เอา ไมเคิล แจ็คสัน คืนไป เอาคุณ มณีส่องแสงคืนมา กำลังติดตามชีรี่ย์อยู่เชียว

อันนี้ก็เป็นภาษาโชฮุกครับ คำแปล บร๊าซซ บากีพปยาท ปร๊าด ปรี๊ดดด ปรู้ด ปรู้ด


clipการเรียนการสอนภาษาโชฮุก คำแปล อุจจาร๊าซซ เค้อล คราก คราก ครืด ครืด กุ๊กกุ๊ก


<object width="560" height="315"><param name="movie" value="//www.youtube.com/v/VdYA1WXMONk?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="//www.youtube.com/v/VdYA1WXMONk?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

 

มะ มะ มีใครเป็นปกติมั่งเนี่ย ช่วยส่งเสียงหน่อย

 

"โลกมายา + ดาวยูเรนัส (ดาวมฤตยู)

เปิดไขปริศนา "ดาวโลก"

ท่านผู้ดูแล มีชื่อว่า "อาโอขวาขี้ " แปลว่า "ไม่เที่ยงแท้"

หากจริงแล้วในภาคโลกมนุษย์ก็คือ "พ่อโลก"..หรือ "ท่านผู้มีรหัสว่า ๙๙๙" นั้นเอง.....(ขอปิดเรื่อง หัวใจของดาวโลกก่อนคะ แล้วค่อยมาเฉลยว่า หัวใจของดาวโลกมีนามว่าเช่นไร และแปลว่า อะไร..??)

ตำแหน่งก็คือ "ราชาแห่งความไม่เที่ยงแท้"...

แต่ปัจจุบันนี้ท่านได้รับตำแหน่งเพิ่มมาอีกหลายตำแหน่งแล้วคะ หลังจากที่เครียร์เรื่อง รามเกียรติ์ จบ...(เพราะคำว่า โลกมายา) นั้นจุดเริ่มกำเนิดมาจาก หนังเรื่อง รามเกียรติ์ นั้นเอง...

ตำนานเรื่องราว ของคำว่า "โลกมายา" นั้นมีต้นกำเนิดอย่างไร หากมีส่วนสือเราจะมาทำการเปิดอีกครั้ง พร้อมกับต้นกำเนิดที่มาที่ไป ของหนังเรื่อง

"รามเกียรติ์" ใครหนอ ท่านใดนะที่เป็นคนกำกับเขียนบทและใครหนอสั่งการณ์ทั้งหมด และเรื่องราวเนื้อหา และคำแปลเนื้อเรื่อง รามเกียรติ์ จะจบแบบไหน...???

และทุกสิ่งที่เราเคยบอกไว้ "มีคำถามก็ต้องมีคำตอบ" มี "ต้นธาตุ ก็ต้องมี ปลายธาตุ " "มีดำก็ต้องมีขาว" "มีทุกข์ ก็ต้องมีสุข" "มีฟ้าก็ต้องมีดิน" "มีหญิงก็ต้องมีชาย"..."มีความรัก ก็ต้องมีความเกลียด"

แต่ ปริศนาตัวต่อไป ก็คือ "มีรัก ก็ต้อง มีทุกข์"...ใช่หรือไม่...สำหรับคำจำกัดความของโลกมายา...เดี๋ยวมาลุ้นกันต่อไป เพราะระบบทุกอย่างเครียร์จบแล้วนั้นเอง รอแค่การเปิดเผยและฉายออกโรงเท่านั้นเองคะ....

............

"ดาวยูเรนัส" (ดาวมฤตยู)

ผู้ทำการดูแล

หัวใจ ก็คือ "หัวใจพุทธิ" แปลว่า "ใจดี"

ชื่อว่า "นาโมโน" แปลว่า "ขอบคุณ "

แต่จริงแล้ว มี ๓ ท่าน ที่ทำหน้าที่ดูแล แต่ขอเปิดแค่ท่านเดียว เรียกว่า "เทวฑูต"..

ทำหน้าที่ ดูแลทุกอย่าง ....

แต่ผู้ที่ ใหญ่ที่สุด ก็คือ ผู้ที่เราเปิดออกมาและทำการเชื่อม และได้ หัวใจใหม่เรียกว่า ..."หัวใจการนพัด" แปลว่า "ขอบคุณ"..(ปริศนาจะซ่อนกับคำว่า ขอบคุณ เสมอ)

(ปริศนาคำว่า ขอบคุณ...มันคือ ตัวจบเรื่องราวที่ดๆ เพราะคำว่า ขอบคุณ คือ การให้ นั้นเอง...)

............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

 

ที่มาเขียนลงนี่ ที่บ้านรู้หรือเปล่าคะ

 

"ดาวคนบ้า"

"เห็นคนดีเป็นขี้ข้า เห็นคนบ้าเป็นคนดี"

อาจจะมีบางท่านไม่รู้เลยว่า..จริงแล้ว ก็มีดาว ต้นกำเนิดหรือ เรียกว่า "ดาวคนบ้า" นั้นเอง..

และดาวคนบ้า นี่มีหน้าที่อะไรและอยู่จุดไหนเรามาพิจารณากันดูนะคะ...

"ดาวคนบ้า"...อยู่กลุ่มดาวที่ ๒ สภาแกแล๊คซี่แอนโดรมีดร้า

มีหัวหน้าใหญ่ ที่เป็น ราชาแห่งดาวคนบ้าชื่อว่า "อาเบ๊ะ " แต่ไม่ใช่เกย์นะ (เป็นชายร้อยเปอร์เซ็นต์)..

นี่ยังพอคุยรู้เรื่องคะ แต่คนที่ปัญญาอ่อนที่สุด ชื่อว่า "โคเช้สี่" ...

(แต่คำว่า ปัญญาอ่อน นั้นแท้จริงแล้วมีปริศนาที่ซ่อนไว้คะ สำหรับปริศนาภาษานั้นก็มีต้นกำเนิดและมีที่มาที่ไป และเราค่อยมาเฉลยกันอีกที่ ต้นของภาษาพูดและเขียนนั้น ดาวไหนคือ ต้นกำเนิดและท่านใดคือ ผู้ที่ทำการคิดค้นกันขึ้นมาคะ)

มีประชากร จำนวน ๕๐๐ ล้านคน (เป็นคนบ้าทั้งหมด)...

แต่มนุษย์น้อยรายหารู้ไม่ว่า ..แท้จริงแล้ว "ดาวคนบ้า" กลับได้รับและทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่สำหรับโลกของเรานั้นเอง...

นั้นก็คือ "ดาวคนบ้า ดูแลรักษา แม่เหล็กโลก"...และ เพราะ ดาวคนบ้านี่แหละเป็นผู้ที่หยุดยั้ง เหตุจากการที่โลกเราจะถูกระเบิด...(ดาวคนบ้าคือ ผู้ที่สามารถหยุดระเบิดโลกมนุษย์ได้นั้นเอง...(แต่มันก็จะรวมไปถึงกลไกของจักรวาลด้วยคะ)ที่มีปริศนาบางส่วนซ๋อนไว้คะ

(นี่คือ ความลับ และความจริง)

และความจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่า จะเป็น ไอสไตย์ หรือ พระพิฆเนศ หรือ สมเด็จพุทธจารย์โต หรือ จี้กง ล้วนมีต้นกำเนิดและต้นธาตุมาจาก "ดาวคนบ้า" ทั้งนั้น ..(เป็นกิจและเป็นความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)

เพราะ ดาวคนบ้าคือ สถานที่ที่เป็นผู้ที่มี สติปัญญา...ที่สุด(ต้นกำเนิดหรือต้นธาตุ ในการก่อรูปร่างแห่งคำว่า สติและปัญญานั้นเอง) แต่ไม่ใช่ว่า ฉลาดแบบโกงโกง เหมือนศรีธนญชัย..

"แม่เหล็กโลก แปลว่า ดึงดึง"

ที่ดาวคนบ้า จะมีตำแหน่งการเป็นราชา จากการเลือนตามลำดับนั้นเอง..

จริงๆแล้ว ราชาที่ชื่อว่า อาเบ๊ะ (ที่โลกมนุษย์ใช้แทนคำว่า เกย์ นั้น จริงๆแล้ว ราชาอาเบ๊ะมีชื่อให้เรียกที่เขาตั้งไว้จะเรียกว่า ล้านชื่อก็ได้ แต่เขาพอใจให้เรียกว่ อาเบ๊ะ นั้นเอง...)..

และ ต้นกำเนิดของดาวเกรย์ (เกย์) ตรุส กระเทย ทอม ดี้ มีต้นกำเนิดจากไหน และ ต้นกำเนิดของสัตว์ละ และต้นกำเนิดของยักษ์ละคือ ดาวอะไรและต้นกำเนิดของช้างละ ที่เกี่ยวข้องกับพระพิฆเนศ หากมีเวลาเพียงพอ เราจะมาเฉลยที่มาที่ไปอีกที (เพราะหากเราบอกตำแหน่งและพิกัดแล้ว ท่านผู้ที่สามารถเดินพลังจิตจะไปได้ถูกพิกัดนั้นเอง)..นี่คือ ที่มาที่ไปแห่งการมาทำกิจครั้งนี้ของเรา..ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามอัตโนมัตินั้นเอง...

ดาวคนบ้า มีราชาคนรองชือว่า "ไอ้หัวเกรียน" (จะมีลักษณะหัวโล้น)...และ มีหัวใจชือว่า "หัวใจซูซิ" แปลว่า "หัวใจแห่งอาหารบ้าๆ"...(ตัวตนอีกภาคก็จะเก่งเรื่องการคิดค้นเรื่องอาหารด้วยคะ...)

และ ราชาอาเบ๊ะ มี "หัวใจบริสุทธิ์และบ้านิดหน่อย"..

เพือนโปรดรับรู้ไว้นะคะ ว่าทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไปและต้นกำเนิดเสมอ หากเราพร้อมที่จะเปิดใจรับฟัง และก็มีความลับกับความจริงซ่อนอยู่ด้วยกันนั้นเอง...

"บ้าแต่มีประโยชน์".."บ้าแต่มีหัวใจที่บริสุทธิ์ และบ้าแบบมีคุณค่า "..แล้วหากเราได้ขึ้นชื่อว่า ได้อาศัยกายสังขารอยู่บนโลกมนุษย์นี่ไซร์ จะขอเป็น "คน หรือ เป็น มนุษย์ "ดีละคะ...

(แต่ดวงจิตที่แบ่งภาคตัวตนล้วนลงมาสู่โลกมนุษย์ช่วยกันทำหน้าที่ทุกผู้ทุกนามแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผยนั้นเอง)

..................

ภาษาต่างดาวโชฮุก..

หมา แปลว่า ..."คนเลว"

แมว แปลว่า ..."คนดี"

เดี๋ยวเราจะมาเฉลยคำตอบของปริศนาคำถาม ที่เราถามไปคะ...ช่วงแรกๆนะคะ...

เรื่องราว ก็คงไม่ต่างจาก สตาร์วอล...ที่เราเคยเอ่ยเพราะเราต้องกลับมาเครียร์และแก้ไขในสิ่งที่มันไม่ถูกต้องร่วมกันนั้นเอง หากมีดาวคนบ้า ก็ต้องมีดาวที่เป็นต้นกำเนิดของความเลวและดาวที่เป็นต้นกำเนิดของ "ดาวกบฎ" ด้วยนั้นเอง...

มีดาวที่บรรดาพระและเทพอยู่ด้วย ชือว่า "ดาวอรหันต์" และเราจะมาเปิดให้อีกทีว่า อยู่พิกัดและแกแล็คซี่ไหน และใครทำหน้าที่เป็นราชาหรือ เจ้าที่ปกครองแต่ละส่วนกันนั้นเองคะ

"ตาดีได้ ตาร้ายเสีย"...

"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย" ...(ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว = ความดี)

............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=WkNmgSVIEX0"]???????..??? - ?????? ????? - YouTube[/ame]

 

ข้อความของคุณมณีส่องแสงที่พาดพิงถึงสมเด็จพุฒาจารย์ในความเห็นบนนั้น นรกจะกินกบาลเอานะครับ

สงบสติอารมณ์หน่อยครับ

 

รู้สึกสวนปรุงจะปล่อยออกมาเยอะ ช่วงนี้ ... :boo::boo::boo::boo::boo:

 

"นาฬิกาปูโตอิส"

เปิดไขรหัสปริศนา นาฬิกาปูโตอิส (นาฬิกาถอยหลัง)...

"นาฬิกาปูโตอิส" แปลว่า "นาฬิกาถอยหลังเพื่ออดีตกาล เพื่อย้อนไขแก้ใหม่"...

นาฬิกาปูโตอิส (หรือเรียกว่า นาฬิกา ไม่ปกติ)...ถูกเปิดและไขสั่งการณ์เริ่มเดิน เมื่อวันที่ ๑๙ มิย. ๕๖ (เวลา ๒๑.๒๙น.)

...นาฬิกาแบบปกติ จะมี ๓ เข็ม (เข็มสั้น ยาว และเข็มวินาที)...

...นาฬิกาแบบไม่ปกติ จะมีแค่ ๑ เข็ม (ตัวเลขก็จะสลับกันกับนาฬิกาปกติ)
นาฬิกาปูโตอิส ลักษณะการเดิน ๖ - ๑๒ .... ๑๒ - ๖ ทางซ้าย
๖ - ๑๒ .... ๑๒ - ๖ ทางขวา

คำตอบของนาฬิกาปูโตอิส..

๑. เดินทางสู่อดีต

๒. ลบล้างปัจจุบัน

๓. ทำลายอนาคต

๔. ยุติการสร้าง

๕. เลิกทำลาย

รวม ๑-๕ ได้รหัสปริศนา "ทำลายล้างสร้างใหม่"...หมายถึง "ทำลายล้างทุกอย่างที่มีมาแล้วสร้างใหม่หมด"....

คำตอบสุดท้าย..."คงรักษาสิ่งสำคัญ" (ทุกอย่างที่มันสำคัญบนโลกมนุษย์และจักรวาล)...

"นาฬิกาปูโตอิส" ได้เริ่มเดินแบบเป็นทางการเมื่อเวลาตั้งแต่ ๒๑.๔๐ น. (ของวันที่ ๑๙ มิย. ๕๖ )...

จบระบบแห่งนาฬิกาปูโตอิส แล้วระบบก็จะเข้าสู่..

"ศิวิรา" แปลว่า "ความว่าง"

คำตอบท้ายสุด..."เข้าสู่ทุกเมื่อที่จบ มันจะจบแบบไม่ทันตั้งตัว"..........

(ตาดีได้ ตาร้ายเสีย)
............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

 

มีคำถาม ก็ต้องมีคำตอบ...

26-06-2013, 06:04 PM #12
มณีส่องแสง


อัน ลัน ดา...
วันพุธที่ ๒๕ มิถุนายน ๕๖ (เวลา ๑๗.๕๐ น.)

..


และเรามาเล่นเกมส์ทายปริศนา เกี่ยวกับคำถามอะไรเอ่ยกันไหมคะ...??




๑. อะไรเอ่ย ทั้งใหญ่ ทั้งยาว แต่เข้าไม่ได้...??

๒. อะไรเอ่ย ยิ่งเข้ายิ่งแคบ ยิ่งแนบยิ่งเร้าใจง..??

๓. อะไรเอ่ย นั่งสองขา มาสองคน ยกตนข่มท่าน ...??

๔. อะไรเอ่ย ก๊อก ก๊อก ก๊อก เปิดประตูเปิดออกดูแล้วจะรู้ว่าใครจริงใจหรือปล่าว...??

๕. อะไรเอ่ย ทั้งหยิก ทั้งยาว ยิ่งสาวยิ่งมัน ...???

...........

คำตอบจากเด็กชายอายุ ๑๑ ปีทีเราได้ถามไปและก็ได้คำตอบมาเช่นนี้นั้นก็คือ..

๑. อะไรเอ่ย ทั้งใหญ่ ทั้งยาว แต่เข้าไม่ได้...??
คำตอบ..."การโกหก" (เหมือนกับจมูกพีน๊อกคลีโอ้)...

และ คำว่า "การโกหก" ก็จะโยงเกี่ยวกับ ปริศนาตัวต่อไปที่ซ่่อนไว้ในคำว่า "การโกหก " ก็จะเกี่ยวข้องกับคำว่า "มาร" นั้นเอง...

๒. อะไรเอ่ย ยิ่งเข้ายิ่งแคบ ยิ่งแนบยิ่งเร้าใจง..??
คำตอบ..."ความรัก"..

"ความรัก" ก็จะเกี่ยวข้องปริศนาตัวต่อไปก็คือ "ความรักอันยิ่งใหญ่" นั้นเอง

๓. อะไรเอ่ย นั่งสองขา มาสองคน ยกตนข่มท่าน ...??
คำตอบ.."นิทานคติธรรม ที่โยงมากับเนื้อเรื่อง "ราชสีห์ กับ หนู".

และก็จะโยงและเกี่ยวข้องกับปริศนาตัวต่อไปก็คือ "ความเกรงขาม"

๔. อะไรเอ่ย ก๊อก ก๊อก ก๊อก เปิดประตูเปิดออกดูแล้วจะรู้ว่าใครจริงใจหรือปล่าว...??
คำตอบ.."ฟิลลิ่ง" (ความรู้สึก)..

โยงปริศนาเกี่ยวข้องกับ "ความเมตตา"...
..........

๕. อะไรเอ่ย ทั้งหยิก ทั้งยาว ยิ่งสาวยิ่งมัน ...???
คำตอบ..."ปากคน"..

เกี่ยงข้องปริศนา "ตะขอใจ"...

.................

และเราก็ต้องหาส่วนคำถามอีก ๑ คำถามเพื่อการเติมเต็ม..

และคำถามที่ ๖ ก็คือ .

๖. อะไรเอ่ย เจ้าชายไข่คู่...??
คำตอบ..รักนะจุ๊ปๆๆ..

เกี่ยวข้องโยงปริศนากับคำว่า "ความห่วงใย ซึ่งกันและกัน"...

(ปริศนาคำถามและคำตอบจะโยงไปถึงปริศนาของคำว่า "ว่างปล่าว"...นั้นเอง...

...........

ทั้งหมดทั้งมวลปริศนาคำถาม และคำตอบนั้นเราได้มาจาก เด็กชายอายุ ๑๑ ขวบทั้งหมด...(อยู่ ป. ๕)

และที่นี้เรามาดูอีกหนึ่งคำถามที่เราทิ้งไว้ สำหรับปริศนาของคำว่า "ต้นธาตุ และปลายธาตุ"...

นี่นี้คำถามที่เราถามและได้คำตอบจากเด็กชายอายุ ๑๓ ขวบ (อยู่ ม. ๑)...

๑. ปริศนาตัวตนของคำว่า ต้นธาตุ..หมายถึง .."สิ่งที่เป็นใจกลางหลักของทุกอย่าง" ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือ "น้ำแข็ง " ต้นธาตุก็คือ น้ำ ..

๒. ปลายธาตุ ก็คือ สิ่งที่แตกออกมาจาก ธาตุ...

ผู้ที่เป็นตัวตนของต้นธาตุก็คือ "เอฟโฟซิส" แปลว่า "ความดีอยู่คู่กับทุกคน"

หัวใจก็คือ "หัวใจความสุข" แปลว่า "หัวใจแห่งความดี และ ความเลว"...

สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับต้นธาตุก็คือ "จิตใจ"..

..........

นี่คือ คำถามที่เราได้รับคำตอบจาก เด็กชายอายุ ๑๓ ขวบอยู่ม. ๑ นั้นเอง..

เพราะมันคือ คำถามของตัวตนของคำว่า ปริศนาธรรมไม่มีอะไรผิดอะไรถูกแต่หากเราคิดจะตั้งคำถามแล้ว คำตอบก็ย่อมมีเสมอ..ถูกผิดคงอยู่ที่ใจเราพิจารณามากกว่า ใช้หัวสมองในการคิดและตาในการดูนั้นเอง...


........

ขอทิ้งปริศนาคำถามไว้อีก..นะคะ..

๑. อะไรเอ่ย ..ไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่ชอบหมกเม็ดความคิดถึง...???

๒. อะไรเอ่ย..นั่งหยองๆ คองกระเด้าเข้าไม่เข้าเจ้าบอกข้าได้...??

๓. อะไรเอ่ย..ดอกสีขาวพร่างพราวเวหา....??

........

หากเพื่อนๆจำข่าวกันได้ ก็จะได้รับทราบเกี่ยวกับการระเบิดของสถานที่แห่งหนึ่งที่ "เขาย้อย" จ. เพชรบุรี...

สถานที่แห่งนั้น เรียกว่า "ภพภูมิความดี"..

เป็นสถานที่ถิ่นพญานาคนั้นเอง เป็นการรวมสายพญานาค และเหตุที่เกิด เพราะถึงเวลาแห่งการออกทำหน้าที่ที่ได้รับการมอบหมายนั้นเอง..

พญานาคตนนั้นมีชื่อว่า "พญามังคุด" เป็นผู้นำทัพ มี ๕๐ เศียร ตัวสีแดง

มีพญานาคที่ออกปฎิบัติการและอยู่ที่ เขาย้อย จำนวน ๕๐๐๐๐ ตัวตน ...(ไม่รวมกับภพภูมิอื่นๆอีกนะคะ)..

และตอนนี้ ท่านพญามังคุดก็ได้ทำการออกปฎิบัตหน้าที่พร้อมกับกองทัพของพญานาคอีกส่วนหนึ่งแล้วคะ.(และก็ภาคส่วนต่างๆด้วยคะ)..ตามวันเวลาที่เกิดเหตุนั้นเอง...

ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีต้นสายปลายเหตุ และมีเหตุให้เราค้นหาความจริงเสมอคะ..และทุกทีทุกอย่างก็ล้วนแต่มีคำตอบเสมอเหมือนกัน..อยู่ที่เราจะใช้ ตาหรือ หัว หรือ ใจพิจารณากันนั้นเอง..

ปล. ต้นแท้จริงของคำว่า "พญานาค จริงแล้ว มีชื่อ ต้นชือว่า "พญามังคุด" สถานที่ถูกทำการเลี้ยงดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีต้นกำเนิดมาจาก "ดาวบัวจันทรา"..(ท่านเทพแห่งกาลเวลาอยู่นั้นเอง)...

ซึ่ง "พญามังคุด" คือชื่อของพญานาค ในโลกมนุษย์
และก็มี สฟิงค์ ต้นกำเนิดอีก ๒ ต้น คือ สฟิงค์โลกันฑ์ กับ สฟิงค์เจ้าปัญญา (และมาขยายอีก ๒ ตน..ค่อยเฉลยที่หลังคะ)..
ส่วนสุนัข (หมา) ข้างบนต้นกำเนิดจะมีชื่อว่า "ชบา" แต่มีใช่เรียกว่า "สุนัขหรือ หมา"..

ทั้ง พญามังคุด + สฟิงค์ + ชบา..คือ สัตว์เลี้ยงของ..

"องค์หญิงที่ ๓๓ องค์หญิง เทเรย์เกรอกรัส แห่ง "ดาวบัวจันทร์เสี้ยว"...(ปริศนาคำว่า "ไร้ตัวตน")
บุตรสาวองค์เดียวของ "ท่านโคนิคม" เทพแห่งกาลเวลา..
กลุ่มดาวที่ ๕ ล้าน ๖ แสน ๗ หมื่น ๘ พัน ตรงแกแล๊คซี่โอโจนิ..

มีคฑาคู่บารมีชื่อว่า "คฑาทองดอกบัวเพชรเหล็กกล้า"
ชื่ออีกนามว่า "โสวิสา" แปลว่า "ดอกบัวตูม"...โตมาชื่อว่า "โสวิตา แปลว่า ดอกบัวบาน"...

มียานส่วนตัวเรียกว่า "ยาน Rx Two One 2 3 "

ท่านโคนิคมเทพแห่งกาลเวลาได้สร้างดาวส่วนตัวให้กับธิดาองค์เดียวอยู่ปฎิบัตเป็นดาวรูปดอกบัว(อยู่ไม่ไกลจาก ดาวบัวจันทรา มิติซ้อนมิติ) ซึ่งไม่มีใครใดๆในจักรวาลจะทราบได้และหาได้พบเจอเลย และก็ดาวบัวจันทราก็เหมือนกัน เพราะเป็นระบบดาวปิดนั้นเอง(เพราะท่านเทพแห่งกาลเวลาท่านสามารถที่จะปิดกาลเวลาได้นั้นเอง)..

แม้นจะพยายามตามหา ตัวตนและความจริงอยู่ซ๋อนอยู่ณ.แห่งใด และมีตัวตนหรือไม่...

แต่ธิดาโสวิสา จะชอบหนีเที่ยวเสมอด้วยยานส่วนตัว และก็จะแอบไปเที่ยวกับท่านตา..หรือ..ท่านตาแห่งต้นกำเนิดไข่คู่ + สายรุ้ง + นภา..

เพราะแท้จริงแล้ว ต้นกำเนิดของ "โสวิสา หรือ โสวิตา นั้นก็คือ ต้นกำเนิดของ คำว่า "ดอกบัว" ที่แท้จริงนั้นเอง

จุดนี้จะเป็นการนำเข้าสู่กลางๆ แต่ยังมีช่วงเริ่มต้นของคำว่า จักรวาลและเอกภพอีกคะ สำหรับคำว่า ที่มาที่ไป...

(ปริศนาที่รอคำตอบ)...

"ตาดีได้ ตาร้ายเสีย"..."ใจ สือ ใจ"...

............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

 

ดูคลิปแล้วฮาค่ะ เป็นภาษาเทพนี่เอง มิน่าล่ะ คนธรรมดาอย่างเราถึงไม่เข้าใจ ฮาแทบตกเก้าอี้

 

เปิดปริศนา "เส้นปานชะเย"

ทิ้งปริศนาไว้แค่นี้ก่อนนะคะ เพราะเมื่อสักพักเขียนไว้และเยอะมากๆพยายามส่งแต่มันส่งไม่ได้ที่เซฟไว้หายหมด เดี๋ยวขอตัวไปทำกิจอย่างอื่นก่อนคะ และค่อยมาเขียนเรื่อง เส้นปานชะเยใหม่นะคะ...

 

เอาคุณมณีส่องแสงคืนมา

เป็นกำลังใจให้สมาชิกทุกท่าน และขอบคุณกับข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เตือนใจให้มีสติเพื่อระวังภัย เร่งสร้างความดี โดยไม่ต้องขอให้ร่วมทำบุญ สร้างพระ.. ซึ่งเพื่อนสมาชิกหลายคนอาจไม่เห็นด้วย และเขียนจม.น้อยแต่ยาวเหยียดตอบโต้กัน ทำให้รู้สึกเสียใจกับเรื่องเหล่านี้ ในหลายๆ ครั้งที่ได้เห็น พยายามทำความเข้าใจทุกฝ่ายเชื่อว่าทุกท่านมีเจตนาดี แต่ก็มีเหตุผลความเชื่อต่างกัน

ควรใช้วิจารณญาณอย่าเชื่อหมดใจ ขอให้ใช้สติพิจารณา อันไหนไม่ชอบไม่แน่ใจก็ไม่ต้องเชื่อ พีงตระหนักระลึกรู้ตลอดเวลา

ผู้แนะนำเตือนสติ ถือว่าทำความดี ต้องไม่ท้อ คนเรามีเหตุผล ถูกผิดดูที่เจตนา ไม่มีใครถูกตลอดกาล เป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลก

ช่วยกันคนละนิดให้พลังจิตเป็นที่แบ่งปันสาระที่เป็นประโยชน์เชิงสร้างสรรค์แก่สมาชิกโดยรวม ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้สมาชิกทุกท่านทำความดีทุกๆ วัน จิตใจย่อมเข้มแข็งเบิกบาน ภัยจะมาหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญต้องกลัว ..แค่ทำทุกวินาทีของเราให้ดีที่สุดก็พอ..

 

เห็นพล่ามออกมาก็รู้แล้วว่าหลุดโลกไปไกล แต่ถ้ายังพูดจารู้เรื่องกันอยู่ ทำไมต้องไปอาจเอื้อมถึงขนาดนี้ จะเขียนอะไรก็รู้จักที่ต่ำที่สูงบ้าง ไอ้คนกดอนุโมทนาก็เหลือเกิน ไม่ได้อ่านเลย

 

ไขเปิดปริศนา "เส้นปานชะเย"

วันเสาร์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๖ (เวลา ๙.๓๗ น)

ขอเริ่มต้นเปิดไขที่มาที่ไปของคำว่า "เส้นปานชะเย" นะคะ...

กาลครั้งหนึ่งนานแสนนานและนานมาแล้ว ...

.....ได้เกิดพายุจักรวาลเกิดจากทิศทาง แบล็คโฮทางตะวันออกและเหนือ ทำให้เกิดเป็น "ไวส์โฮล"

.....ทำให้เกิดพายุจักรวาล พุ่งเข้าชนดาวต่างๆ จึงทำให้ระบบดาวทั้งหมดเปลี่ยนผัน จึงมีเส้นยั่วเยี้ย ตามดาวต่างๆ จึงไม่สามารถค้นหาต้นตอของดาวได้ ...

ผู้ที่สร้างจักรวาลมีนามว่า "Brio Ni Tatin" (ไบโอ นิตาติน)...

(ส่งสาสน์มาวันที่ ๒๒ มิย. ๕๖ เวลา ๒๒.๑๘น.)

ขอยกตัวอย่างส่วนประกอบของดาวแต่ละดวงดาวคร่าวๆคะ เช่นดาวพระอาทิตย์..

๑. Gao Motian (เกโอโมเที่ยน) แปลว่า "เปลือกพระอาทิตย์"

๒. Gio MoTian (จีโอโมเที่ยน ) แปลว่า "เส้นใยของพระอาทิตย์" (หรือ เส้นสาย)

๓. Glove Motian (โก๊บโมเทียน) แปลว่า "แกนของดาว"

(หากเขียนภาษาอังกฤษผิดขออภัยด้วยคะ เพราะเราไม่เก่งภาษาอังกฤษเราเขียนตามความเข้าใจคะ)

ในอดีตการสร้างจักรวาลและดวงดาว จะมีเส้นใย (เส้นสาย) ดวงดาวละ ๒ เส้น ...

แต่หลังจากที่เกิดพายุจักรวาลขึ้นทำให้มีเส้นใยมากมายในทุกๆดวงดาว เช่น..

ดาวพระอาทิตย์ มีเส้นใยถึง ..."๑ ล้าน ๒ เส้น"

ดาวโลก มีเส้นใยถึง ..."๑ แสน ๑ หมื่น ๑ พัน ๑ ร้อย ๑๑ ล้านเส้น"

...หากดาวมี "เส้นปานชะเย" (เส้นแห่งความรู้) มากเกินไปก็จะสืบหาความจริงไม่ได้ (ยากมาก)....

...หากมี เส้นใย ๒ เส้น เหมือนเดิม ทำให้ไม่ซับซ้อน...

และจุดนี้เองก็คือ การเชื่อมโยงต่อการย้อนเวลาของนาฬิกาปูโตอิส นั้นเอง...

(ปริศนาเส้นใยก็คงไม่ต่างจาก ปริศนาจากตัวที่เรียกว่า "ความคิด" ของมนุษย์นั้นเอง

............

และหลังจากที่เราย้อนเวลาเมื่อทำการไขนาฬิกาปูโตอิส(วันที่ ๑๙ มิย.๕๖ เวลา ๒๑.๔๐ น.)

เท่ากับตอนนี้การทำระบบและเครียร์ระบบย้อนเวลาแบบระบบอัตโนมัติไปสู่การแก้ไข และ ระบบเส้นใย หรือ (เส้นปานชะเย) ตอนนี้ได้เข้าสู่ระบบ ๒ เส้น เหมือนการเริ่มต้นที่ทำการสร้างจักรวาลที่แต่ละดวงดาวมีแค่สองเส้นแล้ว...

วันที่ครบกำหนด กลับมาสู้ระบบเดิม เส้ยใย ๒ เส้น ก็คือ วันที่ ๒๕ มิย. ๕๖ เวลา ๒๐.๐๕ น.

ตอนนี้ระบบการเดินของนาฬิกาถอยหลัง(นาฬิกาปูโตอิส) ระบบตอนนี้ก็คือ ..
จากตอนแรกย้อนเวลา ๑ นาที ต่อ ๕ ปี
แต่จากการทำกิจและสาสน์เมื่อวานได้แจ้งบอกกับเราว่า ..ต่อจากนี้วันเวลาถูกเร่งแล้วกว่าเดิม...ก็คือ เร่ิมตั้งแต่ วันที่ ๒๘ มิย. ๕๖ (เวลา ๒๐.๒๐ น.)

ตอนนี้ระบบก็คือ การย้อนเวลา ๑ นาที ต่อ ๕๕ ปี แล้วนั้นเอง...

(ปริศนาแห่งการย้อนเวลายังมีจิ๊กซอร์ที่ซ่อนและรอการเปิดเผยความจริงอยู่อีกนั้นเอง)

............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

 

"ตัวตนที่แท้จริงเป็นยิ่งกว่าสิ่งใด"

๑. จงเชื่อในสิ่งที่มีอยู่

๒. เชื่อในสิ่งที่เพียงมี

๓. อย่าเชื่อในสิ่งที่ไม่มีตัวตน

๔. เพราะมันคือ "กิเลศทั้งหลาย"

...........

เปิดตัวตนสฟิงห์...กับ ชบา (สุนัข)

๑. สฟิงห์ เพชรฆาฑ รหัส "ฟิลเร คู่หู คู่ใจ"

๒. สฟิงห์ อมตะ รหัส.."สฟิงห์โคตะระ"

๓. สฟิงห์เจ้าปัญญา รหัส "ฟัสโลด้า"

๔. สฟิงห์โลกัณฑ์ รหัส "คู่หูตลอดกาล"

๕. ชบา รหัส "โคโรห่ะ"

.........

เปิดไขปริศนาความจริงแห่ง "ดาวอรหันต์"...

ดาวอรหันต์ ได้ทำการย้ายเปลี่ยนหลังจากที่ปรับระบบและย้อนเวลาไปแก้เส้นสายให้กลับมาสู่เส้นใย ๒ เส้นแล้วตอนนี้ ดาวอรหันต์อยู่ตำแหน่งที่..(เดี่ยวเรามาเติมเกี่ยวกับพิกัดแรกให้ว่าตอนแรกอยู่ที่ไหนแต่สาสน์มาบอกวันนี้ตอนนี้พิกัดดวงดาวได้ถูกย้ายเข้าสู่พิกัดเดิมตั้งแต่เคยเป็นมาในยุคเริ่มต้นแห่งการสร้างจักรวาลแล้วคะ)...

"ดาวอรหันต์" ...แกแล๊คซี่ อรหันต์โบราณ...กลุ่มดาวที่ ๘๘...(ปัจจุบัน)

มีประชากร จำนวน ๑ ล้านล้านคน (แต่ที่ดาวต่างๆเช่นที่ดาวบัวจันทรา จะเรียกกันว่า มนุษย์ชาติ)..จะไม่เรียกว่า ประชากรกันคะ..

ตอนนี้ ท่านผู้เป็น ราชาก็คือนามว่า "อรหันต์สีภาคมือ "แปลว่า "ความดีอยู่คู่กับคนไทย"...

หัวใจก็คือ "หัวใจเกษสดม" แปลว่า หัวใจแห่งความดี...

เป็นราชาองค์ที่ ๓๓๓ ..(เป็นราชาต่อมาจาก พระแม่กวนอิม )..ซึ่งไปรับตำแหน่งมาเมื่อ วันที่ ๒๗ เมษายน ๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น.

ตำแหน่งพระราชาแห่งดาวอรหันต์..ของท่านอรหันต์สีภาคมือ จะมีสิ่งที่เป็นของคู่บารมีมีดังนี้..
๑. ต้นไม้โพธิ์ ๑๐ สี
๒. ออร่าบารมี ๑๐๘ วง อยู่ตรงศรีษะ
๓. มีพญานาคคู่บารมี ๒ ตัว (สัตว์คู่บารมี)
๔. มีคฑา
...สามารถหมุน ๑ รอบสามารถทำให้จักรวาลบิดเบี้ยวได้
...ถ้าเขย่าแผ่นดินจะแยก
...ชี้ไปที่ใครต้นไม้จะรัดและดูดลงธรณี
...ยกคฑาขึ้นบนฟ้าจะทำให้พระอาทิตย์ตกลงมา(หรือสามารถทำให้ดาวต่างๆตกลงมาได้)
...ถ้าแกว่งคฑาจะเกิดพายุหมุน
...ท่าไม้ตาย (ดูดวิญญาณ)มาใส่ในคฑาได้
...ท่าใช้คฑาวาดเป็นรูปสามเหลี่ยม จะมีดอกไม้สีขาวตกลงมา สามารถชุบชีวิตคนได้

ที่ดาวอรหันต์จะมีประกายแสงสีประกาย..เป็นสถานที่รวมผุ้ปฎิบัติทุกศาสนาลัทธิตามที่่เราทราบกันมา

...ส่วนสมเด็จพุฒจารย์โต ท่านก็มีภาคหนึ่งหรือต้นธาตุแตกมาจาก ดาวอรหันต์เหมือนกันคะ..

สมเด็จพุฒจารย์โต ที่อยู่บนดาวอรหันต์ มีนามว่า "โต" แปลว่า "คนดี"...
หัวใจ "หัวใจฟิ้ว" แปลว่า "หัวใจแม่น"...ยังอยู่ในภาคปฎิบัติยังไม่มีตำแหน่งคะ...

(ความหมายตัวอักษรภาษาพูดและเขียนก็อาจจะมีความหมายที่แตกต่างกันไปบ้างจากโลกมนุษย์คะ)...

และความจริงอีกอย่างก็คือ ผุ้ที่รับตำแหน่งพระราชาแห่งดาวอรหันต์หรือ "อรหันต์สีภาคมือ " ตัวตนท่านก็คือ "พระถังกำจัง" นั้นเอง...

และหากพูดตามความจริงและตัวตนของแต่ละท่านเราขอเล่าคร่าวๆนะคะ..

ที่"ดาวคนบ้า "ที่มีราชาองค์รองเป็น ไอ้หัวเกรียน ..แท้จริงแล้วตัวตนก็คือ ภาคหนึ่งของ "พระถังกำจัง" ที่เป็นราชาแห่งดาวอรหันต์นั้นเอง..

ส่วนสมเด็จพูฒจารย์โต ที่อยู่ที่ดาวคนบ้า นามว่า "X X R" แปลว่า "ความดีอยู่คู่กับความเที่ยงธรรม"...
หัวใจสมเด็จโต "หัวใจ RX One "แปลว่า "ความดี เสียใจ ปัญญาอ่อน อีเหี้ยเอ่ย"..

ปล. ในอดีตที่นานมาแล้ว คำว่า "ปัญญาอ่อนจะหมายถึง ความดีและความน่ารัก (สิ่งที่ดีๆ) ส่วนคำว่า "อีเหี้ยเอ่ย คือ คำแทนว่า นะคะ นะครับนั้นเอง"...

และความจริงอีกอย่างก็คือ ดวงจิตของพระพิฆเนศ กับ สมเด็จพุฒจารย์โตคือ ดวงจิตเดียวกันนั้นเอง..

ส่วน ราชาแห่งดาวคนบ้า หรือ อาเบ๊ะ..(ที่ท่านให้เรียก)แท้จริงคือ ดวงจิตแยกมาของ "ท่านตาเทพแห่งไข่คู่ " หรือ ปาง ๕ พระศรีอริยเมตรไตรยนั้นเอง..

(เป็นกิจและความเชื่อส่วนตัวโปรดพิจารณา)...

.........

จะขอกล่าวเกี่ยวกับ หน้าที่ตัวตนของสมเด็จพุฒจารย์โตและพระถังกำจังอีกภาคหนึ่งคะ...

ตอนนี้..

....พระถังกำจัง ก็มีหน้าที่อีกภาคคือ...มีตำแหน่ง O X O แปลว่า "หน่วยพิทักษ์คุณธรรม"

ชือ่ว่า "เอส โอ เอส แพล็ทติเนียม" แปลว่า "ความดีอยู่คู่ความเลว"...
หัวใจ "หัวใจ โอ เอ็กซ์ อ๊อกซ์ " แปลว่า "หัวใจแห่งความดี"


.....สมเด็จพุฒจารย์โต มีตำแหน่ง "เอฟ บี ไอ" แปลว่า "หน่วยรักษาการพิเศษ"..หรืออีกตำแหน่งตอนนี้ก็คือ "ราชาสวรรค์"ด้วยคะ..

ชื่อว่า "เกตุ" แปลว่า "ความดี"
หัวใจ "หัวใจพระพรหม" แปลว่า "หัวใจแห่งความดี"...

....

ทั้งพระถังกำจังและสมเด็จพุฒจารย์โต ทั้งสองท่านได้ทำหน้าที่เปรียบเหมือนผู้คุมทั้งนรกและสวรรค์ ปัจจุบันนี้เอง...

และความจริงยังมีอีกหลายภาคและตัวตนของท่านทั้งสอง และก็เกี่ยวข้องกับตัวตนที่ไปเกิดในภาคของรามเกียรติ์ด้วยเหมือนกัน หากพิจารณากันจริงเพื่อนๆท่านใดชอบที่จะอ่านพระไตรปิกฎแล้ว ก็จะรับรู้ว่า การสร้างบารมีนั้นหลายภพชาติมากๆของพระพุทธเจ้า บางที่ท่านก็มิได้เกิดมาเป็นแต่เพียงมนุษย์หรือ เป็นพระราชาเสมอไป และก่อนที่พระองค์ท่านจะมาเกิดเป็นมนุษย์ละคะ ท่านอยู่จุดไหนและมาจากต้นกำเนิดไหนกันแน่...???

และทั้งหมดทั้งมวล ความจริงก็คือ ทั้งหมด ไม่ว่า จะเป็นพระถังกำจัง หรือ สมเด็จพุฒจารย์โต และพระศรีฯ หรือ องค์อื่นนั้น ก็ได้ลงมาสู่โลกมนุษย์แล้ว และบรรจบจิตวิญญาณหัวใจและก็ทำหน้าที่แบบลับๆและไม่ลับ และก็รอแค่การเปิดเผย และเครียร์ระบบโลกเราให้จบล้าง และเข้าสู่ยุคศิวิไลย์อย่างแท้จริงนั้นเอง...

"ตาดีได้ ตาร้ายเสีย "...."ใจ สือ ใจ"...

"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย"..."ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ...ความดี"


.............
เหมือนเดิมคะ..
ขอบคุณนะคะ คุณkorn95 ที่ตั้งโพสนี้ขึ้นมา แต่เราก็ขอบอกว่า เรามาแค่ตามกิจและหน้าที่เพราะหน้าที่เราไม่ใช่มีอยู่แค่จุดนี้จุดเดียว เรามีหน้าที่ต้องทำและเครียร์หลายอย่าง แต่นี้ถึงเวลาที่เราต้องมาเครียร์และต่อสาสน์บางอย่าง เกี่ยวกับ ระบบทั้วไปทั้ง จักรวาล ภัยพิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม..และประเทศไทย พร้อมทั้งโลกของเรา...

ขออนุญาติคุณkorn95 และเวปพลังจิตคะ ถึงเวลาเราจะมาลบให้นะคะหากจบกิจหน้าที่เราแล้วในวาระแห่ง อัน ลัน ดา...

"สัจจะ อโหสิกรรม สติ สละ"....(สี่คำสั้นแต่มีปริศนาที่ซ่อนไว้อีกมากมาย)..

(เป็นกิจหน้าที่และความเชื่อส่วนตัวเปรียบเหมือนนิยามแห่งโลกมิติมายาแห่งเราโปรดพิจารณา)

 

อ่านแล้วอึ้งเลย พวกที่เข้ามาอ่านก็ปล่อยปละอยู่เป็นนาน ไม่รู้จักแจ้งลบ

 

ดิฉันเห็นแล้ว แต่ยกให้เป็นวิจารณญานของท่านผู้ดูแลบอร์ดค่ะ

ส่วนคนกดอนุโมทนาตั้งแต่ที่เอ่ยอ้างเรื่องดาวคนบ้า ก็คงคิดว่าเป็นปริศนาเตือนภัยที่ต้องไปไขความลับของจักรวาลมั้งคะ ดิฉันก็ได้แต่เฝ้ารอว่า เมื่อไหร่บรรดาแฟนคลับจะดวงตาเห็นธรรมสักทีว่าปริศนาแบบนี้จะไขไปสู่ที่ใด เพราะดิฉันคิดว่ารายนี้ไปไกลกว่าสมาชิกท่านอื่นๆที่เคยรับยามาแล้ว

หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดิฉันก็สมควรเริ่มสงสัยว่า ตัวเองคงต้องไปตรวจสภาพจิตและรับยาบ้างแล้วมั้งเนี่ย เพราะไม่เข้าใจภาษาเทพแบบท่านอื่นๆเอาซะเลย

 

"เมื่อขรัวโตดีก็ว่าขรัวโตบ้า เมื่อขรัวโตบ้าก็ว่าขรัวโตดี"​

​

สมเด็จโตวัดระฆัง ท่านมีชื่อว่าชอบถวายธรรมะกระทุ้งในหลวง ร.4 อย่างแยบยลลึกซึ้ง (และบางทีก็กระทุ้งแรง) สองท่าน 1 พระองค์กับ 1 รูปนี่ท่านทันกันครับ

นอกจากกับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินแล้ว กับคนอื่นท่านก็มีวิธีสอนที่กระตุกให้ธรรมะซึ้งกับไปถึงใจหรือกระแทกใจทีเดียว ที่ผมจำได้ก็ตอนที่เทศน์ให้ยายแฟงฟัง คุณนายแฟงเป็นแม่เล้าครับ รวยขึ้นมาจากการเปิดซ่องหาเงินจากหยาดเหงื่อแรงกายสาวๆ ลูกเล้า จนรวยแล้วแกก็สร้างวัด ปากชาวบ้านเรียกว่า วัดใหม่ยายแฟง ชื่อจริงๆ ว่า วัดคณิกาผล แปลว่าผลจาก "หญิงอาชีพพิเศษ" แกถามสมเด็จโตว่า ทำบุญสร้างวัดใหม่ทั้งวัดนี้จะได้อานิสงส์เท่าไหร่ สมเด็จท่านตอบว่าราวสักสลึงเฟื้องหนึ่ง เพราะท่านรู้นี่ครับว่าเงินที่แกเอามาทำบุญเอาหน้านั้นยายแฟงแกไปขูดมาจากลูกเล้าแก

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด สมเด็จโตท่านจุดไต้กลางวันแสกๆ กลางแดดส่องจ้า 2 หนในชีวิตท่าน (ซึ่งไปละม้ายกับเมธีกรีก ไดโอนีซุส โดยไม่ได้นัดหมาย) หนแรก เมื่อในหลวง ร.4 ยังทรงพระชนม์อยู่ วันหนึ่งสมเด็จโตก็จุดไต้เดินดุ่มๆ เข้าไปในวังหลวง ในหลวงทอดพระเนตรเห็นเข้าก็รับสั่งว่า ขรัว- รู้แล้ว รู้แล้ว ท่านก็ทิ่มไต้กับกำแพงวังดับไต้เสีย เพราะท่านตั้งใจจะมาเตือนพระสติในหลวง โดยท่านเกรงว่าจะทรงลุ่มหลงมัวเมาในกามคุณจนเกินพอดี จึงทำอุบายจุดไต้เข้าไปในวังเหมือนหนึ่งว่า ในพระราชวังนั้นมืดมิดเป็นกลางคืนไปหมด ไม่มีกลางวันเลย

อีกหนหนึ่ง จะเป็นเมื่อในหลวง ร.4 สิ้นพระชนม์แล้ว ร. 5 เสด็จขึ้นครองราชย์แต่ยังทรงพระเยาว์ยังว่าราชการด้วยพระองค์เองไม่ได้ หรือในช่วงปลายรัชสมัย ร.4 อย่างไรนี่แหละจำได้ไม่แน่ สมัยนั้นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยยวงศ์ท่านมีอำนาจมาก ถ้าเป็นตอนที่ ร.4 สวรรคตแล้ว สมเด็จเจ้าพระยาท่านก็เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอยู่เองเลยละครับ ตอนนั้น ใหญ่มาก จนมีการเกรงว่า สมเด็จเจ้าพระยาท่านจะฮุบเอาอำนาจไว้เสียเองหรือเปล่า เพราะในหลวงพระองค์ใหม่ก็ยังพระเยาว์มากและประชวรอยู่ด้วย วันหนึ่งสมเด็จโตก็จุดไต้กลางวันแสกๆ อีก เดินไปที่ทำเนียบท่านสมเด็จเจ้าพระยาเลยทีเดียว พอไปถึงท่านก็ขอบิณฑบาตว่า ทุกวันนี้แผ่นดินมืดมัวนัก ขอบิณฑบาตท่านสมเด็จเจ้าพระยาซึ่งเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งในบ้านเมืองให้ช่วยดูแลด้วย ท่านสมเด็จเจ้าพระยาฟังพระมาขอบิณฑบาตอย่างนั้นก็รู้ความนัยเลยเหมือนกัน ก็กราบเรียนสมเด็จโตว่าขอให้พระคุณท่านไว้ใจ ตราบใดที่กระผมยังอยู่จะไม่ยอมให้แผ่นดินมืดมนลงได้เป็นอันขาด สมเด็จโตท่านก็ขอบใจ อนุโมทนา ให้ศีลให้พรแล้วก็ดับไต้กลับวัด

ความที่ท่านมีความคิดลึกซึ้งไม่เหมือนชาวบ้านอย่างนี้แหละครับ บางทีคนธรรมดาเรานึกไปไม่ทันท่าน หรือคิดไม่เหมือนท่าน เลยมีเสียงบางเสียงว่าท่านสติไม่ค่อยดี พอรู้ไปถึงท่านท่านก็ไม่ว่าอะไร เป็นแต่พูดลอยๆ ออกมาประโยคหนึ่งว่า "เมื่อขรัวโตดีก็ว่าขรัวโตบ้า เมื่อขรัวโตบ้าก็ว่าขรัวโตดี" .... ท่านหมายความว่า บางทีท่านพูดหรือทำอะไรที่ค้านสามัญสำนึกคนทั่วไป แต่ถูกต้องตามธรรมะขั้นสูง คนที่ไม่เข้าใจก็หาว่าท่านบ้า แต่เวลาที่ท่านยอมๆ ตามๆ สามัญสำนึกคนปุถุชนธรรมดาทั่วไป ซึ่งถ้ามองในแง่โลกุตระนั้นต้องบอกว่าเหลวไหลไม่มีแก่นสารนั้น คนทั่วไปก็เห็นว่าเป็นปกติ ไม่บ้า...

บทความโดย คุณนิลกังขา
โพสต์เมื่อ: 10:27 น. วันที่ 27 มิ.ย. 2545

ที่มา เรื่องของสมเด็จโตวัดระฆัง | เว็บบอร์ด วิชาการ.คอม

 

ดั่งก้อนหิน

ก้อนหินแม้นอยู่นิ่งไม่ติงไหว ไม่สามารถก่อปฏิสัมพันธ์ใดๆ กระนั้นก็ยังโดนสบถด่า นับประสาอะไรกับมนุษย์ ที่ยังอยู่ในวงจร ในระบบ ที่ยังต้องติดต่อ สื่อสาร อาศัย ดำรงอยู่ แม้นว่าไม่ชอบคนผู้นั้น คนผู้นี้ คนแบบนั้น คนแบบนี้ เลวเช่นนั้น เลวเช่นนี้ ดีปานนั้น สุดยอดอย่างนี้ แต่สุดท้ายก็ยังเกลือกกลั้ว อยู่ด้วยกันอยู่

 

"ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ" มาสื่อว่านั่นเป็นธรรมะขั้นสูง ดิฉันเป็นเหล่าโลกุตระมีเพียงสามัญสำนึกระดับทั่วๆไป จึงไม่เข้าใจภาษาเมพธรรมะขั้นสูง ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง.