ตามครรลองธุลีดิน(ความตายบนเส้นทางโจรสลัด..ของอดีตนักเลงบ้านนอก)

ชวนลงภพเบื้องต่ำ เผื่อใครยังไม่เบื่อ ที่จะมากินมาม่าต่ออีกหลายๆชาติ อิอิ
ว่าจะแจกทองคำม้วน ซะ2-3แผ่น ก็จะลำบากในการเก็บรักษาอีกน่ะค่ะ

ถ้างั้น ใครทายถูกติดต่อ รับรางวันหย่ายจากท่านเจ้าบ้าน ดีป่าวค๊า
เราชิ่งก่อนดีกว่าาา black_pig

กราบขอบพระคุณค่ะ ที่แจ้งข่าว หลวงพ่อทวน

 

ก็สำนักสงฆ์นี่ล่ะครับ ที่ยุคก่อนเจ้าที่เฮี้ยนเหลือเกิน
ล่อเล่นงานซะคุณตาจอมขมังเวทย์ของ toplus99

ต้องเกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่นี่..ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่ รพ.เป็นเดือนๆเชียว
คู่ดูโอ้..กุ๊กๆกู๋ ตัวแสบป่านนี้คงเลิกซ่าไปแล้วล่ะ

 

ยินดีอย่างยิ่งนะคะที่คุณ ระมิงค์ และคุณ คมสันต์USA มาเยี่ยม ณ ครอบครัวtoplus99 (ขอยืมคำนะคะ พี่ต้อย) แห่งนี้ค่ะ ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติม

ขอบคุณสำหรับธรรมทานนะคะ

 

เขาแนะนำมา เลยอยากส่งต่อเพลงค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=IvdxyGR2Cz4

 

คุณทวด
สมัยยังจําความได้ คุณทวด(เรียก ชวด เสียจนชิน) ท่านมีบ้านมุงหลังคาจาก พอฝนตกหรือรั่วที ท่านก็จะเอากระป๋องรอง ท่านมีร่างสูงใหญ่ ตามตัวมีสักเต็มตัว ถามท่านท่านก็ตอบ ฟังรู้บ้างไม่รู้บ้าง สมัยนั้นเขาสักกันด้วย"เข็มลนไฟ"จริงๆ ท่านก็บอกว่าทําให้เป็นไข้ไปหลายวันเลย เข้าเรื่องดีกว่า ท่านรักษาชาวบ้านทางไสยศาสตร์ มีคนมาเยอะ แต่ท่านไม่เอาเงิน ขอแค่นําดอกไม้ธูปเทียนมาเท่านั้น ที่จําได้คือมีอยู่รายนึงเป็นแผลบวมแดงตรงหน้าแข้งขาซ้าย รักษาเท่าไหร่ๆก็ไม่หาย พอมาที่กระท่อมของท่าน(แถวๆบางกอกใหญ่ ฝั่งธน)ท่านก็สวดมนต์พึมพํา ทํานํ้ามนต์หยดเทียนลงไป เสร็จแล้วก็เอากะลา(มะพร้าวที่ผ่าครึ่งแล้ว เป็นเงาวับ)วางครอบบนแผล เอามีดหมอ(ยาวเกินคืบนิดๆ)สับลงกลางกะลานั้น เป่าตามด้วยนํ้ามนต์อีกทีนึง ต่อมาแผลแตก ข้างในเป็นเม็ดข้าวสารราวๆครึ่งกํามืออยู่ในนั้น และต่อมาแผลก็หาย แปลกนะ แต่ก็จริง เพราะไปบ้านท่านทุกวันเลย(บ้านเราจะติดกันสามหลัง ของท่านหลังที่สี่ จุ๋มจิ๋มที่สุด) ถ้าไม่ไปท่านก็จะมาที่บ้าน จับนั่งตัก ผูกสายสิญให้ ที่ชอบมากก็คือ รอบๆสายสิญจะมีแบงค์ใบละบาทพันอยู่ด้วย(ซื้ออมยิ้มได้หลายอันบวกไอติม หวานเย็น) ท่านเสียไปสมัยตอนที่เกิดอหิวาส์ระบาดครั้งใหญ่ในเมืองไทยนั่นแหละ เพราะท่านชอบดื่มกาแฟมาก จะชงใส่ขวดไว้ดื่มทั้งวันเลย(คงโดนแมลงวันเกาะ)เมื่อสักหกเดือนที่แล้วเกิด"อยากรู้"ว่าท่านไปอยู่ที่ไหนหนอ ท่านก็เลยมาให้เห็นว่าอยู่ที่ชั้นพรหม แต่งตัวสวยยิบยับ กางเกงครึ่งขามีรอยโง้งๆด้วย(ในฝันนะ ยังงูๆปลาๆอยู่ สําหรับสมาธิ)

***************************************
จะไปวัดไหนๆ สุดท้ายวัดที่สําคัญที่สุดก็คือ"วัด(ใน)ใจ"
ธรรมะสวัสดีทุกๆท่านค่ะ ;aa19

 

มีเรื่องจะเล่าว่า...

เมื่อคืนที่โคราช ในแถบชานเมืองฝนตกแรงมาก
อึ่ง อ่าง โอ่ง กบ เขียด ออกมาเผ่นพ่านตามถนนเยอะแยะ
พาร้องกันระงม งึมงำเอิ๊กอ๊ากๆเชียว

นึกถึงวัยเด็กบ้านนอกจริงๆ.. แค่นี้แหละ!

 

เล่าต่อจากท่านอ.toplus เลยละกัน ง่ายดีไม่ต้องคิดเยอะ^^
ที่โคราชฝนตก กบเขียดระงม
แต่คนระยอง ฝันว่า เดินย่ำชุ่มฉ่ำกะสายฝนบนคันนาข้าวเขียวขจีใบข้าวพัดไสว เท้าเหยียบย่ำดินโคลน ปลากุ้งดิ้นดุ๊กดิ๊กใต้เท้า จั๊กกะจี้ดีนะ ดีดดิ้นกันน่าดูชม ยังดีที่เราละซึ่งเนื้อเหล่านี้แล้ว หมดโอกาสน้ำลายหกไป ไม่งั้นเจอหลากหลายเมนูแน่นอน ตอนนี้เหลือเป็นเพียง เพื่อนร่วมชะตาฟ้าลิขิต

เจอะเจอควายที่ภักดีประจำตระกูลที่ตายจากไปนับสิบปี (ภักดี รึปล่าวไม่รู้ แต่มันต้องอยู่เพราะไม่รู้จะไปไหนอ่ะนะ)

ในฝัน ได้บรรยากาศบ้านนอกสุดๆ ได้ขึ้นขี่ควาย แล้วมันก็เอาหางมาฟาดกลางหลัง ป๊าดดด!! ขนาดฝัน ช๊านก้อเจ็บนะเนี่ยย ใจร้ายเจงๆ
มันคงคิดว่า น้ำหนักขนาดเธอ รับม่ายไหวมั๊งเนี่ยยย

มาไร้สาระ เพราะบรรยากาศบ้านนอก ท่านอ.toplusพาไปcatt3catt4

 

นำรูปที่ทำบุญถวายสังฆทาน จากบุญของหลายๆท่าน
มาให้พี่น้องครอบครัวอนุโมทนาบุญกันอีกครั้งค่ะ

PS:ของที่ถวาย ไม่สามารถถ่ายรูปให้ดูได้หมดนะค๊า หลากหลายพอควร

 

เอาอีก...เอาอีก
อยากเห็นภาพบรรยากาศจุดชมวิวบนยอดเขาหน่อยครับ

เห็นวิวสูงๆแล้วให้นึกอยากเป็นซุปเปอร์แมน
เหาะเล่นไป-มาบนท้องฟ้าเหนือภูเขาทู๊กกทีเลย...

 

หนุมานคลุกฝุ่น

ก็ไม่รู้ว่า ช่วงนี้อากาศมันวิปริตแปรปรวนรึอย่างไร
ผู้คนถึงได้แสดงอาการแปลกๆแตกต่างกันออกไป
จะว่าร้อนไป ก็ยังไม่เท่าอินเดียที่ร้อนตายถึง45องศาเซลเซียส
จะว่าหนาวไป ก็ยังไม่หนาวซะที

วันนี้ เจอหนุ่มน้อย ไม่ใช่ หนุ่มเหลือน้อยนะ
คอพับคออ่อนหายใจยังกะจะไม่เหลืออากาศในโลกนี้ให้สูดเข้าปอดอีก
ก็เร่งรีบหายใจนั่นล่ะ เป็นผลให้ร่างกายส่วนอื่นมันทำงานผิดปกติไปด้วย
มีอาการเกร็ง มือจีบ ซึ่งอาการเหล่านี้ หากสอบถามผู้ใกล้ชิดมักจะได้ประวัติว่า
มีสภาวะกดดันทางอารมณ์ร่วมด้วย
ใครเคยดูหนังเรื่อง หมอเจ็บ จะเห็นตัวอย่างได้ชัด เมื่อได้รับการแก้ไขภาวะเหล่านี้แล้ว
จะมีสติ ฟัง พูด รู้เรื่อง

แต่จบแค่นั้น มันจะง่ายไปนะ หนุ่มน้อยนี้มีดีไปกว่านั้น
เมื่อแก้ไขให้หายใจปกติได้แล้ว ก็ยังหลับตาอยู่
ประกอบกับญาติห่วงใยมากสุดๆต่อว่า จนท.ที่ไม่เห็นจะทำอะไรให้ (เอ่อออ. จนท.เค้ากะยุ่งวุ่นวายดูหนุ่มน้อยนั่นล่ะ)หนุ่มเลยนอนฟังเพลิน
จนท.เลยให้ดมแอมโมเนียซะนาน ซึ่งแอมโมเนียนี้ ฉายา เหยี่ยวอูฐ
คุณสมบัติช่วยให้คนเป็นลมฟื้น แต่ถ้าใครปกติ ดมแล้วจะเป็นลม โคตรเหม็นเลย แหวะ!!

ครานี้ หนุ่มคงจะทนกลิ่นแอมโมเนียไม่ไหว กระโดด แล้ว ชักๆๆ
เปลี่ยนท่าพลิกซ้าย ย้ายมาพลิกขวา
เป็นผลให้ วงแตกกระจาย ทั้งญาติทั้ง จนท.ทั้งผู้บังเอิญมีส่วนรู้เห็น
ท่วงท่าและลีลา จับภาพไม่ทัน เสียงหนุ่มน้อย ร้องออกมา
กูไม่ใช่....(ขอโทษที่พิมพ์หยาบคาย) และพูดอะไรอีกไม่รู้
จำไม่ได้อ่ะ เพราะเราอยู่ในภาวะวงแตก ถอยไปตั้งหลักก่อนเช่นกัน

เสียงญาติผู้ชายดังลั่น "พระ พระ ใครมีพระ เอามาคล้องคอมันหน่อย"
จนท.หญิงกระซิบดังๆหลังเหตุจบไปแล้วว่า" ตอนนั้นน่ะ มีพระ แต่ก็ต้องกันตัวช๊านก่อนสิ"
อืมมม..พี่น้องคะ ต่อไป ไปหาหมอ กรุณาพกพระส่วนตัวไปเองนะคะ เผื่อหายแล้วลืม
นิมนต์กลับบ้านไปด้วย เรื่องจะยุ่ง เอ้อออ..ปวดกบาล

เมื่อเราเห็นหนุ่มน้อย เปลี่ยนไปหลายท่า ด้วยความห่วงใยเกรงว่าจะเหนื่อย
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แม้แต่ญาติ
ประเมิณสถานการณ์3วิ หนุ่มน้อยรูปร่างบาง กำลังออกท่าทางเมามันไม่ระวังตัว ไม่มีอาวุธ
ผู้คนรอบๆเราอยู่หลายคน ถ้าเราพลาดโดนตืบ คงจะมีคนช่วยมั่งอ่ะน่า
เลยพุ่งเข้าไป ล๊อคให้นอนกับพื้นพร้อมส่งเสียงหย่ายๆให้สติหนุ่ม
ครานั้นญาติและ จนท.คงคิดได้ หากปล่อยยัยนี่ล๊อคคนเดียวอาจพลาดได้ เลยเข้าช่วยอีก2แรง
เฮ้อออ...เรารอดตัวไป ไม่โดนบาทาวุ้ยเรา

น่าเห็นใจ จนท.ก็มีแต่ผู้หญิงบอบบาง ญาติก็กล้าๆกลัวๆพอเราปล่อยมือ หนุ่มนั่นก็ดิ้นอีก ไม่รู้มันอะไรนักหนาสิ คนอื่นเหนื่อยกันนะเฟร้ยย
เสียงหวานๆของหมอบอก จับไว้ จะฉีดยาให้สงบ แล้วให้ไปโรงพยาบาล
ป๊าาดดด!!เท่านั้นล่ะ พ่อหนุมานน้อยที่คลุกฝุ่นตีวงกว้าง นิ่งสนิท ลืมตากว้าง
"ผมไม่ฉีดยาคับ หายแล้วคับ ไม่ไปโรงบาลคับ "
เออ..ให้คนอื่นเหนื่อยตั้งนาน แค่เจอเข็มฉีดยายังไม่ทันฉีด หายเร็วจริงวุ้ย
เซรง..กะ พ่อหนุมานน้อย เจงๆเลย

เสียงจนท.แว่วๆ "ขอบใจนะหนุ่มที่ช่วยถูพื้นให้ แต่ต่อไปไม่ต้องหรอกนะ ดูแล้วเหนื่อยน่ะ"

PS:อาการหนุ่มน้อยนี้ มีการประเมินแล้ว ไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์นะจ๊ะ

แนะนำเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้หน่อย ถึงแม้ว่าเราจะเป็น ญ หญิงโสภา ก็ควรเรียนรู้การเอาตัวรอด การป้องกันตัวไว้นิดๆหน่อยๆพอหลบหลีกได้ ไม่ใช่พุ่งเข้าชนนะ
เมื่อมีเหตุ จะหวังพึ่งใครนั้นอาจจะยากในบางสถานการณ์ ที่สำคัญคือ "สติ"ใครมีมากย่อมได้เปรียบ เอาตัวรอดเป็นยอดดี

ในเหตุการณ์นี้ เราจำเป็นต้องหยุดหนุมานน้อย ซึ่งประเมินตัวเองแล้วเราน่าจะรอดมากกว่าร่วงน่ะค่า

 

เจ้าที่เฮี้ยนเหลือเกิน

***********************************
แล้วจะเล่าให้พวกเราฟังหรือเปล่าคะ:z16

 

เหยี่ยวอูฐ

***************************************
NH3 Ammonium Chloride พีมีติดตัวประจําเลย แต่ไม่ใช่สําหรับตัวเองนะ เผื่อเจอคนเป็นลมแบบนี้ไง เรื่องแบบนี้เจอบ่อยๆโดยเฉพาะพวกที่รับประทานของมึนเมามากๆจนสมองเสื่อม ทําเอาเหนื่อยแหละ ออกกําลังไปในตัว

 

การเป็นที่รักและเมตตาจากคนรอบข้าง


เล่าต่อถึงคุณชวด ตัวเองเคยภูมิใจนิดๆนะว่าไปไหนก็จะมีคนรักตลอด ตั้งแต่เด็กๆ ไปวิ่งเล่น ชาวบ้านที่ทําขนมขายมักจะหยิบยื่นให้ประจําเลย เพิ่งจะมานึกได้ว่าเวลาที่คุณชวดมา(บ่อยๆ)ท่านจะมีทองแผ่นเล็กๆมาด้วย พอนั่งตรงหน้าแล้วท่านก็จะเอาทองมาแปะที่หน้าผาก เอานิ้วกดแล้ววนๆไป (ไม่ได้จํามานะแต่มันบ่อยมากจนจําได้ติดหูติดตา)
"โอมปู่เจ้าเขาเขียว มีลูกคนเดียวชื่อว่า"นางกวัก"
หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทักทุกถ้วนหน้า(เดือดร้อนตรงนี้เอง) โอมมะภัพพา(พึมพําๆ)
จะไปหาเงินขอให้ได้เงินมาเป็นกอง (ยังจนอยู่)
จะไปหาทองขอให้ได้ทองมาเต็มหาบ
สามวันขอให้ได้ลาภกลับมาเยือน
สามเดือนขอให้ได้เป็นเศรษฐี(รอมาหลายสิบปีแล้ว)
สามปีขอให้ได้ค้าสําเภา โอมปู่เจ้าเขาเขียว ยกให้ลูกคนเดียวเป็นกรรมสิทธิ นะ เมตตา โม กรุณา พุทธ ปราณี ธา ยินดี ยะ เอ็นดู นะโมพุทธายะ " เป่าๆๆ พึมพําๆ
เนี่ยเรา"นอกคอก"หรือเปล่าเลยยังจนอยู่ เออ แต่ก็"ปลง"และ"ปล่อยวาง"ได้นะ
สาธุธรรมค่ะ

 

หลอกพระเกจิ
ตอนที่ตามหา"หลวงปู่ดู่"จนมาพบท่านที่Gallery ในเว็ปพลังจิตนี้ ต่อจากนั้นก็ค้นคว้ามากมาย ยิ่ง"อยากรู้"มีมากก็เหมือนกับพบบ่อนํ้าในทะเลทราย ความศรัทธาในพระพุทธศาสนาก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งศึกษามากก็ยิ่งเห็นความโง่ของตัวเอง ก็ท่องเที่ยวเวปไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเกิดสนใจ"พระเครื่อง"เลยไปฟัง(ดู)เขาคุยกันในกระทู้ มหัศจรรย์ใจมากๆ วันหนึ่งท่านจขกท ก็เล่าถึงพระเครื่องที่ทําพิธีปลุกเสก และมีรายชื่อของพระเกจิ จากวัดต่างๆ อ้าว ดูๆไป มีชื่อ หลวงปู่(ปู่แท้ๆของเรา)อยู่ด้วย ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสันติธรรมาราม บวชตั้งแต่เรายังเด็ก(ชื่อนี้ท่านก็ตั้งให้) เดือนหรือสองเดือนท่านจะมาเยี่ยมคุณย่าครั้งหนึ่ง ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แต่ไปขอตังบ่อย อิอิ มีอยู่คราวหนึ่งราวๆ ม.๕ ไปหาท่านตามเคย ไม่ค่อยได้คุยหรอกถามคําตอบคํา "เออ แล้วการเรียนเป็นยังไงบ้าง" เลยตอบท่านไปว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลยอยากไปเรียนกวดวิชาแต่ไม่มีตังค์ ท่านก็ไม่ว่าอะไร เดินเข้าไปในห้องแล้วออกมาให้เงินมา แล้วก็กลับบ้าน เอาตังค์ไปซื้อขนมกิน เพิ่งจะมารู้เมื่อสามปีที่แล้วว่าท่านต้องรู้แน่นอนว่าเราโกหก
ใครจะไปรู้ เมื่อก่อนไม่เคยสนใจ ไปวัดทุกอาทิตย์ ใส่บาตรก็ทุกวัน แต่เห็นเป็นธรรมดาๆๆที่ใครๆเขาทํากัน เลยได้แต่"เปลือก"
ธรรมะสวัสดีค่ะ
ถ้าใครค้นประวัติท่านได้จะขอบพระคุณมากเลย ท่านชื่อ นาวาตรีหลวงพิชิตชโลธร(นามสกุลพระราชทาน) ท่านเขียนหนังสือไว้มากมายในArchive หอสมุดแห่งชาติ ปรากฎว่ามีน้องคนหนึ่งรู้จักท่านดีเลย ว่า"พี่ต้อยเนียเหมือน"ไกล้เกลือกินด่าง"จริงๆเลย".

วันดีคืนดีที่อยู่ในสายสายเลือดจากท่านคงจะผุดขึ้นมาสักวันละน่าาา หรือจะเป็นชาติหน้า:'(

 

เรื่องเล่า อ.toplusท่านเก็บสต๊อกไว้เยอะมว๊ากกก
เห็นทีว่า คงจะต้องไปช่วยรื้อแล้วเรียงให้จึงจะได้อ่านกัน
พี่ต้อยถนัดค้นหา ให้พี่ต้อยรื้อก่อน
แล้วแตนช่วยเรียงดีมั๊ยคร๊าาา(deejai)(smile)

 

โอ้วว..คุณแม่ต้อย เหลนคุณชวด หลานหลวงปู่ มี..Idol เลิศๆทั้งนั้นเลย
มิน่าเก่งทางโหรศาสตร์ด้วย..สุดยอด

อาจจะคล้ายๆ แต่ก็แตกต่างกับ Toplus99 พอประมาณ
เพราะเรา ก็มีคุณตาเป็นหมอยาโบราณ หมอทำขวัญนาค หมอเพลงโคราช ช่างทำกรงนกเขา เป็นจอมอาคมเวทย์ หมอไล่ภูตผี ทั้งผีปอบ ผีชะมก สารพัดผีให้ชาวบ้านโด่งดังไปทั่วทั้งตำบล ...
ฉายา "หมอทำขวัญนาคขี่ม้า สวมหมวกคาวบอย" ป่ะโธ่..โก้หยอกเมื่อไรเล่าในยุคก่อน

แต่นั่นแหละ..ผลกรรมจากการไล่ภูติผีวิญญาณมากๆ เข้าก็กลายเป็นบาปกรรมอย่างหนึ่ง
ที่เหล่าดวงวิญญาณนั้น ก็จ้องอาฆาตหมายแก้แค้นเอาคืนกลับบ้างเป็นบทเรียนเช่นกัน

เมื่อบ้านไหนผีเข้า บางครั้งแค่คุณตาเดินมาถึงแค่เรือนบันไดบ้านที่ถูกผีเข้า
ก็ร้องลั่นว่า " กูไม่อยู่แล้ว ไอ้เขี้ยวยาวมันมาแล้ว กูไปหล่ะ"

แม่บอกว่าคุณตาจะท่องคาถาอยู่บทหนึ่ง... โดยหยิบบุหรี่ใบตองกล้วยขึ้นมาสูบ
แล้วพ่นใส่ร่างคนที่ถูกผีเข้า

...ผีจะร้องลั่น แล้วหนีออกจากร่างคนป่วยไปทันที (ไงล่ะ..เด็ดมั๊ย)

แล้วค่อยมาตามฟังกันอีกที ว่าบั้นปลายก่อนเสียชีวิตของจอมไสยเวทย์
ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเมตตาว่า ให้บทเรียนแก่เราๆท่านๆ อย่างไรบ้าง

๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙
หลานขอกราบขอขมา แด่ดวงจิตวิญญาณของคุณตาด้วยนะขอรับ
ด้วยหวังว่าอนิสงค์จากวิทยาทานในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคุณตาในทุกครั้งๆ
จงเป็นผลบุญ ย้อนส่งคืนกลับอุทิศแด่ดวงวิญญาณของคุณตาด้วยเทอญ

=============
.....ว่างๆค่อยมาเล่าต่อยอดอีกที

 

โพสต์มาให้เพื่อนธรรม ได้ร่วมอนุโมทนาบุญครับ เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ พค ๕๖ นี้ เราได้ทำบุญร่วมบริจาค
เงินเพื่อร่วมซื้อที่ดิน ในการสร้างที่จอดรถของวัด วัดไทย แอลเอ เป็นจำนวนเงิน ๒,๒๒๓ เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราวฯ ๖๖,๖๙๐ บาทครับ

 

ตรวจสอบสมาธิจิตศิษย์ด้วย เสือโคร่งจาก เสือทองเหลืองของหลวงพ่อชื่น วัดถ้ำเสือ
 จ.กาญจนบุรี ย้อนหลัง ไปสิบกว่าปีเราได้มืโอกาสไปทัวร์บุญตามวัดต่างฯที่เมืองไทย
จากกรุงเทพฯ มุ่งสู่วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี ท่านสร้างเจดีย์ ๒๘ ชั้น บนเขา เมื่อไปถึงวัด
ชึ่งเรานั้นไม่เคยรู้จักกับท่านเจ้าอาวาสมาก่อนเลย  ถามแม่ค้าและคนในวัดว่าหลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสอยู่ไหม เขาบอกว่าหลวงพ่อไม่อยู่ท่านเข้ากรุงเทพฯมีความตั้งใจว่าจะมากราบท่านและชมพระธาตุ ด้านล่างเขามีรูปถ่ายองค์พระธาตุใว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง เมื่อขึ้นไปถึงข้างบนสุด พบว่าเขาใส่กรอบกระจกใส อย่างหนามาก และอยู่สูงมาก เมื่อชมจนพอใจ
ก็นั่งอธิฐาน อัญเชิญ พระธาตุเพื่อจะนำไปสัการะบูชาที่ต่างประเทศบ้าง นั่งสมาธิอยู่ราวฯ
ห้านาที จึงลงมา จนถึงชั้นล่างของเจดีย์ ก็พอดีกับมีลูกศิษย์วัด สองคนมาบอกกว่าพี่ฯ 
หลวงพ่อให้ผมมาพาพี่ไปพบท่านที่ในถ้ำเสือ เอ คนในวัดก็มากมายแต่ทำไมท่านให้มาตามถูกคนล๊ะ ชักสงสัย ในสมัยก่อนท่านเลี้ยงเสือใว้หลายตัว
เราเป็นมึนหน่อยฯ แต่ก็เดินตามลูกศิษย์ทั้งสองไปจนถึงในถ้ำ เมื่อได้พบท่าน หลวงพ่อ
ชื่น ท่านวัยร่วม ๗๐ ปี แต่ท่านแข็งแรงและดูน่าเกรงขามเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาท่านเมตตา
และมีพลังมาก เมื่อกราบท่านครั้งที่สาม  คราวนี้งานเข้า จิตที่สัมผัสได้พลังกระแสบุญอันมหาศาลวึ่งเข้ามา อยู่ตรงหน้าท่าน เราไม่รอช้าหลังจากกราบท่านครบสามครั้งแล้ว
มือก็รีบคว้าไปที่กลางอากาศ ตรงพลังที่วิ่งมาทันที หลวงพ่อท่านยิ้มอย่างเมตตา
ส่วนเรานั้นกำมือใว้ไม่ปล่อยมีสิ่งของอยู่ในมือเป็นพระธาตุที่เราได้อธิฐานใว้นั่นเอง
ตลอดเวลาสักสิบนาที ที่ได้เข้าพบหลวงพ่อท่านไม่พูดแม้แต่คำเดียวเลย ท่านได้แต่
ยิ้มและยกมือแบบพระปางประทานพรในเวลาที่เรากราบท่าน เมื่อสมควรแก่เวลาจึงลา
ท่านกลับ มือเรายังกำอยู่แน่นต้วยความปิติจนพ้นเขตวัด ก่อนออกจากวัดทำบุญที่ตู้บริจาค
ทางวัดให้เลือกหยิบเอาเอง มีรูปหล่อพระพุทธชินราช กับ รูปหล่อเสือของหลวงพ่อ

 

ขอบคุณ..ท่านอ.คมสันต์มากครับในความปารถนาดีทุกตัวอักษร

ชะรอยว่า...คงจะได้เวลาทางสัญจรแยกย้ายซ้าย-ขวา ของใครมันแล้วก่ะมัง

สายลมเฉื่ยวฉิว ทุกอย่างล้วนอนิจจังตามวิถีของมัน...

+++++

ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่ยังอยู่...เชื่อว่าเข้า 2560ช่วงเข้า61
อาจจะมีกระทู้เข้ามาคุยกันมากขึ้น

หากแต่ตอนนี้คงต่าง...ออกเดินทางกันตามวาระ ยถากรรมภาระที่มีของบุคคล..ว่ากันไป

ขอ..สวัสดีนะครับทุกๆท่าน

 

สายลมพัด เฉี่ยวฉิว ลิ่วลอยล่อง
ตามครรลอง ต้องธรรม กรรมจัดสรร
เดือนปีเคลื่อน เลื่อนไป ในทุกวัน
แต่ผูกพัน ฉันบ้าน ไม่ผ่านเลยhello4;aa26