ช่วยแนะนำศีลข้อ2 ให้ผมด้วยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pice94, 13 กรกฎาคม 2013.

  1. pice94

    pice94 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +173
    ผมเป็นคนที่พยายามรักษาศีล5 ให้ได้ทุกวันครับ
    จนเมื่อผมได้เข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง
    ที่สามารถเบิกค่าแท็กซี่ได้ในเวลากลับบ้านผมก็ถามพวกพี่ๆเขาว่า
    เบิกยังไง พี่เขาก็บอกว่าให้ประมานเอาเช่นจากบริษัทไปบ้าน100 บาท
    ก็เบิก100บาทได้เลยแม้ว่าเวลาที่จะนั่งจริงนั่งไปกับเพื่อนแล้วหารกันเหลือไม่ถึง50บาท ผมก็เลยถามพวกพี่เขาว่าเขาให้จริงๆหรอ เขาก็บอกกันว่า"เห้ย เขาให้เลย" ผมก็รู้สึกไม่สบายใจว่าจะผิดศีลข้อ2หรือป่าว

    อีกอย่างหนึ่งครับผมเป็นคนที่เพิ่งเริ่มงานในบริษัทแห่งนี้ได้ไม่นาน
    แต่รู้สึกว่าตัวงานนั้นผมรู้สึกไม่ชอบเลยแม้ว่าจะตรงกับสาขาที่จบมา(จบบัญชีครับ)
    อยากจะทำงานอย่างอื่นที่ทำแล้วเกื้อหนุนในการสร้างบุญกุศล มีเวลาไปปฏิบัติธรรม และเลี้ยงพ่อแม่ได้ครับ วอนท่านผู้มีปัญญาและบุญญาธิการทั้งหลายช่วยแนะนำชี้ทางที่ถูกต้องให้ผมด้วยนะครับ
     
  2. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    การรักษาศีลห้า อยู่ที่เจตนา
    ข้อสอง เจตนางดเว้นจากการลักขโมย ทรัพย์สิ่งของที่เจ้าของเขาไม่อนุญาต

    พิจารณา 1.เป็นการลักขโมย หรือไม่
    2.เป็นการยักยอก เบียดบังเอาทรัพย์ของผู้อื่นหรือไม่
    3.เจ้าของเขาอนุญาต หรือไม่

    หากจะคิดเลยไป ก็ให้เป็นเรื่องการสงเคราะห์เพื่อน โดยไม่ต้องหารกับเพื่อนไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2013
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    อนุโมทนากับคำถาม..และความเพียรในการรักษาศีล ด้วยครับ

    เราตรวจสอบการล่วงศีลได้จากการพิจารณาตามองค์ของศีลข้อ 2 ดังต่อไปนี้ครับ..

    องค์ประกอบของศีลข้อที่ ๒ ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ
    ๑. วัตถุสิ่งของหรือทรัพย์นั้นมีเจ้าของ
    ๒. รู้ว่าวัตถุสิ่งของหรือทรัพย์นั้นมีเจ้าของ
    ๓. มีจิตคิดจะลักขโมย
    ๔. ทำความเพียร เพื่อลักวัตถุสิ่งของหรือทรัพย์นั้น
    ๕. ได้สิ่งของหรือทรัพย์นั้น มาด้วยความเพียรนั้น

    กรณีของท่านผู้ถาม เรื่องการเบิกค่ารถ หรือค่าใช้จ่ายอื่นใด เมื่อท่านไม่อาจทราบจำนวนที่ถูกต้องตรงตามจริง ก็ประมาณตามสภาพจริงที่เคยจ่ายหรือสอบถามจากผู้รู้รายอื่นเพ่อเทียบเคียง..โดยปรกติในธุรกิจการงาน บริษัทจะมีการจัดงบประมาณค่าใช้จ่ายเพื่อพนักงานอยู่ ดังนั้น เมื่อท่านผู้ถามกังวล ก็ใช้วิธี ออกค่าใช้จ่ายก่อนแล้วเบิกทีหลังตามจริง หรือหากเป็นจำนวนมาก ก็เบิกสำรองแล้วหักค่าใช้จ่ายตามจริงหรือตามใบเสร็จย่อมรักษาตนไว้ในความซื่อตรงไม่คดโกงใครๆได้ นะครับ.. หรือหากประมาณมากไว้แต่ในความจริงจ่ายน้อยกว่าประมาณ ก็คืนส่วนที่เหลือให้บริษัทไป เพื่อแสดงความมั่นคงในความซื่อตรงไม่คิดหาเศษเกินเลยด้วยอาการนั้น..การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นได้แต่เรื่องของคนที่สะอาด เป็นเครื่องแสดงความเป็นผู้รักศีลมากกว่าทรัพย์ที่แม้ตนจะสามารถได้มาโดยง่ายเพียงเพราะเขาไม่รู้ไม่เห็น ..ใครที่ได้บุคคลกรเช่นท่านจขกท นับว่ามีบุญมาก น่ายินดียิ่ง ..


    ศีเลนสุขติงยันติ ศีลย่อมยังให้สู่สุคติ
    ศีเลนโภคมัปทา ศีลย่อมยังให้เกิดโภคทรัพย์
    ศีเลนพุทติงยันติ ศีลย่อมยังให้สู่พระนิพพาน
     
  4. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    ใน คหสต. ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยค่ะที่ให้ประมาณเอาเองแบบนี้ แต่การเบิก-จ่ายตามจริงได้เป็นเรื่องที่ดีและควรทำค่ะ (แต่จะยุ่งยากไหมแล้วรุ่นพี่จะเขม่นหรือปล่าว) แต่โดยส่วนมากบริษัทจะ fix rate ค่ารถให้เช่นไม่ว่าจะใก้ลไกลก็จ่ายให้ 150.- บาท หรืองาน outdoor 300.-บาท/วัน แบบนี้เท่าที่เห็นก็คือถ้าเกินเราจ่ายเอง แต่วันไหนไม่ถึงก็คือไม่คืน (average)


    ถ้าเป็นงานประจำก็น่าจะมีเวลาที่แน่นอนอยู่แล้วนี่คะ (working hour) อาจจะยังใหม่อยู่ ถ้างานอยู่ตัวก็น่าจะจัดสรรเวลาได้นะคะลองดูไปก่อนค่ะ ยกเว้นว่าถ้าเป็น audit ต้องไปตรวจสอบที่นู่นนี่หรือตจว. ก็คงจะลงล็อคได้ยากนิดนึง ถ้าทำให้ไม่มีเวลาขนาดนั้นก็ต้องตรองดูอีกครั้งค่ะ
     
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อืมมม ... พอๆกันเลยค่ะ แต่ดีหน่อยที่ดิฉันเป็นเพื่อนกับเจ้านาย งานใหม่ของดิฉันเลยพอคุยกันได้ แต่ก็ยังความแปลกใจและแปลกสายตาจากเพื่อนเก่า ถ้าไม่คุยกันหรือคุ้นกันมาก่อนเขาอาจไล่ออก ฐานสงสัยว่าไม่เต็ม ...
    การเดินทางธรรมนั้น มันสวนกับทางโลกอยู่แล้ว ตอนแรกอยากจะให้ยื่นจดหมายถามเจ้านายไปเลยง่ายดี ชัวร์กว่าด้วยร้อยเปอร์เซ็น แต่มันอาจจะเด่นไป อาจเป็นภัยทีหลัง ยิ่งเข้าไปใหม่ไปแปลกสีมากเดี๋ยวโดนเขม่นเอา ...
    เอาเเบบ dd เขาแนะนำละกันค่ะ ง่ายดี ออกก่อนแล้วเอาสลิปพ์ไปเคลมทีหลัง
    สบายใจทุกๆฝ่าย ...

    งานใหม่ที่คุณทำอยู่อึดอัดแน่ค่ะ ยิ่งเรารักษาศีลอยู่ด้วย และงานใหม่ที่จะไปหาก็ไม่แน่ว่าจะอึดอัดกว่าเดิม อดทนเข้าไว้ดูท่าทีก่อนนะคะ เพิ่้งเข้ามายังไม่ชินมั้งคะ ลองดูก่อนดีกว่าหาประสปการณ์

    อ้อ .. อยู่ห่างๆโทรศัพท์ไว้บ้างก็ดีค่ะ เกิดวันไหนโทรศัพท์ดังแล้วเพื่อนข้างๆหรือเจ้านายบอกว่า "ใครถามหาให้บอกว่าไม่อยู่นะ" ... งานนี้ล่ะ ใบ้กินเลย ...
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เจ้าของเงิน (เจ้าของบริษัท) รู้เรื่องนี้ไหม ถ้ารู้และยินยอมให้ทำได้ ก็ทำได้ตามสะดวก

    แต่ถ้าเจ้าของบริษัทไม่รู้รายละเอียดในเรื่องนี้ ก็ถือเป็นการเอาของๆ เขา โดยที่เขาไม่อนุญาต
     
  7. apiraks

    apiraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +508
    วิธีที่ดีที่สุด หากจำเป็นต้องอยู่ในสภาพนั้นนะครับ

    คือ ต้องบอกความจริงทุกครั้งกับผู้ที่เราไปขอเบิก (รับหน้าที่ดูแลจ่ายเงินที่คุณไปเบิก) หรือเขียนเบิกตามจริงที่จ่าย
    โดยไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไรหรือหัวเราะเยาะว่า "หมอนี่ท่าจะบ้า ก็เบิกไปร้อยนึงก็จบ จะมาใส่ตามจริงทำไม"

    อย่าลืมนะครับ การทำตามผู้อื่นทั้งที่รู้ว่าผิด คุณก็จะได้บาปไปด้วย ยิ่งคุณตั้งใจรักษาศีิลแล้วยังฝืนทำอีกนี่ รู้ว่าผิดแล้ว
    ยังทำแสดงว่าศรัทธาคุณยังไม่มั่นคง

    ศีลคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติขึ้นเพื่อชำระจิตใจ หากตั้งใจตามท่านแล้วควรมีความแน่วแน่มั่นคงให้มากนะครับ

    คนเลว - ทำความเลวได้ง่าย ทำความดีได้ยาก
    คนดี - ทำความดีได้ง่าย ทำความเลวได้ยาก

    อยากเป็นแบบไหน ไม่มีใครมาลิขิตนะครับ อยู่ที่ตัวท่านเอง

    ขอเจริญในธรรมทุกท่านครับ
     
  8. ไชยยารัตน์

    ไชยยารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +739
    ถามบริษัท ว่า ใช้ไม่ถึงที่เหลือคืนหรือไม่ ถ้าบริษัทบอกว่า เอาไปเลย ก็ไม่ต้องคืน แต่ถ้าเบิกตามความเป็นจริง ก็ตามนัั้น ขออนุโมทนา จขกท ด้วยครับ
     
  9. Purplecarpet

    Purplecarpet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +197
    คิดว่าจากศีลข้อ2 ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า อย่าถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นมาเป็นของตน อย่าเอามากินมาใช้โดยที่เจ้าของไม่เต็มใจ โดยที่เจ้าของไม่อนุญาต

    การเบิกเงินเกินจำนวนมาใช้แล้วไม่คืน ผิดศีลข้อ 2 แน่นอนค่ะ จะไม่ผิดก็ต่อเมื่อเจ้าของบริษัทเขาโอเคเขาให้ด้วยความเต็มใจ

    แต่ถ้าไม่สามารถแจ้งเจ้าของบริษัทหรือเขาไม่อนุญาต คุณก็ควรนำเงินไปคืนให้ครบค่ะจะได้ไม่ผิดศีล แล้วถ้ามีโอกาส ลองบอกเพื่อนร่วมงานและคนอื่นๆด้วยนะคะ

    ไม่อย่างนั้น คุณต้องยอมรับในผลของกรรมที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ไม่ว่าเงินที่เอามานั้นจะจำนวนน้อยหรือมาก

    ผลจากการผิดศีลข้อ 2: ทรัพย์ของตนจะถูกทำลายด้วยภัยจากน้ำ, ภัยจากไฟไหม้, ภัยจากโจรปล้น, ภัยจากลม(พายุ), ภัยจากโรคภัยเบียดเบียน, ภัยจากข้าวของพังเสียหายต้องจ่ายโดยไม่จำเป็น

    ยังทำให้ลำบากยากจน, ขัดสน, ไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน, มีหนี้ ไม่มีทางใช้, ทำอาชีพใดก็ไม่เจริญ, ตกงาน, ทำงานที่ไหนก็เดือดร้อน, ไม่ถูกกับนายจ้าง เพื่อนร่วมงาน , ทำให้ตัดสินใจผิดพลาด, เห็นผิดจากทำนองครองธรรม

    แต่ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้ารักษาศีลข้อ 2 ได้ ก็จะ...

    เป็นผู้มีทรัพย์มาก, มีข้าวของและอาหารมาก, หาบริโภคทรัพย์ได้ไม่สิ้นสุด, โภคทรัพย์ที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น, โภคทรัพย์ที่ได้ไว้แล้วก็ยั่งยืนถาวร, หาสิ่งที่ปรารถนาได้รวดเร็ว, สมบัติไม่กระจายด้วยภัยต่างๆ, หาทรัพย์ได้โดยไม่ถูกแบ่งแยก, ได้โลกุตตรทรัพย์ คือนิพพาน, อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข, จะไม่รู้ ไม่เคย ได้ยินคำว่าไม่มี

    ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีค่า สูงส่งมาก ถ้าทำตามได้ เลิกสร้างบาป หันมารักษาศีลทุกข้อ รวมทั้งสร้างเหตุแห่งการมีสภาพคล่องทางการเงิน หันมาให้ทานเต็มกำลัง ใส่บาตรวิระทะโย (อธิษฐานหยอดเงินใส่กระปุกทุกวันตามกำลังแล้วนำไปทำบุญ) ชีวิตก็จะมีแต่ความสุขไม่เจ็บ ไม่จน แน่นอน <3
     
  10. Purplecarpet

    Purplecarpet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +197
    เราเคยผิดศีลข้อ 2 มาเยอะมาก แล้วก็ได้รับผลของกรรมอย่างชัดเจน ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้เลยค่ะ

    1. ผิดหนี้สงฆ์: ส่งเสริมและนิ่งเฉยเมื่อคนอื่นนำของวัดกลับบ้าน และตัวเองก็เคยทานด้วย, ทานอาหารถวายพระพุทธรูปที่บ้านหลายครั้งค่ะ ชั่วมากๆ เพราะเสียดาย+ตะกละค่ะ สำนึกผิดมากๆ นอกจากนี้ ยังเคยทานอาหารและน้ำที่นำถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น อาหารไหว้เจ้าตอนวันตรุษจีน สารทจีน ไหว้ตี่จูเอี๊ย แม้แต่ที่ถวายศาลพระภูมิก็เคยทาน แล้วให้คนอื่น รวมทั้งสัตว์เลี้ยงทานด้วย ทั้งส่งเสริมและนิ่งเฉยเมื่อคนอื่นทานของถวายพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    -เคยทำบาปในเขตบุญ สถานปฏิบัติธรรม ใช้น้ำใช้ไฟ ทิชชู่ เปลือง, ทำกาต้มน้ำที่พระบริจาคให้สถานปฏิบัติธรรมเสีย, ทำห้องนอนสกปรกเลอะเทอะ, ขโมยผงไมโล/โอวันตินของสถานที่กลับมาทานที่ห้องนอน (บาปอื่นๆที่เคยทำที่สถานปฏิบัติธรรมคือ ส่งเสริมและลักลอบนำเนื้อสัตว์เข้าไปทานกับเพื่อนๆ, ทำเสียงดังรบกวนคนอื่น, โดดกิจกรรมบุญต่างๆ, โกหกครู, เกียจคร้าน, นอนตื่นสาย, พูดไม่ดี ทำหน้าหงุดหงิดใส่ครูบาอาจารย์)

    -เคยนำเศษดิน ก้อนหิน ของเขตบุญ สถานที่นั้นๆติดกระเป๋ากลับบ้าน, ทิ้งกระดาษทิชชู่ และขยะส่วนตัวอื่นๆ, เอาทิชชู่ทำบุญกับที่นั่นเพื่อให้ตัวเองใช้แล้วทิ้งที่นั่นเลยเพราะขี้เกียจนำไปทิ้งข้างนอก, ใช้น้ำใช้ไฟเปลือง, เปิดน้ำในห้องน้ำเพื่อรองน้ำให้เต็มถัง แต่กลับไม่มีสติปล่อยให้น้ำล้นถัง, ทิ้งเศษอาหารลงท่อน้ำ, ทำทรัพย์สมบัติของสถานที่เสียหาย และใช้อย่างไม่ถนอม สิ้นเปลือง บางครั้งใช้แล้วก็ไม่เก็บเข้าที่ เช่น ถุงมือ หมวก จอบ ฯลฯ, ไม่รักษาความสะอาด เห็นสถานที่สกปรกก็ไม่ช่วยทำความสะอาด, ไม่พับที่นอน พวกพรม ผ้าหุ่ม มุ้งเก็บให้เรียบร้อย

    ของที่ทำเสียหาย ก็ไม่ได้ซื้อมาใช้ มากินอยู่อาศัย ก็รู้สึกว่าชำระหนี้สงฆ์น้อยกว่าราคาค่ากินค่าอยู่ค่าใช้

    (บาปอื่นๆที่เคยทำในเขตบุญคือ ไม่ล้างฟองน้ำที่ใช้ล้างจานให้สะอาดและนำฟองน้ำที่ล้างไม่หมดคราบแฟ็บมาใช้ล้างจานของตัวเองต่อ ซึ่งเรื่องนี้เป็นการส่งเสริมโรคติดต่อ, นำไม้ขนไก่คาดว่าสำหรับใช้ปัดฝุ่นองค์พระ แต่กลับนำมาปัดฝุ่นหน้าต่าง, นำผ้าผืนใหม่คาดว่าสำหรับเช็ดองค์พระ รูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาเช็ดพื้น, ขี้เกียจ, ฆ่ามด แมลงโดยไม่ได้เจตนา, คุยรบกวนผู้อื่น, ใส่รองเท้าคนอื่น, พูดเท็จ, พูดไร้สาระ เพ้อเจ้อ

    ผลกรรมที่เจออย่างรวดเร็วคือ โดนสิ่งของบาดเท้าเลือดไหล, สะดุด-ตกบันได, โดนมด-ยุงกัดเยอะมาก, สิวขึ้น, หน้าแดงก่ำ, ปวดหัวทรมาน

    2. ติดหนี้แผ่นดิน: มากินมาอยู่ ใช้ชีวิตบนแผ่นดินไทย ที่คนรุ่นก่อนเสียสละชีวิตเพื่อปกป้อง แต่ข้าพเจ้าก็เคยทิ้งขยะ เคยทำให้บ้านเมืองสกปรก เคยนิ่งดูดาย ไม่กตัญญู ไม่ปกป้องแผ่นดิน เมื่อใครมาเหยียดหยามชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งยังเป็นการส่งเสริมให้คนประกอบกรรมชั่ว ในขณะที่คนรุ่นก่อนกตัญญูกอบกู้แผ่นดิน ไม่ปล่อยให้ข้าศึกรุกราน

    3. เคยเอาของสาธารณะมาเป็นของตน: เคยใช้ทิชชู่, ทานเครื่องปรุงของร้านอาหาร ที่สาธารณะเกินความจำเป็น และยังเคยนำมาเล่นอีกต่างหาก เคยนำทิชชู่, ไม้จิ้มฟัน, ของฟรีอื่นๆกลับบ้าน เก็บออกจากร้าน สถานที่ ไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย, ไปบ้านคนอื่น โรงแรม โรงเรียน ที่ทำงาน หรือที่สาธารณะ ก็ใช้น้ำใช้ไฟเปลืองเกินความจำเป็น, เคยชาร์จแบตมือถือที่ทำงาน ที่ร้านกาแฟ และชาร์ตแบตแล็ปท๊อปที่ร้านกาแฟ

    4. ทำให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ เสียประโยชน์โดยไม่เต็มใจ: ขโมยเงินคุณย่า พ่อแม่ ขโมยของจากมินิมาร์ทสมัยเรียน, ขโมยของจากร้านค้า, ขโมยและยืมของๆคนอื่นไปโดยไม่ขออนุญาต บางครั้งก็ลืมคืน, ทำของๆคนอื่นหายและเสียหาย, ชอบของฟรี อะไรที่ฟรีก็จะเอามาเยอะเกินความจำเป็น ชอบกินมาก ชอบให้คนอื่นเลี้ยง ไม่เกรงใจ เรียกว่าไร้มารยาทสุดๆ, ใช้จ่ายเงินของพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ รวมทั้งน้ำ ไฟ อย่างฟุ่มเฟือยไม่เห็นคุณค่า, ไม่เต็มที่กับการเรียน โดดเรียน ทั้งที่พ่อแม่จ่ายเงินค่าเล่าเรียนหวังให้ตั้งใจเรียน และเคยอู้งาน ไม่เต็มที่กับงาน คุยโทรศัพท์ ทำกิจกรรมอย่างอื่นในเวลางาน แต่รับเงินเดือนเต็ม เอาของที่ทำงานกลับบ้านและใช้ทรัพย์สินของที่ทำงานสิ้นเปลืองและเสียหาย, เคยโหลดหนังแบบผิดกฏหมาย เคยซื้อซีดีเถื่อน เคยเจลเบรคไอโฟน ไอพ๊อด เพื่อโหลดแอพพลิเคชั่นฟรี

    ผลกรรมชัดเจน

    เคยตกงาน, ขาดสภาพคล่องทางการเงิน, เก็บเงินไม่อยู่ แทบไม่มีเงินเก็บ มีเหตุให้เสียเงินเรื่อยๆ ต้องใช้จ่ายสิ่งที่ไม่จำเป็นบ่อยมาก, บ้านไม่มีความสะดวกสบาย, ทรัพย์สินเครื่องใช้ส่วนตัวส่วนใหญ่เป็นของเก่า เพราะเคยทำทานขั้นต่ำ ให้ของที่ตนไม่ใช้แล้ว หรือคุณภาพต่ำกว่าที่ตนใช้ ให้กับผู้อื่น และเคยโดนขโมยมือถือ, เงินและทรัพย์สินส่วนตัวหาย ชำรุด เสียหายบ่อย, เพื่อนยืมหนังสือเราหลายเล่มก็ไม่ได้คืน, ไม่ค่อยมีโชคลาภ, ตัดสินใจทำบาปผิดศีลข้อ 2 เพิ่มขึ้นอีก และการไม่ทำไม่รักษาความสะอาดทรัพย์สมบัติของสงฆ์ ของสาธารณะ ยังส่งผลให้ผิวพรรณของดิฉันไม่ดีด้วยค่ะ
     
  11. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    ในยุคสมัยนี้จะหาความสัตย์ซื่ิอให้ได้ ก็ยากพอ ๆ กับการงมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก !

    แต่ต้องขออนุโมทนา สาธุ! สาธุ! กับความตั้งใจจริงของท่านเจ้าของกระทู้ด้วย ทุกคำ

    ถามและข้อข้องใจของท่านเจ้าของกระทู้? ท่าน ddman ได้กรุณาแนะนำไว้ดียิ่งจริง ๆ

    สนับสนุนการรักษา ศีล 5 ข้อกับท่านอีกคน

    เจริญในธรรม กำหนดมีพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติ
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เอาเป็นว่า อย่ารู้สึกอยากเรื่องเงินๆ ทองๆ ให้รู้สึกว่า ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร รักษาอารมย์ความรู้สึกนี้ไว้ ก็จะสามารถตัดเรื่องเงินได้เอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...