นักวิทย์ส่อค้นพบ "สสารมืด" อีก 2 สัปดาห์ประกาศข่าวใหญ่

นักฟิสิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ เตรียมประกาศข่าวใหญ่ของโครงการค้นหาสสารมืดในอวกาศ ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า หลังจากได้รับผลการตรวจสอบของเครื่องตรวจสเปกตรัมอัลฟาแม็กเนติก...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า ซามูเอล ติง นักฟิสิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และหัวหน้าโครงการค้นหาปฏิกิริยาสสารในอวกาศด้วยเครื่องตรวจสเปกตรัม อัลฟาแม็กเนติก (Alpha Magnetic Spectrometer : AMS) เผยว่าจะมีการประกาศเรื่องใหญ่ในโครงการค้นหา ดาร์ก แมทเทอร์ หรือสสารมืด (Dark Matter) ในอีกสัปดาห์ข้างหน้า

นายติงกล่าวที่งานประชุมประจำปีของ สมาคมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกาว่า ข้อมูลแรกที่ได้จากเครื่อง AMS จะถูกตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า โดยในรายงานฉบับแรกนี้จะเป็นการระบุว่า พบปฏิกิริยาอนุภาคอิเล็กตรอนและโพซิตรอนอย่างละเท่าไร และพลังงานของทั้งสองอนุภาคเป็นอย่างไร แต่เขายังไม่ยอมบอกว่า อะไรคือผลลัพธ์การทดลองนี้ค้นพบกันแน่ ระบุเพียงว่า ผลลัพธ์ที่ได้มีผลกระทบต่อปริศนาของสสารมืด ที่เป็นความลับมานาน "มันไม่ใช่กระดาษแผ่นเล็กๆ" นายติงกล่าว และว่า การค้นพบครั้งนี้สำคัญขนาดที่นักวิทยาศาสตร์ ต้องเขียนสรุปผลใหม่ถึง 30 รอบจึงมั่นใจในคำตอบ

ทั้งนี้ เครื่อง AMS ถูกพัฒนาขึ้นมาด้วยค่าใช้จ่ายถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.97 หมื่นล้านบาท) เพื่อตรวจจับการก่อตัวของโพซิตรอนและอิเล็กตรอน จากการประลัยของสสารมืดในทางช้างเผือก เครื่องนี้ถูกติดตั้งที่สถานีอวกาศนานาชาติเมื่อเดือนพ.ค. 2011 และตรวจจับปฏิกิริยาอนุภาคได้แล้วถึง 2.5 หมื่นล้านครั้ง รวมถึงปฏิกิริยาอนุภาคของอิเล็กตรอนและโพซิตรอนอีกราว 8 พันล้านครั้ง

อย่างไรก็ดี นายติงย้ำว่า ผลที่ได้เป็นเพียงก้าวเล็กๆ ในการไขปริศนาตัวตนของสสารมืด และอาจจะไม่ใช้คำตอบสุดท้ายด้วย

http://www.thairath.co.th/content/oversea/327539

 

มันมาจากไหน จะไปที่ใด ใครรู้บ้าง สสารไรเนี่ย ชื่อนี้พวก Light worker ต้องขยาด

 

เอ เท่าที่จำได้ จากสารคดี AAB สะสารมืด นี่เขาว่า มันเป็น พลังงาน
ชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับ นาฬิกาบิกแบง

มันเป็น พลังงานที่ผลักดัน ขับดัน ให้ ทางช้างเผือก ไป ขบเหลี่ยม หรือ
ชนเข้ากับ แอนโดรเมดร้า ตรงนี้ทำให้ทราบว่า ขอบเขตของพลังงาน
สะสารมืดที่กระทำอยู่ มีระยะหรือขอบเขตใหญ่กว่า ระบบกาแลคซี่ ไม่รู้
เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ใหญ่กว่าม๊ากกกก

ทีนี้ เขาสัณนิฐานว่า มันเกิดพร้อม บิกแบง และ หน้าที่ของมันคือทำให้
ระบบอะไรก็ตามที่เกิดจาก บิ๊กแบง เมื่อครั้งระเบิด มันขยายตัวออกไป
ขยายออกไป ขยายไปเรื่อยๆ จนถึง จุดๆหนึ่ง ก็จะ พรึ๊บ กลับมารวมเป็น
เมล็ดพันพักกาด (บิกแบง) เพื่อระเบิดอีกครั้งหนึ่ง

ตอนขยาย หรือ เกิดระบบ กาแลตซี่ มันก็ขยายไปเรื่อยๆ ใครชนใคร ใครขบใคร
ก็เป็นเพราะ มันขยาย และ เคลื่อนไปเรื่อยๆ

แต่ อีตอน ดับกลับมารวมเป็น เมล็ดพักกาด บิกแบง จะรวดเร็ว

เหมือน การเป่าลูกโป่ง ตอนเป่ามันจะขยายช้าๆ แต่ ตอนแตกโพล๊ะ
ก็รวมลงมาเป็นชิ้นเล็กๆ เลย

ทีนี้ พวก มนตด มันก็แค่ สัตว์ ใน กาแลคซี่อื่น หากเกิดการ ยุบตัว
ของสะสารมืด มนตน ก็ มะรอด ตายไปพร้อมกัน เหมือนตลิ่งที่ถูก
ซึนามิซัดตายตกไปตามกัน ฉะนั้น

 

สสารมืด >> สสารมืด ที่เป็นความลับมานาน จะไม่ลับอีกต่อไปน่าติดตามครับ

 

ถ้าข่าวเขาออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว รบกวน นำมาลงให้อ่านด้วยครับ ติดตามด้วยครับ

 

น่าจะคนละอันกันนะคับ ตัวที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับกับการขยายตัวของจักรวาล คือ พลังงานมืด (dark energy)

แต่ในข่าวตัวนี้คือ สสารมืด (dark matter) ตัวนี้เป็นตัวที่นักวิทยาศาสตร์เอามาอธิบายการเคลื่อนที่ของระบบใหญ่ๆอย่าง แกแลคซี่ ซึ่งการเคลื่อนที่ไม่เป็นไปตามทฤษฏีสัมพันธภาพทั่วไป

เช่น เราพบว่าบริเวณรอบนอกของทุกแกแลคซี่ดวงดาวจะมีน้อยและห่างกันมากเกินกว่าที่แรงโน้มถ่วงจะดึงมันอยู่ในวงโครจรได้ ดาวพวกนี้น่าจะหลุดออกจากระบบไป เค้าจึงตั้งสมมุติว่ามันมีสสารบางอย่างที่เรามองไม่เหนแต่มีมวลอยู่ทำให้ด้านนอกของจักรวาลมีมวลพอที่ดวงดาวจะโคจรอยู่ในแกแลคซี่ได้

 

โดนฝรั่งหลอก อีกรึป่าวเนี่ย

 

ธาตุน่ะครับ ไปยุ่งเขามากก็อันตราย

 

คงไม่หลอกหรอกครับ ถ้ามีการหลอกกันจริง คงไม่มีเทคโนโลยีที่ใช้กันในปัจจุบัน
คิดเอาเอง "บั้งไฟพี่ไทย จรวดฝรั่ง" 555

 

เเล้วจิตทุกดวงของทุกคน มันเป็นธาต่สว่างเเจ่มจ้าเจิดจรัส
พิพัฒนมงมงคลสมบูรณ์พูลผล ไม่ฮือฮากันบ้างหรือ?!
จิตสว่างใครรู้ได้?ก็ผู้ที่ถูกจิตครองอยู่เท่านันที่จะรู้ได้ คน
อื่นมองไม่เห็นด้วยหรอก ความอัศจรรย์นี้พระอริยสงฆ์สาวก
ของพระพุทธเจ้ากล่าวไว้ตรงกันหมด!!เเต่ไม่ฮือฮา !!

 

ต้องเขียนว่า ถ้าเป็นไปตามทฤษฏีแรงโน้มถ่วงแบบนิวตัน และ แบบสัมพัทธภาพทั่วไป มวลสารมันต้องมีมากกว่านี้ จึงจะทำให้ระบบแกแลคซี่มันเคลื่อนที่อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ได้ ถ้าเขียนแบบคุณInwpowerเขียนถ้าไม่ระวังคนที่ไม่เคยไกด้ยินได้ฟังมาก่อนเขาจะเข้าใจว่าทฤษฏีใช้การไม่ได้ ทันทีครับ จริงๆๆไม่ใช่ แต่เป็นถ้าใช้การได้มันต้องเป็นแบบนี้


ประเด็นคือมวลสารมันหายไป หรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็นที่จะส่งผลให้เกิดสนามแรงโน้มถ่วงที่แรงพอที่จะทำให้กาแล็กซี่มันเคลื่อนที่ในแบบที่เราสังเกตุการณ์บนโลกได้
ดังนั้นเขาจึงคิดว่า มีมวลสารอีกประเภทที่ไม่ทำอันตรกิริยากับแรงแม่เหล็กไฟฟ้าหรือแสง เราเลยมองมันไม่เห็น แต่มีผลของแรงโน้มถ่วงตามเดิมเหมือนสสารปกติ ซึ่งเป็นมวลส่วนใหญ่ของจักรวาล

เป็นสสารพิเศษที่มีนอกเหนือไปจากธาตุพื้นฐานร้อยกว่าธาตุในตารางธาตุครับใครพบก็รางวัลโนเบลอย่างเดียว หรือ ทีมไหนพบก็หัวหน้าทีมเตรียมตัวซ้อมรับรางวัลโนเบลได้เลยครับ


ส่วนเรื่องพลังงานมืดเข้าใจถูกแล้วครับ แต่จริงๆๆสสารและพลังงานมันเป็นสิ่งเดียวกัน มันไม่มีเส้นแบ่งที่แน่ชัดครับ และขอเสริมว่าทุกวันนี้เขารู้กันแล้วว่า จักรวาลจะไม่ขยายไปที่จุดๆๆหนึ่งแล้วยุบตัวลงมา แต่จะขยายไปเรื่อยๆๆไม่มีวันหยุดจน กาลอวกาศค่อยๆๆฉีกขาด และ ค่อยๆๆเสื่อมสลายไปเรื่อยๆๆๆตามกฏข้อที่สองของเทอร์โมไดนามิสก์ มันจะไม่ยุบตัวเข้ามา เรียกว่าเป็นบิ๊กฟรีด์ ทั้งนี้เพราะมีเจ้าพลังงานมืดนี่เองที่คอยต้านแรงโน้มถ่วงไม่ให้ดึงทุกสิ่งกลับมารวมกันอีกครั้ง เรื่องพลังงานมืดนี่ดูเขาจะแน่ใจตั้งแต่ปี 2004 แล้วครับ

 

จะรออ่าน

 

ค้นหาและทำลายความมืด ในใจของเรา ให้สว่างไสว ขัดเกลาจนเป็นประภัสสร แจ่มแจ้งในทุกกฏเกณฑ์ในจักรวาล ก็พอแล้ว เพราะอายุขัยแห่งจักรวาล ก็อยู่ภายใต้กฏแห่งไตรลักษณ์เช่นกัน....เราคือจักรวาล จักรวาลก็คือเรา นั่นแหละน้อ

 

รอผลๆ

 

ในจักรวานนี้ สสารที่เรารู้จัก มีเพียง 4%

อีก 96% เป็น สสารมืด

ความรู้ของเรานี่ช่างมีขอบเขตจำกัดเสียเหลือเกิน

 

ด้านมืดมีมากกว่าด้านสว่างมานานแล้ว อย่าไปใส่ใจกับมันมากนักเลย สาธุๆๆ:book)({)

 

ช่วงนี้ให้สสารมืดเก็บตัวก่อน อย่าเพิ่งให้ข่าวกับสื่อมวลชน555

 

เลย 2 อาทิตย์แล้วนะ
สงสัยกล้วว่าจะเสียเงินกว่า 6 หมื่นล้านบาทไป เลยต้องมีผลงานอะไรออกมาบ้าง ให้คุ้มค่าเงิน

 

สสารมืด

น่าสนใจมากครับ

 

รอ อ่านครับ