ช่วยหนูด้วยค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใคร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย praewy, 25 มิถุนายน 2013.

  1. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    ตอนนี้หนูลองปฏิบัติแล้วค่ะ พอเกิดขึ้นจะมีแว้บนึงที่รู้สึกไม่ชินยังแย่ๆอยู่แต่ไม่คิดต่อนะคะ แล้วมันก็จะหายไปแล้วก็มาใหม่แบบนี้ตลอดค่ะ หนูทำถูกไหมคะ
     
  2. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    เท่าที่อ่านมา ต้องตอบเหมือนหลายท่าน

    เป็นที่น่ายินดีครับ สงสัยเคยทำมาดี

    ที่เห็นหลายคนเคยมีอาการแบบนี้ บางคน

    หนักกว่านี้ครับ แต่ด้วยการศึกษาธรรม

    และการปฎิบัติ เจริญสติ และสมาธิ เขาเหล่า

    นั้นก็ดีขึ้น บางคนได้ดีเกินคาดครับ ขอให้หนู

    ศึกษาและปฏิบัติไปครับ ถ้ามีครูอาจารย์ท่าน

    ผู้รู้ช่วยแนะนำ จะทำให้ดียิ่งขึ้น อนุโมทนาครับ.
     
  3. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ถ้าอันไหนมันเป็นไปเผื่อความเพลิดเพลินมากไปก็ดีแล้วนะครับ ที่กำหนดรู้ได้ทันที

    ผมก็เป็นนะ ดูหนังไปไม่รู้สึกเพลินเลยก็มี เหมือนดูไปงั้นๆให้มีอะไรทำ บางครั้งฟังเพลงไปก็เฉยๆกับมันก็มี เพราะบางทีผมดูหนังบางเรื่องก็มีพวกความรู้ หลักการ วิธีการ วิธีคิด สอดแทรกอยู่ก็มี หรือดูเป็นซับเผื่อฝึกภาษาก็มี
    แต่บางทีเผลอเพลินกลับมันไปตั้งนานกว่าจะมารู้สึกตัวก็มี


    แต่ผมว่าคงไม่เป็นปัญหากับเรื่องเรียนหรอก เพราะว่าการ เรียน และการอ่านหนังสือเรียนคงไม่เพลินแน่ๆ (เว้นแต่ว่าหนังสือที่อ่านจะเป็นการ์ตูน นิยาย ไรพวกนี้ที่จะทำให้เราเพลิน และดำดิ่งไปตามจินตนาการของคนเขียน)

    แต่ถ้า การกระทำอันไหนมันเป็นไปเผื่อสาระ เผื่อประโยชน์ เช่นเรื่องเรียน อ่านหนังสือเรียน แล้วถ้ามันยังจะคิดขึ้นมาว่า "กำลังเพลินนะ" (แต่ก็คงไม่เพลินหรอกมั้ง) ก็ลองคิดกลับไปว่ากำลังทำตามหน้าที่ แบบประมาณว่า สักแต่ว่าทำไปตามหน้าที่ แต่ไม่ใช่แบบขอไปทีไรแบบนี้นะ ทำประมาณว่าพยายามเต็มที่กับมัน เหมือนกำหนดสิ่งที่ทำอยู่นั้นให้เป็นเป้าหมายสาระสำคัญแล้วก็ทำให้สำเร็จ โดยมีสติเป็นตัวคอยช่วย

    ปล.ที่เขียนว่า "สักแต่ว่า" ทำไปตามหน้าที่ ก็คือแบบว่า สิ่งไหนที่เราทำมาแล้วมันไม่เป็นไปตามที่คิด ก็ไม่ต้องไปน้อยใจ ถ้าเราได้ตั้งใจและพยายามทำเต็มที่แล้ว

    หรือไม่ก็เปลี่ยน จากคำว่า "กำลังเพลินนะ" เป็น "กำลังขี้เกียจนะ" "ยังพยายามไม่เต็มที่นะ" แล้วก็กลับไปจดจ่อในสิ่งที่ทำต่อ
     
  4. kakarukthai

    kakarukthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2011
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +220
  5. Smootheee

    Smootheee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +14
    รู้สึกไม่สบายใจ ไม่พอใจ ขัดใจ กับสิ่งนี้บ่อยๆ มันก็ทำให้เกิดความเคยชินได้จิตใจก็หดหู่ รู้สึกแย่ตามมา. มันขึ้นอยู่ที่จขกท อยากจะยึดกับความรู้สึกเดิมๆอยู่รึเปล่า ถ้าไม่ก็พยายามเน้นไปตรงอารมณ์ที่ทำให้หดหู่ถึงเเม้มันจะเกิดขึ้น1ชั้น2ชั้น3ชั้นก็ตาม ก็ไม่ปล่อยให้มันมาครอบงำจิตได้. เราอย่าไปคิดว่ามันคือความเป็นเรา ที่เฝ้าสังเกตุอะไรอยู่ มันก็เเค่มีลักษณะเหมือนความสุขนั้นเเหละ มีได้ก็หายไปได้ ถ้าเราจะไม่เพลินมันทำได้เเน่ เพียงเเต่เราอย่าไปยึดมั่นไว้ หรือ ใจจริงอยากจะกลับไปหาอารมณ์ที่ชอบใจอยู่อย่างเดิมเเบบนั้น ไม่งั้นคุณก็ไม่ต่างอะไรกับตอนนี้เลย ที่กำลังจะเเสวงหาความสุข เมื่อเห็นสุขก็อยากจะเพลิดเพลินอย่างเดียว เมื่อเจอสิ่งที่ไม่พอใจความรู้สึกขัดใจก็อยากหนีไปให้พ้น จนเกิดเป็นนิสัยอย่างนี้ คนทั่วๆไปที่ต้องการหาความสุข อยากจะสุขอย่างเดียวก็เป็นเหมือนคุณตอนนี้ สอบติดเค้าก็เพลินใจอยากจะให้อารมณ์นี้อยู่กับเค้านานๆ ถ้าสอบไม่ติดเค้าก็ไม่รู้จะหาทางออกยังไง. จมอยู่กับทุกข์. เพราะความหวัง เพราะความอยากเป็นสาเหตุ เหมือนคุณ คุณอยากจะเพลินมาก มันจะยิ่งทุกข์มากเมื่อไม่ได้ตามต้องการ บางคนที่หวังมากกว่าคุณ. เมื่อไม่ได้ตามต้องการ มันก็ทำให้เค้าหาทางออกไม่ได้ฆ่าตัวเอง เพราะยึดความทุกข์ไว้ ย้ำคิดว่าทุกข์เป็นของตน
    . คุณต้องเห็นโลกนี้ว่ามันให้ความสุขอย่างเดียวจริงๆรึเปล่า คุณเองก็เห็นอารมณ์ไม่พอใจอยู่บ่อยๆโลกนี้มันให้สุขส่วนน้อยทุกข์ส่วนมาก
    ความอยากสุขนั้นเเหละมันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เราไม่เพลินกับสุขมันก็ดีแล้ว เเต่อย่าไปเพลินกับทุกข์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2013
  6. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    หนูเข้าใจแล้วค่ะ เพิ่งรู้สึกตัวเองเหมือนกันว่ามัวแต่เพลินกับทุกข์โดยไม่รู้เลยว่ากำลังเพลินแต่กลับไปจ้องแต่จะหาสุข พอไม่ได้ก็ทุกข์อีก วันนี้ตื่นเช้ามาด้วยความสดใส ไม่เหมือนวันที่ผ่านๆมาค่ะ ที่รู้สึกไม่อยากตื่นเพราะตื่นมาก็ไม่สุข ขอบคุณมากๆๆๆๆนะคะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ
     
  7. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154
    โลกเหมือนโรงละครโรงใหญ่ว่างั้นมั๊ย.
     
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    หมายเลข 0404 ไม่ได้รู้สึกตัวตลอดเวลาหรอก

    เรียกว่ายังเพลิดเพลินเป็นปกติ

    เพลิดเพลินไปกับความไม่พอใจไง

    ถ้ารู้สึกตัวว่าตัวเองไม่พอใจ ในสภาวะที่เป็นอยู่ ก็จะหลุดทันที
     
  9. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สำหรับ วิธีฝึก ให้ฟังพระเทศน์กัณนี้ แล้วจำ วิธีให้ได้
    จากนั้นก็ลงมือทำตามวิธี จะคล่อง และแม่นยำ
    ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นมาเป็นเครื่องฝึกได้อย่างสะบายเบิร์ดๆ

    อ่านตามลิ้งค์นี้ได้เลยhttp://palungjit.org/threads/ตายแล้วเกิด-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.336833/
     
  10. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    อาการเหมือนผมเลยคือคิดไม่หยุด พอคิดอะไรไม่ดีก็มักมาจดจำ แล้วก็โทษตัวเอง เป็นอาการเริ่มแรกของโรคซึมเศร้าอะครับ สมองโดนอะไรสะเทือนรึเปล่า ทางที่ดีอย่าดูหนังมากเลยช่วงนี้ เพราะมันเน้นความสมจริง อาจไปติดวิชาแปลกๆอะไรจากทีวีก็ได้ครับ ถ้าเป็นมากๆจะคุยกับทีวีได้เลย ผมเพ้อมา 5 ปีแล้ว มีอะไรถามได้
     
  11. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    ช่วยหนูด้วยค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใคร

    คือปัญหาของหนูมีอยู่เรื่องเดียวค่ะ แต่มันทรมานแล้วก็รู้สึกแย่เพราะคงไม่มีใครเป็นแบบหนู หนูเล่าให้ใครฟังก็เหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย น่าตลกไม่น่าเป็นได้ขนาดนี้ อาการคือหนูจะรู้สึกตัวตลอดเวลาทำอะไรน่ะค่ะ

    +++ บุคคลที่มีความรู้สึกตัวตลอดเวลาที่ทำอะไรอยู่นั้น จัดว่าเป็นบุคคลที่หาได้ยาก มันเป็นจุดมุ่งหมายของนักปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ที่มุ่งสู่ มรรค ผล นิพพาน และ อริยะภูมิ ซึ่งปิดกั้นอบายภูมิ โดยตรง และไม่ใช่เรื่่อง น่าตลก แต่ประการใดทั้งสิ้น

    คือปกติแล้วคนเราทำอะไรก็จะสนใจอยู่กับสิ่งนั้นเปลี่ยนไปทำอะไรก็เพลิน ดูทีวีก็จะเพลินไปกับเนื้อหานั้นใช่มั้ยคะ แต่พอหนูรู้สึกเพลินหนูก็จะคิดขึ้นมาค่ะว่า "กำลังเพลินนะ"

    +++ ถูกแล้วที่ปกติคนจะมีความเพลิน (หลง-โมหะ) ไปกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ยกเว้นแต่ผู้ที่มุ่งตรงต่อ อริยะภูมิเท่านั้นที่จะหาทางออกไปจาก โลกียะภูมิ และผู้ที่ฝึกมาจน สามารถเตือนตนเองได้นั้น มีน้อยยิ่งกว่าน้อย

    ทำให้มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ กลายเป็นไม่เพลิน ฟังเพลงก็จะแวบคิดว่าเรากำลังเพลินนะ อ่านหนังสือก็จะแวบขึ้นมาว่ากำลังเพลินนะ

    +++ ธรรมชาติของจิต ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำ ส่วน ธรรมชาติของธรรมะ ย่อมไหลทวนกระแส

    มันเป็นอาการที่ทรมานจริงๆนะคะ คือพอรู้สึกตัวตลอดเวลาก็จะคิดว่าทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ ทำให้รู้สึกแย่

    +++ ทรมาณเพราะความคิดความปรุงแต่ง (กิเลส) มันพยายามดิ้นรนไปสู่ที่ต่ำ ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่า "ขัดใจกิเลส" นั่นเอง

    คือหนูไม่ได้มีปัญหาหรือความทุกข์ในชีวิตเลยนะคะ ชีวิตหนูสมบูรณ์มากครอบครัวอบอุ่น หนูเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้

    +++ หากเป็นมาเองโดยธรรมชาติ แสดงว่า ยังฝึกไม่จบ จึงต้องมาต่อเอาในชาตินี้ จนกว่าจะจบ

    อยากจะกลับไปเพลินกับทุกอย่างเหมือนเดิม ขนาดเวลาพูดคุยก็ยังรู้สึกตัวตลอดเลยค่ะว่ากำลังเพลินนะ มันคงไม่หายใช่มั้ยคะ

    +++ อยากจะกลับไปมีโมหะเหมือนเดิม แต่ถ้าเคยตกกระแสธรรมมาก่อนแล้ว ที่เรียกว่า "ตกกระแส" แล้ว จะกลับอีกไม่ได้ ต้องไปจนกว่าจะสุด

    หนูอยากกลับไปเป็นอย่างเดิมแบบตอนที่ยังไม่เคยมีความคิดแบบนี้ หนูทรมานมากๆเลยค่ะ

    +++ คนเรานี้ทุกข์เพราะความคิดจริง ๆ ทำไมไม่คิดขึ้นมาว่า "กำลังทุกข์เพราะคิด อยู่นะ"

    แต่พอหนูมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหนูไม่มีทางลบมันออกไปได้แล้วค่ะ ทำอะไรมันก็คิดตลอด เหมือนเป็นอัตโนมัติ คิดอัตโนมัติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูอยากหายจริงๆนะคะ แต่ไม่รู้จะลืมมันได้ยังไง เหมือนยิ่งหนียิ่งทุกข์ หนูไม่รู้ว่าสาเหตุมันคืออะไรเพราะหนูไม่ได้มีปัญหาชีวิตอะไรเลยค่ะ หนูอยากกลับไปเหมือนไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน แต่มันเกิดแล้ว หนูจะทำยังไงดีคะ

    +++ ให้สังเกตุดูให้ดีว่า
    +++ "ความคิดเป็นสิ่งถูกรู้ จริงหรือเท็จ"
    +++ "ความรู้สึกทั้งทุกข์และสุขเป็นสิ่งถูกรู้ จริงหรือเท็จ"
    +++ หาให้เจอว่า "เราเป็นสิ่งถูกรู้ ด้วยหรือไม่"
    +++ หาให้เจอว่า "สภาวะที่รู้อยู่นั้น เป็นใครกันแน่"
    +++ นั่นแหละคือสิ่งที่ควรทำ

    หนูอยากกลับไปเป็นคนเดิมที่มีความสุขไม่มานั่งกลัวความคิดตัวเองแบบนี้ หนูรบกวนช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ หนูไม่รู้จะพึ่งใครเพราะอาการแบบนี้ ไม่มีใครเคยเป็นเลยค่ะ

    +++ แน่ใจหรือว่า คนเดิมนั้นมีความสุข หรือ หลงความสุขกันแน่ และแน่ใจหรือว่า ไม่มีใครเคยผ่านอาการแบบนี้มาก่อน
    +++ แต่ก่อน หลงสุข แต่ปัจจุบันกลายเป็น หลงความคิดอยู่หรือไม่ หาให้เจอว่า "ความคิด คือ ตัวการแห่งความสมมุติ ใช่หรือไม่" แล้วไปหลงมันทำไม

    หนูไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงอีกแล้ว มันไม่ได้มีอารมณ์เศร้าหรืออารมณ์ผิดปกติอะไรเลย

    +++ ถูกแล้ว มันไม่ใช่ความเศร้าหมอง แต่มันเป็นอาการ หลง อยู่ในวังวนของความคิด จนกว่าความคิดจะเป็น สิ่งถูกรู้ และรู้แจ้งชัดเจนว่า หน้าที่ของมัน คือ การสมมุติ ส่วนหน้าที่ของเราคือ อยู่กับรู้ ไม่ใช่ อยู่กับสมมุติ หากทำได้จริงเมื่อไรก็สามารถขึ้นชื่อได้ว่า พ้นแล้วจากสมมุติ เมื่อนั้น

    มันเกิดจากความคิดของตัวเองนี่แหละค่ะ

    +++ ก็ใช่อีกนั่นแหละ แต่ที่สำคัญคือ ทันมันหรือเปล่า

    แต่หนูจะบอกว่าตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ คือหนูมานั่งพิจารณาว่าที่ผ่านมาหนูฝืนตัวเอง แกล้งคิดว่าตัวเองหาย ทั้งๆที่ในใจก็ยังคิดว่าไม่เพลินตลอดอะนะคะ พอนานวันเข้ามันไม่หายอย่างที่คิดเลยทรมาน คือเหมือนพยายามจะหนีมันอะค่ะเลยยิ่งคิด หนูเลยเปลี่ยนใหม่เป็นยอมรับ ทุกครั้งที่คิดขึ้นมาก็จะไม่รู้สึกแย่เท่าเก่าค่ะ แต่ก็ยังรู้สึกไม่เหมือนเดิม อยากรู้แนวทางรักษาให้หายขาดต่อไปแต่คิดว่าน่าจะมาถูกทางแล้วค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าจริงๆนะคะสำหรับคำตอบ

    +++ การรู้เท่าและทันความคิด ท่านเรียกกันในอีกภาษาหนึ่งว่า "ดูจิต" นั่นเอง จัดว่าเป็น จิตตานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน จนกว่าจะรู้ชัดเจนถึง "การกำเหนิดของจิตตัวเอง" จากนั้นจึงเห็น กระบวนการในการกำเหนิดของจิตซึ่งจะอยู่ในชั้น พลังงานในการให้กำเหนิดจิต ถึงตรงนี้เมื่อไรก็จะอยู่ในชั้น ธรรมานุปัสสนามหาสติปัฏฐาน ได้เอง

    คือเหมือนยิ่งหนูตั้งสมาธิทำอะไร มันก็ยิ่งจับความรู้สึกตนเองมากขึ้น ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เลยไม่มีสมาธิ แล้วเดี๋ยวหนูเปิดเรียนแล้วกลัวใช้ชีวิตไม่ปกติค่ะ กลัวเรียนไม่ได้ เพราะไม่มีสมาธิ หนูคิดถึงหนูคนเดิมตลอดเวลา ขอร้องละค่ะ ช่วยหนูด้วย ตอนนี้หนูสับสนไปหมด

    +++ ใครบอกว่า ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ จริง ๆ แล้วนั่นคือ ธรรมชาติตัวจริงของ ผู้ที่เคยได้ มหาสติปัฏฐาน มาแล้วในอดีต ขาดอยู่ตรงที่ ความรู้แจ้งชัดว่า อะไรเป็นอะไร เท่านั้นเอง

    +++ ส่วนการเรียนนั้น เวลาอ่านหนังสือ ให้ตั้งอยู่กับเนื้อความของหนังสือ แล้ว กำหนดจิตตรวจสอบดูว่า ผู้ที่เขียนหนังสือ มีเจตนาที่จะสื่ออะไร (อ่านจิตคนเขียน) และดูซ้ำให้ลึกลงไปถึงความเข้าใจของผู้เขียนว่า ทำไมจึงเขียนออกมาอย่างนั้น ให้ถือเสียว่า "เป็นของเล่นทางจิตชนิดหนึ่ง" และเป็นการฝึก ทวนกระแสขึ้นไปหาต้นตอของวิชานั้น ๆ หากทำได้ จะได้ผลลัพธ์ที่เป็นคุณอย่างยิ่ง ทั้งทางโลกและทางธรรม ลองเล่นดูนะครับ
     
  12. อริยะบุคคล

    อริยะบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +476
    เข้ามาอ่านกระทู้นี้ผู้ปฏิบัติมีมากจริงๆ เจ้าของกระทู้คงได้ต่อบุญเพิ่มจนเป็นอริยะบุคคลในไม่ช้า ขอแสดงความยินดีด้วย พวกเราเป็นผู้ปฏิบัติเห็นรู้ได้ด้วยตนเอง ขอยืนยัน แล้วเจอกันในแดนนิพพาน
     
  13. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    .
    ช่วยหนูด้วยค่ะ ไม่รู้จะปรึกษาใคร

    คือปัญหาของหนูมีอยู่เรื่องเดียวค่ะ แต่มันทรมานแล้วก็รู้สึกแย่เพราะคงไม่มีใครเป็นแบบหนู หนูเล่าให้ใครฟังก็เหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย น่าตลกไม่น่าเป็นได้ขนาดนี้ อาการคือหนูจะรู้สึกตัวตลอดเวลาทำอะไรน่ะค่ะ

    เธอมีกรรมหนักมากน่ะ ชาติก่อนๆ โน้น เธอพยายามจะไปนิพพานให้ได้ ทั้งๆ ที่ครูบอกว่ายังไม่ถึงคิว
    เธอเลยหาวิธีการต่างๆ นาๆ มาพัฒนาตัวเอง วิธีแปลกๆ แตกต่างจากที่ครูสอน
    ไม่ยอมเชื่อครูว่าเธอทำไม่ได้ เธอไม่ยอมเชื่อ และได้ทดลองวิธีต่างๆ อีกมากมาย
    และได้ก้าวหน้ามากนัก เกินหน้าเกินตาครูบาอาจารย์ และศิษย์ร่วมสำนักทั้งหลาย
    เธอได้ทุ่มเททำกรรม อย่างต่อเนื่องยาวนานหลากหลาย น่าจะตายทั้งที่อยู่ในฌานด้วยมั้ง นะ


    คือปกติแล้วคนเราทำอะไรก็จะสนใจอยู่กับสิ่งนั้นเปลี่ยนไปทำอะไรก็เพลิน ดูทีวีก็จะเพลินไปกับเนื้อหานั้นใช่มั้ยคะ แต่พอหนูรู้สึกเพลินหนูก็จะคิดขึ้นมาค่ะว่า "กำลังเพลินนะ"
    ทำให้มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ กลายเป็นไม่เพลิน ฟังเพลงก็จะแวบคิดว่าเรากำลังเพลินนะ อ่านหนังสือก็จะแวบขึ้นมาว่ากำลังเพลินนะ

    เนี่ย เป็นอาการหนึ่งของโรคกรรมเก่าตามทัน เราก็เคยเป็นนะ แต่อาการต่างกันหน่อย จะโม้ให้ฟังนะ
    สิบกว่าปีที่แล้วโน่น หลังจากไปฝึกหนักจากสำนักข้างสระนาฬิเกร์ ด้วยวิชาอานาปานสติ เป็นจานหลัก
    มีปฏิจจสมุบปบาทเป็นจานรอง กับอีกหลายๆ เมนู ฝึกหนักแบบทิ้งโลกไว้ข้างหลังเลยนะ เลยติดเชื้อวิถีแห่งพุทธ

    มีครั้งนึง (ตอนกลับมาอยู่ที่โลกแล้วนะ) นั่งเชียร์แมนยูอยู่ จะดีใจตอนได้ประตู อาการของโรคกลับกำเริบออกมา
    ทำให้เราดีใจได้ไม่สุด สติตามมาทัน ตอนที่ใจกะลังจะพุ่งจู้ดขึ้นฟ้าน่ะ ตอนนั้นตะลึงในใจเลยล่ะ
    เฮ้ย!!!ไรฟะ เกิดอะไรขึ้น ต่อมานะจะแช่งฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้อีก จะดีใจตอนคู่แข่งทำได้แย่ๆ ก็ไม่ได้
    สติสะกดรอยตามใจได้ตลอดเลยล่ะ จะคิดเรื่องไม่ดีก็ทำได้ลำบาก อาการหนักเลย ตอนนั้น

    สงสัยว่าจะมีเชื้อโรคอื่นด้วยนะ อาจจะเป็นเชื้อ "จงถอดออกซึ่งอภิชาและโทมนัส"
    ซึ่งแปลว่า จงอย่าดีใจและเสียใจให้มันมากนัก แปลแบบคนไม่บ้านะ อย่าคิดมาก


    มันเป็นอาการที่ทรมานจริงๆนะคะ คือพอรู้สึกตัวตลอดเวลาก็จะคิดว่าทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ ทำให้รู้สึกแย่

    ทำใจเถิดเธอ มันเป็นกรรมของเธอผู้แสวงหา กรรมหนักด้วยนะ จะบอกให้
    อนาคตเธออาจจะไม่ได้เป็นคนอีกต่างหาก เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ขอบอก


    คือหนูไม่ได้มีปัญหาหรือความทุกข์ในชีวิตเลยนะคะ ชีวิตหนูสมบูรณ์มากครอบครัวอบอุ่น หนูเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้
    อยากจะกลับไปเพลินกับทุกอย่างเหมือนเดิม ขนาดเวลาพูดคุยก็ยังรู้สึกตัวตลอดเลยค่ะว่ากำลังเพลินนะ มันคงไม่หายใช่มั้ยคะ

    เมื่อกรรมเก่าหาเธอเจอแล้วล่ะก็ เสร็จแน่ หนีไม่พ้นหรอกน้องเอ๋ย

    หนูอยากกลับไปเป็นอย่างเดิมแบบตอนที่ยังไม่เคยมีความคิดแบบนี้ หนูทรมานมากๆเลยค่ะ

    ยากส์ส์ส์ส์ส์ คงไม่ได้แล้วล่ะ คงต้องเดินหน้าลุยต่อไป จูนใจอีกนิดหน่อยก็เข้าที่แล้วล่ะ ไม่ยากแล้ว

    แต่พอหนูมีความคิดแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหนูไม่มีทางลบมันออกไปได้แล้วค่ะ ทำอะไรมันก็คิดตลอด เหมือนเป็นอัตโนมัติ คิดอัตโนมัติๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หนูอยากหายจริงๆนะคะ แต่ไม่รู้จะลืมมันได้ยังไง เหมือนยิ่งหนียิ่งทุกข์ หนูไม่รู้ว่าสาเหตุมันคืออะไรเพราะหนูไม่ได้มีปัญหาชีวิตอะไรเลยค่ะ หนูอยากกลับไปเหมือนไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน แต่มันเกิดแล้ว หนูจะทำยังไงดีคะ

    มีใครๆ แนะนำตั้งแยะแล้ว เธอเลือกเอาได้เลย อันไหนถูกใจใช่เลย
    ก็เอาอันนั้นแหละ ลองฝึกฝนและค้นหาดูเอาเอง แต่ก็ขอแนะนำยาซักขนานนะจ๊ะ นะจ๊ะ
    ชื่อ "อานานปานสติ" สูตรที่มีสิบม้วนเทปนะ หาโหลดเอาเอง
    แต่ต้องเป็นชุดใหญ่ที่มีสิบตอนนะ ของแท้ต้องตราท่านพุทธทาส
    รับประกันได้ผลแน่ ถ้าทำทุกอย่างได้ถูกต้อง มันต้องได้ผล
    แล้วยังมียาอีกหลายขนาน ของท่านพุทธทาส มีเป็นพันเลยล่ะ
    ลองหาโหลดมากินทางหู ดูทางใจ ให้สะอาด แลสว่าง อย่างสงบ


    หนูอยากกลับไปเป็นคนเดิมที่มีความสุขไม่มานั่งกลัวความคิดตัวเองแบบนี้ หนูรบกวนช่วยให้คำแนะนำหน่อยนะคะ หนูไม่รู้จะพึ่งใครเพราะอาการแบบนี้ ไม่มีใครเคยเป็นเลยค่ะ

    ลองทานท่านพุทธทาสดูก่อนเถอะเธอ แล้วเธอจะชื่นใจ สบายทรวง ห่วงหดหาย

    หนูไม่อยากให้พ่อแม่เป็นห่วงอีกแล้ว มันไม่ได้มีอารมณ์เศร้าหรืออารมณ์ผิดปกติอะไรเลย

    โรคแบบนี้ เป็นได้ก็หายเอง เมื่อถึงเวลาน่ะครับ ไม่ต้องคิดมาก
    อีกหน่อยพ่อแม่จะดีใจมากกกกก ผ่านไปให้ได้ไวไวนะจ๊ะ นะจ๊ะ



    หมอมือเปล่า

    .
     
  14. praewy

    praewy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +128
    อย่างไบ้างคะ หายมั้ยคะ มาทำไรแล้วสนุกเพลิดเพลินเหมือนเดิมมั้ยคะตอนนี่คุณเปน
     
  15. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    กายกับจิต อดีตกับปัจจุบัน

    ขออนุญาตครับ

    กายกับจิต อดีตกับปัจจุบัน

    จากที่เล่ามา แสดงว่า จิตของคุณถูกโน้มนำไปสู่คุณงามความดี เพียงแต่ คุณยังไม่เข้าใจ

    คุณไม่เข้าใจว่า คนที่จะมีสติระลึกได้ว่า

    "อะไรถูก อะไรผิด" แบบคุณ ต้องปฏิบัติสมาธิภาวนาก่อนเป็นเวลาหลายปี
    เมื่อคุณกระโดดมาสู่ตรงนี้ ตรงที่ จิตมีสติ "รู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด"

    แต่คุณกลับสับสน ไม่เชื่อถือ ในจิต ในสติ ของตน
    มีแต่ความลังเลสงสัย อยู่นั่นละ

    ขอให้ทราบ ให้เชื่อมั่นว่า คุณเป็นผู้มีบุญบารมีมาก
    เพราะแม้แต่ผู้ปฏิบัติมานานมากๆ ยังมาถึงตรงนี้ได้ยาก ยังมาถึงได้น้อยคน

    สิ่งที่คุณควรทำก็คือ ให้มีความเชื่อมั่นในจิต ในพลังคุณงามความดีของตน
    สิ่งที่คุณควรทำก็คือ ให้เฝ้าดูมันเพียงอย่างเดียว สติจะเตือนว่าอย่างไร ก็ อย่าไปคิด อย่าไปค้าน อย่าไปต้านทาน
    ให้เฝ้าติดตามดูมันแต่เพียงอย่างเดียว

    เมื่อมันไม่เตือน เมื่อมันไม่เกิด ค่อยไปคิด ค่อยไปพิจารนาว่า

    ที่จิต ที่สติ มันเตือนเรานั้น "ถูก หรือ ผิด, ดี หรือ ไม่ดี"

    เพราะถ้าจิต ถ้าสติ มันเตือน เราอยู่ ถ้าเราไปฝืนคิด มันจะหายไป

    เพราะที่คุณเป็นอยู่นี่ ก็คือ "สติกึ่งอัตโนมัติ"
    เป็นอาการเบื้องตนของผู้ฝึก "การรู้ตัวทุกอิริยาบถ"

    ที่แตกต่างคือ คุณยังไม่รู้ตัวว่า
    คุณอยู่ตรงไหน
    แล้วคุณ จะไปไหน
    แล้วคุณจะไปอย่างไร

    ก็ขอบอกว่า

    คุณอยู่ในขั้น
    "สติ กิ่งอัตโนมัติ" หรือเรียกว่า "การฝึกการรู้ตัวทุกอิริยาบถ"
    "คุณอยู่ในขั้น จิต รู้ดี รู้ชั่ว รู้ถูก รู้ผิด" เป็นบางเวลา

    ถ้าคุณไปแตะต้องมัน คือ คุณไปคิดให้มัน ไปค้านมันเมื่อไร
    มันก็จะหลบไป มันก็จะหายไป

    ถ้าคุณไม่ใช่นักปฏิบัติ ก็ขอให้ นอน ให้มากขึ้น ให้นานขึ้น
    ถ้าคุณเป็นนักปฏิบัติ ก็ ขอให้ภาวนา อยู่กับลมหายใจให้มากขึ้น

    เพราะ จิตจะเกิดความอ่อนล้า จากการที่จิต ต้องออกมาทำงาน เพื่อเตือนสติ ตนเอง

    เป็นอาการของการเกิดปัญญาเบื้องต้น

    เพราะเมื่อจิต "รู้ดี รู้ชั่ว รู้ถูก รู้ผิด" แล้ว

    ต่อไปจิต "ก็จะพิจารนา เป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปๆ เป็นเรื่อง เป็นราว"
    ไปจนถึง "การพิจารนาธรรมยากๆ หรือ การพิจารนาปัญหาทั่วไปยากๆ แต่รู้ได้ในอึดใจเดียว"

    เมื่อคุณก้าวกระโดด ขึ้นมาถึงนี้แล้ว อย่าได้กระโดดลงมา ให้เสียเวลาเปล่า

    จงถือโอกาสอยู่กับมันเสียเลย เพราะมันเป็นของคุณแล้ว

    ถ้าข้องใจ ถ้าสงสัย ให้ไปอ่าน "จิตที่พ้นจากทุกข์" ของคุณลุง "หวีด บัวเผื่อน"

    แม้ผมจะเขียนคำอธิบายขยายความเอาไว้ในเว็บนี้
    ผมก็ลบทิ้งไปจากเว็บแล้ว เพราะมีคนโง่แล้วอวดฉลาด
    ไม่เห็นด้วย ที่ผมเขียน แต่ยังเก็บต้นฉบับเอาไว้อยู่

    คุณจะได้รู้ว่า
    คุณอยู่ตรงไหน
    คุณจะไปอย่างไร
    หรือถ้าคุณ จะไม่พัฒนามัน จะเอาแค่นี้ จะรักษามันเอาไว้ได้อย่างไร

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา
     
  16. garmin

    garmin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    วิธีง่ายๆเลยครับ เราแยกแยะ 2 สิ่ง

    สิ่งที่เกิดขึ้น (เข้ามาทาง ภาพ เสียง กลิ่น รส สัมผัส ให้รับรู้)
    กับ
    ความคิดของเรา (ที่มันคิดต่อจากการรับรู้ ต่อไปได้เรื่อยๆ คิดไปเอง)

    "แยก" 2 อย่างนี้ แล้ว "วาง" ความคิดไว้

    อดีตเกิดไปแล้ว อนาคตยังมาไม่ถึง ที่เรา

    กังวล กดดัน ไม่ชอบ ฯลฯ

    คือเราคิดวนไปเรื่อยๆกับ อดีตและอนาคต นั่นเอง แค่ฝึกสติรู้ทันความคิด แล้ววางมันลง หัดทำ ทำซ้ำๆ แล้วจะชำนาญเองครับ
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ผมคิดว่า พื้นฐานดีมากครับ เรื่องนี้แก้ไขง่ายมากๆครับ

    คือจากพื้นฐานคือมีสมาธิดีเยี่ยม และสติก็ดีเยี่ยมเช่นกัน ด้วยอุปนิสัยที่เป้นอย่างนี้จัดว่าดี
    แต่ที่มันไม่ดี เป็นเพราะว่า เป็นสมาธิ และสติ ที่ขาดปัญญา

    จำไว้นะลูก สมาธิจิตจะวิ่งไปไหนอย่างไร สติรู้ทั่วพร้อมแล้วก็จริง แต่อย่าลืมฝึกปัญญาด้วย อย่าสักแต่รู้ แต่เห็น แต่คิด แต่ให้มีปัญญาตามก้นมันไปด้วยเสมอครับ

    ต้องรู้ด้วยปัญญา สติรู้ทันความเพลิดเพลินนั้นดีแล้ว แต่ต้องมีปัญญาประกอบ เพราะเมื่อเรารู้ทันแล้ว เราไม่ได้ไปยึดติดแล้ว เราต้องมีปัญญาประกอบว่า ควรทำอย่างไรให้เหมาะสมดีงาม อะไรคือหน้าที่ทางโลก อะไรคือความรับผิดชอบ กายก็ทำไปแต่จิตเราไม่ยึดติด อย่าคิดว่าเมื่อเรารู้ว่าเพลินเพลินอยู่ จงมีปัญญารู้ว่า เราเพลิดเพลินอยู่กับอะไร
    ทำแล้วดีหรือไม่ดี เป็นบุญหรือบาบ หรือกลางๆ หรือทำไปเพื่ออะไร ทุกอย่างเมื่อใช้ปัญญาเข้าไปตรวจดูเมื่อรู้ด้วยปัญญาแล้ว จงตั้งใจทำทุกสิ่งที่ปัญญากลั่นกลองแล้วให้ดีที่สุด ก็จะมีความสุขกับมันมากที่สุดเพราะเราได้ใช้ปัญญากลั่นกรองแล้ว ว่าควรทำอะไรอย่างไรต่อ แน่นอนคือเราทำแล้วมันจะมีผลดีตามมา ดังนั้นก็ไม่มีอะไรให้กังวลหรือทุกข์อีกต่อไปอีกแล้วครับ ภาระทั้งหลาย ทุกอย่างนั้นควรฝึกให้เป็นนิสัยหรือสันดารของตนอย่างนี้นะครับ แล้วคุณจะเป็นคนที่มีจิตใจที่สูงขึ้น บุญบารมีก็จะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกันครับ สาธุ
     
  18. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    กรณีของคุณเหมือนกับอาการเพลิดเพลินเกิดขึ้นมาเอง พอคุณรู้สึกตัวอาการเพลิดเพลิน
    นั้นก็หายไป คุณเลยรู้สึกเป็นทุกข์เพราะกำลังมีสุขอยู่แล้วมันหายไป คุณลองทำให้เกิด
    ความเพลิดเพลินด้วยความตั้งใจบ้างสิครับ บางทีมันอาจจะไม่หายไปก็ได้

    ผมเคยบางทีทำงานบางอย่างจนลืมเวลาไม่รับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัวทั้งหลาย สนใจแต่งาน
    ที่ทำจนกระทั่งทำเสร็จแล้วสบายใจมีความสุขมาก บางทีก็งง ๆ ว่าเรากินข้าวหรือยังเป็นต้น
    อาการแบบนี้ สำหรับคนมีสติตลอดเวลาไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นได้หรือไม่
     
  19. กินข้าวยัง

    กินข้าวยัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +27
    พยายามทำยังทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร แต่นี่เกิดขึ้นมาเอง ผมว่า น่าจะเป็นของเก่าที่เหลือมาจากชาติที่แล้วหรือเปล่าครับ
     
  20. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ปฏิธรรมครับก็จะทุเลาลงได้ แนะนำให้ใช้กรรมฐานแบบอาปาณานัสติครับ ดูลมหายใจเข้าและออก ดูที่จุดกระทบที่ปลายจมูก กำหนดพุธ-ขณะลมเข้า โธ-ขณะลมออก หรือจะใช้องค์กำหนดอื่นก็ได้ เช่น พ่อ-แม่ ก็ได้
    เจริญในธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...