หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง "พระเยซู"

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย คิดดีจัง, 30 กรกฎาคม 2010.

  1. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    [​IMG] [​IMG]

    ได้อ่านเจอจากเวปเมเนเจอร์รูม เลยเอามาฝากครับ
    เห็นว่าหน้าสนใจดีเพื่อจะมีคนอยากรู้นะครับ
    ขอบคุณคุณมังกรซ้อนลายเจ้าของกระทู้นี้ครับ
    ไม่ได้ข้ออนุญาติสะด้วยคงไม่ว่ากันนะครับ

    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่าเรื่อง "พระเยซู"

    "ฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง คือเรื่อง พระเยซู ประมาณเมื่อ ๑๐ ปี เกือบ ๒๐ ปีแล้ว ได้ไปที่บางนกแขวกที่วัดคริสต์นั่นนะ คือว่าบาทหลวงบางคนเขาไปที่กรุงเทพฯ แล้วก็ชอบๆกัน เพราะสมัยนั้นฉันเรียนทั้งพุทธทั้งคริสต์ ไอ้ที่เรียนคริสต์ ไม่ใช่ไปเรียนมี่โรงเรียน แต่คุยกัน ตอนนั้นพวกกุลีจีน เขามาคุยแลกเปลี่ยน แต่ความจริงนักศาสนาจริงๆ เขาไม่ทะเลาะกันนะ ต่อไปก็ไปที่โน่นไปเยี่ยมเขา คุยไปคุยมาเขาถามว่า ท่านทราบไหมว่า พระพุทธเจ้าท่านอยู่ไหน บอกว่า รู้

    ถามว่า เคยคุยไหม ก็บอกฉันไปหาท่านทุกวัน ท่านอยู่ที่นิพพาน ก็ถามเขาว่า แล้วพระเจ้าของแกอยู่ที่ไหน เขาบอก ไม่รู้ ถามว่า เคยเห็นไหม บอก ไม่เคยเห็น เลยบอกว่า แหม?ไอ้คนโง่ๆ ประเภทนี้ก็มีด้วย ก็คุยสนุกๆก็บอก ไอ้นั่งอยู่ที่นี่ ๕-๖ คน มันโง่ทั้งนั้น นับถือส่งเดชไม่มีหลักฐาน เขาบอกมีคำสอน ใครสอนก็ไม่รู้ บอกต้องหาตัวคนสอนให้ได้ ก็คุยสนุกสนานไป เขาเลยถามว่าท่านเคยเห็นพระเยซูของผมไหมครับ บอกว่า ไม่เคยสนใจ แล้วก็คุยเรื่องอื่นต่อไป

    แล้วต่อมาก็กลับมาที่พัก ธรรมดาของพระ พระก่อนจะนอนก็ทำงานของพระก่อน ทำจิตใจให้สะอาดสบาย ไม่งั้นนอนไม่สบาย พอเริ่มทำสมาธิจับอารมณ์ จิตมันหลุดเลยพอโผล่พลุ้บถึงดาวดึงส์ ไปโผล่ช่องระหว่างพระจุฬามณีกับบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ไปเดินป๋อที ่นั่น พอขึ้นไปเดินไปก็มีบาทหลวงคนหนึ่งเดินสวนทางมา เดินตรงมาข้างหน้า ก็เลยถามว่า พระเยซูใช่ไหม?? ตามธรรมดาอารมณ์เป็นทิพย์มันจะบอกเลยว่าใครเป็นใคร ถ้ายังสงสัยก็ยังใช้ไม่ได้ ความเป็นทิพย์มันจะบอกชัด จะไปสงสัยไม่ได้เลย ท่านก็บอกใช่ครับ ถามว่า ทำไมถึงแต่งตัวรุ่มร่ามอย่างนี้ละ บนสวรรค์เขาแต่งตัวอย่างนี้เรอะ ท่านบอกว่า เอ้า?ถ้าผมไม่แต่งตัวแบบนี้ เกรงว่าท่านจะจำไม่ได้จะสงสัย

    ถ้ายังงั้นสภาพความจริงของท่านเป็นยังไง ท่านก็ทำให้ดูภาพนั้นก็หายไป กลายเป็นภาพเทวดาสวยงามมาก เครื่องประดับขาวแพล้บเรียกว่าจับตาเลย เป็นประกายแวววับ ชฎาก็แหลมเปี๊ยบ ถามว่า อยู่ที่ไหน บอกว่า อยู่ชั้นดุสิตพอบอกอยู่ชั้นดุสิตเราตกใจ ต้องเป็นพระโพธิสัตว์แหงๆ เขาไม่ใช่ต่ำนะ ก็คุยไปคุยมาบอกว่าคำสอนของท่านมันผิดอยู่ข้อหนึ่งนะ ถามว่า ผิดยังไง ก็บอกว่า ไอ้ล้างบาป ถ่ายบาป ซื้อบาป จำนำบาปนั่นนะ ไอ้คนที่มันทำความชั่วแล้ว มันทำลายได้เรอะ อย่างกับเนื้อของเราถูกตัดเฉือนไปเป็นแผลนี่ เราจะเอาเงินไปแลกเนื้อใครเขาได้ที่ไหน จ่ายเงินให้เขาแล้วแผลมันหายหรือ ท่านบอกว่าความจริงผมไม่ได้สอนอย่างนั้นนะครับ ความจริงที่ผมสอนนั้น สอนให้สารภาพบาป แบบกับพระแสดงอาบัตินะ อาการสารภาพบาปคือ ไปทำความชั่วมาจากไหน เราจะได้ไม่ทำต่อไป นี่คำสอนเขาแบบนี้นะ นี่ตอนหลังเขามาเซ็งลี้กัน พอล้างบาป สารภาพบาป พอจ่ายสตางค์แล้วบาปหายเลยบาปทั้งสองคน ไอ้คนก่อนก็ไม่หมดบาปเพราะโกหกโกงสตางค์เขาอีกด้วย ก็เลยเข้าใจ

    พอกลับมาก็มานั่งคิดว่า พระเยซูนี่เป็นพระโพธิสัตว์ที่อยู่ชั้นดุสิตต้องมีบารมีเข้มแข็ งมาก ถ้าไม่เข้มแข็งเข้าชั้นนี้ไม่ได้ เพราะชั้นนี้เข้าได้ ๓ พวก คือพุทธบิดาพุทธมารดาของพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ที่มีบารมีเข้มแข็งแล้ว แล้วก็พระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป จึงจะอยู่ชั้นนี้ได้ สวรรค์ทุกชั้นไม่ใช่ว่าใครจะอยู่ได้ทุกชั้นนะ ต้องเป็นไปตามขั้น ก็เลยมานั่งนึกว่า ทำไมมาอยู่ชั้นดุสิตได้ เขาต้องเป็นพระโพธิสัตว์ มาดูอารมณ์ของท่านตอนหนึ่ง ที่เขาเรียกว่าไม้กางเขนนะ คือไม้กางแขน สระแอหายไป เหลือสระเอ มันลด คือกางแขนถูกตะปูตอก ถ้าจิตไม่ดีพอเขาจะเป็นเทวดาไม่ได้ ตามพระบาลีบอกว่าถ้าจิตเศร้าหมองก่อนจะตายไปก็ต้องลงอบายภูมิ นั่นเขาถูกเจ็บขนาดนั้น เขายังไม่โกรธ คุณลองคิดดูให้ดี ไม่ใช่เรื่องเล็กนะเขาใหญ่มาก ใช่ไหม?

    ไอ้จิตเศร้าหมองนิดเดียว ทำความดีไว้มากตลอดชีวิต แต่เวลาตายจิตเศร้าหมองหน่อยก็ต้องลงนรกหน่อย อย่างพระนางมัลลิกาเทวี นั่นคนดีตลอดชาติ เวลาตายจิตคิดถึงที่เคยไปสะดุดเท้าของสามีนิดเดียว ความจริงโทษแกไม่มี ถ้าจิตไม่เศร้าหมองก็ไม่ลง แต่งตัวเป็นนางฟ้า เท้าแหย่ในนรก ๗ วันในมนุษย์ต้องคิด ถ้า ๗ วันแรกนรกก็ซวยเลย"



    แหล่งที่มา :
    หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
    ฉบับพิเศษ เล่ม ๓
    สนทนาธรรมกับ หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร
    <!-- Signature -->
     
  2. boo_bsp

    boo_bsp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +125
    อ้าว...การสะดุดเท้าสามี นี่เป็นบาปเหรอค่ะ บูชอบตบหัวแฟน แถม เตะแฟนทุกวัน แฮ่ๆ ชอบแหย่กันอ่ะค่ะ อันนี้เป็นบาปเหรอค่ะ แฟนเป็นฝรั่ง แล้วฝรั่งเค้าไม่ถือกันอ่ะค่ะ ใครรู้บ้าง ช่วยบอกทีค่ะ
     
  3. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    พระเยซูท่านไปสวรรค์ พวกเราชาวพุทธจะไปที่ไหนดี สวรรค์ พรหม หรือนิพพาน
     
  4. Faithfully

    Faithfully เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    656
    ค่าพลัง:
    +2,459
    อนุโมทนาสาธุค่ะ เคยได้อ่านในหนังสือของท่านอยู่เหมือนกันค่ะ ระลึกถึงหลวงพ่อฤาษีและหลวงพ่อปานตลอดเลยค่ะ

    บุญข้านี้น้อยนัก จักรักษาความดีให้ถึงพร้อม ขอน้อมจิตอธิษฐาน เพื่อพบพานพุทธศาสน์ทุกชาติไป
     
  5. pathawut333

    pathawut333 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +284
    ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่า สวรรค์เป็นสากลไหม
    หรือขึ้นอยู่กับจิตของแต่ละคน จิตที่นึก คิด เหมือน ๆ กัน ก็จะอยู่รวมกัน
    แต่ในความคิดของผม พระผู้เป็นเจ้าคือ องค์ที่เป็นพระผู้สร้าง
     
  6. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033

    ตัวบาปมันจับต้องไม่ได้

    พระนางมัลลิกาเทวี เป็นผู้ทำกุศล ถวายทานมากมายนัก

    พอทำอะไรที่ จิต ตกในอกุศล เฉพาะตนเองคิดว่า ไม่สมควร

    แล้ว ตะหนักความเศร้าหมองนั้นอยู่

    ในขณะดับจิตนั้น เพราะความเศร้าหมองนั้นเอง

    ทำให้ไปเกิด อบายภูมิ

    ส่วนคุณ ปกติเป็นคน หยอกเล่น ตีหัวเล่นสนุกสนาน กับสามีบ่อยๆ

    จิตคุณไม่ได้ เศร้าหมองในเรื่องนี้ จึงไม่มีเหตุให้ไป อบายภูมิด้วยเรื่องนี้

    ส่วนผลของการกระทำ ของคุณถ้าสามีไม่ได้มีจิตใจเศร้าหมอง

    (คือไม่ได้เบียดเบียนกัน) โทษอันนั้นก็ไม่เกิดกับคุณ

    แต่ผลการกระทำ สนุกสนาน ตีหัวแฟนแบบ สนุกสนาน ก็อาจไปเกิดกับคุณคือ

    สามี ก็ อาจเล่นหัว คุณแบบสนุกสนานเช่นกัน win ๆ ทั้ง2ฝ่าย จบ....

    ปล. ส่วนเรื่อง พระนางมัลลิกาเทวี นั้นผมเคยฟังๆมาเกี่ยวกับ มุสาวาส เรื่อง โกหก
    พระเจ้าปเสนธิโกสน เกี่ยวกับการ เสพเมถุน กับ แพะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2010
  7. isme404

    isme404 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +301
    เคยได้อ่านประวัติท่านในหนังสือของท่านอยู่เหมือนกันค่ะ ระลึกถึงหลวงพ่อฤาษีและหลวงพ่อปานตลอดเลยค่ะ..สาธุ..สาธุ..สาธุ..

    จักรักษาความดีให้ถึงพร้อม ขอน้อมจิตอธิษฐาน เพื่อพบพานพุทธศาสน์ทุกชาติไป<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. boo_bsp

    boo_bsp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +125
    อธิบายได้เข้าใจง่ายมากค่ะ แค่นี้ทำไมนึกไม่ออกเนี๊ยะ
    ขอบคุณมากค่ะคุณ YUT_KOP
    ที่ช่วยให้ตาแจ้ง...สว่างขึ้นมาเลยหละที่นี้เนี๊ยะ อิ อิ....
     
  9. zodiacs

    zodiacs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +107
    ผมสงสัยว่านรก สวรรค์เป็นสากลไหมในโลกนี้ หรือเมื่อตายแล้วก็ตามแต่ศาสนานั้นๆ
     
  10. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    พระพุทธเจ้า ทรงค้นพบ กฏของธรรมชาติ(ธรรมะ) ดังนั้นไม่ว่าเชื้อชาติ ศาสนา ใด

    กฏธรรมชาติก็เป็นแบบนั้น นรก สวรรค์ ก็เป็นแบบนั้น เทวดาฝรั่งก็มี สัตว์นรก ก็มี เป็นต้น

    พอหมดอายุก็เวียนว่ายตายเกิดเหมือนเดิม
     
  11. 2516

    2516 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +24
    ขอตอบว่า สากลครับ ถ้ายังไม่เชื้อก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองครับ เพราะมีวิธีการปฏิบัติให้เห็นเองเลยครับ
     
  12. Followdream

    Followdream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +12,448
    กราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เจ้าค่ะ
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ..สาธุ
     
  13. tony2002

    tony2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2006
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +178
    ในคริสตเตียนถือว่าทุกคนที่เกิดมาล้วนเป็นคนปาบทั้งสิ้น มีปาบติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดมนุยษ์คนแรกคืออดัมครับ และการสารภาพปาบไม่ใช้การล้างปาบ แต่เป็นวิธีการที่ให้คนผุ้นั้นสำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองกระทำและไม่กล้าที่จะกลับไปผิดอีก
     
  14. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    พระเยซูไม่ใช่พระเจ้าแต่ท่านบอกตนเป็นบุตรพระเจ้า ส่วนนบี มูฮัมมัด บอกเยซูเปนแค่ผู้นำสาร์นจากพระเจ้า ดังนั้นไม่ใครสักคนในสองคนนี้ต้องโกหกเพราะบอกไม่ตรงกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2013
  15. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    เป็นบุตรของพระจิต พระบิดา ถ้าเทียบกัน ท่านหมายถึงแตกเนื้อหน่อออกมาจากพระเจ้า ถ้าในทางพุทธอาจหมายถึงว่า แตกมาจากพระผู้เป็นเจ้า จากต้นสายโพธิญาณ อะไรเทือกนั้นหรือเปล่าค่ะ สาธุ
     
  16. หมูดิน1

    หมูดิน1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2011
    โพสต์:
    544
    ค่าพลัง:
    +863
    ความรู้สึกในใจไง คือชาดกพุทธประวัติไง

    ถ้าจริงๆไม่บาป แต่ความรู้สึก ความเชื่อนี่แหละ

    มันรบกวนใจ ใจเศร้าหมอง ตายไปลงนรกทันที

    คนในสมัยนั้น เค้าว่าบาป ความเชื่อนะ

    ไม่ใช่เหตุ และผล
     
  17. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ชอบเล่นกันแรงๆเหมือนกันเลย แต่ถ้าไม่มีเจตนาที่เป็นอกุศลสร้างความเบียดเบียนมันก็ไม่เกิดบาป แต่ส่วนใหญ่เราเล่นกันแล้วเทลาะกันจริงจัง 555 แบบนี้น่าจะเป็นบาปแหระเพราะทุกข์ใจเวลาเทลาะกันใช่ป่ะ เราว่าความรู้สึกที่เป็นกุศลหนะเป็นบุญ ถ้าเราทุกข์ใจเสียใจก็เป็นอกุศล ก็เป็นบาปไป การสารภาพในทางคริสในความคิดเรา ก็คล้ายๆปลงอาบัติ แต่เราว่า ที่กล่าวมามีเหตุผลมาก คือ การสำนึกบาป เหมือนที่ในทางพุทธศานาพระพุทธเจ้าสอนเรื่องอริยสัจสี่ เมื่อบาปเป็นเครื่องทำให้เกิดทุกข์ การสารภาพ สำนึกบาปก็เป็นตัวสมุทัย ที่จะละวางจากบาปนั้นจ้า
     
  18. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    เลิกบื้อกันได้แล้วครับ...ผมไม่เห็นด้วยอย่างแรง รวมทั้งไม่เชื่อเลย
     
  19. stone111

    stone111 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +32
    ทำไมเจ้าข้อกระทู้ นำเสนอเรื่องประมาณนี้ละจ๊ะ
    ไม่น่ารักเลย ไปเปรียบเทียบศาสนา แล้วไปดูแคลนศาสนาอื่นให้ดูด้อยค่า
    น่าจะตบปาก......

    แล้วยิ่งไปอ้างพระอ้างเจ้า หมิ่นเหม่ศาสนา อย่างนี้ ยิ่งทำให้
    เข้าใจว่า เป็นพระเป็นเจ้า ไม่รู้จักให้หัวคิด คิดอยู่อย่างเดียว
    ยึดของกูดีกว่า สูงกว่า ให้มันมีมานะทำไมกัน

    ที่หลังอย่าเปรียบเทียบอย่างนี้ นะจ๊ะ
    เวลาจะนำเสนออะไร ให้คิดดี ทำดี พูดดี
    อันนี้ ไม่ได้เหน็บแหนมนะจ๊ะ
    ถือว่าเป็นผู้มีการศึกษาดีอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...