ขอเชิญพี่ๆน้องๆ ที่ศรัทธา หลวงปู่โต๊ะ มาพูดคุยกันหน่อยครับ

กรรมการท่านนี้ชอบแบบเฉพาะองค์พระ ไม่มีขอบด้านข้าง รูด้านหลังเกิดจากการใช้ไม้แทงดึงออกจากบล็อค จึงนำแบบแปลกๆมาให้ชมกันในวันสบายๆนะครับ

 

องค์นี้เห็นแล้วต้องบอกว่า "ใช่เลย โดนใจฉันเลยยย" นะครับพี่กิม 555

 

วันนี้ได้พักผ่อนเต็มที่เลย หลังจากลุยทำงาน ตจว เล่นเอาซะเปื่อยเลย
ได้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ตอนเย็นแล้ว อิ่มใจจังครับ ขอบารมีหลวงปู่ให้พี่ๆน้องๆทุกคน มีแต่ความสุข ความเจริญ ร่ำรวยๆกันทุกคนเลยนะครับ

 

สวยทุกองค์ และมาทั้งชุด น่าอิจฉาตาร้อน ลูกๆ หลานๆ เฮียจริงๆ

 

สวยงามทุกองค์เลยครับ พี่กิม

 

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมครับ 555 ผมมีพี่น้องเยอะ ครอบครัวผมเป็นครอบครัวใหญ่ หลานผมเยอะจริงๆครับ

 

ขอบคุณครับ สบายดีนะครับ

 

พึ่งได้มาครับ

 

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนเป็นหวัด อาการเริ่มดีขึ้นครับ ระวังสุขภาพกันด้วยนะครับพี่กิม, พี่เอก, นุและทุกๆคนครับ

 

น้อมกราบหลวงปู่โต๊ะ กราบ...กราบ...กราบ

 

รบกวนพี่ๆด้วยครับ ผ่านไหมครับองค์นี้ รบกวนด้วยครับ

 

วันนี้นำพาย้อนอดีต ที่ยังมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เมื่อครั้งที่ผมผ่านและบังเอิญพบกับวัดถ้ำสิงโตทองครั้งแรกเลย ขณะพาครอบครัวไปเที่ยวสวนผึ้ง ก็นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่มาวัดถ้ำสิงโตทอง จึงถือเป็นเรื่องมงคล และดีใจมากที่ได้มีโอกาสมากราบนมัสการ รูปหล่อหลวงปู่ พระโพธิสัตว์กวนอิม และเห็นถ้ำสิงโตทอง ที่เมื่อก่อนก็เคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเท่านั้น เมื่อเจอซุ้มประตู ผมก็ชลอและหยุดรถโดยทันที จึงบอกกับพี่เขยผมหลานๆและครอบครัวผมว่า วัดถ้ำสิงโตทองอยู่นี่เอง ผ่านตั้งหลายครั้งไม่ได้สังเกตุ จึงชวนกันเข้าไปกราบหลวงปู่ และได้เก็บภาพในวันนั้น จึงนำมาเล่าเรื่องด้วยภาพกัน ในวันศุกร์ วันสุดท้ายของการทำงานของหลายๆท่านครับ
ซุ้มประตู เมื่อตอนพบครั้งแรก ที่จริงผมไปเที่ยวสวนผึ้งบ่อย อำเภอจอมบึงต้องผ่านก่อน และขับรถผ่านมาหลายครั้งแล้วนะครับ แต่ด้วยทำเลของการตั้งซุ้มประตู อยู่ลึกเข้าไปกว่าตึกแถวที่ขนาบอยู่ข่้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็มีต้นไม้บัง จึงไม่เด่นจนเป็นจุดสนใจให้พบและสังเกตุง่ายเท่าที่ควร

 

เมื่อตกลงกันแล้ว ก็ขับผ่านประตูซุ้มลึกเข้าไปน่าจะประมาณ สองกิโลก็จะเจอวัด และขับผ่านซุ้มประตูวัดอีกครั้ง ก็พบกับวัดถ้ำสิงโตทองและภูเขาลูกใหญ่อยู่ด้านข้าง เนื้อที่วัดกว้างขวางมีต้นไม้เยอะและร่มเย็นอยู่มาก เงียบสงบสมกับเป็นวัดป่า ทำให้ทราบโดยส่วนตัวว่า เพราะอย่างนี้เองหลวงปู่ถึงมักชอบมาปฎิบัติธรรมที่ถ้ำสิงโตทองเมื่อในอีต

 

เมื่อเข้าไปแล้ว ผมก็อยากจะกราบท่านเจ้าอาวาสก่อน บังเอิญมีเณรอยู่แถวนั้นผมจึงถามเณรว่า ท่านเจ้าอาวาสอยู่กุฎิไหน แล้วท่านอยู่ไหม บังเอิญวันนั้นท่านเพิ่งกลับจากธุระที่ราชบุรี เพิ่งกลับมาซักครึ่งชั่วโมง ผมจึงเข้ากราบพร้อมบอกว่า ผมเพิ่งมาครั้งแรกได้ยินชื่อเสียงของวัดถ้ำสิงโตทองมา สามสิบกว่าปีแล้ว และถามถึงประวัติวัดถ้ำสิงโตทองในครั้งที่หลวงปู่ท่านมาปฎิบัติธรรม ท่านเจ้าอาวาสเล่าว่า หลวงปู่เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน ท่านเองเดิมก็เป็นพระอยู่วัดประดู่ ในยุคนั้นหลวงปู่ส่งให้ท่านมาดูแลที่นี่ เมื่อคราวใดที่หลวงปู่มาวัดถ้ำท่านจะเป็นคนคอยปรนนิบัติหลวงปู่เสมอ

 

เมื่่อสนทนากับท่านเจ้าอาวาสได้พักหนึ่ง จึงขออนุญาตท่านเยี่ยมชมวัด ท่านจึงสั่งให้เณรน้อยรูปหนึ่ง คอยเป็นไกด์พาไปกราบรูปหล่อหลวงปู่ เณรก็พาขึ้นเขาที่ ปัจจุบันนี้ก็สะดวกสบายแล้ว ท่านเจ้าอาวาสเล่าว่าครั้งที่หลวงปู่ท่านมาปฏิบัติธรรมไม่มีบันไดแบบนี้ เป็นทางหินภูเขาธรรมชาติขึ้นได้ลำบากมาก

 

ขณะที่ขึ้นเขาขนาดทางบันไดเดินสบายแบบนี้ยังเหนื่อย ต้องหยุดพักครึ่งทางก่อนเลยครับ ก็บ่งบอกอีกอย่างว่าคนในเมืองอย่างเราทำแต่งาน อ่อนการออกกำลังกาย อากาสที่ถ้ำดีมากทำให้ผู้ที่อยู่แถบนี้มีสุขภาพดี เพราะเห็นเณรวิ่งขึ้นปร๋อเลยครับ แต่เมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้ายภาพที่ปรากฎก็ทำให้หายเหนื่อย

 

​

 

เณรน้อย วัดถ้ำสิงโตทอง พาผมเข้าไปกราบพระในถ้ำแก้วก่อน บรรยากาศนอกถ้ำนั้นร้อนอบอ้าวพอสมควร แต่เมื่อเดินเข้าย่างไปกราบพระพุทธชินราชในถ้ำและพระพุทธอีกหลายองค์ และรูปหล่อหลวงปู่ อากาศในถ้ำเย็นสบายมากจริงๆ เย็นจนรู้สึกหนาวๆเลยครับ มีลมพัดเข้าถ้ำตลอดเวลา เหมือนมีลมดูดเข้าถ้ำ ผมจึงเดินเข้าไปสำรวจดูก็ปรากฎว่า มุมบนด้านซ้ายมือตรงพระพุทธชินราช มีปล่องช่องหินตามธรรมชาติทะลุมีแสงแดดลอดลงมาได้อยู่ครับ จึงเป็นช่องดูดลมให้ถ่ายเท ภูมิปัญญาของหลวงปู่ท่านเลือกทำเลได้สุดเยี่ยมครับ และท่านอาวาสอีกเล่าว่า ด้วยที่บนเขาที่สูงขึ้นไปมีต้นไม้อยู่มาก ช่องนี้ในอดีตที่หลวงปู่มาปฏิบัติธรรมจะมีน้ำซับและข้างๆองค์พระพุทธชินราชจะเป็นบ่อน้ำธรรมชาติพอดี และมีกองดินสูงสามารถปีนขึ้นไปข้างบนได้ จึงเป็นแหล่งน้ำที่หลวงปู่ไว้ดื่มไว้ใช้

 

ดีครับ เสี่ย นุ นนนนนนนนนน

ขอบขอบคุณๆคำอวยพรนะครับ

 

อ้าว ตอนไต่ขึ้นไปสงสัยผมขึ้นสวนทางกะพี่กิม ผมขึ้นอีกทางอ่าครับ 555

พี่สบายดีนะครับ ^^