ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดีปีใหม่..เฉียวฟง..หลานลินน์..ธรรมจักร..และน้องกำธร
    ..ขอบคุณสำหรับคำอวยพร..ทั้งหลาย..ที่มีให้ผม..และ..ขอให้คำอวยพรนี้..ย้อนคืนกลับไปหาท่านทั้งหลาย..และ..ขอให้มีความสุขกาย..สบายใจ..จคิด..จะทำอะไร..ขอให้ราบรื่น..ปราศจากอุปสรรค..ทั้งหลายด้วยเทอญ.....
    ...................................................
    ....เรามาว่า..เรื่องปลอมๆ..กันต่อ.......
    ....................................................

    ....การสำรวจ..ตลาด..และ..ความเป็นไป..เป็นเรื่องสำคัญ..เหมือนกับ..คนขายพระ..ทั่วไป
    .....แต่...เพิ่มมาอย่างนึง...คือ..ช่วงนี้..เราจะเน้นปลอมพระ..อะไรดี..ถึงจะได้กำไร..ปล่อย..
    ง่าย...ถ้าเป็นสมัยนี้..ไม่ต้องคิดเลย...หลวงปู่ทิม..หลวงปู่ดู่..หลวงพ่อเงิน..หลวงพ่อเพิ่ม....
    ...ส่วนที่ปลอม..กันมานาน..และ..ปลอมตลอดไป..ก็..คือ..ของหลัก..รุ่นเก่า..ทั้งหลาย......
    ....หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน..หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์..หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค...
    ..และที่..อยู่ในเบญจภาคีเหรียญ..ทั้งหลาย...แต่ก็ไม่มากเท่า..พระที่HOT..ในแต่ละช่วง..
    อีกอย่าง..ของหลัก..ต้องปลอมเนียบหน่อย..และ..ไม่ใช่ปล่อยง่าย...นี่ผมยังไม่ได้..พูดถึง
    พวกพระกรุ..พระผง..รูปหล่อ..พระกริ่ง..พระชัยฯ..ฯลฯ..แต่ก็..มีผลตาม..กระแส..ของ...
    หลวงพ่อที่..HOT..ตอนนี้ด้วย...พวกสมเด็จ..กริ่งวัดสุทัศน์..อะไรเหล่านี้..ที่เป็นรุ่นเก่าๆ...
    ก็เช่นกัน..เหมือน..พวกเหรียญหลัก..เป็น..อมตะ..คือ..ปลอมตลอดกาล...........
    .........แต่นอกเหนือจาก..ที่ผมกล่าวมา..คือ..ตั้งแต่ยุคโบราณ..จนมาเริ่ม..มีสนามพระ..
    ก็..จะมีของแปลก..อยู่ด้วยเสมอ..แม้ในปัจจุบัน...คนขายพระปลอม..เป็นจิตวิทยาชั้นสูง
    ด้วย..เวลาไปนั่งคุยกับพรรคพวกในแวดวงพระ..เขาจะเก็บข้อมูล..ไปเรื่อย..ตลอดจน..
    เดินตาม..แผง..ไม่ใช่ดูพระ..แต่เขาสังเกตคนมาดูพระ..และคนเช่าพระ........
    .....สมัยกว่าสี่สิบปีก่อน..ที่..สนามวัดมหาธาตุ...ยุคที่ไม่มีสื่อพระ..รายเดือน..แม้แต่เล่มเดียว
    ...คนที่มาเดินดูตามแผง...มีร้อยพ่อ..พันแม่..พวกที่..ชอบพระก็พวกนึง...พวกชอบพระ..
    ก็ต้องแบ่ง..พวกอีก..เป็นพวกที่มีความรู้..พวกนี้น้อยมาก..และไม่ค่อยจะมาเดินดู..ส่วนใหญ่
    จะมาคุย..สังสรรค์กับ..พวกรุ่นใหญ่..เซียนใหญ่..มาขอความรู้เพิ่มเติม..นานๆมาเดินดู..สักที..
    เพราะหวังได้..ของฟลุ้ก..เพราะสมัยก่อน..ของ..ฟลุ้กมีเยอะ...เพราะ..คนสมัยก่อน..ที่เดือดร้อน
    เงิน..แต่รู้ว่ามีพระดี(เพราะมีคนบอก..ว่า..พระเอ็งนะดี)..และได้รับคำแนะนำ..มาให้เอามา..
    ปล่อย..คนยุคนั้น..ก็จะรู้จักอยู่ที่เดียวคือ..สนามพระวัดมหาธาตุ..ข้างสนามหลวง....ผมเห็น
    เยอะแยะ..ที่ว่านี่คือ..พวกเอาพระจริงมาปล่อยนะครับ..พวกเอาพระปลอมมาปล่อยจะมีไม่
    เยอะ(..พวกที่ว่านี่คือ..พวกนอกเครือข่าย..ขาจร..)ส่วนใหญ่..จะถูกด่าจริงๆจังๆ..ทำให้..ต้อง
    ไปปล่อย..กับ..คนที่จะเข้ามาในสนาม..พวกนี้จะยืนกันอยู่..ตามข้างกำแพงวัดมหาธาตุ..
    (ฝั่งตรงข้ามธรรมศาสตร์)..สลอน...จัดอยู่ในประเภทที่..เรียกว่า..ลาวตกรถ........
    .....ข้ออ้างคือ..หาเงินกลับบ้าน..ส่วนใหญ่..ขายแบบยกพวง...ขายปลีกก็ได้..แล้วแต่....
    ไม่ว่า..กัน..เพราะยังไง..มันก็..เก๊..ทั้งพวงอยู่แล้ว................................
    ..............บางที..ก็ไปซุ่มมอง..เวลาที่คนเอาพระ..มาปล่อยตกลง..กับพวกแผงรับซื้อ..ไม่ได้
    ..ตัวเอง..เล็ง..เห็นมี..พระดีๆได้ราคา..แค่ ๒-๓ องค์..ก็ได้เรื่อง..แล้ว...จะทำอะไรเหรอ..ก็ตาม
    ซิครับ...เพราะบางที..คนปล่อย..เขาจะปล่อยยกพวง..ไอ้คนซื้อ..เอาแค่..องค์เดียว..ไม่ยกพวง..
    ...พวกขายพระแผงเล็กๆ..เงินทุนไม่ค่อยมี..ถึงรู้ว่า..พระของเขาแท้..องค์ที่เล็ง..คงได้ราคา
    ...แต่..พระที่เหลืออีก..๗ องค์..เป็นพระพื้นๆ..ปล่อยก็ไม่ได้ราคา..กำไรแทบไม่มี..ไม่รู้จะเอา
    มาทำไม...ผิดกับ..พวกนี้..เพราะ..องค์สำคัญ..ปล่อยแล้ว..ได้กำไรกว่า..ไอ้เจ้าของแผง..ไม่รู้
    กี่เท่าตัว..เพราะสังคมที่เขาอยู่..มันคนละระดับกัน..พวกนี้อยู่แวดวงระดับเซียน..และพวก
    เซียนนี้..ก็จะมีพวกกระเป๋าหนักมาหาพระ..ที่ต้องการ..พระออกจากมือเซียน..ก็แน่นอน....
    เพราะ..เซียน(..ก็ตูนี่แหละ)รับรอง...ความน่าเชื่อถือผิดกัน...เก็บเอาไว้ปล่อยเซียน..หรือ..
    พรรคพวกที่..ได้รับใบสั่งมาอีกที..ฉะนั้น..พระที่พวกนี้เล็งคือ..พระที่มีอนาคตยาวไกล....
    ถึง..ตอนนี้ปล่อย..ตามราคาที่คิดไม่ได้..ก็เก็บไว้ก่อน...เดี๋ยวก็ปล่อยได้..เงินมี..ไม่ใช่..พวก
    แผงเล็กๆ..เงินทุนน้อย..ได้ของมารีบปล่อย..แล้วก็โดนกดราคา..(เพราะไอ้คนซื้อ..ก็รู้ว่าไอ้
    นี่..ไม่มีตังค์)..มีกำไรบ้างก็..ก็เอาแล้ว..................
    ......................................ต่อตอนหน้าครับ.............................................................
    ...........................................................................................................................
     
  2. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา...และสมาชิกทุกท่าน มาติดตามบทความ ความรู้สาระดีๆเหมือนเดิมครับ
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดี..เฉียวฟง....
    ...มาทักทาย..ก็จัดให้...ไม่มีใครทัก..ไม่มีใครขอ..ก็ไม่จัดให้..
    ......................................................................
    ....ที่มา...ที่ไป..แล้วทำ(เอง)ยังไงละ...
    ...............................................
    ........................................................................................
    ......ที่ผมเลือกนี่..เป็นที่ตัดเล็บธรรมดา..แบบยาว...ผมไม่เอา..แบบกลมๆมา
    เป็นตัวอย่าง..มันไม่ชัดเจน...ถ้าจะบอกที่ตัดเล็บเท้า..ไปเลย..ก็แน่นอนครับ
    ..ไอ้แบบกลมๆ..มันตัดเล็บเท้าไม่ไหว..แรงตัดมันน้อย..เพราะอะไร...มันก็เกี่ยวข้อง
    กับ...เรื่องที่ผมจะว่า..นี่แหละ......
    .................................................................
    .....ก่อนคุณจะเอา..มันมาใช้งาน...คุณต้อง..ง้าง..ก้านกดมันออกมาก่อน...แล้ว
    พลิกกลับ..(ใจเย็นๆ..เดี๋ยวคุณจะมาว่าผม..ว่า..จะมาบอกทำบ้าอะไร..ใครๆก็รู้)
    .....เพราะ..ไอ้ตัวที่มันจะกด..ก้านสปริง..ที่มีฟันอยู่ตรงปลายนั้น....
    ...มันอยู่ด้านบน..ของ..ก้านกด...ซึ่งทำเหมือน..มะเหงก...
    .....เมื่อ..ไอ้มะเหงกนี่..มันมาทาบ..บนก้านสปริง..ด้านใกล้ฟันนั้น(..อีกฝั่งเป้นโคน
    สปริงที่ปลายมัน..ยึดติดแน่น..ขยับไม่ได้)...เขาออกแบบให้..ก้านกดที่ปลายด้าน
    นึง..ติดกับไอ้มะเหงกนี่...และอีกด้านจะเป็นที่ๆ..เราจะใช้หัวแม่มือกด...นั้น..
    กระดกสว่นปลาย..ด้านที่จะกดสูงขึ้นมา.....
    .......เมื่อคุณจะตัดเล็บ...คุณก็แค่ใช้..นิ้วชี้รองใต้..ที่ตัดเล็บ..แล้วก็ใช้..หัวแม่มือ
    กดที่ปลาย..ก้านกด...ไอ้ที่สันของ..มะเหงก..มันก็จะหมุนลง..กดที่ปลายก้านสปริง
    ..แล้วฟัน..ที่อยู่ปลายสุดของก้านสปริง..ก็เคลื่อนที่ตามกันลง..มางับ..เล็บคุณ..
    จนขาดออก..จากกัน..เพราะมีตัวช่วยคือ..ฟันด้านล่าง..ที่มันตั้งรับอยู่เฉยๆ...
    โดยที่ไอ้ฟันด้านบน..มันดัน..เล็บลงมา..ก็เลยช่วยกันตัด.......
    ......คือ..มันต้องอธิบายการทำงานเบื้องต้น..กันพอเป็นพิธีครับ......
    .......ไอ้ที่มันมาเกี่ยวคือ....ถ้าเกิด..คุณเลื่อนหัวแม่มือ..จากเดิมที่ปลาย..ก้านกด
    ...ลงมาอยู่..บริเวณกลางก้าน..แล้วก็ตัดเล็บ..(สมมุติ..ที่แรก..ตัดที่นิ้วกลาง...
    พอเลื่อนนิ้วมา..มาดัดที่นิ้วชี้...)..ขนาดเล็บใกล้เคียงกัน..ความหนาใกล้เคียงกัน
    ..........................แต่..........................
    ....คุณต้องออกแรง..มากกว่าเดิม..จนคุณสังเกตได้......
    ....เพราะ..อะไร...ผมจะจำลองให้คิดได้แบบง่ายๆ...ก็คือ..
    ...แรงที่ใช้ในการกดก้านสปริง(ตำแหน่งกด..อยู่ที่..มะเหงกนั่นแหละ)เพื่อตัดเล็บ
    ให้ขาด...มันมีส่วนที่มาหลักจาก...แรงที่คุณกดจากนิ้ว..คูณกับ..ระยะทาง..จากตำแหน่งกด
    มาถึง..ไอ้มะเหงก.........
    .....สมมุติว่าทีแรก...แรงที่คุณกดเป็น ๕ ระยะกด..จากหัวแม่มือ..ถึง..มะเหงก..เป็น ๔....
    ....เอามาคูณกัน .....๕x๔..เท่ากับ....๒๐...
    ......ไอ้ค่า ๒๐ นี่แหละ..คือแรงกดที่..มะเหงกที่..ทำให้คุณตัดเล็บขาด....
    .................แต่..พอคุณเลื่อน..หัวแม่มือลงมา..ใกล้มะเหงกครึ่งนึง...ของระยะกดครั้งแรก
    (กลางก้านกด..โดยประมาณ).....ระยะนี้..จะเหลือแค่....๒.....
    ........ถ้าคุณ..ออกแรงกดที่นิ้ว..เท่าเดิมคือ..๕.....เมื่อเอา..๕มาคูณกับ ๒ มันก็..เท่ากับ ๑๐
    ....ปรากฎว่า...มันมีแรงที่มะเหงก..จริงๆ..เหลือแค่..ครึ่งเดียว..(ของเดิม ๒๐ )...เล็บก็จึงไม่
    ขาด...เพราะมันน้อยไป....เมื่อแรงที่มะเหงกต้องใช้..คือ ๒๐ เล็บถึงจะขาด...
    ....เราก็จึงต้องเพิ่มแรงกดที่นิ้ว..ให้มากขึ้น...เมื่อมาคูณกับ...ระยะคือ ๒..แล้วให้มันกลาย
    เป็น ๒๐.......ก็คือคุณ..ต้องเพิ่มแรงกดที่นิ้วจากเดิม ๕ เพิ่มขึ้น..กลายเป็น ๑๐ ....เพราะ
    เมื่อ..เมื่อ..เอามันมาคูณ..กับระยะ คือ ๒ ..มันจะเท่ากับ ๒๐ นั่นเอง......เล็บจึงจะขาด
    ......ถ้าเรียกเป็นสากลไทย..เขาจะเรียกว่า..หลักคานดีด-คานงัด......
    ..........................ต่อตอนหน้าครับ........................
     
  4. dinso

    dinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,863
    ค่าพลัง:
    +9,562
    สวัสดีครับตามมาอ่านเช่นเคย พี่สบายดีนะครับ
     
  5. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    เรื่องพระปลอมก็มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ตอนนี้มีเทคโนโลยีมาช่วยก็ทำให้การปลอมได้เนียนขึ้น ใครเข้าสนามใหม่ ร้อนวิชา ศึกษาไม่ดี ก็โดนกันเยอะ บางคนก็บอกว่าเก็บไว้เป็นองค์ครู แต่เก็บองค์ครูแบบนี้ไว้เยอะๆไม่ดีนะครับ
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...ถูกต้องครับ...องค์ครู(ปลอม).ควรเลือกเฉพาะที่มันใกล้เคียงมากๆจริงๆ..เท่านั้น..ถ้าเก็บไว้มาก..แสดงว่าคุณไม่ได้พัฒนา..ตัวเอง..คือ..ยังโดนไปเรื่อยๆ(ถ้ามีเพื่อน..ไปบ้าน..มาถามว่า..เก็บแบบนี้ไปทำไม..ปลอมประถมมาก..ก็ต้องไก๋ไปว่า..เช่าเก็บมาศึกษา..ทั้งๆที่จริงๆ..โดน).....ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้ว..ในบทความผม..เรื่อง..การพัฒนา..ของการปลอมพระ..ที่ไม่หยุดอยู่กับที่..ก้าวไปทันโลก..ทันเซียน(ธรรมดา)....ตัวนักเล่นพระเอง..ก็อยู่นิ่งไม่ได้เช่นกัน..หาเวลาไปถามไถ่..เข้าสนามมาตรฐาน..แต่ละแห่ง..สอบถามความเคลื่อนไหว..ไว้..จะสร้างภูมิคุ้มกันได้..ไม่น้อย..
     
  7. เขมทัต

    เขมทัต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2007
    โพสต์:
    623
    ค่าพลัง:
    +2,252
    ยังติดตาม เก็บเกี่ยวความรู้อยู่ครับ
     
  8. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,323
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีค่ะ คุณลุงและผู้ร่วมศึกษาทุกๆท่านค่ะ เป็นกำลังใจในบทความสาระของคุณลุงเช่นเดิมค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...หวัดดี ดินสอ..เขมทัต..และหลานลินน์
    ...ขอบคุณ..สำหรับกำลังใจ.....
    ....ก็มาว่าเรื่องปลอมๆกันต่อ...


    ...........................................................................................................................
    ................ต่อมา..ก็มาถึง..พวกที่มีความรู้บ้าง...แต่ชอบ...สมัยนั้นไม่เหมือน..สมัยนี้..ที่ไป
    เปิด..เน็ตเอา..อยากจะรู้..เรื่อง..หลวงพ่อนี้..พระท่านมีอะไรบ้าง..ก็มี..ให้อ่านทั้งนั้น..ขนาด
    พระดังระดับจังหวัด..ก็ยัง..พอหาอ่านได้...พระดังๆ..จังหวัดนี้..มี..หลวงพ่ออะไร..ออกวัตถุ
    มงคล..อะไร..รูปแบบเป็นยังไง..ก็หาได้อีก...พระดังๆ..รูปเป็นยังไง..ตำหนิตรงไหน......
    ....โอ๊ย..หาได้หมด...........................................................
    ........................................สมัยโน้น..ชอบ..อยากหาความรู้..อยากเห็น...เรียกว่า..ถ้าไม่มี
    ญาติโยม..เพื่อนฝูง..ที่พอมีความรู้..ก็แทบจะหมดโอกาศ...หรือ..ไม่งั้นก็ต้องขวนขวาย..กัน
    เต็มที่..ยิ่งอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ..ที่เป็นจังหวัดเล็กๆ..ก็แทบใบ้..ขวนขวายเต็มที่..ก็ได้แค่.....
    ท้องถิ่น.....................ฉะนั้น..คนที่รู้จริง..ก็น้อย..คนที่พอรู้บ้าง..ก็มีแต่พวกนี้..ก็รู้แค่บางอย่าง
    เท่าที่ได้รับการบอกเล่า..หรือ..เคยเห็น..แผงหนังสือพระเก่าที่หลังพระแม่ธรณี..ก็ต้องหมั่นไป
    ดู..เพราะเวลาหนังสือ(เป็นแบบ..บ็อกเก็ตบุ้ค..)มาที..ไม่เกิน..อาทิตย์ ๒ อาทิตย์..ก็หมด..เพราะ
    ใคร..ก็อยากรู้เรื่องพระเครื่อง......................................
    ...........คนเหล่านี้..นี่แหละครับ..ที่มาเดินสนาม..มากที่สุด..รสนิยม..ความรู้..ก็ต่างกันไป...
    ..ส่วนใหญ่..ก็พอรู้กันเฉพาะด้าน..พวกเหรียญ..พวกนึง..พวกพระผง..พวกพระกรุ...คือ..เรียกว่า
    ถ้า..มานอกแนว..ก็ใบ้..เพราะไม่เคยเห็น..ไม่รู้จัก..ไม่เหมือนยุคนี้..ใครอ่านมาก..ความจำดี...
    ก็รู้ไปหมด..เป็น..อาจารย์..เรียกว่า..มาแนวไหน..รับได้หมด..เพราะอ่านเอาในเน็ต...แต่....
    ............................ของจริง...ไม่เคยเห็น......................................................................
    ....ในบรรดา..คนเหล่านี้..ก็จะมีอีกประเภท..ที่ชอบ..ของแปลก..หรือ..ของนอกกระแส....
    ขอให้เก่า(ดูแล้วเก่า)...แล้ว..บางคนเคยได้ยิน.เขาพูดถึงกัน..แล้วมาตามหา..ไอ้คราวนี้..
    บางที..มันเกิด..มีซ้ำกันหลายที...ไอ้คนขายพระปลอม..ที่ทำตัวเหมือน..นักสืบ..และ..
    นักข่าว..ได้ยิน..พรรคพวกที่ขายพระ..ด้วยกัน..เขาพูดถึง..ว่ามีคนมาหา..พระแบบนี้..
    กันหลายคน...ก็มีไอเดีย..ที่จะทำของปลอมมา..สนอง...........
    .........เรื่องแบบนี้..ผมจะยกตัวอย่าง...คือ..กริ่งเขมร..หรือ..กริ่งตั๊กแตน.................
    ..นี่..คนพอมีความรู้บ้างสมัยโน้น..ส่วนใหญ่จะรู้จัก..แต่..รู้จักแต่ชื่อ..กับรูปร่างเคร่าๆ
    รูปถ่าย..ก็..ไม่เคยเห็น..ของจริงยิ่งไม่ต้องพูดถึง....แผงทั่วๆไปในวัดมหาธาตุ..เกือบจะ
    ทุกแผง..จะต้องมีไว้สนอง..ลูกค้า...ถามว่าเป็น..พระในกระแสใช่มั้ย...ตอบว่า..ไม่ใช่
    ....แต่..ลูกค้าชอบ..ถามว่า..อ้าวแล้วหามาจากไหน..กันละ..เยอะแยะ.....
    ...ตอบ...ส่วนใหญ่..หรือ..เกือบทั้งหมด..มันคือ..ของปลอม.......
    ก็เพราะ..เหตุผล..ที่ผมเอ่ยมาข้างต้น..เพราะมี DEMANDมา..ก็เลยมี..SUPPLY..ออก
    มาสนอง..ตามกลไก..เพียงแต่ของที่มาส่วนใหญ่..มันปลอม..เท่านั้นเอง.......
    ..ถามว่า..แล้วกริ่งนี่..ทำไมถึงดัง....
    ตอบว่า..ก็เพราะความเชื่อมาจากรุ่นเก่าแก่..ถึง..ของขลังเขมร..นี่..จะเข้มข้น..และ
    เน้นหนัก..คงกะพัน...และ..บอกต่อกันมาว่า..กริ่งเมืองไทย..นี่ต้นกำเนิดมาจากเขมร
    ..ฉะนั้น..ของต้นตำรับ..ต้องเจ๋งกว่า........
    ......พวกที่ขายกริ่งเขมร..บนแผง..เวลาไปถาม..ก็จะตอบมาทำนองเดียว..กันว่า....
    ...ซื้อมา..เห็นเก่าดี...เห็นเขาบอกว่าเป็นกริ่งเขมร..ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน..แต่เข้าท่าดี..
    ......คือ..พิจารณาจากคำตอบ..แล้วออกแนว..แบ่งรับแบ่งสู้..ยังไง..ไม่ทราบ...คือ..
    ..(มึ)ง..ก็..ตัดสินใจเอาเอง..แล้วกัน....................................
    ..............แล้วที่..ลูกค้าชอบ..เพราะ..ไม่แพง...ถ้าไปถามคนขาย..เค้าก็จะบอกว่า..ก็
    ผมซื้อมาไม่แพง...ไอ้ที่มันมาปล่อย..มันเดือดร้อนเงินมั้ง...(ว่าเข้าไปโน้น).......
    ................แล้วอีกอย่างนึง..เนื่องจาก..กริ่งนี้..มีหลายรูปแบบ..แต่..เหมือนกันคือ..จะ
    ถือดอกบัว..แต่เนื้อนี่..ที่แน่ๆเป็นสำริด..แต่บางท่านบอก(ผมไม่ได้บอก)..ว่ารุ่นหลังก็
    เป็นเนื้อฝาบาตร..ก็มี....ก็ลองนึกเอาว่า..คุณ(ในยุคนั้น)ทราบข้อมูลแค่นี้..และแค่เป็น
    คำกล่าว..เท่านั้น...เวลาคุณเข้าสนามไปถามหา..แล้วเขาก็หยิบให้ดู...มันก็มีเหมือน
    ข้อมูลที่คุณได้รับ....ผิวก็เก่า(..ก็ทำมันให้เก่า)..แพงก็ไม่แพง.....แล้วจะเหลือเรอะ....
    ........................................ต่อตอนหน้าครับ............................
     
  10. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    เก็บไว้เป็นองค์ครู บางครั้งก็เป็นแค่คำปลอบใจครับ เห็นด้วยกับพี่ modpong ควรเลือกเก็บเฉพาะที่ใกล้เคียงครับ
     
  11. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    5555ช่วงนี้ยุ่งผมจัดสัมมนาเลยไม่ค่อยเข้าความรู้แน่นเหมือนเดิมครับ
     
  12. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    มาตามต่อหลังจากปิดไปยาว ๆ ครับอ้ายมด
    ซำบายดีนะครับผม
     
  13. dinso

    dinso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    4,863
    ค่าพลัง:
    +9,562
    มาอ่านข้อมูล ความรู้ เพียบครับ สวัสดีพี่มดพงศ์ พล จอนนี่
     
  14. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..หวัดดี..Joni..พลศิริ..และ..ดินสอ...
    .......................................
    ....ที่มา..ที่ไป...แล้วทำ(เอง)ยังไงละ
    ..........................................
    .....................................................................................
    ...แต่ตัวที่เป็นองค์ประกอบที่มา..เกี่ยวกับ..หลักการนี้อีกอย่างนึงคือ
    ....เคลื่อนทีมาก..ออกแรงน้อย....เคลื่อนที่น้อย..ออกแรงมาก
    ถ้าเรา..กดที่..ปลายก้านกด..แบบปกติ...เราต้องกดหัวหัวแม่มือ..ลงมาลึก
    ...ถ้าเรา..กดที่..กลางก้านกด...เรากดหัวแม่มือ..ลงมาตื้นกว่า....
    .......หลักกการทั้งหลายนี่..เขาถึงนำมาประยุกต์...สร้าง..แม่แรง..ไงครับ..
    ...คุณต้องหมุนก้าน..นานเลย..(..แต่คุณ..ออกแรงไม่มาก)...ยกรถขึ้นมา..๑ นิ้ว
    ......แต่ทั้งๆที่..รถหนัก..จะตาย...แต่..คุณก็ยกได้.....
    .......หรือ..อีกอย่างคือ..คีมที่เขาตัดเหล็กเส้น.....
    ...ด้ามยาวเฟื้อยเลย...ปลายด้าม ซ้าย..กับ..ขวา..ห่างกันสัก ๒ฟุต
    ...แต่ที่ปากมัน..อ้าไม่ถึง ๑ นิ้ว....เพราะจะทำให้มันสร้างแรงกดที่ปาก
    อย่างมหาศาล..จนตัด..เหล็กขาด...
    ......................................................................................................

    ...นี่จึงเป็นที่มา..ของหลักการที่เราจะเอามาใช้....
    ...แต่ไม่ได้..ซีเรียส..อะไรมาก...เพียงแต่ถ้า..พระคุณ
    ..เป็น..แบบพระยืน..อย่างกำแพงเม็ดขนุน..หรือ..
    ๒๕ พุทธศตวรรษ...จะเห็นว่า..ด้านแคบ..กับ..ด้านกว้าง
    ห่างกัน..มากกว่า ..เท่าตัว...การมากำหนด..จุดที่จะบาก
    ที่..กึ่งกลางด้านแคบ..(ด้าน..ปลายเศียร..หรือ..ปลายบาท)
    ..จะสะดวกกว่ากัน..ทำงานง่ายกว่า...เมื่อเราง้าง..ใส้กลาง
    ....เราสามารถ..ทำให้..พระหลุดออก..ใส้กลางได้ง่ายกว่า
    ..โดยใช้แรงที่น้อยกว่า...การขยายตัวออกจากตำแหน่งเดิมดีกว่า..
    ..และ..แรงต้านที่เกิดจากรูปทรง..ของใส้กลางที่เกิดขึ้น..จะน้อย
    กว่า..ด้วย......
    .............ทีนี้ผมจะกลับ..มาพูดถึงว่า...เมื่อบากเสร็จแล้ว..จะมำไงต่อ
    ......เนื่องจาก..อุปกรณ์ในการง้างใส้กลาง..ที่จะใช้นี้..คือ...ขออุบไว้ก่อน.
    ...และ..การง้างนี้..เราจะง้าง..ในแนวราบ..เพื่อให้แรงง้างที่เกิด..วิ่งไปโดยรอบ
    ใส้กลางที่ล้อมยึดพระอยู่...เราจะไม่ง้างในแนวตั้ง..เพราะนั่น..จะทำให้ใส้กลาง
    ..บิด..เมื่อบิด..แรงจะถ่าย..เข้าไป..ในลักษณะ..แรงแนวเฉือน..สามารถถ่ายเข้าไป
    ถึงในกลางองค์พระได้..ยิ่งพระเนื้อเปื่อย..ไม่ยึดเกาะกัน..หรือ..ร้าวอยู่แล้ว..จะ
    ร้าวมากขึ้น......
    ....การง้างออกตามแนวนอน..จะทำให้เกิดแรงดึงออกที่ผิวองค์พระ..ส่วนที่ถูกใส้
    กลางยึดไว้เท่านั้น..ส่วนที่เนื้ออคริลิค..อมไว้..ก็จะหลุดออก..ไปเท่านั้น...แทบไม่ส่งผล
    เข้าไปด้านในองค์พระ.....
    ....เริ่มต้นด้วย........
    ...............................ต่อตอนหน้าครับ..............................
     
  15. MooDam

    MooDam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,604
    ค่าพลัง:
    +4,845
    สวัสดีครับอา modpong เข้ามาติดตามและทักทายบ้าง ขอบคุณสำหรับความรู้ต่าง ๆ ครับ
     
  16. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    วันนี้ติดงานเลี้ยง (ลูก)ครับอ้าย
    เลยเข้ามารับการบ้านช่วงเช้าก่อนไม่มีเวลาเข้าีเรียนครับผม:cool:
     
  17. lynn@nice

    lynn@nice เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    21,323
    ค่าพลัง:
    +19,459
    สวัสดีค่ะ คุณลุงและผู้ร่วมศึกษาทุกๆท่านค่ะ เป็นกำลังใจในบทความของคุณลุงเช่นเดิมค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะอากาศเริ่มเปลี่ยนอีกแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  18. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,202
    ครับ สวัสดีครับพี่ modpong และผู้ร่วมเรียนทุกท่านครับ อากาศร้อนมาก ๆ ครับ รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ
     
  19. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..หวัดดี..หมูดำ..พลศิริ..หลานลินน์..และน้องกำธร..
    ขอบคุณที่เป็นห่วง....
    ...........................
    ...เรื่องปลอมๆ.....
    ...............................


    ..........................................................................................
    ...................นี่แค่..เป็น ๑ ในของนอกกระแส...อย่าง..พระลาวตกรถ..ที่หลายๆท่าน
    เคยเห็น..ก็เหมือนกัน..เป็นพระลีลาเนื้อตะกั่ว..มี ๒ หน้า...ที่มาเพราะ...ความที่สมัย
    ก่อน..คนที่อยากมีพระกรุกับเขาบ้าง..มีเยอะ..แล้วก็ไม่เคยรู้ว่า..หน้าตาเป็นยังไง...
    ..แต่..ก็ได้ยินคนเก่าๆ..เขาพูดถึง..พระร่วงๆ..พระร่วงสุโขทัย...(ความจริง..ก็คือ...
    พระร่วงรางปืน..กรุสวรรคโลก..จังหวัดสุโขทัย)..ก็มา..หากัน..ผมเดินเตร็จเตร่..อยู่ที่
    นั่น(สนามฯวัดมหาธาตุ)..ก็เคยได้ยินพวกลูกค้า..มาถามหาที่เจ้าของแผง..อยู่บ่อยๆ
    ..ก็..พวกคนขายพระปลอม..ก็คงเกิดไอเดีย..เช่นเดียวกัน..ก็สร้างขึ้นมาเลย..แถมเอา
    ทองเหลืองจับข้าง..ห้อยได้เลย..(พระชุดนี้..มีทั้งที่เป็น..ชินตะกั่ว..และ..ชินเขียว).....
    ....เนื่องจากไม่ต้องอ้างอิง..อะไร..เรียกกัน..ง่ายๆว่า..พระร่วง..ก็ขายในราคาถูก..พอ
    บางคนมาถาม..ส่วนใหญ่..ก็ได้รับคำตอบมา..ว่า..พระแตกกรุออกมาเยอะ..เลยถูก..
    ..คนก็ชอบ..เพราะกะทัดรัด..สวย..ห้อยได้เลย..พวกมิจฉาชีพ..ทั้งหลาย..ก็เลยไป..
    เหมามาจาก..แหล่งผลิต...จนไม่ได้จำกัดวง..แค่ในสนาม..แต่ระบาดไปทั่ว..แม้ตาม
    หัวเมืองใหญ่ๆ..แล้ว..ก็นิยายเดิม..คือ..ตกรถ..หาเงิน..กลับบ้าน..แล้วแหล่งยอดฮิต
    ที่พวกนี้ไป..ตระเวณปล่อย..ก็..สมจริงสมจัง..คือ..สถานีขนส่งสายเหนือ-อีสานเก่า
    ตลาดหมอชิต..ที่ปัจจุบันเป็นลานจอดรถ..ผู้มาใช้บริการรถลอยฟ้า..นั่นแหละครับ..
    ...สมัยโน้น..คนตกงาน..ส่วนใหญ่ก็เป็นคนอีสาน..งานก่อสร้างมันไม่เยอะแบบนี้..
    แล้วช่างที่ทำ..แม้แต่คนงาน..ก็เป็นคนภาคกลางกัน..ร้านส้มตำแผงลอย..ก็แทบไม่มี..
    ..ก็เลยตกขลัก..กันอยู่แถวหมอชิต..พวกนี้ก็จะเล็ง..พวกที่ดูคนมาขึ้นรถ..ที่ดูดีหน่อย..
    ..แล้วก็เข้าไปบีบ..น้ำตา..สร้างเรื่อง.....
    ...................................................รูปแบบๆนี้..ก็..จะ..กระจายไป..ทั่ว..สำหรับพระ..
    ทั่วๆไป..อย่าง..พระปิดตา..ก็..มีทั้งเนื้อผง..ทั้งตะกั่ว..สร้าง..รูปแบบ..ขึ้นมาใหม่..ไม่
    ต้องเหมือน..หลวงพ่อไหน..ขอให้ดูเป็น..พระปิดตา..ก็พอแล้ว..มีกระจายไปตามแผง
    เล็กๆ...เพราะคนชอบมาถามหา..แถมบางคนมาถามว่า..”ลุง..มีพระปิดตามั้ย..หน้า
    ตาเป็นยังไง..”...คือ..ไม่รู้จักด้วยซ้ำว่า...พระหน้าตาเป็นยังไง..ชื่อหลวงพ่อ..ก็..ไม่ต้อง
    พูดถึง....เจ้าของ..ก็เลยรีบยื่นให้เลย..ชื่อหลวงพ่อ..ยอดฮิต..ยุคนั้น..ไม่ใช่หลวงปู่เอี่ยม
    นะครับ..แต่เป็น..หลวงพ่อแก้ว...คือ..บางทีมันก็ไม่บอก..หรือ..ก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน..
    ..บางคนก็บอกว่า..หลวงพ่อแก้ว..ผมยังเคยไปถามเลย..แกหยิบมาให้ดู..แล้วบอกว่า..
    ......................................หลวงพ่อแก้ว...(แก้วแรก..หรือ..แก้วท้ายๆ...ไม่ได้ระบุ).....
    ..................................................แล้วก็มาถึง..คนเข้ามาเดินใน..สนามแบบไม่มี....
    วัตถุประสงค์ใด..แบบว่า..เดินเล่น...เพราะ..สมัยนั้นตลาดนัดเสาร์-อาทิตย์..ในเมือง
    ไทยมีที่เดียว..แล้ว..ไม่ว่าใครก็ตาม..ที่มาจากบ้านนอก..ได้มีโอกาศเข้ากรุง..ถ้าไม่ได้
    มาเดิน..แล้วเอาบรรยากาศไปกลับไปเล่าให้พรรคพวกฟัง..ถือว่าเชยมาก..มาไม่ถึง
    กรุงเทพ..มาไม่ถึง..บางกอก..ว่าเข้าไปนั่นเลย....นั่นคือ..ตลาดนัดสนามหลวง....
    ...แล้วแค่..เดินข้ามถนน..จากตลาดนัด..ก็ถึง..สนามพระวัดมหาธาตุแล้ว.........
    ...................................ต่อตอนหน้าครับ.......................................................
     
  20. วิถีเพชร

    วิถีเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2012
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +650
    สวัสดีครับคุณลุง modpong ติดตามอ่านกระทู้ของคุณลุงมาสักพักแล้วครับ ทั้งกระทู้หลวงพ่อทองศุขและกระทู้นี้ อ่านวนไปวนมาย้อนไปย้อนมาครับ พออ่านไปสักพักลืมของเก่าเลยย้อนไปอ่านใหม่ เลยไล่ไม่ทันสักที ยังไม่มีโอกาศเข้ามากล่าวทักทายคุณลุงสักที และยังไม่ได้ขอบคุณคุณลุง modpong ที่เขียนกระทู้ดีๆให้ได้ศึกษากัน พอดีได้อ่านเรื่อง"พระลาวตกรถ" อ่านแล้วทำให้นึกได้ว่าเพิ่งเจอมาสดๆร้อนๆเลยครับ แต่เป็น"พระลาวรถน้ำมันหมด" พอดีว่าเดือนที่แล้วผมต้องไปทำธุระที่มหาสารคาม ขากลับเลยแวะพักที่เอาท์เลทโคราช พอลงรถสักพักพี่แกก็เข้ามาเลยครับ บอกรถน้ำมันหมด หาตังเติมน้ำมันกลับบ้านไม่มีอะไรจะแลกมีแต่พระที่พ่อแกให้มา เห็นหลายองค์อยู่ บอกว่าหมดพวงแกเอาแค่ 600 เป็นค่าน้ำมัน ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่พี่คนขับรถตู้แกอยากได้ ผมก็ไม่รุ้จะทำยังไง ทำไปทำมาแกเลยเสี่ยงเอามาองค์หนึ่งเป็นพระแถวบ้านครับ ว่าจะเอามาเช็ค แต่พอมาอ่านบทความเรื่องพระลาวตกรถ ของคุณลุง ผมคิดว่าคงไม่ต้องเช็คแล้วแหละ:'(
     

แชร์หน้านี้

Loading...