เพื่อการกุศล *★.• ใกล้หมดแล้ว !!! พญาลิ้นทอง ยอดแห่งมนต์เสน่ห์เขมรโบราณ สายวิชา "กรูเปรี๊ยะออง" ♡* อ.โอม •.★*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Amata_club, 4 สิงหาคม 2010.

  1. นายธนา

    นายธนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2009
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +1,938
    สงสัยต้องทุบกระปุกซะแล้ว
     
  2. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ตอนที่เดินเข้าไปในวัด จนไปถึงที่ๆท่านจะทำพิธี และระหว่างเตรียมข้าวของเพื่อทำพิธี...ก็จะมีลมพัดผ่านเอื่อยๆมาเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงจั๊กจั่นเรไร ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของเวลาค่ำคืนของวัดนี้ครับ...

    เเต่เมื่อท่าน อ.แทน เริ่งจุดธูปเทียนบอกกล่าวสถานที่ครูบาอาจารย์เท่านั้นแหละครับ..จู่ๆก็มีลมพัดมาวูบใหญ่หนึ่ง มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วหลังจากนั้น ทั้งลม ทั้งเสียงในป่าวัด เรียกได้ว่าเงียบมาก เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งไปหมด ตลอดระยะเวลาร่วมชั่วโมงเศษๆ...

    จนกระทั่งท่าน ถอนออกจากสมาธิ และบอกกล่าวฝากหม้อสีผึ้งไว้กับเจ้าธาตุ เจ้าป่าช้า และก็พากันกลับ ตอนนี้แหละครับ ทุกอย่างในป่ากลับมาเป็นปกติ มีลมพัดเอื่อยๆ ปนกับเสียงจั๊กจั่นเรไร...ครับ...
     
  3. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    พอใกล้รุ่งท่านก็ปลุกผมให้ไปเอาสีผึ้งกันครับ เกือบๆตีห้าได้ มืดตึ๊บ...วังเวงกว่าตอนดึกที่มาหุงอีกครับ...

    ดีแต่ว่าจำที่ท่านเคยบอกเคล็ดลับเอาไว้ครับว่า...เวลาไปเอาหม้อสีผึ้งกลับมา ต้องบอกกล่าวขอบคุณเจ้าธาตุ เจ้าป่าช้าด้วยที่มาช่วยหุง ช่วยหาของดีมาใส่ในหม้อสีผึ้งให้ และต้องทำพิธีแบ่งสีผึ้งให้กับพวกเค้าเพื่อตอบแทน และเป็นการแบ่งของดีกันใช้ คนละครึ่ง แล้วจึงค่อยยกหม้อสีผึ้งนั้นกลับมา

    และที่สำคัญ...ระหว่างที่เดินกลับมา ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรด้านหลัง ก็ห้ามหันหลังกลับไปดูเด็ดขาด...

    วันนั้นปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดครับ...
     
  4. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    พอได้สีผึ้งมา ท่านก็เสกให้อย่างดีครับ...ก่อนท่านมอบให้มา ท่านว่า รุ่นนี้พลังดีมาก ให้เอาไปทำขุนแผนได้เลยเป็นมหาเสน่ห์ มหานิยม เสร็จแล้วค่อยเอาขุนแผนมาเสกอีกรอบ...

    สีผึ้งรุ่นนี้ผมเอามาผสมทำขุนแผนรุ่น3 ให้ท่าน ได้252องค์ จนมวลสารอื่นหมด ก็เหลือแต่สีผึ้งรุ่นนี้เท่าที่เห็นนี่แหละครับ...ผมก็เลยเก็บเข้ากรุมาตลอดนับแต่นั้นมา...
     
  5. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ใจร้ายยยยยย...............pig_cryy
     
  6. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    [​IMG]


    ส่วนที่เห็นนี้ เป็นขุนแผน รุ่น2 เนื้อสีผึ้งสามป่าช้า ของ ท่าน อ.แทน ปี40 ครับ...
    เป็นเนื้อสีผึ้งผสมว่าน (แก่สีผึ้ง) เนื้อจะนิ่มมาก ถ้าเอาไปเลี่ยมพลาสติกละก็เสียรูปแน่นอนครับ

    ลักษณะด้านหน้า เป็นรูปขุนแผนโอบนางทั้งสองข้าง นั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ใต้ฐานเป็นรูปแม่เป๋อ (แต่ถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริง เค้าจะเรียกว่า อีเป๋อ ครับ)

    ด้านหลัง เป็นรูปแม่เป๋อนั่งบนแท่น ในซุ้มลายกนก ที่ใต้แท่นฝังตะกรุดทองแดง 1 ดอก เป็นตะกรุดหัวใจมนุษย์ (มหาเสน่ห์เหนือใจคนทั้งหลาย)...
     
  7. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ขุนแผนรุ่นนี้ผมเป็นคนขออนุญาตท่าน อ.แทน สร้างเองครับ... ต้องบอกว่าสร้างขึ้นเพราะความอยากของตัวเองจริงๆครับ...เพราะสมัยนั้น เรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี่ดังมาก เอาเป็นว่า ถ้าอาจารย์ท่านใดสร้างออกมาเป็นขายได้ทั้งนั้นครับ ส่วนจะใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผลนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    ตัวผมเองก็สนใจเรื่องพ่องั่ง แม่เป๋อ นี้พอสมควร เพราะเคยรู้ เคยได้ยินเรื่องความขลัง ความพิศดารของเครื่องรางประเภทนี้มามากพอควร พอรู้ว่าสำนักไหนสร้างออกมาเป็นต้องตามไปบูชามาหมด แต่สุดท้ายก็เงียบ

    แต่พอมีโอกาสได้คุยกับท่าน อ.แทน ก็เลยรู้ว่าท่าน ก็ทำก็เสกได้เหมือนกัน ก็เลยตัดสินใจว่า ทำเองแล้วให้ท่านเสกให้ดีกว่า ชัวร์ทั้งมวลสารเพราะหามาเอง ชัวร์ทั้งผู้เสก เพราะเป็นครูบาอาจารย์ของเราเอง

    นี่แหละครับก็เลยเป็นที่มาของขุนแผนรุ่นนี้...
     
  8. TEEHOUSE

    TEEHOUSE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    779
    ค่าพลัง:
    +2,570
    เขาจะทุบกระปุกบูชาของ คงไม่ใจร้ายมั๊ง
    ผมก็ว่าจะทุบด้วย^^
     
  9. tuangthunya

    tuangthunya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,483
    ค่าพลัง:
    +4,666
    อ้างอิง:ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Amata_club
    อาบน้ำ นุ่งผ้า ปิดทอง น่าร๊าก จุงเบย

    มีแป้งร่ำอบหอมด้วยดินสอพองสด มีกลิ่นหอมสดชื่น แบบโบราณ และ

    น้ำอบไทย อบด้วยกำยานตำหรับโบราณ มีกลิ่นหอมเย็น สดชื่น

    เหมาะกับเทศกาล....พอดี
    (y)yimm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ตอนนั้น...ใจก็ชอบขุนแผนอยู่ด้วยเหมือนกัน ก็เลย ทำออกมาเป็นรูปขุนแผนโอบนาง แล้วใส่แม่เป๋อเข้าไปด้วยทั้งด้านหน้าด้านหลัง เมื่อทำบล็อกเสร็จ (ทำเอง) ทีนี้ก็เริ่มออกหามวลสารครับ...โดยมุ่งเน้นที่ว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมเป็นหลัก เช่น ว่านดอกทองทั้ง 16 ชนิด อันนี้ขาดไม่ได้เลย ว่านสาวหลง จูงนาง ช้างผสมโขลง มหาอุดม มหาจังงัง ห้าร้อยนาง สาริกาลิ้นทอง โจรกลับใจ ขุนแผนสะกดทัพ เครือเขาหลงทั้งสองชนิด สาวหลงที่เป็นแบบเส้นทั้งสองชนิด พญาว่าน มหาจักรพรรดิ์ ไพลปลุกเสก ขมิ้นขาวเสน่ห์ เณรแก้ว อ้ายงัด อีเป๋อ และอีกหลายสิบชนิด... ส่วนที่เป็นกาฝาก ก็มี กาฝากดอกรัก กาฝากมะยม กาฝากขนุน กาฝากมะรุม กาฝากต้นคูณ กาฝากต้นประดู่ กาฝากต้าสัก กาฝากมะขาม กาฝากพุทรา

    ประเถทของกายสิทธิ์ ก็มี ผงเหล็กทรหด ที่งอกขึ้นจากดิน ดินจอมปลวกเจ็ดจอม ผงรังต่อ ดินขุยอุดรูปู

    และที่สำคัญจนเป็นที่มาของชื่อรุ่นก็คือ..สีผึ้ง.....ครับ....
     
  11. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    สาเหตุที่สร้างเป็นเนื้อสีผึ้ง ก็เพราะว่า ท่าน อ.แทน ท่านเก่ง ท่านดังเรื่องสีผึ้งครับ เอาเป็นว่า ถ้าเป็นเรื่องของเสน่ห์เมตตามหานิยม ของท่านแล้วล่ะก็ ต้องยกให้สีผึ้งนี่แหละครับ ท่านหุงท่านทำออกมาเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เอาแค่ว่ามีคนรู้ว่าท่านหุงสีผึ้งเท่านั้นแหละครับ แป๊บเดียวหมด เพราะงั้น เวลาที่ผมไปเยี่ยมไปหาท่าน ผมก็จะซื้อขี้ผึ้งแท้ไปให้ท่านอยู่บ่อยๆ และก็มีโอกาสได้ไปหุงสีผึ้งกับท่านบ่อยเหมือนกัน และถ้าไปตอนช่วงที่ท่านปลุกเสกเสร็จแล้ว ท่านก็จะแบ่งสีผึ้งให้มาแทบทุกครั้ง มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ภาชนะที่หามาใส่ได้ แต่ส่วนใหญ่ท่านก็จะให้มาเป็นขวดโหลโอวัลตินเลยทีเดียว...

    พอตอนที่คิดจะทำขุนแผน รุ่น2 นี้ก็เลยตั้งใจว่า เมื่อท่านเก่งเรื่องสีผึ้ง ก็ต้องเอาสีผึ้งท่านผสมในขุนแผนด้วย ผมจึงคัดเอาสีผึ้งสามรุ่นแรกที่ผมได้มาจากท่านมาผสมในขุนแผนรุ่นนี้

    ถึงแม้สีผึ้งทั้งสามรุ่นนี้จะไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน อ.แทน แต่ก็เป็นรุ่นแรกที่ผมได้จากท่าน โดยที่ท่านเป็นผู้ให้เองโดยไม่ได้ขอ และขอกระซิบดังๆครับว่า สีผึ้งแต่ละรุ่นที่ท่านให้มานั้น ประสบการณ์เพียบ ทุกด้านครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2013
  12. misu

    misu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +3,172
    น้าน..........มาแล้วครับเพิงกลับจากทำงาน....จะมาสอยกรุ.คุณวิปัสสนู555555555+
     
  13. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    สีผึ้งสามรุ่นที่นำมาผสมทำขุนแผน รุ่น2 นี้ เป็นสามรุ่นแรกๆที่ได้จากท่าน อ.แทน (แต่ไม่ใช่รุ่นแรกของท่าน)

    อย่างสีผึ้งอันแรกที่ได้จากท่านเลยก็เมื่อปี38 ตอนนั้นบวชเณร(โข่ง)ไปกับท่าน ท่านพาไปเที่ยวที่อำเภอเซกา จังหวัดหนองคาย ไปอยู่วัดของลูกศิษย์ท่าน อ้อลืมบอก ตอนนั้นท่านยังบวชเป็นพระอยู่ครับ จริงๆแล้วที่นี่เป็นแค่ที่พักสงค์ มีแค่ศาลาหลังเดียว ทางเจ้าอาวาสก็เลยมานิมนต์ท่าน อ.แทนไปอยู่เพื่อจะได้ช่วยสร้างวัด บริเวณที่พักสงค์นี้ก็เป็นป่าช้าเก่า วันที่ผมไปถึง เค้าก็เพิ่งเผาศพกำนันไปหมาดๆ พอตกกลางคืนล่ะแหม พี่หมาเค้าพากันสามัคคีหอนกันจังเลย

    อยู่ไปได้ประมาณอาทิตย์หนึ่ง ทางเจ้าอาวาส ก็ขอให้ท่าน อ.แทนหุงสีผึ้งให้ โดยทางเจ้าอาวาส ได้เตรียมของต่างๆไว้พร้อมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขี้ผึ้ง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันจันทร์ และว่านทางมหาเสน่ห์มหานิยมต่างๆ เพราะเจ้าอาวาสท่านนี้ก็เป็นหมอสมุนไพรเหมือนกัน เลยรู้เรื่องว่านยาดีทีเดียว

    เท่าที่ผมจำได้น่าจะมี ว่านดอกทอง ว่านสาริกาลิ้นทอง ต้นรักซ้อนมีทั้งกิ่ง ก้าน ใบ และกาฝากอีกหลายชนิด

    ท่าน อ.แทนก็เลยพาไปหุงในป่าช้า ตรงที่เขาเพิ่งเผาศพกำนันนั่นแหละครับ ท่านใช้กะลามะพร้าวที่ใช้ล้างหน้าศพมาทำเป็นก้อนเส้า ใช้เศษถ่าน(สามก้อน)ที่เหลือจากการเผาศพมาเป็นเชื้อไฟ ใช้เทียนสามเล่มในการก่อไฟหุงสีผึ้ง
     
  14. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    พอทุกอย่างพร้อม เที่ยงคืนเป๊ง..ท่านก็ทำพิธีหุงสีผึ้ง วันนั้นไปกันหกคน มีพระสอง เณรสอง ผ้าขาวหนึ่ง และโยมหนึ่ง ตอนที่ยังไม่หุง จั๊กจั่นเรไรก็ร้องกันระงมไปหมด แต่พอท่านจุดธูปเทียนบอกกล่าวครูบาอาจารย์เท่าแหละครับ เงียบทั้งป่า แต่อันนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่อีตอนที่ท่านบอบกับเจ้าป่าช้า และกำนันที่เพิ่งเผาไปให้มาช่วยหุงนี่สิครับ เล่นเอาพี่หมาหอนกันจ้าละหวั่นเลย หอนแบบล้อมป่า หมาเป็นสิบๆตัว ไม่รู้ไปนัดกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พากันมายืนล้อมรอบนอกเขตป่า แล้วก็พากันตั้งหน้าตั้งตาหอนกันร่วมชั่วโมงที่หุงสีผึ้ง

    พอท่านบอกกล่าวเรียกเจ้าป่าช้ากับกำนันเสร็จปั๊บ ท่านก็จุดเทียนสามเล่มที่จะใช้เป็นเทียนหุงแล้วนำไปวางเป็นสามมุมโดยให้ปลายเทียนจิ้มเข้าหากัน

    ตอนนั้นทุกคนก็ตั้งใจดูท่านแหละครับ เพราะไม่มีใครคิดจะออกไปไหน เกรงใจพี่หมาที่เค้าหอนอยู่ พอท่านเอาปลายเทียนตั้งจิ้มรวมกัน ที่เปลวไฟก็ดูใหญ่ขึ้นนิดหน่อย ในใจผมยังคิดเลยว่า ไฟแค่นี้มันจะหุงสีผึ้งได้ยังไง เพราะที่ใช้ ก็เป็นเทียนเล่มเล็กขนาดความยาวเท่านิ้วก้อยเอง


    ซักพักเหมือนท่านรู้ว่าผมคิดอะไอ ท่าน อ.แทน ท่านก็พูดขึ้นมาว่า "ไหน..ดูสิว่าเก่งแค่ไหน.." แล้วท่านก็ชี้นิ้วไปที่เปลวไฟ
    ตะลึงครับ...อยู่ๆเปลวไฟที่ดูไม่ใหญ่ ไม่สูงมาก ก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งปิ๊ดขึ้นมาเหมือนเปลวไฟจากหัวเครื่องเชื่อมแก๊ส เปลวไฟสีออกน้ำเงินพุ่งสูงขึ้นมาเกือบสอกได้ ตอนนี้ ทุกคนตะลึง เงียบกันหมด แล้ว ท่าน อ.แทน ก็พูดทำลายความเงียบขึ้นว่า "เออๆ...มันเก่งเว้ย..เข้าท่าๆ..ไปช่วยหาของดีมาใส่ให้หน่อยเด้อ.." พอพูดจบเปลวไฟที่พุ่งขึ้นมาสูงๆนั้นก็ลดลงไปเป็นเปลวไฟปกติเหมือนเดิม และก็แปลกอีกอย่าง ก็คือ เจ้าเปลวไปน้อยๆที่เห็นนี่ กลับหุงสีผึ้งได้จริงๆ...

    หลังจากหุงสีผึ้งเสร็จท่านก็นำมาปลุกเสกต่ออีก3วันแล้วจึงเอาให้เจ้าอาวาสวัดนั้นไป ก่อนให้ท่านก็เรียกให้ผมไปตักแบ่งสีผึ้งนั้นไว้ และบอกกับผมว่า "เก็บไว้ดีๆนะ..อย่าไปใช้มักง่าย..ทางที่ดีแค่ใส่ตลับไว้ แล้วอธิษฐานใช้เอาก็พอ..ไม่ต้องไปเปิดใช้.."

    แม้สมัยนั้น(ปี38)ผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องมหาเสน่ห์ซักเท่าไหร่ แต่ก็ทำตามที่ท่านบอกก็คือ แบ่งเอาสีผึ้งรุ่นนี้มาใส่กรอบแสตนเลสห้อยคอติดตัวตลอดครับ รุ่นนี้ดีมาก ขนาดตอนนั้นผมยังไม่ค่อยสนใจเรื่องทางเสน่ห์ แต่ว่าตั้งแต่ที่ห้อยสีผึ้งรุ่นนี้ มีสาวน้อยสาวใหญ่เข้ามาใกล้เยอะแยะไปหมด อาศัยว่าตอนนั้นมุ่งแต่จะปฏิบัติอย่างเดียวเลยรอดมาได้ ไม่งั้นป่านนี้คงไม่ได้มาทางนี้ซะแล้วล่ะมั๊งครับ...

    อันนี้แค่เฉพาะสีผึ้งหม้อแรกที่ผสมในขุนแผนรุ่นนี้นะครับ..ยังเหลืออีกสองหม้อเด็ดๆเหมือนกันครับ...
     
  15. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    มาถึงสีผึ้งหม้อ(รุ่น)ที่สองที่ท่าน อ.แทนให้ผมมาครับ...ท่านให้ผมมาตอนปี39 ช่วงนั้นผมเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพแล้ว แต่ถ้ามีเวลาว่าง ผมก็จะไปอยู่ที่วัดโพธิ์ศรีธาตุนีแหละครับ ไปบวชพราหมณ์บ้าง บวชเถรบ้าง(โกนหัวนุ่งขาว) หรือบวชเณร(โข่ง)บ้าง เรียกว่าเดือนสองเดือนไปทีก็ได้ บางทีก็อยู่5วันบ้าง 7วันบ้าง 10วันบ้าง แล้วแต่โอกาส

    ครั้งนี้ผมก็ไปอีกกะว่าไปอยู่ซักสิบวัน ถ้าโชคดีได้ไปเที่ยวกับท่าน อ.แทนก็ยิ่งดี(ได้ประสบการณ์ดีๆแปลกๆเยอะ) พอไปถึงก็ไม่ทันท่านซะแล้ว เพราะมีลูกศิษย์จากมุกดาหารเหมารถมารับท่านไปก่อนหน้าที่ผมจะไปหถึงแค่วันเดียว(เสียดายมากๆ)

    แต่ก่อนไป ท่าน ก็ได้ฝากสีผึ้งไว้กับหลวงตาสาร และกำชับไว้ว่า "ถ้าโอมาวัด..ก็ให้เอาสีผึ้งนี้ให้โอด้วยเด้อ.." พอผมไปถึงหลวงตาสารก็เรียกผมให้ไปเอาสีผึ้งนี้เลย พอผมได้มา ผมก็ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอด

    คืนนั้นผมนอนดึกครับ ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย กว่าจะนอนก็เกือบตีสามแล้ว ต้องบอกก่อนว่า ที่วัดนี้ ท่านให้อยู่แค่กุฏิละคน เป็นกุฏิหลังเล็กๆ พอดีอยู่ได้คนเดียว แต่ละกุฏิก็อยู่ห่างกันประมาณ5เมตร ตอนนั้นก่อนนอน ผมก็นึกได้ว่าได้สีผึ้งมา ก็เลยเอาออกมาแกะดู ตอนที่ได้มานั้น ท่านห่อสีผึ้งใส่กับถุงพลาสติดมาให้ พอผมแกะออกดู ก็ได้กลิ่นหอมแบบเย็นๆ ผมยังนึกในใจเลยว่าสีผึ้งของท่าน อ.แทน รุ่นนี้หอมดี เสร็จแล้วก็ห่อถุงไว้เหมือนเดิม แล้วเอาสีผึ้งไปวางไว้ที่หัวนอน เผอิญอีตอนที่แกะถุงดูสีผึ้งก็เลยติดที่นิ้วมืออยู่นิดหน่อย ก็เลยเอามาทาคิ้ว เสยหัวไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้คิด ไม่ได้อธิษฐานอะไรเลย แล้วก็นอน...
     
  16. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    พอล้มตัวลงนอนได้ซักพักหนึ่ง ในความรู้สึกตอนนั้น เหมือนกับเห็นทะลุออกไปข้างนอกกุฏิ มองเห็นผู้หญิงสองคน ภาพที่เห็นชัดเจนเหมือนจริง เป็นผู้หญิงน่าจะอายุประมาณ30กว่าๆหรือประมาณ40ปีเห็นจะได้ หน้าตาดีออกจะท้วมนิดๆ ทั้งสองคนไม่ใส่เสื้อผ้า ท่อนบนเปลือย ท่อนล่างใส่กางเกงชั้นใน กำลังเดินยิ้ม มุ่งหน้ามาทางที่ผมกำลังนอนอยู่ ตอนนั้นใจก็ไม่ได้คิดอะไร พอเห็นปั๊บ ก็กะว่าจะเบนสายตากลับมา แต่ที่ไหนได้สาวเจ้าคนหนึ่งในนั้น กลับมายืนคร่อมหัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนั้นผมก็ตกใจเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าหล่อนก็นั่งแมะลงมาตรงหน้าผมเลย ความรู้สึกที่สัมผัสได้เหมือนจริงมากๆ จนผมเกือบจะเคลิ้มไปกับความรู้สึกนั้นเลยที่เดียวฺ...

    แต่ชั่วแว๊บหนึ่ง ใจมันก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า "เอ...นี่เรามาบวชพราหมณ์นี่หว่า นอนก็นอนอยู่ในกุฏิ แล้วผู้หญิงเข้ามาในกุฏิเราได้ไง.." เท่านั้นแหละครับ..รู้ได้ทันทีว่าโดนดีเข้าแล้ว จะพยายามค่อยๆขยับตัวหนีก็ไม่ได้ เจ้าหล่อนก็นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้นแหละ ตอนนั้น ผมคิดว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ไม่เข้าท่าแน่ เพราะตั้งแต่เริ่มรู้ตัว ก็ชักจะเริ่มหายใจไม่ออกแล้ว... พอเริ่มตั้งสติได้ ก็กำหนดจิตให้เป็นสมาธิแบบที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนมา แล้วก็ตั้งนะโม ยังไม่ทันครบสามจบเลยครับ เจ้าหล่อนก็หายแว๊บไปไหนก็ไม่รู้ พอรู้สึกว่าตัวเบาขึ้นขยับตัวได้ สัมผัสที่หน้าก็หายไปแล้ว ก็เลยลืมตาขึ้น แล้วก็ลุกหยิบไฟฉายส่องดูที่นาฬิกา ดูเวลา ตีสี่พอดี ความรู้สึกตอนนั้น บอกตรงๆครับว่าเคือง เพิ่งนอนไปได้ชั่วโมงเดียว ก็ต้องดืนมากลางคันซะอีก แล้วถ้านอนต่อกว่าจะหลับก็น่าจะซักพักหนึ่ง เดี๋ยวก็ต้องตื่นขึ้นมาอีกตอนตี่สี่ครึ่งเพื่อไปทำความสะอาดศาลา ตาก็สว่างซะแล้ว เลยตัดสินใจไม่นอนต่อ ก็เลยจุดเทียนนั่งสมาธิต่อจนถึงเวลาทำความสะอาดศาลา..
     
  17. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ผ่านไปสองสามวัน ท่าน อ.แทนก็กลับมาจามุกดาหาร ก็เลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ท่านฟัง ท่านนิ่งฟังผมเล่าจนจบ แล้วก็บอกว่า ผู้หญิงสองคนที่ผมเห็นนั้นเป็นผีแม่ม่าย อยู่ในวัดนี้แหละ ผมได้ยินทีแรกผมก็อึ้งๆ เท่านั้นยังไม่พอ ท่านยังบอกอีกว่า แปลก ปกติพวกเค้าจะวนเวียนผ่านไปมาอยู่แต่แถวๆกุฏิ6 และไม่เคยออกมานอกเส้นทางอย่างนี้ แต่นี่ผมนอนอยู่กุฏิ4 ซึ่งอยู่ห่างกันเกือบ50เมตร แถมมาแผลงฤทธิ์นอกเส้นทางอีกต่างหาก ท่านก็เลยถามผมว่าทำอะไรรึปล่าว ผมก็เลยเล่าว่าผมเอาสีผึ้งทาคิ้วเสยผม เท่านั้นแหละครับ ท่านก็ว่า"มิน่า มันถึงตั้งใจมาหาขนาดนั้น..." สรุป สีผึ้งรุ่นนี้ผมก็เก็บไว้อย่างดีครับและนำมาผสมในขุนแผนองค์นี้ด้วย นี่ขนาดไม่ใช่คนยังหลงเลย นับประสาอะไรกับคนอย่างเราๆ...
     
  18. นายธนา

    นายธนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2009
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +1,938
    ขอสอยด้วยคนครับ ไม่รู้ว่าใหญ่ขนาดนี้จะพอไหม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • สอย.jpg
      สอย.jpg
      ขนาดไฟล์:
      141.2 KB
      เปิดดู:
      59
  19. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ส่วนสีผึ้งหม้อ (รุ่น) ที่สาม ที่ได้จากท่าน อ.แทน ตอนนั้นว่างช่วงปลายปี39 ก็ได้กลับไปบวชเณรโข่งกับท่าน อ.แทน อีกครั้ง ตอนนั้น ท่าน ยังไม่ได้สึก...ท่านเพิ่งกลับมาจากหนองคาย...

    วันนั้นพอดีลูกหลายของท่านไม่สบาย ก็เลยนิมนต์ท่านไปสวดและทำพิธีให้ที่บ้าน อยู่ที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ห่างจากวัดไปสองกิโล ท่านก็เลยชวนผมไปด้วย ท่านว่าไปช่วยกันสวด...

    เดินกันไปสองคน(รูป) ไปถึงก่อนเวลา พอสมควร ระหว่างที่รอญาติโยมอยู่ ก็นั่งคุยนั่นคุยนี่กันไปเรื่อยครับ แล้วอยู่ๆท่ายก็ล้วงเข้าไปในย่าม แล้วก็หยิบกระปุกสีผึ้งของท่านออกมา แล้วท่านก้ถามว่า เอามั๊ย...ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ...เอาครับ...

    ท่านก็เลยให้หาอะไรมาใส่เดี๋ยวท่านจะแบ่งให้ ผมมองซ้าย แลขวา หาอะไรไม่เจอ ใกล้ตาที่สุดตอนนั้นก็เป็นฝาเอ็ม150 นี่แหละครับ

    เลยเก็มมาสองฝาให้ท่านตักใส่ให้ แล้วก็เอาอีกฝามาสวดปิดไว้ เป็นอันว่า ได้สีผึ้ง พร้อมตลับชนิดพิเศษมาแบบงงๆครับ...

    สีผึ้งรุ่นนี้ ผมได้มาก็นำมาแบ่งพกติดตัว...ดีของท่านจริงๆครับ...:cool:
     
  20. วิปัสสนู

    วิปัสสนู เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    8,693
    ค่าพลัง:
    +16,951
    ขุนแผนรุ่นนี้...ส่วนใหญ่จะไปอยู่แถวๆมุกดาหาร สกลนคร นครพนมซะเป็นส่วนใหญ่ครับ เคยไปแถวๆนั้นกับท่าน อ.แทนแล้วได้มีโอกาสได้แกล้งๆถามคนที่มีอยู่กับคอครับ เค้าว่าเรื่องเสน่ห์เมตตาเยี่ยมเชียวครับ เป็นที่ถูกอกถูกใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แถบถิ่นนั้นเลยทีเดียวครับ ส่วนของผม...พอได้รับขุนแผนรุ่นนี้มาปั๊บใจก็แอบคิดล่ะครับว่า ต้องสุดๆแน่ๆครับ กะว่าจะเอาไว้ออกศึกทีเดียวเชียว แต่ก็ต้องชงักครับ...เมื่อท่านบอกว่า ไม่ต้องใช้ดอก แค่นี้ก็ดีแล้ว เดี๋ยวมันจะอยู่ไม่สุข เท่านั้นแหละครับ รุ่นนี้ผมก็เลยต้องอัญเชิญขึ้นหิ้ง ขนาดจะแจกใครยังต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวเค้าเอาไปใช้ในทางไม่เหมาะไม่ควรครับ แต่รับรองว่า รุ่นนี้ไม่ธรรมดา
     

แชร์หน้านี้

Loading...