อิทธิพล บาบิโลเนี่ยนในหลักคำสอนพระพุทธศาสนา

[/QUOTE]
แลวท่านคิดเห็นหย่าง เรื่องรูปเคารพของพระองค์
ท่าคิดว่า พระองค์ยิดดีให้ทำรูปเคารพหรือไม่
ท่านคิดหย่าวไรกับชื่อกระทู ควรตังชื่อกระทูว่าอะไร[/QUOTE]

ถามท่านDuchessFidgetteหรือถามผมครับ
ถ้าถามผม
ในความเห็นส่วนตัวนะ ผมบูชากราบไหว้รูปพ่อผมที่ท่านตายไปแล้ว แล้วผมก็บอกลูกผมให้ทำตาม เพื่อระลึกถึงบุญคุณที่ท่านมีต่อผมและลูก และเก็บไว้ให้ลูกหลานได้รู้จักหน้าบรรพชนของเขา รูปนั้นทำมาจากกระดาษ คุณว่าผมบ้าหรือเปล่าที่ไหว้กระดาษเก็บไว้ไม่ยอมให้ใครเอาไปเหยียบย่ำทำลาย

เช่นกัน รูปพระพุทธเจ้า ผมก็ทำลักษณะเดียวกันคือให้ความเคารพกราบไหว้เพราะผมเป็นพุทธบริษัท รู้จักศีล สมาธิ ปัญญา บาป บุญ คุณ โทษ ก็เพราะท่าน ท่านมีพระคุณต่อผม และผมเคยได้ยินพระเทศน์ว่าให้บูชาคนที่ควรบูชา
ส่วนข้อถาม3ข้อท้าย ผมไม่รู้

 

-- คุณว่าผมบ้าหรือเปล่า

คุณ191 คุณไม่บ้าครับ เป็นผม ผมก็ทำแบบคูณครับ

--ทานคิดว่า พระองค์ยิดดีให้ทำรูปเคารพหรือไม่
-- ท่านมีความชอบที่จะได้ดูพระรูปอันประเสริฐของพระพุทธเจ้า ครั้นพระพุทธเจ้าทรงทราบว่าพระวักกลิยินดีในพระรูปของพระองค์
จึงได้ตรัสสอนว่า"อย่าเลยวักกลิ ประโยชน์อะไรในรูปที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม
ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น กายมีโทษไม่สิ้นสุด เปรียบเสมอด้วยต้นไม้มีพิษ เป็นที่อยู่ของโรคทุกอย่าง ล้วนเป็นที่ประชุมของทุกข์เพราะฉะนั้น ท่านจงเบื่อหน่ายในรูป พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย จักถึงที่สุดแห่งสรรพกิเลสได้โดยง่าย"

--พระผู้มีพระภาคทรงแสดงพระธรรมเทศนาหย่างนี้--
พวก เราๆท่านๆมีความคิดเห็นหย่างไรครับ

 

จะเกี่ยวข้องยังไงละคะก็แปลมาตามที่เขาพิมพ์ ไว้ในเวป ดิฉันไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร
อุตส่าห์หา เนื้อหาสาระที่ไม่เคยได้อ่านกันมาให้ดู ก็ไ่เห็นจะได้ยินใครขอบคุณนอกจากคำด่า
ดิฉันจะพิมพ์ตอบคุณแต่ละทีนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆนะ คีบอร์ด ไทยก็ไม่มี ต้องจิ่มในกูเกิ้ล
ด้วยเม้าซ์ที่ละตัวละตัว.... ก็หัวข้อที่แปลมันชื่ออย่างนั้นเองนี้นา

:z5

 

ขอบคุณมากครับ...

 

จะเกี่ยวข้องยังไงละคะก็แปลมาตามที่เขาพิมพ์ ไว้ในเวป ดิฉันไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหาอะไร
อุตส่าห์หา เนื้อหาสาระที่ไม่เคยได้อ่านกันมาให้ดู ก็ไ่เห็นจะได้ยินใครขอบคุณนอกจากคำด่า
ดิฉันจะพิมพ์ตอบคุณแต่ละทีนี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆนะ คีบอร์ด ไทยก็ไม่มี ต้องจิ่มในกูเกิ้ล
ด้วยเม้าซ์ที่ละตัวละตัว.... ก็หัวข้อที่แปลมันชื่ออย่างนั้นเองนี้นา


ดีนะครับเนี่ย... ที่ไม่จิ้มผิดเป็นไม้จัตวา

 

เห็นเงียบๆ... นึกว่าซุ่มหาข้อมูล
ที่แท้ก็แอบงอลลล 55555

 

ไม้จัตวาจัตวาแล้วทำไมหรอคะ? หรือแทงใจดำคุณไม่ทราบ ???

 

โอ๊ยยย... โดนแทงใจ


ไปแระเด๋วหาว่าเกรียน
แหม... ล้อเล่นหน่อยเดียวเองนะ อย่าซีเรียสดิ

 

กล่าวกันว่า วัฒนธรรมเปอร์เซีย ส่งอิทธิพลถึง
ราชวงค์เมารยะของอินเดีย และเชือกันว่าศาสนา
โซโรเอสเตอร์ของชาวเปอร์เซียโบราณมีส่วนใน
การวิวัฒหลักธรรมของพระโพธิสัตว์ ในขณะเดียวกัน โซโรเอสเตอร์ก็เป็นต้น
ตอของ เทพนิยายในตำนานของยูดายคำสอน
ของพระโพธิสัตว์ในอินเดีย

อเมสา สเปนตัส Amesa Spentas
และ ฟลาวาชีส Fravachis เป็น
คำในภษา อวาสตาร์ที่ใช้ในการบรรยาย
ชื่อของเทพเจ้าในศาสนาโซโรเอสเตอร์
ซึ่งพบว่ามีบุคคลิกนิสัย ดั่งลักษณะของพระโพธิสัตว์
พบในศาสนาพุทธ

Amesa Spentas : ความจริง ความถูกต้อง


Vohu Manah : คิดดี


Aramaiti : สงสาร


Houravatat : นฤพาน, การช่วยเหลือ ให้รอด


Kshasthra Vairya :การปกครอง


Ameretat : อมตะ


ในขณะที่เทพ ฟราวาชีส เปรียบได้กับพระโพธิสตว์ในชั้นดุสิต
ในตามมหายาน ชื่อเรียกพระพุทธเจ้าว่า อามตพุทธ มาจากคำว่า
อมิตตา แปลว่าแสงในภาษาเปอร์เซีย พระอาทิตย์ในตำนานเปอร์เซีย
ในขณะที่พระพุทธเจ้า โคตมะ ถูกเรียกว่า อดิตยา พันฮู
ซึ่ง อดิต ในภาษาอินเดียแปลว่า พระอาทิตย์

 

รบกวนตั้งสติก่อนstartครับท่านDuchessFidgette
ใจเย็นๆครับ ผมไม่เห็นว่ามีอะไรที่ท่านจะต้องโมโห ผมว่าท่านเข้าใจผิด
rep#78ผมถามท่านkt984ไม่ได้ถามท่านครับ อย่าเข้าใจผิด ดูดีๆก่อนครับ.

อ้างตามนี้ครับ คือผมไม่รู้ท่านkt984โยงเรื่องที่ประสูตรมาในกระทู้นี้ได้อย่างไร

ขอโทษครับ ผมรบกวนถามครับว่าเรื่องที่ท่านว่า เกี่ยวข้องอย่างไรกับ"อิทธิพลบาบิโลเนี่ยนในหลักคำสอนพระพุทธศาสนา"ในกระทู้นี้ครับ
ช่วยอธิบายให้กระจ่างทีครับ
ขอบคุณครับ.

 

ถ้าถามผม
ผมขอตอบเป็นสองส่วน
ส่วนแรก ในกาลครั้งที่ทรงตรัสสอนพระวักกลิ ก็เพื่อยังให้เกิดประโยชน์แก่พระวักกลิ เนื่องจากพระวักกลิยังมีอุปาทานยึดมั่นถือมั่นในรูปที่เห็นว่าสวยงาม
พระพุทธองค์ทรงต้องการให้พระวักกลิเห็นอริยสัจจ์ จนที่สุดท่านพระวักกลิก็ได้บรรลุธรรม

ส่วนสอง ก็ในเมื่อพระพุทธองค์ทรงตรัสสอนไม่ให้ยึดมั่นในรูปแล้ว ท่านผู้เจริญทั้งหลายก็คงจะพอคิดออกว่าพระองค์มีพระประสงค์อันใด

ในความเห็นส่วนตัวนะ(ส่วนนี้ผมเดาเอาเอง)
ภายหลังจากพระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานก็มีการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุกันไปบรรจุบูชาในสถานที่ต่างๆ ส่วนผู้มีศรัทธาที่ไม่ได้ส่วนแบ่งด้วยก็คงไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยคิดประดิษฐ์รูปพระพุทธเจ้าขึ้นมาบูชาแทน จึงเป็นที่มาของการสร้างพระพุทธรูป และคนในสมัยนั้นก็คงทำขึ้นมาเพื่อแสดงความเคารพระลึกถึงพระพุทธคุณ เป็นการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์(เหมือนเรายืนเคารพธงชาติ) ไม่ได้เคารพแบบยึดติดแบบเป็นตัวตน(ขออธิบาย -การแสดงความเคารพ ระลึกถึง คือการแสดงออกในเชิงสัญญลักษณ์เหมือนทีผมไหว้รูปพ่อผมที่ตายไปแล้ว -ส่วนการเคารพแบบยึดติดแบบเป็นตัวตน คือเหมือนผมทำความเคารพกราบไหว้แม่ผมที่ท่านยังไม่ตายมีอะไรขาดเหลือก็ร้องขอให้ท่านช่วย)
จะว่าไปแล้วผมผู้เป็นปถุชนคนมีกิเลสเมื่อสวดมนต์ไหว้พระทีไรก็อดที่จะอ้อนวอนร้องขอไม่ได้ ทั้งที่รู้ว่าขัดกับพระประสงค์ของพระพุทธองค์ .^_^

 

ปัญญาชน เวลาคิดต่างก็ให้เหตุผล ชี้แจงให้เห็นว่าเพราะอะไรจึงคิดต่าง


เกรียน ไม่สนใจจะให้เหตุผล เอาแต่ก่อกวน ค่อนแคะ กระแนะกระแหน๋


คนอ่าน ก็อ่านแล้วไม่ได้อะไรจากเกรียน บางทีเบื่อกระทู้ดีๆ มีเกรียนเต็มไปหมด

 

เรามาพิจารณาข้อมูลตรงนี้ดีกว่าครับ น่าสนใจดี


อย่างนี้ครับ ข้อมูลนี้มัน "ยุคไหน?" สมมุติ ได้จากข้อมูลปัจจุบัน
เป็นไปได้ไหมครับว่า อดีตต่างกัน ไม่ใช่แบบนี้? เช่น อดีต เกิด
สงคราม ทำให้เกิดการอพยพของคนผิวเหลืองและผิวขาว ทำให้
แผนที่แสดงเชื้อสายของคนผิวเหลืองและขาว ต่างกัน ในแต่ละ
ยุค อันนี้ สำคัญครับ เราควรเอาแผนที่สองยุคมาดูเลย คือ ยุคที่
พระพุทธเจ้ายังอยู่ และยุคหลังจากนั้น แต่ผมคิดว่า ยุคที่ พพจ.
ยังอยู่นั้น คงหาไม่ได้ละมังครับ? เราได้ก็แผนที่ยุคหลังๆ ซึ่งเรา
ก็ไม่อาจเอามาสรุปได้นะครับ


ถ้า ในอดีตสมัยพุทธกาล ชนผิวเหลืองอยู่ในเขตที่ พพจ. เกิดละ?
แล้วถูกทัพของวิทูฑภะ (มีในไตรปิฎกบันทึกสงครามนี้ไว้ด้วย) ไล่
แตกไป จนต้องอพยพไปหลายสาย สายที่ขึ้นเหนือเลยขึ้นไป ก็มา
ปรากฏในแผนที่ดังที่เห็นว่า ไม่ตรงกับที่อยู่เดิม อย่างนี้ เป็นไปได้มั้ย?


ที่ว่า "ตัดเรื่องชนชาติผิวเหลืองไปได้เลย" นั้น เห็นว่าสรุปเร็วไปนะครับ

 

สาวกของพระพุทธเจ้า จำนวนมากเป็นชนผิวขาว?


อันนี้ อาจจะจริงหรือไม่? ไม่ทราบ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าพระพุทธเจ้า
จะ้ต้องเป็นชนผิวขาวด้วยนะครับ เท่าที่ได้รับข้อมูลจากไตรปิฎกเรา
เห็นได้ชัดว่า พระพุทธเจ้า โปรดสัตว์ ๗ แว่นแคว้นครับ ที่ประสบผล
สำเร็จนะ ที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากกษัตริย์ ก็อาจ
มี ไม่รู้เท่าไร? แ่ต่อาจเป็นแค่คนกลุ่มเล็กๆ รับไป ก็ได้ครับ อันนี้ ไม่
อาจสรุปได้จนกว่าจะได้ข้อมูลชัดเจน


สำคัญคือ การที่ท่านโปรดไป ๗ แว่นแคว้น จะมีการโปรดสัตว์ต่าง
เชื้อชาติ เช่น ท่านอาจผิวเหลือง ไปโปรดคนผิวขาว ก็ได้นะ ไม่ใ่ช่
เรื่องแปลก และที่สำคัญ เหมือนปัญหาทั่วไป คนใน มักไม่สนใจเท่า
คนนอก คนไทยกันเอง ไม่ชอบคนไทยกันเอง แต่พอเอาไปขายคน
ต่างชาิติ เขากลับชอบ อะไรแบบนั้น เหมือน พพจ. ก็ไม่ได้โปรดสัตว์
ในแคว้นของตนก่อนนะครับ โปรดที่อื่น จนดังมากๆ แล้วถึงกลับมาให้
ธรรมกับพระบิดาของท่านนะครับ


ดังนั้น ถ้าพระสาวกจะเป็นชนผิวขาว ก็ไม่อาจสรุปว่า พพจ. ต้องผิวขาว
ด้วย (ท่านเรียนภาษาต่างชาติได้หลายภาษาครับ ตอนไปฝึกสมาธิ ก็
ขี่ม้าเลยออกจากแคว้นตัวเองไปแล้ว ถึงไปเรียนสมาธิต่อครับ หรือง่ายๆ
คือ ท่านเรียนต่างประเทศ นั่นเอง ทันสมัยมากๆ) และถ้าพระสาวกเป็น
ชนผิวขาวเยอะๆ การที่พระสาวกจะสืบทอดธรรมต่อให้ชนผิวขาวด้วยกัน
ก็ง่าย เพราะภาษาเดียวกันไงครับ ต่อมา รุ่นหลังๆ อาจเขียนหรือสร้างสิ่ง
ต่างๆ เช่น ธรรมะ, ตำรา ฯลฯ อะไร ออกมาแนวๆ บาบิโลเนี่ยน ได้ไหม?
อันนั้น ถ้าเป็นไปได้ จะสรุปว่า อิทธิพลบาบิโลเนี่ยน ส่งผลต่อศาสนาพุทธ
คงไม่ใช่น่ะ? แต่กลายเป็นว่าลูกหลานบาบิโลเนี่ยน ได้รับอิทธิพลจากพุทธ
หรือไม่?


ไม่ทราบนะ ลองดูตรงนี้ให้ละเอียดทีนะครับ

 

ขอบคุณครับทุกๆ ความเห็นครับ
รออ่านต่อครับ

 

หลังอ่านข้อความที่เขียนโดยท่าน angry bird แล้วจึงพอเห็นความเกี่ยวเนื่องของกระทู้ตามที่ผมขอให้ท่านkt984ช่วยอธิบายว่าเกี่ยวกันได้อย่างไร แล้วครับ
ขอขอบคุณท่าน angry birdครับที่ช่วยอธิบาย
ส่วนท่านDuchessFidgetteผมก็ขอขอบคุณในความอุตสาหะที่ได้พยายามหาข้อมูลมานำเสนอ และขอให้กำลังใจ ถ้าท่านตั้งใจดี หวังประโยชน์ในการนำเสนอแก่สาธารณชนผู้ยังไม่รู้ให้ได้รู้ในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง อย่างหนึ่งคือท่านต้องทำใจ เพราะความคิดของแต่ละคนจะไม่เหมือนกันเนื่องเพราะแต่ละคนมีพื้นฐานทางด้านการศึกษา ประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน ท่านจะให้เขาคิดเหมือนท่านคงไม่ได้
ถ้าท่านตั้งใจดีมีเหตุผลก็ขอให้มั่นใจนำเสนอ จะมีถกเถียงกันในความเห็นต่างก็ขอให้คิดว่านั่นคือยังมีคนสนใจอ่านสนใจฟังเราอยู่ ดีกว่าไม่มีใครสนใจใยดีในสิ่งที่เรานำเสนอเลย ขอให้กำลังใจครับ.

 

นายฉลามอะไรนั้นตามรังควานหยาบๆคายๆ กระทู้ดิฉันไป
เสียหลายกระทู้ แม้กระทั้งในโพรฟายด์ของดิฉัน
ยังเอาไปเขียนคำพูด อนาจารณ์ ได้ช่างไม่อายคน
อื่นๆที่เขาเข้าไปคุยกับดิฉันในโพรฟายด์ และคนเข้า
ไปดูอีกเป็นร้อยคน ดิฉันแปลกใจว่าทำไมแม้แต่เวป
ธรรมะยังมีคนทำอะไรแบบนี้โดยที่ไม่ถูก แบรนด์จาก
เวป มาสเตอร์ ถ้ามันเงี่ยนมาก เขาจะมาก่อกวนเวปธรรมะ
ทำไม ไม่ไปเข้าเวปอโคจร

 

เรื่องที่ตั้งในปัจจุบันนี้ เนื้อหาบางย่างที่นำมาลงนี้ก็ไม่ได้จากหนังสือนะคะ แต่มาจากประสบการณ์ตรงที่ได้คุยกับชาวเนปาล และอินเดีย ท้องที่ ที่รู้จักกัน กล่าวถึงที่ตั้กระเทวะทหะ ว่า มีชนสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ มเดสี และพาฮารี่ พวก มเดสี เป็น อินโด เนปาล หรือ เนปาล คอเคซอยด์อยุ่บริเวณนั้นเดิมมาแต่ดึกดำบรรพ์แล้ว คือสมัยก่อน แผ่นดิน อินเดียกับเนปาลไม่มีเรียกรวมกันว่า ชมพูทวีป
และพวก พาฮารี่ที่เป็นกลุ่มใกล้ pakistani เพิ่งย้ายเข้ามาทีหลัง


ถ้าถามความเห็นส่วนตัวดิฉันที่จะวิเคราห์ว่าพระพุทธเจ้า
ไม่ใช่ชาวมงโกลลอยด์จะมีดังนี้


1. พระองค์ เป็นราชวงค์ พระอาทิตย์ ซึ่งเรื่องนี้ประวัติศาสตร์ของอินเดียกล่าวว่า มีสามวงค์ คือวงค์ที่อยู่ใน รัฐ ราชาสถาน ทางตะันตกเฉียงใต้ของอินเดีย อีกวงค์อยู่ มคธ ดิฉันจำชื่อ วงค์พวกนี้ไม่ได้ แต่ที่แน่นอนถือ มีวงค์ของพระพุทธเจ้าตั้งอยู่ทางตะวันออก คือที่ตีนเขาเนปาล รวอยู่ในพระพระอาทิตย์ด้วย และวงค์พระอาทิตย์นั้น กล่าวกันว่ามีบรรพบุรุษเป็นชาวอิหร่านเปอร์เซีย


2. ชื่อของพระพุทธเจ้า ราชวงค์ พระมารดา ฯลฯ เป็นชื่อ สันสฤต ถ้าทรงเป็น เนปาล เชื้อสายธิเบต หรือ จีน เหตุใดใช้ชื่อสันสฤต


3. ก่อนสมัยพระจ้าอโศก มิเคยทรงไปโปรดชาวเอเชียตะวันออก หรือแม้แต่พวก เนปาล มองโกลอยด์ บนเขา แต่กลับเผแพร่เฉพาะชาวอินโด-คอเคซอยด์ และอาณาจักรที่ั่มั่งคั่งเสียส่วนใหญ่ เช่น ทรงบวชให้ พ่อค้า
ชาวอัฟกานีสถาน สองคนที่อยู่เมือง Balkh และสองรูปนั้นก็ไปตั้งสำนักสงฆ์อยู่ที่ เมือง Balkh หรือ ในข่าวที่เราเห็นปัจจุบัน


4. ในตำนาน มหาปุริส กล่าวว่า พระพุทธเจ้าทรงมีพระเนตรสี นิลละ ซึ่งนิลละ ในภาษา สันสฤตของอินเดีย แปลว่า สีฟ้า และคนอินเดียที่มีลูกสาวตาสีฟ้ามักนิยมให้ลูกชื่อ นิลลา หรือ นีแลมที่แปลว่า สีฟ้า


แต่คนไทย เพี้ยน มาแปลว่า สีดำ เหมือนกัน ทารา ในภาษาอินเดียแปลว่า ดาว แต่คนไทยมาแปลเป็นน้ำ และใช้ตัว ด แทน คำว่า ทารา ที่แปลว่า ดาว คนไทย ออกเสียงเป็น ดารา

เช่นเดียวกับคำอื่นๆ เช่น โซรา แปลว่า พระอาทิตย์ ไทยเพี้ยนมาเป็น สุริยะ หรือ อดิต แปลว่า พระอาทิตย์ของ อินเดีย ไทย เพี้ยนมาเป็น อาทิตย์ เพราะ สำเนียงของภาษา ตระกูลไทย คนไทยโบราณออกเสียงแบบอินเดียไม่ได้ อินเดียใช้ ภาษาตระกูล อินโด- ยูโรเปี่ยน สังเกตอย่างหนึ่งเท่าที่ดิฉันได้ยินมาหลายภาษา ทางตะวันตก จะมี ลิงกิ้ง ซาวด์ linking sounds และ ไม่มี ไม้เอก, ไม้โท คุณจะพูดคำว่า แมว/ แคท เป็น แคทททททึ, หรือ คัท, หรือ
แค้ท หรือ แค่ท ก็ ความหมายเดียวกันหมด

 

“ ภัคคินี ดูก่อนน้องหญิง เรื่องนี้เจ้ากับเราสองคนเท่านั้นรู้กันว่าจริงหรือไม่จริง"

พระพุทธองค์ทรงกล่าวด้วยความอิ่มเอมใจท่ามกลางความสงสัยของพุทธบริษัท เรื่องนี้เดือดร้อนถึงพระอินทร์ที่ต้องทำหน้าที่รักษาผู้ทรงคุณธรรมสูงส่ง จึงทรงแปลงกายเป็นหนูไปกัดเชือกที่ผูกไม้ ทำให้ไม้ที่ผูกติดไว้เหมือนเช่นคนมีครรภ์นั้นหลุดตกลงมา พุทธบริษัทเห็นมารยากล่าวให้ร้ายที่นางจิญจมานวิกากระทำต่อพระพุทธองค์ ดังนั้นก็ดุด่าไล่ขว้างด้วยก้อนหินและไม้ นางจิญจมาณวิกา ได้วิ่งหลบหนี พอพ้นคลองจักษุของพระพุทธองค์
นางจิญจมาณวิกา ก็ถูกธรณีสูบลงสู่นรกมหาอเวจีด้วยกรรมอันหนักนั้น

 

จากมหาปุริศ และ การที่ทรงได้ศึกษา คำภีร์ชั้นสูงของ ชาวอารยัน คือ พระเวทย์ ดิฉันว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นคอร์เคคซอยด์ ผิวสีสองสี หรือ คอเคซอยด์ผิวเหลืองแบบพวก อินเดีย แคว้นปัญจาบคะ หรืออาจเป็นเชื้อชาติผสม คอเคซอยด์กับมองโกลลอยด์ แต่ที่แน่ๆไม่น่าจะใช่ มองโกลลอยด์แท้ ส่วนเหตุผลเคยอธิบายในกระทู้ของคุณเอกไปแล้ว เรื่อง ชาวกรีกดูถูก ชาวต่างชาติเป็น คนป่า คนดง และ พระเจ้ามินานเดอร์ หรือ กษัตริย์มิลินทร์ ไม่น่าจะยอมรับพุทธศาสนาถ้าพระพุทธเจ้ามิใช่าวคอเคเซี่ยนเช่นพระองค์ เดี๋ยวอันนี้ถ้าว่างจะมาเล่า จากที่เคยลงไปในกระทู้ของ คุณเอก