ได้ญาณสี่ แล้วทำไมถอดกายไม่ได้ ??

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย jabb2541, 11 พฤษภาคม 2013.

  1. jabb2541

    jabb2541 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +71
    ผมคิดว่าน่าจะได้ญาณสี่แล้วนะ ไม่มีลมหายใจเลย จิตนิ่งมากๆ เหมือนตัวกับจิตคนละส่วนกันเลย

    ผมก็ เข้าญาณสี่แล้ว ออกมาอุปจารญาณ (ออกไม่เป็นจริง ผมใช่วิธีดิ้นแขน ดิ้นขา แล้วเอามือวัดลมหายใจ) เพราะว่าญาณนี้มันระดับแรกๆเลย

    ผมก็อธิษฐาน แล้ว เข้าญาณสี่แล้วออกมาอุปจารญาณ ด้วยวิธีเดิม

    เห็นแสงเหมือนสีออร่าร่างๆ(7สีรวมกันนั้นแหละ) วาปไปวาปมา ไม่มีรูปร่างแน่นอน

    ปล. ผมพึ่งเข้าญาณสี่ได้แค่ไม่กี่ครั้ง
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    แนะนำ ลองไล่ตรวจสอบ องค์ของฌาน ในแต่ระขั้นดูนะครับ ว่าตรงตามไหม
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ปกติถ้าทำได้ในครั้งแรก.ถ้ามาจากพื้นฐานการฝึกแบบเป็นพิธีการ จิตหรือกายทิพย์มักจะออกมาเองโดยธรรมชาติเพราะนิสัยท่อง
    เที่ยวเดิมเป็นทุน.แต่จะไปได้ไม่ไกลจากตำแหน่งที่เราอยู่

    เช่นบางคนยืนมองเห็นร่างตัวเองกำลังนั่งอยู่ หรือ บางคนจิตออกไปบริเวน
    ที่ตนเองอาศัยอยู่ในระยะทางไม่ไกลมากนัก..และมักจะเกิดความอยาก
    ที่จะเข้าถึงอารมย์นี้เป็นปกติ.จึงต้องมาฝึกดับความอยาก.

    ไม่งั้นมันจะมีอารมย์หนึ่งซึ่งเป็นฝ่ายมารทำมาหลอกเราซึ่งใกล้เคียงกับอารมย์ฌาน ๔ มากๆรวมทั้งสภาพแวดล้อมในการเห็นก็ใครเคียง
    แต่ได้มาสังเกตุสิ่งต่างๆที่อยู่ใน
    สภาพแวดล้อมจะมีความแตกต่างกันอยู่.

    แต่หลักสังเกตุคือ แม้เราคิดปรุงแต่งไปก็จะไม่หลุดจากอารมย์นี้.ซึ่งถ้าเป็นกายกับจิต
    แยกกันได้จริงๆ ถ้ามีความคิดปรุงแต่งจะหลุดจากอารมย์นี้ทันที ยังไงลองสังเกตุด้วยนะครับ.

    .เพราะถ้าติดจุดนี้ หรือ ไม่ทันจุดนี้.งานนี้จะโดนนิมิตรหลอกได้.และนิมิตรที่สร้างมักจะสร้างตามกิเลสของเราด้วยเลยเหมือนกับว่ายิ่งทำให้เราหลงได้ง่าย
    และกลายเป็นมิจฉาแบบเราไม่รู้ตัวได้ครับ..เลยเป็นเหตุที่ต้องให้มาสร้างสติ
    ทางธรรมไม่ว่าวิธีอะไรก็ตามให้ต่อเนื่องในชีวิตประจำวันยกเว้นเวลาทำงานก็ตั้ง
    ใจทำงานให้เต็มที่...เพื่อใช้สติที่สร้างนี้ในการบังคับควบคุมไม่ให้ออกไปไหน.
    .ถึงจะออกก็ไม่ให้ไป..และถ้าจิตไปไหนสติทางธรรมตัวนี้ก็จะตามไปด้วย
    ชนิดที่ว่าไปไหนไปกันไม่ยอมปล่อย..
    เป็นคล้ายตัวความคิดที่ไม่ใช่นิวรณ์ ไม่ใช่ความคิดที่ปนด้วยกิเลสต่างๆและ
    ไม่ทำให้หลุดจากอารมย์เพราะเป็นตัวที่ตามอยู่ใกล้ๆกัน...ถ้าความคิดปรุงแต่ง
    เนื่องจากฐานของความคิดอยู่ภายในจิตเวลาเราคิดจึงทำให้หลุดจากตรงนี้ เพราะเหมือนเป็นตัวเชื่อมจิตกับกายให้กลับมาประสานกัน.
    .
    ส่วนถ้าทำได้จริงๆจนสามารถบังคับจิตให้อยู่ในร่างกายได้แล้ว.ค่อยว่ากันถ้าสนใจ
    อยากจะไปไกลกว่านี้.หรือว่าจะยกขี้นวิปัสสนาต่อไป.
    .​
     
  4. thitiwatyu

    thitiwatyu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2010
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +344
    ฝึกนานมั๊ยครับ กว่าจะได้
     
  5. solardust

    solardust เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    250
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,771
    ขออนุญาตมีส่วนร่วมนะครับ

    อาจจะไม่ได้ตอบคำถามซักเท่าไร แต่จากประสบการณ์
    1.ฌาน 4 กับอุปจารสมาธิ (ตามความเข้าใจของผมเองนะครับ) ฌาน 4 หยาบต่างกับอุปจารสมาธิ ที่ "คิด" ถ้าคุณคิดได้แปลได้ 2 แบบ คือคุณไม่ถึงฌาน 1 หรือคุณเข้าฌาน 4 ละเอียดไปแล้ว

    2.ลองสังเกตุดูนะครับ
    -ความรู้สึกในฌาน 3 ที่รับรู้ได้มี 2 อย่าง อย่างแรกคือ "นี่กู" อย่างที่สองคือ"นี่ร่างกู" (ขออนุญาตเว้นไม่พูดถึงตัวอื่นตามที่เรารู้กันนะครับ เช่น ปิติ สุข เอกัคคตา เป็นต้น)
    -ความรู้สึกในฌาน 4 (หยาบ)ที่รับรู้ได้มีอย่างเดียวคือ"นี่กู" อย่างอื่นแม้แต่ร่างกายก็ไม่รับรู้แล้วว่ามีอยู่หรือไม่มีอยู่
    เริ่มคิดได้เมื่อไรก็กลับไปก่อนฌาน 1 แล้วครับ ไม่ต้องไปขยับโน่นนี่ให้เสียเวลา
    -ความรู้สึกในฌาน 4 ละเอียด ตัวแรกที่จำได้เลย คือ มองเห็นได้รอบตัว ทั้งๆที่ตายังปิดอยู่ ตอนนี้จะเริ่มคิดได้อีกทีโดยที่ไม่เด้งกลับไปที่อุปจารสมาธิ แต่ตอนแรกๆ(ของผม)ออกจากกายเนื้อไม่ได้ ต้องฝึกต่อหลังจากนั้นอีกพักใหญ่ถึงจะออกมาได้
     
  6. Workgroup

    Workgroup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    693
    ค่าพลัง:
    +1,947
    แนะนำนะครับ พูดธรรมะให้ น้องเรา หรือ ว่าเพื่อนเราก่อนครับแล้วรองเข้าณานสี่ (ผมก็ใช่เป็นบ่างกรรณี ครับ) เข้าไปกระแทกจิตให้เค้ามี สติ (พ่อ แม่ เราห้ามใช้นะครับ)

    รองบังคับ คนให้มาฟั่งในธรรมะให้เค้าตั้งใจ นั่งฟังธรรมะ ที่เราจะอธิบาย เพราะผมสั่งเกตุ พระที่ชำนาน วิปัสสนากรรมฐานเข้า ก็เขา ณาน สี่ แล้วบังคับ ให้คนรู้ในธรรมะ ที่จะแสดง
    คือเอา ฤทธิ์ธานุภาพ ของ พุทธธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ก่อนที่จะเข้า ณานสี่ ก็
    อฐิฐานจิต ขออำนาจ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จนบรรดา พุทธธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ให้ข้าพระเจ้า (อฐิฐานเอาเอง) ให้อฐิฐานอยู่ใน ศีลนะครับ ถ้าไม่อยู่ใน ศีล จิต จะเกิด วิปลาส เวลา วิปลาส แล้วจะเข้าสมาธิ ลำบากครับ

    สาธุ
     
  7. ผู้ที่_

    ผู้ที่_ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +83
    คำว่า "น่าจะ" ก็บอกได้แล้ว เอาใหม่ๆครับ ปรากฏการณ์ทางจิตที่เกิดขึ้นยังอธิบายหยาบไป อย่าเดาว่าได้หรือไม่ได้ ลองพิจารณา วิตก วิจารณ์ ปีติ สุข และ เอกัคตารมณ์ ดูครับ เอาใหม่ๆ...แล้วจะถอดจิตไปทำอะไร ออร่าดูไปทำไมครับ จะปล่อยพลังคลื่นเต่าหรือครับ
     
  8. สุทัส

    สุทัส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +102
    ลองอ่านเรื่องฌาณ ญาณ ในตำราสักหน่อยสิครับ จะได้ไม่ใช้บัญญัติผิด
    ...ญาณมี ๘ หรือเรียกวิชชา ๘ ถ้าคุณได้ ญาณ ๔ ในตำราคือทิพยจักษุญาณ ,แต่ รูปฌาณมี ๔ ที่ ๔ คือจตุตถฌาณ น่ะ .
     
  9. นายกสิณ

    นายกสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2011
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +251
    ก็แค่สมาธินิ่งเท่านั้น มันฌานที่ไหนกัน
    ...บอกแล้วว่ามีแต่ฌานกระจอกที่ฝึกกัน...
     
  10. Fusion

    Fusion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +29
    ลมหายใจเบาไม่ได้แปลว่าจะได้ฌาน 4 ถ้าได้ฌาน 4 จริงจิตจะหลุด และแยกกับกายเลย ที่คุณเห็นๆ เป็นๆ ยังไม่ใช่ของจริง เพิ่มความเพียรให้มากกว่านี้ และอย่ามั่วคาดหวังจะได้ฌาน 4 ในเร็ววัน และสำคัญทำโง่ๆ ไม่ใช่คอยสังเกตุ เอ เราเหมือนในตำราหรือยัง ทำแบบนั้น เดี๋ยวมันก็คิดเข้าข้างตัวเอง เออนี่เหมือนแล้ว
     
  11. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ตอบยากนะ ผมถึงแนะนำให้หาครูที่เขาฝึกให้คนอื่นในด้านนี้
     
  12. Fusion

    Fusion Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +29
    และแนะนำอีกอย่าง ในนี้มีคนไม่รู้เรื่องเยอะมาก ยังไม่ถึงจุดแต่มาแนะนำเสียแล้ว อ่านตำรามาเยอะ แต่ยังไม่เคยถึงจริง ต้องเลือกอ่าน comment คนที่แนะนำได้จริง จากประสบการณ์จริงๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นผม แต่ต้องเลือกดีๆ ว่าจะฟังคำแนะนำคนไหน
     
  13. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ช่วยบอกหน่อยครับอาการฌาน4 เป็นแบบไหน ผมไม่เคยถึงฌาน4สักที ไม่แน่ใจ

    แต่ผมแนะนํา (อย่าเพิ่งเชื่อนะลองทําตามดูก่อน) ตัดขันธ์5 คิดว่าร่างกายนี่ไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั่นคือทุกข์ แล้วสิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั่นไม่ใช่ของเรา ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรก มี ขี้ มีปัสสาวะ ตับไตไส้พุงไรพวกนี้ สกปรกสิ้นดี ลองตัดขันธ์5ดู
     
  14. btme

    btme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +319
    ขออุนุญาตครับ อาการที่คุณ jabb2541 บอกมามันยังไม่ถึงฌาณ 4 หรอกครับ อาการของฌาณ 4 คือไม่มีอะไรครับ ไอ้ที่ว่าดิ้นแขนดิ้นขา ออกมาและเอามือวัดลมหายใจมันย่อมทำไม่ได้อยู่แล้วเพราะถ้าจิตอยู่ในฌาณ 4 มันคิดอะไรไม่เป็นหรอกครับมันแค่สักแต่ว่ารู้แล้วก็เฉย ไม่ได้ให้ค่าความหมายๆใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าจะ เข้า-ออก มันต้องกำหนดไว้ก่อนครับ ไอ้ที่ว่ากำหนดนี่มันก็ไม่จำเป็นต้องตั้งท่าอะไรให้มากมายมากหรอกครับ แค่คิดเอาด้วยกำลังของอุปจารสมาธิเรานี่แหละ ถ้าได้ฌาณเราจะใช้เวลาไหนตอนไหนเมื่อไรก็ได้ และที่ว่าถอดกาย นี่คงเป็นการถอดกายทิพย์รึเปล่าครับ ถ้าอยากจะถอดจริงก็ให้ลอง อธิฐานดูครับ แต่ต้องเข้าให้ถึงฌาณ4 =>ถอยมาอุปจารสมาธิ => อธิฐาน =>เข้าฌาณ4 =>ถอยมาอุปจารสมาธิ => อธิฐาน =>เข้าฌาณ4 ถ้าทำได้ตามนี้ก็น่าจะเคลื่อนกายทิพย์ออกไปได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมัก็ขึ้นอยู่กับวาสนาบารมีของแต่ละคนที่สั่งสมมาด้วยครับ แต่ขอเตือนไว้อย่างครับ ถ้าจิตไม่นิ่งพอก็อย่าเพิ่งดีกว่า เพราะบางทีอาจจะไปรู้ไปเห็นอะไรที่มันน่ากลัว มันจะทำให้ป่วยไข้ไม่สบายได้ ดีไม่ดีอาจจะเป็นบ้าได้ครับ
    ปล. ผมไม่ได้เป็นผู้ได้ฌาณใดๆทั้งสิ้นนะครับ ผมก็แค่ผู้ฝึกหัดครับ
     
  15. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คำว่า ญาณ (ยาน)ที่คุณกล่าวมา คุณคงหมาย "ฌาน"(ชาน)มากกว่า เพราะคำว่า "ญาณ(ยาน)" หมายถึง ความรู้ หรือ ปัญญาที่บุคคลนั้นสามารถคิดพิจารณาจดจำเข้าใจและใช้งานได้
    คุณขอรับ ฌาน(ชาน) เป็นเพียงธรรมชาติที่เกิดขึันขณะที่บุคคลนั้นๆปฏิบัติสมาธิ ไม่ว่าจะปฏฺิบัติรูปแบบใดก็ตาม ดังนั้น ฌาน(ชาน) จึงไม่ก่อให้เกิด ฤทธิ์ หรือ อิทธิฤทธิ์ ใดใดทั้งสิ้น
    แล้วขอถามสักหน่อย คุณจะถอดกายไปทำไมกันขอรับ คำว่าถอดกาย บ้างก็เรียกว่า ถอดจิต ไม่มีผู้ใดสามารถทำได้นะขอรับ ถ้าแยกกาย แยกร่าง อวตาร หรืออาจจะ แยกจิต ก็คงพอจะมีผู้ที่ทำได้อยู่บ้าง
    ปุถุชนคนทั่วไปก็ทำได้ขอรับ ในแง่ของการ แยกจิต ซึ่งย่อมหมายถึงการแบ่งแยกสมาธิ สามารถรับรู้ สั่งการในการทำกิจกรรมต่างๆได้หลายๆกิจกรรมไปพร้อมกัน
    แต่ถ้าเป็นการแยกกาย แยกร่าง หรือ อวตาร ต้อง ระดับ พระอรห้นต์ ขึ้นไปเท่านั้นขอรับ จึงจะสามารถทำได้ แต่ก็ไม่ใช่พระอรห้นต์ทุกองค์จะทำได้นะขอรับ มันเกี่ยวข้องกับ ญาณ(ยาน) คือความรู้ อีกปัจจัยหนึ่งขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...