{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ข้อคิดคนลองของ

นายพิศาล เตชะวิภาค อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย หรือ ต้อย เมืองนนท์ บอกว่า เคยมีลูกค้าคนหนึ่งเมื่อเช่าพระเครื่องทั้งพระกรุ พระเกจิ รวมทั้งเครื่องราง แล้วอยากรู้ว่าของที่เช่าไปมีพุทธคุณจริงสมคำร่ำลือหรือไม่ แม้จะห้ามไม่ให้ลองแต่เขาบอว่า เงินของเขาและพระของเขาด้วย จึงขัดไม่ได้ โดยเอาพระและวัตถุมงคลไปผูกไว้กับคอไก่จากนั้นก็ใช้ปืนยิงไปที่ตัวไก่ ปรากฏว่าไก่ถูกยิงตายไปว่า ๒๐๐ ตัว ที่ไม่ตายก็มีเพียง ๒-๓ ตัวเท่านั้น ส่วนจะเป็นพระอะไรไม่ขอบอกเพราะจะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อหรือเชียร์พระรุ่นนั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนปรากฏว่าคนที่ลองนั้นเลือดไหลออกจากตาโดยไม่มีสาเหตุ โดยส่วนเชื่อว่าเป็นเพราะกรรมตามทันหรือไปลบหลู่พุทธคุณในองค์พระ

ทั้งนี้ ต้อย เมืองนนท์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "การลองของเพื่อพิสูจน์พุทธคุณนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ไม่เป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องพุทธคุณได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลองด้วยการยิงไปที่องค์พระตามหลักวิทยาศาสตร์ถ้ามือปืนแม่นจริงร้อยทั้งร้อยแตกหักหมด โดยส่วนตัวเชื่อว่าพุทธคุณเกิดขึ้นเฉาะตัวเฉพาะตนเท่านั้น ที่สำคัญคือต้องอยู่บนพื้นฐานของความศรัทธาและปฏิบัติตัวที่ดีของผู้ครอบครองด้วย สรุปแล้วพระจะแสดงพุทธคุณคนแขวนต้องตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมด้วย"

ในขณะที่ นายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส.นนทบุรี บอกว่า เพิ่งเลิกลองของเมื่อกว่า ๑๐ ปี ที่ผ่านมานี้เอง โดยลองมาทุกวัด ทุกสำนัก เรียกว่าเกือบทุกอย่างก็ว่าได้ เหตุผลหนึ่งของการลองของเพราะอยากรู้ว่าพระที่ได้มาซึ่งเป็นสมบัติตกทอดมาจากพ่อเป็นพระเก๊หรือพระแท้กันแน่ เพราะเซียนหลายคนดูบอกว่าเป็นพระเก๊ แต่ตัวเองไม่เชื่อ ดังนั้นต้องยิงเพื่อพิสูจน์พุทธคุณ ครั้งนั้นหลังจากอาราธนาของพุทธคุณแล้วใช้ปืนขนาด ๒๑ มม. ยิงระยะเผาขน ซึ่งอย่างไรก็ต้องโดนองค์พระ ปรากฏว่าองค์พระไม่เป็นอะไรเลย ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าเป็นพระแท้ นอกจากนี้ครั้งหนึ่งก็เคยลองยิงพระหลวงปู่ช่วง ปรากฏว่ายิงไม่ออก ขณะเดียวกันถึงกับไข้ขึ้น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงเลิกลองของอย่างเด็ดขาดจนมาถึงทุกวันนี้

สำหรับวิธีการลองของ นายฉลองเล่าให้ฟังว่า ในช่วงเด็กๆ เคยไปดูการลองของ ในครั้งนั้นผู้ลองเชิญมือปืนระดับทีมชาติมาทดลองยิง มีทั้งการลองยิงพระเครื่องและเครื่องราง เท่าที่จำได้มีเพียงตะกรุดหลวงพ่อทบวัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ยิงไม่โดน จากนั้นก็ลองของด้วยตัวเองซึ่งมีอยู่ ๓ อย่าง คือ ๑.ใช้ปืนยิงไปที่องค์พระ ๒.ใส่ปากปลาดุกแล้วใช้มีดกรีดหรือฟันไปที่ตัวปลา ถ้าฟันไม่เข้าแสดงว่ามีพุทธคุณ และ ๓.ให้งูเห่าฉก โดยเอางูเห่าใส่อ่างจากนั้นนำของที่อยากลองไปล่องูเห่า ถ้าฉกแสดงว่าไม่มีพุทธคุณ ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ เอาพระหรือเครื่องรางผูกกับคอไก่จากนั้นใช้ปืนยิงไก่ แม้วิธีนี้ได้ยินมามากที่สุดแต่ก็ไม่กล้าลอง

 

สวัสดีครับ พี่หนุ่ม
หลังๆ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่
หรือไม่ก็แวะมาอ่านบ้าง แต่ไม่ได้โพสต์เท่าไหร่
เรื่องหลวงพ่อทบกำลังเข้มข้นเลย
ว่าจะชวนให้พี่หนุ่มมาร่วมกันเล่าเรื่องหลวงพ่อคูณกันหน่อย
เพราะเห็นพี่หนุ่มสะสมเอาไว้ไม่น้อย พี่เห็นยังไงครับ
เดี๋ยวร่วมแจมเรื่องหลวงพ่อทบให้ครบถ้วนก่อนครับ

 

เมื่อหลวงพ่อทบถูกฟ้อง
   
หลวงพ่อทบท่านได้สละเวลา สละกำลังกาย กำลังใจ ทุ่มเทสติปัญญาให้กับพระพุทธศาสนาอย่างสุดความสามารถ วัดในละแวกนี้แทบทุกวัด อาจจะพูดแบบไม่เคอะเขินเลยว่า ไม่มีวัดไหนที่หลวงพ่อไม่เคยไปช่วยบูรณะ ซึ่งแต่ละวัดที่หลวงพ่อไปช่วยบูรณะนั้น จะอาศัยเพียงแรงกายแรงใจอย่างเดียวไม่ได้ ที่สำคัญที่สุดก็คือแรงศรัทธาที่ชาวบ้านช่วยกันบริจาคทรัพย์ เพื่อนำมาจัดหาอุปกรณ์ในการก่อสร้าง

ด้วยเหตุนี้งานก่อสร้างของหลวงพ่อจึงรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแต่ละวัดที่องค์หลวงพ่อไปเป็นประธานในการก่อสร้างนั้น จึงใช้เวลาไม่นานนักก็จะสำเร็จและจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก

ถึงแม้ว่าหลวงพ่อจะทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยเพื่อพระพุทธศาสนาเพียงใดก็ตาม ท่านก็หนีไม่พ้นโลกธรรม 8 ในปี พ.ศ.2496 หลวงพ่อถูกพระเพชรบูรณ์คณาวสัย เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ (ขอย้ำนะครับว่าองค์สมัยนั้น ไม่ใช่องค์ปัจจุบันนี้) ได้ทำหนังสือฟ้องหลวงพ่อทบไป กราบทูลถวายสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ซึ่งทางสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานคำฟ้องต่อให้กับสมเด็จพระวันรัต (ปลด กิติโสภโณ) วัดเบญจมบพิตร เพื่อนำเข้าที่ประชุมของมหาเถรสมาคมต่อไป

ที่ประชุมของมหาเถรสมาคมต่างก็ถกเถียงกันอยู่นาน ในที่สุดจึงมีมติให้พระพิมลธรรม (อาจ อาสโภ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ กรรมการเถรสมาคม เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เป็นไปตามคำฟ้องหรือไม่อย่างไร จึงค่อยนำมาพิจารณาในมหาเถรสมาคมอีกครั้ง
พระพิมลธรรมจึงมีหนังสือแจ้งมาให้หลวงพ่อและเจ้าคณะจังหวัดไปให้การที่กรุงเทพฯ (มาถึงตอนนี้หลวงพ่อเล่าว่า ท่านต้องเดินทางจากวัดชนแดน มาขึ้นรถไฟที่ตะพานหินอย่างทุลักทุเล เพราะท่านไม่เคยนั่งรถไฟมาก่อน)

เมื่อทางผู้ฟ้องกับผู้ถูกฟ้องมาพร้อมหน้ากันแล้ว พระพิมลธรรม
จึงเริ่มสอบถามทั้งสองฝ่าย ซึ่งหลวงพ่อท่านก็ได้ให้การไปตามความเป็นจริง โดยท่านได้แก้ข้อกล่าวหาว่า เครื่องรางของขลังเหล่านี้ท่านทำขึ้นจริง แต่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อขาย หากแต่ทำขึ้นเพื่อเป็นการสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์ สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร สร้างกุฏิ และถาวรวัตถุในบวรพระพุทธศาสนา ใครมาขอท่านก็ให้เปล่า ๆ โดยไม่ได้คิดเงินคิดทอง ส่วนญาติโยมเมื่อได้รับเครื่องรางของขลังจากท่านไปแล้ว จะบริจาคเงินช่วยท่านสร้างโบสถ์มากน้อยเพียงใดท่านก็ไม่สนใจ บางคนศรัทธามากก็บริจาคมาก บางคนศรัทธาน้อยก็บริจาคน้อย และบางคนไม่มีศรัทธาอาจจะไม่บริจาคเลยก็เป็นสิทธิของแต่และคน ท่านไม่เคยขอร้อง ขู่เข็ญหรือบังคับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับศรัทธาของญาติโยมทั้งสิ้น

พระพิมลธรรมเรียนถามหลวงพ่อว่า แล้ววัตถุมงคล เครื่องรางของขลังของหลวงพ่อนี่ดีจริง ๆ หรือว่าเป็นแค่คำโฆษณาออดอ้างให้ญาติโยมพากันหลงเชื่อ หลวงพ่อตอบว่า ?เครื่องรางของขลังเหล่านี้ท่านทำตามโบราณกาลทุกประการ ท่านสร้างขึ้นเพื่อให้ญาติโยมนำไปสักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อให้ผู้ที่ได้สิริมงคลของท่านไปได้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรม เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม เป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ ประเทศของเราก็อยู่ดีเป็นสุขตลอดกาลนาน ส่วนที่ท่านเจ้าคุณถามว่าวัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง ที่ผมได้สร้างจะศักดิ์สิทธิจริง ๆหรือว่าเป็นแค่คำโฆษณาอวดอ้าง ผมไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของท่านเจ้าคุณอย่างไร เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ท่านเจ้าคุณลองเอาปืนมายิงผมดูสักทีสิ ถ้ามันไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงก็ให้ผมตายไปเลย?

พระพิมลธรรมเมื่อได้ยินหลวงพ่อตอบอย่างนั้นจึงพูดขึ้นว่าไม่เอาน่าหลวงพ่อ ผมถามหลวงพ่อดูเฉย ๆหรอก? หลวงพ่อทบท่านคงจะขัดใจขึ้นมา จึงล้วงเข้าไปในย่ามหยิบมีดโกนผมออกมายื่นให้กับพระพิมลธรรมทดลองเชือดท่านดู แต่พระพิมลธรรมกลับไม่กล้าทดลอง หลวงพ่อคงขัดใจจึงทดลองเสียเองโดยเอามีดโกนกรีดแขนของท่านเสียงดัง คว๊าก คว๊าก พระพิมลธรรมถึงกับหลับตาปี๋ด้วยความหวาดเสียว พร้อมกับพูดขึ้นว่า ?พอแล้วครับหลวงพ่อ ผมเชื่อแล้ว ผมเชื่อแล้ว?

หลังจากนั้นพระพิมลธรรมจึงได้ยุติการสอบสวนหลวงพ่อเพราะเห็นว่าหลวงพ่อไม่มีความผิด ก่อนที่พระพิมลธรรมจะยุติการสอบสวนท่านยังหันมาพูดกับพระเพชรบูรณ์คณาวสัย เจ้าคณะจังหวัดเพชรบูรณ์ ในลักษณะปกป้องหลงพ่อทบว่า ?ไม่ควรจะฟ้องจะร้องกันเลย เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ ท่านช่วยหลวงพ่อทบสร้างวัดสร้างวาอารามในจังหวัดเพชรบูรณ์จะดีกว่า ที่จะเอาเวลามาฟ้องมาร้องกันเสียอีก วัดวาอารามในจังหวัดเพชรบูรณ์ของท่านจะได้เจริญรุ่งเรืองไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ ?

ขอบคุณ บทความจากเวปเปิดตำนานหลวงพ่อทบ

 

ขอบพระคุณพี่หนุ่ม มากครับที่เผยแพร่เกียรติคุณ องค์หลวงพ่อทบ สรีระที่องค์หลวงพ่อทบ ท่านไม่ให้เผาศพท่าน เหตุผลอีกประการหนึ่ง ถ้าเผาศพท่านแล้ว ท่านบอกว่า วัดจะกับไปร้างอีกครั้ง ถ้ายังสังขารท่านไว้ เด่วลูกศิษย์ก็จะมาสร้างต่อเองแหละ ในสมัยนั้นตอนหลวงพ่อเสีย คนอำเภอชนแดน ต่างแห่กันมาเพื่อจะเอาสรีระขององค์หลวงพ่อกับวัดชนแดน จึงเกิดข้อพิพาทกันเล็กน้อย แต่ก็จบด้วยดีเพราะทางกรรมการวัดช้างเผือกได้ชี้แจงว่า องค์หลวงพ่อทบ สั่งเสียไว้ให้เอาศพของท่านไว้ที่วัดช้างเผือก ต้องทำตามคำสั่งเสียขององค์พ่อทบ เรื่องถึงได้ยุติไม่เกิดเหตุแย่งชิงสรีระของท่านไป ตอนที่ผมกับไปเพชรบูรณ์ล่าสุด คุณอาท่านได้เมตตาเล่าประสบการณ์ที่ท่านเห็นกับตาว่า ทุกๆปี องค์พ่อทบกับองค์พ่อเขียน จะพากันไปเยี่ยมเพื่อนของท่านที่เป็นฆารวาส(เมื่อก่อนเคยบวชแล้วสึกที่หลัง)ที่ จ.พิจิตรเสมอเมื่อมีโอกาส คุณอาในตอนนั้นยังเด็ก เกิดเหตุไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรง ไฟกำลังจะลามมาไม้หมู่บ้าน องค์หลวงพ่อทบ พูดขึ้นว่า ไฟไหม้ป่ารึ หือหือ ว่าแล้วท่านก็เอามือยันต้นไม้ อีกมือเท้าเอว แล้วจ้องไปที่เปลวไฟ ปรากฏอัศจรรย์ ลมเปลี่ยนทิศจากพัดมาทางหมู่บ้านลมพัดตีกับ หมู่บ้านนั้นจึงรอดจากไฟป่ามาได้ครับ กระทู้พี่หนุ่ม ข้อมูลครูบาอาจารย์ในหลายสายแน่นมาก คุณภาพคับแก้วมากครับ ผมขอปรบมือให้พี่หนุ่มครับ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ

 

ตะกรุดธงชาติ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน

หลังจากวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสขึ้นไปทัวร์ที่เชียงใหม่ ได้พบเจอเรื่องเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงพ่อทบที่เราเคารพและศรัทธาโดยบังเอิญ  ซึ่งปกตินั้นผมจะเดินทางเข้าเชียงใหม่ทุกๆอาทิตย์เป็นประจำอยู่แล้วโดยเมื่อวานนี้ก็เดินทางเข้าไป แต่เปลี่ยนเส้นทาง จากเส้น ซุปเปอร์ไฮย์เวย์ มาเป็นเส้นทางสายเก่า ลำพูน-สารภี-เชียงใหม่   ไปพบกับศูนย์พระเครื่องจ่าหนึ่ง  ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยบังเอิญ จึงแวะจอดรถลงไปหวังว่าจะเจอของฟลุคของหลงซักชิ้น สองชิ้น (อิอิ..) และอีกอย่างจะได้เอาพระไปอัดเลี่ยมพลาสติกด้วย ...ระหว่างรอนั้น ก็ได้คุยกับจ่าหนึ่ง (เจ้าของร้าน) จนมาเข้าเรื่องหลวงพ่อทบโดยที่จ่าหนึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมเล่นสายหลวงพ่อทบมาก่อน ซึ่งแกเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยที่แกบรรจุรับราชการเป็นตำรวจยศสิบตรีใหม่ๆนั้น ด้วยวัยกำลังห้าว อยากรู้อยากลอง ชอบเอาเครื่องรางของขลังไปทดสอบลองยิงอยู่เป็นประจำจนเป็นที่รู้จักกันในวงการเขต จ.เชียงใหม่ งานยิงเครื่องรางของขลังเลยกลายเป็นจ๊อบพิเศษของจ่าหนึ่งไปโดยปริยายโดยได้ค่าจ้าง ครั้งละ 2,000 บาท  ซึ่งจ่าหนึ่ง เล่าให้ผมว่า ในชีวิตนี้ยิงตะกรุดมา ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ดอก หลายเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ กระสุนที่ยิงไปไม่ต่ำกว่า 1,000 นัด  มีตะกรุด ที่เคยยิงแล้วไม่ออก อยู่ 3 เกจิอาจารย์ คือ 1. ตะกรุดธงชาติหลวงพ่อทบ 2. ตะกรุดหนังควายครูบาชุ่ม 3. ตะกรุดหลวงปู่โต๊ะซึ่งแต่ละครั้งที่ลองนั้นต่างวาระกัน    โดย1ในปาฏิหารย์ เช่น ตะกรุดหลวงปู่โต๊ะ ยิงไปกระสุนออก แต่ไม่โดนเลย ทั้งที่ระยะห่างไม่เกิน 3 เมตร สุดท้ายลูกปืนก็ยิงไม่ถูก ตะกรุดก็หายไปโดยไม่มีสาเหตุ  2.ตะกรุดหนังควายครูบาชุ่ม ยิง 3 นัด โดย 2 นัดแรก ยิงไม่ออก นัด 3 ยิงออกแต่ไม่โดน (จะว่าไม่แม่นก็ไม่น่าจะใช่ เพราะตะกรุดเกจิอาจารย์ท่านอื่นกระเด็นมาก็เยอะ)   3.ตะกรุดลายธงชาติหลวงพ่อทบ ซึ่งก่อนยิง นั้นก็จะเหมือนทุกๆ ครั้ง คือ จะมีเครื่องเซ่นไหว้ ขอขมาครูบาอาจารย์  ปิ๊บน้ำมันก๊าส กระดาษA4 กาว 2 หน้าไว้แปะติดตะกรุด ส่วน ระยะห่างยิงนั้น ไม่เกิน 3  เมตรเหมือนเดิม  ซึ่งการยิงตะกรุดหลวงพ่อทบ ก็ทำเป็นปกติเหมือนที่เคยยิงของเกจิอาจารย์ท่านอื่นที่ผ่านมา แต่ปัญหา คือ กระสุนด้านยิงไม่ออก ทั้ง 6 นัด เป็นที่งุนงงมาก   โดยจ่าหนึ่งเองนั้นก็แทบจะไม่เชื่อตัวเองสายตาตัวเองเหมือนกัน และได้ลองเปลี่ยนกระสุนใหม่ยิงอีก 1โม่ 6 นัด ก็ยิงไม่ออกอีกเช่นเดิม รวมกระสุนที่ยิงทั้งหมด 2 ลูกโม่ 12 นัด ...กลับกันพอเอาปืนกระบอกเก่าที่ลองยิงตะกรุดยิงขึ้นฟ้า ก็ออกเป็นปกติ+ เอาลูกปืนเก่า 6นัดก่อนหน้านี้ บรรจุลองใหม่ ก็ยิงออกหมด ฟังแล้วทำให้ผมขนลุกซ่าส์ มาก ซึ่งแก ก็เอาปืนที่ยิงออกมาให้ผมดูด้วย เป็นปืนลูกโม่ สภาพสมบูรณ์ไม่มีชำรุด.... หลังจากนั้นมา ตะกรุดธงชาติดอกนี้ มีคนมาขอซื้อต่อหลายคน แต่เจ้าของไม่ขาย ซึ่ง 1ในผู้อยู่ในเหตุการณ์ลองยิงตะกรุดนั้น คือ คุณเชน เชียงใหม่ ขาใหญ่สายเครื่องรางของขลัง นาม7EAST(ขออนุญาติอ้างอิงนะครับ)  เพื่อนๆ คงเคยได้ยินมาบ้างนะครับ เรื่องจริงที่ฟังแล้วไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ซึ่งผมก็ได้เรียบเรียงเรื่องจริงที่ได้ยินมาเล่าให้พี่น้องสมาชิกได้ฟัง เพียงเท่านี้ ผิดถูกไม่เข้าใจประการใด ต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วย
         อนึ่ง..ซึ่งการทดลองยิงตะกรุดนี้ไม่ขอแนะนำให้เพื่อนๆไปลองกันนะครับ เวรกรรมมีจริง ซึ่งผลกรรม(ขออนุญาติไม่เล่านะครับ) ของจ่าหนึ่งที่ได้รับนั้น ถึงกับทำให้จ่าหนึ่งต้องสาบานเลิกกินเนื้อสัตว์ไปตลอดชีวิต โดยปัจจุบันจ่าหนึ่งเลิกยิงตะกรุดและเลิกกินเนื้อสัตว์มา 3 ปีแล้ว 

  หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ หลวงพ่อยอดนักพัฒนาและยอดพระเกจิผู้เรืองเวทพระสงฆ์ที่ชาวเพชรบูรณ์ ภูมิใจ น้องกราบได้อย่างสนิทใจ  จากรุ่นพ่อ สู่รุ่นลูก..และรุ่นหลาน  หากจะเปรียบหลวงพ่อเป็นเพชรน้ำเอกแห่งเมืองมะขามหวานเพชรบูรณ์ คงมิมีผิด ...เราท่านทราบแต่เพียงว่า วัตถุมงคลของท่านนี้ ดีเด่น ในทางแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กลับร้ายให้เป็นดี  มีเมตตามหานิยม อีกทั้งยังมีมากรุ่นและแตกต่าง...ราคาในความนิยมของแต่ละรุ่น ด้วยเหตุที่ว่าของดีมีคุณภาพ จึงมากกับความต้องการ...เพื่อให้เพียงพอกับชาวบ้านและความต้องการของลูกศิษย์ ลูกหา   หากแต่อยากกราบเรียนให้ทราบว่า  หากศึกษาดูจากอัตชีวประวัติของหลวงพ่อทบ เมื่อครั้งท่านยังครองสังขาร อยู่นี้แล้วนั้น คงจะหามีพระสงฆ์รูปใด ที่มีบารมีธรรมเป็นศูนย์รวมดวงใจของชาวบ้านในถิ่นทุรกันดาร...และมีคุณอนันต์แก่พระพุทธศาสนา เสมอเหมือนพระคุณเจ้าท่านธมมปัญโญ นั้นคงมีน้อยนัก ...หลวงพ่อทบพระยอดนักพัฒนา(เมื่อสมัยหลวงพ่อครองสังขารอยู่  จ.เพชรบูรณ์หาใช่เจริญอย่างทุกวันนี้ไม่...วัดที่ท่านสร้างริเริ่มพัฒนา ล้วนทุรกันดารลำบากแทบทั้งสิ้น..) ท่านมิยึดติดในทรัพย์สิน ครองเพศพรมจรรณ์อยู่ในร่มกาสาวพัตร์ในบวรพระพุทธศาสนา..จวบจนละซึ่งสังขาร วัดที่ท่านสร้าง จึงมีจำนวนมิใช่น้อย ทั้งโบสถ์-ศาลา นับสิบวัด มิคำนึงว่าวัดของฉันหรือของใคร นี่แหละครับ หลวงพ่อทบธัมมปัญโญที่ผมเคารพและศรัทธา ...  ณ.เขตพื้นที่สีแดง (เขตขัดแย้งระบบการปกครอง) สมรภูมิรบเขาค้อ มิแน่จริง อยู่ไม่ได้ครับ เพชรบูรณ์ เมื่อยุคสมัยก่อน

ขอขอบคุณ จ่าหนึ่ง จสต.สุวัฒชัย ชำนาญเอื้อ  สภ.สารภีมากๆครับที่อนุญาติให้นำเอาประสบการณ์ในชีวิตจริงมาลงให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน

อ้างอิง โอ หล่มสัก

 

หลวงพ่อทบ หน้าฝรั่งฐานสูง 2491 แห่งวัดศิลาโมง

พี่หนุ่มประกาศเกียรติคุณองค์หลวงพ่อทบ ผมดีใจมากครับ ผมจึงฝากรูปหล่อเบอร์ 1 ในสายนี้ไว้ให้เพื่อนๆพี่+น้องไว้ศึกษา กันทุกมุมมอง ในรูปหล่อโบราณที่แท้พันตา สภาพ งดงาม คม ชัด ลึก ประหนึ่งพระไม่ได้ใช้มาครับ อีกองค์ของคุณชื่อtoeykengผมขออนุญาติเขาไปนานแล้วเซฟเก็บไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษา 2องค์นี้แท้พันตาครับ บล๊อกเดียวกันอย่างที่ปฏิเสธไม่ได้เลยทีเดียวครับ(พอดีไปเห็นชื่อเจ้าขององค์ซ้ายมือของจอเลยเข้ามาแก้ไขพิมพ์ชื่อเขาเพิ่มครับ)

 

องค์หลวงพ่อเขียน+องค์หลวงพ่อทบ

สุดยอด พระเกจิ แห่งเมืองพิจิตร.เทพเจ้าแห่งวาจาสิทธิ์1.กับสุดยอดพระเกจิ แห่งเมืองมะขาวหวานเพชรบูรณ์ เทพเจ้าแห่งความขลัง1.

 

ขอคารวะท่านปรมาจารย์หลวงพ่อทบ
ตัวจริงเสียงจริงครับ (f)(f)(f)

 

หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ พักรักษาอาการอาพาธอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ล่าสุดเสมหะลดลงอาการโดยรวมดีขึ้นรับอาหารได้ดีไม่มีไข้ แต่ยังเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิด วันนี้ (27 ก.พ.)



       ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หลวงพ่อคูณ” เสมหะลดลง อาการโดยรวมดีขึ้น รับอาหารได้ดีไม่มีไข้ แต่ยังเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนใกล้ชิด และงดเยี่ยมต่อ ด้านแพทย์ประจำตัวเผยสดชื่นขึ้นมาก หลังได้นั่งรถเข็นไปพบปะญาติโยม และสูดอากาศนอกห้องผู้ป่วย แต่บ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ตลอดเวลา
       
       วันนี้ (27 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบ ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
       
       ล่าสุด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศฉบับที่ 10 เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ระบุว่า ตามที่พระเทพวิทยาคมได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ผลการตรวจของคณะแพทย์ในวันนี้ สรุปได้ดังนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นทำให้เสมหะเริ่มลดลง อาการโดยรวมดีขึ้น สัญญาณชีพปกติ รู้ตัวดี รับอาหารได้ดี ไม่มีไข้ คณะแพทย์ให้การรักษาแนวทางเดิม และยังคงเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆ โดยใกล้ชิด และให้งดการเยี่ยมอาการอาพาธเพื่อให้พระเทพวิทยาคมได้พักผ่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
       
       ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า อาการโดยรวมของหลวงพ่อดีขึ้นมาก ไม่มีไข้มานานร่วม 1 เดือน ภาวะหลอดลมอักเสบหายเป็นปกติแล้ว และไม่พบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เกิดขึ้น
       
       ทั้งนี้ หลวงพ่อมีใบหน้าสดชื่นขึ้นมากหลังจากให้ท่านนั่งรถเข็นออกไปสูดอากาศภายนอกห้องผู้ป่วย และลงไปพบปะกับญาติโยมที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งให้อยู่ห่างไม่ต่ำกว่า 2 เมตร เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน ขณะเดียวกัน ได้เร่งฟื้นฟูร่างกายด้วยการทำกายภาพบำบัด และปั่นจักรยานไฟฟ้าทุกวัน อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อบ่นอยากกลับวัดบ้านไร่อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากปรับปรุงกุฏิที่วัดบ้านไร่แล้วเสร็จก็จะหารือเรื่องการกลับวัดทันที
       
ที่มา ผู้จัดการ 27/2/56   
       
       

 

น้อบกราบองค์หลวงพ่อทบ
เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำป่าสัก
สุดยอดเกจิเมืองเพชรบูรณ์ค่ะ

 

สุดยอด !!!

 

ผมต่างหากครับที่ต้องขอบพระคุณพี่เคอย่างสูง
ที่ผมกล้าเช่าทั้งพระเครื่องทั้งตะกรุดของหลวงพ่อทบ
นอกจากศรัทธาที่ผมมีต่อองค์หลวงพ่อทบแล้ว
ก็เพราะความเชื่อมั่นที่ผมมีต่อพี่เค พี่ชายใจดีคนนี้แหละครับ
ที่กรุณาช่วยผมให้ความเห็นและข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย
เห็นภาพพี่เคแล้ว ยังงงอยู่หน่อยครับ ทีแรกคิดว่าจะมีอายุกว่านี้ซะอีก
ผมก็เป็นคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนกันครับ แต่ชอบจริงๆ เลย
เรื่องการอ่านและศึกษาพระเกจิคณาจารย์ต่างๆ
พอศรัทธาพระองค์ไหนก็อยากจะเล่าเรื่องราวที่ได้อ่านที่ศึกษามา
ให้เพื่อนๆ ที่ชอบพระเครื่องและศรัทธาในพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
แต่ก็ในฐานะนักสะสมเท่านั้น ยังไม่อาจเทียบกับพี่เคและกระทู้ของพี่
ที่แสดงถึงความเป็นผู้รู้จริงในวัตถุมงคลของหลวงพี่ทบ
และศรัทธาอย่างแรงกล้าที่พี่มีต่อองค์หลวงพ่ออย่างบริสุทธิ์
และปราศจากเจตนาอื่นแอบแฝง นับถือจากใจจริงของน้องคนนี้ครับ
ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่พี่เค กรุณานำภาพพระหลวงพ่อทบหน้าฝรั่ง
องค์แชมป์มาลงในกระทู้ผม เพื่อให้เพื่อนๆที่แวะเข้าไปชมได้มีโอกาส
ในการศึกษาพระแท้องค์งามๆ กันครับ

 

ขอขอบพระคุณพี่เคอย่างสูงครับ
ที่ให้เกียรตินำรูปหล่ออันดับหนึ่ง
ขององค์หลวงพ่อทบมาลงให้ชมและศึกษากัน
อย่างนี้ต้องขอขยายสถานเดียวครับ


(ping-love(tm-love)(ping-love(tm-love)(ping-love(tm-love)(ping-love(tm-love)

 

ขอบคุณพี่ boy1984 ที่แวะมาเยี่ยมเยือนครับ
สำหรับพระหลวงพ่อทบนั้น รบกวนพี่ลงสอบถาม
ในกระทู้ของพี่เค (คิงคอง99) อาจารย์ของผม
น่าจะดีกว่าครับ เพราะพี่เขาดูขาดเลยแน่นอน
สำหรับพระสมเด็จองค์แรก ผมเห็นว่าธรรมชาติความเก่ายังไม่ได้
เพราะเนื้อพระยังไม่แห้งถึงยุค ที่อายุถึงร้อยกว่าปีครับ
สำหรับสมเด็จเกศไชโย ภาพยังไม่ชัดเจน
จึงยังไม่ขอออกความเห็นครับ

 

ขอบคุณมากๆๆครับ

 

ผมยินดีกับคุณหนุ่มและเพื่อนๆด้วยครับ ที่ครอบครองเหรียญทูลเกล้าไว้ก่อน เพราะราคาตลาดเพชรบูรณ์ ขึ้นไปอีกแล้วครับจากเดิม ไม่มีโค๊ต5พัน พองานประกวดที่เพชรบูรณ์ไม่มีโค๊ต หน้าตู้เซียนเปิด13000เฉยเลย แต่วงนอกที่ไม่ใช่เซียนก็ยังยอมปล่อย7-8พันก็มีขนาดไม่มีโค๊ตนะครับ ส่วน โค๊ตท.ใหญ่กับ ท.เล็ก ก็แพงขึ้นไปอีกครับสูสีทิ้งกันไม่มากระวังเหรียญที่เปิดผิดราคาจากเซียนนะครับ เตือนไว้ว่า เก๊เริ่มดีวันดีคืนครับผมเห็นมาแล้วครับเพื่อนๆ

 

ขอบพระคุณมากครับ พี่เคที่กรุณา updated ราคาเหรียญทูลเกล้าให้ทราบ
13,000 บาท สำหรับเหรียญที่ไม่มีโค๊ต ต้องถือว่าแพงมากๆ ครับ
ถ้างั้นเหรียญที่ลุงโจได้ไปเมื่อไม่นานนี้ก็ต้องถือว่าเช่าได้ในราคาที่ย่อมเยาว์ทีเดียว
เพราะเหรียญสวย ส่วนผมก็ต้องถือว่าโชคดีที่ยังเช่าไว้เหรียญนึงก่อนแล้ว

 

สวัสดียามเช้าครับคุณหนุ่มและเพื่อนๆทุกคน โชคดีมากแล้วครับที่รีบบูชาเหรียญที่ดีที่สุด สร้างได้เหมือนองค์หลวงพ่อที่สุดกันไว้นะครับ ต่อไปของแท้ก็จะหายากขึ้นเพราะคนบูชาออกนอกพื้นที่กันเยอะจริงๆครับรุ่นนี้ ฝนตกทั้งคืนเลยจนมาถึงเช้าก็ยังไม่หยุด อากาศเย็นมากครับ*-*