เมื่อพาลูกศิษย์ที่เป็นคริสต์ ไปทำสังฆทาน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pitchayath, 6 สิงหาคม 2013.

  1. pitchayath

    pitchayath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +478
    คือผมได้มีโอกาส พาลูกศิษย์ คนหนึ่งที่เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์ ไปทำสังฆทาน ซึ่งเค้าไปเพราะเหมือนเกรงใจเรา และไม่ได้มีศรัทธา อะไรมาก ก็เลยอยากถามผู้รู้ว่า ตรงนี้จะเป็นบุญกับเค้ามั้ย คือพยายามบอกเค้าไปว่า ให้ปฎิบัติ และถือของเค้าไป แต่สิ่งที่พาไปทำนี้เป็นบุญ และ กุศล สูงมาก แต่พอพูดแล้วเค้าก็ดูเหมือนมีศรัทธามากขึ้น.....และสาเหตุ ที่พาเค้าไปทำบุญ คือ ถึงแม้เค้าจะเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ แต่ก็ไม่ได้ไปโบสถ์ และก็ค่อยได้ไปทำบุญอะไร จึงอยากให้เค้าได้สั่งสมบุญบารมีให้กับตัวเองบ้าง เพราะปกติ ก็จะแนะนำลูกศิษย์คนอื่นๆ ไปทำบุญเรื่อยๆ ตามโอกาสอยู่แล้ว
     
  2. bestsu

    bestsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +617
    ตามความเห็นของผมแล้ว ทำบุญแต่ไม่มีศรัทธา หรือศรัทธาน้อย ก็ยังได้บุญ แต่ก็น้อยกว่าคนที่ศรัทธามาก อุปมาเหมือนคนรีดผ้า คนที่ไม่ตั้งใจรีดก็รีดผ้าได้เรียบ แต่ไม่เรียบเท่ากับคนที่ตั้งใจรีด มุมผ้าจีบผ้าจะดูสวยกว่าเยอะครับ
     
  3. apiraks

    apiraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +508
    จะมากน้อยนั้นขึ้นอยู่ที่จิตเจตนาของลูกศิษย์ท่านครับ บุญได้แน่นอนอยู่แล้ว
    คิดว่าลูกศิษย์ท่านก่อนเปลี่ยนศาสนาไปคงไม่ค่อยเข้าใจศาสนาพุทธเท่าใดนัก
    หากเข้าใจแจ่มชัดคงไม่คิดเปลี่ยนแน่นอน อาจเพียงแสวงหาสิ่งที่ขาดไปเท่านั้น

    ยังไงลองอธิบายถึงสิ่งที่พุทธองค์ท่านตรัสสอนบ้างก็ดีครับ ทั่วไปทุกศาสนาสอนให้
    เป็นคนดีทั้งนั้น แต่พุทธองค์ท่านสอนให้รู้ทุกข์ เห็นเขามีสิ่งใดที่เราไม่มีก็เป็นทุกข์
    ได้มีเหมือนเขาแล้วต้องคอยระวังรักษาไว้ก็ทุกข์ สูญเสียสิ่งที่รักไปก็ยิ่งทุกข์หนัก

    ซึ่งอาจแตกต่างกับศาสนาอื่นๆที่สอนให้เมตตาแล้วจะได้พบความสุข ได้ไปสวรรค์
    หรือไปหาสุขแต่เพียงอย่างเดียว ศาสนาพุทธเราสอนให้หาทางหนีออกจากวัฏจักร
    ที่น่าเบื่อหน่ายนี้อย่างไร แนะนำในแก่นของพุทธศาสนาครับ พุทธองค์ท่านสอนอะไร

    พระสงฆ์เป็นเพียงผู้เดินตาม มีผิดบ้าง มีหลงบ้าง พุทธองค์ท่านมีวินัยให้เดินตามแล้ว
    หากเดินผิดพลาดย่อมเป็นกรรมของผู้นั้นเอง การที่เห็นพระสงฆ์ปฏิบัติในทางไม่ดี
    มากมายนั้น ไม่ควรด่วนสรุปไปว่าไม่น่านับถือ พระสงฆ์ที่ดีก็ยังพอมีอยู่บ้างในยุคนี้

    ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ
     
  4. kakarukthai

    kakarukthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +220
    แล้วหยั่งศณัทธามากแต่คนที่ศรัธาไม่มีศีลธรรมจริงหยั่งพระเณรคำล่ะครับจะได้บุญใหม
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ขออนุโมทนาบุญอันดียิ่งที่ท่านจขกท กระทำด้วยการอนุเคราะห์เด็กที่นับถือศาสนาอื่นท่านจขกท ได้ชื่อว่ากระทำกิจแห่งการเป็นกัลยาณบุคคลด้วยการนำประโยชน์อันไม่อาจหาได้โดยง่ายในในทุกกาลแก่เด็กนั้น..

    ..ก็การทำบุญสังฆทาน เป็นบุญที่เลิศ มีอานิสงค์มหาศาลที่จะตามรับรองส่งผลอันน่าปรารถนาแก่เด็กนั้นไปอีกนานในสัมปรายภพ..เพราะนาบุญอันประเสริฐเลิศกว่านาบุญอื่นใดในโลก มีได้เฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น..

    เด็กอาจไม่เข้าใจหรือศรัทธาในตอนแรก แต่ท่านจขกท ได้อธิบายให้ทราบเหตุผลตามควร เวลานั้นเขาย่อมได้ทราบประโยชน์ที่ตนจะได้รับ คนที่รู้ว่าเมื่อทำสิ่งใดแล้วจะได้ผลดีกลับมาย่อมปลื้มใจโสมนัสย่อมยังเจตนาในทานนั้นให้ตั้งมั่นขึ้นได้นับว่าไม่มีความสูญเปล่าอันใดเลย..

    ส่วนการที่ท่านขกท จะสงเคราะห์เพิ่มเติมด้วยการให้ธรรมทานนั้นก็พึงพิจารณาปฏิกิริยาของเด็กด้วย..หากเริ่มปรารภให้เขาประพฤติทาน ศีล ให้เป็นปรกติได้ เขารับฟัง ก็พิจารณาเพิ่มอรรถธรรมที่นอกเหนือให้ยิ่งขึ้น เมื่อเด็กสนใจ เขาจะสอบถามเองโดยไม่รอให้เราต้องกล่าวอะไรๆเพื่อกระตุ้นหรือสอน หากเขาไม่สนใจหรือมีปฏิกิริยาลบ เพราะอาจได้รับการต่อต้านจากครอบครัว ท่านพึงนิ่งเสีย ไม่ต้องเพียรอะไรอีก เพราะอาจกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจแก่เด็ก คิดไม่ดีแก่ครูอาจารย์ เด็กจะมีบาปไปโดยใช่เหตุ..

    พระพุทธศาสนาไม่มีแนวทางในการแพร่คำสอนไปเพื่อให้ได้สาวกเหมือนศาสนาอื่น..เพราะเป็นเรื่องที่ทวนโลก ผู้ที่จะรับได้ ต้องมีบุญเก่าสนับสนุนมาส่วนหนึ่ง (ปัจจัยนี้หากไม่มีเสียเเล้ว ก็ยากมากจนเเทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะมีศรัทธาได้) และมีความคิดแยบคายนิยมเหตุผลที่สมควร จึงจะเกิดศรัทธาได้...

    บุคคลผู้ไม่มีบุญเก่ารองรับมา แม้จะตั้งบ้านเรือนอยู่ติดวัด ก็ไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาไม่อาจได้สดับพระธรรมที่ถูกตรงได้ ส่วนผู้มีบุญเก่ารองรับมา แม้อยู่คนละฟากโลก เกิดในลัทธิอื่น พ่อแม่อบรมให้เชื่อตามตน..ก็ดิ้นรนขวนขวายจนมาพบพระธรรมได้อย่างน่าอัศจรรย์ นั่นคืออานุภาพแห่ง"ปุพเพกตปุญตา" หรือบุญเก่า อันตนสั่งสมมาดีแล้ว นั่นเอง..



    ความเกื้อกูลของท่านจขกท นี้ย่อมรักษาท่านไว้ในทางอันเกษมต่อไปในสังสารวัฏ ท่านจะได้รับการแนะนำให้เข้าถึงทางและประโยชน์อันดียิ่ง ทั้งในปัจจุบันและภพต่อๆไปอีกมาก น่าปลื้มใจนัก..
     
  6. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    ในขณะทำบุญ จิตใจขณะนั้นเป็นกุศล คนละขณะกับการเป็นพาลในเวลาอื่น เจตนาคือกรรม ดังนั้น เมื่อมีเจตนาในการให้ทาน บุญย่อมเกิดได้ ...กรรมทั้งหลายย่อมมีผลตามมาเสมอ... ดังนั้นเมื่อให้ทาน ผลอันน่าปรารถนาย่อมหวังได้ครับ คนชั่วก็ทำบุญได้ คนดีก็ทำชั่วได้ เอาแน่อะไรไม่ได้...เพราะยังละกิเลสไม่ได้ จนกว่าจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ จึงจะไม่ทำทั้งดีหรือชั่ว แต่ทำด้วยกิริยาจิตที่ไม่นำผลมาส่งให้อีก..
     
  7. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ถ้าในทางศาสนาคริตส์แล้วเป็นคริตส์ แต่ดันไปทำสังฆทานก็บาปแหละคะ เพราะเขาให้นับถือพระเจ้าอย่างเดียว
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ถ้าบาป แบบนี้ตายไปก็ต้องลงนรก

    แต่ทางพุทธ เด็กคนนั้นตายไปจะได้เกิด เทวโลก ... เชื่อใครดี !!

    ดังนั้นผมคิดว่าเด็กคนนั้นควรจะเปลี่ยนมาถือพุทธ แล้วกันจะได้ไม่บาป ... ไปเทวโลกด้วย

     
  9. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130

    สามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นยากจนหาเลี้ยงชีพด้วยการขอทานเดินทางมาอาศัยอยู่ที่ศาลาในป่าแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมือง ในขณะที่พักอยู่นั้นภรรยาซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ เกิดอาการแพ้ท้องอยากบริโภคอาหารที่พระราชาเสวย

    จึงอ้อนวอนสามีให้ไปหามาให้ บอกว่าหากมิได้บริโภคอาหารที่ต้องการนี้จะต้องตายแน่นอน ฝ่ายสามีผู้มีกรรมทนคำอ้อนวอนต่อไปไม่ไหว่และเกรงว่านางจักตาย จึงคิดออกอุบายปลอมตัวเป็นพระภิกษุและด้วยความเป็นพระใหม่ที่ปลอมตัวมาจึงทำให้มีความระมัดระวังสำรวมกายในเรื่องต่าง ๆ มากเพราะกลัวคนจับผิดได้

    แล้วเดินอุ้มบาตรเข้าไปในพระราชวัง เพื่อรับบิณฑบาตร และในขณะนั้นเองพระราชาจักทรงเสวยพระกระยาหารพอดีเมื่อทรงทราบว่ามีพระภิกษุเดินมาบิณฑบาตรภายในพระราชวัง ด้วยกิริยาอาการสำรวมน่าเลื่อมใสมาก

    พระองค์เสด็จทอดพระเนตรดู ครั้นเมื่อเห็นกิริยาอาการแล้ว ก็ทรงจินตนาการว่า " ภิกษุรูปนี้ช่างมีกิริยาอาการสำรวมน่าเลื่อมใสยิ่งนักเป็นหนักหนา คงเป็นพระผู้ทรงคุณวิเศษสักอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นแน่แท้ " จึงเกิดพระราชศรัทธา

    และทรงนำพระกระยาหารที่ทรงจะเสวยใส่ลงไปในบาตรจนหมดด้วยจิตใจเป็นปิติเลื่อมใส เมื่อพระภิกษุปลอมรับบิฑบาตรอาหารจากพระราชาแล้วก็เดินจากไป

    [​IMG]

    แต่ด้วยความศรัทธาเลื่อมใสในตัวพระปลอมยังอยู่ในพระทัยของพระองค์ จึงรับสังอำมาตย์คนสนิทให้รีบสะกดรอยตามพระรูปนั้นไป เพื่อที่พระองค์จะได้นิมนต์ให้มารับบิณฑบาตรในวังอีก ฝ่ายพระปลอมเมื่อได้อาหารที่เมียอยากกินจากพระราชาแล้วรู้สึกดีใจมาก จึงรีบเดินไปให้พ้นกำแพงเมืองโดยเร็ว

    เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงเปลียนเสื้อผ้าเป็นคนธรรมดาตามเดิม แล้วรีบนำอาหารไปให้ภรรยากินโดยเร็ว ครั้นเมื่ออำมาตย์ซึ่งเดินสะกดรอยตามไปได้เห็นพฤติกรรมนั้นโดยตลอด


    ก็บังเกิดความตกใจและโกรธเคื่องใจคิดจะจับไปให้พระราชาลงโทษ แต่ด้วยความสงสารและสังเวชจึงได้เพียงทำการขับไล่สามีภรรยาคู่นั้นไปและห้ามกลับมายังเมืองนี่อีกไม่งั้นจะลงโทษทัณฑ์

    หลังจากนั้นก็เดินกลับเข้าไปยังในเพระราชวังเพื่อถวายความให้พระราชาทราบ ขณะเดินกลับไปก็ครุ่นคิดหาวิธีที่จะถวายความโดยตลอดเพื่อมิให้พระราชาทรงเสียพระทัย เมื่อพระราชาเห็นอำมาตย์เดินมา ก็ทรงตรัสถามไปทันทีด้วยความอยากรู้โดยเร็ว ว่า " เจ้าได้ความว่าอย่างไร บอกมาเร็วๆสิ ว่าพระสงฆ์รูปนั้นอยู่ป่าหรือเขตวัดแห่งหนใหน?"


    อำมาตย์จึงใช้กุศโลบายเพื่อรักษาศรัทธาของพระราชาไว้ แล้วก็กราบทูลว่า

    " ข้าแต่พระองค์ข้าพระพุทธเจ้าได้สะกดรอยตามพระภิกษุรูปนั้นไปจนออกนอกเขตกำแพงพระราชวัง พอตามไปสุดเขตกำแพงพระราชวังตรงแนวป่าทางโน้น ด้วยอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ปรากฏว่าพระภิกษุรูปนั้นก็พลันหายวับเข้าไปในแนวป่าทันที่ พระพุทธเจ้าข้า " พระราชาได้ทรงฟังดั้งนั้นก็ทรงโสมมนัสเสียพระทัยเป็นอันมาก

    แต่ก็ทรงมิได้ซักถามอะไรเพิ่ม เพียงแต่ทรงตรัสว่า " เป็นบุญของเราแท้ ๆ ที่ได้ถวายภัตตาหารใส่บาตรแต่พระสงฆ์ผู้ทรงเป็นคุณวิเศษท่านเป็นพระอรหันต์จริง ๆ ที่เกิดปาฏิหารย์หายตัวได้และทานที่ถวายท่านในวันนี้มีอานิสงส์มากเป็นทานที่ประเสริฐอย่างแน่นอน "

    พระราชาทรงบังเกิดความปิติยินดี เบิกบานพระทัยในบุญที่ได้ทำในครั่งนี้เป็นยิ่งนัก ไม่นานหลังจากนั้นพระราชาก็เสร็จสรรคตไปบังเกิดบนสรรค์ชั้นดาวดึงส์

    แต่ก่อนที่ทรงจะสวรรคตพระองค์ได้กำชับกับเหล่าอำมาตย์ไว้ว่าเมื่อพระองค์สวรรคตแล้ว ให้ทำบุญใส่บาตรกับพระสงฆ์ที่มารับบิณฑบาตรเพื่ออุทิศกุศลเพื่อเจาะจงพระองค์ด้วย

    ในคราวนั้นได้มีพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่งพึ่งออกจากญาณสมาบัติได้จาริกไปในเขตพระนครเพื่อบิณฑบาตร อำมาตย์คนเดิมได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้น ก็ได้นิมนต์ท่านเข้าไปรับภัตตาหารในพระราชวังแต่ด้วยความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยในตัวพระปัจเจกพุทธเจ้ารูปนั้นตลอดมา

    เนื่องจากเจอพระปลอมมาแล้วจึงเกรงว่าครั้งนี้ก็คงเป็นพระปลอมเช่นกัน โดยหารู้ไม่ว่าภิกษุที่ตนได้ถวายภัตตาหารอยู่นั้นคือ พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสิ้นกิเลสอาสวะโดยสิ้นเชิงเเล้ว

    เหล่าอำมาตย์นั้น ได้ประมาทแล้วในพระอริยเจ้าโดยไม่รู้ตัวเพราะบุคคลธรรมดาไม่อาจทราบได้ว่าพระภิกษุรูปใดเป็นอริยะบุคคลหรื่อไม่เป็นอริยะบุคคล

    (เหตุเพราะว่าพระอริยะบุคคลใดก็ตามท่านไม่สามารถประกาศได้ว่านั้นเป็นอริยะบุคคลแล้ว)

    ฉนั้นการถวายทานแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าในครั้งนั้นนอกจากจะไม่เกิดกุศลแล้วยังทำให้อำมาตย์นั้นได้หนทางไปสู่อบายภูมิในโลกหน้าโดยไม่รู้ตัวอีกเลย...



    http://palungjit.org/threads/ทำบุญกับพระปลอมได้ขึ้นสวรรค์-ทำบุญกับพระอรหันต์กลับตกนรก.264119/

    เหตุเพราะว่าพระอริยะบุคคลใดก็ตามท่านไม่สามารถประกาศได้ว่านั้นเป็นอริยะบุคคลแล้ว

    เเปลความท่อนนี้...คือ

    พระพุทธเจ้าทรงห้ามพระภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม
    สาเหตุเกิดจาก ในกาลครั้งนั้นมีพระภิกษุบางรูปเพื่อต้องการแสวงลาภสักการะ ทั้งที่ไม่มีคุณธรรมในตน
    พระภิกษุบางรูปได้อวดแสดงตนเป็นพระอรหันต์
    พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนเป็นพระอริยะบุคคล เช่น พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ฯลฯ
    พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
    พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีฌาณสมาบัติ
    พระภิกษุบางรูปบางคณะ ได้อวดแสดงตนผู้มีศีลจารวัตรดี
    ทั้งนี้เพื่อให้ลาภสักการะจะได้บังเกิดแก่พวกตน...

    พระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นซึ่งความเสื่อมจะบังเกิดแก่คณะสงฆ์ จึงทรงห้ามพระภิกษุอวดอุตริมนุษยธรรม
    เพื่อความสงบและสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์สืบต่อไปในภายภาคหน้า

    เพราะพระภิกษุสาวกบางรูปที่อยู่ในธรรมวินัย ยังไม่มีคุณธรรมประจำตน เช่น สำเร็จเป็นพระอรหันต์ พระอริยะบุคคล มีฌาณสมาบัติ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ฯลฯ
    คณะสงฆ์ในธรรมวินัยทั้งพระภิกษุที่แก่และอ่อนพรรษาจะเสื่อมจากอาหารบิณฑบาตร ลาภสักการะอันสมควรแก่สมณบริโภค
    สาเหตุเกิดมาจากพระภิกษุที่ไม่มีคุณธรรมหวังมุ่งแต่ลาภสักการะอวดอุตริมนุสสธรรม
    ทำให้ชาวบ้านหลงเชื่อถวายปัจจัยไทยทานแก่หมู่พระภิกษุเหล่านั้นฯ ทำให้พระศาสนาเสื่อมสิ้นสูญ

    สำคัญนะครับเเม้เเต่" พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ซึ่งสิ้นกิเลสอาสวะโดยสิ้นเชิงเเล้ว "ท่านยังไม่สามารถ ประกาศ ตัวได้เลย

    กับพระเมืองไทยอยากให้ ชาวพุทธศึกษาพระํธรรมอย่างจริงจังก่อนจะเชื่อตามนั้น


    ทำบุญกับพระปลอมได้ขึ้นสวรรค์ ทำบุญกับพระอรหันต์กลับตกนรก


    .
     
  10. pitchayath

    pitchayath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +478
    ขอบคุณ ทุกๆท่าน ที่ เสนอความคิดและ แนะนำแนวทางดีๆให้ครับ อีกอย่างคือ ได้บอกเด็กคนนี้ไปว่า จะหาโอกาสชวนไปทำบุญอีก เค้าก็รับปากว่าจะไปด้วย ซึ่งสัมผัสได้ถึงจิตที่เป็นกุศลในการทำบุญของเขา บนความกังวลว่า จะขัดหลักศาสนาคริสต์ หรือไม่ ....อย่างไรก็ตาม ก็ขอพลังบุญ ที่เด็กคนนี้ ได้ ถวายสังฆทานอันมีอานุภาพยิ่ง จะด้วย ศรัทธา มากน้อย เพียงใดก็ตาม ขอผลบุญนี้ จงส่งผลให้เขา ได้รับแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตนะครับ .....สาธุ
     
  11. ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +564
    สิ่งดีๆมีหลากหลายอย่างทำไปมีแต่จะได้รับผลดี ทุกสิ่งทุกอย่างคือสิ่งเดียวกันอย่าไปแบ่งเลย ที่มีเพราะแต่ละวิธีเพื่อจะได้เหมาะสำหรับแต่ละคน
     
  12. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    หากท่านทราบว่าบุญคืออะไร กุศลคืออะไร ก็เป็นการควรแล้ว ที่อาจารย์ต้องหาอุบายให้ลูกศิษย์อยู่ในทางที่ควร
     

แชร์หน้านี้

Loading...