รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำครับขายอาหารบาปไหม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย กลางทาง, 13 กรกฎาคม 2013.

  1. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    ช่วยบอกด้วยครับ
     
  2. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    ขอบคุณครับ
     
  3. apiraks

    apiraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +508
    ผมก็เห็นคล้ายท่านอื่นๆนะครับ

    ไม่ใช่ไม่มีบาปเลย, แต่จะบาปมากหรือน้อยเท่านั้น

    ไม่ต้องอะไรมาก ถามว่าเป็นนักร้องขึ้นไปร้องเต้นบนเวทีบาปไหมครับ?
    หลายท่านในที่นี้..ผู้เคยอ่านพระไตรปิฎกผ่านตามาบ้างคงตอบได้โดยไม่ลังเลเลย.. ว่าบาปแน่..

    อีกตัวอย่างหนึ่ง.. ตำรวจ..อัยการ..ผู้พิพากษา.. อาชีพเหล่านี้บาปไหมครับ?
    แล้วเป็นเจ้าของธุรกิจ, เป็นหัวหน้างานล่ะบาปไหมครับ?

    อาชีพใดๆที่สามารถให้คุณให้โทษกับผู้อื่น.. สามารถก่อให้เกิดความอาฆาตแค้น, เกิดบาปได้ง่ายเช่นกัน
    สรุปได้ว่ามนุษย์เราทำอะไรตามปกติก็มีโอกาสกระทำบาปได้อยู่แล้วโดยธรรมชาติ จะมากหรือน้อยเท่านั้น

    ส่วนตัวผมแนะนำว่าเลือกทำอาชีพที่มีโอกาสกระทบผู้อื่นทั้งกายและใจให้น้อยที่สุดครับ คงทำได้แค่นั้นจริงๆ

    ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ
     
  4. teeo79

    teeo79 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +96
    เห็นด้วยครับว่าต้องมีบาป เพียงแต่จะมากจะน้อยตามแต่เจตนาของเรา เพราะยังไงก็มีส่วนให้เค้าตาย
     
  5. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154



    เห็นข้อความนี้หลายวันแล้วครับ


    ไม่ทราบว่าถามใคร..วันนี้ฟังเทศ

    อยู่นึกขึ้นได้..คนฆ่าเขามี..เจตนาฆ่า

    เพื่อเลี้ยงชีพครับ...ส่วนผมถ้าขาย

    ข้าวมันไก่..เจตนาไปซื้อ.." ศพไก่ "..

    มาปรุงขาย..เพื่อเลียงชีพครับ..

    เป็นไง..น่ากินไหมครับ.." ข้าวมันศพไก่ "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ผมเข้าไปดูใน google ครับ มี

    ๑. ค้ายาพิษ

    ๒. ค้ามนุษย์

    ๓. เลียงสัตว์ไว้ฆ่าเพื่อเป็นอาหาร

    ๔. ค้าอาวุธ

    ๕. ค้าขายน้ำเมา

    ครับ.
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)



    [235] วณิชชา 5 (การค้าขาย 5 อย่าง ในที่นี้หมายถึง การค้าขายที่เป็นอกรณียะสำหรับอุบาสก คือ อุบาสกไม่ควรประกอบ — trades which should not be plied by a lay disciple)
    1. สัตถวณิชชา (ค้าขายอาวุธ — trade in weapons)
    2. สัตตวณิชชา (ค้าขายมนุษย์ — trade in human beings)
    3. มังสวณิชชา (ค้าขายเนื้อสัตว์ — trade in flesh; อรรถกถาแก้ว่า เลี้ยงสัตว์ไว้ขาย — trade in animals for meat)
    4. มัชชวณิชชา (ค้าขายน้ำเมา — trade in spirits)
    5. วิสวณิชชา (ค้าขายยาพิษ — trade in poison)

    A.III.207. องฺ.ปญฺจก. 22/177/233.

    [***] วัฑฒิ หรือ วัฒิ หรือ วุฒิ 5 ดู [249] อริยวัฑฒิ 5


    ���ҹء���ط���ʵ�� ��Ѻ�����Ÿ���
     
  9. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    ขอบพระคุณ คุณthepkere , เฮียป้อครับ

    เลยงง...ตกลงจะยึดแบบไหนดี?

    เผอิญ..วันนี้เพื่อนก็เลี้ยงข้าวมันไก่

    แถว..ถ.ราชพฤกษ์ครับ..ตอนมาเสริฟ

    เห็นจานเปใหญ่แต่เขาเรียงข้าว..โปะไก่

    เเนวยาว..ผมมองสักครู่..เสียงเพื่อนว่า

    ใหญ่แต่จาน..แล้วกรรมของเรา..จะอยู่

    ตรงไหน..รู้แต่ว่า..อร่อย..อิ่ม..และประหยัดตังค์น่ะครับ.
     
  10. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    ถ้า มังสวณิชชา แปลว่า ค้าขายเนื้อสัตว์ ไม่ได้แปลว่าเลี้ยงสัตว์ไว้ขาย ... แบบนี้เสร็จเลยครับ


    คนครึ่งค่อนโลกเป็นมิจฉาวาณิชชาแน่ ๆ ครับ ... ^^


    สรุปว่า มังสาวณิชชา แปลว่า เลี้ยงสัตว์ไว้ขาย นะครับ

    คนที่ขายข้าวมันไก่ ที่ซื้อเนื้อไก่แบบไม่ได้สั่งฆ่าจะได้เป็น สัมมาอาชีวะ

     
  11. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    ขอบพระคุณครับ

    ค่อยหายกระอักกระอ่วนหน่อย

    กลัวกลายเป็นผู้ร่วมรู้เห็นเป็นใจกับการฆ่าครับ

    ขณะนี้การตีความคงยังคลางแคลง..วันหน้าถ้าได้พบ

    ครูอาจารย์" ท่านผู้เดินตามอริยะประเพณี " หลายๆองค์

    ผมคงต้องขอความเมตตาท่านช่วยตีความใหม่ครับ

    ได้อย่างไรจะนำมาฝากครับ อนุโมทนากับทุกท่านครับ.
     
  12. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (คำว่า สัตว์ มาดูที่ตถาคตใช้แล้วจะเข้าใจได้ไม่ยาก)
    สัตว์ผู้ไม่ลุ่มหลง
    [๔๖] ดูกรพราหมณ์ มีอยู่ สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง ย่อมสำคัญกลางคืนแท้ๆ ว่า
    กลางวัน ย่อมสำคัญกลางวันแท้ๆ ว่า กลางคืน เราย่อมกล่าวความสำคัญอย่างนี้ ในเพราะอยู่
    ด้วยความหลงของสมณพราหมณ์เหล่านั้น. ดูกรพราหมณ์ ส่วนเราย่อมสำคัญกลางคืนว่า กลาง
    คืน ย่อมสำคัญกลางวันว่า กลางวัน. ดูกรพราหมณ์ บุคคลเมื่อจะกล่าวให้ถูก พึงกล่าวคำใดว่า
    สัตว์ผู้มีความไม่หลงเป็นธรรมดา เกิดขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อ
    ความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดา
    และมนุษย์ทั้งหลาย, บุคคลเมื่อจะกล่าวให้ถูก
    พึงกล่าวคำนั้นกะเราเท่านั้นว่า สัตว์ผู้มีความไม่
    หลงเป็นธรรมดา
    เกิดขึ้นในโลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชน
    เป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์
    ทั้งหลาย.


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๒
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
    หน้าที่ ๒๙/๔๓๐


    ๒. สัตตสูตร
    ว่าด้วยเหตุที่เรียกว่าสัตว์
    [๓๖๗] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
    อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี. ครั้งนั้นแล ท่านพระราธะได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
    ถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถาม
    พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า สัตว์ สัตว์ ดังนี้ ด้วยเหตุมีประมาณเท่าไร
    หนอแล จึงเรียกว่า สัตว์?

    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรราธะ เพราะเหตุที่มี ความพอใจ ความกำหนัด
    ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยากในรูปแล เป็นผู้ข้องในรูป เป็นผู้เกี่ยวข้องในรูปนั้น ฉะนั้น
    จึงเรียกว่า สัตว์. เพราะเหตุที่มีความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยาก
    ในเวทนา ... ในสัญญา ... ในสังขาร ... ในวิญญาณ เป็นผู้ข้องในวิญญาณ เป็นผู้เกี่ยวข้อง
    ในวิญญาณนั้น ฉะนั้น จึงเรียกว่า สัตว์.


    ดูกรราธะ เด็กชายหรือเด็กหญิง เล่นอยู่ตามเรือนฝุ่น
    ทั้งหลาย เป็นผู้ยังไม่ปราศจากความกำหนัด ไม่ปราศจากความพอใจ ไม่ปราศจากความรัก
    ไม่ปราศจากความกระหาย ไม่ปราศจากความกระวนกระวาย ไม่ปราศจากความทะยานอยาก
    ในเรือนฝุ่นเหล่านั้นอยู่เพียงใด ย่อมอาลัย ย่อมอยากเล่น ย่อมหวงแหน ย่อมยึดถือเรือนฝุ่น
    ทั้งหลายอยู่เพียงนั้น. ดูกรราธะ แต่ว่าในกาลใด เด็กชายหรือเด็กหญิงเป็นผู้ปราศจากความ
    กำหนัด ปราศจากความพอใจ ปราศจากความรัก ปราศจากความกระหาย ปราศจากความกระวน
    กระวาย ปราศจากความทะยานอยากในเรือนฝุ่นเหล่านั้นแล้ว ในกาลนั้นแล เด็กชายหรือ
    เด็กหญิงเหล่านั้น ย่อมรื้อ ย่อมยื้อแย่ง ย่อมกำจัด ย่อมทำเรือนฝุ่นเหล่านั้น ให้เล่นไม่ได้
    ด้วยมือและเท้า ฉันใด ดูกรราธะ แม้เธอทั้งหลายก็จงรื้อ จงยื้อแย่ง จงกำจัด จงทำรูปให้
    เป็นของเล่นไม่ได้ จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหา จงรื้อ จงยื้อแย่ง จงกำจัด จงทำเวทนา
    ให้เป็นของเล่นไม่ได้ จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหา จงรื้อ จงยื้อแย่ง จงกำจัด จงทำ
    สัญญาให้เป็นของเล่นไม่ได้ จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหา จงรื้อ จงยื้อแย่ง จงกำจัด
    จงทำสังขารให้เป็นของเล่นไม่ได้ จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหา จงรื้อ จงยื้อแย่ง
    จงกำจัด จงทำวิญญาณให้เป็นของเล่นไม่ได้ จงปฏิบัติเพื่อความสิ้นไปแห่งตัณหา ฉันนั้น
    นั่นเทียวแล. ดูกรราธะ เพราะว่าความสิ้นไปแห่งตัณหา เป็นนิพพาน.
    จบ สูตรที่ ๒.

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๗
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๙ สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค
    หน้าที่ ๑๙๑/๓๑๐
     
  13. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    ขออภัยครับ คุณ thepkere

    กำลังจะชี้บอกในข้อค้าขายเนื้อสัตว์ใช่ไหมครับ

    แล้วในเมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงว่าเป็นอาชีพ

    ที่ไม่ควรทำ..และทำไมไม่ทรงบัญญัติในศีลของ

    ภิกษุเลย..ว่าห้ามฉันเนื้อสัตว์...ทั้งที่เคยมีพระเทวทัต

    มาทูลขอแล้ว..เท่าที่ดูจะไม่ค่อยสอดรับครับ.
     
  14. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (ลองมาดูบาลี คำว่า มนุษย์)
    [๑๗๗] ปญฺจิมา ภิกฺขเว วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียา กตมา
    ปญฺจ สตฺถวณิชฺชา สตฺตวณิชฺชา มํสวณิชฺชา มชฺชวณิชฺชา วิสวณิชฺชา
    อิมา โข ภิกฺขเว ปญฺจ วณิชฺชา อุปาสเกน อกรณียาติ ฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาบาลี) เล่มที่ ๒๒
    สุตฺตนฺตปิฏเก เล่มที่ ๑๔ องฺคุตฺตรนิกายสฺส ปญฺจก-ฉกฺกนิปาตา
    หน้าที่ ๒๓๒/๕๐๓

    [๒๘๑] ปญฺจ คติโย
    นิรโย
    ติรจฺฉานโยนิ
    เปตฺติวิสโย
    มนุสฺสา
    เทวา ฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาบาลี) เล่มที่ ๑๑
    [๒๘๑] คติ ๕ อย่าง
    ๑. นิรยะ [นรก]
    ๒. ติรัจฉานโยนิ [กำเนิดดิรัจฉาน]
    ๓. ปิตติวิสัย [ภูมิแห่งเปรต]
    ๔. มนุสสะ [มนุษย์]
    ๕. เทวะ [เทวดา] ฯ


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑
     
  15. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (ลองพิจารณาดูนะครับผมไม่เก่งอธิบาย)
    ๕. ชีวกสูตร
    เรื่องหมอชีวกโกมารภัจจ์
    [๕๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ อัมพวันของหมอชีวกโกมารภัจจ์ เขตพระนคร
    ราชคฤห์. ครั้งนั้นแล หมอชีวกโกมารภัจจ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคม
    พระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง. ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์
    ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าได้ฟังคำนี้มาว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม พระ
    สมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ยังเสวยเนื้อที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้ ข้าแต่พระองค์
    ผู้เจริญ ชนเหล่าใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม พระสมณโคดม
    ทรงทราบข้อนั้นอยู่ ยังเสวยเนื้อที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้ ชนเหล่านั้นชื่อว่า กล่าว
    ตรงกับที่พระผู้มีพระภาคตรัส ไม่ชื่อว่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยคำอันไม่เป็นจริง ชื่อว่ายืนยัน
    ธรรมอันสมควรแก่ธรรม การกล่าวและกล่าวตามที่ชอบธรรม จะไม่ถึงข้อติเตียนละหรือ?


    เนื้อที่ไม่ควรบริโภค และควรบริโภค ๓ อย่าง
    [๕๗] พ. ดูกรชีวก ชนใดกล่าวอย่างนี้ว่า ชนทั้งหลายย่อมฆ่าสัตว์เจาะจงพระสมณโคดม
    พระสมณโคดมทรงทราบข้อนั้นอยู่ ก็ยังเสวยเนื้อสัตว์ที่เขาทำเฉพาะตน อาศัยตนทำ ดังนี้
    ชนเหล่านั้นจะชื่อว่ากล่าวตรงกับที่เรากล่าวหามิได้ ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำอันไม่เป็นจริง ดูกรชีวก
    เรากล่าวเนื้อว่า ไม่ควรเป็นของบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ

    เนื้อที่ตนเห็น
    เนื้อที่ตนได้ยิน
    เนื้อที่ตนรังเกียจ

    ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่าเป็นของไม่ควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ นี้แล

    ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ

    เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น
    เนื้อที่ตนไม่ได้ยิน
    เนื้อที่ตนไม่ได้รังเกียจ


    ดูกรชีวก เรากล่าวเนื้อว่า เป็นของควรบริโภคด้วยเหตุ ๓ ประการนี้แล.


    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๓
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2013
  16. ไชยยารัตน์

    ไชยยารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +739
    ไม่่บาป เพราะไม่ได้สั่งฆ่า ไม่ได้เจาะจงให้ทำเพื่อเรา ไปซื้อที่ตลาด เขาทำขายเป็นปกติอยู่แล้ว เราแค่ ซื้อซากสัตว์ ขายอาหารเจ แต่ไม่มีศีล ก็ไปอบายเหมือนกัน
     
  17. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    เคยผ่านตา " คนเรามีต้นทุนไม่เท่ากัน "

    ผมไม่เคยศึกษาบาลีครับ..และการทำความเข้าใจ

    พุทธพจน์บางครั้งการตีความแม้จะแปลมาแล้ว

    ต้องบอกว่ายังสับสนครับ...ถ้าที่ลงมา...เนื้อที่ตนไม่ได้เห็น

    เนื้อที่ตนไม่ได้ทำ เนื้อที่ตนไม่รัเกียจ หมายถึงข้อค้าขาย

    เนื้อสัตว์ใช่ไหมครับ?..เออ !ย่างนั้นทั้งพระทั้งโยมที่ทราบเรื่องนี้

    ..บิณฑฯ..ไปซื้อ..ที่ร้านขาย..จะไม่เข้าตำรา เกียจตัวกินไข่ฯ

    อีกอย่าง..ท่านอนาถะ..พระนางวิสาขา..พระนางสามาฯ..และเหล่า

    อุบาสิกาที่ไปซื้อมาปรุง..คงต้องไปนรกแน่นอน..เพราะทำใส่บาตร

    และเลี้ยงครอบครัวเป็นอาจิน..ขออภัยครับอย่าคิดว่ากล่าวตู่

    พระพุทธองค์เลยคำของพระพุทธองค์เป็นหนึ่งไม่มีสอง..

    ผมเชื่อตามนั้นครับปัญหาขณะนี้มีความสับสนเรื่องการตีความครับ

    ..น่าอยู่ในการวิจัยกันครับ ขอบคุณครับ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...