เจ้าแม่กวนอิมลาพุทธภูมิ

ปณิธาน องค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม
ตราบใดที่สัตว์โลกยังไม่พ้นทุกข์
พระองค์ท่านจะไม่เข้านิพพาน

 

ขอบารมีเจ้าแม่กวนอิม

โอม มะณี ปัท เม ฮุม นำโม กวงซีอิม ผ่อสัก ขอบารมีเจ้าแม่กวนอิมคุ้มครองคนไทยให้อยู่เย็นเป็นสุขเถิด ให้ประเทศไทยกลับมาสงบอีกครั้ง และตลอดไปเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

บางที ก็เกิดอันตราย ได้จริง ๆ
หากคนเราไม่เคยเห็นปืน ไม่รู้จักวิธีใช้ปืน ไม่เคยยิงปืน....

ก็อยากจะลองยิงปืนบ้าง....
เอาปากกระบอกปืน ห้นปลายปืนเข้าหาตัวเราเอง....
แล้วลั่นไก แบบว่า ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ค่อยจะถนัด...

เมื่อปืนลั่น เปรี้ยง..
ผลจะเป็นอย่างไร....

....................................................................................

ปืน.. กับฌาน และญาณ ต่างก็เป็นอาวุธ

ปืน เป็นอาวุธ ทำลายล้าง
ฌาน และญาณ เป็นอาวุธ สร้างความรู้จริง เห็นจริง

เพราะ กำลังฌาน ทำให้เกิด ญาณ
ญาณ แปลว่า รู้.. รู้จริงจากสมาธิ
เป็นความรู้จริง จากการปฏิบัติสมาธิ เกิดเป็นความรู้.. เกิดเป็นปัญญา....

หากเรา กล้ากล่าวคัดค้าน ผู้ทรงญาณอันเยี่ยม อย่างเต็มปาก เต็มคำ
ก็แสดงว่า อย่างน้อย ๆ เราก็จะต้องมีความรู้ เชี่ยวชาญ ในญาณ ที่เก่งกว่า....

..................................................................................

แต่หากไม่รู้จริงในญาณ.. แล้วพูดคัดค้าน....
ก็เท่ากับว่า.. เราไม่มีความรู้จริง ก็ยังอยากจะพูด....

เปรียบเหมือน ว่า..
ไม่รู้จักปืน แต่อยากยิง.. หันปลายปากกระบอก กรอกปากตัวเราเอง....

แล้วลั่นไก เปรี้ยง....

ผล.. พวกเรา จะเป็นอย่างไรหนอ....

....................................................................................

 

พระพุทธองค์เวลาท่านตรัสสิ่งใดแล้วเป็นจริงเสมอครับ

การค้านนี่ก็ไม่ได้ค้านพระพุทธองค์ แต่ค้าน....ข้อความด้านบน (2)
ผมว่ามันคนละเรื่องนะครับ

เพราะข้อความ 2 ไม่ใช่พระพุทธเจ้าท่านตรัส พิจารณาดูนะครับ

 

องค์สมเด็จพระประทีปแก้วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธองค์
ท่านทรงตร้สไว้ ว่า..
เจตนา นั่นแหละ คือบุญ....

...................................................................................

เจตนาดี ตั้งใจจะทำความดี บุญก็ขังในจิตในใจ
บุญเกิดขึ้น ตั้งแต่ กำหนดจิต เพียงแค่คิด ว่า.. ตั้งใจ ว่า.. จะกระทำความดี....

ตั้งใจ จะทำเลว อกุศล ก็ขังในใจ จิตใจขุ่นมัว....
บุญใด ๆ ก็เข้าไม่ได้.. เข้าไม่ถึง....
เหมือนน้ำคลำขุ่นคลัก ตลอดลำคลอง เติมน้ำใสไป 1 ถัง ก็ย่อมยังขุ่นหมอง

เจตนา ทำความดี.. แต่วิธี แนวทาง มันผิดไป....
อกุศลบังใจ คิดไม่ได้ มองไม่เห็น ในสิ่งที่ดี ๆ ในสิ่งที่ถูกต้อง....

ทุกอย่างบนโลกใบนี้ เต็มไปด้วย กิเลสหยาบ ไม่ว่างเว้น ไม่ว่าผู้ใดทั้งสิ้น
แม้กระทั่งตัวกระผมเอง.. เพราะว่า หาก ดีจริงแล้ว ก็คงไม่มาเกิด กันอีก
แต่ทว่า.. นี่ ทุกคนยังต้องเกิดมา เกิดมาทำอะไรกัน....

ที่เกิด มา อุปมาเท่ากับว่า ลงเล่นน้ำในลำคลองที่เน่าเหม็น ขุ่นคลัก
มันจะมีความสุขได้ไหม....

ดังนั้น เมื่อเกิดมา ก็ควรจะมีจุดมุ่งหวังว่า.....
ต่างคน ต่างก็ต้องหาทาง ทำอย่างไร จะทำให้น้ำในคลองที่เน่าเหม็น ขุ่นมัว นั้น มีความสดใส ไม่เน่าเหม็น

พวกเรา ก็จึงเพียรหาทางไล่น้ำคลำ ทิ้งไปให้หมด....
ด้วยการเติมน้ำใส ให้มากไว้ เติมไป ทุกวัน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

วันหนึ่งข้างหน้า อาจจะเป็นชาตินี้....
น้ำในลำคลอง ก็โปร่งใส ใจชุ่มชื่น....
น้ำที่ไหลไป ก็สามารถไหลเข้าสู่กระแส แห่งพระนิพพาน....

ทั้งหมด ทุกประการ....
ก็ขึ้นอยู่กับว่า บุญ บารมี ของใครของมัน
บารมีต้น อุปบารมี(บารมีกลาง) หรือ ปรมัตถบารมี
ที่สามารถจะเข้าถึง จะเข้าใจได้....
ตามลำดับขั้น ที่ทรงอยู่ในบารมี นั้น ๆ

และก็หากว่า....
อยู่ในห้วงของอกุศลกรรมเข้าถึง....
อกุศลกรรมบดบังจิตใจอยู่....
ทำให้รู้ไม่ได้ เข้าใจไม่ได้ เช่นกัน....

เหตุ
คิดสิ่งใด (เป็นบุญ หรือ เป็นกรรม)
ทำสิ่งนั้น (ปฏิบัติผิด ปฏิบัติถูก.. แนะนำผิด แนะนำถูก)

ผล
จะได้ในสิ่งนั้น ตามติดไป
ตราบเท่า ฟันฝ่ากระทั่งเข้าถึงเขตปรมัตถ์
ก็จะสามารบำเพ็ญเพียร ได้เฉพาะในส่วนที่เป็นสัมมาทิฐิ

สามารถก้าวล่วงเข้าสู่กระแสแห่งอนัตบรมสุข คือ พระนิพพาน ได้ ในที่สุด

ดังคำให้พรของพระฯ ที่ให้พร ว่า..
เอวัง โหตุ....
นิพพานนะ ปัจจะโย โหตุ....

...................................................................................

 

ก็ยังสงสัยอยู่คับผมต้องศึกษากันต่อไปคับ

 

คุณ โอมอะไรนี่ คุณโวยวายไปทำไม ใจคุณยังปล่อยวางไม่ได้เลย ยังไว้อุเบกไม่ได้แสดงว่ใจยังไม่บริสุทธิ์พอ ผมเองก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้คัดค้านเพราะผมวางใจป็นกลางมันก็สบาย เตือนด้วยความรักนะ

 

ถึงหลายคนจะมีความเห็นต่างกัน
มีความศรัทธาไม่เหมือนกัน
แต่ชาวพลังจิตก็ แตก ต่าง ไม่ แตก แยก มิใช่หรือ

 

ปล่อยวางได้..ก็สุขสบายไม่ยึดติด..พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลายช่วยเราให้พ้นทุกข์จากกิเลสไม่ได้หรอก นอกจากเราช่วยตัวเราเองเท่านั้น คำสั่งสอนอันเป็นตัวแทนแห่งศาสดาคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีอยู่..ผู้มีจิตมุ่งมั่นแห่งการพ้นทุกข์ทั้งหลายพึงปฏิบัติตามด้วยความพรากเพียร..ด้วยกำลังความสามารถแห่งสติปัญญา ย่อมถึงจุดหมายซึ่งแดนอมตะพระนิพพานทุกๆคน...สาธุ.....

 

คุณโอมครับอย่าหลงประเด็นซิครับ..ความหมายของผมหมายถึงการจตัดกิเลสหรือสิ้นตัญหาได้นี่ต้องปฏิบัติเองใช่ไหม๊..พระเจ้าที่ไหนจะมาช่วยเราได้ถ้าเราไม่ลงมือทำ

 

แล้วที่เหลือ คือ สังโยชน์ทั้งสิบ เราต้องดำเนินการตัดเองให้หมด

ประเด็นนี่ล่ะที่ผมกล่าวถึง/เอวังก็มีประการละฉนี้..สาธุ

 

ขออนุญาติคุณโอม และคุณมหาหินแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ

...........................​

​

ผมขอเปรียบพระนิพพานดั่งความอิ่ม วิธีหรือวิถีทางที่จะทำให้เราเข้าถึงพระนิพพานก็มีต่างๆ กันไป วิธีหรือวิถีทางเหล่านั้นก็เปรียบเหมือนดั่งเมล็ดข้าวเมล็ดพืชต่างๆ ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ ฯลฯ ข้าวทุกชนิดทุกสายพันธุ์ ก็คือ ข้าว ข้าวทุกชนิดทุกสายพันธุ์ก็ทำให้เราอิ่มได้เหมือนๆ กัน ข้าวเจ้าทำให้อิ่มได้ฉันใด ข้าวเหนียวก็ทำให้อิ่มได้ฉันนั้น ไม่ว่าผู้ใดจะนิยมรับประทานข้าวชนิดไหนสายพันธุ์ไหน กระผมก็ขออำนาจคุณพระศรีรัตนไตย ขอจงดลบันดาล ชี้ทางที่ถูกที่ต้องให้ทุกท่านได้อิ่มซึ่งพระนิพพาน ซึ่งเป็นความอิ่มที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน และเป็นความสุขสูงสุดที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าได้​

............................​

<!-- / icon and title --><!-- message -->​

" ท่านที่หวังพระนิพพานก็ดี
ขอให้ท่านได้สมดั่งความตั้งใจ
ท่านที่หวังพระสัมมาสัมโพธิญาณก็ดี
ขอให้ท่านได้สมดั่งความปรารถนา "​

...................................................................................​

ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านนะครับ สาธุๆๆ :d ​

<!-- / message --><!-- edit note -->

 

ถ้าคุณยึดตามคติพระพุทธศาสนามหายาน ก็ไม่ผิด แต่จะเชื่ออย่างไรว่าคำสอนของมหายานถูกต้อง เพราะมหายาน ตั้งใจเป็นโพธิสัตว์ปรารถนาพุทธภูมิ ยังไงก็ไม่บรรลุอรหันต์ หมดกิเลศ แต่ของเถรวาทตั้งใจเป็นพระอรหันต์ ฉะนั้นสาวกสายเถรวาทที่บรรลุอรหันต์ ย่อมมีความเห็นถูกกว่า อันนี้ว่าตามสภาวะจิต
หลวงพ่อ ถ้าคุณนับถือ ไม่ควรแย้ง แต่ควรไปศึกษาฝึกมโนมยิทธิแบบถูกต้องให้ได้ แล้วปฏิบัติก็จะรู้ว่าที่หลวงพ่อสอน นั้นไม่ผิด หลวงพ่อสอนเฉพาะลูกหลานซึ่งทุกคน ได้ยินในวันนั้นต่างก็โมทนา เพราะพระโพธิส้ตว์ของเถรวาทและมหายานยังมีความหมายไม่เหมือนกันเลย การแบ่งภาค ไม่มีในพระพุทธศาสนา เป็นองค์ไหนก็องค์นั้น เจ้าแม่กวนอิม ก็คือสมมติว่าชื่อเจ้าแม่กวนอิม แต่ข้างบนท่านอาจมีนามอื่นก็ได้ โปรดเข้าใจด้วย การลาพุทธภูมิก็คือไม่เป็นพระพุทธเจ้าอีก แต่ก็มีการสอน หรือโปรดผู้มีบุญสัมพันธ์ได้ ไม่ใช่เจ้าแม่กวนอิมที่โปรดเท่านั้น พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ และหลวงพ่อ ก็โปรดมนุษย์อยู่หลายคนคงได้รับเมตตาจากหลวงพ่อในทางทิพย์ไม่น้อยเลย

 

ยังไงเจ้าแม่กวนอิมก็เข้าสู่นิพพานเหมือนหลวงพ่อท่านว่านั่นแหล่ะ

 

ผมเห็นด้วยกับคำพูดของท่านหลวงพ่อฤาษีนะครับ..ไม่ใช่เห็นด้วยจากการอ่านการบอกเล่าหรือเชื่อเสียงของหลวงพ่อฤาษี..ก็แล้วกัน...
อนุโมทนาสาูธุครับ..

 

หลวงพ่อบอกตรงๆ อนุโมทนา สาธุ ด้วยค่ะ....


_____________________
สัพเพ สังขารา อะนิจจา สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง