ผมมีข้อข้องใจอยากรบกวนถามท่านผู้รู้ครับผม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Nhc_, 15 มีนาคม 2013.

  1. Nhc_

    Nhc_ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    1.คำถามแรกผมอยากถามว่า ถ้าหากผมเรียกสมเด็จองค์ปฐมว่าพระอาจารย์จะเหมาะสมหรือผิดหลักในพุทธศาสนาไหมครับ คือผมไม่ได้เรียกให้คนทั่วไปได้ยิน แต่คำๆนี้ผุดขึ้นมาเอง ผมก็สงสัยเหมือนกัน
    ปล.ผมเคยพยายามหาพระอาจารย์สอนฝึกสมาธิ แต่มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านได้ฝึกจนสำเร็จได้ระดับนึง ท่านได้บอกกับผมว่า ผมไม่ต้องไปหาพระอาจารย์ที่ไหนแล้ว เรียนเองได้เลย อยู่กับตัวผมแล้ว
    2.ผมอยากทราบว่ามีสมาชิกท่านใดเป็นเหมือนผมบ้างครับ คือผมได้ยินและทราบคำว่านิพพานมาพอสมควร ตั้งแต่ปฏิบัติมา ทำไมผมถึงไม่เกิดอารมณ์ปรารถนาในการบรรลุนิพพานเลย เพราะในใจผมคิดว่าหากเข้าสู่พระนิพพานแล้วจะไม่มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่ยังตกอยู่ในความทุกข์

    สำหรับคำถามที่อยู่ในใจผมมีอยู่หลักๆเพียงเท่านี้ อาจจะฟังเป้นคำถามที่ดูเพี้ยน แต่ก็เป้นข้อสงสัยที่ผมยังหาคำตอบไม่ได้ครับ
    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
    สาธุ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    1.คำถามแรกผมอยากถามว่า ถ้าหากผมเรียกสมเด็จองค์ปฐมว่าพระอาจารย์จะเหมาะสมหรือผิดหลักในพุทธศาสนาไหมครับ คือผมไม่ได้เรียกให้คนทั่วไปได้ยิน แต่คำๆนี้ผุดขึ้นมาเอง ผมก็สงสัยเหมือนกัน
    ปล.ผมเคยพยายามหาพระอาจารย์สอนฝึกสมาธิ แต่มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านได้ฝึกจนสำเร็จได้ระดับนึง ท่านได้บอกกับผมว่า ผมไม่ต้องไปหาพระอาจารย์ที่ไหนแล้ว เรียนเองได้เลย อยู่กับตัวผมแล้ว

    เรียกได้สิครับ เราเรียกเองส่วนตัวเรานะ....ส่วนที่ว่าถ้าได้คำสอนมาอย่างไรก็อย่าลืมตรวจทานกับพระไตรปิฏกไว้บ้างนะครับ เพราะว่าจิตเราถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ ก็ชื่อว่ากิเลสยังมีอิทธิพลต่อจิตได้อยู่ สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริงก็ได้...

    2.ผมอยากทราบว่ามีสมาชิกท่านใดเป็นเหมือนผมบ้างครับ คือผมได้ยินและทราบคำว่านิพพานมาพอสมควร ตั้งแต่ปฏิบัติมา ทำไมผมถึงไม่เกิดอารมณ์ปรารถนาในการบรรลุนิพพานเลย เพราะในใจผมคิดว่าหากเข้าสู่พระนิพพานแล้วจะไม่มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่ยังตกอยู่ในความทุกข์

    วิสัยปกติของพุทธภูมิครับ.....
     
  3. Nhc_

    Nhc_ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบพระคุณ คุณ Phanudet เป้นอย่างสูงครับผม
    ช่วงนี้ผมจะเริ่มกลับมาฝึกปฏิบัติจริงจังอีกรอบแล้วครับ เพราะช่วงเดือนกว่าๆที่ผ่านมา ที่มหาวิทยาลัยมีสอบ รวมทั้งช่วงเวลาเดือน สองเดือนที่ผ่านมา มีเรื่องทดสอบกำลังใจผมเป็นอย่างมากครับ เรียกได้ว่ามรสุมเลยก็ว่าได้ แต่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คิดว่ามีเวลาฝึกอย่างจริงจังมากขึ้นแล้วครับ
    ปล.จริงๆมีอยุ่ครั้งนึงผมนอนๆแล้วฝัน (ซึ่งผมก็เผื่อใจไว้ส่วนนึงว่า อาจจะจิตปรุงแต่งเองก็เป็นได้) คือระหว่างที่หลับ ผมได้ยินเสียงถามผมว่า.. แน่ใจหรือว่าจะนิพพานแล้ว แล้วก็ถามประมาณว่า จะไม่อยู่ช่วยเหลือสรรพสัตว์แล้วหรือ?
    ประมาณนี้อ่าครับ ผมเลยไม่แน่ใจ แต่ก็ไม่กล้าคิดไปเองว่าตนเองเป็นพุทธภูมิด้วย เพราะไม่กล้าประเมินตัวเองสูงขนาดนั้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2013
  4. นพณัฐ

    นพณัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +4,499
    สาธุ... ท่านจขกท ช่างมีจิตเมตตาต่อสรรพสัตว์อย่างยิ่ง ขออนุโมทนา

    ผมเองก็เคยแสวงหาคำตอบให้แก่ตนมาเนินนานแล้ว เคยคิดมาตั้งแต่เล็ก ๆว่า
    ความสุขคืออะไร ความทุกข์คืออะไร จุดมุ่งหมายสูงสุดของเราคืออะไร

    แม้เราจะศึกษาและปฏิบัติธรรม จนเบื่อหน่ายในขันธ์ จิตเกิดอารมณ์ปรารถนาในพระนิพพาน
    แต่เมื่อเราได้ใคร่ครวญพิจารณาแล้ว เรานี้จะไปเพียงผู้เดียว หลุดพ้นผู้เดียว นั่นไม่ใช่เรา
    เพราะส่วนลึกข้างใน เราเองปรารถนาอยากที่จะช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์

    ความสุขที่เราแสวงหาให้กับตนเอง แท้จริงแล้ว... มันไม่ใช่เพื่อตนเองเลย
    การได้ช่วยเหลือ ได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นผู้อื่นมีความสุข
    นั่นคือสิ่งที่เราปรารถนาอยากจะกระทำ และหวังที่จะให้เป็น... แม้จะรู้อยู่แก่จิตว่า
    สัตว์โลกนั้นล้วนเป็นไปตามกรรมของตน แม้เขาจะต้องได้รับวิบากผล จนต้องจำทุกข์ทรมาน
    แต่อย่างน้อยหากเราช่วยได้ ก็ขอให้เราได้ช่วยสักหนึ่งชีวิต ให้เขาได้พ้นจากทุกข์นั้นเถิด...

    ทั้งหมดเหล่านี้ คือสิ่งที่ผมอาจจะแสวงหาและปรารถนามาดังเช่นนั้น
    แต่ทว่า...จะศึกษาตำราไหนจะถามใครก็ได้คำตอบเดียวว่า นี่คือวิสัยของพุทธภูมิ
    พุทธภูมิ คำนี้คือสิ่งอันสูงสุดและยิ่งใหญ่เกินไป หาได้ควรแล้วแก่ตนไม่
    ไม่อาจกล้าแม้แต่จะคิดว่าตนเองใช่ ตนเองเป็น...
    เราอยากจะกระทำเพียงเพื่อเช่นนี้ ไม่ได้อยากที่จะเป็นเพื่อเช่นนั้นเลย

    ยังไงแล้วก็ขออนุโมทนา มา ณ ที่นี้อีกครั้งด้วย สาธุ...
     
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    พุทธภูมิ ถ้ามีคุณสมบัติเล็กน้อย คือ มีเมตตาเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ซึ่งเป็นพื้นฐานเพียงเท่านี้ได้ ใครก็ปรารถนาได้ครับ....แต่มันเป็นแค่ความปรารถนา แต่จะเป็นได้หรือไม่นี่คนละเรื่อง...

    ก็เหมือนคุณ จบ ม.๖ มา (คุณมีคุณธรรมพื้นฐาน) คุณปรารถนาพุทธภูมิ(เรียนต่อปริญญาตรี) แต่คุณจะจบปริญญาตรีหรือไม่นี่มันคนละเรื่อง ค่อยๆเรียน ค่อยๆเก็บหน่วยกิตไป จนจบ นั่นหละครับ

    ที่คุณยังไม่แน่ใจ ก็คือ ความมั่นคงของคุณยังไม่มี ถ้ายังไม่แน่ชัดอย่างนี้ก็ทำไปก่อนครับ เดี๋ยวสักวันมันก็แน่ชัดขึ้นมาเอง พุทธภูมิก็ดี สาวกภูมิก็ดี มันอยู่ที่ฐานของจิตเลยครับ ไม่ได้อยู่ที่ปากปล่าวประกาศ หรือ ความอยากชั่วคราว....เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องแลกกับการสร้างมา....และ สร้างแบบนานแสนนาน....

    ปฏิบัติต่อไปนะครับ....
     
  6. เล็กชิ้นสด

    เล็กชิ้นสด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +178
    เรียกพระอาจารย์ไม่เหมาะ
    เพราะเป็นคำที่เป็นสาธารณะ ใช้ทั่วไป กับ สาวก อัครสาวก

    แนะนำให้ใช้คำอื่น จะเหมาะกว่า
     
  7. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    เรียกว่าพระอาจารย์ไม่เหมาะ เพราะพระนามของพระพุทธเจ้าเป็นพระนามพิเศษคือศาสดาครับ ส่วนพระอาจารย์นั้นคือพระอัครสาวกลงมาถึงพระธรรมดาๆ
    ฉะนั้น ไม่สมควรอย่างยิ่ง
     
  8. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณไม่ใช่ว่าไม่มีอารมณ์เกาะนิพพาน พระโพธิสัตว์ต้องมีอารมณ์เกาะนิพพานเป็นปกติ ถ้าไม่มีอารมณ์เกาะนิพพานถือว่ายังห่างไกลจากโพธิญาณอยุ่มาก ยังประมาทมาก คนปรารถนาพุทธภูมิหลายคนยังเข้าใจผิดในประเด็นนี้อยู่เยอะเลย สิ่งที่จะบ่งบอกว่าพระโพธิสัตว์ท่านใดบารมีเข้มหรืออ่อนให้ดูที่การเจริญวิปัสสนาให้มาก จิตพิจารณาเห็นพระไตรลักษณ์เป็นปกติ เกาะนิพพานทุกขณะจิต ไม่ใช่อ้างฤทธิ์อ้างเดช ทุกวันนี้พระโพธิสัตว์มุ่งฤทธิ์เยอะเกินไป เลยขาดปัญญาในการแสวงงหาธรรมเป็นเครื่องพ้น จงเกาพนิพพานเถอะอย่าไปกลัวว่าท่านจะเข้านิพพานก่อน ถึงเวลาท่านจะเข้าใจเองว่าควรจะเดินต่อ หรือจะลา ไม่มีใครบอกได้นอกจากตัวท่านเองในขณะนี้ นอกนั้นนอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว ไม่มีใครพยากรณ์ได้แม้สักคนเดียว
     
  9. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    1.คำถามแรกผมอยากถามว่า ถ้าหากผมเรียกสมเด็จองค์ปฐมว่าพระอาจารย์จะเหมาะสมหรือผิดหลักในพุทธศาสนาไหมครับ คือผมไม่ได้เรียกให้คนทั่วไปได้ยิน แต่คำๆนี้ผุดขึ้นมาเอง ผมก็สงสัยเหมือนกัน
    ปล.ผมเคยพยายามหาพระอาจารย์สอนฝึกสมาธิ แต่มีอาจารย์ท่านหนึ่งที่ท่านได้ฝึกจนสำเร็จได้ระดับนึง ท่านได้บอกกับผมว่า ผมไม่ต้องไปหาพระอาจารย์ที่ไหนแล้ว เรียนเองได้เลย อยู่กับตัวผมแล้ว

    *** เราดีพอหรือยังที่จะเรียกพระพุทธองค์ว่า พระอาจารย์


    2.ผมอยากทราบว่ามีสมาชิกท่านใดเป็นเหมือนผมบ้างครับ คือผมได้ยินและทราบคำว่านิพพานมาพอสมควร ตั้งแต่ปฏิบัติมา ทำไมผมถึงไม่เกิดอารมณ์ปรารถนาในการบรรลุนิพพานเลย เพราะในใจผมคิดว่าหากเข้าสู่พระนิพพานแล้วจะไม่มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่ยังตกอยู่ในความทุกข์

    *** กรรมเก่ายังใช้ไม่หมด
     
  10. ณัฏฐนิต

    ณัฏฐนิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +253
    ผมอยากทราบว่ามีสมาชิกท่านใดเป็นเหมือนผมบ้างครับ คือผมได้ยินและทราบคำว่านิพพานมาพอสมควร ตั้งแต่ปฏิบัติมา ทำไมผมถึงไม่เกิดอารมณ์ปรารถนาในการบรรลุนิพพานเลย เพราะในใจผมคิดว่าหากเข้าสู่พระนิพพานแล้วจะไม่มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่ยังตกอยู่ในความทุกข์
    ตอบคับ ก่อนอื่นต้องตอบตัวเองให้ได้นะครับว่าหาคำตอบได้โดย เป็นพุทธภูมิหรือเปล่า?(คุณต้องได้ปฐมฌานเดี๋ยวสัญญาเก่าจะมาเองคับ) ถ้าไม่เป็นเนี่ยรีบเร่งวิปัสณาญาณเพื่อเป็นพระโสดาบันดีกว่า ส่วนถ้าเป็นพุทธภูมิก็ควรเร่งวิปัสณาญานอีกนั่นแหละครับเพราะว่าอะไร? เพราะว่าสิ่งใดที่พระพุทธองค์สอนไว้เนี่ยเราควรจะทำตามเพราะการเป็นพระพุทธเจ้าเนี่ยก็ต้องไปนิพพานเหมือนกัน คุณจึงควรเกาะและรักพระนิพพานให้มาก คือคุณต้องปฏิบัติให้ถึงขั้นที่เรียกว่า จะไปก็ได้แต่ยังไม่ไปเพราะมีเมตตาค้ำคออยู่ คือคุณต้องช่วยตัวเองให้ถึงนิพพานก่อนนะครับถึงจะหันหลังมาช่วยคนอื่น หากตัวเองยังไม่รักนิพพานแล้วจะสอนให้คนอื่นเข้าสู่กระแสนิพานยังไงล่ะ คุณบอกว่าอยากช่วยเขาให้พ้นทุกข์ และการพ้นทุกข์นี่แหละคือการเข้ากระแสนิพพานหากไม่เข้ากระแสนิพพานเมื่อใหร่ต่อให้เกิดเป็นเทพเป็นพรหมชั้นสูงขนาดใหนก็มีโอกาสดิ่งลงอบายเต็ม100
    สำรวจตัวเองนะครับเพราะพระโพธิสัตว์ก็แบ่งเป็นขั้นๆเหมือนกับพระอริยะถ้าภูมิธรรมของคุณยังไม่เทียบพระโสดาบันแปลว่าบารมียังอ่อนอยู่มากเพราะพระโพธิสัตว์ต้องผ่านภูมิธรรมนั้นมาแล้วถึงจะมาสอนเขาได้ คือพูดง่ายๆคุณต้องรู้ทันกิเลศและพยายามอย่าให้มันเกิดขึ้น ดูอย่างหลวงปู่ทวด หลวงปูดู่ใจท่านขาวสะอาด ภูมิธรรมเทียบพระอรหันต์แต่มีจุดดำอยู่จุดเดียวคือ เมตตา พระโพธิสัตว์บารมีสูงมากเท่าใหร่กิเลสของท่านจะน้อยลงเท่านั้นนะครับ
    หากคุณเป็นพุทธภูมิจงเจริญเมตตาบารมีและพรหมวิหาร4ให้มากเพื่อเหลือไว้ดึงตัวเราเมื่อปฏิบัติจนอารมณ์ใจเทียบเท่าพระอรหันต์
    พระโพธิสัตว์บางองค์รักพระนิพพานมากจนต้องขอลาเป็นสาวกภูมิก็มีมากมายนะครับ
    เขียนซะยาวถ้าหากว่า จขกท เป็นพุทธภูมิผมก็หวังว่าสิ่งนี้จะให้คำตอบคุณได้บ้าง แต่หากไม่ใช่ ก็เป็นความรู้เล่นๆก็ได้นะครับ ^_^
     
  11. ณัฏฐนิต

    ณัฏฐนิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +253
    ปล.ปฏิบัติจนอารมณ์ใจเทียบเท่าพระอรหันต์
    นีหมายถึงการทรงอารมณ์พระอรหันต์นะครับไม่ได้เป็นพระอรหันต์
    และหากเป็นพุทธภูมิถ้าหากบารมียังไม่ถึงเนียมันก็ไม่ได้ทำได้ในชาติเดียวนะครับบางคนยังติดแหง็กอยู่ที่อารมณ์พระโสดาบันเลย เราจะทำได้ยากกว่าพวกสาวกภูมิเพราะพุทธภูมิเรียนไปเป็นครูเขาต้องรูมากและละเอียดยิบ เนี่ยเสียเวลาตรงเนี้ย+_+
     
  12. wat2518

    wat2518 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +147
    จขกท แปลว่าอะรครับ ผมไม่รู้จริงๆครับ
     
  13. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    เรียก พระอาจารย์ ได้ครับ เพียงแต่ถ้าจิตละเอียดกว่านี้อีกก็จะเลิกเรียกไปเอง เพราะจะทราบเองว่าคุณของพระพุทธเจ้ามากเกินกว่าที่เราจะเรียก พระองค์ว่า พระอาจารย์ เจตนาดีก็ส่วนดีครับ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรจะขอขมาพระรัตนตรัยบ่อยๆ ครับ พระบารมีของสมเด็จองค์ปฐมกับพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ต่างกันลิบลับครับ แม้พระนามของพระองค์ ถ้าเราจะพูดเพื่อสื่อถึงก็ต้องระวังกันทุกขณะจิตว่าเรากล่าวไม่เหมาะสมหรือไม่ เพราะกรรมเหล่านี้มันเป็นมโนกรรม ผลก็ยอมเกิดกับจิตเหมือนกัน มันน่ากลัวตรงที่กรรมเหล่านี้สามารถขัดขวางเราไม่ให้เข้าถึงมรรคผลหรือการปรารถนาพุทธภูมิได้ง่ายๆ ถ้าไม่มั่นขอขมาพระรัตนตรัย

    ผมเป็นบ่อยๆ ครับ หลายครั้งเวลาสอนธรรมะคนอื่นยังเผลอเรียกแทนพระองค์ว่า "ท่าน" เลย แต่ก่อนไม่เคยฉุดคิด พอมารู้ทีหลังนี่หนาวเลย พยายามจะไม่ให้พลาดอีก

    แนะนำว่าให้หาครูบารอาจารย์นั่นแหละครับดีที่สุด ที่พระท่านทักมามันคือทุนเดิม แต่ใครจะรับประกันได้ว่าชาตินี้เราจะดีกว่าเดิม ไม่แย่ไปกว่าเดิม ของเหล่านี้คนมีปัญญาจะคิดได้มาจบที่คำว่า "ไม่ประมาท" อย่างไรเสียถึงเราจะไม่ทิ้งธรรมเลย แต่ก็ควรจะมีครูบาอาจารย์ไว้ในใจเสมอ ป้องกันทิฐิมานะของตนทำให้ตัวเองหลงทาง

    ส่วนเรื่องปรารถนานิพพานนั้น ถ้าบารมียังไม่ใกล้เต็มจริงๆ ก็ยากที่จะปรารถนานิพพานเป็นอารมณ์ได้ควบคู่กับปรารถนาพระโพธิญาณ เพราะของแบบนี้แกล้งเข้าถึงกันไม่ได้ เอาเป็นว่าไม่ว่าจะปรารถนาถึงระดับไหน มันก็เป็นสิ่งที่ต้องผ่านไปให้ได้ ไปให้ถึงที่สุดของความปรารถนาอยู่ดี มันสำคัญที่ว่าเราจะทิ้งสิ่งเหล่านี้หรือไม่แค่นั้น

    อนุโมทนาในความปรารถนาพุทธภูมิเช่นเดียวกันนะครับ
     
  14. zhayun

    zhayun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +425
    ผมว่าควรเรียกว่า พระบรมศาสดา พระบรมครู หรือ อะไรก็ได้ที่หลวงพ่อท่านเรียกกัน
    อย่างเช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านก็ไม่เคยเรียกพระพุทธเจ้าว่า พระอาจารย์
    แต่ท่านเรียกว่า พระบรมศาสดา พระบรมครู พระพิชิตมาร พระทศพล พระชินสีห์เป็นต้น
    ผมว่าคุณควรเรียกแบบนี้จะดีกว่า


    อีกข้อคือ
    ทำไมจิตของพระโพธิสัตว์ถึงไม่เกาะพระนิพพานละ?
    ดูอย่างพระสุเมธดาบสสิ ท่านก็ปรารถนาพระนิพพาน แต่จิตท่านก็เกาะพระนิพพาน
    แม้จิตของท่านเกาะพระนิพพาน แต่ก็ไม่ทำให้พุทธภูมินั้นหายไป
    ตรงกันข้ามจิตกลับรักพุทธภูมิมากขึ้น เพราะจิตเกาะพระนิพพาน


    คุณลองคิดดูสิว่า ถ้าจิตคุณเกาะพระนิพพาน จิตไม่ติดอะไรในโลก
    คุณจะสามารถบำเพ็ญบารมีได้ดียิ่งขึ้น เพราะจิตไม่มีห่วงอะไร
    คุณจะสามารถสละร่างกาย หรือลูกเมียเป็นทานก็ได้ เพราะคุณไม่ยึดถือ
    เพราะคุณรักพระโพธิญาณ และพระนิพพาน
     
  15. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ผมคิดว่า การเรียกองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพระพุทธสิกขีทศพลสมเด็จองค์ปฐมว่า พระอาจารย์นั้น ไม่เหมาะสม ไม่ควรจะเรียกครับ ควรเรียกพระนามที่คนทั่วไปใช้เรียกพระพุทธเจ้าครับ คนที่มีจิตละเอียดจะไม่เรียกสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างนั้นเด็ดขาดครับ อาจเป็นมารเข้ามาดลใจให้คิดไปเอง ระวังเรื่องการคิดแปลกๆกับพระรัตนตรัยนะครับ เพราะเป็นของสูง เป็นบาปเป็นกรรมหนักมาก ส่งผลถึงตอนเป็นตรัสพระพุทธเจ้าแล้วด้วย
    อีกอย่างที่จิตไม่คิดยินดีหรือยังไม่ต้องการพระนิพพานนั้นเป็นเพราะบารมีอาจจะอยู่ในบารมีต้นหรืออุปบารมี ถ้าเป็นพระโพธิสัตว์ก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นหลายแสนชาติกว่าจะยินดีในพระนิพพานครับ และที่ว่าไม่มีเวลาปฏิบัติธรรมนั้นไม่ถูกครับ ตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็คือมีเวลาปฏิบัติธรรมครับ เวลาทุกข์กายทุกข์ใจ ก็พิจารณาความทุกข์นั้นสิครับ ว่าเกิดเป็นมนุษย์น่ะมีแต่ความทุกข์ ทุกข์เพราะแก่ ทุกข์เพราะเจ็บไข้ได้ป่วย ทุกข์เพราะความตาย หรือเห็นคนแก่ คนเจ็บ คนตาย คนเสียใจ ก็พิจารณาว่าวันหนึ่งเราต้องเป็นอย่างนี้ จะหลีกหนีไปไม่พ้น ว่างๆก็ภาวนา พุทโธ เอาไว้ เห็นบางคนคากดแต่โทรศัพท์ ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความทุกข์นานาห้อยคอตั้งแต่เกิดก็ไม่รู้จัก ไม่พิจารณาหาทางพ้นจากการเกิดแล้วไปพระนิพพานกันเลย เอาไปพิจารณาแลปฏิบัติดู เจริญสมถะภาวนาวิปัสสนาภาวนานั้นต้องทำอยู่เรื่อย เดิน ยืน นั่ง นอน กินข้าว หรือทำกิจต่างๆ ก็ต้องภาวนาและพิจารณาให้เห็นความจริงของร่างกายและความเป็นธรรมดาของวัตถุธาตุทั้งหลายเนืองๆด้วยความไม่ประมาทครับ เพราะว่าเราจะตายตอนไหนก็ไม่รู้ได้ อย่าประมาทในชีวิต อย่าคิดว่าเราจะไม่ตาย ต้องคิดว่ามันจะตายเอาไว้ตลอด จะได้ไม่ประมาทในชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  16. WEKIN

    WEKIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +39
    จขกท เป็นตัวย่อ ของคำว่า เจ้าของกระทู้ ครับ
     
  17. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ตอบข้อแรก จะรู้ได้อย่างไร ครับว่า พระพุทธเจ้าพระองค์ไหนเป็นองค์ปฐม จะว่าไปแล้วสังสารวัฏนี้ยาวนานมาก จนนับไม่ถ้วน พระพุทธเจ้าที่อุบัติเกิดขึ้นมาแต่ละพระองค์ นั้น ต่างก็ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน พระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ ก็ได้รับพุทธพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ ย้อนขึ้นไปอีก แบบไม่มีที่สิ้นสุดฯลฯ
    ตอบข้อที่สอง แสดงว่ามีอุปนิสัยติดมาน่ะครับ อนุโมทนาด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...