บทความสงสัยในพระพุทธศาสนาใครรู้ช่วยบอกเค้าที

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย undeath13, 26 ตุลาคม 2007.

  1. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ตอบกระทู้น้องเขาไปแล้วครับ
     
  2. กิเลศเยอะ

    กิเลศเยอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +676
    ถ้าคุณคิดว่า บุญบาป เป็นตัวกำหนดชั้นวรรณะ
    ถ้าเป็นแบบนั้น
    คุณก็กำหนดชั้นวรรณะตัวเองไม่ใช่หรอ
    บุญบาป คุณเลือกเอง
    บางสิ่งบางอย่างมันรู้ได้เฉพาะตน
    มันอธิบายคนอื่นไม่ได้หรอก
    ธรรมมะมันลึกซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    คนที่ไม่เข้าใจ
    คิดว่าตัวเองฉลาด
    คิดว่าตัวกู ของกู
    เวลาพวกเขาตายไป
    เขาจะรู้เอง
    แต่รู้เมื่อสาย
     
  3. พุทธนิรันดร์

    พุทธนิรันดร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,641
    ค่าพลัง:
    +5,039
    เรียนคุณ Webmaster ครับ
     
  4. พุทธนิรันดร์

    พุทธนิรันดร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    1,641
    ค่าพลัง:
    +5,039
    เรียนคุณ Webmaster ครับ ผมเสนอให้ปิดกระทู้นี้เสียเถิดครับ อ่านหัวข้อกระทู้ดูแล้วก็ไม่สร้างสรรค์เลยครับจะชักจูงอีกหลายคนตกนรก และขอให้พวกเราอโหสิกรรม(อภัยทานซึ่งเป็นบุญสูงสุดแห่งทาน)ให้เจ้าของกระทู้ และอยากให้เจ้าของกระทู้เปิดใจกว้างลองมาพิสูจน์ศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังก่อนดีไหมครับจึงค่อยสรุปออกมา และขอโมทนาบูญกับการพบสัจธรรมของท่านล่วงหน้ามา ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ
     
  5. jinnivan

    jinnivan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +250
    ผู้คิดอย่างนี้ยังมีอีกมาก มากจริงๆในสังคมพุทธ เราผู้เป็นพุทธมามกะต้องช่วยกันชี้แจงให้เห็นกระจ่าง เด็กยุคใหม่ส่วนใหญ่เลยจะคิดอย่างนี้ นับเป็นเรื่องน่าเศร้าในสังคมที่ไม่มีใครให้ความกระจ่างกับเขาได้ ผู้สอนวิชาพุทธศาสนาในโรงเรียนก็ควรมีภูมิรู้ให้ลึกซึ้ง แต่เชื่อได้ว่าเมื่อโตขึ้น จะมีกลุ่มหนึ่งที่เข้าใจเหตุผลนี้หันกลับเข้ามา และจะมีกลุ่มหนึ่งที่เบือนหน้าไป
     
  6. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830

    ผมถามตั้งหลายวันละว่าเปลี่ยนชื่อกระทู้ยังไงก้อไม่มีคนบอก มันก้อเลยค้างแบบนี้ไงคับ แล้วผมน่ะศิษหลวงพ่อนะครับ อ่านให้ดีๆอ่านให้หมดว่าใครเปนคนเขียนบทความขึ้นมากันแน่เฮ้อ
     
  7. nuaung

    nuaung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +478
    ธรรมะคือสิ่งที่พุทธองค์ทรงสอนนั้นเป็นความจริงต้องปฏิบัติเองถึงจะรู้คุณลองปฏิบัติดูก่อนแล้วค่อยมาพูด พระพุทธองค์ไม่ถือโทษหลอกแต่กฎแห่งกรรมไม่มีเว้น มันเป็นกรรมหนักมากนะ
     
  8. แสงดาวของหัวใจ

    แสงดาวของหัวใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +112
    กดที่ปุ่มแก้ไข มุมล่างขวาของโพสที่เป็นเนื้อความของกระทู้
    พอเข้าไปแล้ว ...
    มันจะมีให้แก้ไขได้ทั้งหัวข้อ และเนื้อความครับ

    ลองทำดูก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที :cool:
     
  9. ว.อริยะ

    ว.อริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +346
    พระพุทธเจ้าโกหกเหรออ๋อผมเชื่อหมดเลยเพราะผมศัทธาสูงเชื่อง่าย..แต่ใครคนใดที่มันเลวๆโกหกผม..ผมไม่เชื่อมัน
     
  10. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    ขอประมวลสรุปเหตุการณ์ทั้งหมดของเจ้าของกระทู้ดังนี้

    1. ได้รับข่าวสารมาจากแหล่งหนึ่งอันเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ว่าภายหลังจะไม่ได้เห็นด้วยกับข้อความดังกล่าว แต่ วิจิกิจฉา อันเป็นสังดยชน์ 1 ใน 4 ของอริยะชั้นต้นเกิดให้เห็น

    2. ด้วยความลังเลสงสัยนั้นก่อให้เกิดเป็นความไม่รู้เท่าทันกฏแห่งกรรม จึงได้เผลอเรอ ไม่ทันสำรวมวาจา ทำให้ตั้งหัวกระทู้ผิดพลาด แม้รู้เท่าทันละอายต่อบาปในภายหลัง แต่กรรมที่ก่อไปก็สายเกินแก้เสียแล้ว จึงต้องรับกรรม ตามกฏแห่งกรรมที่ท่านไม่ทันเฉลียวใจนั้นเอง

    *****

    บัดนี้ตาธรรมของท่านได้เปิดกว้างพอที่จะรับธรรมที่เราได้รับฟังมาอย่างนี้

    เรื่อง วรรณะ ที่แบ่งแยกด้วยคำว่า บุญ กับ บาป หรือ ดี กับ ชั่ว นั้นไม่ถูกต้อง

    ก่อนที่จะกล่าวถึงสัธรรมของตถาคตเราขอชี้ให้เห็นถึงการใช้ความรู้ที่ติดตัวเราตามระบบสมมติบัญญัติที่คนธรรมดาใช้สื่อสารกันตามความเข้าใจของปุถุชนเสียก่อน กล่าวคือ บุญ-บาป กับคำว่า ดี-ชั่ว นั้นไม่เกี่ยวกันเลย เราขอขยายความของสองชุดคำนั้นใหม่ดังนี้ เป็นทางกุศลแก่ตัว-เป็นทางอกุศลแก่ตัว กับคำว่า ส่งผลดีแก่ตัว-ส่งผลร้ายแก่ตัว เมื่อขยายความอย่างนี้แล้วจะเห็นว่า กาละ ของในเชิงอรรถของอนุพยัญชะนี้มีความแตกต่างกัน กล่าวคือ คำชุดแรกนั้น คือ หนทาง ที่ควรกระทำแต่ยังไม่ได้กระทำ ส่วนคำชุดที่สองนั้น คือผลกรรมที่ส่งผลจากการกระทำที่ทำเสร็จสิ้นไปแล้ว ด้วยเหตุนี้เองคำสองชุดนี้ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบในลักษณะแทนกัน แต่จะต้องแยกกันพูดหรือแสดงให้ถูกกาละเทศะหรือบริบท

    ส่วนธรรมะของตถาคตนั้นนักปริยัติผู้ทรงคุณวุฒิจะใช้เพียง ขาว-ดำ แต่กระนั้นก็ยังเป็นคำที่สั้นและอาจทำให้เห็นความแตกต่าง โดยส่วนตัวเรานั้นเราเห็นว่าน่าจะเข้ากับ สว่าง-ไม่สว่าง เมื่อใช้คำนี้แล้วจักเห็นว่าเราจะไม่สามารถใช้ตาเนื้อ หรือความเห็นใดๆแบบปุถุชนเขาแบ่งแยกบุคคลได้อีกเลย เว้นเสียแต่ท่านจะมีตาธรรม และเข้าใจการใช้ตาธรรมนั้นในการส่องสว่างไปให้เห็นความไม่สว่างในบุคคลที่คุณต้องการแบ่งแยก เพราะความสว่างและไม่สว่างนั้นมีอยู่ในทุกรูปทุกนามเกิดขึ้นสลับกันอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

    ในปุถุชนธรรมดานั้นความสว่าง และไม่สว่างจะเกิดขึ้นโดยมีความเอนเอียงไปทางหนึ่งสืบเนื่องติดต่อกันเป็นเวลานานพอที่จะเห็นเป็น คนที่สว่างตลอด หรือคนที่ไม่สว่างอยู่ตลอด บุคคลเหล่านี้เราจะเห็นได้ง่ายว่ามีพฤติกรรมอย่างไร แต่จะเห็นว่ามีอยู่ในทุกชั้นวรรณะ นี้เองจึงเป็นที่มาของความสว่างและไม่สว่างที่ไม่อาจแบ่งแยกได้ด้วยการใช้วรรณะเป็นสมมติฐานตามอนุพยัญชนะ

    ส่วนความสว่าง และไม่สว่าง จะเป็นอีกวรรณะหนึ่งที่ท่านจะเล็งเห็นว่ามีความแตกต่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสว่างในตัวท่านเองที่จะสามารถทำให้ ความสว่าง เกิดติดสืบเนื่องกันโดยตลอดได้เร็วอย่างไร ถ้าสามารถทำให้ความสว่างในตัวท่านเกิดขึ้นติดต่อกันโดยมีความไม่สว่างเกิดขึ้นไม่ทันชั่วฟ้าแล๊บ ท่านก็จักไม่เห็นจะต้องไปอุปทานว่าความสว่าง หรือไม่สว่างนั้นแตกต่างอย่างไร และเมื่อเข้าใจเสียสิ้นครบรอบแล้วแม้นความสว่าง และไม่สว่างนี้ก็ไม่ได้มีอีกต่อไป

    *******
    อย่างไรก็ตามท่านเจ้าของกระทู้ก็มีความกล้าหาญที่ดีเยี่ยม แม้นท่านจักไม่กลัวความตายโดยได้สมมติเป็นชื่ออันเป็นตัวแทนแห่งอุดมคติของท่าน กระนั้นความกล้าหาญดังกล่าวก็ควรรักษาและใช้ไปในทางที่เป็นความสว่างแก่ตัว โปรดพิจารณาด้วยความฉลาดเฉลียวที่ท่านมีในการระมัดระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดจากการไม่ได้คำนึงถึงหรือเผิกเฉยเหตุเพราะความไม่กลัว ความกลัว หรือ ไม่กลัวนี้ ถ้ายังมีอยู่หรือใช้เป็นเหตุผลผลักดันกริยาใดๆอยู่ ก็แสดงว่า หลง อยู่ จึงฝากท่านพิจารณาแล้วแต่เห็นสมควร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤศจิกายน 2007
  11. dogsman

    dogsman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    898
    ค่าพลัง:
    +3,094
    ขอความรู้และคำอธิบายจากท่านผู้รู้ด้วยครับ(จากผู้ที่ยังไม่รู้..เป็นวิทยาทาน)
    ปุจฉา..
    1.ผู้หญิง..ไม่สามารถบวชเป็นพระได้..และไม่สามารถถูกเนื้อต้องตัวพระได้
    เพราะจะทำให้ศีลของพระขาด..เป็นการแบ่งแยกทางเพศหรือเปล่าครับ..
    2.ผู้หญิง..เป็นอุปสรรคของพระภิกษุในการปฏิบัติธรรม..หรือเปล่าครับ..
    3.ผู้หญิง..สามารถปฏิบัติธรรม..บรรลุธรรม..เข้าถึงนิพพานได้หรือไม่ครับ..
    คำถามทั้งหมดไม่มีเจตนาลบหลู่พระพุทธศาสนาหรือหลักธรรมคำสอนใดๆทั้งสิ้น..ขออนุโมทนา..สาธุ..สำหรับผู้ที่จะให้ความรู้เป็นวิทยาทาน..สาธุ..
     
  12. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    วิบากกรรมของผู้ที่เห็นผิด หรือ เป็นมิจฉาทิฎฐิ คือ "โลกันตนรก"
    สัมมาทิฏฐิ เป็นข้อแรกของอริยมรรค ถ้าใครไม่มีข้อนี้ละก็ "Good bye" ตัวใครคัวมัน
     
  13. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    การแบ่งแยก หญิง ชาย นั้น สิ่งใดที่ใช้เป็นตัวแบ่งแยก
    1. การประชุมของธาตุที่แตกต่างกัน ทำให้มีกิจข้อวัตรต่างกันประการหนึ่ง
    2. การใช้ตาเนื้อมองออกไปเห็นอย่างไรประการหนึ่ง

    การแบ่งแยก หญิง ชาย นั้น ทางธรรมแล้วไม่มีการแบ่งแยก
    1. เหตุเพราะธาตุที่ประชุมอยู่แตกต่างกันนั้น เมื่อพิจารณาไปแล้ว ก็มี 4 ธาตุเท่ากัน
    2. การใช้ตาในมองออกไป ถ้าภายในนั้นมีแต่ความบริสุทธิ์แห่งไตรสิกขา ก็ย่อมไม่เห็นมีอะไรแตกต่างกัน



    แต่ทำไมถึงมีการแบ่งแยก

    เปรียบไปเหมือนคนอยู่ในรั้วสัมมาทิฏฐิ กับคนอยู่รั้วสัมมาทิฏฐิ

    คนอยู่ภายนอกย่อมมองมาเห็นกำแพง และประตู ย่อมมองเห็นอาณาเขตแบ่งแยก ย่อมคิดไปว่าแปลกแยก คนข้างนอกจะยินดีอยู่ข้างนอกมากกว่าเข้ามาอยู่ข้างใน เพราะจะรนทนอยู่ไม่ได้ จะหวลแต่คิดถึงแต่สิ่งที่อยู่ภายนอก อันเป็นสิ่งที่ภายในรั้วไม่มีเลย

    คนภายในนั้นมองเห็นกำแพง และประตู เหมือนกันแต่ไม่ได้เห็นว่าเป็นอาณาเขต คนข้างในจะยินดีอยู่ข้างใน และเห็นคนข้างนอกเข้ามาอยู่ข้างใน แต่จะไม่ยินดียินร้าย เพราะไม่ได้เห็นว่ามีการเข้ามาจากข้างนอกเข้ามาสู่ข้างใน ต่างอยู่ในเขตเดียวกันมาเสมอ

    แต่เพื่อให้คนภายนอกเห็น และเข้าใจได้โดยง่าย จะได้ไม่ผลัดหลงเข้ามาข้างใน แล้วต้องลำบากใจ กระอักกระอวนใจ คิดมาก เกิดอกุศลจิตใดๆ จึงจำเป็นต้องสร้างรั้วให้เห็น เพื่อช่วยเหลือ เพื่อให้เข้าใจเขต เพราะคนภายนอกเห็นได้เฉพาะสิ่งที่ตาเห็น ฉันใด

    ข้อห้ามเรื่อง หญิง ชาย จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอื้อแก่คนภายนอกให้เข้าใจได้ตามที่เขาจะมีกำลังปัญญาจะมองเห็น ก็ฉันนั้น

    หากเมื่อใดที่คนภายนอกสักคนจะได้เดินเข้ามาสู่ข้างใน ก็จะรู้ว่าทำไมคนข้างในถึงไม่ยินดียินร้าย เพราะจะทราบชัดว่า ไม่ว่าข้างใน หรือ ข้างนอก ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งธรรมดาไม่ต่างกัน จักเข้าใจว่า รั้วไม่ใช่อาณาเขตที่คนข้างในแลเห็น เป็นเฉพาะสิ่งที่คนข้างนอกแลเห็น รั้วของคนข้างในที่ใช้แบ่งแยกชั้น วรรณะ ความแตกต่างใดๆ จะไม่มีเลย อาณาเขตของคนข้างในนั้นมีสุดลูกหูลูกตาไม่แบ่งแม้แต่ประเภทสัตว์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2007
  14. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ขอบเขตที่ใช้แบ่ง
    เช่น แบ่งชายแบ่งหญิง แบ่งดีแบ่งชัว แบ่งขาวแบ่งดำ แบ่งมากแบ่งน้อย ฯลฯ
    จริงๆแล้วจะต้องมีคนรับผิดชอบมัน

    แม้กระทั่งเราปฏิเสธได้จริงๆว่า เราไม่ได้แบ่ง ไม่ได้แยก
    ก็ยังถือว่ารับผิดชอบผลร่วมกัน ในฐานะผู้สังเกตุการณ์
    ใช่เหรอ?...

    บางที่เราไปรับทราบเรื่องการฆาตกรรม
    เราก็พยายามเก็บเป็นความลับอย่างยิ่ง ไม่ให้ใครรู้ว่าเรารู้

    หรือบางที เรื่องที่เราไม่รับรู้จริงๆ ก็มีคนมากล่าวหาว่าเรารู้

    ก็เลยมีคนพยายามทำเป็น ไม่รับ ไม่ทราบ ไม่รับ ไม่รู้
    เพื่อจะได้ไม่ต้องคับข้อง หมองใจ
    ทำได้เหรอ?...

    กฏแห่งกรรมก็เช่นกัน
    คุณปฏิเสธได้แน่นอน เป็นสิทธิอย่างเต็มขั้น ที่จะปฏิเสธ
    คุณไม่รับ ไม่รู้ เลยก็ได้
    ลองดูสิ...
    ว่ามันหายมะ?...ที่คับข้องอะ

    ถ้าไม่หาย..ลอง "ยอมรับ" และ "นับถือ" มันดู

    ได้ยินชื่อเสียงมานาน.. ข้าน้อยเลื่อมใส..
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พุทธศาสนา ****

    แก่นสาร ของ ศาสนาพุทธ...คือ "หลักสัจจะธรรม"
    ที่เราเรียกกันว่า..."กฎแห่งกรรม" นั้น....ก็เป็นผลมาจาก "หลักสัจจะธรรม"
    คือ....ตัวการกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน....

    ทำดี จึงมีผลตอบแทนที่ดี
    ทำชั่ว จึงมีผลตอบแทนที่ไม่ดี

    กฎแห่งกรรม จะอยู่เหนือ "หลักสัจจะธรรม" ไม่ได้
    สัจจะธรรม...คือ ธรรมเที่ยง ความจริงสูงสุด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2007
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หลักพุทธ ๓ ประการ ****

    ศาสนาพุทธมีหลัก ๓ ประการ
    ๑. ไม่ใช้วัตถุ
    ๒. ไม่ใช้ความเห็น
    ๓. เรื่องของวิญญาณ

    วัตถุ เป็นสมบัติทางกาย พระพุทธเจ้าไม่ใช้
    พระพุทธเจ้าไม่ใช้ความเห็น พระพุทธเจ้าใช้ความจริง ใช้หลักสัจจะธรรม
    การหลุดพ้นเป็นเรื่องของวิญญาณ พระพุทธเจ้าใช้การกระทำ กับ จิตวิญญาณ สูงสุดก็คือ สัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  17. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ข้อที่ 1 ผู้เป็นเจ้าของบทความไม่ใช่ผู้ถือพุทธศาสนาอย่างแน่แท้
    ข้อที่ 2 คนตั้งกระทู้อาจอยากทราบว่าในเว็บนี้จะมีผู้มีความรู้ในพุทธศาสนาจริงๆอยู่บ้างมั๊ย
    ข้อที่ 3 ทำให้รู้ว่าในสถาบันกรารศึกษาชั้นนำของประเทศ เอาบุคคลากรผู้อ่อนด้อยมาสอนศาสนา สอนเป็นแต่สัทธรรมปฏิรูป พอเจอคำถามแนวนี้ตายลูกเดียว

    ผมมีความรู้น้อย กำลังรอท่านที่เชี่ยวชาญ ที่เคยวิวาทะเรื่องนิพพานทั้งหลาย
    เขาอยากได้คำอธิบาย ก็ลองอธิบายไปสิครับ พุทธศาสนิกชน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2007
  18. แจ้งให้ทราบ

    แจ้งให้ทราบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +691
    ตถาคต แบ่งวรรณะคน ด้วย สิ่งที่เรียกว่าบาปกรรมที่ก่อไว้แต่ชาติปางก่อน (ซึ่งตถาคตบอกว่า คนที่ยังไม่บรรลุนิพพาน ก็ยังไม่มีทางหลุดพ้นจากมันไปได้) จึงเป็นการน่าหัวร่อมากที่ตถาคตออกมากล่าวปฏิเสธการแบ่งวรรณะ เพราะโดยเดิมทีวรรณะนั้นมักจะถูกแบ่งโดยสิ่งที่
     

แชร์หน้านี้

Loading...