จากข่าว "ตื่นวันสิ้นโลก! ชายฮ่องกงลาออก-ขายทรัพย์สิน ถลุงเงินหยำเป"

ไม่รู้ทุกวันนี้ชีวิตและครอบครัวเขาจะเป็นเช่นไร มีใครมีข่าวคราวชายคนนี้บ้าง ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง...



ตื่นวันสิ้นโลก! ชายฮ่องกงลาออก-ขายทรัพย์สิน ถลุงเงินหยำเป

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555 เว็บไซต์เดอะสแตนดาร์ด รายงานว่า ชายชาวฮ่องกงวัย 40 ปี ซึ่งทำงานฝ่ายไอทีที่บริษัทแห่งหนึ่งได้ตัดสินใจขายแฟลตที่เขาพักอาศัยและทรัพย์สินของเขาทั้งหมด เมื่อ 6 เดือนก่อน เดินทางไปทั่วทุกหนทุกแห่งและใช้เงินทั้งหมดไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความเชื่อว่า จะหาความสุขใส่ตัวก่อนที่ชีวิตจะดับสูญไปพร้อมกับวันโลกาวินาศ สร้างความวิตกกังวลให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง

รายงานระบุว่า ชายผู้นี้เดิมทีเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวและเป็นคนมัธยัสถ์ แต่หลังจากที่มีกระแสข่าววันสิ้นโลกในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ ตามปฏิทินของชาวมายา ทำให้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เขาขายทรัพย์สินมีค่าทุกอย่างและเดินทางไปทุกที่ รับประทานอาหารแพง ๆ ในร้านหรูและพักตามโรงแรมโดยรูดบัตรเครดิตทุกใบ มิหนำซ้ำยังยืมเงินจากคนอื่นอีกด้วย เมื่อครอบครัวไม่สามารถจะเปลี่ยนความเชื่อของชายผู้นี้ได้ จึงต้องขอความร่วมมือจากนักจิตวิทยา

โดยทางด้านนักจิตวิทยา กล่าวว่า หากวันโลกาวินาศไม่เกิดขึ้นจริง ชีวิตของชายผู้นี้จะพังพินาศทันที เพราะกองหนี้มหาศาล ซึ่งตอนนี้มีผู้ป่วยทางจิตที่เชื่อเรื่องโลกาวินาศในลักษณะแบบเดียวกันนี้ 8 คนแล้ว และพฤติกรรมที่แสดงออกมาก็มาจากแรงกดดัน ดังนั้นจึงไม่ควรจะไปตำหนิพวกเขา พวกเขาต้องการความเข้าใจและกำลังใจจากคนในครอบครัว เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีความเสี่ยงที่ฆ่าตัวตายก่อนที่จะถึงวันสิ้นโลก

ที่มา: วันสิ้นโลก 2012 ตื่นวันสิ้นโลก ชายฮ่องกงลาออก-ขายทรัพย์สิน ถลุงเงินหยำเป

 

ใครเป็นมนุษย์เงินเดือนคงจะแย่แน่ เพราะคำทำนายภัยพิบัติมีมารายวันหนักบ้างเบาบ้าง ใครอินกับกระแสมากๆทุกครั้งที่มีการทำนายคงต้องหนีขึ้นเหนือหรืออิสาน บางกลุ่มมีกำหนดสั่งให้ออกจาก กทม ภายในวันนั้นวันนี้ ก็คงไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว

แล้วถ้ามันเกิดจริงๆก็จะหนีกันไม่ทันอีก แค่ปีใหม่สงกรานต์คนแห่ไป ตจว รถก็ติดหนึบอย่างที่เราเห็นๆกัน แล้วถ้าทุกคนแห่กันหนีตายออกไป ตจว จะวุ่นวายขนาดไหน

ส่วนผู้มีอันจะกินหน่อยอาจมีช่องทางจับจองที่ดินไว้หลบภัยใน ตจว แต่คนเหล่านั้นจะรู้ได้ไงว่าเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะหนีไปยังที่หลบภัยได้ทันเวลา และอีกอย่างเขาจะรู้ได้ไงว่าที่นั้นจะปลอดภัยอย่างแท้จริง

 

กรรมลิขขิตไว้หมดแล้ว ขึ้นอยู่กับกุศลกรรมและอกุศลกรรม ของแต่ละคน
หนีภัยพิบัติอาจจะหนีได้ แต่หนีกรรมคงหนีไม่พ้น.....

ในสมัยที่ผู้คนเริ่มรู้จักโรคเอดส์และความน่ากลัวของมันว่าไม่มีทางรักษา
ในขณะนั้นมีโรคนึงที่ระบาดหนักกว่า ก็คือโรคกลัวเอดส์....

สมัยนี้ก็คงจะคล้ายๆกับ โรคกลัวภัยพิบัติ เป็นแน่แท้

 

จงใช้ชีวิตกันตามปกติ เร่งสร้างบุญกุศลกันไปตราบที่เรายังมีชีวิตอยู่
เพราะวันพรุ่งนี้จริงๆแล้วมันคือ วันแรกของวันที่เหลืออยู่ ซึ่งแต่ละคนไม่เท่ากัน

เลิกวิตก เลิกกังวลกับภัยพิบัติกันได้แล้ว เพราะ :

1. ถ้าภัยพิบัติขนาดเล็กๆหรือกลางๆ เราก็คงยังพอมีเวลาดิ้นรนเอาตัวรอดได้

2. ถ้าภัยพิบัติขนาดใหญ่จริงๆ หนียังไงก็คงหนีไม่พ้น

ความไม่มากไป-ไม่น้อยไป ฤๅทางสายกลางนั้นไซ้ร ใช้ยึดในการปฏิบัติตนได้ทุกสถานะการณ์

 

A California woman named Lyn Benedetto was one of millions who heard Camping's message, and became concerned that her daughters would suffer terribly in the coming apocalypse. She allegedly forced her daughters, 11 and 14, to lie on a bed and then cut their throats with a box cutter. She then tried to kill herself, though police arrested Benedetto and all three survived.

Failed Doomsday Has Real Deadly Consequences | Doomsday Suicides | Judgment Day, Rapture & End of the World | LiveScience

นางLyn Benedettoตื่นกลัววันสิ้นโลกจนสติแตก คิดว่าลูกๆคงอยู่ลำบากถ้าวันนั้นมาถึง เลยให้ลูกสาวอายุ11กะ14นอนบนเตียงแล้วเอาคัตเตอร์ปาดคอ ส่วนตัวเองจะฆ่าตัวตายตาม โชคดีไม่มีใครตายแต่นางLyn Benedettoโดนตำรวจจับ

 

ผู้วิเศษในเว็บนี้คงไม่มีใครฟังหรอกครับ ยังบ้ากันไม่เลิกอยู่เหมือนเดิม ...

 

An elderly man in Taiwan reportedly killed himself on May 5 ahead of the Rapture by jumping out of a building. He had heard that doomsday was imminent, and had taken recent earthquakes and tsunamis as early warning signs.

Failed Doomsday Has Real Deadly Consequences | Doomsday Suicides | Judgment Day, Rapture & End of the World | LiveScience

อันนี้ก็ปี2011 ชายชราชาวไต้หวันโดดตึกตาย เพราะคิดว่าวันสิ้นโลกใกล้แล้ว โดยคิดว่าแผ่นดินไหวกะสึนามิที่ผ่านมาคือสัญญาณ เลยชิงโดดตึกฆ่าตัวตายหนีวันสิ้นโลก

 

แค่หวังว่าจะเตือนสติสมาชิกได้บ้าง คงไปแตะผู้วิเศษไม่ได้หลอกเนอะ

 

............................................