เทคนิกการฝึกสมาธิแบบออกเสียง ที่เรียกว่า Toning Meditation

ขออนุญาตขึ้นกระทู้ทิ้งไว้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวเนื้อหาทั้งหมด รอคุณ kindred
มาช่วยโพสต์ให้ครับ..

......................................

 

What is Toning?
ที่มา Nada Yoga Part Two - Toning

ตอนที่ 1



การโทนนิ่ง(Toning) คือ การเปล่งเสียงสระตัวใดตัวหนึ่งออกมาโดดๆ
เพื่อให้เกิดเสียงขึ้นและเพื่อให้มันส่งผลกระทบไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย

ไม่มีท่วงทำนอง, ไม่เป็นภาษา, ไม่มีจังหวะจะโคน และไม่มีการผสานเสียงใดๆ
มันเป็นเพียงเสียงของลมหายใจที่กำลังสั่นสะเทือนเท่านั้น
มันเป็นเทคนิคง่ายๆแต่ทรงพลังที่ทุกๆคนสามารถทำได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านเสียงหรือต้องมีการฝึกฝนใดๆ
เมื่อพวกคุณได้ลองทำโทนนิ่งแล้ว พวกคุณจะพบว่าคลื่นเสียงจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย
อารมณ์ และ สุขภาวะทางจิตวิญญาณของพวกคุณขึ้นอย่างทันทีทันใดเลยทีเดียว

โดยการนวดเฟ้นกายและจิตจากภายในสู่ภายนอก
การใช้โทนเสียงเพื่อทำสมาธิ(meditative toning) จะช่วยให้พวกคุณจดจ่อและผ่อนคลาย
; ช่วยให้พวกคุณได้ปลดปล่อยอารมณ์ลบๆออกไป
; ลดความเครียด
; และช่วยให้มีความอดทนและมีสมาธิมากขึ้น

โทนนิ่งจะเกิดขึ้นในจังหวะเดียวกันกับคลื่นสมองและช่วยบรรเทาความตึงเครียดลงได้ในไม่กี่นาที
โทนนิ่ง ยังเป็นเทคนิคที่น่ามหัศจรรย์เพื่อพัฒนา การได้ยินเสียงทางหู(voice-ear)ของพวกคุณ
และทำให้พวกคุณได้ยินสิ่งต่างๆรอบตัวของพวกคุณได้ชัดเจนดีขึ้นอีกด้วย

ที่สำคัญที่สุดโทนนิ่งจะช่วยฟื้นฟูจิตและกายของพวกคุณให้กลับคืนสู่ความสมดุลได้อีกด้วย
มันจะช่วยทำให้พวกคุณตื่นขึ้นและหยั่งถึงตัวตน (sense of self) ของพวกคุณได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
และทำให้พวกคุณเข้าไปอยู่ในระดับการสั่นสะเทือนทางจิตวิญญาณที่สูงที่สุดอีกด้วย

ด้วยวิถีแห่งการโทนนิ่ง
พวกคุณจะมุ่งสู่ต้นกำเนิดของความสมดุลภายใน มีความคิดสร้างสรรค์
มีสุขภาพที่สมบูรณ์ และ รู้สึกว่าตนเองมีอิสระมากขึ้น

ตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมา มีผู้คนนับพันๆที่ได้ค้นพบการโทนนิ่งมาแล้วต่างก็พบว่า
มันช่วยทำให้สุขภาพและจิตใจของพวกเขาเองโปร่งสบายขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
บรรดา แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักบำบัด แพทย์ทางเลือก
(body workers/ ได้แก่นวดแผนโบราณ การกดจุด ฝังเข็ม เป็นต้น...ผู้แปล),
ครูบาอาจารย์ และนักธุรกิจทั้งหลายต่างก็ยืนยันว่าการโทนนิ่งนั้นมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการงานของพวกเขาจริงๆ

 

What is Toning?
ที่มา Nada Yoga Part Two - Toning

ตอนที่ 2

การรวมตัวกันแข็งแกร่งกว่าพลังแห่งเจตจำนง

พวกคุณจะต้องไม่ "เปล่งเสียงโอม(OM) แต่เพียงลำพัง!"
การเปล่งเสียงร่วมกับผู้อื่นจะเป็นการช่วยเสริมส่งกันและยังสนุกสนานอีกด้วย




จงเข้าร่วมกับบรรดาผู้ที่มีใจรักการโทนนิ่งเหมือนๆกัน และร่วมกันเปล่งเสียงเป็นกลุ่ม
สร้างวงกลมสมาธิขึ้นด้วยกันด้วยพลังคลื่นเสียงพร้อมกับเพื่อนๆสักสองสามคน
มองหามิตรภาพ ความช่วยเหลือ หรือการนำทางที่อยู่รอบๆตัวของพวกคุณ
ไม่ว่าพวกคุณจะอยู่กับกลุ่มองค์กรใดองค์กรหนึ่ง อยู่กับเพื่อนที่พบเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว
หรือ "ผู้นำทาง"ที่มีประสบการณ์ในการโทนนิ่ง

พวกคุณจะรับมือกับแรงต้าน ปัญหาทางกายภาพ และความไม่มั่นคงต่างๆได้ดีกว่า
ถ้าหากว่าพวกคุณมีเพื่อนฝูงคอยช่วยเหลือ
________________________________________

การเปล่งเสียงสระต่างๆและศูนย์พลังงาน

พลังของโทนเสียงที่แฝงอยู่ในสระต่างๆ (เช่น "ah-eh-ee-oh-uu"/อา-เอ-อี-โอ-อู).
การเปล่งเสียงสระต่างๆ มีความสำคัญในการโทนนิ่งมากกว่า "ระดับของเสียง " (สูง หรือต่ำ)
คนส่วนใหญ่พบว่าสระแต่ละตัวมีพลัง มีอารมณ์ และผลกระทบที่มีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง

การแพทย์ และ สรีรวิทยาแผนใหม่ ได้ศึกษาและเฝ้าดูค่าพลังงาน"แม่เหล็กไฟฟ้า"ในร่างกาย
– อย่างเช่น กระแสไฟฟ้าในเส้นประสาทของกล้ามเนื้อ (muscle nerves)
และ จุดประสานปลายประสาท(neural synapses)ในสมอง



และสำหรับเทคนิคในการบำบัดรักษาที่สืบทอดกันตามประเพณีมานับพันๆปี
อาทิ การฝังเข็ม ก็ใช้วิธีการรักษาโดยยึดหลักจากแผนที่พลังงานภายในร่างกายมนุษย์ นั่นเอง

มันดูเหมือนว่าร่างกายมี "ตำแหน่งความร้อน"ที่แน่นอนของพลังงานต่างๆอยู่
บรรดาตำรับตำราทั้งหลายทั้งทางตะวันออกและทางตะวันตกต่างก็อธิบายถึงมันไว้
และมักเชื่อมโยงมันเข้ากับรูปแบบความคิดและผลที่เป็นแม่บทของมันอย่างเจาะจง
(ผู้นำทางจิตวิญญาณโบราณบางท่านและแหล่งการแพทย์บางแห่งก็เรียกศูนย์พลังงานเหล่านี้ว่า จักระ)

ไม่ว่าพวกเราจะตีความหมายของมันออกมาทางปรัชญาหรือตีความกันแบบตรงๆตัวตามตัวอักษรก็ตาม
การสำรวจศูนย์พลังงานต่างๆในร่างกายด้วยเสียงก็เป็นการทัศนาจรที่น่าหลงใหล
ในขณะที่พวกเราเรียนรู้ที่จะเข้าใจความสัมพันธ์ของตัวสระเองกับพลังของมันในสระแต่ละตัว
เมื่อพวกเราหัดที่จะ"ฟัง"ตัวตนของพวกเราเองในทุกๆระดับของความเป็นไปได้
พวกเราก็จะเข้าใจในเรื่องแถบสเปคตรัมของพลังงานและ อารมณ์ต่างๆภายในตัวของพวกเรามากยิ่งขึ้น

การทำโทนนิ่งแบบๆ "ง่ายๆ" นี้ จะทำให้พวกเรารับรู้ถึงพลังงานและการสั่นสะเทือนทั้งหลายที่อยู่ภายในตัวเองได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อเกิดการตระหนักรู้เช่นนั้นขึ้น พวกเราก็จะรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น และรู้สึกเชื่อมต่อกับสรรพสิ่งรอบๆตัวของพวกเรามากยิ่งขึ้น

 

What is Toning?
ที่มา Nada Yoga Part Two - Toning

ตอนที่3

เสียงสระต่างๆกับพลังงาน

มันมีเสียงของสระต่างๆอยู่มากมายในภาษาของมนุษย์
สำหรับการโทนนิ่งนี้ พวกเราจะเริ่มจากเสียงหลักๆเหล่านี้ก่อน
จงจำไว้ว่านี่ไม่ใช่ลิสต์รายการของหลักสัจธรรมแห่งจักรวาล
มันเป็นเพียงคำแนะนำบางส่วนแค่พอเป็นพิธีสำหรับการเริ่มต้นของพวกคุณเท่านั้น

คุณสมบัติที่เป็นไปได้หรือการรับรู้ที่สัมพันธ์กันของเสียงสระ

UU --- ("who/ ฮู")
การตั้งมั่น , ความสงบเยือกเย็น , ความผ่อนคลาย, การรับรู้ทางกายภาพ,
ให้ความรู้สึกในทางลึก, บริเวณก้นกบ(base of spine)

OH --- ("go/โก")
จิตสำนึกที่มีต่อภาพลักษณ์ของตนเอง ปัญหาทางบุคลิกภาพ , ความมั่นใจในตนเอง
ศูนย์โซล่าร์-เพล็กซัส(จักระที่3...ผู้แปล), ความเป็นปัจเจกบุคคล

AH --- ("car/คาร์")
การรวมเข้า, การแผ่ออก, อารมณ์ความพึงใจที่จริง, ให้ความรู้สึกในทางกว้าง, บริเวณหัวใจ

EY--- ("pray/เพรย์")
การสำแดงตน, การติดต่อสื่อสาร, การฟังด้วยของจักระคอและลำคอ

EE --- ("knee / นี")
การเพิ่มพลัง การตื่นรู้ เกิดความแข็งแกร่งทั้งจิตและกาย, ให้ความรู้สึกในทางยาว, ศีรษะ

MM --- ทำเสียง อึม (ฮัมแบบปิดปาก)
ปรับสมดุล สร้างความกลมกลืน และ ผสานสอดคล้องกัน
เป็นเสียงที่ละเอียดอ่อนที่สุดและทรงพลังอย่างที่สุดอีกด้วย

ตัวอย่าง ในการเชื่อมเสียงสระ เพื่อสร้างสมดุลและการรวมศูนย์

(ให้เปล่งเสียงต่อเนื่องกันทีเดียวในขณะหายใจออกอย่างเต็มที่):

"UU-AH-EE-MM" ปรับสมดุลและเพิ่มพลัง เมื่อตื่นนอนตอนเช้า
"MM-EE-AH-UU" ปรับสมดุลและผ่อนคลาย ก่อนเข้านอน

Note: นี่เป็นลิสต์รายการของคำแนะนำแค่สองสามอย่างพอเป็นพิธีในการเริ่มต้นเท่านั้น
ความตระหนักรู้ของพวกคุณแต่ละคนค่อนข้างจะแตกต่างกัน ; นั่นไม่ใช่ปัญหา!
นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น มันจะไม่มีประสบการณ์โทนนิ่ง "แบบธรรมดาทั่วๆไป"หรอก
มันมีเพียงประสบการณ์ของ"คุณ"คนเดียวเท่านั้น!

ด้วยการฝึกฝน ภูมิปัญญาภายในของพวกคุณจะนำทางและบอกพวกคุณเองว่าพวกคุณต้องการเสียงสระตัวใด

ลองเริ่มทำจากสิ่งนี้
: ปล่อยให้ญาณหยั่งรู้ของพวกคุณเลือกสระตัวใดตัวหนึ่งให้กับพวกคุณ
ใช้เวลาในการเปล่งเสียงสระนั้นหลายๆนาทีหน่อย
เริ่มจากโทนเสียงกลางๆที่พวกคุณออกเสียงได้อย่างสบายๆ
จากนั้นลองลดโทนลง แล้วก็เพิ่มโทนให้สูงขึ้นดู
รักษาความดังให้อยู่ในระดับกลางๆเสมอโดยอย่าเกร็งจนเกินไป
ทันทีที่รู้สึกว่าสระตัวนั้นกำลังเริ่มตกหรือมีการออกเสียง "ผิดเพี้ยนไป"
ให้เลิกการโทนนิ่งสระตัวนั้นเสียและหันไปเลือกสระตัวอื่นแทน

จงเปิดรับประสบการณ์และความรู้สึกที่ออกมาจากข้างใน
โดยไม่ต้องพยายามที่จะค้นหา "ผลลัพธ์"ใดที่พิเศษ
สำรวจความรู้สึกเมื่อเปล่งเสียงสระแต่ละตัวเหล่านี้ออกมา
และ สังเกตผลกระทบทั้งหมดของพวกมันที่เกิดขึ้นกับพวกคุณ

โทนนิ่งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับชีวิตโดยรวมทั้งหมดของพวกคุณ ไม่ใช่แค่เพียงเสียงของพวกคุณเท่านั้น
ไม่ว่าพวกคุณจะเจาะจงเลือกสระตัวใดขึ้นมาโทนนิ่ง
มันจะทำให้พวกคุณเกิดการตื่นรู้ถึงสัมผัสทางกายภาพหรือสัมผัสทางพลังงานทั้งหมดได้
โดยปราศจากการตัดสินหรือการวิเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น



จงฟังเสียงการสั่นสะเทือนด้วยร่างกายทั้งหมดของพวกคุณ
และ อย่า เพียงแค่ใช้หู "ฟัง"เท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น วางฝ่ามือของพวกคุณลงตามส่วนต่างๆของร่างกายของพวกคุณในขณะที่พวกคุณเปล่งเสียง
และให้มือของพวกคุณสัมผัสถึงการสั่นสะเทือนทั้งหลายจากเสียงนั้น

 

What is Toning?
ที่มา Nada Yoga Part Two - Toning

ตอนที่4

สร้างการโทนนิ่งของพวกคุณให้มีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก
ด้วยการใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวต่างๆ

ร่างกายทั้งหมดต่างเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง และการได้รับประสบการณ์ในการโทนนิ่งก็จะทำให้มันมีล้ำลึกยิ่งขึ้น



สำรวจท่าทางและการเคลื่อนไหวต่างๆในขณะเปล่งเสียง อย่างเช่น:

o นั่งบนพื้น หรือบนเก้าอี้ โดยให้กระดูกสันหลังของพวกคุณเหยียดตรง
o ทั้งที่ยืนนิ่ง หรือ ใช้การเคลื่อนไหวแบบใดก็ได้ที่เป็นธรรมชาติ
(ท่ากางแขนออกจะเป็นการสร้างให้เกิดความสมดุลขึ้นเป็นพิเศษ)
o นอนหงายโดยวางมือไว้ข้างลำตัว
o ทำการทดลอง โดยหลับตาหรือลืมตาจ้องหรือเพ่งอย่างเบาๆ
o เปล่งเสียงในขณะเดิน ทำงาน ขับรถ หรือปฏิบัติภารกิจประจำวันต่างๆ
o ทำตามสัญชาติญาณ , เปล่งเสียงไปด้วยในขณะฝึกโยคะ หรือ ฝึกไทเก็ก
o เปล่งเสียงเมื่อยามเคลื่อนไหว และเคลื่อนไหวตามเสียง
________________________________________

ปล่อยให้ตัวตนภายในของพวกคุณตอบรับกลับมา จงเป็นอิสระจากการคาดหวังจากสิ่งภายนอก
ในขณะโทนนิ่งให้ใส่ใจกับทุกๆสิ่ง การสั่นสะเทือนต่างๆเหล่านี้กำลังจะปลุกการตื่นรู้ในตัวคุณขึ้นมา

มีผลกระทบอะไรบ้างจากโทนเสียงนั้นๆ?
มันนุ่มนวลละมุนละไมไหม?
มันทำให้เกิดความกรวนกระวายไหม?
รู้สึกว่ามันสมดุลไหม?

จดจ่อยู่แต่กับปัจจุบันขณะ เปิดรับการตื่นรู้ของพวกคุณออกไป
และ ปล่อยให้ญาณหยั่งรู้ของพวกคุณนำทางพวกคุณสู่ความเข้าใจอันล้ำลึก

มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะประสบกับความรู้สึกหรืออารมณ์ทางกายภาพในขณะโทนนิ่ง
และมันก็อาจจะไม่ถูกอกถูกใจนัก บางครั้งบางคราวพวกคุณอาจรู้สึกเบื่อหน่าย โกรธ
หรือ มีอารมณ์อย่างอื่น บวกหรือว่าลบ

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายๆกันนี้ มักรู้กันดีอยู่ในแวดวงการทำสมาธิ โยคะ หรือ กิจกรรมที่ต้องใช้การเพ่งพินิจ ต่างๆอีกด้วย!
จงรู้ไว้ว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติและมันก็จะผ่านไป
อย่าไปวิเคราะห์เจาะลึกหรือไปตัดสินตัวเองที่มีอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ขึ้นมา
จงพยายามเปิดหัวจิตหัวใจให้กว้าง และพวกคุณจะเริ่มเห็นผลของมัน
บางครั้งมันก็ลึกซึ้งจนเข้าใจได้ยากยิ่ง และบางครั้งมันก็อาจทำให้แปลกใจและประหลาดใจ!

จงให้เกียรติต่อความเป็นเอกลักษณ์ของพวกคุณ



พวกคุณเป็น สิ่งมีชีวิตทางชีวเคมี(bio-chemical) เป็นสิ่งมีชีวิตพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า
และเป็นรูปธรรมแห่งจิตวิญญาณ ที่มีความซับซ้อนและมีความเป็นเอกลักษณ์เอามากๆ

ประสบการณ์ในการเปล่งเสียงของคนสองคนก็ไม่มีทางที่จะเหมือนกันเป๊ะ
จงซื่อสัตย์และเชื่อมั่นในประสบการณ์ของพวกคุณเอง
จงทดลองและค้นหาโทนเสียงที่มีเหมาะกับพวกคุณ
ปล่อยให้เสียงพูดหรือโทนเสียงของพวกคุณนำพาพวกคุณไปสู่ปัจจุบันขณะ
และไปสู่ความตระหนักรู้ได้ด้วยตนเอง(self-awareness) ต่อไป!

มันเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆและมันก็เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะหาประสบการณ์ทางพลังงาน
ความรู้สึกทางกายภาพหรือภาวะทางอารมณ์จะถูกปลดปล่อยออกไปขณะโทนนิ่ง
และมันมักจะส่งผลให้เกิดความไม่พอใจขึ้นเสมอๆ บางครั้งบางคราวพวกคุณอาจจะรู้สึกเบื่อหน่าย
โกรธ กลัวหรือ มีอารมณ์อย่างอื่น บวกหรือว่าลบ

ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นคล้ายๆกันนี้ มักรู้กันดีใน การทำสมาธิ โยคะ หรือ กิจกรรมที่ต้องใช้การเพ่งพินิจ ต่างๆอีกด้วย!
จงรู้ว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ และพวกมันก็จะผ่านไป จงอย่าพิพากษาตนเอง

ในระหว่างการโทนนิ่งและหลังการโทนนิ่ง จงเปิดใจรับทุกๆสิ่งที่เป็นการสั่นสะเทือนที่อาจจะกำลังตื่นขึ้นอยู่ในตัวของพวกคุณอยู่
แค่ขอให้มั่นใจว่าไม่ว่าการโทนนิ่งจะส่งผลอะไรออกมาก็ตาม
แต่ในท้ายที่สุดแล้วมันจะไปเปลี่ยนแปลงและบำบัดรักษากายและจิตของพวกคุณให้เข้าที่เข้าทางได้อย่างลงตัวที่สุด

อย่าพยายามแสวงหาผลเลิศหรือคำอธิบายใดๆในขณะที่พวกคุณโทนนิ่ง
แค่จดจ่ออยู่แต่กับปัจจุบันขณะนี้เท่านั้น จงเปิดรับการตื่นรู้
และปล่อยให้ญาณหยั่งรู้ของพวกคุณนำทางพวกคุณเข้าสู่ความเข้าใจอันล้ำลึก
จงพากเพียรแล้วพวกคุณจะเริ่มเห็นผล
บางครั้งมันก็จะละเอียดอ่อนเบาบาง และบางครั้งมันก็อาจจะน่าแปลกใจ และมหัศจรรย์เป็นยิ่งนัก!
...........................................................


1)อย่าโทนนิ่งเกิน 20 นาที / ครั้ง

2)มันจะได้ประโยชน์กว่าที่จะทำการโทนนิ่งให้บ่อยๆครั้งภายในระยะเวลาเพียงสั้นๆ

3)ผ่อนคลาย โดยเฉพาะที่ลิ้นและขากรรไกร

4)รักษาความดังของเสียงให้อยู่ในระดับที่สบายๆและเป็นโทนกลางๆ อย่าได้เค้นเสียง

5)จงระมัดระวังในการวางท่าทางให้ถูกสุขลักษณะ และ หายใจลึกๆให้เต็มปอดเสมอๆ ;

6) หาวยาวๆ อ้าปากกว้างๆ กลืนน้ำลาย และขยับปากและคอไปมาเป็นระยะๆ เพื่อคลายความตึงเครียดให้กับปากและลำคอ

7) หาน้ำดื่มหรือกระดาษทิชชูมาวางเอาไว้ใกล้ๆมือ ; พลังงานและกิจกรรมการฝึกโทนนิ่งนี้จะทำให้พวกคุณคอแห้ง
หรือ ผลิตน้ำมูกน้ำลายออกมามากเกินควร นี่เป็นเรื่องปกติและไม่มีอันตรายใดๆ

8)หากคุณรู้สึกตึงๆหรือไม่สบายภายในปากหรือลำคอ ให้หยุดสักครู่
ระบายลมหายใจ ยืดแขนยืดขา อ้าปากกว้างๆ แล้วค่อยเริ่มใหม่ จิบน้ำด้วย

9)อย่าเค้นเสียง หยุดเมื่อพวกคุณต้องการที่จะหยุด พวกคุณต้องไม่ฝืนทำต่อในสภาพ
ที่ตึงเครียดหรือไม่พยายามที่จะเค้นเสียง

......จบภาคแรก

 

......จบภาคแรก[/QUOTE]

แต่คนอ่านยังอ่านไม่จบเลย

 

แต่คนอ่านยังอ่านไม่จบเลย[/QUOTE]

ค่อยๆอ่านไปแล้วกันเน๊าะ ;aa10

จริงๆบทความข้างบนนั้น มันก็จบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ
แต่พอตัวเองลองทดลองทำดู ก็รู้สึกว่า ไม่เลวแฮะ
โดยเฉพาะตอนออกเสียงตัว MM นี่ ชอบมากมาย
มันสั่นสะเทือนไปทุกรูขุมขน

สรรพสิ่งรวมตัวกันขนิดแบบว่าหาอะไรไม่เจอสักอย่าง

ดิ่งวูบตัวตนหายเกลี้ยง หายไปเลย หาไม่เจอเลย

ประสบการณ์เกี่ยวกับ Sound จะเป็นอะไรที่มีความเป็นรูปธรรม
และสามารถสัมผัสได้ชัดเจนกว่าคลื่นชนิดอื่นๆ น่าสนุกค่ะ
เลยคิดว่าอยากจะค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มอีกสักหน่อย


แต่ก็ยังไม่ไ่ด้เรียบเรียงภาคต่อเลย มัวลั้นลา อยู่...:d
แล้วก่อนจะเอาอะไรมาลง คงต้องลองทดสอบดูก่อน
ถ้าเวิร์ค ก็จะเอามานำเสนอ นะคะ

 

โดยปกติผมเป็นคนที่ท่องคาถาโอห์มบ่อยมากๆ เลยครับ เป็นคาถาที่ช่วยให้จิตนิ่งได้มากเลย

 

ค่อยๆอ่านไปแล้วกันเน๊าะ ;aa10

จริงๆบทความข้างบนนั้น มันก็จบของมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ
แต่พอตัวเองลองทดลองทำดู ก็รู้สึกว่า ไม่เลวแฮะ
โดยเฉพาะตอนออกเสียงตัว MM นี่ ชอบมากมาย
มันสั่นสะเทือนไปทุกรูขุมขน

สรรพสิ่งรวมตัวกันขนิดแบบว่าหาอะไรไม่เจอสักอย่าง

ดิ่งวูบตัวตนหายเกลี้ยง หายไปเลย หาไม่เจอเลย

ประสบการณ์เกี่ยวกับ Sound จะเป็นอะไรที่มีความเป็นรูปธรรม
และสามารถสัมผัสได้ชัดเจนกว่าคลื่นชนิดอื่นๆ น่าสนุกค่ะ
เลยคิดว่าอยากจะค้นข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มอีกสักหน่อย


แต่ก็ยังไม่ไ่ด้เรียบเรียงภาคต่อเลย มัวลั้นลา อยู่...:d
แล้วก่อนจะเอาอะไรมาลง คงต้องลองทดสอบดูก่อน
ถ้าเวิร์ค ก็จะเอามานำเสนอ นะคะ
[/QUOTE]


ขอบคุณมาก ค่ะ ต้องลองบ้างแล้ว

 

น่าลองทำครับ

 

เหมือนว่าเคยอ่านมาจากที่ใดที่หนึ่ง แต่นานมาแล้วค่ะ