จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญ กับคุณจ้า จิตบุญ ดวงที่ ๑๓๔ ครูผู้สอน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ
     
  2. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    วันนี้เป็นวันที่เขาจัดให้เป็นวัน"แห่งความรัก" ก็คือให้สมมุติขึ้นมาว่าเป็นวัน"วาเลนไทน์" แต่จริงๆแล้วนั้น การมีความรักก็เป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลกที่เกิดมาแล้วก็ต้องเป็นไปตามธรรมชาติของคน สัตว์ ที่จะต้องมีการสืบเผาพันธุ์เอาไว้... กลายเป็นครอบครัวที่เป็นความรักเกิดจากคนสองคนได้ตกลงปลงใจที่จะร่วมกันเดินทางไปและถ้าคนๆนั้นได้เจอคนที่มีคุณธรรมสูงไม่ว่าหญิงหรือชายก็จะประคับประครองครอบครัวให้เดินไปถึงจุดหมายปลายทางคือ "ครอบครัวก็จะอบอุ่น" แต่ถ้าเจอคนที่ไม่ได้มีคุณธรรมก็ไม่ต่างอะไรกับการลงทุนแล้วศูนย์เปล่า...เพราะเสียทั้งเวลาและอนาคต เพราะฉะนั้นการจะรักใครสักคนก็ต้องดูหรือศึกษากันให้ดีๆก่อนเพราะคนเราทุกวันนี้ความอดทนต่อกันมีน้อยมากจึงได้มีการหย่าร้างกันเยอะมากเพราะสังคมเปลี่ยนไป... แต่ถึงอย่างไรโลกนี้ก็ยังคงจะต้องมีความรักให้กันต่อไปเพราะเราอยู่ในสังคมคนเดียวไม่ได้เพราะมนุษย์ต้องอยู่เป็นกลุ่มชน และจะต้องรักและเมตตาต่อกัน และในวันนี้ก็เป็นวันแห่งความรักผู้เขียนขออวยพรในสิ่งดีๆต่อทุกๆท่านขอให้ท่านได้มีความรักและความเมตตาต่อกัน เหมือนพี่ๆน้องๆซึ้งเกิดมาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในโลกใบนี้ทุกๆคนด้วยเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2013
  3. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    ขอโมทนากับจิตบุญ ๑๓๔ และครูผู้สอนทุกท่านด้วยครับ


    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
  4. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976

    ขออนุโมทนา สาธุ กับคุณtjs ท่านกล่าวถูกต้องแล้วถ้าขาด ๓ อย่างนี้ก็จะไปไม่ได้ถึงจุดหมายเพราะธรรมทั้งสามอย่างนี่ก็เหมือนเชือกที่พันกันไว้...คือแกะไม่ออกต้องกลมกลื่นไปด้วยกันแล้ว... ในสมัยพระพุทธกาลนั้นท่านก็ได้เกิดขึ้น "รัตนะ" คือสามอย่างเกิดขึ้น"พระรัตนตรัย"นั้นก็คือ"แก้วสามประการ" คือ "พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์" ได้เกิดในพระศาสนาแล้วแก้วสามประการก็เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มหาศาลอย่างที่จะหาอะไรมาเปรียบได้เพราะมีค่าอย่างล้นพ้นต่อผู้ได้รับเอาแก้วสามประการนี้มาไว้เพื่อรักษาเราให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง จึงขออนุโมนา สาธุค่ะ
     
  5. ข้าวฮาง

    ข้าวฮาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +608
    เพจจ์ 602 นองบุญ หนุนจิต คิดดี หนีเลว เหวไม่ลง คงสัจย์ วาจายัง แน่นหนา พาพ้อง ไปสุด แดนหฤหันต์ นิพพานดลฯ

    สาธุฯ ตามกาล มารมา ช่างมัน ขันกลอน สอนจิต สาธุ ทุกจิตบุญเอยฯ
     
  6. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    การทําความดีนั้น... ถ้าคนที่ทําด้วยใจจะเป็นคนที่มีความสุขและความสบายใจ... คือพูดง่ายๆก็คือทําแล้วมีความสุขนั้นเอง... แต่ถ้าคนที่ทําไปเพราะฝืนคือไม่มีใจอยากจะทําก็จะไม่มีความสุขเลยเพราะใจเขาไม่เป็นไปด้วยนั้นเอง... จึงต้องถามใจตัวเองดูชิว่า... ทําแล้วสบายใจไหม?ถ้าสบายนั้นแหล่ะท่านมีใจแล้ว... เพราะการกระทําอะไรทุกๆอย่างอยู่ที่ใจเพราะ"ใจเป็นใหญ่ในการทั้งปวง"และการปฏิบัติก็เช่นกันถ้าไม่มีใจแล้วคือใจไม่ชอบไม่ศรัทธาแล้วก็ยากที่จะสําเร็จได้ขอให้ท่านจงถามใจว่า...ใจชอบอะไรแล้วก็จะทําสิ่งนั้นค่ะ
     
  7. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    อนุสงฆ์ของหู ๗ อย่าง คือ
    ๑.ได้ฟังเสียงดี-ชั่ว ของคนชัด สัตว์สําราญ สังขารทั่วไป
    ๒.ได้ยินเสียงคน-สัตว์ ในป่า บ้าน เมือง นํ้า บก ขัง ปล่อย
    ๓.ได้ฟังเสียงธรรม-วินัย ธรรมดา ธรรมชาติ ระเบียบการ
    ๔.ไดยินเสียงยาว-สั้น แห่งสรรพสิ่งของจักรวาลนั้นๆ
    ๕.ได้ฟังเสียงหนัก-เบา ของฆ้อง กลอง ดนตรี สัทธรรม
    ๖.ได้ยินเสียงนินทา-ยกย่อง โลกธรรม ๘ ของโลกีย์วิสัย
    ๗.ได้ฟังเสียงให้-เอา ของมนุษย์ เทพ พรหม เปตร นรก
    ที่มา หนังสือ ธรรมะสาระของชีวิต
     
  8. sweetwhiterose

    sweetwhiterose Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +77

    Happy Bhramviharn four day.
    :))

    ความรัก แบบหนุ่มสาว แฟน ผัวเมีย มัน เป็นทุกข์ เพราะ มันไม่เที่ยง มันเสื่อมได้ มัน build อารมณ์กันขึ้นมาได้ มันมีทั้งแบบคาดหวัง เอาชนะ อวดผู้คน ลองดี จำยอม จำใจ ตามความเชื่อ เพื่อเลือก ตามกระแส ฯลฯ ความรักที่แท้จริง เป็นแบบพรหมวิหาร ๔ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็น "ความรักที่ไม่มีเงื่อนไข" เมื่อจิตว่าง หรือ ใจโล่งสติต่อเนื่อง พรหมวิหาร ๔ จะไหลเข้ามาเอง เกิดเอง ถ้าขาดสติ จะเป็นพรหมวิหาร๔แบบ fake ฝืนๆ buildเอง มีเงื่อนไข มีความกลัว มีพิพากษา ฯลฯ credit : ดร. วรภัทร์ ภู่เจริญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2013
  9. sweetwhiterose

    sweetwhiterose Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +77
    "ความรัก" ก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ ทางที่จะไม่ให้มือพอง เพราะไฟเผา มีอยู่ทางเดียว คือ อย่าจับไฟ อย่าเล่นกับไฟ ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียว คือ "อย่ารัก"

    พระอานนท์ พุทธะอนุชา
     
  10. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ...มีชีวิต...เพื่อสร้างความดีงาม

    มีคำถาม เพื่อตอบความสงสัย

    มีธรรมะ ก็เพื่อขัดเกลาจิตใจ

    มีสิ่งใด จะงามเท่าคุณความดี

    ...เมื่อใดที่มีการท้อแท้ในการสร้างบุญ

    หรือทำคุณงามความดี อาจถูกกระทบโดยผู้ที่มีความเห็นผิด

    ไม่ว่าจะถูกล่วงเกินโดยไม่พูดก็ดี หรือสิ่งใดก็ดีขออย่าได้หวั่นไหว

    ให้ระลึกนึกถึงบุญที่เราเคยสร้างไว้มากๆ ทำจิตให้มั่นคงในบุญ

    ในคุณของพระศรีรัตนตรัย แล้วทุกอย่างจะผ่านไปเองโดยดี.

    ธรรมะศึกษา...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2013
  11. Pugsley

    Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +4,825
    [​IMG]
     
  12. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ความห่วง...เป็นสิ่งที่ผูกพันธ์ของชีวิตเรา

    ไว้อย่างแยกไม่ได้ แต่คนส่วนมากที่ตอบตัวเองไม่ได้ว่าอะไรคือ

    สิ่งที่ตนต้องการ และอะไรคือสิ่งที่เราควรเดินเข้าไปหา

    ตราบใดที่ยังตอบตัวเองไม่ได้ เราก็จะต้องดำเนินชีวิตของเรา

    อย่างลังเลไร้ที่หวังและวนเวียนอยู่อย่างนั้น และไม่รู้ทิศทางของชีวิต

    ...แต่สำหรับผู้เขียนมีสิ่งหนึ่งที่จะช่วยหาทิศทางกับชีวิตเราได้ คือ ศึกษาธรรมะ

    เพื่อที่เวลาเราจะตัดสินใจทำอะไรก็จะได้มีปัญญาไตร่ตรองทำในสิ่งที่ถูกที่ควร

    เดี๋ยวเมื่อท่านได้ศึกษาแล้วธรรมะที่ท่านศึกษาจะพาไปค่ะ

    จึงขอฝากไว้เนื่องในวันแห่งความรักนะคะ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ...การทำบุญก็เหมือนกัน

    ต้องมีจุดหมายปลายทาง จึงต้องปรารถนา

    ปรารถนาให้พ้นทุกข์ และไปนิพพานนั้น

    จุดหมายปลายทางของความปรารถนา

    ปรารถนาพ้นทุกข์ นี่เป็นการปรารถนาแห่งการพ้นทุกข์

    และนี่ก็เป็นการปรารถนาเพื่อละ จากกิเลสตัณหา

    เพราะนิพพานแล้ว ไม่มีกิเลสตัณหา.

    ...ธรรมะพาสุข.
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Golden Sky

    การปฏิบัติธรรมก็คือ... การเตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเราๆท่านๆ เพราะไม่มีใครจะรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเรา...อย่างเช่นความเจ็บไข้ได้ป่วย!!!หรือเป็นโรคกระทันหัน เช่น อุบัติเหตุ หรือโรคหัวใจวาย สิ่งเหล่านี้เหตุขึ้นได้ตลอดเวลา...เราจึงต้องมาเตรียมตัวรับกับสิ่งเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้น...ก็คือมาปฏิบัติธรรมนั้นเองมาน้อมดูกายดูใจของเราว่าถ้าเกิดสิ่งนี้ขึ้นมาจะทําใจได้ไหม? เพราะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นเราหลีกไม่ได้แน่แต่จะมาช้าหรือเร็วแค่นั้น แต่เราจะต้องทําใจให้ได้ก็ต้อง"ฝึกจิต"ของเราให้เข็มแข็งนั้นเอง อย่างวันนี้ผู้เขียนได้รับรู้การเกิดขึ้นโดยเราไม่ทันได้รู้ตัว... เพราะตอนเช้าจะทํากับข้าวเลยจะยกเอาถ้วยที่จะมาอบอาหารแค่ก้มจะหยิบถ้วยแค่นั้นเองกระดูกช่วงเอวได้มีเสียงดัง "ก๊อก"แล้วก็จะยืนขึ้นก็ไม่ได้กลายเป็นคนแก่ที่มีอายุสัก ๗๐-๘๐ ปีไปเลยโดยอัตโนมัติก็เลยนึกถึงธรรมะของพระพุทธเจ้าที่ว่าคนไม่เห็นทุกข์หรือไม่ได้ปฏิบัติธรรมก็คงจะต้องคิดว่าเราจะต้องไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่อยากตาย...แต่ก็ไม่มีใครหนีพ้นสักรายเดี่ยวนี้แค่เอวเคล็ดยังทําให้เรากลายเป็นคนแก่ๆดีๆนี้เองจึงนํามาแชร์ค่ะ

    โมทนาสาธุกับท่านทั้งสองด้วย
    ผู้ที่ปฎิบัติจริง ก็ย่อมได้ของจริงๆ
    เหมือนกับใครกิน ใครอิ่ม ดังนั้นนั้น
     
  15. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุกับคุณเพ็ญUK ที่คำกล่าวนั้น ถูกต้องแล้ว ชอบแล้ว ทุกประการครับ
    ให้มันได้อย่างนี้สิ สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมจริงๆ
    พี่ภูภูมิใจเธอมากเลย ที่พบสหธรรมิกกันที่นี่
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คำกล่าวนี้ ทำให้นึกถึง คำกล่าวของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ว่า...

    "แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็ยังคิดถึงแก"

    ลูกขอกราบแทบเท้าหลวงปู่ดู่..ด้วยเศียรเกล้า
    _/l\_ _/l\_ _/l\_
     
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ใช่ๆ หล่น เอ๊ย ล่วง เอ๊ย ตายเหมือนกันหมด
    ตั้งแต่พระอรหันต์ ยันคนธรรมดา

    ตราบใดยังหลงมาเกิดกัน ไม่มีผู้ใดดีหรือเลวไปกว่ากันหรอก
    อย่าไปหลงตนเองมากนัก
    เพราะฉะนั้น ตราบใดยังมีขันธ์ ๕ หรือ ลมหายใจ ก็อย่าประมาทกัน
    คอยหมั่นเจริญสติภาวนาตนเองปกติเข้าไป
     
  18. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุกับเจ้าของดวงจิต ก็คือคือ คุณจ๋า เมืองชล จิตบุญที่ 134
    และครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยนะครับ
    สาธุๆๆ

    บอกคุณจ๋าด้วยว่า อย่าหยุดอยู่แค่นี้นะ
    ครูผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมแนะการวางกำลังใจหลังจิตยกไปด้วย
    เช่น แยกกาย แยกจิตให้เด็ดขาด คอยหมั่นเจริญสติภาวนาให้เป็นนิจ
    ทรงอิทธิบาท(ทบทวนศีล สังโยชน์ กรรมบท ฯลฯ) ทรงพรหมวิหาร
    โดยเฉพาะการให้อภัยกับที่อยู่ตรงกับข้ามกับตน เช่น ผู้เห็นต่างหรือศัตรู
    แผ่บุญกุศลกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง
    แต่ถ้าจิตเข้าถึงความละเอียดแห่งจิต เช่น นิมิต อภิญญา แต่ถ้ามี/ได้ มันก็ดี
    แต่ผู้ที่มีแล้ว ยังมีอินทรีย์ยังไม่ค่อยแก่กล้า หรือ สติปัญญายังอ่อนอยู่
    เดี๋ยวก็เป็นโทษ ก็คือ หลงตนเองหรือบ้าหรือเพี้ยนหรือออกทะเลไปไกล
    กู่เท่าก็ไม่กลับ ใครๆเจือนก็ไม่ฟัง อันนี้จบเฮ่!

    และพี่ภูขอเตือนครูทั้งหลายว่า อย่าไปดันจิตของผู้ปฎิบัติ เดี๋ยวจะเลี้ยงไม่รู้จักโตกันสักทีนึง
    ที่ผ่านมาเห็นหรือยัง อย่าไปทำยอด ไม่ใช่ขายตรง
    ให้จิตเขายกนานๆหน่อย อย่าเพิ่งประกาศ ดูหลายๆวันก่อน
    อินทรีย์ไม่ค่อยแก่ อย่าไปดันทุรังยกจิตเขา ขอจิตแน่นๆหน่อย
    เพราะจิตผู้ที่จะไปสวรรค์ พรหม โดยเฉพาะพระนิพพานนั้น ต้องไม่หหน่อมแน้ม

    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 กุมภาพันธ์ 2013
  19. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ทุกวันนี้ฯ

    คนเราอยู่กับกิเลส ตัณหาและอุปาทาน จนชิน มาหลายภพ หลายชาติ
    เหมือนเราคือกิเลส หรือ กิเลสคือเรา ไปแล้ว
    แต่ถ้าผู้ปฎิบัติเข้าถึงธรรมแล้ว ผู้นั้นย่อมจะแยกแยะอะไรคืออะไรได้
    หรือมากไปจนถึงธรรมขั้นสูง ได้แก่ แยกกาย แยกจิตออกจากกันได้ เด็ดขาด
    จิตจึงจะเข้าถึง อนัตตา หรือ ความสงบ ความบริสุทธิ์ หรือความเป็นกลางได้
    ต่อไป ผู้นั้น จึงอยู่กับกิเลส ตัณหาและอุปาทานได้ อย่างไม่เดือดร้อนหรือร้อนรนหรือเป็นทุกข์อีกต่อไป
    เพราะเข้าใจ+เข้าถึงในธรรมชาติแห่งจิตตนเอง และธรรมในธรรม(จิตเข้าถึงสภาวธรรมหรือจิตเป็นธรรม)

    คนเราทุกวันนี้ ฝึกการรับรู้ เรียนรู้กับกองกิเลส ตัณหาและอุปาทานทั้งหลาย ทั้งปวง
    เรียกได้ว่า เป็นไปตามปกติของชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว

    แต่ถ้าพวกเราไม่ปฎิบัติธรรม หรือปฎิบัติ แต่ยังเข้าไม่ถึงแก่น (จิตในจิต)
    พวกเราก็เข้าไปไม่ถึงธรรมในธรรม หรือจิตเป็นธรรม หรือมีดวงตาเห็นธรรม
    งั้นก็ได้แค่เข้าใจธรรมเฉยๆ เท่านั้น แต่หาคำตอบให้ตนหรือผู้อื่นไม่ได้
    เพราะฉะนั้น พวกเราจึงไม่สามารถปฎิบัติตาม หรือ ไม่สามารถปล่อยวางได้ทันที ทันใด

    เพราะฉะนั้น ผู้เขียนจึงแนะนำให้ยกกองกิเลส กองตัณหา และกองอุปทานใดๆ ก็ตาม
    ที่เราพบเจอกันอยู่ทุกๆ วันนี้ เป็นตัวตั้ง
    แล้วนำเอาธรรม หรือ กฎไตรลักษณ์ ไปหารหรือไปลบ ก็ตามแต่ใจเรา
    แต่ถ้าผู้ใดใช้เครื่องหมายหาร กิเลสก็ยังคงเหลือครึ่งหนึ่ง
    แต่ถ้าผู้ใดใช้เครื่องหมายลบ ก็อาจจะไม่เหลือเลย หรือ ปล่อยวางได้หมด(ช่างหัวมัน) ก็จะดีมาก
    ส่วนใครจะนำไปหารหรือลบ ต้องตอบว่า กำลังใจของคนๆนั้น
    แต่ถ้าจะไปหวังพึ่งอาศัย ตามลำพังสติปัญญาของคนธรรมดา อาจจะตามไม่ทันหรือรู้ไม่เท่าทันกับสิ่งเหล่านี้
    แต่ถ้าจะให้รู้ตามความเป็นจริงดังที่กล่าวมานั้น จะต้องใช้สติปัญญาระดับ ภาวนามยปัญญา
    ก็คือ ปัญญาที่ได้จากการภาวนา หรือ การทำให้จิตเป็นสมาธิ นั่นเอง

    ในเมื่อพวกเราอยู่กับสิ่งสมมุติทั้งหลาย ทั้งปวง ต้องอยู่ให้เป็น ต้องรู้อย่างคนฉลาดจริงๆ
    ก็คือ ให้รู้สิ่งต่างๆ รอบตัวเรา แม้นกระทั่ง ความรู้สึกหรือนึกคิดของตน ตามความเป็นจริงให้จงได้
    นั่นก็คือ มองให้เห็นถึงความเป็นธรรมดา คือมันเป็นเช่นนั้นนี่เอง
    เราไม่จำเป็นต้องไปวิ่งตามเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

    อย่าลืมนะว่า ทุกๆธรรมนั้น หนีไม่พ้นกฎพระไตรลักษณ์ของพระพุทธองค์
    พระพุทธองค์ได้ทรงลองผิด ลองถูกมากแล้ว ขอให้พวกเราปฎิบัติตามพระองค์เลย
    อย่าได้เสียเวลาตามไปดู เพราะ สุดท้ายแห่งธรรม ล้วนแต่หนีไม่พ้น คำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    สรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวงนั้น ก็ล้วนมีเกิดและดับแทบทั้งสิ้น

    และนี่ก็คือ กฎไตรลักษณ์หรือกฎธรรมดา
    ขอให้พวกเรามีสติปัญญา พิจารณาถึงความเป็นจริงตามนี้กันด้วย

    จิตคนเรานี้ จำเป็นต้องฝึก ถึงฝึกยากก็ต้องฝึก เพราะถ้าไม่ฝึก คนๆนั้น จะหนีไม่พ้นคำว่า ทุกข์
    เรื่องของเรื่อง มันมาจากจิตคนเราที่ไม่เข้าใจและเข้าไม่ถึงธรรมหรือความจริงของที่มา
    และที่ไปของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวง นั่นเอง

    การปฎิบัติธรรมนั้น ไม่ยาก แต่จะยากตรงที่ทำให้จิตของเรานิ่งและเสถียรกันได้อย่างไร
    ขอให้ใช้ความศรัทธานำหน้าก่อน แล้วใส่ความเพียรและวิริยะลงไปเท่านั้น
    เพราะความสุขของคนเรานั้น ย่อมอยู่หลังความทุกข์เสมอ หรือ
    ความสำเร็จอยู่หลังปัญหาและอุปสรรค์ นั่นเอง

    พี่ภูขอเอาใจช่วยผู้ปฎิบัติทุกๆท่าน มา ณ ที่นี้
    จากผู้ปรารถนาให้ผู้อื่นออกจากทุกข์ หรือ ออกจากวัฎฎะ สำหรับผู้ที่มีกำลังใจมากพอ

    ปล.วาเลนไทน์นี้
    ขอให้ทุกท่าน จงเปลี่ยนความรักทางโลก เป็นความเมตตาทางธรรม
    ก็คือ รักแบบเมตตานี้ ยิ่งใหญ่หรือใหญ่หลวงยิ่งนัก
    เพราะเป็นความรักบริสุทธิ์ ปราศจากหรือเจือปนด้วยกิเลส
    ความเมตตานี้ เป็นรักแบบไม่ยึดติด แต่ความรักทางโลกเป็นรักแบบยึดติด
    ความเมตตานี้ เป็นรักมีแต่ให้หรือให้ลูกเดียว ให้แบบมิได้หวังสิ่งใดตอบแทน
    รักแบบเมตตานี้ มีแต่ให้ เมื่อให้แล้ว ย่อมมีแต่สุขใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับ

    ขอให้ทุกท่าน มีดวงตาเห็นธรรม และขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้กันด้วยเทอญ

    สวัสดีและโชคดี
     
  20. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุกับคุณก้องด้วยครับ
    กล่าวมาได้ถูกต้องแล้ว ชอบแล้ว
    เอาอีกๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...