มาลองดูโฉมหน้า เจ้าชายสิทธัตถะ ที่วาดจากอัครสาวกกันไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 21 สิงหาคม 2013.

  1. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ภาพด้านซ้ายเป็นภาพจากฝรั่งครับ ซึ่งคาดการณ์ว่าไม่น่าใช่รูปพระพุทธเจ้าจริงๆครับ

    ส่วนภาพด้านขวามีความเหมือนและอาจใช่ของจริง มีทั้งความเป็นมหาบุรุษครับ ใกล้เคียงสุดแล้วครับ ขอบคุณ พี่tjr นะครับ ที่นำเสนอภาพนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_display.jpg
      1_display.jpg
      ขนาดไฟล์:
      214.2 KB
      เปิดดู:
      5,252
    • BuddhaImage9.jpg
      BuddhaImage9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.5 KB
      เปิดดู:
      1,583
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ไม่ใช่พระพุทธเจ้าหรอกคะ พระพุทธเจ้าท่านทรงหล่อ กว่าเยอะ

    ท่านผู้อยู่ในรูปนี้ น่าจะเป็นภาพคนสมัยใหม่ทางมองโกลเลียมากกว่า เสื้อผ้าแบบนั้นไม่มีใครใส่แบบนั้นเมื่อ 4000 ปีที่แล้ว
    ดิฉันว่าพระพุทธเจ้าทรงละม้าย พระพุทธรูป ที่กันดาฮาร์ มากกว่า
    และตามพระไตรฯ ท่านผมขอดเป็นก้นหอย ก็คือผมหยักศกเหมือนคนทางตะวันตกหรือ คนเนปาล คนอินเดีย มากกว่า



    [​IMG]




    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG]

    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  3. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ครับ ผมก็ไม่กล้าฟันธง แต่เห็นออกสื่อด้วย และมีที่เก็บอย่างดี เลยเอามาให้ดูกัน หลายๆมุมครับ รูปนั้นรูปนี้ดูๆกันไว้ แต่อย่างไรหน้าตาก็ไม่สำคัญเท่าคำสอนต่างๆที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ครับ
     
  4. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    สุนทริกสูตรที่ ๙
    [๖๕๘] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสุนทริกา ในโกศลชนบท ฯ
    ก็โดยสมัยนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ บูชาไฟ บำเรอการบูชาไฟอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำ
    สุนทริกา ฯ
    ลำดับนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ บูชาไฟ บำเรอการบูชาไฟแล้วลุกขึ้นจาก
    อาสนะ เหลียวดูทิศทั้ง ๔ โดยรอบ ด้วยคิดว่า ใครหนอควรบริโภคปายาสอันเหลือจากการ
    บูชานี้ ฯ
    [๖๕๙] สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ ได้เห็นพระผู้มีพระภาค ทรงคลุมอวัยวะพร้อมด้วย
    พระเศียร ประทับนั่งที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่ง ครั้นแล้วถือข้าวปายาสที่เหลือจากการบูชาไฟด้วยมือ
    ซ้าย ถือเต้าน้ำด้วยมือขวา เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ ฯ
    ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงเปิดพระเศียรด้วยเสียงเท้าของสุนทริกภารทวาชพราหมณ์
    ครั้งนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์กล่าวว่า นี้พระสมณะโล้นผู้เจริญ นี้พระสมณะโล้น
    ผู้เจริญ แล้วประสงค์จะกลับจากที่นั้นทีเดียว ฯ
    ลำดับนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้มีความดำริว่า พราหมณ์บาง พวกในโลกนี้
    เป็นผู้โล้นบ้างก็มี ถ้ากระไรเราพึงเข้าไปหาพระสมณะผู้โล้นนั้นแล้วถามถึงชาติ ฯ
    ลำดับนั้นแล สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ เข้าไปหาพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ ครั้น
    แล้ว ได้ถามพระผู้มีพระภาคว่า ท่านเป็นชาติอะไร ฯ

    [๖๖๐] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    ท่านอย่าถามถึงชาติ แต่จงถามถึงความประพฤติเถิด ไฟย่อมเกิดจาก
    ไม้แล บุคคลแม้เกิดในตระกูลต่ำเป็นมุนี มีความเพียรเป็นผู้รู้ทั่วถึงเหตุ
    ห้ามโทษเสียด้วยหิริ ฝึกตนแล้วด้วยสัจจะประกอบด้วยการปราบปราม
    ถึงที่สุดแห่งเวท มีพรหมจรรย์อันอยู่จบแล้ว ผู้ใดมียัญอันน้อมเข้าไป
    แล้ว บูชาพราหมณ์ผู้นั้น ผู้นั้นชื่อว่าย่อมบูชาพระทักขิไณยบุคคลโดย
    กาล ฯ
    [๖๖๑] สุนทริกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า
    การบูชานี้ของข้าพระองค์เป็นอันบูชาดีแล้ว เซ่นสรวงดีแล้วเป็นแน่
    เพราะข้าพระองค์ได้พบผู้ถึงเวทเช่นนั้น และเพราะข้าพระองค์ไม่พบบุคคล
    เช่นพระองค์ ชนอื่นจึงบริโภคปายาสอันเหลือจากการบูชา ฯ
    สุนทริกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า พระโคดมผู้เจริญเป็นพราหมณ์เชิญบริโภคเถิด ฯ
    [๖๖๒] พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
    เราไม่บริโภคโภชนะที่ขับด้วยคาถา ดูกรพราหมณ์ นั่นไม่ใช่ธรรมของผู้
    พิจารณาอยู่ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมบรรเทาโภชนะที่ขับด้วยคาถา ดูกร
    พราหมณ์ เมื่อธรรมมีอยู่ นั่นเป็นความประพฤติ อนึ่ง ท่านจงบำรุง
    พระขีณาสพทั้งสิ้นผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ ผู้มีความคะนองอันสงบแล้ว
    ด้วยสิ่งอื่นคือข้าวน้ำ เพราะว่าการบำรุงนั้นย่อมเป็นเขตของผู้มุ่งบุญ ฯ
    [๖๖๓] ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์กราบทูลว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ถ้า
    เช่นนั้นข้าพระองค์จะให้ปายาสอันเหลือจากการบูชานี้แก่ใคร ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรพราหมณ์ เรายังไม่แลเห็นบุคคลในโลก พร้อมทั้งเทวโลก
    มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ ซึ่งจะบริโภคปายาส
    ที่เหลือจากการบูชานี้แล้ว จะพึงถึงความย่อยไปโดยชอบ นอกจากตถาคตหรือสาวกของตถาคต
    ดูกรพราหมณ์ ถ้าอย่างนั้นท่านจงทิ้งปายาสอันเหลือจากการบูชานั้น ณ ที่ปราศจากของเขียว
    หรือทิ้งให้จมลงไปในน้ำที่ไม่มีตัวสัตว์ ฯ
    [๖๖๔] ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ทิ้งปายาสอันเหลือจากการบูชานั้น ให้
    จมลงไปในน้ำที่ไม่มีตัวสัตว์ ฯ
    ครั้งนั้นแล ปายาสอันเหลือจากการบูชานั้น อันสุนทริกภารทวาชพราหมณ์เทลงแล้วใน
    น้ำย่อมมีเสียงดัง วิจิฏะ วิฏิจิฏะ และเดือดเป็นควันกลุ้ม เหมือนอย่างผาลที่ร้อนแล้วตลอดอัน
    อันบุคคลใส่ลงแล้วในน้ำ ย่อมมีเสียงดัง วิจิฏะวิฏิจิฏะ และเดือดเป็นควันคลุ้ม ฉะนั้น ฯ
    ลำดับนั้น สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ หลากใจเกิดขนชูชัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
    ยังที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ยืนอยู่ในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ
    [๖๖๕] พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะสุนทริกภารทวาชพราหมณ์ ผู้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วน
    ข้างหนึ่ง ด้วยพระคาถาทั้งหลายว่า
    ดูกรพราหมณ์ ท่านเผาไม้อยู่อย่าสำคัญซึ่งความบริสุทธิ์ ก็การเผาไม้นี้
    เป็นของภายนอก ผู้ฉลาดทั้งหลายย่อมไม่กล่าวความบริสุทธิ์ด้วยการเผา
    ไม้นั้น ดูกรพราหมณ์ เราละการเผาไม้ซึ่งบุคคลพึงปรารถนาความ
    บริสุทธิ์ด้วยการเผาไม้อันเป็นของมีในภายนอก แล้วยังไฟคือญาณให้
    โพลงภายในตนทีเดียว เราเป็นพระอรหันต์ มีไฟอันโพลงแล้วเป็น
    นิตย์ มีจิตตั้งไว้ชอบแล้วเป็นนิตย์ ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ ดูกรพราหมณ์
    มานะแลเป็นดุจภาระคือ หาบของท่าน ความโกรธดุจควัน มุสาวาท
    เป็นดุจเถ้า ลิ้นเป็นประดุจภาชนะเครื่องบูชา หทัยเป็นที่ตั้งกองกูณฑ์
    ตนที่ฝึกดีแล้ว เป็นความรุ่งเรืองของบุรุษ ดูกรพราหมณ์ บุคคลผู้ถึง
    เวททั้งหลายนั้นแล อาบในห้วงน้ำคือธรรมของบุรุษทั้งหลาย มีท่าคือ
    ศีลไม่ขุ่นมัว อันบัณฑิตทั้งหลายสรรเสริญแล้ว มีตัวไม่เปียกแล้ว ย่อม
    ข้ามถึงฝั่ง ดูกรพราหมณ์ สัจจะธรรม ความสำรวม พรหมจรรย์
    การถึงธรรมอันประเสริฐ อาศัยในท่ามกลาง ท่านจงกระทำความนอบ
    น้อมในพระขีณาสพผู้ตรงทั้งหลาย เรากล่าวคนนั้นว่าผู้มีธรรมเป็นสาระ ฯ
    [๖๖๖] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว สุนทริกภารทวาชพราหมณ์ได้กราบทูล
    พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ข้าแต่พระโคดมผู้
    เจริญ ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก ฯลฯ ก็แหละท่านพระภารทวาชะ ได้เป็นพระอรหันต์
    รูปหนึ่ง ในบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ดังนี้แล ฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๕
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
    หน้าที่ ๒๐๖/๒๘๙

    [๔๐๖] ดูกรอานนท์ เมื่อฆฏิการะช่างหม้อกล่าวอย่างนี้แล้ว โชติปาลมาณพได้กล่าวว่า
    อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้นที่เราเห็นแล้วเล่า? ดูกร
    อานนท์ แม้ครั้งที่สอง ฆฏิการะช่างหม้อก็ได้กล่าวกะโชติปาลมาณพว่า มาเถิดเพื่อนโชติปาละ
    เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า
    การที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น สมมติกันว่าเป็นความดี.
    แม้ครั้งที่สอง โชติปาลมาณพก็ได้กล่าวว่า อย่าเลยเพื่อนฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วย
    พระสมณะศีรษะโล้นนั้นที่เราเห็นแล้วเล่า? แม้ครั้งที่สาม ฆฏิการะช่างหม้อก็ได้กล่าวว่า มาเถิด
    เพื่อนโชติปาละ เราจักเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่ากัสสปผู้เป็นพระอรหันตสัมมา
    สัมพุทธเจ้า เพราะว่าการที่เราได้เห็นพระผู้มีพระภาคผู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น
    สมมติกันว่าเป็นความดี. ดูกรอานนท์ แม้ครั้งที่สาม โชติปาลมาณพก็กล่าวว่า อย่าเลยเพื่อน
    ฆฏิการะ จะมีประโยชน์อะไรด้วยพระสมณะศีรษะโล้นนั้นที่เราเห็นแล้วเล่า?


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๓
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
    หน้าที่ ๒๘๙/๕๑๘

    [๗๓๕] ก็สมัยนั้นแล มาณพชื่อสคารวะอาศัยอยู่ในบ้านปัจจลกัปปะเป็นผู้รู้จบไตรเพท
    พร้อมทั้งคัมภีร์นิคัณฑุและคัมภีร์เกตุภะ พร้อมทั้งประเภทอักษร มีคัมภีร์อิติหาสะเป็นที่ ๕ เป็น
    ผู้เข้าใจตัวบท เข้าใจไวยากรณ์ ชำนาญในคัมภีร์โลกายตะและตำราทำนายมหาปุริสลักษณะ. เขา
    ได้ฟังวาจาที่นางธนัญชานีพราหมณีกล่าวอย่างนั้น ครั้นแล้วได้กล่าวกะนางธนัญชานีพราหมณีว่า
    นางธนัญชานีพราหมณีไม่เป็นมงคลเลย นางธนัญชานีเป็นคนฉิบหาย เมื่อพราหมณ์ทั้งหลายผู้
    ทรงไตรวิชามีอยู่ เออก็นางไปกล่าวสรรเสริญคุณของสมณะหัวโล้นนั้นทำไม? นางธนัญชานี
    พราหมณีได้กล่าวว่า ดูกรพ่อผู้มีพักตร์อันเจริญ ก็พ่อยังไม่รู้ซึ่งศีลและปัญญาของพระผู้มีพระภาค
    พระองค์นั้น ถ้าพ่อพึงรู้ศีลและพระปัญญาของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น พ่อจะไม่พึงสำคัญ
    พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นว่า เป็นผู้ควรด่า ควรบริภาษเลย. สคารวมาณพกล่าวว่า ดูกรนาง
    ผู้เจริญ ถ้าเช่นนั้น พระสมณะมาถึงบ้านปัจจลกัปปะเมื่อใด พึงบอกแก่ฉันเมื่อนั้น. นางธนัญชานี
    พราหมณีรับคำสคารวมาณพแล้ว.

    [๗๓๖] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศลโดยลำดับ เสด็จไป
    ถึงบ้านปัจจลกัปปะ.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๓
    หน้าที่ ๕๐๔/๕๑๘
     
  5. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ชาดกพระสูตรก็ส่วนนึง ที่พูดถึงนี้หมายถึงมหาปุริสลักขณะ
     
  6. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
     
  7. ตาป้อม

    ตาป้อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +121
    ไม่น่าจะใช่ครับ หลายๆครั้งที่ฝรั่งทำอะไรผิดพลาด หรือทำอะไรแผลงๆไม่ตรงกับข้ามเป็นจริง ครับ
     
  8. น้องจุ๊บ

    น้องจุ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    603
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ไม่น่าใช่ค่ะ พระองค์เป็นพระมหาบุรุษผู้สมบูรณ์ด้วยลักษณะ ๓๒ ประการ ด้วยบุญบารมีของพระองค์
     
  9. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    นี่คือรูปภาพที่เหมือนพระพุทธเจ้ามากที่สุดครับ

    ในกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม จิตจะรับทราบเหมือนกันว่ากายท่าน พระสมณโคตมสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นอย่างรูปนี้ครับ

    สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. nun-rayong

    nun-rayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,312
    อันนี้เห็นด้วยกับคูณ ดัชเชส บางครั้งฝรั่งก็ไม่รู้จริง และยังแถมแอบทำลายความศรัทธา ของศาสนาอื่นๆ ที่คิดไม่เหมือนตน เช่นพุทธศาสนาในไทยเขาก็แอบทำลายอย่างลับๆ
    มุสลิมเข้าทางการเมือง คริสเข้าทางการศึกษา
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    หากสังเกตุจากรูปภาพ

    จะปรากฏมหาลักษณะแห่งมหาบุรุษ ครับ เช่นพระพักตร์ พระเกศา พระกร พระบาท พระวรกาย ครบถ้วนถูกต้องครับ และเวลาที่กระผมเจริญสมาธินิมิตภาพแห่งพระองค์ ก็จะปรากฏภาพนี้เสมอ แต่ในนิมิตนั้น มันเป็นยิ่งกว่าภาพที่ปรากฏ แต่ไม่ขอกล่าว ณที่นี้ครับ สาธุ
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    (ที่มาของรูปพระพุทธเจ้า)


    ประวัติมีอยู่ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2523 ได้มีฝรั่งชาวอังกฤษท่านหนึ่ง
    ชื่อ นายแพทย์เบอร์นาร์ด ได้มาเที่ยวที่ประเทศอินเดียและได้มาพบเห็น
    ประเพณีโบราณหลายอย่าง บางอย่างก็ดูทารุณโหดร้าย บางอย่างก็
    สกปรก บางอย่างล้าสมัยแบ่งชนชั้นเหยียดหยามกัน นึกตำหนิอยู่ในใจ

    เมื่อได้เที่ยวมาถึงพุทธคยา ได้มาชมประเพณีเวียนเทียนวันวิสาขบูชาที่
    เจดีย์พุทธคยา ได้เห็นประชาชนเวียนเทียนกราบไหว้ต้นโพธิ์ที่
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยประทับนั่งตรัสรู้ก็นึกตำหนิในใจว่า ประชาชน
    พวกนี้โง่มากขาดกราบไหว้ต้นไม้ได้ ครั้นสอบถามได้รับคำตอบว่าเป็น
    ต้นโพธิ์ที่ประทับนั่งตรัสรู้ของเจ้าชายสิทธัตถะในครั้งแรกทำให้เกิด
    ศาสนาพุทธขึ้น ฝรั่งผู้นี้ก็นึกในใจว่าเรื่องเจ้าชายสิทธัตถะเป็นเพียงนิยาย
    ที่แต่งขึ้นมาให้นับถือเท่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง นึกเหยียดหยามชาวพุทธอยู่
    ในใจว่าโง่เง่างมงาย แต่ไม่พูดอะไรกลัวมีเรื่อง



    ครั้นกลับที่พักแล้วตอนดึกของคืนนั้นนอนหลับฝันไปว่าตนเองได้ย้อน
    กลับมาที่พุทธคยานี้อีก แต่เห็นสถานที่เป็นป่าแปลกตาออกไป เห็นต้น
    โพธิ์ใหญ่มีพระนั่งอยู่องค์หนึ่งมีรัศมีงดงาม จึงได้เข้าไปถามว่าท่านเป็น
    ใคร มานั่งที่นี่ทำไม ได้รับคำตอบว่าเราชื่อพระสิทธัตถะ สละราชสมบัติ
    มาบวชและได้เคยมานั่งค้นคว้าพระธรรมที่นี่จนได้ตรัสรู้ ฝรั่งสงสัยจึง
    ย้อนถามว่า เจ้าชายสิทธัตถะมีจริงหรือ ทรงตอบว่าใช่ เจ้าชายสิทธัตถะมี
    จริง ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าจริง ณ โคนต้นโพธิ์นี้เป็นที่แรกตรัสรู้ของเรา
    ท่านไม่เชื่อเพราะไม่เคยศึกษาเรื่องนี้มาก่อนเลย ท่านเก่งทางวิทยาศาสตร์
    แต่ท่านไม่ได้เก่งเรื่องธรรมะ ถ้าท่านได้ศึกษาธรรมะท่านก็จะรู้ได้ และจะ
    ไม่ไปตำหนิคนอื่นเขาอย่างนี้อีก สิ่งใดที่เราไม่เคยเรียนไม่เคยรู้ไม่เคยค้น
    คว้าศึกษามาก่อน แล้วจะไปว่าคนที่เขาศึกษาค้นคว้าโง่เง่าอะไรนั้นเป็นสิ่ง
    ที่ไม่ถูกต้อง ถ้าท่านได้ศึกษาแล้วพิสูจน์แล้วหากปรากฏว่าเหลวไหลไร้
    สาระจริงจึงประณามก็สมควรทำ ท่านไม่ศึกษาเลยแล้วมาประณามเช่นนี้
    เป็นสิ่งไม่ควรทำ เป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรม อาจผิดพลาดได้ ในฝันของฝรั่งคิด
    ในใจว่าถ้าตนเอากล้องถ่ายรูปมาจะถ่ายภาพพระสิทธัตถะองค์นี้ออกอวด
    ชาวโลกว่าเจ้าชายสิทธัตถะมีจริง จะได้แก้ข้อสงสัยของชาวโลกได้ แต่ใน
    ฝันตนลืมกล้องถ่ายรูปไป ได้สนทนาได้รับคำตอบที่ถูกใจมากจนลากลับ
    และได้ตื่นขึ้นในตอนเช้า



    ครั้นตื่นแล้วติดใจในความฝัน ลุกขึ้นมาค้นหากล้องถ่ายรูปคิดว่าจะไป
    ถ่ายรูปนี้มาให้ได้ ครั้นอาบน้ำรับประทานอาหารแล้วได้ไปซื้อฟิล์มมาใหม่
    1 ม้วน ใส่กล้องออกเดินทางมาที่พุทธคยานี้อีกครั้ง ตั้งต้นถ่ายรูปไปที
    ละฟิล์มรอบต้นโพธิ์ นึกในใจว่า เจ้าชายสิทธัตถะมีจริงหรือ ตรัสรู้เป็น
    พระพุทธเจ้าจริงหรือ นั่งตรงไหนจึงได้ตรัสรู้ ถ้าจริงขอให้ติดสักภาพเถิด
    จะได้ไปอวดเขาได้ว่าพระสิทธัตถะมีจริง ได้ถ่ายรอบต้นโพธิ์ทุกแง่ทุกมุม
    เสร็จแล้วถอดฟิล์มให้ช่างล้างให้ ปรากฏว่าได้มาภาพเดียวคือภาพนี้
    ภาพที่ถ่ายมาด้วยกันไม่ติดอะไรเลยแม้กระทั่งต้นหญ้า ทั้งนี้เพราะฝรั่งตั้ง
    ใจขอภาพเดียวจึงได้ภาพเดียว



    ครั้นได้แล้วก็ดีใจกลับประเทศของตน อวดลูกอวดเมียก็ไม่เชื่อ อวดใคร
    ก็ไม่เชื่อ ซ้ำยังถูกว่าโง่เง่าเชื่อในสิ่งเหลวไหลอีก จึงได้เก็บใส่กระเป๋าคง
    อยู่ในอัลบั้มอย่างนั้นไม่ได้อวดใครอีกต่อไป ฝรั่งผู้นี้ไม่รู้ว่าการปิดภาพ
    บุคคลที่ทำบุญบารมีมาเพื่อโปรดสัตว์ ทำบารมีมามากมายหลายร้อย
    หลายพันชาติจนได้เป็นพระพุทธเจ้าโปรดโลกได้จริงเช่นนี้เป็นบาป
    อย่างน้อยที่สุดใส่กรอบแขวนไว้ข้างฝาก็จะพ้นบาป ไม่ผิดสัจจะที่ขอมา
    ว่าจะให้ชาวโลกเขาดู เมื่อผิดสัจจะอย่างนี้ฝรั่งผู้นี้จึงประสบวิกฤติส่วนตัว
    ชีวิตผกผวนอย่างมากผิดหวังในชีวิตหลายอย่างจนรู้สึกสิ้นหวัง ได้คิดถึง
    คำสอนของพระสิทธัตถะที่ว่าให้ทดลองศึกษาธรรมะดูบ้าง
    เพราะวิทยาศาสตร์ศึกษาจนจบแล้ว ได้ตันสินใจหิ้วกระเป๋าใบเก่ากลับ
    มาขอบวชอยู่ที่วัดพุทธคยา เมื่อคนไทยไปเที่ยวคนที่พูดภาษาอังกฤษได้
    ได้ไปสนทนากับท่าน ถามท่านว่ามีเหตุอะไรจึงได้มาบวช ท่านได้เล่าให้
    ฟังโดยตลอดและได้นำภาพนี้มาอวดอีก คนไทยได้อ้อนวอนขอท่านมา
    เมื่อมาถึงเมืองไทยก็ได้อัดแจกกันตามประสาชาวพุทธ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. Deep Blue

    Deep Blue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +887
    ผมว่าน่าจะประมาณนี้นะ


    [​IMG]
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ========

    ขออนุโมทนาครับ ลองศึกษาดูทีอีกเพราะที่มาผมก็อ่านตามที่มีลงไว้ตามข้อมูลที่มีครับ

    แต่จากการปฏิบัติทางจิต นิมิตท่านพระพุทธเจ้าท่านมีลักษณะตามรูปในภาพนี้ทุกประการครับ ตรงนี้เป็น เรื่องเฉพาะตนครับ สาธุ
     
  15. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    ถ้าปฏิบัติตามคำสอนของท่านก็เท่ากับได้เห็นพระพุทธเจ้าแล้วครับทุกท่าน
     
  16. darkphantom

    darkphantom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2006
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +145
    รูปนี้เคยมีมาเผยแพร่ว่าเป็นเจงกิสข่านบ้าง พระอาจารย์ตั๊กม๊อบ้างครับ
     
  17. 789654561

    789654561 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +333
    ไม่มีคะ ไม่เคยเห็น ดิฉันเดินใน British Museum ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง 100 กว่าชั่วโมง ไม่เคยเจอ กรุณาหยุดเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นจริงด้วยคะ
     
  18. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    เอ้า โดนว่าเลยผมก็อปมาจากเว็บ
    รูป คุณเชื่อหรือไม่?! ว่านี่เป็นใบหน้าที่แท้จริงของพระพุทธเจ้า !!!

    ผมจะเผยแพร่อะไรให้เป็นเท็จทำไมครับ

    ผมไปเจอข้อมูลอะไรน่าสนใจก็เอามาให้วิเคราะห์กันก็บอกไว้ในหน้ากระทู้แล้วนะครับ เห้อออ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  19. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมตั้งกระทู้นี้จะได้ให้มันถกกันคุยกันว่าหน้าตาพระพุทธเจ้าหรอ หรือฝรั่งหลอกอย่างไร

    แล้วหน้าตาต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง พี่tjs ก็มาบอกลักษณะให้ฟัง

    ก็ได้ความรู้กัน
     
  20. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    ตามความรู้สึกผมทางซ้ายไม่ใช่แน่ ทางขวาทำมาให้คล้ายพระพุทธรูป แต่ยังไม่สง่าเท่า ส่วนพระพุทธเจ้าจะเป็นชาวอะไร ผมเชื่อบันทึกของคนที่ว่าเคยได้ฟังมาจากหลวงปู่มั่นมากกว่า

    ถึงคุณที่นำรูปผู้หญิงมาเปรียบพระพุทธเจ้า ลบออกตอนนี้แล้วรีบขอขมาพระรัตนตรัยก็ยังทันอยู่นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...