ปิดการแจก ลูกแก้วสำหรับฝึกกรรมฐาน//ฝึกกสิณ...แจกเรื่อยๆๆครับ

ปิดกระทู้

กสิณ เป็นสมถกรรมฐาน มีทั้งหมด 10 อย่าง ดังนี้
1. ปถวีกสิณ ดินที่พึงกระทำให้เป็นวงกลม นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
2. อาโปกสิณ น้ำที่มีความใสสะอาดปราศจากสี นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
3. เตโชกสิณ เปลวไฟที่กองกูณฑ์ไว้แล้ว นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
4. วาโยกสิณ ลมที่พึงกำหนดเห็นได้ด้วยอาศัยยอดไม้ ปลายไม้ไหว หรือที่พึงกำหนดได้ด้วยอาศัย การพัดมาถูกกายของตน นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
5. นีลกสิณ สีเขียวที่ปรากฏในใบไม้หรือในผ้า เป็นต้น นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
6. ปีตกสิณ สีเหลืองที่ปรากฏในดอกไม้ หรือในผ้าเป็นต้น นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
7. โลหิตกสิณ สีแดงที่ปรากฏในดอกไม้ หรือในผ้าเป็นต้น นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
8. โอทาตกสิณ สีขาวที่ปรากฏในดอกไม้ หรือในผ้าเป็นต้น นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
9. อากาสกสิณ อากาศที่พึงกำหนดได้โดยการตัดช่องฝา หรือผ้าเป็นต้น นั้นแหละชื่อว่า กสิณ
10. อาโลกกสิณ แสงสว่างของดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงไฟ เป็นต้น"

การใช้ลูกแก้วฝึกสมาธิ เป็นการเพ่งสีต่างๆๆตามสีลูกแก้ว และเป็นการฝึกอาโลกสิณ ชึ่งฝึกเพ่งจนให้เกิดแสงสว่าง ทั้งนี้ การฝึกให้ได้ผลคือ การจำรูปร่างและสีของกสิณ (สิ่งที่ฝึก)โดยลืมตามองและจำให้ขึ้นใจ พอจำได้ให้หลับตามองให้เห็นในใจ พอไม่ชัด ก็ลืมตาดู ภาพอื่นมาให้เห็นถือว่าไม่ใช่ ให้มองแต่สิ่งที่จำ เมื่อจำได้จนขึ้นใจให้กำหนดให้ ใหญ๋ เล็ก ตามชอบใจ ขยับไปข้างหน้า ขยับไปฃ้างหลัง ดังใจนึก ที่พิมพ์แนะนำนี้ได้จากการอ่านจากคำสอนของหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ เพื่อแนะนำเป็นเบื้องต้น กรณีที่ท่านจำได้จนชัดเจนแล้วขอแนะนำให้หาพระอาจารย์ และอ่าน/ฟังคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เพื่อความก้าวหน้าในทางปฏิบัติของท่าน [/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][/SIZE][/B][/COLOR]

 

แจกลูกแก้วสำหรับฝึกกรรมฐาน//ฝึกกสิน.....แจกเรื่อยๆๆครับ

ลูกแก้ว แจกตามที่ขอ ใน 1ซอง ใส่ลูกใหญ่ 1 ลูก ลูกเล็ก 3 ลูก อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ

 

การฝึกกสิณ ควรมีครูอาจารย์สอนจึงจะทำได้ครับไม่ควรฝึกเองครับ

 

คำแนะนำสำหรับการฝึกพระกรรมฐานโดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำค่ะ
www.palungjit.org/smati/k40/kasin10.htm

 

ยังเเจกอยู่ไหมครับ

 

อยู่ภาคใต้อยากมีของดีๆไว้ใช้ฝึกสมถกรรมฐานบ้าง ขอ เตโชกสิณ เปลวไฟที่กองกูณฑ์ไว้แล้ว นั้นแหละชื่อว่า กสิณ กลัวระเบิดไม่กล้าไปไปรษณีย์ รบกวนส่งมาให้ด้วยชัก2ชุดเถอะ
กรุณาส่ง:
คุณเจริญ เพราะคุณงามความดี
เลขที่ ๗๑/๗ ถ.ประชาสรรค์ ม.๔
ตำบลคองแห อำเภอหาดใหญ่
จ.สงขลา
90110

 

......................................

 

ปฐวีกสิณ

กสิณนี้ ท่านเรียกว่า ปฐวีกสิณ เพราะมีการเพ่งดินเป็นอารมณ์ ศัพท์ว่า "ปฐวี" แปลว่า
"ดิน" กสิณ แปลว่า "เพ่ง" รวมความแล้วได้ความว่า "เพ่งดิน"


กิจก่อนการเพ่งกสิณ

เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ท่านให้ชำระร่างกายให้สะอาด แล้วนั่งขัดสมาธิที่ตั่ง
สำหรับนั่ง หลับตาพิจารณาโทษของกามคุณ ๕ ประการ ตามนัยที่กล่าวในอสุภกรรมฐาน ต้องการ
ทราบละเอียดโปรดเปิดไปที่ บทว่าด้วยอสุภกรรมฐาน จะทราบละเอียด เมื่อพิจารณาโทษของ
กามคุณจนจิตสงบจากนิวรณ์แล้วให้ลืมตาขึ้นจ้องมองภาพกสิณจดจำให้ดีจนคิดว่าจำได้ก็หลับตาใหม่
กำหนดภาพกสิณไว้ในใจ ภาวนาเป็นเครื่องผูกใจไว้ว่า "ปฐวีกสิณ" เมื่อเห็นว่าภาพเลือนไปก็ลืมตา
ดูใหม่ เมื่อจำได้แล้วก็หลับตาภาวนากำหนดจดจำภาพนั้นต่อไป ทำอย่างนี้บ่อยๆ หลายร้อยหลายพัน
ครั้งเท่าใดไม่จำกัด จนกว่าอารมณ์ของใจจะจดจำภาพกสิณไว้ได้เป็นอย่างดี จะเพ่งมองดูหรือไม่
ก็ตาม ภาพกสิณนั้นก็จะติดตาติดใจ นึกเห็นภาพได้ชัดเจนทุกขณะที่ปรารถนาจะเห็นติดตาติดใจ
ตลอดเวลา อย่างนี้ท่านเรียกว่า "อุคคหนิมิต" แปลว่า นิมิตติดตา อุคคหนิมิตนี้ ท่านว่ายังมีกสิณ
โทษอยู่มาก คือภาพที่เห็นเป็นภาพดินตามที่ทำไว้ และขอบวงกลมของสะดึง ย่อมปรากฏริ้วรอย
ต่าง ๆ เมื่อเข้าถึงอุคคหนิมิตแล้ว ท่านให้เร่งระมัดระวังรักษาอารมณ์สมาธิและนิมิตนั้นไว้จนกว่า
จะได้ปฏิภาคนิมิต ปฏิภาคนิมิตนั้น รูปและสีของกสิณเปลี่ยนจากเดิม คือกสิณทำเป็นวงกลมด้วย
ดินแดงนั้น จะกลายเป็นเสมือนแว่นแก้ว มีสีใสสะอาดผ่องใสคล้ายน้ำที่กลิ้ง อยู่ในใบบัว ฉะนั้น
รูปนั้นบางท่านกล่าวว่าคล้ายดวงจันทร์ที่ปราศจากเมฆหมอกปิดบัง เอากันง่าย ๆ ก็คือ เหมือน
แก้วที่สะอาดนั่นเอง รูปคล้ายแว่นแก้ว จะกำหนดจิตให้เล็กโตสูงต่ำได้ตาม ความประสงค์
อย่างนี้ท่านเรียกปฏิภาคนิมิต เมื่อถึงปฏิภาคนิมิตแล้วท่านให้นักปฏิบัติเก็บตัว อย่ามั่วสุมกับ
นักคุยทั้งหลาย จงรักษาอารมณ์ รักษาใจให้อยู่ในขอบเขตของสมาธิเป็นอันดี อย่า สนใจใน
อารมณ์ของนิวรณ์แม้แต่น้อยหนึ่ง เพราะแม้นิดเดียวของนิวรณ์ อาจทำอารมณ์ สมาธิที่กำลัง
จะเข้าสู่ระดับฌานนี้ให้สลายตัวได้โดยฉับพลัน ขอท่านนักปฏิบัติจงระมัดระวัง อารมณ์รักษา
ปฏิภาคนิมิตไว้ คล้ายกับระมัดระวังบุตรสุดที่รักที่เกิดในวันนั้น

 

องค์ฌานในกสิณทั้ง ๑๐ กอง

ปฐมฌานมีองค์ ๕ คือ วิตก มีอารมณ์จับอยู่ที่ปฏิภาคนิมิต กำหนดจิตจับภาพปฏิภาคนิมิต
นั้นเป็นอารมณ์ วิจาร พิจารณาปฏิภาคนิมิตนั้น คือพิจารณาว่า รูปปฏิภาคนิมิตสวยสดงดงาม คล้าย
แว่นแก้วที่มีคนชำระสิ่งเปรอะเปื้อนหมดไป เหลือไว้แต่ดวงเก่าที่บริสุทธิ์สะอาด ปราศจากธุลีต่างๆ

อาโลกกสิณ

อาโลกกสิณ แปลว่า เพ่งแสงสว่าง ท่านให้หาแสงสว่างที่ลอดมาตามช่องฝาหรือช่อง
หลังคา หรือเจาะเสื่อลำแพน หรือแผ่นหนังให้เป็นช่องเท่า ๑ คืบ ๔ นิ้ว ตามที่กล่าวในปฐวีกสิณ
แล้วภาวนาว่า อาโลกกสิณัง ๆๆ อย่างนี้ จนอุคคหนิมิตปรากฏ อุคคหนิมิตของอาโลกกสิณ
มีรูปเป็นแสงสว่างที่เหมือนรูปเดิมที่เพ่งอยู่ ปฏิภาคนิมิตนั้นปรากฏเป็นแสงสว่างหนาทึบเหมือนกับ
เอาแสงสว่างมากองรวมกันไว้ที่นั้น แล้วต่อไปขอให้นักปฏิบัติจงพยายาม ทำให้เข้าถึงจตุตถฌาน
เพราะข้อความที่จะกล่าวต่อไป ก็เหมือนกับที่กล่าวมาแล้วในปฐวีกสิณ


สำหรับลูกแก้วท่านว่าเป็นอาโลกสิณ การฝึกก็ทำเช่นเดียวกัน
อาโลกกสิณ นิรมิตรูปให้มีรัศมีสว่างไสวได้ ทำที่มืดให้เกิดแสงสว่างได้เป็น
กรรมฐานสร้างทิพยจักษุญาณโดยตรง

 

วิธีอธิษฐานฤทธิ์

วิธีอธิษฐานจิตที่จะให้เกิดผลตามฤทธิ์ที่ต้องการ ท่านให้ทำดังต่อไปนี้ ท่านให้เข้าฌาน ๔
ก่อน แล้วออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานในสิ่งที่ตนต้องการจะให้เป็นอย่างนั้น แล้วกลับเข้าฌาน ๔ อีก
ออกจากฌาน ๔ แล้วอธิษฐานจิตทับลงไปอีกครั้ง สิ่งที่ต้องการจะปรากฏสมความปรารถนา

 

ไฟล์เสียงสำหรับดาวโหลด+อ่าน
http://www.palungjit.org/smati/k40/kasin10.htm
อนุโมทนากับทุกท่านครับ

 

สำหรับท่านที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ส่งชองมาได้เลยครับ แจกให้เรื่อยๆๆครับ

 

ขอรับ 1 ชุดครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

นายอนันต์ ประเสริฐสุขสม (งานพัสดุ)
เทศบาลตำบลช่องแค
เลขที่ 43 ถนนเฉลิมพระเกียรติ
ตำบลช่องแค อำเภอตาคลี
จังหวัดนครสวรรค์ 60210

 

จัดส่งวันนี้
คุณเจริญ เพราะคุณงามความดี

คุณอนันต์ ประเสริฐสุขสม

คุณสิริลักษณ์ คงสุรินทร์

ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ

 

อีกวิธึในการฝึกคือ ใจต้องสบายนะครับ ไม่ต้องหลับตาก็ได้ แค่คิดถึงลูกแก้วนึกถึงสี ต้องไม่บังคับใจนะครับ เหมือนเราคิดถึงสิ่งที่เรารัก แค่คิดก็เห็นอ่ะครับ ถ้าไม่เห็นก็มองดูอาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วอธิษฐาน..ตามต้องการ...ที่เป็นบุญเป็นกุศลนะครับ สักพักก็หลับตาอธิษฐาน ใจนึกถึงลูกแก้ว ด้วยนะครับ ใจต้องเบาสบายนะคับจึงได้ผลโดยเฉพาะตอนที่อธิษฐาน
มีเคล็ดอีกอย่างหนึ่ง เวลานอนหรือนั่งเล่น มีเวลาว่างสัก 1 นาที ให้นึกถึงลูกแก้ว
ไม่ต้องหลับตาก็ได้ครับ หรือหลับตาก็ได้ เป็นการฝึกจำในจิต ถ้าทำบ่อยๆๆ ความจำจะดีขึ้น สติ และสมาธิจะดีขึ้น สำหรับนักเรียน จะสมองดีและเรียนเก่งขึ้น อีกอย่างนี้สำคัญมากลืมไม่ได้นะครับ อาหารที่รับประทานต้องใช้เกลือเสริมไอโอดีนปรุงนะครับ ช่วยในการทำงานของสมอง และการเจริญเติบโตของร่างกายครับ
และป้องกันโรคอันเกิดจากการขาดสารไอโอดีน เช่นโรคเอ๋อ โรคคอหอยพอก นะครับ

 

ยูทูปกสิณ 10 (1/18) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
([ame=http://www.youtube.com/watch?v=9NMg3FJ05Eg]กสิณ 10 (1/18) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ - YouTube[/ame])
ขออนุโมทนากับทุกท่านครับ:boo:

 

ขอรับ 1 ชุดนะครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
เทียนชัย องค์ศรีตระกูล
186 ถ.พระสุเมรุ ต.ตลาดยอด
อ.พระนคร บางลำพู กทม10200

 

โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 4----> หน้า 17
๑๘๓) ทิพจักขุญาณ มีวิธีฝึกได้หลายแบบตามนัย วิสุทธิมรรค ท่านแนะไว้
๓ แบบ แต่ก็ทำอย่างเดียวกัน คือ เพ่งไฟ เพ่งสีขาว เพ่งแสงสว่าง
ที่เรียกว่า เตโชกสิณ คือ เพ่งไฟ โอทาตกสิณ เพ่งสีขาว และเพ่ง
แสงสว่าง ที่เรียกว่า อาโลกกสิณ เมื่อ เพ่งกสิณ ๓ อย่าง นี้ แม้เพียง
อย่างใดอย่างหนึ่งจนปรากฏรูปกสิณนั้น ๆ ติดใจ คือนึกเมื่อไรเห็นภาพ
คือจำภาพไม่ใช่เห็นทางตา เป็นความรู้สึกทางใจ ต่อไปภาพที่ปรากฏทางใจ
นั้นเปลี่ยนจากสีเดิม สวยสดงดงามกว่าเก่า แพรวพราวคล้ายเพชรที่วางไว้
กลางแสงแดดท่านให้ฝึกความรู้ คืออธิษฐาน ขอให้ภาพที่เห็นหายไป ขอให้
ภาพที่ต้องการเห็นปรากฏแทน
สำหรับลูกแก้ว จัดได้ว่าเป็นอาโลกสิณ มีในคำสอนเรื่องสมาบัติ 8

 

เข้ามาชื่นชม และอนุโมทนบุญด้วยจ้า

 

เพิ่มเติมภาพสำหรับฝึกกสิณแสงสว่างครับ