ทำไมบางท่านถึงไม่ทานอาหารในงานศพคะ

เห็นด้วยค่ะ
เพิ่มอีกนิดนะคะ
- บางคนก็กลัวผี เลยไม่รับประทานค่ะ
- สมัยก่อน เขาต้องทำโลงศพเอง ช่วงที่ยังทำโลงศพไม่เสร็จ
ก็จะ"ดอย"ศพเอาไว้ก่อน
โดยห่อศพด้วยผ้าขาว หรือผ้าที่มีในบ้านเช่นผ้าขาวม้า
ก็จะมีอวัยวะบางส่วนยื่นออกมา
และสมัยก่อนแมลงวันก็เยอะ
คนที่รังเกียจก็จะไม่รับประทานอาหารค่ะ รวมถึงไม่ดื่มน้ำด้วย

 

เครื่องเซ่นผี บางคนทานแล้วทำไมง่วงนอน บางคนปวดหัว บางคนปวดขาเจ้าคะ

 

ทั้งยังห้ามกวาดบ้าน
ปูเสื่อก็ต้องปูกลับด้านค่ะ
สมัยก่อนเวลาจะเคลื่อนศพไปวัด
ถ้าผ่านบ้านไหน เด็กๆต้องเข้าไปอยู่ในบ้าน ปิดประตูไว้ค่ะ ห้ามออกมาดู
ชักบันไดขึ้นบ้าน
เล้าเป็ดเล้าไก่ ก็เอาถ่านไฟไปเขียนรูปกระดูกไขว้เอาไว้

 

มิชิโกะจัง ตั้งเรื่องได้น่าสนใจมาก ได้คติความเชื่อที่แต่ละคนรับมาอย่างเปนประโยนช์ดี
ของผม ไม่กิน เพราะเกรงใจพระท่าน บางรูปท่านยังเปนพระปถุชนอยู่ ท่านนั่งกินน้ำ กินนมกล่อง มองคนกิน อาหาร บางคนขอเบิ้ล ฯลฯ
เราจักไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง
เราไม่ยุยง ส่งเสริมบุคคลอื่นให้ละเมิดศีล
เราไม่ยินดีเมื่อบุคคลอื่นละเมิดศีลแล้ว
ที่เหลือคิดต่อกันเองนะครับ

 

แต่ผมปวดอึ๊อออออ ครับคุณครู...สงสัยโดนของ:d

 

ประสบการณ์่ส่วนตัวคับ
...อาจารย์บอกว่า งานศพนั้น วิญญาณต่างๆที่อยู่ไกล้ๆ จะมากินก่อนครับ ตั้งแต่กระบวนการเตรียมของ กระทั่งปรุงเสร็จคับ เหมือนงานฉลองรับคนใหม่ประมาณนั้นคับ ส่วนใครที่รู้ว่าต้องไปงานศพ เค้าจะเตรียมน้ำดื่มไปจากข้างนอกเข้าไปคับ จะไม่กินของในงานศพเลยครับ ..
..แบ่งปันคับ..

 

ขอตอบแบบไม่เหมือนใครนะครับ!
๑. เพราะอิ่มมาแต่บ้านแล้ว จะกินอีกก็กลัวอ้วน
๒. ถูกความเศร้าโศกครอบงำกินไม่ลง
๓. พรุ่งนี้ต้องไปตรวจโรค หมอสั่งห้ามกินข้าวเย็น
๔. แพ้อาหารบางอย่าง
๕. ไม่เคยช่วยงานใคร พอไปงานศพจึงเกิดละอายขึ้นมาไม่กล้ากินของเขา
๖. ไม่ทานเดี๋ยวนั้นแต่ใส่ถุงกลับไปทานที่บ้าน
๗. เกิดไม่สบายปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสียขึ้นมากระทันหัน
๘. มัวแต่ช่วยงานเขา อาหารหมดก่อนเลยกินไม่ทัน
๙. เขม่นคนในงาน หรือเจออริเก่า เลยทานไม่ลง
๑๐. ถือศีล ๘
๑๑. กำลังจะทานอาหารเกิดหกรดเสื้อผ้า เสียอารมณ์หมดเลย


แวะมาขำๆยามดึกครับ

 

สมัยตอนบวชพระ

ยังฉันเช้าอยู่หน้าโลงศพ ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ตอนเย็นไปสวดอภิธรรมนี่สิ ก๋วยจั๊บหอมก็หอม หิวก็หิว ... ฉันไม่ได้

คนธรรมดาทั่วไป อย่าไปถือไปแบกอะไรเยอะเลยครับ หิวก็กิน ไม่หิวก็ไม่กิน

 

คนสักยันต์ เล่นของ ไม่ใช่ทุกคนนะครับที่จะไม่กิน
คนที่กิน บางคนเบิ้ล2ชุด ก็มี
อย่างของผม เคยถามอาจารย์แล้ว ท่านบอกไม่ห้ามอะไร อยากกินอะไรก็ตามสบาย

 

ที่เคยได้ยินมาตามที่หลายท่านว่ามา ว่าอาหารงานศพจะมีผีมากินด้วย (ส่วนตัวไม่เคยเห็นเอง)

ส่วนเรื่องอาหารในงานศพทางใต้นั้น การเลี้ยงแบบไม่อิ่มเจ้าภาพไม่ให้กลับเริ่มมาจากที่ ตรัง(หลังๆระบาดไป จว.ไกล้เคียงมากขึ้น) เพราะส่วนใหญ่งานศพจะเป็นงานรวมญาติไปด้วยในตัวเมื่อนานๆมาเจอครั้งนึงจึงนั่งคุยกันนาน เมื่อคุยกันนานจึงมีทั้งอาหารจานหลัก ขนมหวาน ถั่วอบ ฯลฯ และถือว่าแขกช่วยเฝ้าศพและอยู่เป็นเพื่อนศพไปในตัว

 

เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงเล่าให้ฟังว่า "ดูสิกับข้าวงานศพ ไม่รู้กินกันเข้าไปได้ยังไง ผีเปรตมันลงกินกันหมุบหมับ" ตั้งแต่นั้นมาก้ไม่กินข้าวงานศพอีกเลย แต่น้ำเนี่ยกิน

อีกความเชื่อนึงว่ากันว่า คนเขาจะปล่อยของจำพวกยาสั่ง ก็ในงานศพเนี่ยแหละ งานอย่างนี้คนทำครัวเขาวุ่นๆ กัน ไม่ทันสังเกตอะไรหรอก

 

แปลกแต่จริงนะครับเนี่ย

 

ถูกต้องที่สุดดดด 5555

 

จิตดี คิดดี กินไปเถอะครับ อย่าถืออะไรให้มันหนักเลย เคยถามอาจารย์ว่าของงานศพนี่เขาห้ามคนมีของกินใช่ไหมท่านตอบว่า เขาตั้งใจทำทานให้คนตายเอ็งไปขัดเขาเอ็งบาปไหมเอ็งไม่กินก็เรื่องของเอ็งแต่อย่าทะลึ่งไปห้ามคนในงานหรือคนที่ไปด้วยไม่ให้กิน เดี๋ยวของที่มีจะคุ้มตัวไม่อยู่ โดนเจ้าภาพยำเละกลับมา(อันนี้ผมต่อเองครับ)

 

จะไม่กินอีกตลอดชีวิต

 

แปลกจัง ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาห้ามกินงานศพ ผมอยู่ชนบทครับ ชาวบ้านไม่ค่อยถือเรื่องนี้ ถ้าหิวก็กินปกติ บางคนห่อกลับบ้าน หรือเจ้าภาพส่งอาหารไปให้ถึงบ้าน
เดี๋ยวนี้ ดีขึ้นตรงที่ว่า งานศพเขาจะงดเครื่องดื่มมึนเมาเด็ดขาด ช่วยลดความสิ้นเปลืองของเจ้าภาพได้เยอะเลย