ผีมาขอส่วนบุญตอนผมบวช

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย anuchitpinyo, 2 พฤษภาคม 2013.

  1. bombybamby

    bombybamby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +46
    แชร์กันนะครับ ตอนก่อนผมบวชก็เจอเหมือนกันครับ ครั้งแรกตอนเป็นผ้าขาว นอนอยู่ในศาลาที่มีพระประธานนั่นแหละครับ ตื่นมาตอนดึก เจอเหมือนเป็นคนตัวใสๆ ยืนลอยกันอยู่เป็นสิบๆ แต่เหมือนไม่ค่อยน่ากลัวมาก ท่องนะโมๆในใจ เหมือนจะช่วยได้นิดหน่อย

    ครั้งที่สอง บวชเป็นพระแล้ว งีบหลับไปช่วงเที่ยงๆ งัวเงียลืมตามางานก็เข้าปุ๊ป เห็นเป็นคนแต่มีลักษณะเป็นควันธูปสีขาวทึบๆ เห็นช่วงหน้าอกดำๆลักษณะเหมือนคนโบราณ สงสัยมาได้แค่นี้ แต่ก็ดีกว่ามาแต่หัว.. ผมไม่รู้นึกพิเรนท์อะไร เหมือนผมสามารถใช้ใจพลิกๆซ้ายๆขวาๆเค้าได้ด้วยครับ แต่ทั้งหมดนี้ผมอาจจะบ้าๆบอๆไปเองก็ได้ แต่ตอนนอนผมก็เปิดไฟทิ้งไว้ตลอดเลยครับกลัวงานจะเข้า

    ก่อนหน้าจะบวชไปนอนคอนโดแม่ก็โดนครับ เหมือนเค้าจะรู้ว่าเราจะบวช เล่นมาอำตอนดึกๆ เห็นเป็นตัวใสๆอีกแล้ว นุ่งขาวห่มขาว เหมือนเป็นคุณยายมีอายุ มายืนใสๆอยู่มุมห้อง
    ผมก็ไม่ไหวแล้ว ฮึ่ม ขอต่อยผีหน่อยเหอะ พอเข้าไปประจันหน้าได้ซักเมตรได้ เค้าก็ค่อยๆหายไป อารมณ์บ้าๆตอนนั้นหายไปเลยครับ เหมือนจะไข้ขึ้น เลยลากที่นอนไปนอนกับแม่ นอนหลับๆตื่นๆยันเช้าเลย
     
  2. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    ต่อหน่อยครับคุณ Siddhartha
     
  3. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    ขอบคุณ คุณ bombybamby ที่เล่าให้อ่านครับ
     
  4. DoctorKritt

    DoctorKritt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2013
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +222
    ตอนผมบวชไม่เจออะไรนะครับ เพราะผมเป็นคนกลัวผีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่คิดว่าตัวเองอยู่ในเพศบรรพชิตทำให้ต้องทำตัวให้นิ่งและทำใจให้สงบ ผมอธิษฐานจิตไว้ถ้ามีสิ่งใดลบหลู่ล่วงเกินขอจงอโหสิกรรมให้หรือถ้าอยากได้บุญให้มาเข้าฝันว่าต้องการอะไร อย่าได้ปรากฎให้เห็นเป็นรูปลักษณ์เพราะจะทำให้พระบวชใหม่อย่างผมตกใจมันจะเป็นบาป ทำวัตรเช้าตี4เศษ เดินบิณบาตร6โมงเช้า 7โมงฉันท์ภัตาหารเช้าและให้ศีลให้พรญาติโยม หลังจากนั้นเราก็มาทำการกรวดน้ำโดยเป็นบทสวดสำหรับพระสงฆ์(ไม่ใช่บทสวดยะถา)ผมกรวดน้ำให้กับดวงวิญญาณทุกเช้าเปิดหนังสือสวดตามนั้นเลย และแผ่เมตตาหลังทำวัตรเย็นทุกวัน บางวันจะมีพระบวชใหม่ซึ่งบวชหลังจากผมประมาณ4-5วัน มาชวนไปนอนเอาหวยเอาเลขที่ป่าช้าที่เผาศพ ผมก็ไปกับเค้าและเค้าเล่าว่าเฮี้ยนมากเจอทุกราย ผมไปไม่ยักกะเจอ ตรงศาลาที่เค้าว่าเฮี้ยนๆผีเดินบนหลังคาหลอกพระหลอกแม่ชีผมก็ไปนอนมาไม่เจออะไร หรือ เพราะผมกวดน้ำและแผ่เมตตาทุกวันอยู่แล้วเลยไม่มีใครมาขอส่วนบุญนะเข้าฝันก็ไม่เข้าสงสัยวัดผมบวชจะอิ่มบุญกันถ้วนหน้า ^____^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2013
  5. bombybamby

    bombybamby Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +46
    เห็นผีก็ดีเหมือนกันครับ ได้แง่คิดดี ถ้าเราเอาไปพิจารณาต่อในเรื่องของบาปบุญคุณโทษ
    เราจะได้ไม่กล้าทำอะไรที่มันไม่ดี ถ้าเกิดวิญญาณมีจริง.. การเวียนว่ายตายเกิดก็คงมีจริงๆ..

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรต้องใช้กาลามสูตรเข้ามาตรองดูด้วย ว่ามันมีจริงๆหรือแค่หมูหมาแมวมาคุ้ยใบไม้.. ซึ่งเหตุหลังๆนี่ผมเจอบ่อยมากๆ เราไปปรุงมันเพิ่มเอาเองก็มี..
     
  6. DoctorKritt

    DoctorKritt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2013
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +222
    ถ้าคุณ bombybamby ได้อ่านแชร์เรื่องผี คุณปู่น้อยใจ
    ที่ผมเขียนไว้ว่าตอนเด็กเคยเจอเรื่องแบบนี้ คุณจะรู้ว่าผมเชื่อว่าวิญญาณมีอยู่จริงผมเลยไม่อยากจะเจอเค้าไง แม้ว่าผมจะเรียนวิชา"กรอส อนาโตมี่" ที่ต้องผ่าศพเพื่อศึกษากายวิภาค แต่ถ้าต้องเจอกับผีหรือวิญญาณผมเองก็คงจะทำใจไม่ได้หรอกนะ ยังไงก็บอกกล่าวเค้าก่อนว่าเราไม่พึงประสงค์ที่จะพบเป็นดีที่สุด เวลาไปต่างถิ่นต่างที่พบเจอศาลเจ้าที่เจ้าทางผมก็ยกมือไหว้ฝากตัวเป็นลูกเป็นหลานเพื่อให้ท่านคุ้มครองเรามาดีไม่มีเจตนาร้าย เวลานอนโรงแรมก็เอาตังค์วางหัวเตียงจ่ายค่าที่นอนอีกทีขยับเตียงนิดๆหน่อยๆก็จบ เงินที่เราจ่ายไปเดี๋ยวพวกพนักงานก็มาเก็บถือว่าให้ทริปไป ผมเลือกจะไปหาแง่คิดดีๆจากอย่างอื่นมากกว่าเห็นผี เช่น ดูละคร ใครดูเป็นก็เห็นธรรมใครดูขำๆก็จบกันไป เรียนรู้จากประสบการณ์ผู้อื่นที่เอามาถ่ายทอดให้เราฟังหรืออ่านแล้วเราก็คิดตามโยงเข้าหลักเหตุและผลผมว่าแบบนี้เหมาะกับผมมากกว่าที่จะต้องเจอผี ยังไงก็อนุโมทนาบุญนะท่าน
     
  7. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    ขอบคุณ คุณDoctorKritt มากครับที่แชร์
     
  8. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    ถูกต้องแล้วครับคุณ bombybamby
     
  9. namotussa

    namotussa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +1,470
    ขอให้ถือว่าเป็นการทดสอบ เพื่อให้ในขณะบวชเราจะได้เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรม
     
  10. Chanseenak

    Chanseenak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +506
    ขอเล่าบ้างครับ ตอนที่ผมบวชประมาณ ปี 46 ผมไปพักอยู่กุฎิริมสระน้ำของวัด ซึ่งอยู่ในป่าต้นไทร ตัวกุฎิจะหันหน้าไปที่สระน้ำ ที่กลางสระน้ำจะมีศาลาอยู่ 1 หลัง กุฎิที่ผมพักจะอยู่ห่างจากหลังอื่นๆ พอสมควร ค่อนข้างเปลี่ยววังเวงครับ (ไม่รู้ไปอยู่ได้ไง)

    อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากทำวัตรเย็นเสร็จ ก็เดินลงมาจากศาลาโรงธรรมด้านบน เพื่อจะกลับกุิฏิ พอเดินมาถึงหน้ากุฏิ สายตาก็มองไปที่ศาลากลางสระน้ำ ใจวูบเลยครับ เห็นเป็นผู้หญิงแก่ๆ ใส่ชุดขาว นั่งอยู่ที่เสามุมศาลาหันหน้ามาทางผมพอดีเลยครับ ใจไม่ดีเลยครับ พยามมองด้วยใจระทึก ภาพก็ชัดมากเลยครับ เลยเอาไฟฉายส่องดู คุณพระช่วยคราวนี้ชัดเลยครับ ปรากฏเป็นแม่ชีแก่ๆ ใส่หมวกสีเหลือง ผมเลยตะโกนถามว่า "ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นครับยาย" 555 ไม่ใช่ว่าผมจะมีความกล้าคุยกับผีอะไรหรอกครับ แกเป็นแม่ชีที่อยู่ในวัดนั่นแหละ ไม่รู้ไปนั่งทำอะไรมืด ๆ เล่นเอาใจหายวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม เกือบช๊อคตายแน่ะครับ

    พอปลายพรรษา ตอนนั้นนอนอยู่ในกุฎิ ช่วงดึก ๆ รู้สึกตัวขึ้นมา มันเงียบวังเวงมาก ตอนนั้นคล้ายๆ ครึ่งหลับครึ่งตืน รู้สึกเหมือนมีสายตาผู้หญิงจ้องมองมาด้วยความดุร้าย จะกินเลือดกินเนื้อ น่ากลัวมาก ก็เลยจะพลิกตัวลุกขึ้น เอาละครับคราวนี้ มันพลิกตัวไม่ได้ครับ หนักไปหมด จะยกแขนก็ไม่ได้ พลิกซ้ายขวาก็ไม่ได้ มันแ็ข็งๆ หนักๆ อยู่อย่างนั้น เหมือนมีอะไรมาทับ ใจก็พยามสู้ครับ พยามยกแขนให้ได้ ก็พยามอยู่นานครับ เหงือแตกไปหมด ในที่สุดก็ขยับได้ เล่นเอาเกือบแย่ครับ ขวัญเสียหมด พอถัดมาอีกสองสามคืนครับ ก็เป็นอีก เืหมือนเดิมเลย สายตาคู่นั้น กับอาการทางกาย ความรู้สึกเหมือนกันหมด กว่าจะขยับตัวได้แทบแย่ คราวนี้เปิดเลยครับ ไม่อยู่แล้วตู กระโดดหนีขึ้นไปนอนกับพระอาจารย์ข้างบน ก่อนจะสึกประมาณ 1-2 อาทิตย์ คราวนี้ไม่มีอะไรครับ หลับสบายทุกคืน

    ตอนหลังพระอาจารย์เล่าว่า ข้างกุฎิที่ผมอยู่ ริมสระน้ำ มีต้นตะเคียนอยู่ 1 ต้นครับ เคยมีพระบวชใหม่รุ่นก่อนๆ ไปพักแถวนั้น นอนไม่ได้ครับ กระโดดหนีกันมาทุกราย (ได้แต่ตัดพ้ออาจารย์อยู่ในใจ ทำไมเพิ่งมาบอกกันเนื่ย ปล่อยให้ผมไปนอนอยู่เกือบพรรษา ...เฮ้อ!!!)
     
  11. al-qaeda

    al-qaeda Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +25
    ผมบวช เมื่อ เมษา ที่ผ่านมา กลัวผี ครับ มากๆด้วย แต่ไม่เจออะไรครับ บวช15 วัน หมาหอน ทุกคืน ครับ เสียงมาแตไกล. มาหยุดที่ หน้ากุฏิ ผม เหมือนกัน ผมนอน คนเดียว บนชั้นสอง. พระรูปอื่น ท่านอยู่ชั้นล่าง ทั้งหมด เรียกว่าผมใจสั่น ทุกคืน หมาหอน เวลาเดิม เกือบทุกวัน หลังจากที่ผม สวดมนต์ เสร็จ
    ตั้งแต่ คืนแรก ผมสวดมนต์ ก่อนนอน ทุกคืน อิติปิโส พาหุง มหากา ธรรมจักร ยอดกัณฑ์ไตรปิฎก
    ชินบันชร แผ่เมตตาให้ตนเองก่อน และให้ผู้อื่น ก่อนหน้า นี้ ก็สวดมนต์ อยู่ เกือบสองปี
    มีเว้นก่อนไปบวช นานอยู่ครับ เลิกงานดึก และเหนื่อย ไม่ได้สวดหลายเดือนอยู่
    สวดมนต์ปีแรกๆ พอเลยคืนที่เจ็ด มีครับ มาที่บ้านเลย ขอให้ช่วย วิญญาณ ผู้หญิง ทำแท้ง มาขอให้ช่วย ในฝัน และมีอีกหลายดวงวิญญาน ผมต้องสดุงตื่น ทุกคืน บอกตรงๆผมกลัวครับ ถ้าพรุงนี้วันพระ ผมตั้งใจจะไปทำบุญก่อนไปทำงาน แล้วพอถึงวันพระ ผมเปลี่ยนใจไม่ไป จะมีเสียงผู้ชายมาเรียกชื่อ ผม ทุกวันพระ ประมาณ ตีสี่ ครึ่งกว่าๆ ซึ่งปกติ วันพระ ผมต้องไปตลาด ซื้อของไปวัด
    บ้านผมเป็น ทาวน์เฮาส์ ผมนอนห้องหลังบ้าน และผมก็ไม่รู้จัก บ้านที่หลังบ้านตรงกัน ด้วย
    เขาไมรู้จักผมด้วย ครับ ผมเป็นคนเชื่อเรื่อง วิญญาณ กรรม
    แต่พักหลังๆ รู้สึก คิดนึกถึง แต่ ท่านพยายมราช กับ พระโพธิสัตว์ กวนอิม เวลา สวดมนต์
    ผมก็หวังว่าวันนีง คงได้ เห็น องค์ท่าน ได้นั่งอยู่ต่อหน้า องค์ท่าน ถ้าบุญ ผมมีพอ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 พฤษภาคม 2013
  12. เนยนพนะโม

    เนยนพนะโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +429
    สงสัยเขาจะมาทดสอบพระใหม่ ถ้าเรามีศีลที่บริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ ศีลจะรักษาเราเอง สวดมนต์ ภาวนาไปเรื่อยๆ แผ่เมตตาให้กับเขา เขาก็ไม่รบกวนเราแล้ว...
     
  13. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    ตื่นเต้นดีครับคุณ Chanseenak
     
  14. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    ....................................................................................

    ... วัดป่าบ้านขามเฒ่า สาขาวัดป่ากุง หลวงปุ่ศรี มหาวีโร รึเปล่าครับ ที่นั่น ถ้าใครขี้เกียจภาวนา ภูมิเจ้าที่เขาไม่ชอบนะครับผม 55++ สาธุๆๆ ที่นั่น เคยมีพ่อแม่ครูอาจารย์ไปพักภาวนาหลายองค์ เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่บัว สิริปุนโณ
    ...ปล.อดีตเจ้าอาวาส หลวงปู่หวา จัตตสัลโล ศิษย์ในองค์หลวงปู่ศรี อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2013
  15. |ฅนจร|

    |ฅนจร| เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +229
    ผมขอแบ่งปันด้วยคนนะครับ เป็นเรื่องตอนบวชนะครับ คือตอนนั้นผมเริ่มปฏิบัติธรรมก่อนที่จะบวชมาได้สักหนึ่งปี ครับ สาเหตุที่ได้บวชเพราะเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็เลยถือโอกาสบวชทดแทนพระคุณ ผมก็ได้ไปเป็นนาคห่มขาวถือศีลแปดก่อนบวชประมาณ 20 วัน ครับเพื่อไปฝึกบทสวดต่างๆ ทั้งเจ็ดคัมภีร์ เจ็ดตำนาน สิบสิงตำนาน จนท่องได้ขึ้นใจก่อนครับ มาถือศีลบวชนาคก็โดนเเล้ว คือผมได้เดินไปเล่นหลังเขานะครับ คนเดียว ตอนยามโพล่เพล้แล้วก็เลยกลับโดยที่ทางกลับวัดต้องเดินผ่านถ้ำออกมาครับ จังหวะที่เดินกลับ สายตาไปเห็นคนแก่ ชายหญิงลักษณะเหมือนคนจีนนั่งห้อยขาอยู่ด้านบนซึ่งเป็นซอกถ้ำอยู่ขนงี้ลุกมากๆ ตอนนั้นหวั่นๆเหมือนกันนะครับ แต่ใจดีสู้เสือเดินผ่านไปด้วยดี เมื่อไปดูอีกวันผมสงสัยว่าตาฝาดไหมก็เลยชวนน้องเณรไปดู ปรากฎว่าที่ข้างบนซอกถ้ำนั้น ไม่รู้ใครเอาศาลตี๊จูเอี๊ยไปวางไว้ด้วย... เมื่อถึงวันบวชก่อนเข้าโบสถ์ก็จะมีพิธีวันทา ขอขมาก่อนครับ ตอนนั้นตอนทำพิธีขนลุกทั้งตัวสุดๆไปเลย เมื่อบวชเสร็จตอนเช้า ตอนเย็นมีศพมาเลยครับ ตอนนั้นพระก็ไม่พอ ผมก็เลยต้องขึ้นไปสวด โชคดีที่เคยฝึกมาเลยผ่านไปได้สบาย คนที่มาร่วมงานชมกันยกใหญ่ว่าเป็นพระได้ครึ่งวันก็สวดได้เเล้ว ผมก็ภูมิใจเล็กๆครับ เมื่อสิ้นสุดพิธีกรรม ตอนนั้นก็ประมาณสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่มแล้ว ผมก็เข้าไปไหว้พระ ในกุฏิ ลักษณะเป็นห้องแคบๆครับ สภาพเก่าประมาณ ยี่สิบกว่าปี ก็เลยโทรมๆหน่อย พระผมก็ปิดไฟแล้วจุดเทียน ปิดไฟ พอเริ่มสวด อาการขนลุกมาอยู่ด้านหลังครับ อากาศก็เย็นๆชวนขนลุกทันทีเลย ผมก็สวดต่อจนสายตาผมชำเลืองไปอยู่ด้านหลังก็เห็นเป็นเงาๆ เป็นพระแก่ๆครับกำลังนั่งไหว้พระกับผมด้วย ตอนนั้นจิตผมไม่ค่อยกลัวครับ เพราะเคยเจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆตั้งแต่เด็กแต่มาเจอถี่ัตอนปฏิบัติธรรม ผมก็เลยแผ่ส่วนบุญไปให้ครับแล้วท่านก็หายไป พอตอนเช้าผมสงสัย ว่าผมตาฝาดไปหรือเปล่าก็เลยถามเจ้าอาวาสครับ ปรากฎว่า ที่กุฏิที่ผมจำอยู่เคยมีเจ้าอาวาสองค์ก่อนเสียไปยี่สิบกว่าปีมาแล้วครับ ผมก็เลยถึงบางอ้อครับ สรุปว่าไม่ได้ตาฝาดไป ผมจำที่วัดประมาณ สิบกว่าวันครับ เกือบทุกคืนผมก็จะเดินไปที่เมรุตอนสามสี่ทุ่มซึ่งบรรยากาศชวนสยองครับ เพื่อไปกรวดน้ำและแผ่ส่วนบุญให้กับผีไร้ญาติที่ยังไม่ได้ไปเกิดครับ ซึ่งลักษณะแปลกๆที่ผมอยู่วัดแรกก็คือ หากผมไปอยู่ข้างนอกกุฏิแล้วมีคนหรือพระท่านอื่นมาหาผม เมื่อไปเปิดประตูห้องผม คือห้องผมล๊อคไม่ได้ครับปกติจะเปิดได้เลย แต่หากผมสั่งว่าช่วยดูเเลห้องให้ผมด้วย ก็จะเปิดห้องผมไมได้ครับ ซึ่งแปลก เพราะพระท่านอื่นมาถามผมว่า ทำไมเรียกแล้วไม่ตอบ เปิดประตูก็ไม่ได้เพราะล๊อค ซึ่งตอนนั้นผมกฌอยู่ด้านนอกอยู่ครับ แต่ไปนั่งเล่นแถวๆเมรุครับ นั้นคือวัดที่ผมจำวัดแรกประมาณ สิบกว่าวัน อ่อผมลืมบอกไปผมบวชประมาณหกเดือนครับ พรรษากว่าๆ เมื่อผมไปจำอยู่วัดที่จำประจำ อยู่ในพรรษา ซึ่งเป็นวัดที่ผมตั้งใจตั้งแต่แรกครับ กุฏิที่ผมเลืกเป็นกุฏิไม้ตะเคียนสร้างเมื่อปี 36 สภาพดีอยู่ครับ มีปลวกลูกเล็กๆ อยู่ใต้กุฏิ สามลูกครับ เป็นกุฏิเดี่ยวที่ห่างกับกุฎิประมาณ สองร้อยเมตรครับอยู่ใกล้ถ้ำ ติดภูเข้า สาเหตุผมผมชอบที่นี้ เพราะเมื่อครั้งมาถือศีลทุกครั้งก็จะนอนที่กุฏินี้ทุกครั้งครับ กลายเป็นกุฏิขิงผมไปเลย ผมเลยถามว่าทำไมกุฏินี้สบาย แต่ไม่มีใครอยู่เลย พี่ๆที่เป็นเด็กวัดหรือพระท่านอื่นก็บอกว่า บางคนหรือบางรูปมานอนไม่ได้ เพราะกุฏิจะสั่นทั้งคืน บางทีก็เหมือนมีมดมียุงมากัดตลอดทั้งคืน หรือหนักๆก็จะมีการแสดงกายมาไล่เลยก็มี แต่ผมก็สามารถอยู่ที่นั้นได้ อาจเพราะผมอธิษฐานแผ่ส่วนบุญให้กับเทวาอารักประจำกุฏิ ครับ วัดที่ผมอยู่ ตอนเช้า จะบิณฑบาตประมาณ หกโมงกว่าๆครับ ผมเดินบิณฑบาตไปกลับประมาณสิบกว่ากิโล มาถึงวัดอีกทีก็ประมาณ สิบโมงครึ่งถึงสิบเอ็ดโมงครับ ระยะทางไกล เดินเท้าเปล่าเดินแรกก็ปวดแต่หลังๆก็ชินจนส้นเท้าหน้าเลยครับ เมื่อถึงวัดก็ถึงเวลาฉันพอดี พักแปป พอเที่ยงๆก็ทำงานวัดครับ ช่วงสองสามเดือนแรกจะหนักไปทางขุดดิน ขุดหิน ขุดถ้ำครับ ทำกันบางครั้งจนถึงดึกก็มี เหนื่อยแทบขาดใจ เพราะไม่เคยทำงานหนักเลย ผมอธิบายรายละเอียดของวัดก่อนครับ ตอนนี้มีพื้นที่ สามร้อยกว่าไร่ มีภูเขาสี่ลูก มีถ้ำที่เจอแล้ว หนึ่งร้อยหกสิบกว่าถ้ำ และเหลืออีกเยอะครับที่ยังไม่ถึงเวลา ผมไม่บอกชื่อวัดละกันครับ ติดเขตจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฏร์ธานี ควบสองจังหวัดครับ เป็นเรื่องปกติครับที่เมื่อขุดดิน หรือตกแต่งถ้ำก็จะเจอโครงกระดูก คนครับเพราะเป็นที่อาศัยของคนโบราณครับ พอเลิกงานก็มาไหว้พระสวดมนต์รวม และก็แยกเดี่ยวที่กุฏิตัวเอง ผมเริ่มเจอสิ่งแปลกๆเมื่อมาอยู่ได้หนึ่งอาทิตย์ครับ คือ ปกติก็จะต้องไปตกแต่งถ้ำขุดดินกันทุกวันครับ พอตอนดึกๆผมก็จำวัด ก็จะมี เสียงคนมาขุดดินข้างกุฏิบ้าง ตัดกิ่งไม้บ้าง ลากกิ่งไม้เวียนรอบกุฏิบ้าง คิดดูแล้วกันครับว่าจะมีใครมาแกล้ง เวลาก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว มืดมิด บางครั้งผมจะขู่ว่าหากยังไม่หยุดรบกวนผมจะไม่แผ่ส่วนบุญให้นะ หรือไม่จะสวดพระคาถาชิญบัญชร ครับ เพราะพระอาจารย์ท่านสั่งมาว่าหากเจอให้สวดบทนี้เพราะวิญญาณที่นี้กลัว ผมก็นอนภาวนาครับ เสียงที่ดังๆค่อยๆไปๆห่างไปเรื่อยๆจนเงียบครับ คือสาเหตุที่เค้าชอบมารบกวน พระอาจารย์ท่านบอกว่า มาทดสอบจิตครับดูว่าเรากลัวไหม และก็มาขอส่วนบุญด้วยครับ ซึ่งผมจะได้ยินเกือบทุกคืน จนดูเหมือนชินไปเลยครับ บางทีมีน้องเณรอยากมาจำวัดกับผมต้องลุกขึ้นวิ่งหนีตอนดึก เพราะมีคนมาไล่ บอกว่าให้ไปอยู่ที่ของตัวเองก็มี หากวันใดมี โยมมาปฏิบัติธรรม บางทีเค้าเห็นผมแล้วก็จะทักว่าคนที่ตามมาด้วยไปไหนแล้วตะกี้ ผมก็บอกว่าผมมาคนเดียวครับ เค้าบอกว่าเป็นผู้หญิงชุดไทย และก็ผู้ชายกางเกงขาสั้นตามมาด้วย ผมเลยคิดว่าผู้หญิงชุดขาวคงเป็นนางตะเคียน ส่วนผู้ชายคงเป็นโยมที่เค้าเสียที่นั้นครับ เพราะก่อนเค้าเสียเค้าก็อยู่ที่กุฎินี้ครับ นั้นคือเรื่องแปลกๆครับ ยังมีอีกเยอะแต่พิมพ์ไม่ไหวครับ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเพื่อนพระเล่าให้ผมฟังครับ คือเรื่องมีอยู่ว่าผมกับพระเพื่อนได้ไปจำวัดในศาลาติดเขาสูงประมาณ ห้าชั้น ก่อสร้างยังไม่เสร็จครับตอนดึกๆก็นั่งเล่นกสิณไฟกัน เพ่งจนผมหลับ ส่วนเพื่อนพระก็ยังไม่หลับ แต่พระเพื่อนบอกผมตอนที่ผมหลับไปแล้ว เพื่อนดันไปเห็นว่ามีเท้าใครไม่รู้ทะลุเพดานจากชั้นสอง ลงมาชั้นล่างที่พวกผมอยู่กัน ลักษณะนั่งแกว่งเท้า นิ้วเท้าแต่ละนิ้วมีขนาดเท่าเทียนพรรษาซึ่งใหญ่มาก เพื่อนพระนั่งดูอยู่ กลัวๆแต่เพราะมีผมซึ่งนอนอยู่เลยไม่ตกใจมาก เพื่อนบอกว่าเห็นอยู่ประมาณสิบกว่านาที แล้วก็หายไป พึ่งมาเล่าตอนเช้าแล้ว ผมโกรธว่าทำไมไม่ยอมเรียกผมด้วย เพราะเห็นอยากเห็นมากๆ พอถามพระอาจารย์แล้ว ท่านบอกว่าน่าจะเป็นเจ้าถ้ำครับ มาแสดงให้เห็นว่ามีสิ่งลี้ลับอยู่บนโลกนี้จริงๆ เรื่องนี้ตอนบวชครับ ผมสาบานว่าเป็นเรื่องจริงที่ได้เจอมาครับ หลังจากนั้นก็เจอมาตลอดเลยครับ เอาอีกเรื่องละกันครับเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากผมสึกแล้วครับ พึ่งเจอเเบบเต็มๆเมื่อไม่นานมานี้ ปกติจะเห็นแบบเงา แบบกลิ่น เสียงครับ เจอเเบบจะๆ สิบกว่าครั้ง เรื่องมีอยู่ว่าผมไปเปิดธุรกิจที่จังหวัดกระบี่ครับ ที่ผมอยู่บ้านจะห่างจากเมืองไปสิบสองกิโล ขี่มอไซด์กลับทุกคืนครับ ประมาณช่วงห้าทุ่มกว่าๆครับ ทางเปลี่ยวมากต้องผ่านแยกร้อยศพ และก็ป่ารกทึบที่เมื่อก่อนจะมีคนมาทิ้งศพเป็นว่าเล่นเลย ผมก็ไม่รู้คิดไงเพราะไม่เคยเจอที่ตรงนั้นเลยไม่กลัวขี่รถกลับบ้านปกติ แต่แล้วผมก็โดนจนได้ครับ วันนั้นผมปิดร้านเร็วหน่อยสี่ทุ่มกว่าๆก็ขับมอไซด์ผ่านป่าริมถนนครับ จำได้ว่าพอขี่ผ่านต้นไม้ใหญ่ แล้วมีน้ำหล่นมาใส่หน้าเปียกไปหมดทั้งทีฝนไม่ตก ผมก็แปลกๆแล้วครับแล้วอาการขนลุกมันมาอีกแล้ว ผมก็ขี่ไปเรื่อยๆ จนใกล้จะผ่านป่าไปได้เเล้ว รถมันก็หนักๆยังไงไม่รู้ ขี่ยังไงก็ไม่ไปเท่าไหร่ เหมือนมีคนมาซ้อนอยู่ด้วย ผมก็เลยลองหันไปดูว่าข้างหลังผมมีอะไรอยู่ไหม ตอนนั้นช่วงข้างขึ้นเลยเห็นชัดหน่อย ก็ใช่เลยครับ มีผู้หญิงตัวซีดๆผมยาวๆมานั่งซ้อนท้ายผมด้วย ผมงี้ตกใจเลยครับ ขนลุกสุดๆแต่ก็พยายามประคองไม่ให้ล้มเพราะ ทางเปลี่ยวหากเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีใครเห็น ผมก็พยายามบิดคันเร่งให้ผ่านที่ตรงนั้นไป ใจเต้นตุ๊บๆเลย คิดดูว่าผมเจอบ่อยอยู่เเล้ว แต่ไม่เคยเจอแบบมาทำให้ตกใจแบบนี้ หันหลังไปดูดันเห็นนั่งอยู่ติดเราเลย ผมว่าเป็นใครก็ต้องตกใจ เมื่อผ่านผมก็จอดหน้าบ้านชาวบ้านครับ แล้วก็บอกกล่าวเค้าว่าอย่าถามผมไปที่บ้านเดี่ยวกลับไปถึงจะกรวดน้ำไปให้ อยากจะเล่าอีกครับแต่กลัวคนอ่านจะเบื่อครับ ยังมีเรื่องตอนที่นั่งสมาธิแล้ว ผมเกิดลืมตาขึ้น เห็นผู้หญิงหน้าขาวผูกคออยู่กับพัดลมเพดานก็มี ครับ ตื่นเต้นพอควร เอาแค่นี้ ก่อนนะครับ กลัวจะเบื่อ
     
  16. Siddhartha

    Siddhartha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +90

    ใช่แล้วครับ เป็นสาขาของวัดป่ากุงครับ พื้นที่เป็นป่าช้าเก่า ท่านพระอาจารย์มั่ยเคยมาแวะพัก ระหว่างเดินธุดงค์ไปพระธาตุพนม ต่อมาจึงกลายเป็นวัดป่าขามเฒ่าในปัจจุบัน สาเหตุที่มาบวชที่วัดนี้เพราะว่า คุณแม่ได้มาคลอดผมที่สถานีอนามัยที่ข้างวัดนี้ครับ แม่เป็นคนบ้านนี้ แต่ผมอาศัยอยู่ที่ จ.อุดร ครับ
    ช่วงที่ผมบวชนั้น กำลงัจะมีงานคาราวะหลวงปู่ศรี แต่ได้ลาสิขามาก่อนเพราะตั้งใจบวชเพียงเท่านั้น เพราะไปทำงานตามนัดครับ (ได้ผ่านสัมภาษก่อนบวช)


    ที่วัดแห่งนี้ตอนบวชคุณแม่กลัวแทนมากๆ เพราะสถานที่เป้นป่าช้า และสมัยคุณแม่เด็กๆ ได้เล่าให้ฟังว่า เณรที่วัดนี้ต้อง โดนพระอาจารย์ทดสอบกำลังใจ โดยให้ไปพลิกศพที่มาเผาบนกองฟอนที่วัด เป็นที่น่ากลัวมาก ผมเองก็กลัว แต่อยากเอาชนะความกลัวในจิตใจตนเองจึงลองดูครับ
    คุณน้าก็เอาพระเครื่องมาให้ห้อยคอตอนเข้านาค ซึ่งต้องมานอนที่วัดนี้ครับ

    พระอาจารย์ที่บวชให้คือ พระอาจารย์เสมอ อุตตโม ครับ เท่าเป็นพระที่มีความเคร่งครัดในธรรมวินัยมาก และมีอัธยาศัยสบายๆ และชอบสนทนาธรรมะ มีความละเอียดมาก ท่าทราบความนึกคิดของผมระหว่างที่บวช และหลังจากนั้นที่ได้กลับไปกราบท่าน ๆ ก็ยัง กล่าวตอบความในใจผมได้หมดสิ้นทุกเรื่องครับ เรียกว่า ผมสงสัยอะไรไม่ต้องเอ่ยปากถามเลย ท่านตอบให้เลย
     
  17. Siddhartha

    Siddhartha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +90
    ต้องขออภัยด้วยนะครับที่เขียนผิดหลายคำเลย

    ต่อนะครับ

    ในระหว่างที่บวชตั้งแต่คืนแรก จะโดนดึงขาแรงๆ ให้ตื่นทุกครั้งที่เผลอเคลิ้มหลับ ... เรียกว่าดึงจนขาลอยเลยครับ เหมือนเรานอนถีบน่ะครับ แต่เราไม่ได้ออกแรงเอง มันไปเบาๆ แต่แรงๆ เข้าใจมั้ยครับ ผมโดนเองยังงงเลย 55 คือรู้สึกว่า ต้องตื่นมาภาวนาครับ รู้สึกเลย เหมือนมีคนมาสนใจเราอยู่ตลอดเวลา

    และจางหายไปพอตะวันขึ้น แต่พอตะวันตกดิน เขามาอีกแล้ว ช่วงแรกๆ ผมกลัวมาก ได้อาศัยหลังสือธรรมมะที่มีรูปหลวงปู่ศรีวางไว้หัวนอนกันผี (ฮาตัวเอง)

    คือตอนนั้นผมยังไม่ทราบว่าผู้มาบวชมีหน้าที่หลักคือการนั่งสมาธิวิปัสนา คือโง่มากๆ ครับ มาทราบหลังจากสึกออกมาแล้ว จึงมาศึกษาธรรมมะต่อที่เวบนี้และหนังสือธรรมมะอื่นๆ และรู้สึกว่าจะถูกจริตกับธรรมมะบรรยายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมากๆ รู้สึกคุ้นเคยมากๆ ครับ

    ต่อครับ
    ทีนี้ตอนบวชใหม่ๆ พระอาจารย์จะบอกให้ลองนั่งสมาธิดู โดยไม่ได้แนะนำอะไรให้มาก ผมกลับมากุฏิก็ทำบ้างนอนบ้าง ส่วนใหญ่จะนอนครับ นั่งได้ วันละ ชั่วโมง สลับนอนๆ นั่งๆ อยู่อย่างนั้นปวดหลังก็นอนภาวนา แต่พอจะเคลิ้มหลับจะโดนแล้งดึงขาตลอด จนมีอยู่วันนึงผมง่วงมาก จึงอฐิษฐานหลวงปู้ศรีว่า หลวงพ่อช่วยผมด้วย ปรากว่าความรู้สึกโล่งเลย และวันนั้นไม่มีอะไรรบกวนอีก

    แต่ก็แปลกนะครับว่ามีครั้งนึงระหว่างบวช ช่วงที่พระอาจารย์ให้มาลองนั่งสมาธินั้น จะมีความรู้สึกขึ้นมาเป็นคำ ว่า สติปัฏฐานสี่ ... โดยที่เราไม่รู้ความหมายของคำนั้นเลย รู้แต่คำว่าสติ... ตื่นมาจึงไปหาหนังสือธรรมมะของวัดมาอ่านมากมายเลย เรียกว่าช่วงบวชนั้นนอกจาก กวาดใบไม้แล้วก็มีหนังสือนี่แหละครับเป็นเพื่อน เพราะพระอาจารย์จะปลีกตัวไปอีกมุมในวัด ไม่ค่อยจะได้ใกล้ชิดท่านเท่าไหร่ จะเจอแค่ตอนบิณฑบาติ กับวันอุโบสถท่านจะนำนั่งสมาธิ... ครับ

    ทีนี้เหมือนกับที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่าท่านจะทราบความคิดของผมตลอดเวลา เช่นทักผมว่า นี่นับวันสึกรึ ? และทราบถึงการต่อสู้กับความกลัวผีของผมโดยผมได้อฐิษฐานจิตขอไปกวาดทางเดินในป่าช้า ทางจงกรมต่างๆ และลานวัด โดยจะเน้นไปในโซนที่ตัวเองกลัวมากๆ คือ กองฟอน และด้านในที่คนไม่ค่อยจะผ่านเข้าไปครับ และตั้งใจทำให้ได้ทุกวันที่บวช เพราะได้อ่านในหนังสือว่าควรจะอฐาษฐานฝึกเรื่องสัจจะบารมี ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก เลยเอาเรื่องนี้ซะเลย พระอาจารย์ก็ มาต่อยอดเลยว่า ให้ย้ายกุฏิไปนั่งสมาธิข้างในคนเดียว หรือออกมาเดินรับอากาศบริสุทธิ์ที่กรุงเทพไม่มีบ้างนะ อากาศดีมาก (ท่านไม่พูดเรื่องผีเลย) และมองผมยิ้มๆ

    สิ่งที่ได้จากการบวช 17 วันที่วัดป่าแห่งนี้คือ สอนผมให้ได้นั่งสมาธิครับ แต่กอ่นนั่งไม่เป็นเลย นั่งแล้วปวดขา มาค้นพบเทคนิคที่นี่เอง คือได้มาโดยบังเอิญในวันอุโบสถวันหนึ่ง (วัดไม่มีโบสถ์จะมานั่งหอฉันแทน) มีผู้เฒ่าใกล้วัดมานั่งสมาธิด้วยหลายคน ผมเป็นพระนั่งข้างบนส่วนที่ยกสูงให้พระ และแม่เฒ่านุ่งขาวคนนั้นนั่งข้างล่าง ผมไม่ทันระวังตัวจึงแสดงอาการเหนื่อยหน่าย เบื่อหน่ายในการนั่งอยู่ตรงนั้น มีอาการหลุกหลิกปวดขา ก็มาจ๊ะเข้ากับสายตาที่จ้องเขม๊งมายังผมแบบไม่กระพริบตา คือสายตาแม่เฒ่า ผมรู้สึกละอายขึ้นมาทันที และรีบหลับตานั่งสมาธิทันที ปรากฏว่า พอมานะพยายามนั่งจนผ่านอาการปวดขาไปได้ รู้สึกตัวเบามากๆ และกระดูกสันหลังยืดตัวสูงขึ้นๆ จนเหมือนมันไม่ได้ส่งผ่านน้ำหนักลงมาที่เอวเลย เหมือนโดนพยุงลอยตัวอยู่อย่างนั้น และยิ่งนั่งยิ่งเบา เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง พระอาจารย์ก็ให้พอ วันต่อๆมา พบสายตาแม่เฒ่าอีก ทีนี้ท่านดูเหมือนพอใจในสายตา มีความเมตตาส่งมา ทำให้ผมระมัดระวังตัวมากขึ้นในวัดนี้ เพราะขนาดอุบาสกไม่ได้บวช ยังปฏิบัติได้น่ายกย่องเช่นนี้ พระใหม่ๆ อย่างผมนี่ละอายขนาดหนัก...
     
  18. Siddhartha

    Siddhartha Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +90

    โอ ประสบประการณ์หลากหลายมากเลยครับ ขอบคุณนะครับที่นำมาเล่าให้ฟัง รอติดตามอยู่นะครับ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ส่วนตัวคิดว่ากระทู้นี้มีแต่ประสบการณ์ดีๆทั้งนั้นเลยนะครับ:cool:
    .และถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี.ไม่ว่าจะประสบการณ์
    ก่อนบวช ในขณะที่บวช และหลังจากลาสิกขาแล้ว

    ..อ่านตามจนนึกไม่ออกว่าจะเป็นแฟนคลับใครดี..เอ้าไหนๆ
    ก็ไหนๆ..ใครมาถ่ายทอดประสบการณ์.มาเล่าให้ฟังเรื่องทำนองนี้ ..
    ถือว่าผมเป็นแฟนขับคุณแล้วกันครับ.
    ;).​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2013
  20. anuchitpinyo

    anuchitpinyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +294
    เรื่องราวน่าสนใจมากครับ คุณ Siddhartha ยินดีที่มาแจมกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...