หลวงพ่อฤาษี มาบอกในฝันว่า "ถ้าอยากมีสมาธิทรงตัว อย่างน้อยต้องเป็นพระโสดาบัน"

หลวงพ่อฤาษี มาบอกในฝันว่า "ถ้าอยากมีสมาธิทรงตัว อย่างน้อยต้องเป็นพระโสดาบัน"

ในช่วงแรกๆ ที่ผมเริ่มสนใจธรรมะของหลวงพ่อฤาษี ผมก็อยากฝึกมโนมยิทธิบ้าง
เพราะว่าอยากรู้ว่าเค้าไปเที่ยวสวรรค์ นรกกันยังไง จะได้พิสูจน์พระพุทธศาสนาด้วย
เคยได้ยินแต่คนอื่นเล่าว่าเจอเทวดา เจอนางฟ้า ว่าดีอย่างนั้น อย่างนี้ มันไม่ได้ไปเองจะรู้ได้ยังไง
ก็อยากจะลองดูบ้าง ว่าจะไปได้เหมือนคนอื่นมั้ย หากไม่เจอเองจะให้เชื่อได้ยังไงล่ะครับ
ขนาดผีหน้าตาเป็นยังไงผมก็ยังไม่เคยเห็นเลย ที่พูดมาทั้งหมดผมไม่ได้ปรามาสพระพุทธศาสนานะครับ
แต่ผมเคยได้ยินว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนว่า... อย่าเชื่ออะไรส่งเดช
ใครพูดอะไรก็ควรพิจารณาด้วยเหตุและผลก่อน หากมีเหตุผลก็จึงควรจะเชื่อได้
พระพุทธเจ้าท่านยังบอกให้ลองฟังคำสอนของท่านแล้วพิสูจน์ได้เลย
ผมก็ลองพิสูจน์ดูแล้ว ก็ยังหาอะไรมาแย้งท่านไม่ได้เลย
เพราะเหตุนี้จึงเป็นเหตุทำให้ผมนับถือพระพุทธเจ้ามาก
และก็นับถือหลวงพ่อฤาษีมาก เช่นกัน

พูดนอกเรื่องมาตั้งนาน เรื่องของเรื่องก็คือ ผมได้รู้จักหลวงพ่อฤาษีจากเสียงวิทยุ
พอยิ่งฟังก็ยิ่งชอบ ชักอยากรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน จะได้หาโอกาสมากราบท่าน
พอสืบรู้ว่าท่านอยู่ที่จ.อุทัยธานี แต่ท่านมรณะภาพไปแล้ว อ้าว..จบข่าวเลย
แล้วคราวนี้จะทำไงต่อดี อยากเจอท่านแต่ท่านไม่อยู่ให้เจอซะแล้ว
ผมก็ได้แต่ฟังธรรมะของท่านต่อไป คือไม่รู้ว่าเป็นอะไรยิ่งฟังก็ยิ่งเพลิน ยิ่งติดใจ
เพราะเวลาฟังแล้วรู้สึกว่าไอ้เรานี่มันเลวมาก แถมยังโง่อีกต่างหาก
นี่ถ้าไม่เจอธรรมะของท่านก็ไม่รู้ว่าจะเลวไปถึงไหน เพราะว่าศีล ๕ นี่
แทบจะไม่อยู่เลย ที่พอมีอยู่บ้างก็ข้อ ๑ อะครับ ไม่ฆ่าสัตว์ เพราะว่าสงสาร
ผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรหรอกนะครับ ที่พอจะรักษาศีลข้อ ๑ ได้เพราะเคยเห็นอานิสงส์กับตาตัวเอง
คือ ตอนเด็กๆ ยุงมันชอบมากัดเยอะมาก มันกัดมากผมก็ยิ่งตบ ยุงก็ยิ่งกัด ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน
ผมตบยุงแล้วก็กองยุงไว้เป็นกองภูเขาเลย ยุงมันก็ยิ่งเข้ามากัด แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้คิดได้ว่า
ถ้าเรายิ่งตบ มันก็ยิ่งกัด จองเวรกันไปเรื่อยๆ มันก็ไม่จบ แล้วก็คิดได้อีกว่าถ้าเรายิ่งตบ
ยุงมันก็คงได้กลิ่นเลือดมันก็ตามกลิ่นเลือดมา เป็นอันว่าหลังจากนั้นมาเวลายุงกัดผมก็จะไล่ๆ ให้มันไป
แล้วอานิสงส์ที่ผมเจอกับตัวก็คือ หากเราเมตตา ยุงก็ไม่ค่อยมากัดเรานั่นเองครับ
[ใครอยากลองใช้วิธีเมตตาแบบผมบ้างก็ตามสบายนะครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์]

อืมนอกเรื่องไปยาวอีกละ คราวนี้มาเข้าเรื่องหลวงพ่อฤาษีดีกว่าครับ
คือเมื่อผมรู้ว่าผมไม่มีโอกาสได้พบท่านแล้ว แต่สิ่งที่ผมสามารถทำได้คือ
ฟังธรรม กับอ่านหนังสือต่างๆ ที่เกี่ยวกับท่าน และพยายามเตรียมตัว
ก่อนที่จะไปฝึกมโนมยิทธิครับ ส่วนการเตรียมตัวของผมก็จะมี ๓ เรื่องใหญ่ๆ คือ
๑. พยายามรักษาศีล ๕ ให้ครบอยู่เสมอ [ขาดบ้าง ทะลุบ้าง ก็พยายามเริ่มใหม่ คอยตรวจตัวเองอยู่เรื่อยๆ]
๒. พยายามฝึกท่องคาถา "นะมะ พะทะ" [นึกได้ตอนไหนก็ท่องเอาตอนนั้นละ]
๓. พยายามละนิวรณ์ ๕ [ข้อนี้ยากมาก เพราะว่ามันมากวนกันตลอดเลย มีทั้งผลัดกันมาทีละอย่าง
บางทีก็มาพร้อมกันชุดใหญ่เลย] นิวรณ์ ๕ ได้แก่ อะไรบ้าง
๓.๑ การพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
๓.๒ พยายามไม่ให้ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ เกิดขึ้น
๓.๓ พยายามไม่ให้ความหดหู่ ความท้อถอย ความง่วงชึมเกิดขึ้น
๓.๔ พยายามไม่ให้ความฟุ้งซ่านในสิ่งอกุศลเกิด หรือพยายามไม่คิดชั่วนั่นเอง
๓.๕ ไม่ลังเลสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า และผลการปฏิบัติความดี

รวมความว่าเมื่อผมอยากได้วิชามโนมยิทธิ ก็เลยพยายามทำตามหลักใหญ่๓ ข้อนี้
หากเวลาไปหาสถานที่ฝึกแล้วเผื่อจะฝึกกะเค้าได้บ้าง เพราะจำได้อีกอย่าง
หลวงพ่อมักบอกว่าเวลาคนที่มาฝีกได้แล้วก็ต้องพยายามรักษาให้ได้
ของแบบนี้มีได้ ก็มีเสื่อมได้ อย่าฝึกแล้วฝึกทิ้งฝึกขว้างมันจะไม่มีประโยชน์อะไร

ช่วงที่ผมพยายามฝึกด้วยตัวเองอยู่นั้นก็มีคำถามก็ตัวเองตลอดว่า
บางวันก็สามารถท่อง คาถานะมะ พะธะได้นาน บางวันท่องไม่กี่ทีก็ฟุ้งซ่านเสียแล้ว
ทำไมวันแรกทำได้ดี พอวันหลังๆ กลับไม่ดี ก็คิดหาเหตุผลต่างๆ นา
และคิดว่าจะหาใครที่ไหนมาสอนดี จนคืนหนึ่ง
หลวงพ่อฤาษี มาบอกในฝันว่า "ถ้าอยากมีสมาธิทรงตัว
อย่างน้อยต้องเป็นพระโสดาบันนะ"
ทีแรกก็ไม่เข้าใจคิดว่าคิดไปเอง หรือว่าคิดถึงหลวงพ่อท่านเลยฝันเห็น
หลังจากนั้นก็ไปค้นคว้าจากเทปและตำรา ก็พบว่า
สิ่งที่ฝันนั้น ท่านเคยสอนแบบนั้นจริงๆ
คือ พระโสดาบัน ท่านมีสมาธิอย่างน้อยก็ปฐมฌาน

ผมดีใจมากครับฝันครั้งแรกที่พบหลวงพ่อ ท่านก็มาสอนกรรมฐานให้
สิ่งที่สำคัญท่านสอนว่าการได้ฤทธิ์แล้วเป็นของดี
แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือท่านอยากให้ลูกหลานได้เป็นพระอริยเจ้า
ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เพราะว่าตั้งแต่พระโสดาบัน จนถึงพระอนาคามี
หากตายจากมนุษย์แล้วจะไม่ต้องไปเกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกายและสัตว์เดรัจฉานอีก

รักหลวงพ่อมากครับ
ขออนุโมทนาในความดีของหลวงพ่อฤาษี และทุกๆท่านครับ

 

๑. พยายามรักษาศีล ๕ ให้ครบอยู่เสมอ [ขาดบ้าง ทะลุบ้าง ก็พยายามเริ่มใหม่ คอยตรวจตัวเองอยู่เรื่อยๆ]
๒. พยายามฝึกท่องคาถา "นะมะ พะธะ" [นึกได้ตอนไหนก็ท่องเอาตอนนั้นละ]
๓. พยายามละนิวรณ์ ๕ [ข้อนี้ยากมาก เพราะว่ามันมากวนกันตลอดเลย มีทั้งผลัดกันมาทีละอย่าง บางทีก็มาพร้อมกันชุดใหญ่เลย] นิวรณ์ ๕ ได้แก่ อะไรบ้าง
๓.๑ การพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
๓.๒ พยายามไม่ให้ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ เกิดขึ้น
๓.๓ พยายามไม่ให้ความหดหู่ ความท้อถอย ความง่วงชึมเกิดขึ้น
๓.๔ พยายามไม่ให้ความฟุ้งซ่านในสิ่งอกุศลเกิด หรือพยายามไม่คิดชั่วนั่นเอง
๓.๕ ไม่ลังเลสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า และผลการปฏิบัติความดี

ขออนุโมทนาครับ (ผมยังผิดอยู่หลายข้อ) สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนาด้วยครับ
หลวงพ่อท่านแนะนะว่า นิวรณ์ ๕ อย่างนี้ ควรระงับให้ได้เด็ดขาดตอนที่เจริญกรรมฐาน การทำสมาธิจึงจะมีผล ปัญญาจะเกิดได้ง่าย

ปกติแล้วหากระงับได้ชั่วคราว ครั้งละแค่ 2-3 นาทีก็จัดว่าเป็นกุศลแล้วครับ ค่อยๆ ทำไปตามกำลังใจที่จะสามารถทำได้ ไม่ต้องหักโหมมากในตอนแรกเพราะอาจจะกลุ้มได้ ค่อยๆละ ค่อยๆลด ทำไปเรื่อยๆ ความเคยชินก็จะเกิดขึ้น เมื่อเริ่มชินแล้วมันก็จะกลายเป็นนิสัยเองครับ

และหลวงพ่อท่านยังบอกอีกว่า นิวรณ์ ๕ นี้ คนที่จะระงับได้ตลอดเวลา ก็มีแต่พระอรหันต์เท่านั้น แม้กระทั่งพระอนาคามีเองก็ยังมีนิวรณ์อยู่บ้างครับ

ดังนั้นหากหวังมรรคผลแล้ว ท่านบอกให้พยายามไปเรื่อยๆ ครับ หากเรามีความเพียรไม่ลดละความพยายามเพียงใด ผลก็ย่อมเกิดขึ้นแน่นอนครับ

ขออนุโมทนาครับ

 

เอามาฝากครับ
"พอเข้าเขตพระโสดาบัน ญาณโลกีย์ที่เคยได้เปะปะๆ ไปไม่ค่อยจะเข้าเรื่อง จะแปรสภาพเป็น โลกุตตระญาณ มีสภาพไม่ถอยหลัง เมื่อถึงขั้นนี้แล้วพระโยคาวจรผู้ปฏิบัติจะมีกำลังใจดีอย่างยิ่ง ยิ่งเร่งรัดการปฏิบัติของตนมากขึ้นไปอีก"
หนึ่งใน คำสอนของท่านครับ

 

สาธุ ขอให้ได้ในสักวัน

 

ขอคัดลอกตอนนี้ไปเผยแพร่นะครับ
เตรียมตัวก่อนที่จะฝึกมโนมยิทธิมี ๓ เรื่องใหญ่ๆ คือ
๑. พยายามรักษาศีล ๕ ให้ครบอยู่เสมอ [ขาดบ้าง ทะลุบ้าง ก็พยายามเริ่มใหม่ คอยตรวจตัวเองอยู่เรื่อยๆ]
๒. พยายามฝึกท่องคาถา "นะมะ พะทะ" [นึกได้ตอนไหนก็ท่องเอาตอนนั้นละ]
๓. พยายามละนิวรณ์ ๕ [ข้อนี้ยากมาก เพราะว่ามันมากวนกันตลอดเลย มีทั้งผลัดกันมาทีละอย่าง
บางทีก็มาพร้อมกันชุดใหญ่เลย] นิวรณ์ ๕ ได้แก่ อะไรบ้าง
๓.๑ การพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสระหว่างเพศ
๓.๒ พยายามไม่ให้ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ เกิดขึ้น
๓.๓ พยายามไม่ให้ความหดหู่ ความท้อถอย ความง่วงชึมเกิดขึ้น
๓.๔ พยายามไม่ให้ความฟุ้งซ่านในสิ่งอกุศลเกิด หรือพยายามไม่คิดชั่วนั่นเอง
๓.๕ ไม่ลังเลสงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า และผลการปฏิบัติความดี

 

คุณเชื่อมั้ยครับ
สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำกับความฝันนี่เขาเป็นกันบ่อยๆ
ผมเองก็หลายครั้ง ลองหาหนังสือชื่อ ลูกศิษย์บันทึก(มีหลายเล่ม)อ่านดูนะครับ เขาเจอกันมาเยอะ
ถ้าเราดีพอที่ท่านจะโปรด ท่านก็จะโปรด ถ้าเราสนใจสงสัยในกรรมฐานท่านก็จะช่วย
สายหลวงพ่อเป็นสายง่ายๆ(คือไม่ซับซ้อน) แต่ได้ผลเร็ว ไม่นอกลู่นอกทาง

 

อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้เป็นอย่างสูงครับ
หลวงพ่อท่านไม่เคยทอดทิ้งลูกหลานไปไหนจริงๆครับ
เวลาผมเดินผิดทางทีไร หลวงพ่อท่านเมตตามาตักเตือนในฝันอยู่บ่อยๆครับ

ลูกขอกราบหลวงพ่อครับ สาธุ สาธุ

 

สาธุ จะพยายามต่อไปนะครับ :d

 

อนุโมทนาด้วยครับ
สู้ๆ นะครับ

 

ธรรมะที่หลวงพ่อท่านสอนแล้ว ท่านบอกว่าท่านไม่หวงครับ
เพราะว่าท่านก็ได้มาจากพระพุทธเจ้าครับ
ผมก็พยายามจำมาเหมือนกันครับ ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ถึงจะละได้ไม่หมดทีเดียว ก็ค่อยๆ แกะมันออกไปให้มันเบาบางไป นะครับ

อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ

 

ผมเพิ่งฝึกแบบลูกเป็ดหัดเดิน ก้าวยังไม่ค่อยเก่ง แต่เมื่อมีแนวทางให้เดินตามแล้วผมก็ขอเดินตามแบบลูกเป็ด ขอบคุณคุณfirstini มากนะครับ ที่เข้ามาช่วยแนะนำ ตอนนี้หนังสือลูกศิษย์บันทึก ยังพอหาที่ไหนบ้างไหมครับ ฟังแล้วอยากอ่านบ้างจังครับ

 

ขอบคุณมากครับ ผมจะพยายามต่อไปนะครับ :d

 

ขอบคุณคุณkirakungzz มากนะครับ
หลวงพ่อท่านมีเมตตามากจริงๆ ผมจะพยายามต่อไปครับ
อนุโมทนาด้วยนะครับ

 

โมทนาบุญด้วยครับ ผม

เคยเหมือนกันฝันเยี่ยงนี้

รู้สึกตัวทั่วพร้อมด้วย

 

ความเมตตาของหลวงพ่อ หาประมาณไม่ได้เลยจริงๆ
หลวงพ่อไม่เคยทิ้งคนที่ละความพยายาม
อนุโมทนา้ด้วยนะครับ

 

อันนี้เชื่อแน่นอนเลยครับ

ทำดีท่านชมเลย ทำไม่ดีก็โดนเลยเหมือนกัน ต้องตั้งใจมากๆ หลวงพ่อท่านดู

ลูกศิษย์ของท่านอยู่ รวมถึงครูบาอาจารย์ ที่จะมาสอนในเรื่องต่างๆต่อจากของ

เดิม สิ่งที่ต้องฝึกเพิ่มทีละส่วนไป

 

ขออนุโมทนากะคุณ go nipparn ด้วยคะ หลวงพ่อคงรู้ด้วยญานของท่าน ท่าไม่เคยเข้าฝันใครเล่นๆๆเลย ทุกอย่างเป็นจริง