เมื่อพระสงฆ์มาทำนายดวงชะตา

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย ป้าเม้า, 21 มีนาคม 2013.

  1. ป้าเม้า

    ป้าเม้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +166
    ทราบมาว่าเจ้าอาวาสวัดหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ดูดวงชะตาได้
    เลยแวะไป

    ท่านทำนายว่าดวงชะตาจะเลวร้ายทุกด้าน
    ต้องไปสวดมนต์อิติปิโส 15 จบ ที่วัดอรุณฯกับวัดราชาธิวาส พร้อมดอกไม้ธูปเทียนและเงิน ตามวันและเวลาเฉพาะที่กำหนด

    แต่ตอนเริ่มต้น ท่านบอกว่าเราเป็นคนกำพร้า
    ซึ่งในความเป็นจริงทั้งพ่อทั้งแม่ก็ยังมีชีวิตอยู่ ชรามากแล้วด้วย

    ก่อนกลับเราลองถามว่า จะถวายปัจจัย จะให้ใส่กล่องบริจาคในวิหารดีมั้ย
    ท่านบอกว่าให้ใส่ซองแล้วถวายท่าน ท่านจะสวดขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรให้
     
  2. namitta

    namitta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,061
    ค่าพลัง:
    +3,517
    ถ้าท่านทำแบบนั้นจริง ก็ไม่ควร
    ผิดธรรม ขออโหสิกรรมแทนกันนี่นะฤา
    ผิดวินัย. ใส่ซองเท่ากับรับเงินมาเพื่อดูดวงเลี้ยงชีพแล้ว
    ทำนายเบื้องต้นผิดพลาด ก็แสดงว่าไม่ตรงครับ
     
  3. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ตรงที่ผมเน้นนี่ มันทะแม้น ถ้าคุณใส่ปัจจัย หรือใส่กล่องบริจาค คุณก็จะได้บุญมาก โดยเฉพาะ กล่องบริจาควิหาร นี่บุญมากจริงๆ (ไม่แน่ใจว่ามากกว่าสังฆทานรึเปล่า) แต่ท่านกับบอกให้ถวายซองแล้วถวายท่านคนเดียว (อันนี้เลยถวายเจาะจง ได้บุญน้อยน่อย ยกเว้นท่านจะเป็นตัวแทน ของสงฆ์ รับสังฆทาน) แต่ยังไงก็ตาม การให้ทาน ก็ละความโลภ ขออนุโมทนาครับ :)
     
  4. ป้าเม้า

    ป้าเม้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +166
    ต้องขอสารภาพว่า ที่มาโพสต์เรื่องนี้เพราะเกิดความสงสัย พูดง่ายๆก็คือ ไม่เชื่ออ่ะค่ะ (คงเป็นมโนกรรมแบบอกุศลชนิดหนึ่ง):d เริ่มตั้งแต่ท่านทำนายเบื้องต้นผิดพลาด ต่อมาก็บอกว่าดวงตกสุดๆ พูดถึงเจ้ากรรมนายเวร และสุดท้ายให้ใส่ซองถวายปัจจัยโดยตรง ทั้งๆที่อยากจะเลี่ยงไปหยอดตู้ในวิหารแล้ว
    จากนั้นเราไปหาหมอดูพม่าเจ้าประจำ เขาก็บอกว่า ดวงเรื่อยๆไม่มีอะไรต้องตระหนก มีอุปสรรคบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

    เป้าหมายจริงๆที่ไปหาหมอดูครั้งนี้เพราะอยากรู้ว่ามีโอกาสลงทุนหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เชียงใหม่หรือไม่ ไม่ได้ทุกข์กายทุกข์ใจอะไร เพราะปกติก็สวดมนต์ ตักบาตร ทำสังฆทาน ช่วยสัตว์ผู้ยาก เนืองๆอยู่แล้ว
     
  5. atataya

    atataya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +278
    ท่านสมณะ ท่านแหงนหน้าฉันหรือไม่
    ท่านสมณะ ท่านก้มหน้าฉันหรือไม่
    ท่านสมณะ ท่านเเลไปทางทิศใหญ่ฉันหรือไม่
    ท่านสมณะ ท่านแลทางไปทิศน้อยฉันหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2013
  6. atataya

    atataya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +278
    พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ - หน้าที่ 551

    สูจิมุขีสูตร

    (ว่าด้วยความแตกต่างการเลี้ยงชีวิตของสมณพราหมณ์ )
    สมัยหนึ่ง ท่านพระสารีบุตรอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์
    ครั้งนั้น เป็นเวลาเช้า ท่านพระสารีบุตรนุ่งแล้ว ถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยัง
    กรุงราชคฤห์ เที่ยวบิณฑบาต ตามลำดับตรอกในกรุงราชคฤห์ แล้วอาศัยเชิงฝาแห่งหนึ่ง
    ฉันบิณฑบาตนั้น ครั้งนั้น นางปริพาชิกาชื่อสูจิมุขี เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรถึงที่อยู่
    ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า "ดูก่อนสมณะ ท่านก้มหน้าฉันหรือ ?"
    ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "ดูก่อนน้องหญิง เรามิได้ก้มหน้าฉัน"
    นางสูจิมุขี ถามว่า "ถ้าอย่างนั้น ท่านแหงนหน้าฉันหรือสมณะ ?"
    ท่านพระสารีบุตร ตอบว่า "เรามิได้แหงนหน้าฉันหรอกน้องหญิง"
    นางสูจิมุขี ถามว่า "ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศใหญ่ฉันหรือสมณะ ?"
    ท่านพระสารีบุตร ตอบว่า "เรามิได้มองดูทิศใหญ่ฉันหรอกน้องหญิง"
    นางสูจิมุขี ถามว่า "ถ้าอย่างนั้น ท่านมองดูทิศน้อยฉันหรือสมณะ ?"
    ท่านพระสารีบุตร ตอบว่า "เรามิได้มองดูทิศน้อยฉันหรอกน้องหญิง"
    นางสูจิมุขี ถามว่า ... ก็บัดนี้ ท่านฉันอย่างไรเล่าสมณะ ?ท่านพระสารีบุตรตอบว่า "ดูก่อนน้องหญิง ก็สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
    เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ดิรัจฉานวิชา คือ วิชาดูพื้นที่ สมณพราหมณ์เหล่านี้
    เรียกว่า ก้มหน้าฉัน, ดูก่อนน้องหญิง สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เลี้ยงชีวิต
    ด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ดิรัจฉานวิชา คือ วิชาดูดาวนักษัตร สมณพราหมณ์เหล่านี้
    เรียกว่า แหงนหน้าฉัน, ดูก่อนน้องหญิง สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เลี้ยงชีวิต
    ด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ประกอบการรับส่งข่าวสาส์น สมณพราหมณ์เหล่านี้ เรียกว่า
    มองดูทิศใหญ่ฉัน, ดูก่อนน้องหญิง สมณพราหมณ์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เลี้ยงชีวิต
    ด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ดิรัจฉานวิชา คือ วิชาทายองค์อวัยวะ สมณพราหมณ์เหล่านี้
    เรียกว่า มองดูทิศน้อยฉัน, ดูก่อนน้องหญิง ส่วน เรานั้นมิได้เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาชีพ
    อันได้แก่ดิรัจฉานวิชา คือ วิชาตรวจพื้นที่ มิได้เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ดิรัจฉาน-
    วิชา คือ วิชาดูดาวนักษัตร มิได้เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ประกอบการรับส่ง
    ข่าวสาส์น มิได้เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาชีพ อันได้แก่ดิรัจฉานวิชา คือ วิชาทายองคอวัยวะ
    (แต่) เราแสวงหาภิกษาโดยชอบธรรม ครั้นแสวงหาได้แล้วจึงฉัน.
    ครั้งนั้น นางสูจิมุขีปริพาชิกา เข้าไปในกรุงราชคฤห์ จากถนนหนึ่งไปอีกถนนหนึ่ง
    จากตรอกหนึ่งไปอีกตรอกหนึ่ง แล้วประกาศอย่างนี้ว่า ท่านสมณศากยบุตรทั้งหลายย่อมฉัน
    อาหารอันประกอบด้วยธรรม สมณศากยบุตรทั้งหลาย ย่อมฉันอาหารอันหาโทษมิได้
    ขอเชิญท่านทั้งหลายถวายบิณฑบาตแก่สมณศากยบุตรทั้งหลายเถิด"
     

แชร์หน้านี้

Loading...