พวกพุทธภูมิทีนี่คือพวกเอาดีไม่ได้ใช่อ๊ะปะ

ลาแล้วละนะ

 

เป็นการตั้งกับดัก ล่อเป้าตีหัวลูบหลังที่ดีครับ จขกท คงจะยิ้มพอใจในกระทู้เป็นอันมากเปิดตัวมีคนเ้ข้ามาต่อกระทู้ยาวๆ ผมมองว่าไม่ว่าจะพุทธภูมิ หรือสาวกภูมิ ที่เขาได้นึกคิดใคร่ครวญตรึกตรองฝึกฝนกำลังของจิตมีสติ เขาไม่มาเสียเวลามาคิดเรื่องทำนองนี้หรอกครับ จะรู้สึกเฉยๆ มองว่ามันไม่ใช่สาระ เป็นประเด็นสำคัญ ถ้าทุกคนมองว่าสิ่งเหล่านี้มันเป็นธรรมดาของธรรมชาติความเป็นจริงของสัตว์ทั้งหลายในทางโลก ที่ไม่ใช่ในทางธรรม การวัดกันจะวัดกันที่การกระทำไม่ใช่ทางด้านความรู้สึกนึกคิด การนึกคิดที่ออกมาจากความรู้สึกที่ยังไม่มองในเรื่องของเหตุและผล และส่วนลึกในด้านของความคิดแต่ละคนเราไม่อาจไปตัดสินเขาได้ แม้บางครั้งผู้ที่ปฏิบัติย่อมรู้กำลังของตนว่าอยู่ตรงส่วนไหน จะไม่ออกมาพร่ำเพื่อในเรื่องแบบนี้ เพราะจะเจ็บตัวไปเปล่ากับคนที่คิดว่าตัวเองมีความรู้ ความสามารถ รู้มาก อ่านมาก ปฏิบัติมาก แต่ก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย คิดว่าสถานะตัวเองมีองค์ความรู้ที่อยู่เหนือผู้อื่น ข่มผู้อื่นได้ ถ้าเปรียบในทางโลกความเด็ก หนุ่ม แก่ เวลามันเปลี่ยนแปลงไปอย่างแน่นอน คนจะคิดว่า ตัวเองแก่กว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่คิดหรือว่า ใครเขาจะตามมาทัน แก่ก่อนก็ตายก่อน เป็นก่อน ได้ก่อน ก็เสียก่อน ไปก่อนเขาอยู่ดี ถึงแม้ว่าตัวเองจะไปก่อน ได้ก่อน ถึงก่อน ความเป็นไปในความหมาย ผลซึ่งนิจนิรันดร์ความเป็นที่สุด สุดท้ายเติมเต็มก็ไปที่เดียวกัน ไม่มีอะไรต่างกัน เสมอกัน เท่ากัน เหมือนกัน ไม่มีอะไรเด่นกว่ากัน คนที่มองว่าต้องเป็นแบบนี้ มันเหมือนมองไม่เห็นความเป็นจริง ที่เป็นไปตามธรรมชาติ มองว่าสิ่งที่คุณหวังตั้งใจ ต้องกระทำแบบนี้ ยิ่งยวดอย่างนี้ สิ่งที่แตกต่างคือ เวลา กำลังสถานะ จุดมุ่งหมาย สิ่งที่หวัง ทุกคนมสิทธิ์ที่จะคิดและกระทำได้เท่ากัน แต่จะไปถึงจุดมุ่งหมายหรือเปล่านั้น มันเป็นอีกเรื่อง หรือทางเดินที่คิด อุดมการณ์ มุ่งหวัง ปณิธาน เอาไว้ต้องรอเวลาของการกระทำเป็นหลัก จะมากำหนดทิศทางของผู้อื่น ผู้ที่มีความตั้งใจ ปารถนาอย่างแน่วแน่นั้นไม่ได้ ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าผู้ที่มีแนวคิด ความคิดแบบนี้ เป็นคนที่มีความรู้อย่างถ่องแท้ รู้มาก ศึกษามาก เป็นคนไม่ยอมใคร ให้มาอยู่เหนือตนเอง ทั้งที่บางคราวอายุอ่อนกว่า มีผู้ที่อาวุโสกว่า แต่ก็ไม่ยอมรับฟัง ในความคิด การบอกกล่าว สอน ตัวเองมีอคติ ความเป็นใหญ่ในด้านของความรู้ การศึกษา ฐานะ ไม่มองภาพรวมของเรื่องเวลาสถานะของผู้อื่น จะคิดเพียงแค่กรอบสั้นๆในวงแคบ ในเวลาที่สำคัญ ความสำคัญของการปฏิบัตินั้นอยู่ที่เวลา ประสบการณ์ เด็กจะโตเป็นผู้ใหญ่ต้องใช้เวลา ต้องการเวลาในการเรียนรู้หาประสบการณ์ ยอมรับฟังในความคิดการกระทำของผู้อื่นบ้างเพื่อเป็นการเปิดโอกาศ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อให้ผู้อื่นได้มีกำลังใจ ภูมิใจในตัวเอง ที่มีโอกาสได้คิดกระทำ ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นมันไม่ถูก แต่สักวันเขาตั้วใจที่จะกระทำสิ่งที่ตัวเองมุ่งหวังให้สำเร็จถูกต้อง เขาจะต้องรู้ตัวเองดีว่า สิ่งนั้นมันถูกต้องที่สุดหรือไม่

 

ข้างบนนี้บ่นอะไรว้า โคตรน่ามคาญ

 

ลาแล้วละนะ

 

สงสัยจะเมา ใครไปวัดอะไรใครว้าเนี่ย อ่านข้อความแล้วเหมือนพวกคนแก่หลงๆ เลอะเลือนๆ เลยหวะ กร๊าก

 

ก็ขอทักทายสวัสดีครับผมมาช่วยงานนี้เขานิดหน่อยจะกลับแล้ว เดี๋ยวพอเพลงรักน้องพร ของพี่สดใสจบลง แล้วพอเพลงขอบคุณแฟนเพลงของพี่ยอดรักของผมขึ้นเมื่อไร ก็จะขอกราบลาเจ้าภาพกลับบ้านอาบน้ำอาบท่าทาแป้ง นอนฟังเพลงบัวลอยอยู่ที่บ้าน คุณหกก็คุยเป็นเพื่อนเจ้าภาพก็แล้วกัน วันหลังว่างๆก็เชิญไปแวะจิปกาแฟเม็ดมะขามคั่วที่บ้านผม ที่นั่นน่ะบรรยากาศ สบายๆ เขาเรียกต้นเป็นสวน กลางเป็นไร่ ปลายเป็นทุ่งนา เหมาะที่จะจิปกาแฟนั่งมองดูนกเอื้ยงเลี้ยงน้องแก้ว ส่ายสามช่าบนหลังควายเฒ่า ก็ขอเชิญพุทธภูมิทุกท่านที่อยากผ่อนคลายในบรรยากาศแบบนี้

 

โมทนาสาธุอย่างยิ่งกับคุณ26 ขอจงสมความปรารถนาในทุกประการ ว่างเมื่อไรก็ขอเชิญแวะไปบ้านผมบ้างที่นั่นบรรยากาศไม่อึดอัดสบายๆ เหมาะกับคนที่เรียนจบใหม่ บรรยากาศเป็นแบบเราได้กลับบ้านนอนหนุนขาพ่อ แม่ ปู่ย่า ตายาย ให้ท่านหายคิดถึงช่วยงานบ้านเล็กน้อยๆ พอท่านได้ชื่นใจที่ลูกหลานของท่านเรียนจบมาเป็นบัณฑิตกับเขา อยู่บ้านสักสองสามเดือนค่อยไปท่องยุทธภพที่บ้านผมบรรยากาศเป็นแบบนี้ครับ

 

กลับก่อนละนะ

 

วะฮ่าฮ่า คนพาลยกยอกันเองด้วยการกดอนุโมทนา ฮากลิ้ง
จำไว้นะ ผู้ปราถนาโพธิญาณ. บัณฑิตประจานดีกว่าเหล่าคนพาลสรรเสริญ
พวกนี้ไม่ต่างกับพวกชอบเชียร์มวย คนบ้ายอก็ดีใจกูมีพวกเห็นด้วยเว่ย
เอาต่อดีฝ่า. แต่ลองไม่มีใครกดไลค์สิ กลายเป็นพุทธูมิหน้าจ๋อย เถียงไม่ออก. กร๊ากๆ

 

คุณ jmind รักษาเจตนาให้ดี

ระวังเรื่อง " อริยุปวาท "

ลองเข้าไปดู ในหมวดทาน การให้กับผู้ที่ทำกาม

ราคะให้สิ้นแม้เป็นบุคคลนอกศาสนา..ยังมีผลมาก

กว่าคนมีศีล ในเว็ปนี้ ผมมองเหมือนกามาวจร มีคน

หลายแบบ (จิตร) ซึ่งก็อาจมี พระอริยบุคคลท่านเข้ามา

ก็เป็นไปได้ กิเลสมันกินอารมณย์เป็นอาหาร ระวัง

ความคึกคะนอง ไม่คุ้มกันแน่ๆ ที่ผ่านมาแก้ไม่ได้แล้ว

แต่ระวังจิตร จากนี้ต่อไป ปราถนาดีน๊ะครับ.

 

ระวังจิตอะไร เพี้ยนเป่า โน่นไประวังพวกอันธพาลจะตีหมาโน่นขอรับ
มันก็คึกคะนองกันทั้งนั้นหละว้า ไม่วั้นมันจะเขียนเพ้อเจ้อเป็นหน้าๆหรือ
คุณปฏิเสธพุทธภูมิไปแล้ว ไม่ใช่หรือ หยั่มมารู้ดีเลย กร๊ากๆ

 

" วิญญูชนคนถ่อย ต่างกันที่ห้วงคิด "

ท่านเจ้าของกระทู้เข้าใจความหมายไหมครับ

 

คุณหก: พุทธภูมิ วิริยะธิกกะ
คุณ26: พุทธภูมิ วิริยะธิกกะ
เรื่องบังเอิญหรือบุญสัมพันธ์คะเนี่ย

ในพลังจิตนี้มี ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ วิริยะธิกกะ แบบ username มีเลข 6(หก) อีกไหมคะ

 

ปธาน ๔ ต้องใช้การสั่งสมและอบรม

ไว้เวลาคับขัน..ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

แต่ถ้าเอาไม่อยู่จริงๆ..ยืดอกรับมัน

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..และบอกกับตัว

เองว่า "ไม่มีใครทำเราได้..นอกจากตัวเราทำตัวเราเอง"

จิตรจะได้รับผลกระทบเบาลงหน่อย...โชคดีครับ.

 

สวัสดีท่านทั้งหลาย

พระท่านว่าทุก ๆ ดวงจิตมีจุดกำเนิด ซึ่งถือกำเนิดมาจากอนูเล็ก ๆ ที่เป็นตัวรู้ ภาษาสมัยใหม่ เจ้าอนูเล็กนี้ ก็จัดว่าเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ว่องไวมาก มารวมตัวกัน ขึ้นเป็นดวงจิต เมื่อรวมตัวกันแล้วก็ไม่มีการสลายตัว (ถ้าจะถามว่าก็เพราะอะไรเจ้าอนูเล็กที่ว่านี้ถึงต้องมารวมตัวกัน ก็บอกว่ามันเป็นวิวัฒนาการทางธรรมชาติ ของการถือกำเนิดดวงจิต)

เราท่านทั้งหลายต่างก็เป็นดวงจิต ที่ถือกำเนิดขึ้นมา แล้วก็ผ่านการ เวียน ว่าย ตาย เกิด ในวัฏฏะสงสารนี้ กันมานานแสนนานจนนับไม่ได้แล้วนะ (เรียกว่าดวงจิต แต่ก็ไม่ได้มีรูปร่างเป็นดวงกลมนะ ก็เป็นแบบตัวคนเรานี่แหละนะ)

จะเห็นได้ว่า มันไม่มีอะไรมาก ก็มีดวงจิต และก็การกระทำความดี หรือว่าการกระทำความชั่วของดวงจิต ก็เท่านั้นเอง อย่างอื่นก็เป็นเพียงสิ่งปรุงแต่งเท่านั้น มีสภาพ เกิดขึ้นในเบื้องต้น เสื่อมลงในท่ามกลาง และก็ต้องสลายตัวไปในที่สุด ไม่มีอะไรที่เป็นสาระเป็นแก่นสารที่ไหนเลย

พิจารณากันให้ละเอียด จะเห็นได้ว่า ลงเอยเข้าจริง ๆ มันก็ไม่มีอะไรมาก มีเพียงดวงจิตทั้งหลาย แล้ว ก็กรรมดี และกรรมชั่วของดวงจิตทั้งหลายนั้นเอง ไม่มีคนดี หรือว่าคนเลวอะไร เพราะทุกคนต่างล้วนต้องตายจากกันไปทั้งนั้น ไม่มีตัวเรา ไม่มีตัวเขา อะไรที่ไหน มีเพียงแต่ กรรมดี และกรรมชั่วเท่านั้นเอง

ถ้าท่านทั้งหลายพิจารณาได้อย่างนี้ ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องมาขุ่นข้องหมองใจกัน ไม่มีอะไรเลย มีเพียงความว่างเปล่า และกฏของกรรมเท่านั้น ที่จะติดตัวทุก ๆ ท่านไปตลอดกาล

พระพุทธภูมิ เป็นไปเพราะความเมตตาต่อบรรดาสรรพสัตวทั้งหลาย สาวกภูมิเป็นไปเพราะต้องการพ้นทุกข์ เป้าหมายก็เพื่อความพ้นทุกข์เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่า พ้นทุกข์คนเดียว หรือจะพาผู้อื่นให้พ้นทุกข์ตามไปด้วย

จะเห็นได้ว่ากฏของกรรม นั้นครอบคลุมในทุก ๆ สิ่ง จัดว่าเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีผู้ใดฝ่าฝืนได้ พระท่านว่า ให้ละชั่ว ประพฤติแต่กรรมดี ทำใจให้ผ่องใส่ ห่างไกลจากกิเลส และตัณหา

ขอให้ทุกท่านมีความสุขนะ

 

แล้วคุณคิดว่าคุณเป็นคนถ่อยรึวิญญูชนหละขอรับ

 

พูดอะไรวะเนี่ย รู้เรื่องอยู่คนเดียวอ๊ะเป่า
เวลาคับขัน เอาไม่อยู่ยืดอกรับ ปธาน4 อะไรเนี่ยะ งงกับเพ่เจงๆ ขอรับ

 

..... ผมว่า น่าจะลงพรหมทัณฑ์มันบ้างนะครับ เผื่อเขาจะสำนึกได้บ้าง แต่ก็อย่างว่า ไอ้พวกบ้าดูพระ ดูสมเด็จ แต่ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาหัวตัวเองเนี่ย มันๆๆน่า....?

 

สวัสดีท่านทั้งหลาย

ในเวลานี้พระพุทธศาสนากำลังสั่นคลอน ด้วยว่าเลยกึ่งพุทธกาลมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว พระศาสนากำลังเลื่อมถอย (อันที่จริงไม่เสื่อมหรอกนะ) สาเหตุเกิดจาก คนเลวมีมาก

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ท่านทั้งหลายควรจะร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ของสมเด็จองค์ปัจจุบันท่าน ให้กลับมาเจริญรุ่งเรื่องสืบไป จนครบ 5000 ปี ตามพุทธดำรัสนะ

เวลาทุกนาทีมีค่ายิ่งนัก ขอท่านทั้งหลายได้โปรดตรึกตรองดูให้ดีนะ ความตายก็คืบคลานเข้ามาในทุกขณะจิต เวลาที่เหลืออยู่ควรอุทิศให้พระพุทธศาสนา ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้มีบุญวาสนาพบพระพุทธศาสนา ของพระสมณโคดมเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

อย่ามัวเสียเวลากับสิ่งที่จะทำให้ ท่านทั้งหลายต้องมาขุ่นมัวในจิตใจเลย เราไม่ได้จะมาสอนอะไรใครหรอก และก็ไม่ได้ตำหนิอะไรใครด้วย เพียงแต่มาพูดคุยเท่านั้นเอง กระดานธรรมแห่งนี้จะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้าสามารถมีส่วนทำให้ท่านทั้งหลายที่เข้ามาอ่าน ได้ข้อคิด นำไปกระทำความดีนะ

 

อืม... นั่นสิครับรู้สึกว่าท่านที่มีusernameแบบตัวเลขมักมาสัมพันธิ์กันกับผมบ่อยๆ อิอิ เช่นพี่เสก choksila58 อีกคนด้วยเป็นท่านพี่ใหญ่ในกลุ่ม แต่พี่ท่านอื่นๆที่ไม่ใช่เลขก็มีเยอะครับที่สนิทๆ อิอิ