ใครด่าพระเกษมบ้าง ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 29 มีนาคม 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ถ้าเราแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะครับ
    ที่สำคัญอย่าได้มาขัดแย้ง มาโต้เถียงกันเองด้วยอารมณ์โกรธ
    โดยที่คนก่อเรื่องเขาไม่มารู้อะไรกับอารมณ์จิตของเราเลย ตอนนี้
    เวลากรรมส่งผลนี้มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะทำให้คนคิดผิด พูดผิด และทำผิด
    ทุกอย่างมาตามธรรมและเป็นไปตามธรรม สร้างเหตุเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นน้ัน
    ถ้าวันนี้เราด่า ทำร้ายกัน วันข้างหน้าถ้ายังมาเกิดมาตายอีก
    ก็จะมีเหตุให้มาด่า มาทำร้ายกันอีกเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ไม่จบ
     
  2. maxgatod

    maxgatod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +228
    555+ ก๊าก ก๊าก ก๊าก+

    [​IMG]
     
  3. Apollo14

    Apollo14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +199
    ถ้าดีจริงย่อมรู้ว่า การกระทำแบบที่ผ่าน ๆ มา เป็นเครื่องให้คนด่าว่า นินทา ซึ่งเป็นบาปแก่คนด่า พระดี ๆ ย่อมไม่ทำให้คนด่า หรือนินทา ให้เป็นบาป เป็นกรรมแก่คนอื่น
     
  4. wara99

    wara99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +892
    สมณ คือผู้สงบ เรียบง่าย สวยงามกริยา ถ้าไม่เป็นตามนี้ จะเรียกทำไมว่าสมณ

    พระพทธเจ้าทรงบัญญัติให้สงบ สวยงาม เพื่อศรัทธา เพื่อพระศาสนาไม่ใช่เพื่อองค์ใดองค์หนึ่ง

    ถ้าอย่างแสดงออกมากๆ ต้องไปตั้งศาสนาใหม่ เป็นศาสดาเอง แต่นี่เป็นสาวก ต้องเชื่อฟังผู้ตั้งก่อน

    ที่เคยได้ยินหลวงปู่ทั้งหลายหยาบคายบ้าง ก็เพื่อไม่ให้ยึดติดตัวตน ก็เฉพาะหมู่เฉพาะคน

    ไม่ใช่การแสดงแบบจงใจ ฉากหลังเป็นญาติโยม แบบนี้เตรียมการณ์อย่างดี ตั้งใจให้เห็นแก่คนทั่วไป

    ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความไม่สบายใจ ขุ่นมัว เกิดอวิชา แล้วแบบนี้ จะเป็นสมณะที่ดี ก็คงคิดหนัก

    วิธีการสอนมีตั้งหลายแบบ ทำไมใช้แบบนี้ ท่านพุทธทาส ท่านมีเหตุผลในการยืนเทศ แต่ท่านก็สำรวมแบบสมณะ

    ไม่ออกอาการผิดรูปผิดแบบ แบบนี้
    ก็อย่าคิดมาก แค่อาการของสมณะบางรูป ที่อาการไม่ควรยกย่องเชิดชู หรือดูหมิ่นจนเกินเหตุ
     
  5. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    สังคมไทยเป็นแบบนี้แหละคับ พระดีๆ รับเงิน เล่นบทอรหันวางกริยาเรียบร้อยพอลับหลังเราไม่รุ้ไม่สนใจ ถึงจะเรียกว่าดีหรอคับ? พระนี่ก็คนเหมือนเราๆนี่แหละคับยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีใครบวชมาเป็นอรหันใด้เลยหลอกคับ
     
  6. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ติดในรูปมากไปหรือปล่าว พระพุทธเจ้าสอนเรื่องสวยงาม ไม่มีหรอกคับ

    เค้าอาจก้าวร้าวผมยอมรับแต่ไม่ใด้ทำให้ความเป็นพระหมดไป พระเค้าไม่ใด้ทำผิดกฎปราชิกนะคับ ท่านก็ยังคงเปนพระอยุ่ และท่านก็ไม่ใด้พยายามทำตัวให้เป็นพระอรหันอย่างที่สังคมไทยอยากจะเหนจากพระทุกองค์ ท่านยังบอกเลยมีอะไรท่านทำผิดอะไรให้เตือนท่าน และท่านก็ไม่ใด้ทำตามใจใคร สำรวมท่านสำรวมอยุ่ ท่าคุนดูที่ท่านสอนในคลิปต่างๆ นักข่าวเค้าก็ตัดมาแต่พวกนี้เพราะมันทำให้รายการเรทติ้งดี คุนไปดูคลิปตามสื่อมานิดเดียวมาตัดสินพระกับคนทั้งวัดไม่ใด้หรอกคับ

    ใครเคยบวชจริงคงจะรุ้พระเหนกันทุกวันนี้ก็คนเหมือนเราๆนี่แหละคับ ไม่มีใครบวชปุบเปนพระอรหันเลยตัดจากความเปนมนุษย์ใด้เลยหรอก นอกจากเราจะคิดไปเอง และพระก็เอาใจเราโดยการเล่นบทนี้กับเราเยอะสำรวมวางกริยางดงาม ซึ่งลับหลังแล้วเราไม่ใด้รุ้เลย พอตานี้พระใช้คำพ่อคุนรามดุดัน มาเทศสอนคนรับไม่ใด้ ติดความสวยงามคิดว่าพระต้องเริศหรู ไม่ใช่อย่างที่ตนต้องการ ก็มาตัดสินว่าพระองค์นี้ นั้น ไม่ดี ให้จับศึก

    สังคมไทยหนอ มือถือสากปากถือศีล
    รูปร่างแค่เปลือกนอก พุดซะหรู แต่ดันมาบอก รูปพายนอกทำให้คนศรัทธา ทำให้ดูดี คุนจะศรัทธาอะไรมากกว่าคับ ?
    ระหว่าง คำสอน กับ จีวร

    ยังไงท่านยังเปนพระยุ่คับ ทั้งทางวินัย และ กฎหมาย ช่วยระวังอารมหึกเหิม อยากด่าพระ คันปากกันด้วยคับ รุ้ว่ามันส์ปากคับ แต่ผลที่ใด้รับไม่คุ้มนะ
     
  7. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    กตัญญู กตเวทิตา การรู้จักคุณท่าน พระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า เธอเป็นคนดี

    [​IMG]
    (ภาพจาก สำนักโล้นเกษม)

    อาชีพหลักของโล้นเกษม ก็คือ เอาพ่อตัวเองมาเผา แบบว่าอยู่ว่างๆไม่รู้จะทำไรดี

    จ.ร. คนจริงๆ

    สงสัยภาพถ่าย รูป และอนุสรณ์ต่างๆ ของบิดา มารดา ของโล้นเกษมท่ีมีอยู่ที่บ้าน

    มันคงเผาทำลายทิ้งหมดแล้ว อ.ป. คนจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2013
  8. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    ทุบพระพุทธรูปแล้วไปเกิดเป็นเปรต (โดยหลวงปู่แหวน)

    [​IMG]


    (หลวงปู่แหวนกระดูกกลายเป็นพระธาตุ จะมีแต่ในพระอรหันต์เท่านั้น)

    พบเปรตสมัยใหม่
    ประสบการณ์ส่วนหนึ่งของ หลวงปู่แหวน ขณะอยู่ที่ถ้ำเชียงดาว มีดังนี้ :-
    ในระหว่างพรรษา วันหนึ่งประมาณ ๕ โมงเย็น หลวงปู่แหวน กำลังเดินจงกรมอยู่ ก็มีเสียงดังโครมครามเหมือนกิ่งไม้ใหญ่หักลงมา จึงเหลียวไปดู กลายเป็นสัตว์ร่างใหญ่ร่างหนึ่ง เอาเท้าเกาะอยู่บนกิ่งไม้ห้อยหัวลงมา มีผมยาวรุงรัง เสียงร้องโหยหวน
    หลวงปู่บอกว่า ท่านไม่ได้นึกกลัว และไม่ได้ให้ความสนใจ ยังคงเดินจงกรมต่อไป
    เมื่อร่างนั้นเห็นว่า หลวงปู่ไม่สนใจ ก็หนีหายไป
    สองสามวันต่อมา ก็มาปรากฏอีก แต่หลวงปู่ก็เดินจงกรมโดยไม่สนใจ หลังจากนั้นจึงมาปรากฏตัวให้เห็นทุกเย็น แต่ไม่ได้เข้ามาใกล้หลวงปู่ คงแสดงอาการเหมือนเดิมทุกครั้ง
    วันหนึ่ง หลวงปู่ได้กำหนดจิตถามไปว่า ที่มานั้นเขาต้องการอะไร ทีแรกเขาทำเฉยเหมือนไม่เข้าใจ หลวงปู่จึงกำหนดจิตถามอีก เขาจึงบอกว่า ต้องการมาขอส่วนบุญ
    หลวงปู่ จึงกำหนดจิตถามต่อไปว่า เขาเคยทำกรรมอะไรมา จึงต้องมาทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพเช่นนี้
    ร่างนั้นได้เล่าถึงบุพกรรมของเขาว่า เขาเคยเป็นคนอยู่ที่เชียงดาวนี้ มีอาชีพลักขโมยและปล้นเขากิน ก่อนไปปล้น เขาจะเอาดอกไม้ธูปเทียน ไปขอพรและขอคุ้มครองกับพระพุทธรูปองค์หนึ่งในถ้ำ
    เขาทำอย่างนี้ทุกครั้ง และก็แคล้วคลาดตลอดมา
    อยู่มาวันหนึ่ง เขาไปขอพรพระพุทธรูป แล้วออกไปปล้นเช่นเคย บังเอิญเจ้าของบ้านรู้ตัวก่อน จึงเตรียมต่อสู้ เขาถูกเจ้าของบ้านฟันบาดเจ็บสาหัส จึงหนีตายเอาตัวรอดมาได้
    ด้วยความโมโหว่า พระไม่คุ้มครอง เขาจึงกลับไปที่ถ้ำแล้วเอาขวานทุบเศียรพระพุทธรูป จนคอหัก ขณะเดียวกัน ก็ยังคุมแค้นอยู่ ตั้งใจว่า บาดแผลหายแล้ว จะกลับไปแก้แค้นเจ้าของบ้านให้ได้
    เผอิญบาดแผลที่ถูกฟันนั้นสาหัสมาก เขาจึงต้องตายในเวลาต่อมา วิญญาณเขาจึงต้องมาเป็นเปรตทนทุกข์ทรมานอยู่ที่เชียงดาวแห่งนี้ จึงได้พยายามมาขอส่วนบุญ เพื่อให้พระท่านช่วยแผ่ให้ จะได้คลายความทุกข์ทรมานลงไปได้บ้าง
    หลวงปู่แหวนท่านเล่าว่า บุพกรรมของเปรตตนนั้น หนักมากเหลือเกิน ท่านได้รวบรวมจิต อุทิศบุญกุศลไปให้ ตั้งแต่นั้นมา ร่างนั้นก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีก แต่จะได้รับบุญกุศลเพียงใดขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง
    หลวงปู่บอกว่า เปรตตนนั้นเป็นเปรตสมัยใหม่ เพราะใช้คำแทนตัวเขาเองว่า "ผม" แต่เปรตตนอื่นๆ ที่หลวงปู่เคยพบมา จะใช้คำแทนตนว่า "เรา" หรือ "ข้าพเจ้า" จึงนับว่าเปรตตนนี้ เป็นเปรตสมัยใหม่
     
  9. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    การตอบแทนคุณพระพุทธองค์ (ภาพจากสำนักสามแยกของโล้นเกษม)

    [​IMG]


    [​IMG]


    การตอบแทนคุณโล้นเกษม ใช้วิธีการ ทุบ ทำลาย รูปอนุสรณ์ของพ่อ

    หรือ พระพุทธรูปนั่นเอง

    ชาวบ้าน ชาวช่องเค้าสร้างถวายเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นที่ตั้ง ที่ยึดเหนี่ยว

    เป็นเครื่องระลึกนึกถึงความดีของพระศาสดา

    โล้นเกษม แมร่.....ทุบ...เผาเรียบ

    (หน้าตา มันก็ออกแนวพม่า สงสัยจะเป็นพม่ากลับชาติมาเกิด

    เมื่อก่อน มันก็เผาเมือง เผาพระพุทธรูป เพราะอิฉาที่เมือง อโยธยา เจริญกว่า

    สวยงามกว่า ไอ่พม่ากลับชาติมาเกิด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2013
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    กระผมเคยปุจฉา วิสัชนา กับลูกศิษย์ ของท่านหลวงพ่อเกษม เรื่องการทำลายพระพุทธรูป

    ซึ่งได้ข้อเท็จจริงว่า เขาสอนให้ยึดเฉพาะหลักธรรม พระธรรมของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ไม่ให้กราบไหว้พระพุทธรูปและให้ทำลายพระพุทธรูปไม่ให้มีหลงเหลือ เพื่อจะได่ไม่ให้พวกเขาไปหลงยึดติดในพระพุทธรูป

    กระผมได้ยินแล้วจึงกล่าวว่า แม้กระผมก็เคารพในพระธรรม ยึดเอาพระธรรมเป็นสรณะประการหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นว่าจักต้องไปทำลายพระพุทธรูป พระพุทธรูปเป็นเสมือนองค์แทนพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสห้ามบูชาพระพุทธรูปหรือองค์แทนพระองค์ก็จริง แต่พระพุทธรูปก็เป็นพุทธานุสติ พระพุทธรูปความจริงแล้วโดยปริศนาแห่งธรรม พระพุทธรูปก็หมายความรวมถึงพระธรรม มองให้เป็นพระธรรมก็ย่อมได้เช่นกัน
    การที่เรายึดตามพระวัจนะ ให้ยึดเอาพระธรรม นั้นถูกต้อง แต่ก็ไม่เห็นต้องไปทำลายพระพุทธรูป ในเมื่อพวกท่านไม่นับถือกราบไหว้ ก็ไม่เห็นต้องไปทำลาย ก็ให้วางเฉยอุเบกขาจะไม่เป็นการดีกว่าหรือ
    สุดท้ายก็เขาเชื่อมาอย่างนั้นก็ยากนะที่จะเปลี่ยนความคิดของเขาเหล่านั้น ความจริงเรื่องหลายๆเรื่องไม่จำเป็นต้องให้ใครเขาบอกสอนเรามากหรอก หากเรามีปัญญาพิจารณาตามเหตุผล ความถูกต้องดีงาม หลายๆเรื่องๆ สามารถพิจารณาได้ไม่ยากอะไร ก็ขอให้ศรัทธาอะไรก็ต้องมีปัญญาพินิจพิเคราะห์ประกอบด้วยเสมอครับ จะได้ไม่ไหลไปตามอำนาจแห่งความชั่วชักนำเราไปครับ
     
  11. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138

    โอเคคับ คุนกำนัน อ่านข้อความผมหน่อยครับ

    ศาสนาพุทธมีคำนึงซึ่งผมคิดว่าทุกคนน่าจะ รุ้จักดีนะคับ อุปะยะโก แปลว่าอวางท่าทีที่ถูกต้อง

    พระเกษมพูดบ้างเรื่องถูกนะคับ หลังจากพระพุทธเจ้าสิ้นปรินิพานไปสามร้อยปีก็ใด้มีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นโดยชาวกรีก และใด้มีการโต้เถียงกันมากว่าจะให้มีหรือไม่มีดี อิกฝ่ายเห็นว่าเปนสิ่งยึดติดยึดเหนี่ยวขวางทางธรรมขัดต่อคำสอนพระองค์ ก็ต่อต้าน อิกฝ่ายก้อเหนว่าสามารถไล่ผีปีศาจดลบันดารสิ่งมหัสจรรย์ใด้ต่างๆนา

    เถียงกันนานมากจนมันล่วงเลยมาเปนพันๆปี และ เราควรวางท่าทียังไงกับพระพุทธรูป เพราะคนส่วนมากเยอะมากๆ ไปหลงว่า พระพุทธรูปคือพระพุทธเจ้า เป็นตัวแทน อัศจรรย์ ดลบรรดาลเงินทอง หนังเหนียว เครื่องรางของคลัง ซึ่งมันนอกลู่นอกทางกันไปมากแล้ว เหตุนี้พระเกษมต้องการจะเตือนสติคน กระตุกใจคน และปัญหาคือท่านกระตุกใจคนรุนแรงไปหรือปล่าวถูกวิธีหรือปล่าว เพราะเรื่องพวกนี้มันฟังหัวคนมาเป็นพันปีแล้ว

    และสมัยก่อน มีพระองค์นึงผมจำชื่อไม่ใด้เทศบอก พระพุทธรุปขวางทางพระธรรม !! อ้าวก็เป็นเรื่องใหญ่โตสิคับ เพราะคนมันไปติดในพระพุทธรูไงคับ ไม่ใช่พระพุทธธรรม ไปติดนึกว่าพระพุทธรูปท่านจะบันดารทุกสิ่งทุกอย่างใด้ สร้างปาฏิหารใด้
     
  12. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    พระคือผู้ให้ ผู้เสียสละ แต่เกษมคือผู้เหยียบหย่ำ ทำลายน้ำใจคนไทย

    [​IMG]

    เป็นทองเหลือง ไปไหว้มันทำไม….เรื่องนี้เป็นประเด็นมานานแล้ว ผมเองนึกว่าจะเงียบไปแล้ว แต่พักหลังๆ เห็นว่าหนักข้อขึ้นกว่าเดิมคือ มีการรวบรวมพระพุทธรูปไปทำลายโดยการเข้าเตาหลอม ผมเลยขอหยิบเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง และร่วมวิเคราะห์แบบสร้างสรรค์ตามแบบชาวพุทธที่ีดีนะครับ อย่าด่ากัน…เพราะการเพ่งโทษผู้อื่นไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ยิ่งจะเกิดโทษต่อตัวเรามากกว่า เรื่องไหนไม่ถูกไม่ควรก็แก้กันด้วยเหตุด้วยผล…แฮ่ๆ พล่ามซะยาว มาเข้าประเด็นดีกว่าครับ
    เรื่อง นี้เป็นประเด็นมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว ก็เป็นที่ถกเถียงกันในสังคมชาวพุทธกัน โดยส่วนตัวผมมองว่า การที่จะไหว้หรือไม่ไหว้พระ ไม่มีใครถูกใครผิดหรอกครับ ขึ้นกับใจของแต่ละท่านมากกว่าที่จะเชื่ออย่างไร เพราะพระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้ว่า..
    มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฎฐา มโนมยา“ธรรมทั้งหลาย มีใจถึงก่อน มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ”
    พระวัดนี้ท่านมองว่า พระพุทธรูปเป็นอิฐหินปูน จึงไม่ต้องกราบไหว้ จึงควรทำลายทิ้งเสีย เพราะท่านมองว่าไม่ใช่พระพุทธเจ้า ยกข้อความในพระไตรปิฎกมายืนยันก็เห็นจะจริงตามนั้นว่า..พระพุทธรูปไม่ใช่พระพุทธเจ้า สร้างกันขึ้นมาภายหลัง พระพุทธองค์ไม่ได้บอกให้สร้าง (ท่านเลยสรุปว่า พระพุทธรูปเป็นสิ่งแปลกปลอมในพระพุทธศาสนา เหอๆ) ผมเองก็ว่า
    จริงๆ ท่านมีเจตนาดีนะครับ คือ ไม่อยากให้ผู้คนยึดติดกับวัตถุมากนัก โดยเฉพาะพวกเครื่องรางของขลัง และว่าด้วยเรื่องการบูชาพระพุทธเจ้านั้นมีอามิสบูชาคือการกราบไหว้ และถวายดอกไม้ธูปเทียนของหอมต่างๆ แต่อานิสงส์ก็คงไม่สู้ปฏิบัติบูชา คือการปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ไม่ได้ (แต่โดยส่วนตัวผมว่าถ้าจะให้ดี ทำไมไม่ทำทั้งสองล่ะ ทำไมต้องเลือกทำอันเดียว..) แต่การนำพระไปทำลายทิ้งนี่ ผมเห็นว่าไม่ควรอย่างยิ่ง…


    อย่าลืมนะครับ ว่าบัวยังมี 4 เหล่า คนที่จะเข้าถึงการปฏิบัติบูชานั้นถือเป็นชนกลุ่มน้อย คนที่กิเลสหนายังมีอยู่เยอะ คนเหล่านี้ยังต้องการสิ่งยึึดเหนี่ยวให้นึกถึงพระพุทธศาสนา เช่น เห็นว่าอยู่ในเขตวัดหรืออยู่หน้าพระพุทธรูป ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้า ก็อาจละชั่วแม้ชั่วขณะหนึ่ง เพราะละอายต่อบาปต่อหน้าพระพุทธองค์ หรือแม้แต่คนที่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ การที่ท่านกราบไหว้พระพุทธรูป ถามว่าท่านกราบไหว้หินอิฐปูนทรายรึเปล่าก็คงไม่ใช่ เพราะสิ่งที่ท่านกราบไหว้ คือ พระพุทธเจ้าต่างหาก เพราะการเห็นพระพุทธรูปแล้วเป็นการรำลึกถึงองค์พระพุทธเจ้า ไม่ใช่การเห็นอิฐหินปูน การกราบไหว้พระพุทธรูป อย่างนี้ถือเป็นอามิสบูชา ถามว่ามีประโยชน์เท่าปฏิบัติบูชามั้ย ก็คงไม่เท่า แต่อามิสบูชาเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งสูญเปล่าอย่างแน่นอน และอีกอย่าง หากจิตเราเห็นพระพุทธรูปแล้วน้อมรำลึกถึงพระพุทธเจ้า นั่นคือ ทุกครั้งที่เห็นหรือกราบไหว้พระพุทธรูปนั่นคือ เรากำลังเจริญ พุทธานุสติ นะครับ แล้วการเจริญพุทธานุสติ นี่มันไม่ดีตรงไหน มีหลายท่านที่ท่านนั่งจับภาพพระพุทธรูปจนเป็นฌานได้กันเยอะแยะ …

    เรื่อง การนึกถึงพระพุทธเจ้านี้ ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะครับ มีตัวอย่างในพระไตรปิฎกกล่าวเอาไว้หลายเรื่อง เรื่องแรก จำชื่อท่านไม่ได้ ท่านคนนี้เป็นคนที่ไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเลย ใครไปทำบุญแกก็ขวาง เวลาพระเทศท่านก็ทำเสียงดังกลบเสียงพระ เรียกได้ว่า ตายไปลงนรกแน่ๆ แต่พอถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านป่วยหนัก ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส จึงละทิฎฐิ คิดถึงพระพุทธองค์ อยากให้พระพุทธองค์มาโปรดก่อนตาย ท่านคิดอยู่อย่างนี้ แล้วท่านก็ตาย และได้ไปเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซะงั้น ด้วยอานิสงส์แห่งการเจริญพุทธานุสติก่อนตายนั่นเอง และต่อมาเมื่อท่านจะหมดบุญจากสวรรค์ต้องลงนรก พระพุทธองค์ก็ได้ไปโปรดท่านจนบรรลุเป็นพระโสดาบันอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีอีกหลายตัวอย่างในพระไตรปิฎกไปศึกษาเพิ่มเติมดูครับ
    เมื่อช่วงที่กำลังเป็นข่าวโครมคราม ผมไปอ่านเจอทัศนะท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง จำไม่ได้ว่าใคร เห็นว่าเข้าใจได้ง่ายดี ท่านให้เปรียบเทียบเรื่องนี้อย่างนี้ครับว่า
    เปรียบ เสมือนบุตรผู้ซึ่งมาอยู่ห่างไกลจากบิดามารดา ด้วยความสำนึกในบุญคุณแห่งบิดามารดา และเพื่อเป็นการระลึกถึงบิดามารดา จึงได้ทำร็อคเก็ตรูปบิดามารดาไว้ห้อยคอ เวลาจะทำชั่วอะไรด้วยที่คำนึงว่าห้อยร็อคเก็ตอยู่ก็ระลึกถึงคุณบิดามารดา ไม่กล้าทำชั่วให้ท่านเสียใจ และเป็นสิ่งระลึกให้ตั้งใจทำงาน
    ถามว่า ร็อคเก็ตนี้ใช่พ่อใช่แม่มั้ย …. ก็คงไม่ใช่ แล้วเราควรทำยังไงกับร็อคเก็ตที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จริงๆ ของเรา
    1. ทุบทิ้ง ทำลายทิ้งซะ เพราะมันก็แค่รูป + ร็อคเก็ต ไม่ใช่พ่อแม่เราซะหน่อย
    2. เก็บร็อคเก็ตไว้บูชา เพื่อระลึกถึงคุณท่าน และตั้งใจทำดีเพื่อท่าน
    เลือกกันเอาเองนะครับ
    จริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่แก่นหรือสาระสำคัญในพระพุทธศาสนา ก็งงๆ ทำไมถึงเกิดประเด็นพวกนี้ขึ้นมาได้ ถามว่า คนที่ไม่ห้อยร็อคเก็ต ไม่รักพ่อแม่หรือ ก็คงไม่ใช่ ถ้าใจท่านคิดถึงพ่อแม่ รักพ่อแม่จนไม่ต้องพึ่งร็อคเก็ต ด้วยใจท่านคิดถึงพ่อแม่อยู่แล้ว อย่างนี้ดีกว่าพวกที่ห้อยแต่ใจไม่เคยคิดถึงพ่อแม่เลยแน่นอน
    แต่ถ้าใครอารมณ์ใจ ยังไม่แน่วแน่ขนาดนั้น การจะห้อยร็อคเก็ต เพื่อระลึกถึงคุณพ่อแม่ ก็ถือว่าท่านมีเจตนาที่ดี น่าสรรเสริญ อย่างน้อยก็ดีกว่า พวกที่ไม่ว่าจะห้อยหรือไม่ห้อยร็อคเก็ต ก็ไม่เคยคิดถึงพ่อแม่เลย…ลองถามใจท่านเอง ว่าท่านเป็นคนประเภทไหน..

    *************************************************
    สำหรับท่านที่ยังสงสัยว่า การกราบไหว้พระพุทธรูป หรือ การสร้างพระพุทธรูป มีอานิสงส์หรือไม่ เรามาลองวิเคราะห์ กันดูครับ ตามประสาปุถุชนที่ยังไม่มีญาณหยั่งรู้
     
  13. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    ฝากให้คิดเรื่อง เจดีย์
    ประเภทของเจดีย์ หรือพุทธเจดีย์
    พุทธเจดีย์ คือ สิ่งซึ่งสร้างขึ้นด้วยเจตนาเพื่อระลึกถึงและอุทิศต่อพระพุทธเจ้า และพระรัตนตรัย
    พุทธเจดีย์ มิได้เจาะจงเฉพาะแต่ เจดีย์ ที่เป็นถาวรวัตถุ สิ่งก่อสร้างเท่านั้น แต่รวมถึง พระพุทธรูป พระไตรปิฎก สังเวชนียสถาน ด้วย

    ในตำราพระพุทธศาสนากำหนดว่าเจดีย์ มีด้วยกัน 4 ประเภท(ป.อ. ปยุตโต) คือ
    ธาตุเจดีย์ หมายถึง สิ่งก่อสร้างที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ของพระมหากษัตริย์จักรพรรดิ
    บริโภคเจดีย์ หมายถึง สถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ใช้ เป็นที่ระลึกถึงพระองค์เมื่อเสด็จปรินิพพานแล้ว ได้แก่ สังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือสวนลุมพินีวันที่ประสูติ อุรุเวลาเสนานิคม(พุทธคยา) ที่ตรัสรู้ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน(สารนาถ) ที่แสดงปฐมเทศนา และสาลวโนทยาน เมืองกุสินาราที่ปรินิพพาน
    ธรรมเจดีย์ หมายถึงพระธรรม คัมภีร์ในพุทธศาสนา เป็นสิ่งแทนองค์พระพุทธเจ้า ต่อมาเขียนลงเป็นตัวอักษรประดิษฐานไว้เพื่อบูชา
    อุเทสิกเจดีย์ หมายถึง สถานที่หรือสิ่งของที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศต่อพระพุทธเจ้า ไม่กำหนดว่าจะต้องทำเป็นอย่างไร เช่น พระพิมพ์ พระพุทธรูป ธรรมจักร บัลลังก์ เจดีย์ เป็นต้น
     
  14. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    สรุปแล้ว เจดีย์ ก็คือ สิ่งที่สร้างด้วยเจตนาเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าและพระรัตนตรัย การสร้างพระพุทธรูป นี้ผู้สร้างมีเจตนาเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้า ดังนั้น พระพุทธรูปก็เป็นเจดีย์ประเภทหนึ่ง ทุกอย่างตรงไปตรงมา สนับสนุนคำสอนพระพุทธองค์ที่ว่า “ธรรมทั้งหลาย มีใจถึงก่อน มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วที่ใจ”ใจเราคิดว่าเรากำลังไหว้พระพุทธเจ้า ก็ได้ตามนั้นล่ะครับ จะไปคิดอะไรมาก
    อย่างในพระไตรปิฎกมีเรื่อง อานิสงส์การก่อเจดีย์ทราย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ก็มีอานิสงส์มากมาย ท่านๆ ก็ลองคิดดูเอาละกันครับ ว่าการสร้างพระพุทธรูปกับการก่อเจดีย์ทราย อย่างไหนทำยากกว่ากัน อย่างไหนต้องใช้กำลังทรัพย์ กำลังกายมากกว่ากัน ในเมื่อพระไตรปิฎกก็เขียนไว้ชัดเจนว่า การก่อเจดีย์ทรายก็เป็นเจดีย์ มีอานิสงส์มาก แล้วทำไมการสร้างพระพุทธรูปเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าจะไม่มีอานิสงส์เล่า….

    สำหรับคนที่ขี้เกียจวิเคราะห์นะครับ มีหลักการคิดง่ายๆ ก็คือ พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านยังไหว้พระ ท่านสอนให้ไหว้พระ และท่านก็ยังสร้างพระกันเต็มบ้านเต็มเมือง ยกตัวอย่างคือ พระแก้วมรกต ผู้ที่สร้างคือพระนาคเสน ในสมัยพระเจ้ามิลินท์ หรือเอาใกล้ๆ หน่อย หลวงพ่อฤาษี ท่านสร้างสมเด็จองค์ปฐมและได้เมตตาสอนเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ โดยการสร้างพระพุทธรูป หน้าตัก 4 ศอกขึ้นไปจึงจะถือว่า ชำระหนี้สงฆ์ได้ ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น มีหลวงตามหาบัวเป็นต้น ท่านก็กราบไหว้พระพุทธรูป เป็นต้น…..แล้วถ้าให้เลือกว่าผมจะเชื่อใครระหว่างพระอรหันต์ กับพระหรือฆราวาสที่ไม่รู้ว่าเป็นพระอริยะหรือไม่(ผมหมายถึงทั่วๆ ไปนะครับ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงท่านใด) ที่อ่านพระไตรปิฎกจนช่ำชอง หรือที่เีรียกว่า ขรัวใบลานเปล่า (เพราะท่านเหล่านี้ ลงอเวจีมหานรกก็มีเรื่องเล่าในพระไตรปิฎกเช่นกัน)….ผมขอเลือกเชื่อพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ สบายใจกว่าครับ โดยเฉพาะ พระนาคเสน ในหนังสือมิลินทปัญหา นี่ท่านสุดยอดจริงๆ ลองไปหาอ่านดูนะครับ
     
  15. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +682
    [​IMG]

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต (ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเกษม อาจิณณสีโล) เคยกล่าวถึงคำสอนของหลวงปู่มั่น ในหนังสือชีวประวัติของหลวงปู่มั่น เกี่ยวกับเรื่อง พิธีปลุกเสกพระพุทธรูปผมขอยกใจความในหนังสือมาบางส่วนดังนี้……
    มีบันทึกสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ถ่ายทอดเทศนาไว้ยืนยันปฏิปทาของหลวงปู่มั่นทอดสะพานให้ลูกๆ หลานๆ ยังมีอีกมากมายนัก การเรี่ยไรแผ่ๆ ขอๆ ในทางตรงและทางอ้อม และจัดงานขึ้นในวัดเพื่อหารายได้สมทบทุนการก่อสร้างหรือซ่อมแซมเกี่ยวกับตัวเงินๆ ไม่มีในขันธสันดานขององค์หลวงปู่เลย เครื่องลางของขลังไม่มีในปฏิปทา รูปเหรียญขายพระเล็ก พระน้อยพุทธาภิเษกก็ไม่มีในปฏิปทาขององค์ท่านเลย วิชาปลุกเสกแกะหู แกะตา แคะหู แคะตาให้พระพุทธรูป หรือ ทำพิธีบวชให้พระพุทธรูป ก็ไม่มีในสันติวิธีขององค์ท่าน


    องค์ท่านกล่าวว่า “สมมติเป็นพระพุทธรูปแล้วก็เสร็จกัน เราดีอย่างไรจึงจะไปบวชให้องค์ท่าน องค์ท่านบวชก่อนเราแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปปลุกท่านให้ตื่น ท่านตื่นก่อนเรา เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานแล้ว เราดีอย่างไรจึงจะไปแคะหู แคะตาให้องค์ท่าน ตานอก ตาใน หูนอก หูใน ขององค์ท่านดีกว่าเราแล้ว จะภิเษกภินันให้องค์ท่านเป็นอะไรอีก องค์ท่านเป็นพระพุทธเจ้าเต็มภาคภูมิแล้ว จะเอาไสยศาสตร์ไปพอกไปทาองค์ท่านทำไม นั้นแหละเป็นตัวบาป นั้นแหละขุมนรก ขุมมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเต็มภาคภูมิแล้วยังสำคัญว่าเห็นชอบเข้าข้างตัวเอง แต่ไม่เข้าข้างธรรมวินัย
    เพียงเท่านี้ก็ยังไม่รู้จักผิดรู้จักถูกแล้ว ธรรมอันละเอียดลออก็ยังมีขึ้นไปกว่านี้มากฉไนจะรู้ได้ พูดไปมากเป็นภัย แต่มีประโยชน์แก่นักปราชญ์ แต่บาดหูผู้ไม่ชอบ และจะถูกกล่าวตู่ว่าขัดขวางรายได้แห่งวัตถุตัว ง. แต่เมื่อไม่พูดยามมีชีวิตอยู่ก็ไม่รู้จะพูดเวลาไหน เพราะตายไปแล้วพูดไม่ได้ และคนเราเป็นส่วนมากมักจะเข้าใจผิดไป“
    นี่เป็นบทพิสูจน์ที่แน่ชัดว่า พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ท่านก็ยังเคารพพระพุทธรูป แค่หล่อออกมาเป็นพระพุทธรูปก็ถือว่าเป็นสิ่งระลึกถึงพระพุทธองค์โดยสมบูรณ์แล้ว โดยไม่ต้องไปพุทธาภิเษกอะไรอีก และหลวงปู่มั่นยังตำหนิการใช้พระพุทธรูปเพื่อเป็นเครื่องมือหาเงินจากพิธีกรรมต่างๆ เพราะเป็นบาป…. แล้วคนที่ทำลายพระพุทธรูปเล่า จะบาปขนาดไหนน้อ…….
     
  16. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138


    ที่นี่คุนกำนันก็รุ้แล้วสินะคับ ว่าพระพุทธรูปคือดาบสองคม

    ท่าคุนกำนันคิดแบบนั้นจริงๆผมก็ถือว่าเปนเรื่องที่ดีมากดาบคมหน้าเอาใว้ฟันศัตรูมารความโลภ เพราะรำลึกถึงพระองค์ถึงความดีพระองค์ หลักธรรมคำสอน คิดถึงคุณธรรมบาปบุญ ไม่ใช่ ลาภ ปาฏิหาร ความอัศจรรย์ เหมือนคนสมัยนี้ นี่ถือว่าดีมากๆคับ

    แต่คุนกำนันควรรุ้ถึงข้อเสียของพระพุทธรูปด้วยคับ อิกคมนึงของดาบที่คุนกำนันอาจเคยแตะมันแต่ไม่รุ้ตัว


    คนสมัยนี้นับถือพระพุทธรูปด้วยกิเลสคับ แขวนพระคงกระพันไปทำลายชีวิตกันหาดูใด้ตามข่าวคับคึกคะนอง คนไปวัดไหว้พระพุทธรุปผมให้3%เนิกถึง พระพุทธเจ้า พระธรรมคำสอน นอกนั้นไปดูตามวัดใด้คับ หลวงพ่อหวยงวดนี้ขอเป๊ะๆ หลวงพ่อช่วยลุกรวยๆหน่อย หลวงพ่อช่วยให้ผมสมหวังในรักด้วย ไปเสี่ยงเสียมซีกันอิกหวังดวงโชคลาภ พวกคนในวัดเอาพระมาขายกันทำเป็นอาชีพ คนซื้อใส่ส่วนใหญ่หวังปาฏิหารคับ คุนงามดีพระธรรมคำสอน ถุกทำเปน ของคลัง กลายเปนอาชีพคนขายพระกันไปซะแล้ว พระก็รับเงินกันหน้าตาเฉย ทั้งๆที่รุ้ว่าพระพุทธเจ้าท่านเตือนใว้สั่งห้ามเด็จขาดใว้นักหนาพระห้ามแตะของมีค่ามีราคา ก็ไม่ฟังกันแถมทำอะไรไม่ใด้คนในมันปกป้องกันเพื่อผลประโยชน์ สร้างกันเอาใว้กันผีสางอิก แค่เขามาขอส่วนบุญแผ่เมตตาให้ก้อไป สร้างมาขายคนโง่ๆกันหลายเวอร์ชั่น ยังมีอิกเยอะคับ ๆลๆ

    พระเกษมแค่อยากกระตุกใจคนที่หลงในเรื่องพวกนี้ พระพุทธรุปถูกคนเอามาทำบาปแบบนี้สุ้เอามาทำลายเสียดีกว่า คนสมัยก่อนไม่มีพระพุทธรุป ยังตรัสรุ้ใด้มากกว่าคนสมัยนี้มากมาย สมัยนี้ร้อยปีจะมีสักกี่คน แต่ผมก็ว่าท่านใช้วิธีแรงไป ผมก็รับไม่ใด้เหมือนกันตอนแรก

    แต่ท่าคุนกำนันระดมคนช่วยให้คนเข้าใจถึงความหมายที่พระพุทธรูป เพื่อนึกถึงพระธรรม คุณธรรม ละอายต่อบาป แล้วทำแต่บุญ ผมจะขอบคุนมาก แล้วอิกคมที่นึงของดาบจะเอาใว้ฟันกิเลสตัญหาไม่ใช่ฟันตัวเอง
     
  17. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    เจ๋งอะ ผมติดตามคุณมานานอยากบอกว่าคุณอธิบายในสิ่งที่ผมไม่สามารถอธิบายได้
    ขอบคุณ คุณมากครับคุณเป็นอีก 1 ความคิดเห็นแนวทางนี้ที่มีค่า เพราะคุณสามารถอธิบายได้
    โดยกระจ่าง ส่วนผม บางอย่างคิดแบบนี้ แต่เรียบร้องไม่ถูก ขอบคุณมากครับ
     
  18. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ขอบคุนคับ อิกอย่างผมก็ยืมคำอาจารย์ท่านนึงมาใช้เช่นกัน และบวกกับเนื้อหาสมัย ร.3 ของเรา กล่าวให้เข้าใจง่ายๆ พระ เณรตราบใดที่ยังไม่ใช่อรหันก็ยังเปนคนแบบเราๆนี่แหละคับแค่ถือศีล ท่าคุนเคยบวชมาจะรุ้คับว่าผมพุดถึงอะไร โกนหัวบวชคนก็นึกว่าเราเปนพระอรหันแล้วต้องสำรวม คุนก้อจะนั่งเรียบร้อยทำให้ตัวเองมีสง่าดีมีราศี ไม่ใช่คับ นี่คือการหลอกตัวเอง แถมติดในรูป ลาภสักการะด้วย

    และพระเกษมไม่ใด้ทำอะไรให้เสียหายจากความเปนพระเลยคับ แค่ปกป้องพุทธศาสนาแบบขวานผ่าซาก ตรงมาก ไม่อ้อมข้อม ไม่สนสังคม ตรงๆ เกินไปจนสังคมมันรับไม่ใด้คับ และแน่นอนศาสนาพุทธคือศาสนาพุทธไม่เกี่ยวกับสังคม

    ท่าให้พระกระเกษมตัดขาคนเปนบาทยัก พระเกษมจะตัดเลยทีเดียวขาด
    ไม่วางยาสลบ ยาชา ก่อน เหมือนการสอนของท่าน

    คนมันเลยรับไม่ใด้กัน เพราะไม่ใช่พระในอุดมคติของตัวเอง
    พระเกษมท่านก้อพูดอยุ่นะ อยากใด้พระตีหน้าหล่อยิ้มเสียงหวานให้ไปที่อื่นอย่ามาหาเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2013
  19. กสิน9

    กสิน9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +270
    มารย่อมมีสาวกของมาร ไม่แปลก ไม่ต้องเสนอมาก กรรมจะเป็นเครื่องตัดสินเอง จบ
     
  20. peatkungza

    peatkungza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +138
    ใชคับพูดดีมากคับ มีมาร ย่อมมีพวกมาร

    ผมก็เชื่อว่า พระเกษมทำดีต้องใด้ดีคับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...