+++ ขอปิดกระทู้ครับผม +++

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย parata1, 29 เมษายน 2013.

  1. 7sense

    7sense เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,482
    ค่าพลัง:
    +3,025
    จองครับ
     
  2. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326

    ....รับทราบการจองครับผม.....
    :cool:
     
  3. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 86......(1)เหรียญเสมา รุ่น1 หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม...
    ***สุดยอดประสพการณ์***


    ...หลวงปู่มหาเจิม ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่ให้จัดสร้างเพียง ***ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย*** และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิมเป็นประธานจุดเทียนชัย ทำการอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ พระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ
    หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม,
    หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย,
    หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม,
    หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์,
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น,
    หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย,
    หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,
    หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด,
    หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญฯ
    หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล เป็นพระอริยสงฆ์อีกองค์ตามที่หลวงตามหาบัวเคยบอกครับผม....
    ....บูชาพิเศษ ปิดรายการ บาท...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013
  4. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 87......(2)เหรียญเสมา รุ่น1 หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม...

    .......หลวงปู่มหาเจิม ท่านได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลของท่านเป็นกรณีพิเศษ เมื่อปี พ.ศ.2549 แต่ให้จัดสร้างเพียง ***ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย*** และนับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้าง โดยได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิมเป็นประธานจุดเทียนชัย ทำการอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับ พระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ
    หลวงปู่พระมหาเจิม วัดสระมงคล จ.นครปฐม,
    หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย,
    หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม,
    หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์,
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น,
    หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี
    หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย,
    หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก,
    หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด,
    หลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญฯ
    หลวงปู่มหาเจิม วัดสระมงคล เป็นพระอริยสงฆ์อีกองค์ตามที่หลวงตามหาบัวเคยบอกครับผม....
    ...ปิดรายการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013
  5. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 88.....เหรียญหันข้าง รุ่น ๑ ครบรอบ ๙๐ ปี หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

    .....หลวงปู่มหาเจิม นามเดิมว่า เจิม วรรณโมฬี เกิดที่บ้านหนองแหน ต.เมืองใหม่ อ.พนมสารคาม(ปัจจุบันเป็น อ.ราชสาสน์) จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง บิดามีนามว่า นายหรุ่น วรรณโมฬี มารดามีนามว่า นางม้วน วรรณโมฬี มีพี่น้องทั้งหมด ๖ คน เป็นผู้ชาย ๔ คน ผู้หญิง ๒ คน ได้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด ๕ คน ที่มีชีวิตอยู่ปัจจุบันเหลือหลวงปู่เพียงองค์เดียว

    การศึกษาของหลวงปู่ในวัยเด็กต้องศึกษากับวัดที่อยู่ใกล้บ้าน โดยเรียนหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) พออ่านออกเขียนได้เท่านั้น เพราะยังไม่มีโรงเรียนประชาบาลตั้งอยู่ในวัดสมัยนั้น และยังต้องย้ายออกจากบ้าน ห่างจากบิดามารดาและญาติพี่น้องมาอยู่ที่วัดตั้งแต่อายุประมาณ ๘ ขวบ

    หลวงปู่ได้บรรพชาเป็นสามเฌร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๐ อายุได้ ๑๒ ขวบ กับหลวงพ่อทองซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแสนภุมมาวาส และได้อยู่กับท่าน ๑ พรรษา ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงปู่ได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ และมาอยู่ที่วัดบรมนิวาส ถนนรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร โดยคุณย่าอิ่ม รัดสกุล เป็นผู้นำมาฝากฝังกับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
    และได้ญัตติเป็นธรรมยุต กับท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ อีกด้วย

    การศึกษาบาลีและนักธรรม ได้เริ่มศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๑ หลวงปู่สอบบาลีไวยากรณ์ได้ที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๒ และ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมเอก และหลวงปู่ยังสามารถสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค ได้ในปีเดียวกัน

    เมื่อหลวงปู่อายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์ จึงได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ณ พระอุโบสถวัดบรมนิวาส โดยมีพระพรหมมุนี (ติสฺโส อ้วน)เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพินิจ วิหารการ (ขำ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    พระครูวินัยธรดำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ หลวงปู่ได้ออกปฏิบัติ โดยเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ ได้จำพรรษาที่วัดเจดีย์หลวง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ๑ พรรษา
    ปี พ.ศ. ๒๔๘๒-พ.ศ. ๒๔๘๗ จำพรรษาที่วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
    ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ จำพรรษาที่วัดทิพย์วนาราม อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    ปี พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้กลับมาจำพรรษาที่ วัดป่าโรงธรรมสามัคคี อีกครั้ง
    ปี พ.ศ. ๒๔๙๐ ลงมาอยู่ภาคกลาง ได้ลงไปจำพรรษาที่อ่าวยาง จ.จันทบุรี เพียงรูปเดียว
    ปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้ไปจำพรรษาที่อ่าวหมู กับ พระอาจารย์น้อย เกตุโร อยู่ ๑ พรรษา
    และได้เดินทางลงไปจำพรรษาที่ปักษ์ใต้ โดยได้ไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (พระราชนิโรธรังสีคัมคีร์ปัญญาวิศิษฏ์) ที่จังหวัดภูเก็ต
    ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ จำพรรษาที่อ่าวลึก จ.กระบี่ กับอาจารย์พรหมมา
    ปี พ.ศ. ๒๔๙๖-พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้อยูจำพรรษาที่คลองช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
    ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ กลับมาจำพรรษาที่วัดแสนภุมมาวาส อันเป็นบ้านเกิด เพื่อเยี่ยมโปรดโยมบิดา โยมมารดา
    ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ กลับลงไปภาวนาที่ภาคใต้อีกครั้ง โดยจำพรราที่อ่าวลึก จ.กระบี่ ได้ ๑ พรรษา
    ปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จำพรรษาที่วัดอรัญญบรรพต จ.หนองคาย กับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ (พระสุธรรมคณาจารย์)
    ปี พ.ศ. ๒๕๐๔-พ.ศ. ๒๕๐๗ จำพรรษาที่วัดเขาแก้ว จ.จันทบุรี
    ปี พ.ศ. ๒๕๐๘-พ.ศ. ๒๕๑๗ จำพรรษาที่วัดป่าคลองกุ้ง จ.จันทบุรี
    ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ กลับไปวัดเขาช่องลม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่อีกครั้ง และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส
    จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๙-พ.ศ. ๒๕๓๑ และในระหว่างนั้นหลวงปู่ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกระบี่ และ พังงา

    ต่อมาท่านได้มาอยู่ที่มูลนิธิพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ซอยจรัลสนิทวงค์ ๓๗ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เพื่อรักษาอาการอาพาธ และมาพักอยู่กับหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท (พระครูสุทธิธรรมรังษี) ที่วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    ปี พ.ศ. ๒๕๓๓-ปัจจุบัน หลวงปู่ได้รับอารธนานิมนต์มาเป็นประธานสงฆ์ วัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งเดิมมีพื้นที่เป็นป่าช้าเก่า สหธรรมิกของท่านที่เคยอยู่ร่วมกันมามีมากมายหลายท่าน เช่น หลวงปู่เทศน์ เทสก์รังษี ,หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ,หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ,หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ,หลวงปู่มหาเนียม สุวโจ ,หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ เป็นต้น

    หลวงปู่ท่านเป็นพระที่ชอบสันโดษไม่หวังลาภยศใดๆ มีลูกศิษย์มาถามท่านว่าทำไมท่านไม่เทศน์บ้าง ท่านตอบว่า "ธรรมมีมากมาย พระเทศน์เก่งๆก็มีเยอะ แต่คนเอาธรรมไปใช้มีน้อย" มีลูกศิษย์ท่านนึงขอธรรมะจากท่าน ท่านได้ให้ธรรมะสั้นๆ แต่ออกจากใจท่านแท้ๆ ท่านเขียนไว้ว่า "ปล่อยว่าง วางเบา เอาหนัก" ท่านบอกว่าใครทำได้ถึงตรงนี้พ้นทุกข์ได้แน่นอน....

    วัตถุมงคลรุ่นแรกและรุ่นเดียว

    ก่อนที่จะมีการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น บ่อยครั้งที่ลูกศิษย์และสาธุชนที่เคารพนับถือในองค์หลวงปู่มหาเจิม จะมากราบขออนุญาต บอกว่า อยากได้วัตถุมงคลของท่านไปกราบไหว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล อยากให้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลของท่านขึ้นมา เพราะต่างทราบดีถึงวัตรปฏิบัติอันงดงามของท่าน โดยท่านเพียงยิ้มรับและไม่เคยอนุญาตจัดสร้าง ที่ผ่านมามีนักสร้างพระได้ไปขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลนับสิบๆ ราย แต่ท่านไม่เคยอนุญาตให้ใครสร้างเลยสักรายเดียว
    "อนุญาตให้จัดสร้างเพียงครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย จากนั้นให้เลิกสร้างโดยเด็ดขาด" นี่เป็นข้อแม้ของหลวงปู่มหาเจิมในการอนุญาตให้ศิษยานุศิษย์สร้างวัตถุมงคลเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ประกอบด้วย พระยอดธง เหรียญเสมา เหรียญรูปไข่หันข้าง รูปหล่อลอยองค์ รูปหล่อยืน และพระปิดตาจัมโบ้ผสมผงเกศาหลวงปู่มหาเจิม
    ทั้งนี้หลวงปู่มหาเจิมได้ให้เหตุผลไว้ว่า สาเหตุที่อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลในครั้งนี้ เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนสร้างพิพิธภัณฑ์บริขารของท่าน ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างสูงถึง ๔๐ ล้านบาท
    เหรียญเสมา เหรียญรูปไข่หันข้าง และพระปิดตาจัมโบ้ เมื่อครั้งที่ออกจากวัดนั้น เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๙ ทางวัดได้ตั้งไว้ราคาเดียว คือ ๙๙ บาท ส่วนรูปหล่อลอยองค์ ราคา ๑๙๙ บาท ด้วยเหตุที่มีประสบการณ์ร่ำลือเรื่องพุทธคุณ นับตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๙ ผ่านไป ๖ ปี ค่านิยมจึงเพิ่มขึ้นประมาณ ๑,๕๐๐ บาท ส่วนรูปหล่อยืนนั้นสร้างเพียง ๙๙ องค์ ออกครั้งแรกราคา ๕,๐๐๐ บาท ปัจจุบันให้เช่าบูชาสูงถึง ๓๐,๐๐๐ บาท

    ...ปิดแล้ว
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013
  6. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    ....พระเครื่องทุกรายการ จองได้ไม่เกิน 5 วันนะครับ รับประกันความแท้ 100% และขอเพิ่มค่าจัดส่ง ems 50 บาท / ทุกรายการครับผม....

    วีระพงษ์ ทวะชาลี เลขบัญชี 511-296-212-2 ธ.ไทยพาณิชย์ ออมทรัพย์​
    โทร 089-7152530
     
  7. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ phong999
    รายการที่ 70....พระรูปเหมือนนั้งในระฆัง หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน รุ่น๑ เนื้อผงมหาพุทธคุณและจารมือของหลวงพ่อท่าน ปี๒๕๔๖ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นพระเนื้อผงฟอร์มสวยสภาพสวยสมบูรณ์มีเสน่ห์นิยมและหายากมากๆครับ พระดีพุทธคุณประสบการณ์สูงมากๆครับ จัดมาพร้อมกล่องคู่องค์พระเดิมๆจากวัดครับ

    .....บูชาเบาๆ 400 บาท.....พิเศษ 300 บาท
    ขอจองครับ


    .....ท่าน riharaj_wit;7978011 ได้ยกเลิกการจอง รายการที่ 70....พระรูปเหมือนนั้งในระฆัง หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน รุ่น๑ นี้แล้วนะครับผม...ขอบคุณครับ....
     
  8. dragon184

    dragon184 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ผมโอนเงิน 2,650 บาท ช่วยเย็นวันนี้ ช่วยเช็คด้วยครับ ที่อยู่ใน PM ครับ
     
  9. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    ...รับทราบครับผม เดี๋ยวจัดส่งตามที่แจ้งครับ ขอบคุณครับผม....
    :cool:
     
  10. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 89....พิมพ์พระศรีอาริยเมตไตย หลวงปู่ทองทิพย์ กรุวัดป่าสีดาพระรามรัตนโคตร จ. หนองคาย....เริ่มหายากแล้วครับผม.....
    .....พิเศษ 700 บาท.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0180.JPG
      SAM_0180.JPG
      ขนาดไฟล์:
      148.9 KB
      เปิดดู:
      4,896
    • SAM_0181.JPG
      SAM_0181.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19 KB
      เปิดดู:
      3,881
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2013
  11. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 90...... พระผงรูปเหมือนนั่งเสือ รุ่นแรก ครบรอบ 87 ปี หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโธ วัดสิงหารินทาราม จังหวัดบึงกาฬ พระป่ากัมมัฎฐานสาย ลป.มั่น สภาพสวยหายากครับผม...
    .....พิเศษ 300 บาท.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0184.JPG
      SAM_0184.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.7 KB
      เปิดดู:
      4,538
    • SAM_0185.JPG
      SAM_0185.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.7 KB
      เปิดดู:
      5,198
    • 622372-3e9e0.jpg
      622372-3e9e0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      52.5 KB
      เปิดดู:
      124
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กรกฎาคม 2013
  12. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 91.....พระผงรูปเหมือน พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก สภาพสวย เกศาเห็นชัดมากครับผม....
    ....พระผงพิมพ์เตารีดพิมพ์ใหญ่ พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ลูกศิษย์ท่าน( หลวงพ่อถาวร วัดป่าเหวไฮ อุดรธานี)สร้างถวายมีมวลสารที่สร้าง หลัก ๆ มีไม้แป้งจากพม่า ว่านหลายชนิดเรียกได้ว่ามากกว่า 108 ชนิด ครับ ข้าวหารหิน ข้าสารดำ เกสาพระอาจารย์เปลี่ยน ของธนสิทธิ์ ฯลฯ สร้างประมาณปี 2543 หลังจากนั้น พระอาจารย์เปลี่ยนบอกให้เอาไปไว้ในกุฏิท่านเพื่ออธิฐานจิต 1 พรรษา สภาพสวยกริ๊บเดิมๆ สีเหลืองอ่อน สวยแชมป์ครับผม
    พระอาจารย์เปลี่ยน เป็นพระที่มีความแกล้วกล้าทางกสิณไฟอีกรูปหนึ่ง ในการถ่ายภาพของท่านมักเจอสิ่งประหลาดเกิดขึ้นบ่อยครับ
    ปิดรายการ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0469.JPG
      SAM_0469.JPG
      ขนาดไฟล์:
      20.9 KB
      เปิดดู:
      64
    • SAM_0470.JPG
      SAM_0470.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.4 KB
      เปิดดู:
      83
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013
  13. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 92....เหรียญหลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก ปี 2528 รุ่นฉลองพิพิธภันฑ์ เนื้อทองแดง สภาพสวย ท่านเป็นพระป่าปฏิบัติศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตอีกองค์ ครับผม

    ๏ อัตโนประวัติ
    “หลวงปู่สาม อกิญฺจโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าไตรวิเวก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ พระป่าปฏิบัติศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล และหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม

    หลวงปู่สาม มีนามเดิมว่า สาม เกษแก้วสี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ตรงกับเดือนกันยายน พ.ศ.2443 ณ บ้านนาสาม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายปวม และนางถึง เกษแก้วสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 11 คน ท่านเป็นบุตรคนโต (หัวปี)
    ๏ การบรรพชาและอุปสมบท
    ชีวิตในวัยเด็กนั้นสุดแสนยากลำบาก เพราะท่านต้องทำงานทุกอย่าง ลักษณะคล้ายผู้หญิงด้วยว่า น้องๆ ของท่านเป็นผู้ชายเสียหมด ไม่มีผู้หญิงเลย เมื่ออายุ 19 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร สายมหานิกาย ณ วัดบ้านนาสาม อันเป็นวัดใกล้บ้านเกิดของท่าน จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์
    ๏ พระป่าศิษย์สาย “หลวงปู่มั่น”
    ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย ต่อมาใน พ.ศ.2467 เมื่อทราบข่าวและกิตติศัพท์ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ว่าได้กลับจากธุดงค์และจำพรรษาที่วัดป่าหนองเสม็ด ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน
    หลวงปู่ดูลย์ เห็นถึงความตั้งใจและความพากเพียรที่จะเอาดีทางด้านประพฤติปฏิบัติของศิษย์ จึงแนะนำให้ไปศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่จังหวัดสกลนคร
    ท่านจึงกราบลาออกเดินธุดงค์รอนแรมไปท่ามกลางป่าเขาเป็นเวลาหลายเดือน กว่าจะได้เข้านมัสการหลวงปู่มั่น แล้วท่านก็ได้พักปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น 3 เดือน ภายหลังจากสามเดือนผ่านไป หลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงปู่สาม ไปพบกับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม เพื่อเป็นพระผู้ฝึกฝนอบรมสั่งสอนต่อไป ในปีที่มาอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สิงห์นั้น ท่านได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจอยู่กับการปฏิบัติจนต้องล้มป่วยอย่างหนักเกือบเสีย ชีวิต แต่ด้วยจิตใจเข้มแข็งแรงกล้าในธรรมะของพระศาสดาเจ้า พร้อมกับได้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นภายในใจ ท่านไม่ยอมละลดต่อสู้กับโรคภัยนั้น ชนิดผอมหนังหุ้มกระดูก ต้องอาศัยกำลังใจ และไม้เท้ายันตัวเดิน ท่านเคยเล่าไว้ตอนหนึ่งว่า “เรานักต่อสู้ลูกพระพุทธเจ้า ถ้ามันยังไม่ตายยังหายใจอยู่ แม้ขาเดินไม่ได้เอาไม้เท่าเดินก็ต้องยอมตายกับความดีงามนะพวกเธอ” ครั้นได้พบหลวงปู่มั่นและหลวงปู่สิงห์ และหลวงปู่ทั้งสองได้รับตัวท่านไว้เป็นศิษย์ ให้การอบรมสั่งสอนแล้ว ท่านจึงกราบลาไปจำพรรษาที่จังหวัดสุรินทร์
    ๏ ญัตติเป็นธรรมยุต
    หลวงปู่สาม แต่เดิมท่านบวชพระเป็นฝ่ายมหานิกาย เพราะในจังหวัดสุรินทร์สมัยนั้นยังไม่มีพระฝ่ายธรรมยุตเลย ต่อมา หลวงปู่สามได้ย้อนกลับไปพบหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม เพื่อญัตติเป็นสายธรรมยุต ณ วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูจิตวิโส เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่สิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์มหามึน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “อกิญฺจโน”
    ๏ ออกเดินธุดงค์เพื่อมุ่งปฏิบัติภาวนา
    หลวงปู่สาม เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านไม่ค่อยยอมอยู่กับที่ จะอยู่ก็เพียงเข้าพรรษา หรือขออุบายธรรมจากครูบาอาจารย์ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ท่านก็จะเดินธุดงค์ต่อไปตั้งแต่เหนือจดใต้จากภาคกลางจดภาคตะวันออก ภาคอีสานทั้งหมด ท่านเป็นพระนักธุดงค์กรรมฐานที่มีความมานะอดทนเป็นพิเศษ ท่านถือคติที่ว่า “ท่านเป็นศิษย์ของพระตถาคต แม้ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด” หลวงปู่สิงห์ได้ชี้แนะให้ท่านไปธุดงค์ฝึกจิตกัมมัฏฐาน เทศนาสั่งสอนญาติโยม ร่วมกับพระอาจารย์ลี ธัมมธโร ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เมื่อถึงช่วงออกพรรษา หลวงปู่สาม จะเสาะหาสถานที่วิเวกตามป่าเขา เพื่อประกอบความเพียร เมื่อเดินทางกลับทุกครั้ง หลวงปู่สามจะไปพบหลวงปู่ดูลย์ ที่วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ เพื่อช่วยบูรณะสร้างอุโบสถ และได้ไปธุดงค์ในภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ระยอง เป็นต้น
    ตั้งแต่สมัยเป็นพระภิกษุหนุ่มจนเข้าสู่วัยชรา ท่านได้ต่อสู้ชีวิตทุ่มเทกับการปฏิบัติมาอย่างโชกโชน ท่านเพ่งเพียรภาวนาอยู่เป็นนิจ ครั้นมาปรารภกับตนเองว่า “บัดนี้กำลังกายของเราก็อ่อนแอลงไปมากแล้ว น่าจะกลับมาอยู่ถิ่นเดิม คือในจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนี้แล้วก็ยังจะได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ คือหลวงปู่ดูลย์ อีกทั้งมารดาของท่านก็ได้ชราภาพมากแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำธรรมะที่ท่านได้รับมาทั้งหมดเผยแผ่แก่บรรดาสาธุชน ต่อไปอีกด้วย” หลวงปู่สาม จึงได้เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่บัดนั้น ท่านเคยเล่าเหตุการณ์ของพระธุดงค์สมัยก่อนนั้นว่า “สมัยโน้นพระธุดงค์ก็ลำบาก ชาวบ้านก็ลำบาก เพราะไม่เจริญอย่างปัจจุบันนี้นะ แต่มีความเพียรแรงกล้า มุ่งอรรถมุ่งธรรมกันจริงๆ มาสมัยนี้หละหลวมไม่เอาดีเลย สอนแล้วก็ลืม…ลืมปฏิบัติกัน !”

    ผลแห่งความเพียรปฏิบัติธรรม ท่านได้ฝึกจิตให้แกร่งกล้า ถึงขั้นฌานสมาบัติ อันเป็นรูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4
    ต่อมา พระอาจารย์ลี ธัมมธโร แจ้งให้ทราบว่า หลวงปู่มั่นจำพรรษาที่จังหวัดสกลนคร จึงพากันเดินทางไปขอคำปรึกษาข้อปฏิบัติธรรมที่ติดขัด หลวงปู่มั่นแนะให้ไปฝึกกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เมื่อทราบว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ถึงแก่มรณภาพลงที่จังหวัดสกลนคร หลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ดูลย์, หลวงปู่แหวน, หลวงปู่ฝั้น, หลวงปู่สาม, พระอาจารย์ลี, พระอาจารย์อ่อน, พระอาจารย์วัน และพระอาจารย์จวน ไปร่วมจัดงานบุญให้หลวงปู่มั่น
    ๏ เผยแผ่แนวทางกัมมัฏฐานในภาคใต้
    วันหนึ่ง หลวงปู่สามได้รับจดหมายจากหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ส่งจากมาจากจังหวัดภูเก็ต ให้ไปช่วยเผยแผ่แนวทางกัมมัฏฐานให้พระภิกษุ-สามเณร ในภาคใต้ หลวงปู่สาม ท่านจึงเป็นกำลังใน “กองทัพธรรม” ที่สำคัญองค์หนึ่ง กล่าวคือ ท่านเดินทางร่วมไปปูพื้นฐานทางธรรมกับหลวงปู่เทสก์ และคณาจารย์อีกหลายสิบองค์ทางภาคใต้ การเผยแผ่ในครั้งนั้น แม้จะมีอุปสรรคอย่างมากมาย แต่ด้วยกำลังใจอันแน่วแน่มั่นคงของพระธุดงค์กรรมฐาน จึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคนั้นๆ ได้สำเร็จผลอย่างงดงาม เป็นที่ยอมรับในหมู่ชนชาวภาคใต้เป็นอันมาก คติธรรมที่หลวงปู่เทสก์ปรารภแก่คณะผู้ออกเผยแผ่ธรรมยึดมั่นในจิตใจ คือ “เปียกได้…ไหม้เสีย” หลวงปู่สาม ได้นำมาสอนอบรมบรรดาศิษย์ในกาลต่อมา เป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ควรน้อมเข้ามาพิจารณาคำนี้ให้จงหนัก หลวงปู่สามท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนำธรรมะออกเผยแผ่สู่ ประชาชนด้วยเมตตาธรรม หลวงปู่สาม เผยแผ่ธรรมที่ภาคใต้ เป็นเวลา 5 ปี จึงเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ ก่อนย้อนกลับไปที่จังหวัดภูเก็ต และที่ภาคตะวันออก รวมระยะเวลา 20 ปี ในการแสวงบุญธุดงค์ทำให้หลวงปู่สาม บังเกิดความเพียร ลดละกิเลส คือ ความอยาก ความรัก และความชัง หากปล่อยวางได้จนหมดสิ้นแล้ว ภายหลังได้ทราบข่าวว่า หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ได้มรณภาพลง ณ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา จึงไปช่วยงานบุญพระราชทานเพลิงศพ ก่อนเดินทางไปธุดงค์ที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2510 ได้มีญาติโยมนิมนต์หลวงปู่สาม ไปพำนักจำพรรษาที่บ้านขนาดปริ่ง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่ได้มีหน่วยงานราชการ ชี้แจงว่า บริเวณสำนักสงฆ์เป็นพื้นที่ป่าทำเลเลี้ยงสัตว์ พ.ศ.2512 หลวงปู่สาม ได้ย้ายไปอยู่ในป่าละเมาะ บ้านตระงอน กิโลเมตรที่ 11 ถนนสุรินทร์-ปราสาท ต.นาบัว ไม่วายโดนร้องอีก แต่ถึงจะเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ก็ยังถูกลอบทำร้ายจากมนุษย์ใจบาป ในเรื่องนี้ท่านกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย..มันเป็นกรรมนะต้องใช้กรรมเวร ยุติธรรมดีแล้ว แม้พระพุทธเจ้าของเราลูกเห็นไหม ? พระองค์ยังต้องประสบในเรื่องเช่นนี้นะ ฉะนั้น จงปล่อยไปตามกรรมที่ทำไว้แต่หนหลัง ปัจจุบันทำจิตใจของตนเองให้บริสุทธิ์ก็พอแล้ว ทำอย่างไรหนอ จึงจะพ้นทุกข์นี้ไปได้เท่านั้น”
    ๏ สร้างวัดป่าไตรวิเวก
    เวลาไม่นาน ได้มีคณะญาติโยมมีจิตศรัทธาถวายที่ดิน กิโลเมตรที่ 12 สร้างเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ เพื่อพำนักปฏิบัติธรรม กลายเป็นที่มาของการจัดตั้งวัดป่าไตรวิเวก
    ๏ การสร้างวัตถุมงคล
    ด้านวัตถุมงคล พ.ศ.2512 อนุญาตให้ศิษยานุศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญรูปเหมือน รุ่น 1 และอีกหลายรุ่นในปีถัดมา เช่น กริ่งรูปเหมือน พระผงสมเด็จ พระผงรูปเหมือน เป็นต้น วัตถุมงคลทุกรุ่นได้รับความนิยมสูง ทำให้พัฒนาถาวรวัตถุภายในวัดเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ
    ๏ ปฏิปทา
    “ปฏิปทาของหลวงปู่สาม อกิญฺจโน นั้น สาธุชนที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการคงจะตระหนักดีว่า มีความคล้ายคลึงกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล มากทีเดียว ท่านมากไปด้วยขันติ โสรัจจะ อดทน สงบเงียบ เยือกเย็น ชีวิตเพศแห่งสมณะหลวงปู่ไม่เคยว่างเว้นในการเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาและใน จังหวัดต่างๆ จิตของท่านเต็มไปด้วยเมตตา ไม่เคยขัดศรัทธาคณะศรัทธาญาติโยมใครๆ เลย”
    ๏ การมรณภาพ
    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย บ่อยครั้งเกิดอาการอาพาธ ต้องเข้า-ออกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 หลวงปู่สามได้มรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุรวม 91 พรรษา 71 ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นยิ่งนัก

    ปิดรายการ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013
  14. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    ............:cool::cool::cool:............
     
  15. team11

    team11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,506
    ค่าพลัง:
    +295
    พี่ส่งเหรียญนี้ด้วยนะคัรบ
     
  16. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    ....จัดส่งให้แล้วครับผม.... EK 0145 3795 6 TH ขอบคุณครับผม....
     
  17. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    .....จัดส่งให้แล้วครับผมเมื่อวานนี้ EK 0145 37960 TH ขอบคุณครับผม...
     
  18. มีนัม

    มีนัม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    533
    ค่าพลัง:
    +5,750
    โอนเงินให้แล้ว 300.24 บาท สำหรับรายการที่ 80 ครับ
    ส่งหลักฐานให้ทางsmsครับ
     
  19. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    ...รับทราบครับผม ขอบคุณครับ....
     
  20. parata1

    parata1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,447
    ค่าพลัง:
    +326
    รายการที่ 93......(2) พระธาตุข้าวบิณฑ์ เกศา จีวร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อ.ลี้ ลำพูน พร้อมกล่องเดิมจากวัดครับ...

    ....พิเศษ ปิดรายการ บาท....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0012.JPG
      IMG_0012.JPG
      ขนาดไฟล์:
      131.6 KB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_0013.JPG
      IMG_0013.JPG
      ขนาดไฟล์:
      97 KB
      เปิดดู:
      62
    • IMG_0014.JPG
      IMG_0014.JPG
      ขนาดไฟล์:
      74.8 KB
      เปิดดู:
      70
    • p9-307.jpg
      p9-307.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.1 KB
      เปิดดู:
      63
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...