ผู้เชี่ยวชาญชี้ อาจสิ้นศาสนาในอีก 30 ปี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย nai_Prathom, 9 สิงหาคม 2013.

  1. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    from Post Today
    ผู้เชี่ยวชาญชี้ อาจสิ้นศาสนาในอีก 30 ปี - โพสต์ทูเดย์ ข่าวรอบโลก

    นักจิตชีววิทยาไอริชระบุ ศาสนาอาจถึงถึงยุคอวสานในปี 2584 เพราะ คนจะเน้นการครอบครองทรัพย์สมบัติมากกว่า

    ไนเจล บาร์เบอร์ นักจิตชีววิทยาจากไอร์แลนด์ ทำการศึกษาคนใน 137 ประเทศทั่วโลก พบว่า ความไม่เชื่อว่ามีพระเจ้าเพิ่มขึ้นในประเทศที่มีพัฒนาแล้ว ในขณะเดียวกัน คนก็มีความร่ำรวยทางวัตถุเพิ่มมากขึ้น

    ทั้งนี้ การศึกษาดังกล่าวประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ราคาสินค้า รวมไปถึงดัชนีการพัฒนาของบุคคล (เอชดีไอ) ซึ่งบาร์เบอร์ได้ข้อสรุปว่า โดยเฉลี่ยแล้วประเทศในโลกจะเข้าสู่สังคมทางโลกในปี 2584

    นักจิตชีววิทยาไอริช กล่าวว่า ความไม่เชื่อว่ามีพระเจ้านั้นมีเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่มีเศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อน ในขณะเดียวกัน ศาสนาจะลดความสำคัญ พร้อมๆ ความร่ำรวยของบุคคลที่เพิ่มขึ้น

    รายงานยังระบุอีกว่า ศาสนาที่ลดความสำคัญลงนั้นเกิดมาจากคนพึ่งพาเรื่องเหนือธรรมชาติลดลง เมื่อการครอบครองวัตถุสามารถตอบสนองความต้องการได้มากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มคุณภาพชีวิต ลดความเสี่ยงการเป็นโรคร้ายแรง ได้รับการศึกษาที่ดีและ มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น

    ทั้งนี้ บาร์เบอร์ เชื่อว่าความต้องการในหลายๆสังคมมีความต้องการในศาสนาลดลง เช่น ญี่ปุ่น และสวีเดน ซึ่งคนทั่วไป และคนส่วนมากไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนา
     
  2. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เขาผู้นี้ เชี่ยวชาญมากกว่าพระพุทธองค์หรือไม่?
     
  3. โต้งสารคาม

    โต้งสารคาม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +65
    มันก็เป็นไปได้ครับ อะไรๆก้เกิดขึ้นได้ เมื่อคนเราพร้อมทุกอย่าง ย่อมเชื่อว่าไม่ต้องพึงพาใคร เหมือนเทวดาที่สบาย พรหมสบายมากๆ ก็ไม่เห็นความเป็น อนิจจัง
     
  4. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    จริงๆแล้ว เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นแล้วในสังคมโลกตะวันตก หรือแม้กระทั่งอย่างประเทศญี่ปุ่นที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจในอันดับต้นๆของโลก คุณภาพการใช้ชีวิตของผู้คนค่อนข้างดี และเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า พลเมืองจำนวนมาก ระบุในทะเบียนราษฎร์ว่า ไม่นับถือศาสนาใด

    ความเสื่อมถอยของการนับถือศาสนานั้นเกิดขึ้นกับศาสนาที่นับถือพระเจ้าเป็นส่วนใหญ่ เมื่อวิทยาการและเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น ผู้คนย่อมตั้งคำถามมากขึ้น ถึงความสมเหตุสมผลของศาสนาที่เคยเฟื่องฟูในโลกตะวันตก ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ศาสนจักรได้มีความพยายามที่จะขัดขวางการค้นคว้าที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้พยายามศึกษาหลายต่อหลายครั้ง นั่นเพราะศาสนจักรรู้ดีว่าศาสนาในแบบของตนนั้นไปด้วยกันไม่ได้เลยกับโลกที่ก้าวหน้าขึ้นทุกๆวัน

    แนวโน้มความเสื่อมถอยในการนับถือศาสนาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าทางศาสนจักรจะไม่รับรู้ จะเห็นได้จากความพยายามเผยแพร่ศาสนาเข้าไปยังประเทศกำลังพัฒนาและประเทศด้อยพัฒนา นั่นอาจเป็นเพราะในประเทศโลกที่สาม ผู้คนอาจไม่สงสัยหรือตั้งคำถามในสิ่งที่ตนศรัทธาอยู่ก็เป็นได้

    สตีเฟ่น ฮอว์กิ้นส์ นักฟิสิกส์อัจฉริยะ ได้กล่าวไว้ว่า ไม่จำเป็นต้องมีพระเจ้า ในการกำเกิดขึ้นของจักรวาล นี่เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความท้าทายของโลกสมัยใหม่ต่อศาสนาจักอย่างเข้มข้นขึ้นทุกที

    สำหรับศาสนาพุทธ ผมยังเชื่อมั่นครับว่า จะอยู่ต่อไปจนตราบครบ 5000ปี
    เพราะพุทธศาสนานั้น เป็นศาสนาที่ทนทานต่อการพิสูจน์
     
  5. mahamettayai

    mahamettayai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +10,670
    อ่านแล้ว ก็นึกถึง นิทเช่ เจ้าพ่อ Post Moddernism คนสำคัญแห่งศตวรรษที่ 19 เจ้าของวลีโด่งดัง "พระเจ้าตายแล้ว"

    ความคิดเห็นส่วนตัวค่ะคำว่าสิ้นศาสนาในที่นี้ อาจเป็นไปได้ว่า ผู้คนในโลกสมัยใหม่ ไม่ได้ระบุตัวตนว่าตัวเองนับถือศาสนาอะไรมากกว่า ( ในปี 55 มีการสำรวจพบว่าสถิติสำหรับผู้ที่ระบุว่าไร้ศาสนา ซึ่งหมายถึง ผู้ที่แสดงตนว่าไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ เลย เป็นอันดับ 3รองจากคริสต์และอิสลาม)

    ทั้งนี้อาจเป็นเพราะคนสมัยใหม่ไม่คิดว่าคำสอนทางศาสนา(ในแบบเดิม) จะตอบโจทย์กับวิถีชีวิตแบบใหม่ของตนเองที่มุ่งหน้าเข้าหาแต่วัตถุและกิเลสเป็นหลัก (ซึ่งศาสนาในแบบเดิมสอนให้ละ โดยเฉพาะพุทธศาสนา)

    ขณะเดียวกันคนกลุ่มนี้ก็อาจจะมีสิ่งให้ยึดเหนี่ยวและปฏิบัติตนตามสิ่งที่ตัวเองพอใจ แทนที่หลักคำสอนตามศาสนาเดิม เช่น หยิบเอาหลักของศาสนาหรือลัทธิที่ตนเองชอบมาเป็นแนวปฏิบัติแบบผสมผสาน หรือเลื่อมใสในลัทธิการเมืองหรือลัทธิอะไรก็แล้วแต่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ แต่คงไม่ได้หมายความว่า แต่ละศาสนาจะสิ้น หรือเสื่อมสูญไปจริงๆ (อาจจะเพียงแค่หมดความสำคัญกับผู้คนในยุคปัจจุบัน)

    สำหรับญี่ปุ่น เท่าที่เห็น ก็ยังมีผู้คนไปกราบไหว้สักการะศาลเจ้าที่ดังๆ ของแต่ละเมือง มีการเขียนคำอธิษฐานขอพร พ่อแม่อุ้มเด็กทารกไปให้นักบวชทำพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคลอะไรประมาณนั้น วัยรุ่น จะไปเซ่นสรวงบูชา บนบานศาลกล่าว เวลาจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปีหนึ่งๆ ญี่ปุ่นจะมีเทศกาลเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าเยอะมาก อันนี้ก็อาจจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบพฤติกรรมความเชื่อในการนับถือหรือศรัทธาอย่างนึงก็ได้ (ซึ่งอาจจะต่างกันไปตามแต่ละสังคม)

    แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่า เราก็จะเห็นข่าวว่า ประเทศที่ผู้คนไม่มีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจหรือไม่ปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา มักประสบปัญหาเรื่องจริยธรรมถดถอย มีสถิติคนฆ่าตัวตายค่อนข้างสูง เพราะผู้คนว้าเหว่และเป็นปัจเจกมากขึ้น ที่จีนเองก็มีข่าวถึงความไร้น้ำใจของผู้คน และถึงขนาดมีการออกกฎหมายบังคับให้ลูกต้องกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ ซึ่งก็ได้รับการคัดค้านพอสมควร

    (สัญญลักษณ์แทน เป็นรูปศาสนิกชนที่ไปช่วยกวาดหิมะในวัดหรือศาลเจ้า (อะไรก็จำไม่ได้)ในโตเกียว เพราะถือว่าเป็นการทำประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งก่อนหน้าหิมะจะหนากว่านี้มาก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2013
  6. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    เออ จ๋าดง่าวแท้ เรื่องจักรวาล อยากรู้ แต่เรื่องตัวเอง เกิดมาทำไม ทำไมมันเสือกแก่ แล้วก็เสือกตาย เทวทูตทั้ง 4 ไม่รู้จัก รอบหน้าก็ไปเป็นแมลง ไปเป็นปลวกให้สมใจอยากเถิด

    "ครั้นบุคคลทำกาละแล้ว เข้าถึงตรงหน้าที่ไต่สวน องค์พรหมยมราช ทรงตรัสถามว่า เจ้าเคยเห็นเทวทูตทั้ง 4 นั้นหรือไม่ และทราบหรือไม่ว่าจะเกิดสิ่งนั้นกับขันธ์ของตน สิ่งใดเป็นกุศลเจ้าระลึกได้หรือไม่ บุคคลที่ทำกาละนั้นนิ่งอึ้งอยู่ ไม่สามารถระลึกได้ องค์พรหมยมราช ก็ทรงอุเบกขา ปล่อยให้บุคคลนั้นรับผลกรรมที่ตนทำไว้แต่เดิม ด้วยกรรมนั้นเป็นทายาทของบุคคลนั้น"
     
  7. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ศาสนาพุทธนั้นมีธรรม สำหรับผู้ครองเรือน มิใช่ให้ละทิ้งสมบัติเหมือนธรรมหรือพระวินัยของพระภิกษุ ที่คำว่าผู้ครองเรือนก็หมายถึงผู้ที่มีทรัพย์สมบัติ วัตถุสิ่งของ ที่เป็นของตน มีภรรยา บุตร
    ดังจะเห็นได้จาก พระอนาถปิณทิกะเศรษฐีก็บรรลุพระโสดาบัน ท่านมีเงินมีทองจากการทำการค้า แล้วท่านก็สร้างวัดเชตวันถวายพระพุทธองค์ นี้แสดงให้เห็นว่า พระพุทธศาสนานั้นมิได้สอนให้ทิ้งสมบัติ แต่สอนให้รู้จักสมบัติ รู้จักตนเอง ทำสิ่งที่ควรทำ เมื่อเข้าใจธรรมของพระพุทธองค์แล้วจะไม่ขัดกับโลก แต่รู้จักโลกและเหนือโลก หากมีผู้เข้าใจธรรมของพระพุทธศาสนาแล้ว ศาสนาจะไม่เสื่อมไป เพราะความที่เข้าใจโลกนี้เอง
     
  8. แน้ว

    แน้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +222
    ไม่เชื่อจ้า ชาวพุทธทั้งหลายก็อย่าเชื่อฝรั่งตาน้ำข้าว
     
  9. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    อาจเป็นไปได้ถ้าขณะนี้เหล่าสมาชิกในเว็ป

    นี้..อายุมากว่า60ปีแล้ว.
     
  10. manopk36

    manopk36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2013
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +193
    อวิชชาส่งผลให้มีความรู้ที่ผิดพลาดได้ เสียดายนักจิตวิทยาคนนี้ถ้าได้เรียนรู้พระพุทธศาสนาจะไม่คิดแบบนี้แน่นอน
     
  11. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    อยากรู้จังเลยว่าท่านผู้นี้เชี่ยวชาญด้านไหน? ไม่รู้ว่าเขาเคยเข้าไปศึกษาในศาสนาทึ่เขาวิเคราะห์ไหม ทำไมเขาถึงฟันธงได้ขนาดนั้น?
     
  12. คนยอง

    คนยอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +242
    ก็เหมือนกับวันสิ้นโลกนะแหละ...เป็นตุเป็นตะ อีก30 ปีข้างหน้าศาสนาก็อาจจะสิ้นได้ แต่คงไม่ใช่ศาสนาพุทธแน่ ฟันธง เพราะว่า อีก31ปีข้างหน้าผมก็ยังคงนับถือ พระพุทธศาสนา อยู่แน่นอน
     
  13. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    จิตใจกับวัตถุอะไรสำคัญกว่ากัน ศาสนาคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ถ้าวัตถุสามารถทำให้จิตมนุษย์หยุดโลภ โกรธ หลงได้ ศาสนาก็ไม่ต้องมี ที่เห็นถ้าบ้าวัตถุมากๆมันก็ต้องโลภ โกรธ หลงตามมาหนักกว่าเดิม ทุกข์กว่าเดิม
     
  14. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    เขาคงหมายถึงศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ แต่ศาสนาพุทธจะยืนยาวต่อไปได้ พวาเราชาวพุทธไม่ว่ารุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ต่อๆไป ต้องมาศึกษา และปฏิบัติตาม พุทธบัญญัติ หรือ พุทธวจน
     
  15. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    จินตนาการไม่ออกอะ ว่า จะคิดในแง่ไหนว่าพระเจ้ามีจริงดี ดิฉันก็ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริงเช่นกัน ก็ลุ้นให้มีนะ แต่ดูตามสิ่งต่างๆ/เหตุและผลแล้วมันไม่น่าจะมี ส่วนศาสนาพุทธตอนนี้ก็เชื่อ 40/60 แต่เอาเป็นว่า ทำความดีไม่เบียดเบียนใคร ก็พอแล้ว หลายคนที่ไม่มีศาสนาแต่มีศีลธรรมมากกว่าคนที่อ้างตัวเป็น พุทธ เป็น คริตส์ เป็นอิสลาม ถมเถไป ถ้าถามดิฉันตอนนี้ ก็จะบอกว่าไม่ได้เชื่ออะไร...... และไม่ขอระบุว่าตัวเองเป็นศาสนาใดทั้งสิ้น แล้ว.........แต่เชื่อพลังความเชื่อมั่นในอุดมการของตัวเองดีที่สุด ตนต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน

    คือเชื่อเรื่องโหราฯ เรื่องสิ่งลึกลับ แต่ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์ กับชาดก ที่ว่ามียักษ์ มี กินนรี มี สัตว์ในเทพิยาย ฯฯ
     
  16. mamanalin

    mamanalin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +146
    เชื่อในพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสว่าศาสนาพุทธจะคงอยู่ 5,000 ปี ก็ต้องตามนั้นค่ะ นี่เพิ่ง 2,600 ปีเอง ยังไม่ครบเลย
     
  17. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    30 ปีรึ นานเกินไป ไม่เกิน 5 ปี ศาสนาอื่นๆ ที่อยู่นอกเขตประเทศไทยก็ไม่มีเหลือแล้ว

    และถ้าประเทศไทยสูญสิ้น ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ศาสนาพุทธก็ตั้งอยู่ไม่ได้ ต้องล่มสลายตาม

    ถ้าไอ่เหลี่ยมยึดครองประเทศไทยได้ ทุกอย่างก็จบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...