ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 02 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรกส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 10 ลงวันที่ 02 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในระยะแรกส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

 

03-03-2013

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 03 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคเหนือ และ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยมีผลกระทบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและ ให้ดูแลรักษาสุขภาพจากลักษณะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 3-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย


ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 05.00 น.

(ลงชื่อ) สมชาย ใบม่วง

(นายสมชาย ใบม่วง)

รองอธิบดีฯ รักษาราชการแทน

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

ลำปางผวา! แผ่นดินไหว 3.4 ริกเตอร์ อาฟเตอร์ช็อคกลางดึก



เกิดอาฟเตอร์ช็อค ครั้ง 2 ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง วัดได้ 1.4 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 01.24 น. ที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว เผย ยังไม่มีการแจ้งถึงการรับรู้แรงสั่นสะเทือนในรอบนี้


สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า เมื่อเวลา 01.24 น. ที่ผ่านมา เกิดอาฟเตอร์ช็อคอีกครั้งที่ ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ. ลำปาง วัดได้ 1.4 ริกเตอร์ เบื้องต้น สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุฯ ได้เปิดเผยกับ ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า อาฟเตอร์ช็อครอบล่าสุดนี้ ยังไม่มีรายงานแจ้งการรับรู้แรงสั่นสะเทือนในครั้งนี้ โดยอาฟเตอร์ช็อคครั้งแรก หลังจากเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 3.4 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.37 น. โดยวัดได้ 1.3 ริกเตอร์

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวครั้งแรก เกิดขึ้น เมื่อเวลา 20.35 น. ขนาด 3.4 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่ ต.ทุ่งฝาย อ.เมือง จ.ลำปาง โดยแผ่นดินไหวครั้งแรกประชาชนที่อยู่ใน ต.ทุ่งฝาย รู้สึกได้ถึงการเกิดแผ่นดินไหว โดยที่ทำการกู้ภัยเทศบาลตำบลต้นธงชัย พื้นที่ติดกับ ต.ทุ่งฝาย

เจ้าหน้าที่กู้ภัย บอกรู้สึกได้ในช่วงแผ่นดินไหว ช่วงที่นั่งปฏิบัติงานในห้องวิทยุ รู้สึกเหมือนกับมีอาการวิงเวียนศีรษะ ขณะที่ ชาวบ้านหลายราย ใน ต.ทุ่งฝาย และ ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง บอกรู้สึกถึงได้ถึงแผ่นดินไหว โดยเฉพาะบ้านของชาวบ้านที่เป็นบ้านไม้ในช่วงแผ่นดินไหว มีเสียงดังเหมือนบ้านดีดลั่น

ส่วนสถานการณ์การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ นางธวัลรัต ไชยอินปัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลำปาง (ปภ.ลำปาง) เปิดเผยว่า สำหรับการเกิดแผ่นไหวในครั้งนี้ ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหายแล้ว ไปจนถึงโบราณสถานต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ ต.ต้นชัย และ ต.ทุ่งฝาย ส่วนการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ และจะมีการเข้าพื้นที่เข้าตรวจในช่วงเช้าอีกครั้ง

ที่มาจาก INN

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 03 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกนระยะต่อไป ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง และอุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส โดยมีผลกระทบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 นี้ไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 4-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

 

แผ่นดินไหวในจีนทำบ้านพังราบหลายร้อยหลัง


เกิดแผ่นดินไหว5.5ริคเตอร์ที่มณฑลยูนนานของจีน ส่งผลให้บ้านเรือนพังราบและเสียหายกว่า 3,000 หลัง รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ20คน


สำนักข่าวเอเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 3 มี.ค.ว่า เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5 ริคเตอร์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นเหตุให้บ้าน 700 หลังพังทลาย และสร้างความเสียหายให้บ้านอีก 2,500 หลัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 20 คน โดยแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ชนบทของมณฑลยูนนานเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดินเพียง 9 กิโลเมตร เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่สำนักงานด้านแผ่นดินไหวท้องถิ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้ว


ทั้งนี้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนมักเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหว 2 ครั้งในมณฑลยูนนาน ทำให้ดินถล่ม คร่าชีวิตผู้คนไม่น้อยกว่า 80 ศพ

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พายุหมุนถล่มสกลนครพังกว่า100หลังดับ1

พายุหมุนถล่มหมู่บ้านริมหนองหารเมืองสกลนครพังกว่า 100 หลังเสียชีวิต1ศพ ขณะกาฬสินธุ์เจอพายุพัด2อำเภอ

นายวิชาญ แท่นหิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครเร่งออกสำรวจได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากเกิดพายุหมุนฝนตกฟ้าคะนองทั่วจ.สกลนคร โดยเฉพาะหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมฝั่งหนองหาร หมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 6 ต.เหล่าปอแดง อ.เมือ ได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่งผลให้บ้านเรือนพังเสียหายกว่า 100 หลัง ขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายมนตรี ดาโสภา อยู่บ้านท่าวัด หมู่ที่ 3 ต.เหล่าปอแดง อ.เมืองสกลนคร ถูกแรงลมหอบจมน้ำเสียชีวิตขณะกำลังหาปลาอยู่ท่าน้ำหน้าวัด

ขณะที่จ.กาฬสินธุ์ ได้เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนใน 2 อำเภอ คือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ และ อ.ร่องคำ จากการตรวจสอบพบว่า ที่บ้านโจด ต.นาจารย์ หมู่ที่ 1,2,4,6และหมู่ที่ 9 เขตอ.เมืองกาฬสินธุ์ บ้านเสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน โดยเฉพาะหมู่ที่ 6 มีบ้านเรือนประชาชนถูกพัดเสียหายทั้งหลังถึง 3 หลังคาเรือน แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้านนายสุวิทย์ สุบงกฎ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้ประกาศเตือนภัยพายุฤดูร้อนโดยเฉพาะให้ระวังฟ้าผ่าซึ่งประชาชนไม่ควรพกโทรศัพท์ติดตัวหรือสื่อล่อฟ้าเนื่องจากจะได้รับอันตรายในระยะนี้

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 13 ลงวันที่ 03 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกแล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีผลกระทบ

ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 นี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 4-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 16.00 น.

 

04-03-2013

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 14 ลงวันที่ 03 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคกลาง และภาคตะวันออกแล้ว ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง อุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ซึ่งจะมีผลกระทบในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 3-4 มีนาคม 2556 นี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 4-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.00 น.


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุฤดูร้อน"
ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 04 มีนาคม 2556

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมภาคกลางและภาคตะวันออกทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และอาจมีลูกเห็บตกบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีฝนเกือบทั่วไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4 มีนาคม 2556 นี้

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 4-5 มีนาคม 2556 ทำให้ภาคใต้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือ เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 เวลา 04.00 น.

 

สกู๊ปข่าวพิเศษ

เวนคืนแสนไร่เซ่นฟลัดเวย์ 11จว.รอบกทม.-ปริมณฑล

เปิดแนวเวนคืนสร้างฟลัดเวย์ 1.2 แสนล้าน 2 ทางเลือกเวนคืน 3 หมื่นไร่-1.4 แสนไร่ กบอ.เล็งใช้แนวกรมชลฯ ขุดคลองระบายน้ำ-ถนน 4 เลน ฝั่ง ตอ. 270 กม. ผ่าน 6 จังหวัด "ชัยนาท-สิงห์บุรี-ลพบุรี-สระบุรี-ปทุมฯ-สมุทรปราการ" ใช้แนวคลอง "ชัยนาท-ป่าสัก-ระพีพัฒน์" และขุดคลองใหม่ลงอ่าวไทย ฝั่ง ตต. 300 กม. จากเหนือ นครสวรรค์-ชัยนาท-สุพรรณฯ-นครปฐม-กาญจนบุรี-สมุทรสาคร

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 15 มี.ค. 2556 นี้ กบอ.จะให้บริษัทเอกชน 3 ราย ประกอบด้วย 1.กลุ่มอิตาเลียนไทย 2.เควอเตอร์ และ 3.กิจการร่วมค้าไทย-ญี่ปุ่น ที่ผ่านการพิจารณากรอบแนวคิดพัฒนาโครงการก่อสร้างทางน้ำหลาก (Floodway) หรือทางผันน้ำ (Flood Channel) ทั้งในพื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดการระบายน้ำไม่น้อยกว่า 1,500 ลูกบาศก์เมตร วงเงินก่อสร้าง 120,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดทีโออาร์ได้กำหนดรายละเอียดโครงการเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ว่าพิจารณาจะใช้แนวเส้นทางไหน และรูปแบบการพัฒนาโครงการจะเป็นแนวฟลัดเวย์หรือทางผันน้ำ เพื่อให้เอกชนออกแบบในรายละเอียดก่อนยื่นประมูลก่อสร้าง

ฝั่งตะวันออกเน้นขยายคลองเดิม

ข้อสรุปเบื้องต้นในส่วนของการกำหนดเส้นทางการระบายน้ำหรือฟลัดเวย์ จะใช้แนวเดิมที่กรมชลประทานที่ศึกษาไว้ (ดูแผนที่) โดยฝั่งตะวันออกมีระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่ 6 จังหวัด จาก จ.ชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี จนถึง จ.สมุทรปราการ

รูปแบบโครงการจะปรับปรุงขยายระบบเดิม คลองชัยนาท-ป่าสัก และคลองระพีพัฒน์ ให้มีขนาดความกว้างประมาณ 200 เมตร ซึ่งจะสามารถระบายน้ำได้มากขึ้น จากปัจจุบัน 210 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เป็น 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

และขุดคลองใหม่ขนาดความกว้าง 200 เมตร ต่อจากคลองระพีพัฒน์ คู่ขนานคลองรังสิต 14, 15 คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และออกสู่ทะเลอ่าวไทย ช่วงด้านล่างแนวเส้นทางจะอยู่ถัดจากถนนวงแหวนรอบที่ 3 ของกรมทางหลวง (ทล.) ประมาณ 20-30 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 78,263 ล้านบาท

ฝั่งตะวันตกขุดแนวใหม่คลอง-ถนน



ส่วนฝั่งตะวันตก กบอ.กำหนดให้เป็นแนวตัดใหม่ตลอดเส้นทาง มีระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลเมตร ปัจจุบันกรมชลประทานกำลังสรุปพื้นที่ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะรับน้ำจากด้านเหนือและช่วงปลายที่ระบายน้ำว่าจะใช้พื้นที่ไหนจึงจะเหมาะสมที่สุดแต่ช่วงพื้นที่กลางน้ำแนวชัดเจนแล้ว โดยจะพาดผ่าน 4 จังหวัด คือ จ.ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม และ จ.สมุทรสาคร

แหล่งข่าวกล่าวว่า โดยช่วงต้นน้ำมี 2 ทางเลือก คือ 1.รับน้ำจากพื้นที่เหนือ จ.นครสวรรค์ขึ้นไป เช่น อ.เก้าเลี้ยว อ.ขาณุวรลักษบุรี อ.บรรพตพิสัย หรือ 2.รับน้ำจากบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลงมา

ขณะที่พื้นที่ปลายน้ำมี 2 ทางเลือกเช่นเดียวกัน โดย 1.จะระบายลงอ่าวไทย โดยฉีกแนวมาทาง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผ่านไปยังลุ่มแม่น้ำเพชรบุรี หรือ 2.ระบายมาทางแม่น้ำแม่กลอง จ.สมุทรสาคร แนวจะตัดตรงผ่าน จ.นครปฐม ไล่ลงมาถึงแม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน

ฝั่งตะวันตกจะมีทั้งคลองขุดใหม่ระบายน้ำหลากขนาดความกว้างประมาณ 300 เมตร และมีถนนขนาด 4 ช่องจราจร ขนาบอยู่ด้านข้างเป็นคันกั้นน้ำ ส่วนการระบายน้ำกำลังดูว่าจะเป็น 500 ลูกบาศก์เมตร 1,000 ลูกบาศก์เมตร หรือ 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดว่าเงินลงทุนก่อสร้างจะสูงกว่าฝั่งตะวันออก เพราะมีทั้งถนนและคลองระบายน้ำ นอกจากนี้ยังเป็นแนวใหม่ทั้งหมด โดยแนวเดิมที่กรมชลฯศึกษาไว้เบื้องต้น เฉพาะการก่อสร้างคลองระบายน้ำ วงเงินลงทุนอยู่ที่ 40,250 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามเพื่อให้การลงทุนก่อสร้างแนวฟลัดเวย์อยู่ภายใต้กรอบวงเงิน 120,000 ล้านบาท ทาง กบอ.อยู่ระหว่างพิจารณาจะปรับลดการลงทุนสร้างฟลัดเวย์ฝั่งตะวันออกลง แต่ยังคงแนวเดิมที่กรมชลฯศึกษาไว้ ด้วยการลดขนาดการรับน้ำลงจากเดิม 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เหลือประมาณ 500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และอาจจะมีการก่อสร้างถนนขนาบทั้ง 2 ข้างของคลองระบายน้ำด้วย

ปรับเงินลงทุนซุกตะวันออก

สาเหตุที่ปรับขนาดฟลัดเวย์ทางฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็เพื่อจะนำวงเงินมาเน้นก่อสร้างโครงการในฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยาแทน เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ฝั่งตะวันออกมีโครงการระบายน้ำ

ที่สมบูรณ์แบบมากกว่าฝั่งตะวันตก จึงต้องเลือกสร้างคลองระบายน้ำในฝั่งตะวันตกให้ระบายได้ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

"กบอ.มีแนวคิดจะลดการลงทุนฝั่งตะวันออก เพราะหากสร้างเต็มทั้งโครงการอาจจะต้องเวนคืนที่ดินมาก จากผลการศึกษาของกรมชลฯเดิมคาดว่าจะเวนคืนที่ดินร่วม 3-4 หมื่นไร่ อีกทั้งที่ดินยังมีสภาพเป็นดินอ่อน และมีบางช่วงเป็นพื้นที่ลักษณะตกท้องช้าง ทำให้การระบายน้ำลงสู่ทะเลอ่าวไทยทำได้ไม่ค่อยดี ที่สำคัญงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท จะทำทั้ง 2 ฝั่งอาจจะไม่พอ"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เม็ดเงินลงทุนจะมากหรือน้อยอยู่กับรูปแบบการก่อสร้างว่า กบอ.จะเลือกแบบแนวฟลัดเวย์ หรือคลองผันน้ำ ถ้าเป็นคลองผันน้ำต้นทุนจะสูงกว่าเพราะต้องขุดคลองใหม่พร้อมถนน 2 ข้างเป็นคันกั้นน้ำ แต่แบบฟลัดเวย์จะสร้างเป็นแค่สร้างกั้นถนนขนาบข้างพื้นที่ที่จะรับน้ำหลาก

เวนคืนที่ดิน 3 หมื่น-1.4 แสนไร่

ขณะเดียวกันเป็นไปได้ที่ กบอ.จะให้ผสมผสานทั้งฟลัดเวย์และคลองผันน้ำ อย่างฝั่งตะวันตกช่วงด้านบนจะเป็นแบบคลองผันน้ำ และด้านล่างเป็นแบบฟลัดเวย์

ส่วนการใช้พื้นที่เวนคืนเพื่อมาก่อสร้างอยู่ที่ขนาดคลองระบายน้ำ หากกว้าง 1 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางกว่า 200-300 กิโลเมตร ใน 1 เส้นทางต้องใช้พื้นที่ไม่น้อยกว่า 1.4 แสนไร่ หากกว้าง 200-500 เมตร ใน 1 เส้นทางต้องไม่น้อยกว่า 3-6 หมื่นไร่

ครม.อนุมัตพิมพ์เขียว กบอ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ กบอ.เสนอรายละเอียดการออกแบบ Floodway และ Flood Diversion Channel เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยระบุว่าทางเลือกที่ดีที่สุดคือผันน้ำ หรือเบี่ยงเส้นทางน้ำโดยจะดำเนินการใน 2 พื้นที่ คือฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เวลาราว 2 ปีและฝั่งตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะออกแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพ ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี โดยในการออกแบบจะให้สามารถใช้ประโยชน์ทางคมนาคมได้ด้วย

ที่มาจาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

ดินไหวยูนนานบ้านถล่ม1,400หลัง เจ็บ 30



เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ที่มณฑลยูนนาน ทำให้บ้านถล่ม 1,400 หลัง และเสียหายมากกว่า 6,000 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 ราย สาหัส 3 แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวบนบก ขนาดได้ 5.5 ที่ มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เมื่อเวลา ประมาณ 12.41 น. ตามเวลาประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหว สำนักธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า ลึกราว 32.8 กม. และอยู่ใกล้หมู่บ้านของประชาชนชาวยูนนาน จำนวนมาก พร้อมกับ อาฟเตอร์ช็อคอีก ราว 34 ครั้ง เป็นเหตุให้บ้านพังถล่มมากกว่า 1,400 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายบางส่วน 6,000 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 30 ราย อาการสาหัส 3 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต

ด้าน สำนักข่าวซินหัว สื่อของทางการจีน เปิดเผยจากข้อมูลของกรมกิจการพลเรือนยูนนานว่า ประชาชนราว 55,000 คน ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือแล้ว รวมทั้งเต็นท์ 6,000 หลัง ทั้งนี้ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มักเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง โดยเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซ้อนกันถึง 2 ครั้ง ที่มณฑลยูนนาน จนทำให้ดินถล่ม ทับบ้านเรือนประชาชนและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 80 ราย และสูญหายเป็นจำนวนมาก

ที่มาจาก INN

 

สภาพเมฆฝนปกคลุมทั่วทุกภาค

 

05-03-2013

ตอนบนฝนตก-ทะเลคลื่นสูง 2 เมตร


ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ ส่วนภาคใต้ตั้งแต่นครศรีฯลงไปคลื่นสูง 2 เมตร

วันนี้( 5 มี.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 1-2 วันนี้

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 วันนี้ ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และตากอุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม/ชม ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนเล็กน้อยเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พายุฤดูร้อนถล่มสุรินทร์บ้านพัง149 หลังเจ็บสาหัส1 ราย



พายุฤดูร้อนถล่มบ้านพัง149 หลัง เสียหายโดยสิ้นเชิง 5 หลัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากบ้านถล่มทับ 1 ราย

พลตรี นิรุทธ เกตุสิริ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์ นำกำลังพลพร้อมชุดทหารช่างพร้อมเครื่องจักรออกให้ความช่วยเหลือในการเก็บสังกะสีมาซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนในพื้นที่ 8 หมู่บ้านของตำบลโชคนาสาม และอีก 4 หมู่บ้านของตำบลโคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลังเกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มอย่างรุนแรงนานกว่า 20 นาที ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า149 หลังคาเรือน เสียหายโดยสิ้นเชิง 5 หลัง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านมะเมียงใต้ได้รับความเสียหาย 1แห่ง นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย คือ นายประมวล พรมมี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 4 บ้านมะเมียง ตำบลโชคนาสาม ล่าสุดยังต้องรักตัวในห้อง ไอซียู รพ.สุรินทร์ เนื่องจากถูกเสาบ้านล้มทับบริเวณคอ

เบื้องต้น พลตรี นิรุทธ เกตุสิริ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์ ได้สั่งการให้กำลังพลทั้งหมด เร่งซ่อมแซมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านมะเมียงใต้ให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน ก่อนกระจายกำลังพลออกช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านเรือนให้อยู่อาศัยได้ตามปกติอย่างเร่งด่วน ซึ่งการที่หน่วยทหารเข้าช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยอย่างรวดเร็ว สร้างความดีใจและประทับใจให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามองค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือและซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้วเช่นกัน


พายุถล่ม อ.แม่ใจ เสียหายกว่า 300 หลังคาเรือน



ผู้ว่าฯ พะเยา เหล่ากาชาด อปท.เร่งแจกผ้าห่ม กระเบื้องบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัยพายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนเสียหายกว่า 300 หลังที่ อ.แม่ใจ เตรียมประสานทหารซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน

วันนี้ ( 4 มี.ค.) นายชูชาติ กีฬาแปง ผวจ.พะเยา พร้อมด้วย นางวราภรณ์ กีฬาแปง นายกเหล่ากาชาดพะเยา นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รอง ผวจ.พะเยา นายวิสิษฐ์ ทวีสิงห์ นอภ.แม่ใจ ได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือราษฎร บ้านสันสลี หมู่ที่ 7 ต.เจริญราษฎร์ อ.แม่ใจ จ.พะเยา หลังจากเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนเสียหายจำนวน 87 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้ 12 หลังคาเรือนถูกพายุพัดหลังคาปลิวหายไปกับสายลมทั้งหลัง โดยหลังจากได้รับรายงานความเสียหาย ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้สั่งการให้ส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย พร้อมสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการจัดซื้อกระเบื้องเตรียมพร้อมมอบให้กับผู้ประสบภัยทันที โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้กล่าวเตือนประชาชน ว่า ในระยะนี้ขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมในการป้องกันตนเองให้รอดพ้นจากภัยธรรมชาติ และด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนจึงได้ร่วมกับกาชาดพะเยา นำผ้าห่มและสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันมามอบให้พร้อมกับกระเบื้องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวต่อว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ เกินกำลังที่ชาวบ้านจะช่วยตัวเอง ดังนั้นตนจะประสานไปยังจังหวัดทหารบกพะเยาขอกำลังทหารมาช่วยรื้อสิ่งหักพังและซ่อมแซมหลังคาบ้านให้แก่พี่น้องประชาชนในวันรุ่งขึ้น

ทั้งนี้ มีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุฤดูร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบด้วย ต.ศรีถ้อย 97 หลังคาเรือน ต.แม่ใจ 70 หลังคาเรือน ที่เสียหายหนักสุดที่ ต.เจริญราษฎร์ 135หลังคาเรือน ส่วนพื้นที่การเกษตรกอยู่ระหว่างสำรวจ..

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พายุหิมะถล่มเกาะฮอกไกโดเสียชีวิต 8 ศพ


เกิดพายุหิมะกำลังแรงพัดถล่มพื้นที่ภาคเหนือของญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ บนเกาะฮอกไกโด ในจำนวนนี้ 4 ศพเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า เกิดพายุหิมะกำลังแรงพัดถล่มพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ศพ บนเกาะฮอกไกโด ในจำนวนนี้ 4 ศพเป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกัน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงทำให้เกิดหิมะตกหนักสูงถึง 2 เมตร ที่จังหวัดอากิตะ บนเกาะฮอนชู ทางตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ส่งผลให้ระบบการเดินรถไฟต้องระงับให้บริการชั่วคราวในหลายเส้นทา ส่วนในเส้นทางที่ยังคงให้บริการได้นั้น มีรายงานเกิดความล่าช้าอย่างมาก เนื่องจากหิมะที่ตกลงมาปกคลุมหนาเต็มรางรถไฟเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเดินขบวนรถ

ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ศพที่เป็นครอบครัวเดียวกันนั้น ประกอบด้วยนางคาซูโยะ มิยาชิตะ อายุ 40 ปี และบุตร 3 คน ได้แก่ น.ส. มิสะ อายุ 17 ปี ด.ญ.ซาโยะ อายุ 14 ปี และ ด.ช. ไดกิ อายุ 11 ปี เสียชีวิตอยู่ด้วยกันภายในรถยนต์คันหนึ่งที่ถูกฝังอยู่ภายใต้หิมะ แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่า ไม่ได้เป็นการเสียชีวิตตามธรรมชาติ หลังผลการชันสูตรศพระบุ เป็นการเสียชีวิตจากการสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการพบศพน.ส.ฮารูนะ คิตากาวะ วัย 23 ปี เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ของตัวเอง ซึ่งจอดติดอยู่กลางหิมะ ตามด้วยชายวัย 53 ปี เสียชีวิตหลังถูกหิมะถล่มลงมาทับ และชายวัย 54 ปี และ 76 ปี เสียชีวิตจากการถูกหิมะถล่มลงมาทับเช่นกัน

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/NqxqBdQEbMI" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


ออสเตรเลียยอมรับสภาพอากาศในประเทศเลวร้ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


ทางการออสเตรเลียยอมรับ ประเทศกำลังเผชิญสภาพอากาศที่เลวร้ายอย่างไม่เคยพบมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิในฤดูร้อนที่สูงจนเป็นสถิติใหม่ ไฟป่า พายุ และน้ำท่วม พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรวมถึงประชาชน หันมาช่วยกันแก้ไขเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2556 ชาวออสเตรเลียต้องเผชิญสภาพอากาศที่ทั้งเลวร้ายและแปรปรวนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน ไฟป่า พายุ และน้ำท่วม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่า ภาวะโลกร้อนอาจทำให้สภาพแวดล้อมของออสเตรเลียต้องแย่ลงไปกว่านี้

นายทิม แฟนเนอรี ผู้อำนวยการสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย กล่าวว่า ฤดูร้อนของประเทศในปีนี้ ซึ่งสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 ก.พ. ถือได้ว่า ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงขั้นที่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทำรายงานสำหรับนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการด้านสภาพอากาศ พิมพ์ชื่อหัวข้อบนปกรายงานว่า “ฤดูร้อนอันเกรี้ยวกราด” เนื่องจากอิทธิพลของคลื่นความร้อนก่อให้เกิดไฟป่าโหมกระหน่ำในหลายพื้นที่ของประเทศ รวมถึงเกาะแทสเมเนีย ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ค่าอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 40.30 องศาเซลเซียส สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีรายงานเมืองใหญ่ 44 แห่ง รวมถึงซิดนีย์และโฮบาร์ต ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดจนเป็นสถิติของเมืองเช่นกัน

สถิติที่ผ่านมายังระบุด้วยว่า ตลอด 102 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วจะมีเพียง 21 วันในรอบปีเท่านั้น ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศจะสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ทว่าในปีนี้ กลับมีแล้วถึง 8 วันที่อุณหภูมิสูงจนทำลายสถิติ ทั้งที่เพิ่งย่างเข้าสู่เดือนที่ 3 ของปีเท่านั้น ถือเป็นแนวโน้มที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก แฟนเนอรีจึงขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้ประชาชน รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เพียงแต่เฉพาะในออสเตรเลียเท่านั้น แต่รวมถึงประชาคมโลก ให้หันมาใส่ใจและดำเนินวิธีแก้ไขอย่างจริงจังได้แล้ว ก่อนที่จะสายเกินไปกว่านี้

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/baGgSZY-Tgk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พายุฤดูร้อนถล่มลำปางพังกว่า73หลัง

นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร(อส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จังหวัดลำปาง กว่า 200 นาย เข้าไปยังพื้นที่ ต.วังทรายคำ อ.วังเหนือ ที่ประสบภัยพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ โดยเกิดลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงพัดถล่มในพื้นที่ 3 หมู่บ้านของ ต.วังทรายคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางทิศใต้ของ อ.วังเหนือ โดยหมู่บ้านดง หมู่ 2 ได้รับความเสียหายหนักที่สุด รองลงมา ได้แก่ หมู่บ้านทุ่งห้า หมู่ 8 และบ้านป่าฝาง หมู่ 5 ต.วังทรายคำ มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 73 หลังคาเรือน

สำหรับบ้านเรือนที่ถูกแรงลมพัดหลังคาบ้าน เปิดออกทั้งหลัง มีมากกว่า 10 หลัง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะทรัพย์สินมีค่า และสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกฝนตกใส่เสียหายหมด ทำให้การเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยต้องหยุดชะงัก แต่ทางอ.วังเหนือ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สั่งกระเบื้องเข้ามาในพื้นที่แล้วกว่า 2,500 แผ่น เพื่อแจกจ่ายบ้านเรือนที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว

ด้านนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ นายอำเภอวังเหนือ กล่าวว่า ได้นำกระเบื้องเข้ามาแจกจ่ายผู้ประสบภัยก่อนเบื้องต้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาช่วยเหลือ ได้นำขึ้นมุงหลังคาก่อน เพื่อป้องกันฝนที่จะตกลงมา เพราะในพื้นที่ ได้เกิดมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงจะต้องซ่อมแซมหลังคาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

อย่างไรก็ตามในพื้นที่ ทางมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ได้นำถุงยังชีพ จากกองทัพบก ที่มีเครื่องอุปโภค และบริโภค รวมถึงอาหารแห้ง รุดนำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยก่อนเป็นลำดับแรก

สำหรับภัยทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มในพื้นที่ เมื่อคืนของวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นภัยที่พัดถล่มในพื้นที่นานกว่า 3 ชั่วโมง และยังมีฝนตกลงมาตลอดทั้งคืน จนถึงขณะนี้ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง

เชียงรายอ่วมเจอพายุฤดูร้อนถล่ม

พายุฤดูร้อนพัดถล่มเชียงรายบ้านเสียหาย 2.2พันหลัง หลังขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเหยื่อผู้ประสบภัย

พายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำต.ดอยลาน อ.เมือง จ.เชียง อย่างรุนแรงนานกว่า 10 นาที เมื่อคืนวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก บางหลังหลังคาบ้านปลิวหายไปทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีสถานปฏิบัติธรรมได้รับความเสียหายเช่นกัน

นายบรรจง ชาคำสัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 บ้านดอยสมบูรณ์ ต.ดอยลาน พร้อมด้วยชาวบ้านออกสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนชาวบ้านในพื้นที่หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม จากการสำรวจในหมู่บ้านดอยสมบูรณ์ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งมีหลังคาบ้านปลิวไปกับกระแสลม ทั้งที่เป็นกระเบื้องและสังกะสี และภายในบ้านได้รับความเสียหายจากฝนที่ตกลงมา

นอกจากนี้พายุฤดูร้อนยังพัดถล่มสถานที่ปฎิบัติธรรมชั่วคราวในสุสานบ้านดอยสมบูรณ์ ซึ่งสถานที่ปฎิบัติธรรมได้รับความเสียหายทั้งหมดและยังเกิดฟ้าผ่าสายไฟฟ้าแรงสูงจนขาดตกลงมาบนพื้นหน้าบ้านของชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปทำการแก้ไข

ด้าน นายณรงค์ อินโส หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจความเสียหายของหลังจากเกิดพายุพัดถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พบว่า มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 2.2 หลังคาเรือน ใน 11 หมู่บ้าน ของ ต.ดอยลาน นอกจากนี้มีสวนลำไยได้รับความเสียหายจากแรงลมกว่า 200 ต้น ในพื้นที่อ.ป่าแดด ซึ่งทุกจุดความเสีย ส่วนใหญ่จะเป็นกระเบื้องและสังกระสีปลิวไปกับกระแสลมที่พัดอย่างรุนแรง

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

คลิปวิดีโอ 'ความเสียสละของทหารไทย ... พวกเราจงดูไว้!' ที่ถูกลอบวางระเบิดและลอบยิง จนเสียหลักพลิกคว่ำขณะปฎิบัติหน้าที่

เมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ลูบไลค์ (LoopLike) ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง ที่ตั้งชื่อว่า "บุคคลคนกลุ่มนี้ที่เราต้องสรรเสริญ ! (ดูแล้วแชร์)" พร้อมระบุข้อความเพิ่มเติมว่า "ความเสียสละของทหารไทย ... พวกเราจงดูไว้!" โดยในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นภาพขณะรถกระบะของเจ้าหน้าที่ทหารถูกลอบวางระเบิด หรือถูกลอบยิง จนเสียหลักพลิกคว่ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บต้องรีบตั้งรับสถานการณ์ เพราะเกรงว่าผู้ก่อเหตุจะกลับมาลงมือซ้ำ โดยในขณะเดียวกันก็ต้องช่วยกันลำเลียงคนเจ็บออกจากตัวรถ พร้อมตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่แต่ละรายได้รับบาดเจ็บมากน้อยเพียงใด

ในระหว่างนั้นได้มีการโทรประสานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้นำรถพยาบาล หรือรถคันอื่น มารับตัวผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ในคลิปดังกล่าว ยังได้แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ทุกรายต่างได้รับบาดเจ็บ แต่มี 2 ราย ที่บาดเจ็บสาหัส และไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงขอให้ส่งรถคันอื่นมาช่วยเหลือโดยเร็ว

ทั้งนี้ หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว พบว่า มียอดกดแชร์ถึง 10,894 ครั้ง และมีจำนวนคนกดไลค์ถึง 12,179 คน (ตัวเลข ณ วันที่ 5 มีนาคม เวลา 10.45 น.) นอกจากนี้ ยังมีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กจำนวนมาก ได้โพสต์แสดงความคิดเห็น เพื่อให้กำลังใจนายทหารในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงอวยพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเจ้าหน้าที่เหล่านี้ให้ปลอดภัยด้วย

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/y2zIuFo0MV0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มาจาก VOICE TV

 

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 6 มีนาคม 2556 ภาค 07.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปยังคงมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย
ในช่วงวันที่ 7-9 มีนาคม 2556 คลื่นกระแสลมตะวันตกจะเคลื่อนจากประเทศพม่าเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (6 มี.ค.56)จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส

ภาคกลางมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกมีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีเมฆเป็นส่วนมาก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 01.14 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 84 เซนติเมตร และเวลา 10.09 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 12 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 04.50 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 71 เซนติเมตร และเวลา 19.18 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 57 เซนติเมตร
วันนี้ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.38 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.27 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เอกสารข่าว เอกสารข่าว
Rewriter : วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท. วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th