่าชาติไหนๆ
มีสิ่งที่ประเสริฐกว่าเรื่องโลกๆที่ระคนไปด้วยสุขและทุกข์อยู่จริง
สิ่งนั้นคืออะไร? ไปหาเอาเอง

 

มีเกร็ดเล็กน้อยจะเล่าให้ฟัง
เคยอ่านในหนังสือ คนที่เค้าถอดจิตไปเยี่ยมญาติที่เสียไปแล้ว
เค้าว่า สวรรค์ชั้นยามานั้นมีข้อสังเกตคือ
มีต้นไม้ที่ออกดอกเป็นสีเหลืองเต็มไปหมด
เผื่อว่าใครไปถึงแล้วจะได้รู้เอง ไม่ต้องเสียเวลาไปถามใคร

 

ผมก็ได้ยินมาจากอาจารย์ท่านหนึ่งทางวิทยุ.. ว่า ท้าวสักกะจอมเทพมีบริวารคือนางฟ้อนมากมายแวดล้อม...สาวๆนางฟ้า วันหนึ่งๆก็มีแต่กิจบันเทิงเก็บดอกไม้ ร้องรำทำเพลง คราหนึ่งท้าวสักกะส่งสาวนางฟ้า500นาง ไปเก็บดอกไม้ แต่เพราะหมดกรรมในสวรรค์เลยจุติไปทั้ง500 ..ท้าวสักกะมีบุญมาก เมื่อนางฟ้าหายไปก็ทรงตรวจดู พบว่านางเหล่านั้นจุติแล้วไปเกิดในนรก ท่านเลยตรวจดูชีวิตว่าจะอยู่ได้อีกนานเท่าไร..พบว่าอีก 7วันก็จะตายเหมือนกันและไปนรกอีกด้วย คราวนั้นก็สะดุ้งกลัวตายมาก ว่าจะต้องจากทิพยสมบัติถึงกับรำพึงว่า...

..." เทพนครหมื่นโยชน์ ประสาทไพชยันต์สูงพันโยชน์ สุธรรมาเทวสภาสามร้อยโยชน์ ต้นมหาปาริฉัตรสูงร้อยโยชน์ หินปัณฑุกัมพลหกสิบโยชน์ นางฟ้อนยี่สิบห้าโกฎิ เทพบริษัทในสองเทวโลก สวนนันทน์ สวนจิตรลดา สวนมิสสกะ สวนปารุสก์ แล้วก็ทรงถูกความกลัวครอบงำว่า ท่านเอ๋ย สมบัติของเรานี้จักฉิบหายหนอ"...ต่อไปก็ทรงมองดูว่ามีใครบ้างไหมหนอ ไม่ว่าเป็นสมณะ เป็นพราหมณ์ หรือมหาพรหมผู้เป็นพระบิดาของโลก ที่พึงถอนลูกศร คือความโศกที่อาศัยหัวใจเราแล้วทำให้สมบัตินี้มั่นคงได้ เมื่อทรงมองใครๆ ก็ไม่เห็น ก็ทรงเห็นอีกว่า มีแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงสามารถถอนความโศกศัลย์ที่เกิดแก่เทพทั้งหลายเช่นเราแม้ตั้งแสนได้.

จึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้าสอบถามปัญหาต่างๆ ในที่สุดเมื่อได้สดับพระธรรมก็บรรลุเป็นพระโสดาบัน รอดพ้นอบายไปแล้วครับ..


http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=5727&Z=6256


ส่วนท่านไผ่ ทบทวนดีๆว่าจะไปสู่ยามาดีหรือสู่มนุษยภูมิดี เพราะพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าสุคติภูมิของเทวดาที่ตายลงคือการได้เกิดเป็นมนุษย์ดังปรากฏใน จวมานสูตร ดังนี้...

[๒๖๒] ...ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย อะไรเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว อนึ่ง อะไรเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย พระเจ้าข้า ฯ

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเป็นมนุษย์แล เป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย เทวดาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ย่อมได้ศรัทธาในธรรมวินัยที่พระตถาคตประกาศแล้ว นี้แลเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว ก็ศรัทธาของเทวดานั้นแล เป็นคุณชาติตั้งลง มีมูลเกิดแล้วประดิษฐานมั่นคง อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก พึงนำไปไม่ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย ฯ

 

ขอบคุณท่านดีๆนะครับ

ผมชอบมนุษย์ภูมิครับ แต่ถ้าเราจักตายไปผมคาดว่ายังไม่บรรลุโสดาบันแน่ๆ เลยขอไปอยู่ชั้นยามาละกัน ที่จริงอยู่ไหนก็ได้แหละ แต่อยู่บนโลกนี้ผมตั้งเป้าหมายไว้แล้วจะสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างโรงเรียน ทำงานราชการ

ตอนนี้ผมก็โอนปัจจัยถวายสร้างพระ สร้างวัด จนเงินในบัญชีหมดแล้ว 5555+ // จนโดนแม่บอกว่าทำมากไป งดใช้เงินในธนาคาร 2 เดือน อิอิ

ก็ตามนี้แหละครับ ผมก็หวังว่าถ้าตายไปคงไม่ตกนรกก่อน TT

 

เคยฟังเคยอ่านเจอแต่เทพบุตรมีบริวารเป็นนางฟ้า

แล้วถ้านางฟ้าอย่างข้าพเจ้าอยากจะมีบริวารเป็นเทพบุตรสัก 500 องค์ นี่จะเป็นไปได้ไหม?

ปล.นางฟ้านั่นเก็บดอกไม้อีท่าไหนถึงต้องตกนรก ท่านเทพบุตร เ๊อ๊ย ท่านddman จะกรุณาเล่าให้ฟังบ้างได้ไหมเอ่ย

 

เคยได้อ่านเคยได้ยินว่า เวลาไปเกิดบนสวรรค์แล้วจะมีนางฟ้าเป็นบริวารจำนวนนับ พัน หมื่น ถ้าบารมีมากๆเป็นแสนก็มี
นางฟ้าเหล่านี้ที่เรียกว่าบริวาร เป็นบริวารในฐานะอะไรคะ รับใช้ เมีย หรือลูกคะ
เท่าที่จับความได้ นัยว่าจะเป็นฐานะเหมือนเมียซะก็มาก เป็นลูกก็มี

สวรรค์ทั้ง 6 ชั้นมีชื่อว่า กามาวจรภพคือภพที่ยังเสพกามอยู่ ก็เลยสันิษฐานว่า เป็นไปได้ที่จะเป็นบริวารในฐานะเมีย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการอนุมารนเอาจากที่ได้เคยได้ยินได้อ่านมา ไม่ยืนยันว่าถูกต้องนะคะ
ผู้รู้ช่วยแนะนำทีละกันคะ

แต่ก็สงสัยว่า ถ้าอยู่ในฐานะเมีย เทวบุตรหนึ่งมีนางฟ้าเป็นเมียนับพัน นับหมื่น แสดงว่าการมีเมียมากกว่าหนึ่งไม่บาป(เหรอคะ) เพราะการเป็นเทวดาก็ต้องมีเทวธรรมคือ หิริโอตตัปปะ ละอายและเกรงกลัวต่อบาป ถ้าการมีเมียมากกว่า 1 เป็นบาปเทวดาก้ไม่ควรทำใช่ไหมคะ ก็เลยงงๆอยู่เหมือนกันว่า จริงๆแล้วนางฟ้าบริวารเหล่านี้เป็นฐานะอะไรกันแน่

แต่กรณีตรงกันข้ามยังไม่เคยได้ยินหรือได้อ่านว่า นางฟ้ามีเทพบุตรเป็นบริวารนับพัน นับหมื่น แต่มีนางฟ้าด้วยกันนั้นแหละเป็นบริวาร
เหมือนกับว่า สากลจักรวาลนี้ ไม่ยอมรับการที่เพศชายจะมาห้อมล้อมเพศหญิง เพศชายจะเป็นบริวารเพศหญิง จะเห็นก็มีจำพวกแมลง มด ปลวก ผึ้ง ที่มีนางพญาเป็นใหญ่อยู่ตัวเดียว

จักรวาลนี้ไม่ยุติธรรมต่อสตรีเพศหรือเปล่าเนี่ย แต่ผู้ชายไม่ต้องมาล้อมหน้าล้อมหลังนะคะ ขอคนที่ใช่คนเดียวพอละ

 

ป่านนี้บุญของน้อง Sir-Pai มิไปถึงชั้น ๔ ชั้น ๕ แล้วรึ จะไม่ตกนรกก่อนหรอกน่าหากฝึกมรณานุสติไว้ และมีวาระจิตที่ดีก่อนเปลี่ยนภพภูมิ

ยามาภูมิ ต้องมีบุพกรรม เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ พยายามบำเพ็ญทานรักษาศีลเป็นนิตย์ มีจิตขวนขวายในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงรอบรู้ในไตรภพ พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าแสดง ไม่ใช่แกล้งทำความดีอย่างเสียไม่ได้ แต่ทำด้วยใจจริงหนักหนา ตั้งหน้าขวนขวายแต่กุศลกรรมความดีฝ่ายเดียว ไม่แลเหลียวในการทำบาปอกุศลกรรมเลย และให้ทานโดยคิดว่า บิดามารดปู่ย่าตายายของเราเคยทำมา เราควรทำตามประเพณีที่ท่านได้ทำไว้และมีจิตอธิษฐานประกอบด้วย ผู้นั้นเมื่อตายแล้ว ก็ได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้นยามา ซึ่งมีอายุนานถึง ๒๐๐๐ ปีทิพย์ นับได้ ๑๔ โกฎิ ๔ ล้านปีในมนุษย์โลก วันหนึ่งคืนหนึ่งของสรวงสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ ๒๐๐ ปีของมนุษย์

โมทนาสาธุบุญที่น้อง Sir-Pai ทำไว้ด้วยดีแล้วในปัจจัยที่บริจาคสร้างวิหารทาน

 

นี้เป็นกำลัง ทานอุปบารมี แล้วมั้งคะ เล่นให้ทานหมดหน้าตัก ถ้ากู้เขามาทำบุญนี่ขั้นปรมัติทานบารมีเลยนะ ที่ทำอยู่นี่กำลังใจไปชั้นดุสิตแล้วมังคะ
อนุโมทนาบุญนะคะ
ยังไงก็อย่าลืมนะคะ ทาน ศีล ภาวนา มี 3 หมวดคะ ปฏิบัติไปด้วยกันคะ
สงเคราะห์ มารดา บิดา สงเคราะห์คนในครอบครัว สงเคราะห์ญาติ นี่ก็ทานกุศลนะคะ ฝรั่งเขาก็มีคติที่ใช้ได้นะคะ Charity starts at home.
สรุปคืออย่าลืมดูแลคนในบ้าน คนใกล้ตัวด้วยนะคะ บุญเหมือนกันคะ
อ้อ ดูแลตัวเองด้วยคะ ขออนุโมทนานะคะ กำลังใจน่าจะเกินยามาไปแล้วคะ

 

ไม่แน่นะพอไปอยู่บนสวรรค์แล้วคุณไผ่อาจลืมเธอก็ได้
เพราะไปเจอนางฟ้าที่งามกว่า
แล้วตอนนั้นก็อาจตั้งจิตปราถนาให้มาเจอเธอในโลกมนุษย์อีกก็ได้ อิอิ

 

เย้ย ท่านศีรษะit ไยจึงห้าวหาญจะปานนั้นล่ะขอรับ!

ที่ท่่านสงสัยนั้น ตอบว่า ถ้าท่านประสงค์และมีบุญมากพอ สิ่งใดที่ท่านปรารถนาใยจะไม่มีได้เล่า แต่.. แต่ หลักการตามธรรมชาติในสากลมีว่า(อิงจากพระอภิธรรม) อันสตรีนั้น มีจิตไม่มั่นคงแข็งแรงเท่าบุรุษจึงมักต้องอิงอาศัยบุรุษในการให้ความคุ้มครองตน..ส่วนบุรุษนั้นมีจิตมั่นคงแกล้วกล้านัก (ดูเถิด สงครามฆ่ากันมากมายมาแล้วในประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ไม่ใช่บุรุษหรือ?)..ทั้งที่เกิดเป็นบุรุษได้ก็ด้วยความมั่งคงแห่งกุศลยิ่งกว่าสตรีนั่นเทียว...ดังมีข้อความกล่าวไว้ดังนี้

เรื่องกลับเพศ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 665

[๕๖] ๑. ก็โดยสมัยนั้นแล เพศหญิงปรากฏแก่ภิกษุรูปหนึ่ง ภิกษุ

ทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตอุปัชฌาย์เดิมนั้นแหละ อุปสมบทเดิมนั้นแหละ พรรษาก็เหล่านั้นและให้อยู่ร่วมกับภิกษุณีทั้งหลาย ฯลฯ

๒. ก็โดยสมัยนั้นแล เพศชายปรากฏแก่ภิกษุณีรูปหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรา
สองบทว่า อิตฺถีลิงฺคํ ปาตุภูตํ ความว่า เมื่อภิกษุนั้น หยั่งลงสู่
ความหลับในเวลากลางคืน อวัยวะทั้งปวงมีหนวดและเคราเป็นต้น ซึ่งเป็นทรวดทรงของบุรุษหายไป ทรวดทรงของสตรีเกิดขึ้นแทนที่.

เริ่มแรกในสองเพศนี้ เพศชาย เป็นอุดมเพศ เพศหญิง เป็นหีนเพศ;
เพราะเหตุนั้น เพศชาย จึงชื่อว่า อันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังรุนแรง.เพศหญิงปรากฏขึ้นแทน เพราะกุศลมีกำลังเพลาลง. ส่วนเพศหญิง จะอันตรธานไป ชื่อว่าอันตรธานไป เพราะอกุศลมีกำลังเพลาลง, เพศชายปรากฏขึ้นแทนเพราะกุศลมีกำลังรุนแรง. เพศทั้งสองอันตรธานไปเพราะอกุศล, กลับได้คืนเพราะกุศล ด้วยประการฉะนี้.

สำหรับการไปนรกของเหล่านางฟ้า500ก็ไปเพราะจิตเป็นอกุศลก่อนตายสิครับ ใครจะคิดว่า เพลิดเพลินเก็บดอกไม้อยู่จะเป็นทางไปนรกได้ล่ะ แต่เพราะเวลานั้น จิตมีแต่โลภะและโมหะ ไม่มีสติจึงได้คติเช่นนั้น..


ในอามกธัญญเปยยาล จตุตถวรรคที่ ๑๐
(พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค) ได้เล่าว่า
มีอยู่คราวหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงช้อนฝุ่นไว้ในปลายพระนขา (เล็บ)
แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา แล้วตรัสถามว่า
“ภิกษุทั้งหลาย ฝุ่นเล็กน้อยที่เราช้อนไว้ในปลายเล็บกับแผ่นดินใหญ่นี้ ไหนจะมากกว่ากัน?”
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ แผ่นดินใหญ่นี้แลมากกว่า
ฝุ่นเล็กน้อยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนไว้ที่ปลายพระนขามีประมาณน้อยเมื่อเทียบกับแผ่นดินใหญ่ ฝุ่นเล็กน้อยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนไว้ที่ปลายพระนขาย่อมไม่ถึงซึ่งการนับ การเปรียบเทียบ หรือแม้ส่วนเสี้ยว”



จากนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงสอนว่า
ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิมนุษย์ไปแล้ว
จะกลับมาเกิดในพวกมนุษย์ หรือจะไปเกิดในพวกเทวดานั้น มีน้อย
โดยที่แท้ สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิมนุษย์ไปแล้วไปเกิดในนรก
เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดเป็นเปรต มีมากกว่า

ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิเทวดาไปแล้ว
จะมาเกิดในพวกมนุษย์ หรือจะกลับไปเกิดในพวกเทวดานั้น มีน้อย
โดยที่แท้ สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิเทวดาไปแล้วไปเกิดในนรก
เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดเป็นเปรต มีมากกว่า

ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่ได้ตายจากนรกไปแล้ว
จะมาเกิดในพวกมนุษย์ หรือจะไปเกิดในพวกเทวดานั้น มีน้อย
โดยที่แท้ สัตว์ที่ได้ตายจากนรกไปแล้วกลับไปเกิดในนรก
เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดเป็นเปรต มีมากกว่า

ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิสัตว์ดิรัจฉานไปแล้ว
จะมาเกิดในพวกมนุษย์ หรือจะไปเกิดในพวกเทวดานั้น มีน้อย
โดยที่แท้ สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิสัตว์ดิรัจฉานไปแล้วไปเกิดในนรก
เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดเป็นเปรต มีมากกว่า

ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิเปรตไปแล้ว
จะมาเกิดในพวกมนุษย์ หรือจะไปเกิดในพวกเทวดานั้น มีน้อย
โดยที่แท้ สัตว์ที่ได้ตายจากภพภูมิเปรตไปแล้วไปเกิดในนรก
เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เกิดเป็นเปรต มีมากกว่า

 

ข้าพเจ้าก็แค่สงสัยนะเจ้าคะ

ข้าพเจ้าเป็นคนรักอิสระ ไม่รู้จะเอาไปทำไมเหมือนกันเทพบุตร 500 องค์นี่

ขาดความสามารถในการบริหารจัดการ

 

มีความคิดว่า อย่ายึดติดเรื่องเพศบนสวรรค์ เพราะไม่ได้ตายตัวเหมือนบนโลกมนุษย์

เทวดา เปลี่ยนเพศตนเองได้เพียงแค่นึก พระนางสิริมหามายา ไปเกิดเป็นเทพบุตร ก็

เนรมิตตนเป็นเทพธิดา ตอนมาหาพระพุทธเจ้าได้

ความเป็นเพศหญิง ชาย ของมนุษย์ เป็นไปตามกฏชีววิทยาของโลกนี้ แต่บนสวรรค์เป็น

ไปตามกฏชีววิทยาของโลกนี้ด้วยหรือไม่ เทวดาเกิดแบบโอปาติกะ ผุดขึ้นมาเอง ไม่ได้

เกิดมาจากการสืบพันธุ์ที่ต้องอาศัยเพศ กฏชีววิทยาบนโลกมนุษย์ เลยไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นบน

สวรรค์

 

ผมก็อยากรู้นะครับ ว่าเขาอยู่ในฐานะบริวารแล้ว เป็นภรรยาด้วยหรือยังไงก็ไม่เคยรู้เลย พี่มาสะกิดใจเลยอยากรุ้เลยขอรับ

ชั้นดุสิตขึ้นไปมีแต่คนบรรลุโสดาบันหรือได้ญาณกัน ผมไม่ได้หรอกครับ ><"