ดีขึ้นจากกระทูเดิมค่ะ แต่เหลืออาการบางอย่างรบกวนให้คำปรึกษารอบสองหน่อยนะคะ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย praewy, 3 กรกฎาคม 2013.

  1. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    สวัสดีค่ะทุกท่าน คือกระทู้ที่แล้วมีท่านผู้ใจดีเข้าไปให้คำแนะนำมากมายและหนูดีขึ้นจากวันนั้นมากค่ะ ไม่ร้องไห้หรือกลัวเรื่องอนาคตแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตัวตลอดเวลา เหมือนกับว่าเวลาหนูคิดเรื่องอะไรก็จะดึงกลับมา ซึ่งค่อนข้างจะมีปัญหาคือ เวลาที่หนูอ่านหนังสือก็เหมือนอ่านไปแต่ไม่ได้เข้าไปในเนื้อหามากเหมือนเดิม พอเริ่มเข้าไปก็รู้สึกตัวขึ้นมาอีกค่ะ เวลาฟังอะไรก็เหมือนว่าชอบสงสัยนู่นนี่ว่าทำไมต้องใช้ประโยคนี้ ทำไมเราพูดได้ ทำไมเราเข้าใจภาษาโดยไม่ต้องคิด ทำไมเราพูดออกมาได้เลยโดยไม่ต้องคิด ทำไมเราเห็นตัวหนังสือแล้วก็อ่านตามที่สะกดถูกต้องแต่ไม่ได้ปล่อยผ่านไปแบบเมื่อก่อน ทำไมต้องเก็บมาคิดต่ออะไรอย่างนี้น่ะค่ะ เหมือนว่าเมื่อก่อนทำอะไรก็เพลินไม่รู้สึกตัวแบบตอนนี้เลยไม่เคยมีความคิดแบบนี้ พอตอนนี้รู้สึกตัวตลอดเลยสังเกตนู่นนี่จนไม่อยากจะสังเกตอะไรเลยค่ะ แต่มันเป็นขึ้นมาเอง แต่ว่าก็เริ่มชินในอาการบางอย่างซึ่งก็ลืมไปแล้วนะคะว่ามันคืออะไร แต่มันโชคร้ายตรงที่ว่าทำไมต้องมาเป็นในเรื่องที่เกี่ยวกับการอ่าน การฟัง การพูด การเขียนด้วยนะ เพราะสิ่งเหล่านี้มันอยู่ในชีวิตตลอดตั้งแต่ตื่นจะให้ไม่รู้สึกไม่คิดหรือให้ชินก็ยังไม่ได้ค่ะเพราะมันเจอตลอดเวลา หนูควรทำอย่างไรคะ ได้แต่เฉยๆกับมันเพราะหวังว่าสักวันคงชิน และไม่รู้สึกตัวตลอดเวลาแบบนี้น่ะค่ะ :)
     
  2. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    ขอเพิ่มเติมนะคะ คือจะยกตัวอย่างอาการเช่น สมมติเมื่อกี้หนูคิดว่า แมวตัวนั้นน่ารักดีนะ ที่นี้แทนที่จะปล่อยให้จบก็กลายเป็นคิดขึ้นมาอีกว่าทำไมเราต้องคิดขึ้นมาว่า แมวตัวนั้นน่ารัก อะไรแบบนี้น่ะค่ะ แหะๆ แต่ไม่ได้เกิดตลอดนะคะคือถ้ารู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อไรก็จะชอบเป็นแบบนี้น่ะค่ะ
     
  3. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    มันเป็นสติ เป็นตัวรู้ เวลาเราใช้สมาธิในการอ่าน เขียน จิตมันสงบ มันก็เห็นจิตขึ้นมา
    พอถึงตรงนี้แล้วเหมือนกับเครื่องบินที่หาทางลงไม่ได้ มันก็ไปของมันเรื่อยๆ ทีนี้เราก็ใช้
    ปัญญาป้อนเข้าไปซิ หาทางให้มันลง ลงตรง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้รู้ว่ามันไม่ใช่เรา
    ความคิดมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป แล้วมันจะเห็นเกิด-ดับ ความคิดนี้ก็เป็นสิ่งภายนอก
    ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรามันจะมาก็มา มันจะไปก็ไป มันจะคิดอะไรมันก็คิด รู้แล้วก็ดีแล้ว
    รู้รู้ไปไม่ต้องกังวล รู้ไปเรื่อยๆ จนมันเห็นว่าไม่ใช่เรา เห็นเกิดขึ้น-แล้วดับไป ธรรมดา
    ของมันเป็นอย่างนี้ ถาม-ตอบตัวเองก็ได้ ให้เห็น ให้ลงใน อนิจจัง คือไม่เที่ยง ทุกขัง
    เกิดขึ้นแล้วดับไปเป็นทุกข์ อนัตตา บังคับมันไม่ได้ มันเป็นของมันเอง เราไม่ได้คิด
    มันคิดของมันเอง ฝึกรู้ ฝึกดูไปเรื่อยๆ ให้เห็นจิตตนเอง เหมือนว่าเรามี
    สองคนอยู่ในร่างเดียวกัน คนหนึ่งแสดง คนหนึ่งดู แล้วจะรู้ว่ามันไม่ใช่เราอย่างไร
     
  4. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ถ้าเรารู้ตามความเป็นจริงของมันแล้ว อันนั้นสักแต่ว่าอาการของจิต จริงๆ
    แล้วจิตมันไม่ฟุ้งไปอย่างนั้น เช่นว่า เรารู้ความคิดแล้วว่า บัดนี้ เราคิดอิจฉา
    คน นี้เป็นอาการของจิต แต่เป็นของไม่จริง มันไม่เป็นความจริง เรียกอาการ
    ของจิต มันมีตลอดเวลา ถ้าหากว่าคนไม่รู้ตามความเป็นจริงของมันแล้ว ก็
    น้อยใจว่าจิตเราไม่อยู่นิ่ง จิตเราไม่สงบ อันนี้เราต้องใช้การพิจารณาอีกทีหนึ่ง
    ให้มันเข้าใจ เรื่องของจิตนั้นนะ มันเป็นเรื่องของอาการของมัน แต่ที่สำคัญ
    คือ มันรู้ รู้ดีมันก็รู้ รู้ชั่วมันก็รู้ รู้สงบมันก็รู้ รู้ไม่สงบมันก็รู้ อันนี้คือตัวรู้ พระ
    พุทธเจ้าของเราท่านให้ตามรู้ ตามดูจิตของเรา

    จิตนั้นคืออะไร จิตนั้นอยู่ที่ไหน ทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ เราก็คงรู้ตัวของเรา ความรู้
    ที่มันรู้นี่นี่มันรู้อยู่ที่ไหน จิตนี้ก็เหมือนกัน จิตนี้คืออะไร มันเป็นธรรมชาติ หรือ
    เป็นสัญชาตญาณอันหนึ่งที่มันมีอยู่ อย่างที่เราได้ยินอยู่เดี๋ยวนี้แหละ มันมี
    ความรู้อยู่ ความรู้นี้มันอยู่ที่ไหน ในจิตนั้นมันเป็นอย่างไร ทั้งความรู้ก็ดี ทั้งจิต
    ก็ดี เป็นแต่ความรู้สึก ผู้ที่รู้สึกดีชั่ว เป็นสักแต่ว่าความรู้สึก สู้สึกดีหรือชั่ว รู้สึก
    ผิดหรือถูก คนที่รู้สึกนั่นแหละเป็นคนรู้สึก ตัวรู้สึกมันคืออะไร มันก็ไม่คือ
    อะไร ถ้าพูดตามส่วนแล้วมันเป็นอยู่อย่างนี้ ถ้ามันรู้สึกผิดไป ก็ไปทำผิด มัน
    รู้สึกถูกก็ไปทำถูก ฉะนั้นท่านจึงให้เกิดความรู้สึกขึ้นมา เรื่องจิตของเรานั้นมัน
    เป็นอาการของจิต เรื่องมันคิดมันคิดไปทั่ว แต่ผู้รู้คือปัญญาของเราตามรู้
    ตามรู้อันนั้นตามเป็นจริง

    ถ้าเราเห็นอารมณ์ตามเป็นจริงของเราแล้ว มันก็เปลี่ยนไปอีกประเภทหนึ่ง
    (วิปัสสนากรรมฐาน) เช่นว่า เราได้ยินว่า รถทับคนตายเป็นต้น เราก็เฉยๆ
    ความรู้ชนิดนี้มันก็มี แต่มันรู้ไม่เห็น รู้ไม่จริง รู้ด้วยสัญญา (ความจำ) ขนาด
    นี้มันรู้อย่างนี้ ทีนี้หากว่าเดินไปดูซิ รถมันทับคนตายที่ไหน ไปเห็นร่างกาย
    คนนั้นมันเละหมดแล้ว อันความรู้ครั้งที่สองนี้ มันดีขึ้นเพราะมันไปเห็น เห็น
    อวัยวะที่ถูกรถทับ มันเกิดสลดเกิดสังเวช ความรู้ที่เห็นด้วยตามันมีราคายิ่ง
    กว่าเขาว่า เมื่อเราไปเห็นทุกสิ่งอันนี้ มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่แน่ไม่
    นอน ในร่างกายเรานี้ไม่เป็นแก่นเป็นสาร ไม่สดไม่สวย ความรู้สึกนึกคิด มัน
    ค้นในเวลานั้น มันก็เกิดปัญญา (วิปัสสนา) เป็นเหตุให้ถอนอุปาทาน (ความ
    ยึดมั่นถือมั่น) ออกได้ เรียกว่าความรู้สึกอันนี้มันสูงขึ้น สูงขึ้นๆ ต้องพิจารณา
    เช่นนี้

    ธรรมเทศนาส่วนหนึ่งของหลวงพ่อชา
     
  5. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    คือเหมือนมันจะรู้สึกว่าเราจะอ่านรู้เรื่องหรืออินเข้าไปมั้ย ทีนี้ก็หยุดความคิดนี้ไม่ได้เลยค่ะ พออ่านไปก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ
     
  6. pitcha_nate

    pitcha_nate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +1,369
    ก็แค่้...ดู...รู้...เห็น...ไปเรื่อย ๆ นั่นแหล่ะจ้า...

    อยากกังวล...ก็กังวล...ไม่ต้องไปทำไรมากกว่านั้น...

    อยากหยุด...ก็หยุด...ไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรลงไป

    อยากคิด...ก็คิด...ไม่ต้องห้ามให้หยุดคิด...

    ดูเฉย ๆ...
    ทำเป็นมัย??

    เด๋ว...ตัวละครจะยิ่งมากขึ้น มากขึ้น..
    ทั้งนักปรัชญา นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ ดร. ศ.ดร. ผู้วิเศษก็มีนะ
    โอ๊ะ.....แล้วจะตกใจ....ทำมัยตรูมันมีหลายตัวแบบนี้วะ!!!

    ก็แค่...ฉากหนึ่ง...ณ. เวลาหนึ่ง...เท่านั้นเอง
    แล้วมันก็หายไปเอง....ถ้าหนูไม่ยึดมันไว้เอง...น่านะ...
    โชคดีนะจ๊ะ
     
  7. ใส้เดือน

    ใส้เดือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +2,085
    ตามให้ทันความคิด

    รู้ทันเมื่อไหร่ก็จะหยุดคิดเรื่องนั้นเอง บางครั้งคิดจบแล้วจึงรู้ทัน หากคิดต่อจากที่เรื่องที่คิด ก็พิจารณาธรรมประกอบ

    รู้ทันเรื่องที่คิดจะสั้นลงเรื่อยๆ จนรู้ทันการเกิดดับของความคิด

    จนรู้นายช่างปลูกเรือนที่แท้จริง
     
  8. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    การเปลี่ยนอิริยาบถจิตคือ ทำให้จิตคิดอย่างอื่นใช่ไหมคะ คือ อาการของหนูล่าสุดในตอนนี้คือ หนูจะไม่เพลินกับสิ่งใดเลย เข้าไปเมื่อไรจะถูกดึงออกมา ซึ่งอันนี้หนุทำใจได้ค่ะ แต่พอมาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการพูด การฟัง การอ่าน การเขียน คือเหมือนทำได้ตามความเคยชิน แต่จะรู้สึกตัวตลอดเวลาน่ะค่ะ มันเลยเหมือนทำได้ไม่ดีเท่าเดิม เหมือนจะเขียน อะไรพอกำลังคิดไอ้ความรู้สึกตังก็แทรกขึ้นมา ทำให้ไม่ต่อเนื่องเลยทรมานมากน่ะคะ
     
  9. naskas

    naskas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    เคยดูเรื่อง Prison Break มั้ย

    ในซีซั่นแรก ที่หมอซาร่าห์ไปหาหมอคนไข้เก่าของไมเคิลสกอฟิลด์(พระเอก) หมอคนนั้นบอกว่า
    "คนทั่วไปโดยปกติ มักจะมองในสิ่งที่เห็น เช่นโคมไฟ ทั้งคุณและผม ต่างก็เห็นเป็นแค่โคมไฟ แต่คนบางจำพวก จะมองเห็นมันในรูปแบบของส่วนประกอบ เส้นทางการไหล โครงสร้างภายใน และอื่นๆที่ตาของคนเราปกติมักจะมองข้าม พวกเขาจะมีสมาธิอยู่กับสิ่งแวดล้อมมากกว่าตัวเอง และเนื่องจากคนจำพวกนี้เป็นคนที่ใช้สมาธิสิ้นเปลืองมากกว่าคนอื่น ดังนั้นหากเป็นผู้มีไอคิวต่ำ เขาจะเป็นพวกที่อยู่ในอาการป่วยทางจิตรูปแบบหนึ่ง แต่หากคนๆนั้นมีไอคิวสูงแล้ว เขาคนนั้น เรียกได้ว่าอัจฉริยะ"
     
  10. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    แบบนี้ต้องทำยังไงหรอคะ
     
  11. 431240

    431240 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +643
    ถ้าฟังจากการที่หนูเล่ามาส่วนหนึ่งเป็นภาวะของจิตครับ จิตของหนูเริ่มละเอียดขึ้น กำลังของสติก็มาก เหมือนจิตจะตื่นตัวแบบแปลกๆ เหมือนเรามีจิตอีกดวงหนึ่งคอยพูดคุยโต้ตอบ หรือควบคุมเราอยู่ ให้หนูฝึกเข้าสมาธิให้ได้ลึกที่สุด นานที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ต้องภาวนาใดๆ ทำจิตให้นิ่งและว่างได้มากที่สุด นานที่สุด แต่ให้มีสติอยู่กับความว่างนั้น เรียกว่าการให้สติเข้าไปดูจิต ถ้าทำได้บ่อยๆเข้า เราจะสามารถควบคุมจิตของเราได้ จิตเราจะนิ่ง และว่าง โดยมีสติในการควบคุมจิตอยู่ อารมณ์ต่างๆจะไม่ค่อยเกิดขึ้น ความนึกคิดปรุงแต่งจะค่อยๆระงับ ให้เราใช้จิตดูไปเรื่อยๆ อันนี้เป็นการใช้จิตดูจิตของเราเอง แล้วเราจะเห็นจิตของเราเองว่าจริงๆแล้วจิตของเราเองที่แท้เป็นเช่นไร ลองทำดูก็ได้เพราะเห็นว่าจิตเดิมของหนูนั้นกำลังถูกดับความปรุงแต่งทางอารมณ์ และมีภาวะของจิตที่เ้ข้าสู่ความละเอียดมากขึ้น ทำให้เวลาอ่าน เขียน อะไรหมือนจะเกิดการใคร่ครวญในสิ่งนั้นโดยไม่ผ่านสมอง แต่จะผ่านจากจิตโดยตรงๆ ทำให้อ่านแล้วมันไม่เข้าไปในหัว แต่มันเข้าไปในจิตแทน มันจะเข้าใจ หรือพูดอะไรได้โดยไม่ค่อยคิดผ่านสมองเท่าไร ทำให้เกิดความรู้สึกสับสนขึ้น เพราะไม่สามารถบอกภาวะจิตของตัวเองที่เกิดขึ้น ถ้าสิ่งที่ผมอธิบายไปไม่ตรงกับที่คุณบอกมาต้องขอโทษด้วย เพราะไม่ได้คุยกันโดยตรงทำำให้อ่านข้อความบางอย่างแล้วไม่เข้าใจ แต่ถ้าจะลองฝึกจิตแบบที่ผมแนะดูก็ได้ครับเผื่อถูกกับจริตของคุณ ให้รู้ด้วยจิต เห็นด้วยจิต อ่านด้วยจิต เขียนด้วยจิต สัมผัสด้วยจิต ถ้าทำได้หนูจะรู้สึกเหมือนเราทำอะไรด้วยความเคยชิน มันจะรู้ขึ้นมาเอง ทำได้ขึ้นมาเอง เหมือนเป็นสิ่งปกติที่ทำอยู่เป็นประจำ จะไม่เป็นการทำทำผ่านสมองแต่จะเป็นภาวะของจิตสั่งกายโดยตรง คือออกมาจากจิตโดยตรงเลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2013
  12. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    ระวังจะคิดมากนะครับ หัดทำสมาธิโดยวิธีให้ใจหยุดใจนิ่งดูครับ ตามลมหายใจหยุดตรงไหยเอาใจไปหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้นเลยครับ คิดมากๆระวังเตลิดนะครับ เพราะธรรมชาติของใจชอบคิดครับ เราจึงต้องบังคับให้หยุดคิด ขอบคุณครับ
     
  13. i Bew

    i Bew Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +26
    ขันธ์ ห้า ไม่ใช่เรา เราไม่เป็นนั่น

    เิกิดดับของจิต ยกกำลังนับไม่ถ้วน เพราะเราเกิดมานับชาติไม่ถ้วน

    อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
     
  14. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    เคยเป็นไหมบางความคิดเกิดขึ้นแล้วรู้คำตอบแบบม้วนเดียวจบน่ะค่ะ
     
  15. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    คือความรู้สึกตัวเกิดบ่อยมากค่ะ จนรู้สึกแย่ เพราะอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมมากกว่าน่ะค่ะ แต่มันคงลืมความรู้สึกนี้ไม่ได้ มันเหมือนชีวิตเปลี่ยนไปเลยค่ะ ไม่สนุก ไม่มีความสุขกับอะไรเลย พอจะทำอะไรก็รู้สึกตัวขึ้นมาเลยไม่ต่อเนื่องเหมือนเดิมน่ะค่ะ เฮ้อ หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ
     
  16. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971
    การที่รู้สึกตัวแล้วคิดต่อ อันนั้นเป็นวิตกวิจารณ์หรืออาการพูดในหัวเป็นการปรุงแต่ง
    หรือที่เรียกว่าฟุ้งซ่านน๊ะครับ แสดงว่าเราไหลไปกับความคิดปรุงแต่งแบบนี้ถึงรู้ตัว
    แต่ว่ายังไหลไปกับความฟุ้งซ่าน ยังใช้ไม่ได้ครับแบบนี้

    ความคิดที่ผุดขึ้นมานี้ มันผุดได้เอง ปรกติเราบังคับเค้าไม่ได้ ถ้ามันเกิดขึ้นเมื่อไรเรา
    ไม่ต้องไปสนใจ แต่ดึงความรู้สึกกลับมาที่กายให้เร็วที่สุด หรือถ้าถนัดรู้ลมหายใจเรา
    ก็กลับมารู้ที่ลมเข้า รู้ลมออกก็ได้ ฝึกสภาวะตัดความคิดฟุ้งซ่านด้วยการดึงมารู้ที่กาย
    บ่อยๆเดี๋ยวอาการดังกล่าวก็หายไปเอง เราอย่าไปคิดหรือปรุงแต่งตามที่เค้าผุดขึ้นมา
    ต้องยอมรับว่านี่ก็เป็นวิบากของน้องตัวนึงเหมือนกัน...

    การอ่าน เขียน หรือทำงานอะไรในชีวิตประจำวัน แล้วเกิดความฟุ้งซ่านหรือคิดในหัวผุด
    ขึ้นมาไม่ขาดสาย ก็ใช้วิธีที่บอกไปคือดึงให้มารู้สึกที่กายทั้งกายอันเป็นสัมปชัญญะมี
    ลักษณะรู้ตัวทั่วพร้อม...และอีกวิธีนึงให้ใช้การ"อธิษฐานการงาน" เช่นเราตั้งใจจะอ่าน
    หนังสือเล่มนึง เราก็ตั้งอธิษฐานว่าเราขอ "ตั้งสติกับการอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ" แล้วเรา
    ก็เอาสติไปจับกับการอ่านจนกระทั่งจบ หรือจะทำงานอย่างอื่นก็ใช้อธิษฐานเช่นเดียวกัน
    แล้วก็ตั้งสติกับงานเฉพาะหน้าที่กำลังทำ โดยถ้าความคิดผุดขึ้นมาก็ให้ตัดทันที แล้วเอา
    สติมาจ่อที่การอ่านหนังสือต่อไป หรือเราอาจจะมาตั้งหลักรู้ที่กายก่อนแล้วกลับไปอ่าน
    ก็ได้ขณะอ่านหนังสือ ก็ไม่ควรไปรู้การเกิดดับเพราะเราทำอะไรได้ทีล๊ะอย่าง การที่เรามี
    สติกับงานเฉพาะหน้า ก็ถือว่ากำลังปฎิบัติอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าก็เคยให้พระอานนท์
    ปฎิบัติอธิษฐานการงาน อันเป็นการฝึกสติเช่นกัน เพราะพระอานนท์ท่านงานเย๊อะ...
     
  17. wir00

    wir00 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +31
    หนู ลองส่งข้อความ ถามคุณ ddman หรือยัง ครับ ลองปรึกษาดูครับ จะต่อเนื่องจาก ที่เคยคุยและรู้ปัญหา พื้นเดิม ที่หนูเข้ามาปรึกษาตั้งแต่แรกๆ นะครับ นี่ก็บังเอิญตามเข้ามาอ่านเจอ หนู ที่นี่อีก เลยไม่แน่ใจ ว่าตามเรื่องของหนู ครบทุกกระทู้ไหมครับ เจอหนูครั้งแรกในห้อง พลังจิต>จิตวิทยา&สุภาพ
     
  18. Thanks-Epi

    Thanks-Epi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    984
    ค่าพลัง:
    +2,950
    จำได้ว่า เคยแนะนำให้ไปหาจิตเวช เล่าอาการให้หมอฟัง
    อ่านอาการแล้วคล้ายๆ ย้ำคิดย้ำทำ การไปพบจิตเวชไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่คนบ้า แต่ถ้าปล่อยอาการไว้ อาจจะรุนแรงได้
    ในบอร์ดศาสนาแนะนำได้เพียง ตามดูตามรู้ไป หรือตามลมหายใจ
    แต่ถ้ากรณีป่วยจริงๆ (ต้องถือว่า เป็นวิบากอย่างนึงนะ) ต้องใช้ยาช่วย (ซึ่งหมอต้องพิจารณาเอง)
    พี่ยังเคยเป็นแม้จะนั่งสมาธิ เจริญสติอยู่ทุกวัน ช่วงนั้นเครียดเรื่องลูกถูกย้าย รร. มาก สับสนไปหมด รู้ว่า เป็นกรรม รู
    ความคิดผุด /เจริญสติ แล้วคิดตามคำสอนของพระพุทธเจ้าไปด้วย
    ก็ไม่สามารถหยุดความคิดได้

    อาการความคิดผุด แล้วเจริญสติก็ช่วยไม่ได้ (หมอจิตเวชก็รู้จักการเจริญสติปฎิฐาน 4 ค่ะ เรียกว่า ปฎิบัติธรรมในหน้าที่การงานได้เลยล่ะ)
    ยังต้องจ่ายยาให้พี่เลย กินไป 1 เม็ด นั่้งสมาธิได้เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...