ถึงเวลาที่สยบข่าวภัยพิบัติ  ทางสายเอก

การสร้างวัดและสถานที่ปฏิบัติธรรม

จะต้องเริ่มด้วยการศรัทธา จากผู้คนส่วนในหมู่บ้านรวมตัวกันและเห็นสมควรว่า
ควรจะมีสถานที่ปฏิบัติธรรมใว้รองรับญาดิโยมเพื่อที่จะเข้ามาแสวงหาบุญกุศล
ในเขตบวรพระพุทธศาสนา จึงมีการตั้งกองทุนรวบรวมศรัทธา และเริ่มหาสถานที่ที่เหมาะสม และจึงไปนิมนต์พระที่จะมาเผยแพร่ธรรม มาอยู่แล้วจึงช่วยกันเริ่มสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างฯถวายวัดเป็นของสงฆ์ ตามแต่กำลังทรัพย์และศรัทธา
การสร้างสึ่งปลูกสร้างต่างฯ จึงเป็นหน้าที่ของอุบาสก และอุบาสิกา และ
ชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นฯ สมัยก่อนจึงมีสิ่งปลูกสร้างแค่เท่าตามความจำเป็น
เท่านั้น ในการเผยแพร่ธรรม มีกุฏี ที่พระสงฆ์อยู่ และศาลาการเปรียญ
ใว้รองรับสารพัดงาน มีห้องเล็กฯขนาดพอนอนได้ ๑ คนสำหร้บผู้ที่จะมา
เข้าปฏิบัติกรรมฐาน ใว้ราวห้าถึงสิบห้อง และเตาที่เผาศพทำแบบง่าย
เพียงเทปูนเป็นกำแพงทั้งสองด้านพื่อที่จะวางโลงศพได้เวลามีงานเผาศพ
นอกเหนือจากนั้นถือว่าเกินความจำเป็น การสร้างนั้นค่อยเป็นไปตามกำลัง
ศรัทธา โดยมิใช่หน้าที่ของพระสงฆ์ที่จะมาขอเรี่ยไรหรือหาทุนแต่อย่างไร
และการเผยแพร่ธรรมนั้นไม่มีความจำเป็นจะต้องมีสิ่งปลูกสร้างใหญ่ฯโตฯมากมาย และหาคนปฏิบัติ แทบจะไม่ได้

เตือนชาวพุทธอีกครั้ง
พระพุทธเจ้าทรงประสูตร ที่ใต้โคนต้นไม้
พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ที่บนกองหญ้ารองนั่ง
พระพุทธเจ้าทรงดับขันธ์ปรินิพาน ที่ใต้โคนต้นไม้
ส่วนสถานที่จะทำให้บรรลุเข้าถึงธรรมได้นั้น ไม่ต้องเสียเงินมาปลูกสร้างเลย
แม้นแต่เพียงสตางค์เดียว กับเป็นธรรมชาติของเราที่มีอยู่แล้ว ที่ผู้เผยแพร่
พระพุทธศาสนาและผู้ที่ปฏิบัติ กลับมองข้ามไป ครับ

 

      มาทำความรู้จักกับคำว่าอุปนิสัยอินทรีย์ครับ
อินทรีย์ คือความสามารถหลักทางจิต ๕ ประการ ได้แก่
๑. สัทธินทรีย์ คือ ความศรัทธา ในโพธิปักขิยธรรม
๒. วิริยินทรีย์ คือ ความเพียร ในสัมมัปปธาน
๓. สตินทรีย์ คือ ความระลึกได้ ในสติปัฏฐาน
๔. สมาธินทรีย์ คือ ความตั้งมั่น ในญาณ
๕. ปัญญินทรีย์ คือ ความเข้าใจ ในอริยสัจ
อุปนิสัยอินทรีย์ คือ คุณธรรมประจำจิตใจ สืบเนื่องมาแต่ชาติก่อนฯ
จึงเป็นนิสัยประจำสันดาน หรือ จิตใจ จึงเรียกว่า อุปนิสัยอินทรีย์
ทั้ง ๕ ๑ ศรัทธา ๒ วิริยะ ๓ สติ ๔ สมาธิ ๕ ปัญญา
หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า มีของเก่าซึ่งติดมาจากอดีตชาติ นั่นเอง ครับ

 

นำข้อเขียนของเพื่อนธรรมมาเป็นโพสต์วิทยาทานครับ  

DrNatdhnond Sippaphakul
ค่ำคืนของวันที่ 29 ธันวาคม 2555 ผมได้ติดตามหลวงพ่อพระอรหันต์เจ้า และคณะลูกศิษย์ประมาณ 20 คน ได้ธุดงค์ไปโปรดชาวโลกทิพย์และนั่งภาวนาตลอดทั้งคืน ณ ทุ่งนาใกล้ป่าช้าชาวคริสต์ ซึ่งอยู่หลังโรงเรียนเทเรซ่า บ้านโนนแก้ว อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา ค่ำคืนนี้ เหล่าดวงวิญญาณและชาวโลกทิพย์มากันจำนวนมาก จนทำให้นกและสัตว์ต่างๆร้องระงมกันแทบทั้งคืน วิญญาณส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ เพราะหมู่บ้านนี้นับถือคริสต์ ในเหล่าดวงจิตญาณนี้มีสาธุคุณผู้หนึ่งมาหา พร้อมกับได้พูดคุยกันกับป้าหวังอริยบุคคลระดับอนาคามีว่า "พระเจ้ามาโปรดพวกเราแล้ว พวกท่านเป็น Number one...และอะไรอีกหลายๆคำ" เขาถามป้าหวังต่อไปว่า "แล้วพวกท่านได้อะไรจากการมาโปรดพวกเขา"...ป้าหวังตอบว่า "ไม่หวังสิ่งใดนอกจากมาช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์"... นอกจากนั้น ยังมีเปรตตัวใหญ่สูงท่วมต้นไม้ นุ่งกางเกงขาสั้น เป็นเปรตชาวคริสต์ ก็มาขอส่วนบุญจากหลวงพ่อด้วย...ท่านทั้งหลาย แม้จะนับถือศาสนาใดๆ หากทำผิดทำชั่วจนเกิดกรรมหนัก ก็ย่อมตายไปเป็นเปรตเช่นเดียวกัน ไม่มีแตกต่างกันเลย ส่วนดวงจิตญาณของเหล่านักบวชศาสนาอื่นๆ หรือดวงจิตญาณในทางศาสนาพุทธก็ตาม พวกเขาจะมาตามแสงสว่าง แสงสว่างอันเจิดจ้านั้น คือแสงแห่งดวงจิตที่มีคุณธรรมสูงที่เหล่าเทวดาเขานับถือกัน เทวดาเขานับถือกันที่ดวงจิตที่สว่างไสว เมื่อแสงสว่างไสวเจิดจ้าอันประมาณมิได้ของพระอรหันต์เจ้า และเหล่าอริยบุคคลผู้ร่วมติดตาม ย่อมทำให้เหล่าดวงจิตญาณทั้งหลายแลเห็น จึงได้พร้อมกันเข้ามาหา เพื่อจะได้พึ่งพาบารมีหรือมาอนุโมทนาจากผู้มีบุญทั้งหลาย...เพราะพวกเขาไม่มีร่างกายที่จะสร้างบุญได้ จึงต้องอาศัยจากมนุษย์ผู้มีศีล ผู้มีบุญ ผู้ภาวนา เป็นผู้เผื่อแผ่บุญกุศลให้แก่พวกเขา

นี่แหละความทุกข์ของสัตว์โลก มีเสมอเหมือนกันทุกศาสนา ...จงพิจารณาให้รู้แจ้ง จึงจักพ้นทุกข์ได้

อนุโมทนาบุญครับ ท่าน ดร.นนท์
คมสันต์ USA

 

เข้ามาทำความรู้จักกับวัฏฏะ 3 ครับ

วัฏฏะ หรือ ไตรวัฏฏ์ แปลว่า วงวน หรือวงจร หมุนเวียนสืบทอดต่อ ๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นวงจรหมุน ไป ได้แก่

1. กิเลสวัฏฏ์ ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน คือ ความโลภ ความโกรธ และความหลง

2. กรรมวัฏฏ์ ประกอบด้วย สังขาร ภพ คือ การกกระทำที่มีเจตนามี 2 ประเภท คือ อกุศลกรรมหรือกรรมชั่ว และกุศลกรรมหรือกรรมดี กรรมทั้ง 2 ประเภทนี้ สามารถแสดงออกได้ 3 ทาง คือ ทางกาย เรียกว่า กายกรรม ทางวาจา เรียกว่า วจีกรรม และ ทางใจ เรียกว่า มโนกรรม

3. วิบากวัฏฏ์ ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสอุปยาสคือ ผลของการหรือผลของการกระทำ กระทำอย่างใดไว้ก็จะได้รับผลของกรรมนั้น นั่นคือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

อธิบายให้เข้าใจง่ายฯครับ
กิเลส กรรม และ วิบาก เปรียบเหมือน รถ ตุ๊ก ตุ๊ก ของไทย เรา
แต่ต่างกันคือรถคันนี้จะวิ่งเฉพาะ ไป ภพ กับ ชาติ เท่านั้นมีด้วยกันทั้งหมด คือมีแค่ ๓ ล้อ ครับ ซึ่ง อวิชชา อาศัย อยู่ในล้อทั้งสาม ตัวรถ ตุ๊ก ตุ๊ก เปรียบเหมือน สังสารวัฏ ถ้ายังไม่ถูกทำลาย
เป็นเหตุปัจจัย ทำให้เกิด ภวตัณหา และ วิภาวตัณหา ฉนั้น เรา จึง
ช่วยกัน ถอดล้อ ตุ๊ก ตุ๊ก ทั้งสามออก และ ทำลายเสีย รถ ตุ๊ก ตุ๊ก ก็ ไม่อาจ
ที่จะวิ่งข้าม ภพ ชาติ อีกได้ ครับ
เจริญธรรมมาด้วยเมตตาจิต

 

กลิ่นดอกไม้ทิพย์หรือมฑานั้นจะได้กลิ่นก็ต่อเมื่อจิตเป็นสมาธิ
ขั้นละเอียด เป็นกลิ่นของเทพเทวดาที่ใฝ่ธรรม จะได้กลิ่นเมื่อเวลา
อัญเชิญเทวดามาฟังธรรม และเวลา ที่แผ่ส่วนกุศลหลังจากนั่งสมาธิครับ
หรือ ที่ชาวทิพย์เรียกกันว่ากลิ่นศีล ครับ

 

ความรู้เรื่องกลิ่น ต่อครับ เป็นความรู้ครับ
นอกเหนือจากกลิ่นศีลแล้ว ยังมีอีก หลายกลิ่นโดยเท่าที่ประสพมา
๑ กลิ่นธูปหอม ที่ไม่ใช่กลิ่นธูปหอมที่มีในเมืองมนุษย์
เป็นกลิ่นของเทพเทวดาชั้นสูง หรือที่เราเรียกว่า
วิสุทธิเทพ ครับ
๒ กลิ่นธูป หรือกลิ่น ยาสูบ กลิ่นหอมของคนเคี้ยวหมากอยู่
เป็นกลิ่นของเทพเทวดาชั้นต้นฯ ครับ
๓ กลิ่นเหม็นสาบ และกลิ่นอับมาก เป็นกลิ่นของ วิญญาณ
ชั้นต่ำ หรือสัมพะเวสี หรือ วิญญาณ เร่ร่อน ครับ

 

เฉพาะพระที่ปฏิบัติ ดี ปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัย ของพระบรมศาสดา
จะไม่มีขาดปัจจัยสี่แน่นอน ครับ และเผยแพร่ธรรม โดย ไม่โฆษณา
ชวนเชื่อให้คนสร้างแต่วัตถุ หรือมหาบุญใหญ่ต่างฯที่ทำกัน ที่กำลังเดินสวนทางกับ องค์สัมมาสัมพระพุทธเจ้า ครับ

 

ขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านที่มีจิตเป็นบุญและกุศล มีปัญญาใคร่ครวญพิจารณาหาเหตุผล ขอให้เป็นกระทู้รวมกลุ่มคนมีปัญญาก็แล้วกันนะครับ

 

ขออนุโมทนากับข้อธรรมที่ท่านอาจารย์คมสันต์นำมาเป็นวิทยาทานค่ะ
กราบอนุโมทนาท่าน ดร.นนต์ด้วยค่ะ

 

อนุโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ที่ให้ธรรมทานเตือนสติด้วยค่ะ...

 

เรื่องนี้ ท่านพุทธทาส ท่านก็เคยเทศนาให้ปัญญากับญาติโยมเหมือนกัน

 

สักกวาอัน ที่ว่า วิชชาสาม
เป็นชื่อนาม วิทยา อัชฌาสัย
เตวิชโช รู้สิ่ง เป็นจริงไป
สามสิ่งไทร้ จะจำแนก แยกให้ดู
หนึ่งปุพเพ นิวา สานุแน่
รู้แจ้งแท้ แต่ปาง ครั้งก่อนหลัง
ระลึกชาติ หลายชีวิต ไม่ปิดบัง
ถอยย้อนหลัง ไปไกล ครั้นได้มี
ส่วนสิ่งสอง สุดหรู จูตูปปาต
รู้ถึงชาติ ของทุกสัตว์ อุบัตินั้น
เกิดจนตาย รู้เช่น เห็นเรื่องมัน
ว่าสัตว์นั้น พลัดมา จากที่ใด
ส่วนที่สาม ท่านว่าอา สวักขย
เป็นอาริย ละได้แน่ ไม่แปรผัน
ดับสูญสิ้น กิเลส วิเศษพลัน
ทั้งสามนั้น สรรพเสร็จ สำเร็จธรรม

 

ท่าน คมสันต์ เพิ่มกลิ่นดอกไม้หอมเย็นๆ สดชื่น อธิบายที่มาให้สมาชิกฟังเป็นวิทยาทานด้วยครับ ยังไม่ครบขาดไปอันนึงให้ท่านเล่าเอง ^_^

 

ขำดี ๆ ดูด มายาก หน่อย
ขาด รสดี ต้องเติมรสชาดไปหน่อย


ถ้าโดนมารหลอก จะรู้ตัวได้อย่างไร ?

ถาม : ถ้าความดีกับความชั่วหน้าตาเหมือนกัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าต่างกันตรงไหน ?
ตอบ : ต่างกันตรงที่ผลลัพธ์ของการกระทำ ความชั่วจะชี้ให้เราเดินทางผิดอยู่ตลอด

ถาม : ถ้าเราโดนมารหลอก เราจะรู้ตัวได้อย่างไรครับ ?

ตอบ : จนกว่าจะมีปัญญามากกว่าตอนนั้น ถ้าปัญญายังเท่าตอนนั้นก็เสร็จเขาไปก่อน พอปัญญามากขึ้น ก็จะรู้ว่าตรงนั้นเขาหลอก เมื่อก้าวล่วงพ้นไป เขาก็จะหาสิ่งที่เนียนกว่านั้นมาหลอกใหม่อีก

ถาม : แล้วนี่ผมโดนท่านหลอกอีกหรือเปล่าครับ ?

ตอบ : โดนเต็มๆ กำลังหลอกให้ไปพระนิพพาน ดูซิว่าคุณจะไปได้ไหม ?

ถาม : ถ้าโดนหลอกอยู่ตลอดแล้ว เราจะใช้ปัญญาพ้นจากตรงนั้นได้อย่างไรละครับ ?

ตอบ : ต้องรอวาระกุศลเข้ามา พอวาระกุศลเข้ามา สติ สมาธิ ปัญญาทรงตัว ก็จะเห็นว่าที่เราเดินทางตรงจุดนั้นผิด หรือไม่ก็วาระกุศลเข้ามา ได้รับการทักท้วงจากผู้ที่มีกำลังใจสูงกว่า ซึ่งเห็นว่าเราเดินทางผิด แล้วเราเองก็เพิ่งจะยอมรับเป็นครั้งแรกว่าผิด เพราะก่อนหน้านั้นอกุศลครอบงำอยู่ ไม่เคยยอมรับว่าผิด ก็จะอยู่ลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ

ถาม : เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ หรือครับ ?

ตอบ : เป็นมานับชาติไม่ถ้วน เราจะเห็นว่าสำคัญตรงบุญกุศล เพราะฉะนั้น..ถ้าเราสร้างบุญกุศลไว้ไม่ให้ขาดช่วง บุญกุศลหนุนนำอยู่ โดยเฉพาะในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา ก็เท่ากับเราใส่เกราะ แม้จะออกรบรบโดนอาวุธบ้างก็ไม่ถึงกับบาดเจ็บสาหัสนัก

ถาม : (ไม่ได้ยิน)

ตอบ : แค่ดูกำลังใจของเราก็รู้ ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ไหม ? มีอิจฉา ริษยา อาฆาตพยาบาทอยู่ไหม ? ทั้งที่กำลังใจของเรารู้ว่า เขาทำอย่างนั้นเป็นเพราะอกุศลกรรมชักจูงเขา แต่การกระทำของเขามากระทบกระทั่งเรา เราก็พยายามให้อภัยเขา แต่เนื่องจากว่ากำลังใจเรายังต่ำอยู่ คิดให้อภัยเขาไปพักหนึ่ง เดี๋ยวก็คิดว่า “มันว่ากูนี่หว่า” ตัวโทสะกำเริบขึ้นมาใหม่ ตัวอาฆาตพยาบาทก็ “เดี๋ยวกูจะเอาคืน” ไปเรื่อยแหละ

แต่พอนึกขึ้นมาใหม่ก็ “เออ..อภัยให้เขาเถอะ” จะยื้อกันไปยื้อกันมา จนกว่ากำลังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเหนือกว่า ทีนี้ก็จะลากยาวไปเลย


สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๕

สุดท้าย ทุกคนต้องไปนิพพาน กันหมด ..
ไม่ต้องพร้อมกัน ก็ได้ .... ฮิ

 

Meao Foto ในฐานะของนักวิทยาศาสตร์และเป็นผู้ปฏิบัติธรรม โดยส่วนตัวดิฉันจะมีความเห็นว่าก่อนที่จะสร้างกระแสวิพากษ์ใดใด สิ่งที่มีควรมีอยู่ คือ ข้อมูลที่ชัดเจน สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่คำตอบเพียงคำตอบเดียว และที่มาของคำตอบ ต้องเนื่องด้วยปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ถ้ายังมีสิ่งที่ไม่รู้อีกมาก ควรเริ่มต้น ที่การเข้าไปศึกาาให้รอบด้าน ว่าจะเกิดเพราะอะไร และบางสิ่งไม่เกิดนั้น เพราะอะไร และดิฉันขอส่งความปรารถนาดี ในฐานะของเพื่อนมนุษย์นะคะ ในยุคนี้ อย่าดำเนินชีวิตด้วยความประมาท รักษากายและจิตใจ รักษาสุขภาพเท่าที่จะสามารถรักษาได้ และจิตใจ มนุษย์เรา ต้องเพ่งเพียรเผากิเลสตัณหา ของตัวเอง ไม่มีใครช่วยเหลือตัวเราได้นอกจากตัวเราเอง เราแต่ละคนยังจะต้องเผชิญอะไรอีกมาก ในความเป็นผู้ปฏิบัติธรรมไม่ว่าจะในฐานะใด จะทราบดีว่า สิ่งที่ออกมาจาก จิต สืบเนื่องเป็นการกระทำทั้งกาย วาจาและใจนั้น สำคัญ ถ้าทำไม่ดีจะเป็นวิบากกรรมไม่ดี ถ้าทำดี ก็จะเป็นวิบากกรรมดี ส่งผลต่อเนื่องแก่ตัวเอง....นี่คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์ของดิฉันได้สอนไว้ ถ้าดิฉันจะกล่าวโดยเป็นกลาง ดิฉันก็อยากจะกล่าว่า คนเรานั้น พึงรักษา จิต ของตัวเองกันไว้ดีกว่า พา จิต ของตัวเราเองให้รอดพ้นจากอบายภูมิให้ได้ในชาตินี้ เมื่อ เราพา จิต นี้ ก้าวล่วงจากภัยพิบัติที่เราก่อขึ้นให้แก่ตัวเราเองแล้ว เราจะเข้าใจอะไรต่างๆ ในความเป็นไปต่างๆ ขึ้นอีกมาก
คุณคมสันต์อย่าเสียเวลาต่อกลอนยาว สาวความกับดิฉันเลยค่ะ ดิฉันก็จะไม่มาต่อความอะไรด้วยแล้ว เราจะกลายเป็นเสมือนปลาน้อย ว่ายวนไปมาเป็นวงกลม ต่างฝ่ายต่างก็มีความเห็นของตัวเอง แต่หากเราต่างเป็นชาวพุทธ จะดำเนินรอยตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มุ่งสู่ทางหลุดพ้น เราน่าจะมุ่งมั่นเพ่งเพียร ชำระ จิต ดวงนี้กันอย่างจริงจังแต่ไม่ยึดมั่น กันดีกว่านะคะ ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม....
2 ชั่วโมงที่แล้ว · ถูกใจ · 1
พูดสะสวยหรูเลยแต่ยังเดินหลงทางอยู่ วนอยู่ในปิรามิด
ใช่ค่ะพี่
พี่พูดถูกต้องที่สุดค่ะ

 

วิเคราะห์จากคำตอบที่ไม่ตรงประเด็นกับความจริงที่ปรากฏ
 Meao Foto   ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้นอกจากตัวเราเอง
   คมสันต์usa    อ้าว  ทำไมไม่บอกชาวบ้านในตอนที่ขายปิรามิดเล่าครับ
   Meao Foto ถ้าทำดี ก็จะเป็นวิบากกรรมดี ส่งผลต่อเนื่องแก่ตัวเอง....นี่คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์ของดิฉันได้สอนไว้    สืบเนื่องเป็นการกระทำทั้งกาย วาจาและใจนั้น สำคัญ ถ้าทำไม่ดีจะเป็นวิบากกรรมไม่ดี
    คมสันต์usa  อ้าว แล้วอย่างที่พระอาจารย์ พูดมุสา หลอกชาวบ้าน
ขายสิ่งที่เรียกว่าปิรามิด แล้วอ้างว่ามีคุณวิเศษ ต่างฯนาให้คนลงเชื่อ
และอ้างว่าจะมีภัยพิบัติแน่นอน  วันที่๓ มกราคม ที่่านมา แล้วกลับลำ เอาดื้อฯ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน จากปิรามิด สี่เหลี่ยม  หกเหลี่ยม  แปดเหลี่ยม  ติดเหลี่ยม และ จะรับผิดชอบอย่างไร  และที่รับคืนปิรามิดนั้น
บอกได้ใหมว่าจะยินดีคืนเงินให้เต็มราคา
 Meao Foto ถ้าทำดี ก็จะเป็นวิบากกรรมดี ส่งผลต่อเนื่องแก่ตัวเอง....นี่คือสิ่งที่ครูบาอาจารย์ของดิฉันได้สอนไว้
 คมสันต์usa สาธุ   แต่ถ้าสอนวิชาหมุนและปิรามิดแล้ว เสียใจด้วย เชิญตามสบายครับ  อย่าเอาธรรมะมาอ้าง เลยครับ
 Meao Foto ดิฉันก็อยากจะกล่าว่า คนเรานั้น พึงรักษา จิต ของตัวเองกันไว้ดีกว่า พา จิต ของตัวเราเองให้รอดพ้นจากอบายภูมิให้ได้
 คมสันต์usa  กรรมภัยพิบัติปิรามิดที่ก่อใว้นั้นนั้นไปคิดเอาเองครับ
  ส่วนเรานั้นไม่ต้องห่วงครับ 
 Meao Fotoก้าวล่วงจากภัยพิบัติที่เราก่อขึ้นให้แก่ตัวเราเองแล้ว เราจะเข้าใจอะไรต่างๆ ในความเป็นไปต่างๆ ขึ้นอีกมาก
 คมสันต์usa ขอบคุณที่ปราถนาดีครับ เราเองความรู้เพียงน้อยนิดช่วยแนะนำด้วยจะเป็นบุญครับ
 Meao Fotoคุณคมสันต์อย่าเสียเวลาต่อกลอนยาว สาวความกับดิฉันเลยค่ะ
ภัยพิบัติ ที่ปั่นป่วน ทั้งมวลนี้
ข่าวมากมี หลายคน โหนกระแส
ประโคมข่าว เป็นผู้รู้ ห่วงดูแล
แม้แต่พระ ไม่ละเว้น เต้นตามกัน

อ้างทฤษดี โน่นื่ ที่ศึกษา
งัดตำรา หมอดูว่า ครูสอน
สร้างกระแส ภัยพิบัติ กรรมตัดรอน
จะเดือดร้อน สร้างภัย ให้ตัวเอง

กาลามสูตร สิบธรรม ไม่นำหน้า
ลืมพระองค์ สัมมาฯ ที่พาสอน
เลี่ยงบาลี หนีฝุ่น หมุนดินดอน
อุธาหรณ์ ชาวพุทธ จงหยุดฟัง
ผียี่สิบเอ็ดธันวา

ยี่สิบเอ็ด ธันวามา ถึงใกล้
พวกได้ใจ ปั่นกระทู้ มารู้สอน
หลงนิมิตร บอกผ่านศิษย์ จิตวิงวอน
กรรมจะย้อน ผ่านหาศิษย์ ติดตามไป

อ้างวิธี ปิรามิด คิดเข้าท่า
องค์สัมมาฯ ศาสดา ไม่เคยสอน
วิชชาหมุน ดุนกิเลส เหตุบั่นทอน
ใช่ยอกย้อน สอนท่านมา ภาษาธรรม

ปิรามิดนั้น ท่านดูสวย ช่วยคนได้
ขอเสียใจ มันเป็นภัย อย่างใหญ่หลวง
พุทธศาสนา ไม่ได้สอน สิ่งทั้งปวง
ข้างในกลวง ปิรามิด คิดให้ดี

ใช้หลักธรรม นำหน้า ตถาคต
ไม่ละลด ภาวนา พาห่างหนี
ภัยพิบัติ ทีว่าใว้ ไม่เห็นมี
เหลือแต่ผี ปิรามิด ติดหลอนคน

ยิ่สิบเอ็ด ธันวามา เยือนครับ
หลายท่านกลับ ต้องพา ไปหาหมอ
ทำนายภัย พิบัติ ถูกขัดคอ
หน้าแตกหนอ รอหมอเย็บ เก็บเข้าคิว

ลบกระทู้ ถูข้างไถ ยังไปต่อ
รอคอยหมอ คิวยาว เป็นดาวหาง
ภัยพิบัติ รับกลับไป ใครมาวาง
ยาวเป็นหาง พ่วงผลกรรม ที่ทำไป

ผีปิรามิดภาคสองต่อ

เมื่อผ่านวัน ฝันผวา ท่าจะจุก
เหมือนหมากรุก เข้ามุม รุมขุนผา
เก็บเบี้ยเกลี้ยง เลี่ยงกระทู้ ดูบางตา
รวมทั้งม้า และเรือ เมื่อหายไป

เหลือแต่ขุน หมุนไป ยังไขว่คว้า
ดิ่งพสุธา พาเรื่อล่ม มาจมหาย
ภัยพิบัติ แบบนี้หนี ผีลาตาย
หาวลีใหม่ นำมาใช้ ให้เขียนลง

คนรู้ทัน ดักคอรอ ใว้ก่อน
เหมือนละคร ดูบทหนัก พักรอใว้
หมดเรื่องเล่น มีให้เห็น เช่นนี้ไป
เรียกว่าภัย ปิรามิด ติดตาจน
 คมสันต์usa  เพื่อนธรรมนั้นย่อมยอมรับการติเตียนโดยธรรมเสมอจากเพื่อนธรรมครับ
Meao Foto ดิฉันก็จะไม่มาต่อความอะไรด้วยแล้ว เราจะกลายเป็นเสมือนปลาน้อย ว่ายวนไปมาเป็นวงกลม ต่างฝ่ายต่างก็มีความเห็นของตัวเอง
 คมสันต์usa เรานั้นเลิกวนมานานแล้วครับ แต่กำลังหาทางช่วยคนที่ยังหลงอยู่
ครับ
Meao Foto แต่หากเราต่างเป็นชาวพุทธ จะดำเนินรอยตามองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มุ่งสู่ทางหลุดพ้น เราน่าจะมุ่งมั่นเพ่งเพียร ชำระ จิต ดวงนี้กันอย่างจริงจังแต่ไม่ยึดมั่น กันดีกว่านะคะ  
 คมสันต์usa โอโฮพูดกับทำมันไม่เหมือนกันครับ แล้วคุณได้บอกสิ่งนี้กับชาว
บ้านเวลาที่บอกสรรพคุณของปิรามิดด้วยหรือเปล่าครับ
                   ส่วนที่เราบอกนั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน ปิรามิดแน่นอนครับ
Meao Foto ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม..
 คมสันต์usa  สาธุ  

 

มีปัญญา พาใจ ให้ผ่องผุด
แลประดุจ อาวุธครอง ป้องภัยได้
ไม่เสียรู้ แลปล่อยวาง ร้างโพยภัย
เกราะกันภัย ชั้นดีเลิศ ประเสริฐนัก.

 

มาอัพกระทู้ กับนั่งชมกลอน คุณติงติง ครับ

 

การเผยแพร่พระพุทธศาสนาและการสืบทอดในพระพุทธศาสนานั้น
เป็นหน้าที่โดยตรง เพราะองค์สมเด็จสัมมาสัมพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาในพระพุทธศาสนาท่านใด้มอบมรดกอันล้ำค่าคือพระธรรมคำสั่งสอนใว้ให้ และได้ฝากใว้กับพุทธบริษัท ๔ 
คือ  พระภิกษุสงฆ์  พระภิกษุณี  อุบาสก  และอุบาสิกา 
สิ่งใหนที่ไม่ถูกต้องหรือที่ผิดไปจากหลักธรรมหรือออกนอกลู่นอกทางก็ต้องช่วยกันติเตือนโดยธรรม และหาทาง เพื่อเตือนสติ  ตามความรู้และสติปัญญาและภูมิธรรมของแต่ละท่าน
เรียกว่าช่วยกันสืบทอดพระพุทธศาสนา  แม้นจะมีบางท่านอาจจะไม่ถูกใจบ้าง
แต่คงจะไม่มีใครที่จะปฏิเสธหรือค้านในพระธรรมสิ่งที่พระองค์ศาสดาทรงสอนมาอย่างแน่นอนครับ

 

บัวสี่เหล่า กล่าวความเลิศ ประเสริฐสุด
สอนมวลมนุษย์ สุดยอดคำ พระธรรมหนา
นี่คือธรรม ขององค์ พระสัมมา
สี่เหล่าพา แยกส่วนใว้ ใช้สอนธรรม

มาสมัยนี้ มีให้เห็น เป็นอีกหน่อ
ไม่แตกกอ หน่อมาหุบ ยุบหมดสาย
หมดโอกาส ขาดใยเส้น เป็นหรือตาย
บัวนี้ไทร้ ใต้หินเขา เน่าหมดกอ