ใครอยากมองเห็นผีต้องอ่าน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย FlookTnw, 22 พฤษภาคม 2013.

  1. FlookTnw

    FlookTnw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +27
    ต่อไปนี้เราจะพิสูจน์ว่าทฤษฎีสัมพันธภาพของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ที่ว่า “เมื่อวัตถุเคลื่อนที่เร็วขึ้นเวลาจะสั้นลง” นั้นเป็นจริงหรือเท็จ

    [​IMG]

    รถยนต์วิ่งในถนนด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมงด้วยระยะทาง 60 กิโลเมตรหากเทียบระยะทางและเวลาด้วยเชือกสองเส้น นำเชือกที่แทนด้วยระยะทางมาขดเข้าหากันคล้ายสปริง ด้วยความเร็วรถเท่าเดิมแต่ในสายตาคุณกลับเห็นรถวิ่งด้วยความเร็วสูงเพราะอะไร? ในเมื่อระยะทางย่นได้ แล้วเวลาหล่ะ?

    อธิบาย

    รถวิ่งด้วยเส้นตรงใช้เวลา 60 นาทีต่อ 60 ก.ม.เมื่อแทนเส้นทางด้วยเชือกแล้วม้วนเป็นวงกลมให้ระยะทางเหลือแค่ 1 ก.ม. ก็เท่ากับว่ารถวิ่ง 60 ก.ม.ใช้เวลาแค่ 1 นาที เพราะฉะนั้น จึงเกิดทฤษฎีใหม่ที่ใช้ต่อยอดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ขึ้นมาหนึ่งทฤษฎีความว่า “เมื่อเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุถูกจำกัดให้สั้นลงความเร็วของวัตถุจะเพิ่มขึ้น” เมื่อความเร็วของวัตถุมีค่าเท่ากับสิ่งใดจะมองเห็นสิ่งนั้นและไปในที่นั้นๆได้ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นต่างๆหรือในทางวิทยาศาสตร์เรียกว่ามิตินั่นเอง หากเส้นทางการเคลื่อนที่ของวัตถุสั้นจนถึงที่สุดก็คือ “อยู่กับที่”(มีจุดเริ่มต้นและเป้าหมายอยู่ในที่เดียวกัน)วัตถุที่อยู่กับที่ก็จะเริ่มเคลื่อนที่ใหม่จากช้าไปหาเร็วที่สุดแล้วจุดสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการอยู่กับที่เช่นเดิม

    วัตถุเป็นสิ่งที่มีมวลเทียบได้กับร่างกาย การเคลื่อนที่ของวัตถุจะเป็นเส้นโค้งเมื่อออกจากฐานแล้วกลับมาสู่ที่เดิมนับเป็นหนึ่งรอบ แต่ด้วยน้ำหนักของวัตถุที่เพิ่มมากขึ้นตามความเร็วจึงเป็นเหตุให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุถูกจำกัด ดังนั้นหากต้องการทำให้วัตถุเคลื่อนที่อย่างไม่มีลิมิตจะต้องทำลายน้ำหนักของวัตถุโดยทำให้เส้นทางการหมุนอยู่ในรูปสามมิติซึ่งเป็นที่มาของวิชามวยหมุน 8 แรงหนีของวัตถุที่เกิดขึ้นทั้งสามคู่รวมแล้วเป็นหกด้านจะเกิดการหักล้างซึ่งกันและกันแล้วค่อยๆสลายไปตามความเร็วในการเคลื่อนที่ เมื่อน้ำหนักของวัตถุถูกทำลายจนหมดสิ้น แรงผลักดันจากเส้นโค้งทั้งหกด้านจะขับให้พลังงานในตัววัตถุพุ่งเข้าชนกันในบริเวณจุดกึ่งกลางแล้วกลายเป็นจุดที่คงที่ของวัตถุ สิ่งที่ตามมาจากพลังงานก็คือแสง(สูตรในการค้นหาจุดคงที่ของวัตถุและกาย)

    เมื่อ 2,500 กว่าปีที่ผ่านมาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ค้นพบความคงที่ของจิตซึ่งทำให้จิตหลุดออกจากวงจรของการเกิดดับและอยู่เหนือกาลเวลาแล้วนำมาสั่งสอนมวลมนุษย์ให้ปฏิบัติตาม หัวใจหลักของคำสอนมีอยู่ว่า “จิตที่กำลังเคลื่อนไหวเมื่อถูกรับรู้ เส้นทางการเคลื่อนไหวจะถูกตัดขาดทันทีซึ่งเป็นเหตุให้จิตสะท้อนกลับมาสู่ฐานที่มั่นดั้งเดิมก็คือกายเรียกว่าหนึ่งขณะจิต(หนึ่งรอบ) แล้วความถี่ของจิตที่กลับมาสู่กายจะเพิ่มมากขึ้นตามความเร็วในการรับรู้การเคลื่อนไหวของจิต เมื่อความเร็วในการรับรู้มีค่าเท่ากับ0วินาทีความถี่ของจิตก็เท่ากับ0วินาทีเหมือนกัน เมื่อจิตไม่มีการเคลื่อนที่เวลาก็ไม่มีด้วย เมื่อเวลาไม่มีสิ่งนั้นจึงไม่มีความเปลี่ยนแปลงและเป็นนิรันดร์” การเคลื่อนที่ด้วยเวลา 0 วินาที นั่นก็คือมีความเร็วมากยิ่งกว่าแสง ทุกๆแห่งในจักรวาลแม้นจะไกลสักแค่ไหนจิตชนิดนี้ก็ไปได้แค่ 0 วินาที เมื่อเวลาก่อนไปและหลังไปมีค่าเท่ากันนั่นก็หมายความว่าอยู่ที่เดียวกัน ดังนั้นทุกๆที่ในเอกภพก็คือที่เดียวกันสำหรับจิตชนิดนี้จึงสามารถมองเห็นมิติทั้งหมดในเวลาเดียวกันด้วย(สูตรการค้นหาจุดคงที่ของแสงและจิต)

    หากมองในด้านของภายนอกสิ่งเดียวที่มีลักษณะคล้ายจิตก็คือแสง ซึ่งมีการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงและสะท้อนกลับเหมือนกันเราสามารถใช้แก้วทำให้แสงสะท้อนกลับฐานเดิมซึ่งมีทั้งหมดสามมิติเพื่อค้นหาจุดคงที่ของแสง เมื่อใดที่มนุษย์ค้นพบจุดคงที่ของแสงแล้ว ปริศนาต่างๆในโลกและเอกภพจะถูกเปิดเผย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 พฤษภาคม 2013
  2. mummamman

    mummamman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,598
    ค่าพลัง:
    +2,116
    ถ้าระยะทางลดลงแต่ความเร็วเท่าเดิม ผลที่ได้เวลาจะลดลง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2013
  3. Inwpower

    Inwpower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +105
    "วัตถุเป็นสิ่งที่มีมวลเทียบได้กับร่างกาย การเคลื่อนที่ของวัตถุจะเป็นเส้นโค้งเมื่อออกจากฐานแล้วกลับมาสู่ที่เดิมนับเป็นหนึ่งรอบ แต่ด้วยน้ำหนักของวัตถุที่เพิ่มมากขึ้นตามความเร็วจึงเป็นเหตุให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุถูกจำกัด ดังนั้นหากต้องการทำให้วัตถุเคลื่อนที่อย่างไม่มีลิมิตจะต้องทำลายน้ำหนักของวัตถุโดยทำให้เส้นทางการหมุนอยู่ในรูปสามมิติซึ่งเป็นที่มาของวิชามวยหมุน 8 แรงหนีของวัตถุที่เกิดขึ้นทั้งสามคู่รวมแล้วเป็นหกด้านจะเกิดการหักล้างซึ่งกันและกันแล้วค่อยๆสลายไปตามความเร็วในการเคลื่อนที่ เมื่อน้ำหนักของวัตถุถูกทำลายจนหมดสิ้น แรงผลักดันจากเส้นโค้งทั้งหกด้านจะขับให้พลังงานในตัววัตถุพุ่งเข้าชนกันในบริเวณจุดกึ่งกลางแล้วกลายเป็นจุดที่คงที่ของวัตถุ สิ่งที่ตามมาจากพลังงานก็คือแสง"

    อ่านมาดีๆ เจอประโยคนี้เข้าไปเงิบเลยฮะ
     
  4. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    แล้วเกี่ยวอะไรกับผีด้วยครับ งง
     
  5. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    หลักการมากไป ขอแบบเนื้อๆได้ไหมคะที่ทำไงจึงเห็นผี
     
  6. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645

    สงสัยยังไม่จบมั้งครับ
     
  7. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ไอสไตยเก่ง รู้ด้วยว่าโลกจะแตก
     
  8. winamp

    winamp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +106
    อยากเห็นผีครับ รออยู่
     
  9. FlookTnw

    FlookTnw Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2007
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +27
    ทุกคนจะได้เห็นผีจริงๆครับไว้ให้ผมหาความคงที่ของแสงได้ก่อนตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลอง หากใครที่อ่านกระทู้แล้วงงก็ขอให้ทนรอไปก่อนนะครับ เมื่อหาความคงที่ของแสงพบแล้วผมจะกลัมาตอบคำถามของท่านผู้อ่านทุกอย่าง ส่วนใครที่มีความรู้เรื่องเสปกตัมย่างละเอียดผมก็อยากขออนุญาติให้ช่วยนำข้อมูลมาแบ่งปันบ้าง เพื่อง่ายต่อการค้นหานะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤษภาคม 2013
  10. dekwathubbon

    dekwathubbon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +31
    ความคงที่อะไรครับ

    เรื่องของความถี่
    คงไม่เกี่ยวกับการมองของมนุษย์

    ความยาวคลื่น
    อยู่ที่ 380-780 nm ครับผมถ้าสูงเกินนั้นสายตาจะเห็นเป็นสีขาว อยู่ในช่วงของ IR
    ถ้าต่ำกว่านั้นสายตาจะเห็นไม่เห็นอะไรเลยเพราะอยู่ในช่วงของ UV
    เมื่อ nm คือ นาโนเมตร/วินาที

    ความเร็ว
    ปกติอยู่ที่ 299,792,458 เมตร/วินาที

    คุณสมบัติ
    โดยปกติแสงจะเดินทางเป็นเส้นตรงครับแต่มันสามารถโค้งงอได้ตามแรงดึงดูด
    สังเกตุตอนเกิด Blackhole จะเห็นแสงเป็นเกลียววนเพราะตอนเกิด Blackhole แรงดึงดูดเยอะมาก
    ตามหลักจักรวาลวิทยาเชิงกายภาพหรือ( Physical cosmology )
    ความเร็วตกลงได้เมื่ออุณหภูมิลดลง
    แต่เมื่ออยู่ที่ Absolute Zero ( 0 เคลวิน หรือ -273.16 องศาเซลเซียส )
    อนุภาคทุกอย่างจะนิ่ง...เพราะถ้าเคลื่อนไหวได้แปลว่ามีพลังงาน
    เมื่อมีพลังงานก็ต้องมีความร้อนถ้าไม่สามารถมีความร้อนได้ก็ไม่มีอะไรเลย
    แสงก็จะไม่มีตัวตนภายในทันที...แปลว่าเมื่อเข้าสู่ Absolute Zero แสงจะหยุดเคลื่อนที่ครับ

    อัตราความเร็วของแสงเป็นอัตราเร็วคงที่คือเมื่อตัวมันเร็วสูงสุดแล้วมันจะไม่สามารถเร็วกว่านั้นได้
    ความเร็วของแสงไม่ขึ้นอยู่อัตราความเร็วของวัตถุที่ทำให้เกิดแสง( สมการแม็กซ์เวล )

    การมองเห็นของคนจะต้องใช้การเดินทางของแสงไปตกกระทบกับวัตถุก่อน
    แล้วสะท้อนกลับมาเข้าตาของเราซึ่งถ้าลองคิดดีๆแล้วภาพห่างไปหนึ่งเมตร
    คร่าวๆว่ามันเป็นภาพในอดีตเมื่อประมาณ 0.2 มิลลิวินาทีที่แล้วแปลว่าเราได้รับภาพเข้ากระบอกตาจำนวน
    5000 ภาพต่อวินาทีซึ่งสายตาคนเรารับภาพได้มากสุดก็ประมาณ 16 ภาพต่อวินาที
    เลยทำให้เห็นเป็นภาพต่อเนื่อง นี่คือการหลอกตาครับเพราะว่าตาไม่สามารถมองเห็นปัจจุบันได้
    แต่มองเห็นอดีตที่ 0.2 มิลลิวินาทีที่แล้วครับผม

    ถ้ามองไม่ออกคิดตามนี้ครับหากเรามองดวงอาทิตย์
    จริงๆมันไม่ใช่ดวงอาทิตย์ในปัจจุบันครับ แต่เป็นดวงอาทิตย์เมื่อแปดนาทีที่แล้ว
    เพราะว่าแสงใช้เวลาเดินทางถึงโลกแปดนาที
    แปลว่าถ้าจู่ๆดวงอาทิตย์ดับแว๊ปไปเลยเหมือนปิดสวิทซ์ไฟ
    โลกจะสว่างได้ต่ออีกแปดนาทีครับ

    อันนี้คือแสงครับ แต่คุณจะเอาแสงไปมองเห็นผีได้ยังไงครับอยากรู้เหมือนกันครับผม
    ถ้ามองว่าผีคืออนุภาคชนิดหนึ่งแล้วเราสามารถยิงอุณหภูมิแบบ Absolute Zero ไปตรงจุดที่ผีอยู่ผีจะหยุดนิ่งครับ ไปไหนไม่ได้( เกี่ยวมั๊ย )
    แต่จะเห็นหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้นะครับ( สองบันทัดหลังนี่สมการมั่วมาก )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2013
  11. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    แล้วอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เห็นผีรึเปล่า แล้วตกลงต้องทำยังไงล่ะ
     
  12. dekwathubbon

    dekwathubbon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +31
    เห็นมั๊ง ก็ผมฟูเลยนี่( มั่วอีกแล้ว )
     
  13. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    แล้วจะรู้ได้ไงว่าแสงนั้นคือผี ถ้าไม่ใช่แสดงว่าเป็นแสงธรรมดานะสิ ใช่ปะ
     
  14. ปัญจทสเทพา

    ปัญจทสเทพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +143
    ไม่ใช่แค่จิตที่เกิดดับครับ แต่ทุกอย่าเลยที่เกิดและดับ แต่มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนประสาทรับรู้ หรือเครื่องมือในปัจจุบันไม่อาจวัดได้

    อย่างหลอดไฟ50Hz เราคงคิดว่าไฟมันเกิดคงที่ตลอดเวลา แต่ความจริงไม่ใช่นะครับ มันกระพริบ50ครั้งต่อวินาที แต่สายตารับรับภาพต่อเนื่องประมาณ 16ภาพ ต่อวินาที(ขึ้นไป) เลยทำให้เราไม่รู้ว่าหลอดไฟมันกระพริบอยู่ ผมกำลังจะบอก ทุกๆสิ่งทุกอย่างๆ ทุกๆอะตอม กำลัง(เกิดดับ)กระพริบอยู่อย่างนี้แหละ แต่อาจจะซัก ล้านครั้งต่อวินาที ก็เป็นได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...