สนช.ดันกฎหมายคุ้มครองพุทธศาสนา ปล้ำเถร เณร ชี บิดเบือนคำสอน จ้วงจาบศาสนา โทษหนัก

เห็นด้วยอย่างยิ่ง
สาาาาา...ธุ<O</O
สาาาาา...ธุ<O</O
สาาาาา...ธุ<O</O
ให้ดังไปถึงพระนิพพาน

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ..ถ้าไม่ไหวก็ต้องเอากฎหมายเข้าปรามกันค่ะ

 

ขออนุโมทนาสาธุด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ปลื่มปิติจัง แต่.... การบัญญัติยละเอียดต้องพิจารณาให้รอบคอบ ให้มีผลกระทบต่อคนดีหน้อยที่สุด แต่ให้ลงโทษคนที่ทำลายศาสนาให้มาก

ปล ระวังพวกเดีรยถีนอกศาสนา อ้างโน่นอ้างนี่ให้ร่างกฎหมายนี้ดูมีปัญหา ตอนนี้แขกครองประเทศ

 

เออแฮะ กลัวไปได้คุณวัลลภ คนที่นับถือพุทธจริง เขาจะเอาพระมาวางกับพื้นทำไมหละครับ
หาโต๊ะมาตั้งสักตัวก็หมดเรื่อง เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ระดับ สว. อย่างคุณคิดไม่ออกเหรอครับ
จะกลัวอะไรกันนักหนา

พอจะดันเข้าสู่รัฐธรรมนูญ ก็ร้องกรี๊ดกันใหญ่ พอจะมีกฏหมายอุปถัมภ์ ก็ ร้องกรี๊ด แล้วจะเอาไง

จริง ๆ น่าจะต้อง เพิ่มกฏหมายเกี่ยวกับ การขอบวชด้วยซ้ำไป น่าจะให้เหมือนกับ การสมัครงานข้าราชการเลย มีตรวจสอบประวัติก่อน ตรวจนิสัย แล้วก็ให้ไปอยู่วัดเพื่อให้พระอุปัชฌาย์ ดูนิสัยอีกอย่างน้อย 2 อาทิตย์

คัดกรองคนบวชด้วยจะยิ่งดีมาก ทำให้มีแต่คนดีมีคุณภาพ เข้ามาเป็นพระ


ส่วนเรื่อง บทลงโทษ พวกบรรดาสมี หรือ อลัชชี ก็เห็นด้วยที่จะต้อง

 

หากคิดดี พูดดี และทำดี ก็ไม่จำเป็นใช้กฏอะไรมาบังคับหรอก อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

แต่กลับไม่มีการลงโทษพระภิกษุ สามเณร หรือ แม่ชี ซึ่งเป็นคู่ผู้ร่วมประเวณีอย่างรุนแรงเลย

เราว่าน่าจะจับศึกน่ะเเล้วลงโทษตามกดหมายอ่ะ

 

สิ่งใดที่จะทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองนั้น ก็ทำไปเถอะ ถ้าจะมีปัญหาก็แก้ไขได้ ช่วยๆ กันดีกว่า โมทนาครับ

 

ยินดีด้วยครับๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

อนุโมทนากับจิตที่คิดและใฝ่ดีด้วย ศาสนาจะต้องมาอยู่ภายใต้กฏหมายซะแล้ว เรื่องนี้กรมศาสนาไม่มีบทบาท ไม่เป็นที่น่ายำเกรงหรือ แต่ก็เอาละในเมื่อ การกระทำอันเป็นการข่มเหง ย่ำยีนั้นก็เกิดจากฝ่ายทางโลก ก็คงต้องใช้กฏของทางโลกจัดการ เห็นด้วยกับความเห็นที่ว่าต่อไปน่าจะต้องมีขั้นตอนการคัดกรองคนที่เข้ามาอยู่ใน สังฆาวาส ให้หนัก ในเรื่องของการดูนิสัยก่อนบวชสัก 7 วันจะดีมากๆ แต่ว่าเมื่อไหร่กรมศาสนาจะเข้มแข็งหรือมีบทบาทมากนี่เป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับ"พุทธศาสน์ไทย"

 

ถ้ากฏหมายฉบับนี้ผ่าน ผมจะไปบวช เพราะต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครมาทำอะไรผมได้ นอกจากนั้นถ้าผมบวชอยู่แล้วผมไปบิดเบือนคำสอน ก็คงไม่มีใครทำอะไรผมได้เช่นกัน ไม่งั้นก็จะโดนข้อหาจาบจ้วง นอกจากจะมีตำรวจภูธรที่บวชเป็นสงฆ์ แต่ผมว่าผมก็รอดอยู่ดี เพราะผมคงมีเงินจากการบริจาคมากมายพอที่จะซื้อตำแหน่งเจ้าคณะตำบล แถมผู้ที่ผมยัดเงินเพื่อซื้อตำแหน่งให้ยังเป็นเจ้าคณะจังหวัดอีก ก็พวกเดียวกันหนิเนอะ ส่วนเรื่องไปล่วงประเวณีกะสีกา ก็ให้บวชเป็นชีซะก็จบ จะได้ไม่มีใครจาบจ้วงเราสองรูปได้อีก นอกจากจะมี DSI ที่เป็นสงฆ์จากส่วนกลางมาตรวจ ผมก็คงรอดไปอีกนาน 555 ชาวบ้านก็จะมาไล่ผมออกจากวัดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ผมชั่วดีมั้ยสมมุตินะครับ

 

อนุโมทนา

การจะทำความดีก็จะต้องมีอุปสรรค์ อะไรที่จะเป็นมงคล เป็นกุศล ก็ย่อมจะต้องมี"มาร"(b-evil2) ถ้าผ่านอุปสรรค์ได้ ชนะมารได้ผลที่ได้ก็คือ"ความสำเร็จตามความมุ่งหมาย"(b-love2u)

 

ดีครับ ต่อไปใครจะคิดทำอะไรกะพระเณรต้องคิดให้ดี ไม่งั้นเจอ เหอๆ

 

ถ้ากฏหมายฉบับนี้ผ่าน ผมจะไปบวช เพราะต่อไปนี้ก็จะไม่มีใครมาทำอะไรผมได้ นอกจากนั้นถ้าผมบวชอยู่แล้วผมไปบิดเบือนคำสอน ก็คงไม่มีใครทำอะไรผมได้เช่นกัน ไม่งั้นก็จะโดนข้อหาจาบจ้วง นอกจากจะมีตำรวจภูธรที่บวชเป็นสงฆ์ แต่ผมว่าผมก็รอดอยู่ดี เพราะผมคงมีเงินจากการบริจาคมากมายพอที่จะซื้อตำแหน่งเจ้าคณะตำบล แถมผู้ที่ผมยัดเงินเพื่อซื้อตำแหน่งให้ยังเป็นเจ้าคณะจังหวัดอีก ก็พวกเดียวกันหนิเนอะ ส่วนเรื่องไปล่วงประเวณีกะสีกา ก็ให้บวชเป็นชีซะก็จบ จะได้ไม่มีใครจาบจ้วงเราสองรูปได้อีก นอกจากจะมี DSI ที่เป็นสงฆ์จากส่วนกลางมาตรวจ ผมก็คงรอดไปอีกนาน 555 ชาวบ้านก็จะมาไล่ผมออกจากวัดไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ผมชั่วดีมั้ยสมมุตินะครับ ข้อความของคุณ (jinnivan)

ตามข้อความของคุณ จะมาบวช เหรอครับ น่าสงสารนะครับ แค่คิดก็ผิดแล้วครับ ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะกฎหมายปกป้อง ชีวิตการเป็นพระมันไม่ใช่ละคร นะครับ คือแสดงเอาแล้วก็จบ คิดหรือว่าที่คุณคิดมันจะได้ดั่งใจ การออกจากบ้านจากเรือน อยู่ป่า ไม่มีลูกมีเมีย ไม่ได้ทานข้าวเย็น ฯลฯ ผมขอให้ลอง ซัก 15 วันนะครับ แล้วคุณจะรู้ ว่าชีวิตความเป็นนักบวชมันหนักขนาดใหน

ทหารว่าเข้ม แต่ยังมีทางออก นักบวช หาทางออก คือแก้ จิตใจตัวเอง เผยแผ่พระพุทธศาสนา ก็เป็นการปิดทองหลังพระไม่มี กลุ่มใหนจะยื่นมือเข้ามา ช่วย เพราะไม่มีหน้ามีตา แต่เราก็ทำ เพราะนั้น คือความสงบร่มเย็น ของบ้านเมืองที่

บรรพบุรุษไทยเราได้สืบทอด มานับ 2000 กว่าปีแล้ว และพระพุทธศาสนา ได้รักษา ไทยมาโดยตลอด จนถึงยุค เรา คือความสันติสุข สงบสุข และมีพระสงฆ์เป็นผู้นำ ในการเผยแผ่ ท่านไม่ห่วง แม้แต่ชีวิต แต่ท่านห่วงคนไทยครับ

อกตัญญูต่อพระพุทธศาสนามีกฏหมาย คุ้มครอง นะดีนะครับ ไฉน ต้องอิจฉา ตาร้อน หรือจะให้พวกนอกศาสนา มาปกป้องคุณหรือ และกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็วๆ และลูกหลานไทย ก็ตาบอด มองไม่เห็น ผมจะรอนะครับ มาบวชนั้นนะ ขอให้พูดจริงนะครับ

ปัญญาโลกัสมิง ชาคะโร

ปัญญาเป็นเครื่องตื่นในโลก
<!-- / message --><!-- sig -->

 

อนุโมทนาคุณดงครับ สิ่งที่ผมเขียนตอนต้นนั้น ผมเขียนในฐานะเหลือบนะครับ ไม่ใช่ในฐานะสงฆ์ ผมยังแปลกใจว่ามีคนอนุโมทนามาให้ด้วย^^ ที่จริงผมคิดว่าจะมีคนเขียนตำหนิผมมากกว่านี้เสียอีก

การเป็นพระสงฆ์แท้มันยากเหลือเกินจริงๆครับ แต่เหลือบสงฆ์นี่เป็นง่าย แค่โกนหัวโกนคิ้ว นุ่งผ้าเหลืองผ้าส้ม ก็เป็นได้แล้ว กฏหมายฉบับนี้จะดีจะควรมากสำหรับสงฆ์ที่เป็นสงฆ์ แต่ผมเชื่อว่ากฏหมายดีเท่าไหร่ มนุษย์เป็นผู้เขียน ก็ไม่เท่าพระวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัติหรอกครับ ผมกลัวเสียเหลือเกินว่าคนที่เขียนกฏหมาย จะเขียนมีช่องโหว่ จะเขียนเพื่อเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มบางกลุ่ม แต่ผมจะมองในแง่ดี ไม่มีอคติ และมองอย่างเป็นกลาง

สงฆ์ก็มีพระวินัยที่ดีที่เข้มอยู่แล้วครับ ถ้าสงฆ์ปฏิบัติตามวินัยอย่างเคร่งครัด เมื่อคณะสงฆ์เข้มแข็ง ก็จะมีแรงไปสู้กับสังคมที่เหลวแหลก ก็คงไม่ต้องมีกฏหมายเข้ามาคุ้มครองหรอกครับ แต่ปัจจุบันมันต่างกันครับ เหลือบบางคณะเป็นแกนนำในการทำผิดเสียเอง แล้วอย่างนี้... โลกปัจจุบันมารมันมากจริงๆๆ

 

ขออภัยนะครับ ถ้าแรงไป (jinnivan)
เพราะผมเป็นคนที่รักและหวงแหน พระพุทธศาสนา มากๆครับ และกำลัง เผยแผ่พระพุทธศาสนา สู่ชุมชน และเด็กๆในโรง เรียน มันเป็นอุดมการณ์ ของผมแล้วครับ มุ่งสู่สันติสุข และเผยแผ่ แก่มนุษย์ โลก เราว่าดีในสิ่งที่เป็นพระพุทธศาสนา สิ่งที่ไม่ดี เราควรช่วย กันปรับปรุง ดีกว่านะครับ เพราะพระพุทธศาสนา
เป็น มรดก ของโลกครับ และเป็นของไทย ถ้าลูกหลาน ไม่ส่งเสริม สนับสนุนมีแต่จ้องทำลาย และตำหนิ กันอยู่ เปรียบเหมือนเรือ รั่ว คนนั้น ก็บอกคนนี้ๆ ก็บอกคนนั้น เรือก็จะล่ม ตายเปล่า ครับ เราเห็น เหตุ ไม่ดี ต้อง ช่วยกัน ระงับ แต่ถ้า เห็นเหตุ ที่ดี ไม่สนับสนุน (ในการออกกฎหมาย มาคุ้มครองพระพุทธศษสนา) เสียดาย สติ ปัญญาครับ เหมือนเรา มองไม่ถึง ครับ

มนุษย์ คนหนึ่งที่หวงแหน สิ่งที่เป็นของไทย ครับ