ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มีแววแล้วล่ะ...ว่าจะหนักตูมใหญ่ !!!

    interpoo สมาชิก

    ในฝัน นิวซีแลนด์โดนก่อน โบสถ์พังในวันอาทิตย์ ตามด้วย อินโด สึนามิเข้าในเวลากลางคืน คนนอนหมดแล้ว แผ่นดินนิ่งผิดปกติ... มีแววแล้วล่ะ... ว่าจะหนักตูมใหญ่

    ประเทศที่ตั้งหรือมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในแนว “วงแหวนแห่งไฟ” ได้แก่ เบลีซ โบลิเวีย บราซิล แคนาดา โคลัมเบีย ชิลี คอสตาริกา เอกวาดอร์ ติมอร์ตะวันออก เอลซัลวาดอร์ ไมโครนีเซีย ฟิจิ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น คิริบาตี เม็กซิโก นิการากัว ปาเลา ปาปัวนิวกินี ปานามา เปรู ฟิลิปปินส์ รัสเซีย ซามัว หมู่เกาะโซโลมอน ตองกา ตูวาลู สหรัฐอเมริกา และรวมถึง นิวซีแลนด์ ที่เพิ่งเกิด “วิปโยคแผ่นดินไหว”เมื่อไม่นานมานี้ด้วย

    นักธรณีวิทยาประมาณว่า… วันหนึ่ง ๆ โลกเกิดแผ่นดินไหวราว 1,000 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่เป็นแผ่นดินไหวที่มีการสั่นสะเทือนเพียงเบา ๆ ทั้งนี้ จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวนั้นมักเกิดตามรอยเลื่อน อยู่ในระดับความลึกระดับต่าง ๆ ของผิวโลก โดยแผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่นจะหนาต่างกัน บางแผ่นหนาถึง 70 กิโลเมตร บางแผ่น เช่น ส่วนที่อยู่ใต้มหาสมุทร หนาเพียง 6 กิโลเมตร และแผ่นเปลือกโลกแต่ละแห่งจะมีส่วนประกอบทางกายภาพและทางเคมีที่แตกต่างกัน เมื่อเคลื่อนที่แยก หรือชนกัน ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนที่รุนแรงมากน้อยต่างกัน

    แต่ประเด็นคือ…แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวหรือตำแหน่งจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว จะอยู่ที่บริเวณขอบของแผ่นเปลือกโลก โดยที่ กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นจะเกิดรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิก หรือที่เรียกกันว่า “วงแหวนแห่งไฟ (Ring of Fire)” “วงแหวนแห่งไฟ” มักเป็นพื้นที่ที่เกิด “หายนะใหญ่ต่อชาวโลก” เป็นประจำ ต้องจับตาดูว่าคิวต่อไป คือที่ไหน !!!

    29-12-2012, 06:01 AM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ปี56จะร้ายแรงเหมือนหลายๆคนพูดหรือไม่.320025/page-82
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • interpoo.jpg
      interpoo.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.5 KB
      เปิดดู:
      36
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อเมริกาใต้เผชิญคลื่นความร้อนรุนแรง !!!

    ในขณะที่ประเทศในแถบยุโรป และอเมริกาเหนือเผชิญอากาศหนาวจัด แต่หลายประเทศในแถบอเมริกาใต้ กลับต้องเผชิญกับอากาศที่ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ อย่างในกรุงริโอ เดอ จาเนโรของบราซิล เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม อุณภูมิพุ่งแตะ 43.2 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 2458 หรือในรอบ 97 ปี

    ทำให้พื้นที่ชายหาดอิพาเนมา ในนครริโอฯ ซึ่งโดยปกติจะได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว แต่ทั้งนักท่องเที่ยว หรือแม้แต่ชาวบราซิลเองต้องหลบหนีออกจากชายหาด เพราะอากาศที่ร้อนระอุเกินไป หลังจากที่มีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษรายหนึ่งเป็นลมอยู่บนชายหาด จนต้องเรียกนักกู้ภัยมาช่วย

    ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอิตาลี อาเล็ซซานดร้า มิกลิแอกซิโอ ก็บอกว่า อุณหภมิที่ร้อนจัดช่วงนี้ เกินที่พวกเขาจะทนไหว ขณะที่ชาวบราซิลเอง ยังต้องเผชิญอากาศที่ร้อนจัดต่อไปอีก เพราะตอนนี้ ยังไม่ใช่หน้าร้อนที่แท้จริงเสียด้วยซ้ำ ร้านค้าหลายแห่ง ไม่มีพัดลม หรือแม้แต่เครื่องปรับอากาศขายแล้ว เพราะหลายครัวเรือน ต่างออกมาจับจ่ายหาซื้อสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด

    ขณะเดียวกันในกรุงบัวโนส ไอเรส ของอาเจนติน่า ก็เผชิญกับคลื่นความร้อนต้องแต่สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน โดยมีอุณหภูมิสูงสุดอยูที่ 42 องศาเซลเซียส ทำให้เจ้าหน้าที่เป็นกังวลว่าจะกระทบต่อสัตว์เมืองหนาวที่อยู่ในสวนสัตว์ หลังจากที่ เจ้า "วินเนอร์" หมีขั้วโลก ที่เสียชีวิตจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเช้าวันคริสต์มาสที่ผ่านมา

    ข่าวจากหนังสือพิมพ์เนชั่น วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม 2555 เวลา 17:19 น.

    ที่มา อเมริกาใต้เผชิญคลื่นความร้อนรุนแรง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 ธันวาคม 2012
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วิธีการดูแลรักษาสนามพลังออร่าในกายมนุษย์ !!!

    [​IMG]

    Chayutt สมาชิก

    อความสื่อสารทางโทรจิต จากมหาเทพเมตตาตรอน (Archangel Metatron) เรื่อง: Quantum Clarity in Alchemy วันที่: 22 มีนาคม 2011 ผู้รับสาส์น: นาย Tyberonn

    วิธีการดูแลรักษาสนามพลังออร่า

    ตอนนี้ กระแสการไหลของวงจรไฟฟ้า 13-20-33 นี้จะถูกต้องหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการเอาใจใส่บำรุงรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม อย่างที่พวกเราได้กล่าวไปแล้ว ตอนนี้พวกเราจะอธิบายว่า ปัญหาอุปสรรคที่พบบ่อยที่สุด เกี่ยวกับการบำรุงรักษาวงจรไฟฟ้านี้ อย่างเหมาะสม มีอะไรบ้าง ปัญหาที่มีผลกระทบต่อความแข็งแรงของสนามพลังออร่าของมนุษย์:

    - การถูกรบกวนด้วยสนามพลังงานต่างๆ
    - ความเครียดทางอารมณ์
    - ความขัดแย้ง
    - การเพิ่มขึ้นของพลังงานของโลก
    - กระแสความคิด (กระแสจิต) ด้านลบ
    - การเดินทางทางอากาศ และความเครียดทางร่างกาย
    - การได้รับยา, การดื่มแอลกอฮอลืมากเกินไป และการได้รับสารพิษ
    - ทัศนคติที่ไม่ดี, ปัญหาการถูกควบคุม, ความไม่สมดุลของ ego

    ซึ่งรายละเอียดของบางหัวข้อข้างบนนี้ จะอธิบายไว้ดังต่อไปนี้:

    1). การถูกรบกวนด้วยสนามพลังแม่เหล็ก และ สนามพลังไมโครเวฟ จนทำให้เกิดการกลับขั้วด้านชีวภาพของร่างกายมนุษย์

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)​

    ตอนนี้ ตามกาลเวลาของพวกคุณ สนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าของดาวเคราะห์โลก ที่กำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นอยู่นี้ กำลังถูกขยายให้มีความแรงมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ ซึ่งกระแสพลังงานที่ถูกบีบอัดนี้ จะไปทำให้กระแสการไหล และรูปทรงของสนามพลังออร่าของพวกคุณ เกิดการยืดตัวและฉีกขาดได้ แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมันเป็นธรรมดาของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น ที่จะทำให้พวกคุณวิวัฒน์ไปสู่ระบบวงจรออร่าที่ดีกว่า คือเป็นระบบ 13-20-33 เพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งเมอร์ขะน่า (Mer-Ka-Na) ที่อยู่ภายในระบบเมอร์ขะนิกทั้ง 3 (Mer-Ka-Nic Tri System)

    ในยุคของพวกคุณที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, ทีวี และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคต่างๆ ทั้งในสำนักงาน และในบ้านของพวกคุณ ทำให้พวกคุณต้องเผชิญกับการโจมตีของสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่เป็นนิจ ซึ่งผลกระทบของมันอาจจะทำให้สนามพลังออร่าของพวกคุณ เกิดการ “ลัดวงจร” ชั่วคราวได้ แต่ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ก็อาจจะนำไปสู่ความไม่สมดุลของออร่าได้ ซึ่งนั่นจะทำให้พลังงานของพวกคุณสูญเสียไป เพราะการรั่วไหลออกมาตามรอยรั่วเหล่านั้น ซึ่งโดยนัยยะนี้ อาจจะเรียกมันว่า “การรั่วของออร่า” ก็ได้ ผลกระทบของมันบางอย่าง ก็จะเป็นผลกระทบในระยะสั้นๆ แต่บางอย่างก็จะเป็นผลกระทบในระยะยาวแบบเรื้อรัง

    ผลกระทบด้านลบจากสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า และจากคลื่นไมโครเวฟนี้
    ไม่ว่าจะมาจากเครื่องคอมพิวเตอร์, เตาอบไมโครเวฟ, โทรศัพท์มือถือ และโทรทัศน์ก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ทั้งหลายของพวกคุณ แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบเหล่านี้ก็ดูเหมือนว่าจะถูกปกปิดไว้ให้ประชาชนรับรู้น้อยที่สุด หรือไม่ให้รับรู้เลย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าเหล่าผู้ประกอบการ และผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และไมโครเวฟเหล่านี้ เป็นผู้ให้ทุนสนับสนุน และรับรองผลการศึกษาวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่า ผลการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบของมัน จะต้องออกมาในรูปแบบของมีน้อยมากๆ

    แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลกระทบด้านลบของพวกมันมีอยู่จริงๆ และพวกคุณส่วนใหญ่ ก็ตกอยู่ในสนามพลังงานเหล่านี้เกือบตลอดเวลาซะด้วย ตัวอย่างเช่น พวกคุณส่วนใหญ่ที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ก็จะต้องนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นต้น ที่รักทั้งหลาย มันมีวิธีการที่ได้ผล ที่จะรับมือกับสนามพลังงานเหล่านี้ เดี๋ยวเราจะอธิบายให้ฟัง แต่ว่าอย่าละเลยความจริงที่ว่า สนามพลังงานเหล่านี้ จะมีผลกระทบด้านลบต่อสนามพลังงานออร่าของพวกคุณไม่มากก็น้อย แต่คลื่นความถี่ และสนามพลังงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะไม่แทรกซึมเข้าไปในชั้นออร่าชั้นลึกๆของพวกคุณ แต่ก็อาจจะมีบ้างเหมือนกัน ถึงกระนั้นก็ตาม พวกมันก็สามารถทำให้สนามพลังออร่าของพวกคุณแตก แยก หรือมีรอยรั่วได้ทั้งหมดนั่นแหละ

    หลายคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้มันเป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น หรือคิดว่าข้อความนี้ต้องการสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นเท่านั้น แต่มันไม่ใช่เลย ไม่ใช่ทั้งคู่ มันเป็นความจริงที่ว่าคุรุผู้รู้แจ้งแล้วทั้งหลาย สามารถเปลี่ยนแปลงผลกระทบด้านลบดังกล่าวนั้น ของพวกมันได้ แต่ที่รักทั้งหลาย พวกเราอยากจะบอกพวกคุณด้วยความรักว่า ถ้าหากว่าพวกคุณคนใดยังไม่บรรลุถึงขึ้นนั้น และยังไม่สามารถเดินบนน้ำได้หละก็ จงใส่ใจสิ่งที่จะบอกนี้ให้ดี ผลกระทบด้านลบของคลื่นไมโครเวฟและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมาจากการสลับกระแส คือสิ่งที่ชาวโลกส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าพวกคุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม

    แม้ว่าผลกระทบเหล่านี้ไม่อาจทำให้ถึงตายได้ แต่พวกมันก็มีผลกระทบด้านลบ
    ต่อวงจรพลังงานของพวกคุณจริงๆ และยังสามารถทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “การกลับขั้วทางชีวภาพ” และ “การลัดวงจรของออร่า” ของร่างกายมนุษย์ได้ด้วย ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ก็ยังสามารถนำไปสู่การฉีกขาดของชั้นออร่า ซึ่งจะนำไปสู่การรั่วไหลของออร่าต่อไป

    2). การเดินทางทางอากาศ

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)​

    การเดินทางทางอากาศเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวันของพวกคุณส่วนใหญ่ บางครั้งพวกคุณส่วนใหญ่ก็เดินทางโดยเครื่องบินจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ซึ่งการเดินทางนั้นแหละ ที่จะทำให้พลังออร่าของพวกคุณลดลงอย่างมาก มากกว่าที่พวกคุณเข้าใจกันอยู่ตอนนี้ซะอีก เพราะว่าความจริงแล้ว การเดินทางทางอากาศเป็นเวลานานๆ สามารถทำให้อายุขัยของมนุษย์สั้นลงได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนขึ้นไป และการเดินทางข้ามทวีปและข้ามมหาสมุทร ที่มีระยะทางไกลๆ และต้องใช้เวลานานๆนั้น ก็ยิ่งจะทำให้สนามพลังออร่าของมนุษย์เสื่อมสภาพลง หนักขึ้นไปอีก

    มันเป็นความจริงที่ว่าใครก็ตามที่อยู่บนเครื่องบินนานๆ 9–10 ชั่วโมง หลังจากที่ไปถึงจุดหมายปลายทาง และออกมาจากเครื่องแล้ว จะมีอาการผิดปกติ หรือการฉีกขาดของสนามพลังออร่า ไม่มากก็น้อย การเดินทางไกลโดยเครื่องบินไปตามแนวเส้นละติจูด (เส้นรุ้ง,เส้นในแนวนอน – ผู้แปล) ไปทางทิศตะวันออก คือการเดินทางที่จะทำให้สนามพลังออร่าได้รับอันตรายมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามการเดินทางโดยเครื่องบินทุกๆรูปแบบ จะทำให้เกิดการสูญเสีย ของสนามพลังงานไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เสมอ ที่พวกคุณเรียกกันว่า “อาการอ่อนเพลียจากการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเวลานานๆ” หรือ “Jet lag”

    แต่คำศัพท์ที่พวกคุณใช้เรียกกันนี้ มันเล็กน้อยกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมากมายนัก เพราะว่ามันไม่ใช่แค่การอ่อนเพลียจากการเปลี่ยนแปลงของเขตเวลา (time zone) ธรรมดาๆเท่านั้น แต่มันมีมากกว่านั้นเยอะ ตอนนี้ก็มาถึงปัจจัยสำคัญ และเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่ง ที่เป็นต้นตอของปัญหานี้กันแล้ว นั่นก็คือ เที่ยวบินพานิชย์ส่วนใหญ่ในโลก จะบินตามแนวเส้นละติจูด ที่ความสูงระดับ 35,000 feet ในชั้นบรรยากาศสตาโตสเฟียร์ (stratosphere) ซึ่งอยู่นอกขอบเขตการควบคุมของกระแสความสั่นสะเทือน Schumann Resonance

    ซึ่ง Schumann Resonance นี้ คือ “จังหวะการเต้นของหัวใจของดาวเคราะห์โลก” มันคืออิออนที่มีประจุลบที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากดาวเคราะห์โลก ที่ผสมผสานอยู่กับอิออนที่มีประจุบวก ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากชั้นสตาโตรสเฟียร์ เพื่อก่อเกิดเป็นตัวเก็บประจุแม่เหล็กและประจุไฟฟ้า (electro-magno capacitor) รูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะแผ่ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งโลก ตั้งแต่พื้นดินขึ้นไปจนถึงระดับความสูง 30,000 feet ตัวเก็บประจุที่ว่านี้จะก่อให้เกิดคลื่นความสั่นสะเทือนพื้นหลังขึ้น ซึ่งจะทำหน้าที่สำคัญ ในการควบคุมจังหวะการทำงานของอวัยวะและต่อมต่างๆภายในร่างกายมนุษย์

    แต่เพราะว่าเครื่องบินส่วนใหญ่จะบินอยู่ที่ระดับความสูง 35,000 – 37,500 feet จึงอยู่นอกเหนือขอบเขตของ Schumann Resonance มิหนำซ้ำส่วนที่เป็นโลหะของลำตัวเครื่องบิน ก็ยังจะช่วยเบี่ยงเบนส่วนที่เหลืออยู่ของมันอีกต่อหนึ่งด้วย ดังนั้น ผลลัพธ์ของมันก็คือความผิดปกติทางด้านร่างกาย ซึ่งเรื่องนี้องค์การ NASA และองค์การเกี่ยวกับสถานีอวกาศของพวกคุณ ก็ตระหนักถึงปัญหานี้กันดี ว่ามันจะไปทำให้เกิดอาการผิดปกติทางด้านร่างกายแบบเรื้องรังแก่นักบินอวกาศ พวกเขามีผลการทดลองเกี่ยวกับการวางอุปกรณ์กำเนิดแม่เหล็กไว้ในสถานีอวกาศ และในกระสวยอวกาศแล้ว

    บุคลากรทางการแพทย์ของพวกคุณบางคน ที่เคยศึกษาเรื่องการอ่อนเพลียจากการบินไว้ พวกเขารู้กันดีว่า การบินสามารถทำให้ และก็ได้ทำให้หัวใจของนักบินทำงานหนักกว่าปกติแล้วด้วย ซึ่งยิ่งบินนานเท่าไหร่ หัวใจก็จะขยายใหญ่กว่าปกติเป็นการชั่วคราวมากขึ้นเท่านั้นด้วย นักบินและผู้ที่ร่วมบินไปด้วยทั้งหลาย ที่ต้องบินเป็นประจำทุกวัน จะเกิดความเครียดทางด้านร่างกาย และด้านสนามพลังออร่าอย่างไม่ต้องสงสัย จนอาจจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยแบบเรื้องรังขึ้นได้ และจะส่งผลให้ “ความแก่” ถูกเร่งให้เร็วขึ้นอย่างมากด้วย

    มันมีผลงานการศึกษาเป็นการภายใน เกี่ยวกับการมีอายุสั้นลง ของพนักงานบนสายการบินอยู่แล้วมากมาย แต่ว่าผลการศึกษาวิจัยนี้เหล่าส่วนใหญ่ ก็จะถูกปกปิดเอาไว้ ไม่นำออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชน จริงๆแล้วพวกเขายังรู้อีกด้วยนะว่า ภาวะการขาดออกซิเจนในกระแสเลือด เพราะการอยู่ในสภาวะที่มีออกซิเจนต่ำ ซึ่งเกิดจากการอยู่ในเครื่องบินที่มีความดัน เป็นระยะเวลานานๆนั้น จะไปทำให้จังหวะการทำงานของร่างกายมนุษย์ผิดปกติไป ไม่ว่าจะเป็นการบินข้ามเขตเวลาไปมากน้อยแค่ไหนก็ตาม มันจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    ปัญหานี้จะยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ถ้ามีอาการเป็นตะคริวเกิดร่วมด้วย ซึ่งอาการเป็นตะคริวนี้ เกิดจากการที่ต้องนั่งอยู่ในที่นั่งในห้องนักบินเป็นเวลานานๆ ซึ่งเป็นสภาวะที่การผ่อนคลายร่างกายเป็นไปได้ยาก และเป็นสภาวะที่ระบบต่างๆในร่างกายไหลเวียนได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอด้วย ซึ่งลำพังประเด็นหลังนี้ ก็สามารถทำให้เกิดการอ่อนเพลียได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว ในห้องนักบินที่มีสภาวะอากาศแห้งมากๆ และรวมถึงความดันเอง ก็ทำให้เกิดอันตรายได้อยู่แล้ว การหมุนเวียนของระบบต่างๆในร่างกายจะถูกกีดขวาง

    และจริงๆแล้ว พวกคุณส่วนใหญ่ ก็สามารถรู้สึกด้วยตัวเองได้ว่า หลังจากที่บินเป็นระยะเวลานานๆแล้ว ร่างกายจะพักผ่อนได้ยาก เกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งนี่แหละคือผลข้างเคียงอย่างหนึ่ง ของการที่สนามพลังออร่าของพวกคุณถูกรบกวน มาถึงตรงนี้ พวกเราอยากจะชี้แจงให้กระจ่างอีกสักหน่อยว่า การบินเป็นระยะเวลา 3–4 ชั่วโมงนั้น ไม่ก่อให้เกิดผลร้ายเท่ากับการบินนาน 8–12 ชั่วโมง และการฟื้นฟูก็จะเร็วกว่ามากด้วย ดังนั้น ปัจจัยที่มีผลกระทบลำดับต่อมาก็คือ ระยะเวลาในการบิน, ความบ่อยของการบินและอายุ และสุขภาพของคนผู้นั้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ทุกๆเที่ยวบิน อย่างที่พวกเราได้บอกไปแล้วว่า มันก็จะมีผลกระทบในแง่ร้ายเสมอ ไม่มากก็น้อย

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...องออร่า-จากคลื่นรบกวน-การบิน-และอื่นๆ.287075/
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    3). การบินข้ามเส้นศูนย์สูตร

    การบินเป็นระยะเวลานานๆข้ามเส้นละติจูด จะทำให้เกิดการอ่อนเพลียอย่างมากขึ้นกับร่างกายมนุษย์ อันเป็นผลมาจากการข้ามผ่านเส้นเขตกาลเวลา มันเป็นปัจจัยส่งเสริมปัจจัยอื่นๆทั้งหมดที่ได้กล่าวไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามการบินข้ามเส้นศูนย์สูตร จากซีกโลกใต้ไปสู่ซีกโลกเหนือ หรือในทางตรงกันข้าม ก็จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนด้านความถี่แบบอื่นๆของสนามพลังออร่าขึ้นด้วย

    พลังงานความสั่นสะเทือนของซีกโลกที่อยู่ใต้เส้นศูนย์สูตร โดยธรรมชาติแล้วจะหมุนไปตามเข็มนาฬิกา และจะหมุนทวนเข็มนาฬิกาในซีกโลกเหนือเส้นศูนย์สูตร ดังนั้น ถ้าใครก็ตามบินจากซีกโลกที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ข้ามไปในเส้นศูนย์สูตร หรือในทางกลับกัน ก็จะทำให้ระบบวงจรไฟฟ้าของพลังออร่าของคนผู้นั้นได้รับผลกระทบในแง่ร้าย ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง

    คำถาม ถามท่านเมตาตรอน:

    ชาวโลกทั้งหลายที่มีงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับการบิน พวกเขาจะมีวิธีการไหนบ้างเพื่อที่จะลดผลกระทบในแง่ร้ายเหล่านี้?

    คำตอบ:

    ผลกระทบ จะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความบ่อยของการบิน และระยะเวลาที่ใช้ในการบิน ส่วนปัจจัยอื่นๆ ก็ได้แก่สุขภาวะ และอายุของคนผู้นั้น ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม จงพยายามอย่าบินบ่อยๆ และนานๆถ้าทำได้ และจงรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอในทุกวิถีทาง และเมื่อใดก็ตาม ที่จำเป็นจะต้องบิน ก็สามารถช่วยให้สนามพลังออร่าของตนเองแข็งแรง และคงทนขึ้นได้ ด้วยการสวมใส่ทองแดง หรือ ทองคำไว้ที่ข้อมือทั้งสองข้าง และโดยการพกพาอัญมณี (หรือหินสี - ผู้แปล) ติดตัวไปด้วย เช่น แหวน หรือจี้ห้อยคอ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสียหายของสนามพลังออร่า และหลังจากที่บินเสร็จแล้ว จงอาบน้ำเกลือแร่ และหลีกเลี่ยงการใช้ยานอนหลับ และจงดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งในระหว่างที่กำลังบินอยู่ และหลังจากบินเสร็จแล้ว

    4). ความเข้มข้นที่มากขึ้นของสนามแม่เหล็กโลก จากกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension)

    สาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่มองเห็นได้ชัดเจนน้อยกว่า แต่สำคัญอย่างมาก ของการรั่วไหลของสนามพลังออร่า ก็คือเกิดจากกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลก ถ้ามองอย่างผิวเผินแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันขัดแย้งกันเองอยู่ แต่ว่าความจริงแล้ว มันกำลังเกิดขึ้นอยู่จริงๆ และพวกคุณจะต้องตระหนักถึงมันด้วย กลไกเบื้องต้นของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ ก็คือ “พายุสุริยะ” (Solar wind) ,”การหมุนเร็วขึ้นของแกนโลก” และ “ระดับคลื่นความถี่ของดาวเคราะห์โลกที่เพิ่มสูงขึ้น”

    ความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกกำลังเร่งเร็วขึ้น และนี่แหละที่รักทั้งหลาย ที่กำลังส่งผลกระทบต่อพวกคุณ ในรูปแบบต่างๆ อยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าจะอธิบายให้พวกคุณพอจะเข้าใจได้ ก็จะบอกว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับพลังงานระหว่างกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นในครั้งนี้ กำลังยืดขยายความจุด้านคลื่นความถี่ของพวกคุณอยู่ ซึ่งผลของมัน จะทำให้พวกคุณพัฒนาไปสู่การมีสนามพลังออร่าที่กว้างขึ้น ก็เหมือนกับงูนั่นแหละ ที่ทุกๆปีที่มันโตขึ้น มันจะต้องมีการลอกคราบเพื่อสลัดผิวหนังเก่าออกไป แล้วสร้างผิวหนังใหม่ที่พอดิบพอดีกับขนาดของร่างกายที่โตขึ้นมากกว่ามาแทน พวกคุณเข้าใจไหม? ซึ่งกว่าที่จะได้ผิวหนังใหม่ที่ยืดหยุ่นได้ขึ้นมา ผิวหนังเก่าก็จะต้องถูกยืดขยาย และถูกทำให้ปริแตกออกเสียก่อน

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)​

    และในระหว่างที่กำลังอยู่ในกระบวนการนี้ มันก็จะมีช่วงหนึ่ง ที่จะต้องอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ และเปราะบางที่สุดอยู่ด้วย จนกว่าผิวหนังใหม่จะเสร็จสมบูรณ์ ยิ่งโลกของพวกคุณใกล้จะเลื่อนระดับขึ้นในปี 2012 มากเท่าไหร่ การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆมากมายก็จะเกิดขึ้นรอบๆตัวพวกคุณมากขึ้นไปด้วย และพวกมันจะส่งผลกระทบต่อพวกคุณอย่างมาก ทั้งทางด้านร่างกาย, อารมณ์ และจิตใจ

    พวกคุณหลายๆคนอาจจะกำลังรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกินในช่วงนี้ หรืออาจจะกำลังรู้สึกว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ ราวกับว่าอะไรๆมันก็ไม่สำเร็จสักอย่าง ราวกับว่าเวลาในวันหนึ่งๆ มันมีไม่เพียงพอที่จะทำอะไรต่ออะไรอย่างนั้นแหละ พวกคุณบางคนอาจจะกำลังอยู่ในช่วงของความรู้สึกหดหู่ซึมเซา หรือกำลังรู้สึกว่ากำลังจมปรักอยู่กับความรู้สึกไม่ดีทั้งหลาย และอาจจะกำลังรู้สึกว่ากำลังเคลื่อนที่อ้อยอิ่งอยู่ในของเหลวหนืดๆข้นๆ และเหนอะหนะอยู่อย่างนั้นแหละ บางอารมณ์อาจจะรู้สึกปิติยินดี มีความสุขอย่างเหลือล้น แต่บางอารมณ์ก็อาจจะรู้สึกว่าเศร้าสร้อย และท้อแท้สิ้นหวังเหลือเกิน

    ที่รักทั้งหลาย พวกคุณไม่ได้กำลังเป็นแบบนั้นเพียงลำพังหรอก เพราะว่าจริงๆแล้ว มีมนุษย์หลายล้านคนที่กำลังเป็นเหมือนพวกคุณอยู่ พวกเขาก็กำลังเผชิญกับการยืดขยาย และการสร้าง “ผิวหนังแห่งออร่าใหม่” อยู่เช่นเดียวกัน และพวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า ถ้าหากว่าพวกคุณมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการนี้ และสามารถบำรุงรักษาความแข็งแกร่งของสนามพลังออร่าของพวกคุณเอาไว้ได้ กระบวนการนี้มันก็จะง่ายขึ้นอีกเยอะเลย

    5). บริเวณที่เป็นจุดศูนย์รวมพลังงาน หรือ จุดประสานมิติ

    ผู้รับสาส์นเคยพูดถึงการทำให้พลังงานเกิดความสมดุลอยู่บ่อยๆว่า สามารถทำได้โดยการเดินทางไปที่พื้นที่ๆเป็นจุดประสานมิติ หรือจุดที่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในกรณีที่ผู้ที่ไม่ใช่คนในพื้นที่นั้น เดินทางไปยังจุดที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานเหล่านั้น เช่น ภูเขาแชสต้า, ทะเลสาบติติกาก้า, เซโดน่า, อาแคนซอส์ หรือ Glastonbury เป็นต้น หลายๆคนอาจจะรู้สึกได้ว่า มีพลังงานที่เข้มข้นรุนแรงโอบล้อมอยู่รอบๆ ซึ่งระดับความสั่นสะเทือนของมัน จะสูงกว่าระดับความสั่นสะเทือนของพลังงาน ของสนามพลังออร่าของพวกเขาเองอย่างมาก ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคย

    ดังนั้น สำหรับบางคนแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ทุกคน ภายใน 3–7 วัน ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็ง และความยืดหยุ่นของสนามพลังออร่าของคนๆนั้น สนามพลังออร่าของคนๆนั้น จะปรับตัวให้เข้ากับความกดดันที่แตกต่างกันนั้น โดยใช้กระบวนการออสโมสิส (osmosis) เพื่อให้เกิดความสมดุลขึ้น สนามพลังออร่าจะสร้างรอยรั่วขึ้นมาในตัวเอง เพื่อให้พลังงานไหลเข้าและออกจนเกิดความสมดุลขึ้นได้ และถ้าไม่เป็นแบบนี้แล้ว การลัดวงจรของสนามพลังออร่าก็จะเกิดขึ้นในที่สุด ทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานไป ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรงขึ้น จนกว่าสนามพลังออร่าสามารถปรับตัวให้เข้าสู่ความสมดุล และคงที่ ได้อีกครั้งหนึ่งโน่นแหละ อาการนี้จึงจะหายไป

    ในกรณีที่ย้ายที่อยู่จากที่ๆมีระดับพลังงานต่ำกว่า เข้าไปอยู่ในที่ๆเป็นจุดประสานมิติ ที่มีระดับพลังงานสูงกว่าอย่างมาก กระบวนการปรับตัวของสนามพลังออร่านี้ อาจจะใช้เวลานานถึง 6 เดือน หรือเป็นปีเลยทีเดียว พวกคุณที่ย้ายไปอยู่ในแถบภูเขาแชสต้า และเซน่าจะเข้าใจเรื่องนี้กันดี แต่สำหรับผู้ที่เพียงเดินทางมาชั่วคราว การปรับตัวของสนามพลังออร่าของพวกเขา อาจจะเสร็จสิ้นภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ หลังจากที่กลับไปสู่ที่เดิมแล้ว กุญแจสำคัญมันอยู่ที่ระดับความถี่ของการสั่นสะเทือนของสนามพลังออร่าของพวกคุณเอง และจงอย่าอยู่ที่นั่นนานจนเกินไป หากสนามพลังออร่าของพวกคุณยังไม่สามารถทนทาน ต่อระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่านี้ได้

    แต่พวกเราก็ไม่ได้บอกนะว่า การไปเยื่ยมเยือนจุดที่เป็นจุดประสานมิติ หรือจุดศูนย์รวมพลัง (Power node) เหล่านี้ จะไม่มีประโยชน์ แต่ในทางตรงกันข้าม การขยายตัวและการพัฒนาสูงขึ้นแบบนั้น โดยภาพรวมแล้ว เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และค่อนข้างจะเป็นประโยชน์ และมีความจำเป็นอย่างมากด้วย เพื่อที่จะทำให้ “ผิวหนังใหม่” ของพวกคุณถูกสร้างขึ้น และมีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น และก็มีความเป็นหลากมิติมากขึ้นด้วย จุดศูนย์รวมพลังงานเหล่านี้ จะช่วยเร่งให้เกิดกระบวนการดังกล่าวนี้

    เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงควรจะเดินทางไปเยี่ยมเยือนมันบ้าง จุดประสานมิติเหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนเป็น “ตัวเร่ง” ให้กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณเกิดเร็วขึ้น และจะช่วยเตรียมความพร้อมให้แก่พวกคุณ เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น ที่มีระดับพลังงานสูงขึ้นเรื่อยๆนี้ พวกคุณเห็นไหม?พวกเรากำลังบอกว่า กระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นภายในจุดศูนย์รวมพลังงานเหล่านี้ มันเป็นกระบวนการในระดับจุลภาค ของทั้งมหภาคอย่างหนึ่ง และพวกคุณจะต้องเข้าใจมันด้วย

    พวกคุณเห็นไหมว่า ดาวเคราะห์โลกทั้งใบของพวกคุณ กำลังมีระดับความถี่ ของการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วอยู่ และพวกคุณก็จำเป็น จะต้องเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง เพื่อที่จะรับมือกับความถี่ระดับนั้นได้ พวกคุณหลายๆคนก็กำลังรับมือกับมันอยู่ แต่ก็ทำไปโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย แต่ไม่ว่าตอนนี้พวกคุณจะกำลังเผชิญกับมันอยู่ หรือจะได้เผชิญกับมันในไม่ช้านี้ก็ตาม ความเข้าใจถึงกระบวนการของมัน จะช่วยให้พวกคุณรับมือกับมันได้ง่ายดายขึ้นอย่างมาก

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...องออร่า-จากคลื่นรบกวน-การบิน-และอื่นๆ.287075/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2012
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    6). การเปลี่ยนรูปแบบของสนามพลังออร่า หรือ การเปลี่ยนผิวหนังทิพย์ใหม่

    แต่กระบวนการที่เป็นไปในทางตรงข้ามกับกระบวนการที่กล่าวมาแล้วนั้น ก็อาจจะเกิดขึ้นได้กับพวกคุณหลายคน ที่เป็นผู้ที่ตื่นรู้แล้วด้วยนะ เพราะว่ามีพวกคุณหลายคน ที่บรรลุถึงขั้นสามารถเข้าถึงความเป็นตัวตนหลากมิติ ที่กว้างใหญ่ไพศาลของตัวเองได้แล้ว เพราะว่าโครงข่ายคริสตัลไลน์ 144 เอื้ออำนวยให้สามารถเข้าถึงมิติต่างๆได้มากขึ้นนั่นเอง ผลของมันก็คือ สนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าภายในของพวกคุณ จะดึงดูดกระแสพลังงานเข้ามาสู่ตัวมันเองอย่างมากมาย จนทำให้ระดับพลังงานพุ่งสูงขึ้น จนเกินขีดความสามารถในการเก็บประจุของสนามพลังออร่าของพวกคุณเอง

    ในกรณีนี้ จะทำให้เกิดการยืดและขยายตัวของสนามพลังออร่า เพราะว่ามันรับพลังงานเข้ามามากจนเกินไป (overload) จนทำให้เกิดการรั่ว และฉีกขาดของสนามพลังออร่า เป็นการชั่วคราวได้ ซึ่งจะทำให้สูญเสียพลังงานไป แต่นั่นก็หมายความว่า พวกคุณกำลังลอกคราบเพื่อเปลี่ยนผิวหนังใหม่อยู่ ส่วนหนึ่งของการยืดขยายเพื่อการเปลี่ยนรูปแบบ จำเป็นจะต้องมีการชำระล้างร่วมอยู่ด้วย ความเป็นหลากมิติของจุดประสานมิติทั้งหลาย และกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น

    พวกมันก็คือ “เตาเผา” ในตัวมันเองอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ปัญหาต่างๆผุดขึ้นมาสู่พื้นผิว เพื่อให้คนผู้นั้น ได้มีโอกาสเผชิญหน้ากับมัน และปลดปล่อยสิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่างๆที่ฝังตัวอยู่ ให้หลุดออกไป เร็วก็ย่อมดีกว่าช้า นี่คือเหตุผลว่าทำไมปัญหาอุปสรรคทั้งหลาย จึงพากับผุดขึ้นมาในชีวิตของพวกคุณหลายๆคน มากมายนัก การพยายามที่จะกลบเกลื่อนมันไว้ หรือเพิกเฉยต่อมันเหมือนเดิมนั้น ก็รังแต่จะทำให้ปัญหานั้นๆเพิ่มพูน และกลัดหนองมากยิ่งขึ้นไปอีก ปัญหาเหล่านี้ ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข มันก็จะทำให้เกิดความเครียดขึ้น และจะทำให้เกิดสนามพลังที่จะไปทำฏิกิริยาให้เกิดการกลับขั้ว, การล้มเหลวของวงจรไฟฟ้า และการรั่วไหลของสนามพลังออร่าของพวกคุณได้

    ที่รักทั้งหลาย จริงๆแล้ว มันมีศาสตร์ชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับความแข็งแรงของสนามพลังออร่าอยู่ และมันก็ไม่ใช่ศาสตร์ใหม่แต่อย่างใดด้วย เพียงแต่ว่ามันถูกลืมไปเท่านั้นเอง พวกคุณคนใดที่ปราถนาความก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณ และปราถนาความสมดุล, ภูมิปัญญา และความรู้ จำเป็นจะต้องเข้าใจ และ เรียนรู้มันใหม่ทุกๆคน สนามพลังออร่าที่สมบูรณ์ จะช่วยให้คนผู้นั้น สร้างตาข่ายคอสมิคขึ้นมาใหม่ได้ และจะทำให้วงจรไฟฟ้าของสนามพลังออร่ากลายเป็นระบบ 13-20-33 ได้ รวมถึงจะทำให้จิตสำนึกขยายตัวไปสู่ความเป็นหลากมิติ ในระดับของระบบเมอร์คิว่า (Mer-Ki-Va) แบบคริสตัลไลน์อีกด้วย

    ส่วนสนามพลังออร่าที่มีการฉีกขาด จะทำให้เกิดการรั่วไหลของพลังงาน และการรั่วไหลของพลังงาน ก็จะทำให้เกิดความเครียดขึ้นในวงจรไฟฟ้าของกายเนื้อ ซึ่งถ้าการรั่วไหลนี้ ไม่ได้รับการแก้ไข มันก็จะนำไปสู่การกลับขั้วของสนามพลังออร่าแบบเรื้อรังขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้จิตตก, รู้สึกหดหู่, มีอาการอ่อนเพลียแบบเรื้อรัง, นอนไม่หลับ, ปวดหัวแบบไมเกรน, น้ำหนักลด, วิตกกังวล และอาการผิดปกติที่น่าเป็นห่วงอื่นๆอีกเล็กน้อย แต่ปัญหาทั้งหมดนี้ก็สามารถแก้ไขได้

    ตอนนี้ พวกเราอยากจะสนับสนุนให้พวกคุณตั้งใจศึกษาเรื่องนี้ให้ดี แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกคุณจำเป็นจะต้องเข้าใจก็คือ มันมีแหล่งกำเนิดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าอยู่มากมาย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดความเสียหายของสนามพลังออร่า และสามารถทำให้กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบของพวกคุณ ติดขัดหรือล่าช้าได้ เพราะว่ามันจะไปสร้างความเสียหายให้กับวงจรไฟฟ้าของสนามพลังออร่าของพวกคุณ เป็นการชั่วคราว ไม่มากก็น้อย เหล่านี้แหละที่พวกคุณจะต้องรับมือด้วย ลองจินตนาการดูว่า ถ้ามีรอยรั่วเล็กๆเกิดขึ้นบนยางรถยนตร์ของพวกคุณ ถ้าพวกคุณปล่อยปะละเลยไป ยางรถก็จะต้องแบบแน่ๆ และรถก็ไม่สามารถไปต่อได้อีก สนามพลังออร่าของพวกคุณก็เป็นแบบเดียวกันนั่นแหละ

    คำถาม ถามท่านเมตาตรอน:

    แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าสนามพลังออร่าของเรากำลังรั่วอยู่หรือเปล่า?

    คำตอบ:

    อย่างแรก ต้องเข้าใจเรื่องของสภาวะที่ทำให้เกิดการเสียสมดุลทางพลังงาน และเกิดการรั่วไหลของพลังงานในสนามพลังออร่าซะก่อน ซึ่งก็คือสิ่งที่พวกเราได้กล่าวถึงไปแล้วข้างบนนั้น สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของร่างกายมนุษย์ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นปราการพลังงานปกป้องร่างกายไว้ และมันก็เหมือนกับผิวหนังของพวกคุณที่มีอยู่ด้วยกัน 3 ชั้น สนามพลังออร่าของพวกคุณ ในมิติของโลกใบนี้ มันก็มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 ชั้น ซึ่งชั้นนอกสุด 3 ชั้นแรก คือชั้นที่จะเกิดการรั่วไหลได้มากที่สุด อันเป็นผลมาจากการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า

    ส่วนคลื่นไมโครเวฟนั้น จะสามารถส่งผลเสียหาย ต่อชั้นที่อยู่ลึกลงไปกว่านั้นได้ด้วย อาหารที่ผ่านการปรุงด้วยคลื่นไมโครเวฟ มันจะเก็บรักษาคลื่นไมโครเวฟ ไว้ในความเป็นขั้วของโมเลกุลของมัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในวงการวิชาการของพวกคุณ และเมื่ออาหารดังกล่าวนี้ ถูกกินเข้าไป วงจรไฟฟ้าในระบบย่อยอาหาร และในลำไส้ ก็จะได้รับผลกระทบด้วย ทั้งในด้านกายภาพ และด้านพลังงาน ตอนนี้การรู้ถึงเหตุที่มาของปัญหา จึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างแรก ต้องรู้ก่อนว่าในสภาวะใดบ้าง ที่จะทำให้สนามพลังออร่าถูกรบกวนจากสนามพลังงานอื่นๆได้บ้าง เพราะว่าการจะใช้ประสาทสัมผัสรับรู้นั้น ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก สิ่งชี้บ่งแรกที่สามารถรู้สึกได้ ก็คืออาการตกต่ำทางอารมณ์ ซึ่งมันจะเป็นอาการเหนื่อยล้า และหมดพลัง

    แต่มนุษย์ก็มักจะไม่ค่อยรู้ว่า อาการเหล่านี้ มันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญเสียสนามแม่เหล็กไฟฟ้าของร่างกายไป เพราะว่ามันเกิดขึ้นค่อนข้างเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่ ก็มักจะมีอุปกรณ์ที่ก่อให้เกิดสนามพลังงานรบกวนเหล่านี้อยู่แล้ว รวมถึงในชีวิตประจำวัน, ในอาชีพการงาน และในชีวิตครอบครัว ปกติมันก็จะมีความเครียดเกิดขึ้นอยู่แล้วด้วย ซึ่งจริงๆแล้วความเครียดเอง มันก็เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุแห่งการรั่วไหลของพลังงานอยู่แล้ว และยิ่งจะเลวร้ายลงไปอีก ถ้าหากขาดการออกกำลังกาย และการมีพฤติกรรมการกินที่ดี

    คำถาม ถามท่านเมตาตรอน:

    แล้วเราจะทำอะไรได้บ้างครับ เพื่อทำให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของร่างกายมนุษย์เข้มแข็ง และ มั่นคงได้?

    คำตอบ:

    มันก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ที่จะทำให้สนามพลังออร่าเข้มแข็งได้ แต่ว่าอย่างแรกสุด จะต้องพยายามลดต้นเหตุที่จะทำให้เกิดการลัดวงจร และการรั่วไหลของสนามพลังออร่าลงซะก่อน โดยการหยุดใช้เตาอบไมโครเวฟในการปรุงอาหารและหากจำเป็นจะต้องนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หลายชั่วโมง อย่างที่พวกคุณหลายๆคนเป็นกันหละก็ มันก็มีขั้นตอนที่จะช่วยทำให้ผลกระทบของมันเป็นกลางได้อยู่ ตอนนี้ วิธีการที่จะทำให้สนามพลังออร่าเข้มแข็งนั้น มีอยู่มากมาย ซึ่งบางวิธีการก็จะเป็นวิธีการทั่วๆไป แต่บางวิธีการก็ไม่ใช่

    1). ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ไม่ว่าจะด้วยการทำโยคะ, การเดิน, หรือ Tai Chi ก็ตาม

    2). ดื่มน้ำให้มากขึ้น และดื่มน้ำที่มีการใส่พลังงานแม่เหล็กเข้าไป

    3). ล้างพิษ โดยการอบซาวน่า หรือการสวนทวารหนักเพื่อล้างลำไส้ใหญ่
    (colonic irrigation) หรือ ด้วยวิธีนวดบำบัด

    4). อาบน้ำเกลือ และน้ำแร่ และอาบน้ำพุร้อนธรรมชาติ

    5). ใช้รังสีสีม่วงบำบัดของเทสล่า (Tesla Violet Ray Therapy)

    6). วางแม่เหล็กไว้บนหลังเท้าทั้งสอง และ ข้อมือทั้งสอง (3500 gausses)

    7). ใส่อัญมณี หรือ หินสี บางชนิดที่เข้ากันได้ (เดี๋ยวรายละเอียดตรงนี้ ยังมีอีกเยอะครับ – ผู้แปล)

    8). สวมโลหะชั้นสูง (เช่น ทองคำ แพลตินั่ม เงิน และอื่นๆ – ผู้แปล) ไว้รอบคอ และข้อมือทั้งสอง

    9). มีพฤติกรรมการกินที่ดี

    10). หลีกเลี่ยงการดื่มแอกอฮอล์มากจนเกินไป

    11). งดเว้น / ลดการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย เช่น บุหรี่ และยาตามแพทย์สั่งบางชนิด

    12). รับประทานอาหารล้างพิษเป็นประจำทุกสัปดาห์ เช่น กระเทียมสด, ขิงสด, และน้ำส้มสายชูหมัก

    13). ใช้คริสตัลที่เจียรไนยแบบ Vogel ที่มีเหลี่ยมมุมแบบ Phi เพื่อซ่อมแซม และอุดรอยรั่วของสนามพลังออร่า

    14). ใช้วิธีรมควันด้วยสมุนไพรหอม เช่น เสจ (sage) เพื่อซ่อมแซม/รักษาสนามพลังออร่า

    15). ใช้คลื่นความถี่เสียงที่บริสุทธิ์ ที่เกิดจากคริสตัลโบว์ (Crystal bolw) หรือ ชามทิเบต (Tibetan bowls หรือ singing bolw) และ ซ่อมเสียง เพื่อซ่อมแซม/รักษาสนามพลังออร่า

    ตอนนี้ เพื่อให้ได้ผลดีมากขึ้นไปอีก จงระมัดระวังภาวะอารมณ์ของตัวเองให้ดี ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะเซื่องซึม หรืออ่อนเพลียแบบเรื้อรัง หรือ นอนไม่หลับ หรือ ท้อแท้หดหู่ หรือ วิตกกังวลอยู่หละก็ นั่นแหละคืออาการที่บอกว่าคุณจำเป็นจะต้องใช้วิธีการรักษา ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้วหละ แต่การปฏิบัติอย่างอื่น ก็จะต้องทำควบคู่กันไปด้วยนะ

    พวกคุณหลายคนที่ได้เลือกบทเรียนแห่งชีวิตเอาไว้ว่า จะกำจัดปัญหาอุปสรรคไปให้ได้ โดยวิธีการเอาชนะมัน ซึ่งบทเรียนชีวิตที่เลือกเอาไว้ในพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณก่อนถือกำเนิดนี้ จะเป็นโอกาสสำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของพวกคุณ ถ้าพวกคุณทำได้ (หมายความว่า บางคนก็เลือกพันธะสัญญาทางจิตวิญญาณก่อนถือกำเนิด เอาไว้ว่าจะเกิดมา แล้วมามีปัญหานั้นๆ เช่น มาติดยาเสพติด มามีปัญหาเรื่องความโกรธ ฯลฯ ก็เพื่อที่จะหาทางเอาชนะมันให้ได้ ดังนั้น ปัญหาต่างๆที่มี บางกรณี ก็คือสิ่งที่คนผู้นั้นเองหนะแหละได้เลือกไว้แล้ว ว่าจะมาเรียนบทเรียนนั้นๆ - ผู้แปล)

    เพราะว่าถ้ามีแต่บทเรียนชีวิตที่ง่ายๆแต่เพียงอย่างเดียว พวกคุณก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรที่มีความจำเป็นเลย การเพียงแต่เปลี่ยนทัศนคติของตัวเอง ให้เป็นทัศนคติในแง่บวกแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อคุณกำลังเผชิญหน้ากับบทเรียนชีวิตที่ทำให้คุณต้องตกอยู่ในสภาวะหดหู่และซึมเซานั้น ยังไม่เป็นการเพียงพอ เพราะว่าลำพังการคิดบวกเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะกำจัดต้นตอของปัญหาให้หมดไปได้ แต่การมีสนามพลังออร่าที่แข็งแรงสมบูรณ์ จะช่วยให้คุณสามารถเอาชนะปัญหาและอุปสรรคไปได้ และในบางกรณี สนามพลังออร่าก็จะไม่มีวันแข็งแรงสมบูรณ์ได้เลย ถ้าปัญหาเรื้อรังนั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข

    เพราะว่ามันช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกันอยู่ (ขอแนะนำให้ใช้วิธีการบำบัดแบบ Mickel Therapy เพราะจะช่วยให้ปัญหาที่ทำให้เกิดความผิดปกติด้านพลังงานหายไปได้) มีพวกคุณบางคน ที่อยู่ในสภาวะที่อาจจะเรียกว่า “ปลอดกรรม” แล้ว แต่พวกคุณส่วนใหญ่ก็ยังคงมีบทเรียนแห่งกรรมให้ต้องเรียนรู้ และฝ่าฟันกันอยู่ต่อไป ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด ที่จะช่วยให้พวกคุณสามารถเรียนจบหลักสูตรของบทเรียนเหล่านี้ได้ และช่วยให้สามารถเผชิญหน้ากับมันได้ รวมถึงจะช่วยให้สามารถกำจัดพลังงานที่ตกค้างอยู่ ของอุปสรรคเหล่านั้น ออกไปให้หมดได้ ซึ่งการบำรุงรักษาสนามพลังออร่าให้แข็งแรง คือกุญแจสำคัญของทั้งหมดที่กล่าวมานี้

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...องออร่า-จากคลื่นรบกวน-การบิน-และอื่นๆ.287075/
     
  6. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ... ท่านทั้งหลาย

    ข้าพเจ้าขอน้อมในองค์คุณแห่งมหาบารมี องค์คุณแห่งพระพุทธะ องค์คุณแห่งพระมหาพุทธะ ทรงเป็นประธาน

    ขออวยพรให้ท่านทั้งหลาย

    ทุกชีวิตจิตวิญญาณ

    บุพการีทั้งหลาย

    ผู้มีพระคุณทั้งหลาย

    ตลอดจนถึง

    เจ้ากรรมนายเวร

    ทั้งหมด ทั้งสิ้น

    ในโลกธาตุนี้

    ในสังสารวัฏนี้

    จะเป็นมนุษย์ก็ตาม

    หรือเป็นอมนุษย์ก็ตาม

    ได้มีส่วนในการที่ข้าพเจ้าได้ร่วมถวายสังฆทานและมหาสังฏทาน ในทุกครั้ง ทุกคราไป

    และสิ่งใด ใดก็ตาม

    ที่ข้าพเจ้าได้ให้ ได้เสียสละ ได้เกื้อกูลต่อสังสารวัฏนี้

    ที่มีส่วนตรงต่อเนื้อหาแห่งพระสัจธรรม ก็ขอให้ได้มีส่วนนี้โดยทั่วกัน

    และก็ขอให้มีส่วน

    ในการตรงต่อสัจธรรม

    ในการปล่อย การวาง

    ในตัวมันเอง

    ความสว่างไสว

    โดยนิพพานอยู่แล้ว

    จะมากก็ตาม

    จะน้อยก็ตาม

    ขอให้มีส่วนโดยทั่วกัน

    ในทุกหมู่ ทุกเหล่า

    ทุกชั้น ทุกภูมิ

    ไปตลอดกาลเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2012
  7. Vking

    Vking เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,555

    ขอนำคำกล่าวขอขมากรรม ขออโหสิกรรมและการประกาศสละการมุ่งหวังตั้งเอา

    โดยน้อมในพระมหาบารมีแห่งองค์คุณพระพุทธะ ทรงเป็นประธาน มาฝากค่ะ

    เพื่อการชำระ คลี่คลายวิบากกรรม ปลดล็อคกรรม เคลียร์ดวงจิตดวงใจให้ใสสว่าง




    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ

    ข้าพเจ้าทั้งหลาย ในทุกหมู่ทุกเหล่า ทุกชั้นทุกภูมิ
    ทุกดวงจิต ทุกดวงวิญญาณ

    ขอนอบน้อม
    กราบคารวะ

    ต่อองค์มหาบารมี
    แห่งองค์พุทธะ องค์มหาพุทธะ ทั้งหมดทั้งสิ้น
    องค์มหาบารมี ทั้งหมดทั้งมวล

    ขอทรงโปรดเป็นประธาน

    ในการประกาศสละ

    ของข้าพเจ้าทั้งหลาย

    ขอประกาศสละ
    ขอประกาศถอน

    การมุ่งหวังตั้งเอา
    และความหลงยึดติดทั้งหลาย
    ในรูปทั้งหลาย
    ในเสียงทั้งหลาย
    ในกลิ่นทั้งหลาย
    ในรสทั้งหลาย
    ในสัมผัสทั้งหลาย
    ในธรรมมารมย์ทั้งหลายทั้งปวง

    และขอสละ
    ขอถอดถอน

    ในความยึดติดทั้งหลาย
    ในวิชชาทั้งหลาย
    ในอวิชชาทั้งหลาย
    ในศาสตร์ทั้งหลายทั้งปวง
    ในการหลงปฏิบัติทั้งหลาย
    ในธาตุในขันธ์ทั้งหลาย
    ในรู้ในเห็นทั้งหลาย
    ในความนึกคิดปรุงแต่งทั้งหลาย
    ในสัญญาทั้งหลาย
    ในเวทนาอารมณ์ทั้งหลาย

    และข้าพเจ้าทั้งหลาย

    ขอประกาศสละ
    ขอถอน

    ความยึดติดทั้งหลาย
    ในมานะทั้งหลาย
    ในความเห็นแก่ตัวทั้งหลาย
    ในตบะ ฌาน ญาณ ทั้งหลาย

    ที่ได้หลงตั้งเอามา
    วกวนทั้งหมดทั้งสิ้น

    ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน
    ยังแช่อยู่
    ยังนอนเนืองอยู่
    ยังไม่สามารถจะเปิดกว้าง
    ตามเนื้อหาสัจธรรม
    ที่ปราศจากขอบเขต
    ในตัวมันเอง

    ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ขอประกาศสละ
    ขอประกาศถอน

    ในเกียรติยศชื่อเสียงทั้งหลาย
    ในลาภสักการะทั้งหลาย
    ในความอยากเป็น อยากมีทั้งหลาย
    อยากได้ทั้งหลาย
    ในสรรพสิ่งทั้งหลาย
    แม้แต่ในธรรมทั้งหลายทั้งปวง


    และน้อมกราบขอขมากรรม
    ในทุก ๆ กรณีกรรม

    ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ในทุกหมู่ทุกเหล่า
    ได้ประมาทพลาดพลั้ง
    เบียดเบียนทำร้ายทำลาย
    ล่วงเกิน ซึ่งกันและกัน
    เอารัดเอาเปรียบ ซึ่งกันและกัน
    กดขี่ข่มเหง ซึ่งกันและกัน


    และกรรมอันใด

    ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง
    จ้วงจาบล่วงเกิน
    ทำร้ายทำลาย
    ปฏิฆะ ปรามาส
    ต่อองค์คุณทั้งหลายทั้งปวง
    คุณบิดามารดา ทั้งหลาย

    ในทุกภพ ทุกชาติ
    ทุกกัลป์ ทุกกัป
    ทุกพุทธันดร

    คุณพระรัตนตรัย
    ผู้ทรงศีลทรงธรรมทั้งหลาย
    นักพรต ดาบส ทั้งหลาย
    ภิกษุสงฆ์ ทั้งหลาย
    สามเณร ทั้งหลาย
    ผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรม ทั้งหลาย

    และสิ่งใด
    ที่ได้ประมาทล่วงเกิน

    ต่ออริยะเจ้าทั้งหลาย
    ต่ออริยสงฆ์ทั้งหลาย
    ต่อพระอรหันต์ทั้งหลาย
    ต่อพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย

    ด้วยกายก็ตาม
    ด้วยวาจาก็ตาม
    ด้วยใจก็ตาม

    สิ่งที่ไม่เหมาะ ไม่ควร
    ทั้งหมด ทั้งสิ้น
    ที่มีแล้ว

    ต่อองค์มหาบารมี
    แห่งองค์พุทธะ
    องค์มหาพุทธะ
    องค์มหาโพธิสัตว์
    พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย
    วัดวาศาสนาทั้งหลาย


    ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    น้อมกราบขอขมากรรม
    ในกรรมทั้งหลาย ทั้งปวง
    ที่ไม่เหมาะ ไม่ควร
    ทั้งหมด ทั้งสิ้น

    ขอองค์มหาบารมี
    แห่งองค์พุทธะ
    องค์มหาพุทธะ

    ทรงโปรดเป็นประธาน

    ยกโทษ
    อโหสิกรรม ทั้งหลายทั้งปวง

    ให้แก่ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ในทุกหมู่ ทุกเหล่า
    ทุกชั้น ทุกภูมิ
    ทุกดวงจิต ทุกดวงวิญญาณ

    ขอให้กรรมทั้งหลาย
    พึงเป็นอโหสิกรรม
    แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย
    ตั้งแต่กาลบัดนี้เป็นต้นไปเทอญ…


    และขอให้กรรมทั้งหลายทั้งปวง

    ของข้าพเจ้าทั้งหลายและทุกหมู่ ทุกเหล่า

    ตลอดจนถึง เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย


    พึงเป็นอโหสิกรรมร่วมกัน

    ตั้งแต่กาลบัดนี้เป็นต้นไปเทอญ… สาธุ
     
  8. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    สาธุ... :cool::cool::cool:
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ย้อนเวลา ****

    กลับไปอ่าน "ความฝัน เทพสังหรณ์" ตั้งแต่ต้น จนจบ
    ท่านอาจจะพบสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเตรียมตัว-เตรียมใจ รับภัยจากการปรับสมดุลย์ธาตุในครั้งนี้ !!!

    ฮั้วโต๋ สมาชิก

    ...การเตรียมตัว-เตรียมใจรับภัยจากการปรับสมดุลย์ธาตุในครั้งนี้...

    1. มีห้องมิดชิด.อย่าให้มีแสงสว่างลอดเข้าในห้องได้.เสบียงอาหารเก็บในห้องนี้ด้วย...
    2. ข้าวของเครื่องใช้ น้ำดื่ม-น้ำใช้.เก็บในห้องเดียวกัน.
    3. รถ-ยานพาหนะ เก็บในห้องมิดชิดไม่ถูกแสงสว่างเช่นเดียวกัน...
    4. ไม่ออกไปภายนอก.เมื่อมีพลังงานลงมายังโลกมนุษย์ในปริมาณที่มาก.
    5. สวดมนต์ภาวนา.ปิดวาจาได้ยิ่งดี..

    เดี๋ยวอาจารย์แจ้งเตือนมาเป็นระยะ ๆ..

    ...จากคำเตือนเมื่อ 21-10-2555..มาจนถึงวันนี้..พลังทำลายถูกส่งลงมายังมนุษย์โลกเป็นระยะ ๆๆๆ.ต่อเนื่องกันมา.นับวันจะเพิ่มระดับและมีปริมาณมากขึ้น ๆ..มีความรุนแรงมากขึ้น.ทำให้เกิดมีอาการทางกายดังนี้.

    1. เวียนศีรษะ..หรือปวดขมับหรือปวดศีรษะข้างเดียว หรือปวดหน่วงที่ท้ายทอย.หรือปวดข้างใน เช่น กล้ามเนื้อหรือเหมือนปวดในกระดูก.
    2. คลื่นไส้ อาจมีอาการอาเจียน.
    3. เบื่ออาหาร.ทานอาหารไม่ค่อยได้.นอนไม่ค่อยหลับ.
    4. เป็นหวัดทั้งเรื้อรัง และไม่เรื้อรัง.
    5. ระบบทางเดินหายใจ.ภูมิแพ้.ไซนัสกำเริบ.
    6. ผดผื่นคันตามผิวหนัง...
    7. ตาพร่ามัว.น้ำตาไหลในบางครั้ง.แสบนัยน์ตา เคืองตา.คันรอบ ๆ ดวงตา.
    8. คล้าย ๆ ท้องเสีย.แต่เป็นไม่นาน.
    9. ใจสั่น.หงุดหงิดแบบหาสาเหตุไม่ได้ แถมนอนไม่หลับ..
    10. อ่อนเพลียเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม...
    11. ยังมีอีกหลายอาการ...

    ..เพราะเกิดจากผลของพลังทำลาย.ทำให้เกิดโรคระบาดตามมาอีกมาก....
    ..และในวันนี้ยังมีอีกหลายพื้นที่ หลายจังหวัดที่มีฝนตกหนัก..และในอีกหลายพื้นที่ ที่แห้งแล้งขาดน้ำ...

    ..ให้เตรียมตัวระวังให้มากที่สุดในช่วงที่"ปรับสมดุลย์ธาตุ"ในปี 2556 นี้.เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไปเป็นเวลา 45-90 วัน.เผลอ ๆ อาจลุกไม่ได้-ไปไม่เป็น-คลานเหมือนเด็กกัน..

    เจริญในธรรม มีพระพุทธเจ้าในจิตให้มาก ๆ

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ.294356/page-474

    ความสัมพันธ์ระหว่างสสาร - พลังงาน กับ กายหยาบ - กายละเอียด

    [​IMG]
    หลอดแกนพีระมิดฐาน 6 เหลี่ยม, 7 เหลี่ยม, 8 เหลี่ยม​

    สโตนเฮนจ์ อาจจะบอกความเป็นอนาคตหลายอย่างที่ยากต่อการเชื่อ ผู้เขียนได้นำมาบอกต่อตามที่พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณได้ใช้ “จิต” ไขปริศนาจากการจัดวางเสาหินเหล่านั้น อนาคตที่โหดร้ายต่อทุกชีวิตของแต่ละบุคคลที่มีความผูกพันอย่างเหนียวแน่น โยงใยเป็นเครือญาติ อาจจะต้องมีการพลัดพรากหรือตายจาก องค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ ท่านสอนให้อยู่กับปัจจุบัน อนาคตตามรูปแบบที่สโตนเฮนจ์บอกไว้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ สิ่งเหล่านั้นยังมาไม่ถึง หากจะเกิดจริง เรายังมีเวลาเตรียมตัวเพื่อผ่านจุดเปลี่ยนอีก 3 ปีเศษ แต่สิ่งที่มนุษย์ทุกคน ต้องเผชิญอยู่ทุกวัน

    เหมือนการตายผ่อนส่งจากการรับพลังงานแม่เหล็กโลกที่มีคุณสมบัติร้อนและหนักเข้าสู่ร่างกาย ถมเต็มเนื้อเยื่อ เซลล์ทุกวินาที ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายที่มนุษย์มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดน้อยลงจนถึงจุดเสื่อมถอย เยียวยารักษาได้ยากยิ่งขึ้น (ภูมิต้านทานร่างกายลดต่ำลงตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ. 2544 เป็นต้นมา) มนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่กำลังป่วยหนักจากวิกฤตพลังงานแม่เหล็กโลก มนุษย์จึงต้องป่วยตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลองถามตัวท่านเองดูว่าเคยมีอาการอย่างนี้และเคยได้รับฟังข่าวสุขภาพเช่นนี้บ้างไหม

    - รู้สึกหายใจได้ยาก หายใจได้ไม่อิ่ม หายใจได้แค่คอ หรือบางครั้งเหมือนหายใจไม่เข้า เหนื่อยง่าย
    - รู้สึกมึนและปวดศีรษะ น้ำตาไหลหรือตาฟางมองเห็นไม่ชัดโดยไม่ทราบสาเหตุ
    - รู้สึกหนักปวดเมื่อยทั่วตัว โดยเฉพาะที่ต้นคอ ไหล่ บั้นเอว จะลุก นั่ง ก้ม เงย เปลี่ยนอิริยาบถได้ลำบาก หรือมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงอย่างปัจจุบันทันที
    - กลางคืนนอนหลับได้ยาก ชอบตื่นกลางดึกและแทบไม่หลับอีกเลย
    - อยู่มาวันหนึ่งตรวจพบว่า มีอาการของเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ทั้งๆที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน
    - ทราบข่าวว่าคนที่รู้จัก เพื่อนฝูง ฯลฯ เป็นอัมพฤกษ์หรือเสียชีวิตแล้ว ทั้งๆที่เมื่อวานยังพูดคุยกันเป็นปกติ
    - ฟังข่าวบอกว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะมีสาเหตุมาจาก “การติดเชื้อในกระแสเลือด” หรือบางคนเป็นนักกีฬาร่างกายแข็งแรง อายยุยังน้อยแต่มีอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เสียชีวิตทันที
    - พบผู้ป่วยมะเร็งมีเพิ่มมากขึ้นและเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
    - เชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้กลายเป็นแชมป์ประจำปีไปเสียแล้ว

    ทุกอาการของโรคและทุกข่าวของการสูญชีวิตที่ได้ยิน ย่อมมีสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีของการรักษา องค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณใช้หลักของคลื่นพลังงานบำบัด เป็นทางเลือกของสุขภาพที่พึ่งตนเองสนับสนุนการใช้อาหารแทนยา และประเด็นสำคัญที่สุดคือ โรคภัยทุกชนิดมีสาเหตุเบื้องต้น สืบเนื่องมาจากพลังงานแม่เหล็กโลกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นองค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ จึงได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมบ้างเพื่อแก้ไขอาการและรับมือกับความใหม่และรุนแรงของโรคทุกโรคได้ทันท่วงที ด้วยการบำบัดรักษาทั้งสองส่วนควบคู่กันไปทั้งรูปหยาบและรูปละเอียด หรือทั้งกายสสารและกายพลังงาน

    องค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณให้อุบายของหลักวิปัสสนากรรมฐานด้วยการดูกฎไตรลักษณ์ ตัวแรกคือ ความเป็นอนิจจัง (ความไม่เที่ยง) ดูให้เห็นอาการเกิด-ดับ (ยืด-หด) และการกระทบ 2 ส่วน หรือการหมุนธรรมจักร (รับ-เหวี่ยง) เป็นปัจจุบันขณะ ทั้ง 2 อุบายนี้หากผู้ฝึกปฏิบัติทำได้ จะให้ประโยชน์ทั้งกายหยาบและกายละเอียด (กายสสารและกายพลังงาน) ยังความเป็นปกติสุขและมีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรงเนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา พลังงานภายในโลกยังคงสมดุลอยู่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสุดขั้ว

    เมื่อองค์ความรู้ฯ พัฒนาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นทางเลือกของสุขภาพจึงมีการใช้อุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิด เพิ่มขึ้นนอกเหนือไปจากการใช้พลังจิตเพียงอย่างเดียว พลังพีระมิดเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยดึงพลังงานละเอียด เช่น พลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุและธาตุว่างเข้าสู่ร่างกาย ทั้งทางลมหายใจเข้า (อากาศ) และน้ำดื่มพลังกระแสลมปราณ และพลังมโนธาตุ หากแต่วิกฤตพลังงานกลับทวีความรุนแรงขึ้น องค์ความรู้ฯ จึงพัฒนาต่อไปอีกเพื่อหาทางรับมือกับความรุนแรงของโรคทุกโรคได้ทันท่วงที ทั้งการป้องกันและบำบัดรักษาอย่างหวังผลได้จริงอย่างครบถ้วนทั้งรูปหยาบและรูปละเอียด หรือทั้งกายสสารและกายพลังงาน

    ท่านลองจินตนาการนึกถึงอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งให้เห็นเป็นวงกลม ซ้อนอยู่ด้วยกันถึง 4 วง ซึ่งหมายถึงเนื้อเยื่อเซลล์ที่ซ้อนเรียงลำดับจากชั้นในออกมา มี 4 ชั้น

    [​IMG]

    วงกลมที่ 1 เป็นวงกลมที่อยู่ลึกที่สุด มีขนาดเล็กมาก จนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เป็นจุดศูนย์กลางของเซลล์ ประกอบด้วยธาตุว่าง เรียกว่า นิวเคลียส
    วงกลมที่ 2 เป็นวงกลมที่อยู่ถัดออกมา มีลักษณะออกสีขาว เป็นส่วนประกอบของมโนธาตุ คือธาตุรู้ของใจ
    วงกลมที่ 3 เป็นวงกลมของเซลล์ชั้นกลาง มีลักษณะออกสีเหลือง เป็นส่วนประกอบของปราณหรือกระแสลมปราณ พลังแห่งชีวิต พลังของภูมิต้านทานร่างกายและยังเป็นพลังงานสำคัญทำให้เลือดไม่ข้น
    วงกลมที่ 4 เป็นวงกลมของเซลล์ขอบนอก มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ

    จากการจำแนกให้เห็นเซลล์ทั้ง 4 ชั้น ภายในร่างกายของมนุษย์จะพบว่ามีสิ่งที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้เพียง 1 ส่วน เพราะมองเห็นโครงสร้าง หรือ รูปเป็นชาย-หญิง โครงสร้างเหล่านั้นประกอบขึ้นจากการรวมตัวของสสาร เช่น ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ (ธาตุดิน คืออาหารหลากหลายที่นำเข้าสู่ร่างกาย โดยการบริโภคเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อ กระดูก เอ็น, ธาตุน้ำ ได้แก่น้ำที่ดื่ม เลือด น้ำเหลือง, ธาตุลม หมายถึงออกซิเจน ไนโตรเจนรวมทั้งคาร์บอนไดออกไซด์, ธาตุไฟคือความร้อนที่เกิดจากการเผาผลาญ อาหาร ตลอดจนความร้อนที่ได้รับจากดวงอาทิตย์) ที่เหลืออีก 3 ชั้นเซลล์เป็นพลังงาน ถ่ายทอดรูปแบบที่เหมือนกันจากวงกลมที่ใหญ่กว่าคือโลกหากเราผ่าโลกออกมาดู จะเห็นได้ตามลำดับดังนี้

    [​IMG]

    1. ชั้นใน เป็นมโนธาตุสีขาว
    2. เป็นปราณ สีเหลือง
    3. เป็นพลังงานแม่เหล็กโลก สีเทาออกดำ
    4. ชั้นนอกเป็นแผ่นดิน พื้นน้ำ อากาศ ป่าไม้สิ่งมีชีวิต ฯลฯ

    1, 2 และ 3 เป็นพลังงาน 4 เป็นสสาร

    แกนพลังงานโลกซ้อนอยู่ในแกนสสารโลกฉันใด กายพลังงาน(กายละเอียด) จึงซ้อนอยู่กับกายสสาร(กายหยาบ) เฉกเช่นเดียวกัน หากพื้นผิวโลกที่มนุษย์อาศัยอยู่กำลังจะวิบัติเพราะพลังงานให้โทษ มนุษย์จะดำรงชีวิตอยู่ได้ ต้องควานหาพลังงานที่ดีเนื่องจากอาหารละเอียด, อาหารพลังงานจะช่วยรักษา ฟื้นฟู และส่งเสริมสุขภาพได้ ทั้งกายสสารและกายพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม
    กายสสาร (กายหยาบ) เป็นกายที่ประกอบขึ้นด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ จึงต้องเลี้ยงดูด้วยอาหารบริโภคที่มีโครงสร้างด้วยธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เหมือนกัน

    มีการเสื่อมถอย ร่วงโรย ผุพัง ไปตามกาลเวลา อยู่ได้นานไม่เกิน 100 ปี กายพลังงาน (กายละเอียด) เป็นกายที่ซ้อนอยู่ในกายหยาบ ประกอบขึ้นด้วยพลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ จากแกนพลังงานโลก ซึ่งมนุษย์ทุกคนได้รับมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของแม่ เป็นพลังงานที่เชื่อมโยงกับกายหยาบเป็น “สายใยแห่งชีวิต” บุคคลที่เสียชีวิตแล้วหากยังดับกิเลสได้ไม่หมด สายใยแห่งชีวิตนี้จะทำงานร่วมกับกิเลสที่ยังเหลืออยู่นำไปสู่ภพภูมิใหม่ในสังสารวัฏ

    หนังสือ “ทางรอด” วิถีแห่งสุขภาพองค์รวมของคลื่นพลังงานบำบัด นั้นพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณได้นำเสนอสุขภาพทางเลือก โดยใช้อุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิดดึงพลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ผ่านทางอากาศคือการหายใจและน้ำดื่ม เช่นสร้อยพลังพีระมิด, กระป๋องยกอากาศ, เตียงพีระมิด, พัดลมพีระมิด, น้ำดื่มพลังปราณ-พลังมโนธาตุ ฯลฯ แต่เนื่องจากสิ่งที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของมนุษย์ มิได้มีเพียงแค่อากาศและน้ำเท่านั้น ยังต้องมีอาหารบริโภค และภาวการณ์ขาดพลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุมิได้เกิดขึ้นเฉพาะมนุษย์ หากแต่พืชและสัตว์ทุกชนิดต่างประสบปัญหาการขาดพลังงานละเอียดทั้งสองอย่างนี้อย่างเท่าเทียมกัน ทำให้พืช ผัก เนื้อสัตว์ ฯลฯ ที่เคยให้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน กลับด้อยคุณค่าลง

    “แสงสว่างที่ปลายทางรอด” วิถีแห่งสุขภาพองค์รวมของคลื่นพลังงานบำบัด ยังมีทางออกของสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของมนุษย์ให้ยืนยาวต่อไปได้ตามสมควร ตามสิทธิอันชอบธรรมที่ได้มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ในครั้งนี้องค์ความรู้ของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณ เป็นการใช้พลังพีระมิดดึงพลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุจากชั้นบรรยากาศแทรกลงไปในโมเลกุลของอาหาร เปลี่ยนสภาพจากโครงสร้างอาหารหยาบเป็นอาหารเสริมพลังงานที่อุดมไปด้วยพลังกระแสลมปราณ พลังมโนธาตุ ที่นอกจากช่วยบำรุงรักษากายละเอียดแล้ว ปริมาณอาหารเสริมพลังงานจำนวนน้อยยังให้คุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเดิมเป็นหลายเท่า เพียงพอกับความต้องการของกายหยาบในแต่ละวัน

    อุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิด

    ผู้เขียนตั้งใจจะถ่ายทอด องค์ความรู้ฯเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของพลังงานแม่เหล็กโลกอย่างเป็นขั้นเป็นตอนโดยละเอียด แต่เนื่องจากพลังงานแม่เหล็กโลกมีการผันแปรที่รวดเร็วจนเกินไป ทำให้องค์ความรู้ฯกลายเป็นอดีตได้ภายใน 3-5 วัน ผู้เขียนจึงขอกล่าวถึงแต่เพียงย่อๆ สำหรับภาวะปัจจุบันของแต่ละปัจจุบันของพลังงานแม่เหล็กโลก (และพลังพีระมิด) ผู้ฝึกปฏิบัติฯโปรดติดตามจากคำสอนของพระอาจารย์รัตน์ รตนญาโณด้วยตนเอง ต้องไม่ลืมว่าพลังงานแม่เหล็กโลกคือพลังงานที่หยิบยื่นความเป็นความตายให้กับมนุษย์ และพลังพีระมิดคืออุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตนอกเหนือไปจากพลังจิตและพลังบุญ

    การผันแปรของพลังงานแม่เหล็กโลก ในช่วง 6 เดือน

    7 เมษายน พ.ศ. 2552 พลังงานอัดหนาแน่นมากจนทำให้เกิดสภาพนิ่ง และจุดที่นิ่งเป็นจุดแรกตามเส้นรุ้งเส้นแวงคือประเทศเม็กซิโก เมื่อสภาพนิ่งเกิดขึ้น เชื้อโรคเก่าๆที่เคยหมดพิษสงหรือมีความรุนแรงน้อยในอดีตจะย้อนกลับคืนมาและรักษาได้ยากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะโรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย
    ภาวะแน่น หายใจได้ยากยังคงทวีขึ้นทุกวัน นอกเสียจากมีแผ่นดินไหว เกิดขึ้นบ้าง ณ จุดหนึ่งจุดใดของโลกจึงจะรู้สึกว่าภาวะแน่นค่อยคลายลง หายใจได้โล่งลึก ไปอีกสัก 1-3 วัน อนึ่ง การจะรู้สึก สัมผัสได้ว่า ลมหายใจของตนเองเป็นอย่างไร ผู้ฝึกปฏิบัติต้องใส่สร้อยพลังพีระมิดจึงจะสามารถรับรู้ได้

    ตามปกติพลังงานแม่เหล็กโลกจะเคลื่อนที่เร็วกว่าแสงของดวงอาทิตย์ แต่ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา ปรากฏว่า พลังงานแม่เหล็กโลกเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่เท่ากันกับแสงของดวงอาทิตย์เกิดการเสียดสีกันระหว่างพลังงานทั้งสอง เกิดความร้อนเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งมีแสง ปรากฏ “วาบ” ออกมา เป็นสาเหตุทำให้เกิดการ “ช๊อต” หรือ “สปาร์ค” (Shot, Spark) ขึ้น ทั้งในชั้นบรรยากาศและเซลล์ของมนุษย์หากการช๊อตเกิดขึ้นในชั้นบรรยากาศ จะทำให้เชื้อโรคหลายชนิดถูกพลังงานความร้อนช๊อตจนกลายเป็นธาตุดับ ทำให้การรักษาทำได้ยากยิ่งขึ้น และถ้าการช๊อตเกิดขึ้นในเซลล์ร่างกายจะเพิ่มอัตราความผิดปกติของเซลล์อย่างรวดเร็ว ผลคือมีผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้น

    ประมาณกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2552 เชื้อไวรัส 2009 ได้แพร่ระบาดมาถึงประเทศไทย และเชื้อไวรัส 2009 นี้ จะอยู่คู่กับโลกไปอีกนานประมาณ 3 ปีเศษ และพัฒนาความรุนแรงคล้อยตามพลังงานแม่เหล็กโลกเสมอ

    1 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้นจนทำให้รูจมูกข้างขวาตัน (ไม่มีลมหายใจเข้าที่รูจมูกข้างขวา จะสัมผัสได้เมื่อมีพลังพีระมิดติดตัว)
    2 สิงหาคม พ.ศ. 2552 รูจมูกข้างซ้ายตัน ผู้ฝึกปฏิบัติฯลองตรวจเช็คได้ด้วยตนเองว่า ไม่มีลมหายใจเข้าทางรูจมูกทั้งสองข้างแล้วจริงๆ (จะสัมผัสได้เมื่อมีพลังพีระมิดติดตัว)

    อุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิด ที่ลูกศิษย์ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีทั้งสิ่งที่เหมือนเดิมและแตกต่างไปจากหนังสือ“ทางรอด”

    สิ่งที่เหมือนเดิม ได้แก่หลักการและเหตุผลของการนำพลังพีระมิดมาประยุกต์ใช้, อุปกรณ์ยังคงมีหลอดแกนพีระมิด , กระป๋องยกอากาศ ,แถบพลังพีระมิด ฯลฯ

    สิ่งที่แตกต่าง คือ ก้อนพีระมิด จะเป็นชนิด เจาะ 2 รูทะลุถึงกัน เพื่อเร่งการปลดปล่อยพลังงานแม่เหล็กโลกและมลภาวะให้พ้นออกไปจากร่างกายอย่างรวดเร็ว, หลอดแกนพีระมิด พัฒนามาเป็นสร้อยพลังพีระมิด ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนวิธีการจัดวางก้อนพีระมิดอยู่บ่อยๆเพื่อประโยชน์ที่สำคัญคือ ช่วยให้หายใจได้สะดวก ปัจจุบันมีลักษณะแบบใด โปรดดูของจริงได้จากงานฝึกอบรมฯ, วิธีจัดวางแถบแกนพีระมิดในปัจจุบันนี้ จะวางอยู่ในแนวทิศตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตกเฉียงใต้ หรือแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานแม่เหล็กโลกเสมอ

    สิ่งเตือนใจ โปรดอย่าหงุดหงิดรำคาญใจ เมื่อต้องปรับเปลี่ยนสร้อยพลังพีระมิด หรืออุปกรณ์ประกอบพลังพีระมิดอื่นๆ เพราะคุณยังโชคดีที่ยังมีโอกาสได้เปลี่ยนมาใช้ของใหม่

    ที่มา https://sites.google.com/site/ingdhamma/health12
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2012
  11. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    สวัสดีปีใหม่2556...และ แล้วก็ ถึง วัน อังคาร ที่1 มกราคม 2556 ขอให้ ทุกท่าน จง มีความสุขทุกท่านทุกคน..
     
  12. สัจจะวาจา

    สัจจะวาจา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +206
    เข้ามาขอบคุณและ โมทนา สาธุค่ะ ติดตามอ่านตลอด//\\^_^
    ปีใหม่ วันใหม่ เริ่มชีวิตใหม่ สุข สนุกสดใส สุขสำราญ เบิกบานใจ สวัสดีปีใหม่2556ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      161.3 KB
      เปิดดู:
      32
  13. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    หวัดดีปีใหม่ครับ ^_^
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    สวัสดีปีใหม่ สุข สดชื่นแจ่มใสนะคะ
     
  15. thol

    thol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    257
    ค่าพลัง:
    +837
    สวัสดีปีใหม่ครับขอให้มีความสุขกันทุกๆคนครับ
     
  16. Parman68

    Parman68 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +369
    สวัสดีปีใหม่ ขอให้สมาชิกบอร์ดพลังจิตทุกท่านมีความสุขตลอดปี 2556
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภัยถึงนกก่อนมาถึงคน !!!

    somdul สมาชิก

    แรงกดของจักรวาลเพิ่มมากขึ้น

    นกจะบอกเหตุร้ายของโลกและจักรวาลคราวนี้ก่อนมาถึงคน ที่ลูกศิษย์พระอาจารย์รัตน์ที่สวนบรูณะรักษ์ธรรมได้ส่งข่าวมาให้ทราบก่อนหน้านี้ประมาณ 1 สัปดาห์

    สภาพการเปลี่ยนแปลงพลังงานของจักรวาล ระหว่างที่ศูนย์กลางของกาแลกซี่ทั้ง 3 อันโดรเมดา ทางช้างเผือก และไตรแองกุลัม กำลังเคลื่อนเข้าเรียงตัวเป็นเส้นตรงในวันที่ 3 ม.ค. 2556 โดยมีสุริยจักรวาลและโลก (ประเทศไทย) เป็นประเทศศูนย์กลาง อยู่กึ่งกลางของแนวเรียงตัวของกาแลกซี่ ที่ว่างในอวกาศจะค่อยๆอัดแน่นจนไม่มีที่ว่างเหลืออยู่ และนกจะได้รับผลกระทบดังกล่าวเป็นอันดับแรก เป็นสัญญานเตือนก่อนล่วงหน้า (ขอบารมีแสงทิพย์ของพระบรมธรรมบิดา จงบังเกิดปรากฏให้นกทุกตัวที่ต้องตายไปได้โมทนาบุญแสงทิพย์ ไปสู่มิติที่ดีสมปรารถนาทั่วกันทุกๆตัว)

    ส่วนวันที่ 3 ม.ค. ที่ท่านกล่าวว่า แรงโน้มถ่วงบนโลกจะเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่านั้น ต้องคอยดูกันไปจะเกิดขึ้นกับคนทั่วโลกหรือเฉพาะบางแห่ง หรือเฉพาะบางคน แบ่งเป็น 2 พวก พวกหนึ่งนอนราบกับพื้น อีกพวกหนึ่งยังเดินเหินได้ตามปกติตามกรรมหรือบุญอุ้มของตนๆ ที่หลวงตามหาบัว ท่านกล่าวไว้กับลูกศิษย์ ว่าคนไม่ดีมันตายหมด ส่วนคนมีบุญมันไม่ตาย อีกไม่นานคงได้พิสูจน์ผลที่หลวงตาได้กล่าวไว้นานแล้วนั้น

    สภาพพลังงานอัดแน่นไม่เหลือที่ว่างจะต่อเนื่องไปถึง 14 ก.พ. 56 ตรงกันกับพระธิเบตกล่าวเตือนเอาไว้ ท่านเรียกว่าเกิดภาวะ Zero band ผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ๆจะเกิดภาวะขาดแคลนพลังงานและน้ำดื่ม โดยท่านแนะนำให้ตระเตรียมไฟสำหรับหุงต้มอาหารที่สำรองไว้ล่วงหน้าสัก 2 เดือน ปลายเดือนมีนาคม พลังงานใหม่จึงจะค่อยๆฟื้นคืนกลับมาอีกคราว

    เสียใจด้วยกับนกทั้งหลาย ที่ไม่ผ่านไปสู่โลกพลังงานใหม่ เนื่องจากแรงยกที่ปีกมีไม่พอแก่การบินตามปกติ หรือความกดของกาแลกซี่ต่อสภาพแวดล้อมของโลกกำลังเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้มีเกิดเป็นบางจุดเช่น ฮอของกองทัพบกเสียไป 3 เครื่องที่ป่าแก่งกระจาน ที่มีสภาพแรงกดมากจนแรงยกที่ปีกหมุนมีไม่พอแก่การบินขึ้น หรือบินผ่านเข้าไปที่จุดนั้น ต่อไปเราอาจได้รับข่าวเครื่องบินขนาดต่างๆพบสภาพเช่นเดียวกับนกก็ได้

    01-01-2013, 02:52 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ประกาศ...ช่วงนี้จับตารอยเลื่อนสะแกงพม่า.51734/page-640
     
  18. pangbualun

    pangbualun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2010
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +285
    คิดว่าทุกคนบนโลกนี้..บางคน..บางที่..ดูที่พอจ.พูด ไว้ เหมือนกับทุกคนใน42วัน พรุ่งนี้ วันที่3มค.แล้ว..คอย ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ตามที่พอจ.ว่าไว้หรือไม่
     
  19. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    พักนี้มีเครื่องบินร่วงบ่อย ต้องโดนอะไรซักอย่างเเน่ๆ
     
  20. โชตนา

    โชตนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +773
    ไปวัดสวดมนต์ข้ามคืนมา ท่านว่า วันนี้น่าจะเป็นวันที่โลกมืด 7วัน 7 คืนนะ จะได้สวดมนต์กันไม่หยุดทั้ง 7 วัน เรื่องเชื้อโรคที่ระบาดเป็นการทำสงครามกับภพภูมิของสัตว์เดรัจฉานของคน เช่น หมู ไก่ กินเป็นอาหาร เค้าก็เกิดเป็นเชื้อโรคมาทำลายเรา ปีใหม่ คนที่อยู่ในศาลานี้บางคนจะป่วยหนัก คงเป็นเรื่องที่หลายท่านในเวปนี้เตือน ท่านว่าพายุสุริยะกำลังเล่นงานโลก จะเอาอะไรไปสู้กับมัน นอกจากสวดมนต์ เพราะเป็นต้นเหตุของการทำสมาธิ การทรงสมาธิมีคุณมาก ท่านเทียบ พระอนิรุทธ (ตั้งใจไม่นอนตลอดชีวิตมีตาทิพย์)กับ พระจักษุบาล ( ตั้งใจไม่นอน กี่ปีจำไม่ได้ ต้องนอนหยอดตา ท่านไม่ยอมนอน สุดท้ายตาบอด ) ท่านเป็นอรหันต์เหมือนกัน แต่ต่างกันที่ท่านหนึ่งทรงสมาธิได้ตาทิพย์ อีกท่านไม่มี
    ท่านว่าถึงเรื่องไม่ดีของโทรศัพท์ ( การใช้งานมากๆคงไม่ดีจริงๆ ผลกระทบจากคลื่นต่างๆ)
    ท่านให้ออกกำลังกาย สวดมนต์ สมาทานทำความดีเรื่องใดก็ได้ ตลอดปีนี้แล้วตั้งใจมั่นรักษาให้ได้
    ที่ว่าวงกลมที่ 3 เป็นวงกลมของเซลล์ชั้นกลาง มีลักษณะออกสีเหลือง เป็นส่วนประกอบของปราณหรือกระแสลมปราณ พลังแห่งชีวิต พลังของภูมิต้านทานร่างกายและยังเป็นพลังงานสำคัญทำให้เลือดไม่ข้น ใช่เลย ที่ผ่านมาเลือดข้นไม่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆทำให้เกิดโรค คือ ชาตัวคล้ายอัมพฤต ตอนนอน (ตื่นนอนได้เคลื่อนไหวจะหาย) มึนหัว เพราะเลือดหนืดไปเลี้ยงส่วนต่างๆไม่พอ หิวน้ำมาก ธาตุน้ำขาด ท้องอืด ธาตุลมมากไป ต้องออกกำลังเพิ่มธาตุไฟ แค่ช่วงปรับแรกๆก็จะไม่ผ่านเสียแล้ว ลองหาสมุนไพรช่วยปรับธาตุให้สมดุลมาช่วยก็ดี
    ส่วน ดร. วรภัทร ภู่เจริญ จากนาซ่า ท่านพูดเหมือนที่อ่านในเวปนี้ เรื่องให้หนีจาก กทม. ดินมีปัญหา ให้ทำการเกษตร ตามในหลวงเท่านั้นที่อยู่รอด เมืองไทยอนาคตเป็นศูนยฺ์กลางโลก อย่าไปสนใจวัฒนธรรมตะวันตกมากเราจะนำเค้า ให้เน้นวิถีชีวิตของเรา พูดเรื่องการทำใจจากนี้ไปจะเห็นคนตายจำนวนมากๆ
    อ่านแล้วหลายเรื่องตรงกับที่เวปนี้บอกมาก ใกล้เวลาแล้ว แต่หนีไปไหนไม่ได้
    ท่านว่า ใครที่กินเงินเดือนเค้าอยู่ให้ทำหน้าที่ของตัว
    ปืรามิด พระอาจารย์รัตน์ก็ไม่มี ต้องเร่งสมาธิคุ้มภัยตัวเอง แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...