ประเทศจีนคนนับถือพุทธมากที่สุดในโลก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการจัยในชื่อ “ภูมิทัศน์ในการนับถือศาสนาของคนทั่ว โลก” โดย “พิว” (The Pew Forum on Religion & Public Life) รวบรวมข้อมูลจากสถิติในปี พ.ศ.2553 พบว่า ประชากรโลกที่ระบุว่าตัวเองเป็นคน “ไร้ศาสนา” หรือ “ไม่ผูกพันกับศาสนาใด” มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนติดอันดับ 3 ในขณะที่ศาสนาอิสลามและฮินดูมีแนวโน้มว่าคนจะนับถือมากที่สุดในโลก ส่วนศาสนายิวเป็นศาสนาที่มีแนวโน้มลดลงมากที่สุด




รายงานวิจัย ระบุว่า ประชากรโลกว่า ร้อยละ 84 หรือประมาณ 6.9 ล้านคน ระบุว่าตนเองเป็นผู้นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง สำหรับศาสนาที่มีผู้นับถือมากที่สุดคือศาสนาคริสต์ โดยมีประชากรผู้นับถือกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของโลก

นายคอนราด แฮ็กเกตต์ นักวิเคราะห์สถิติประชากร กล่าวว่า จากการสำรวจสำมะโนประชากรตัวอย่างพบ ว่า ค่ากลางอายุของผู้ที่ระบุตัวเองว่าเป็นมุสลิมอยู่ที่อายุ 23 ปี เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของประชากรทั้งโลกที่อายุ 28 ปี จากข้อมูลจึงมีแนวโน้มว่าจะมีผู้นับถือศาสนาอิสลามเพิ่มขึ้นในอนาคต ขณะที่ศาสนายูดาย ค่ากลางอายุของผู้ที่นับถือศาสนานี้อยู่ที่ 36 ปี ขณะที่มีผู้นับถือศาสนานี้อยู่แค่เพียงแค่ 14 ล้านคนทั่วโลก หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 จึงมีแนวโน้มว่าจะมีผู้นับถือศาสนานี้น้อยลง สำหรับ 7 อันดับ กลุ่มศาสนาความเชื่อที่มีผู้นับถืออยู่ในปัจจุบัน ได้แก่



อันดับ 1 ศาสนาคริสต์ มีผู้นับถืออยู่ทั่วโลกสูงถึง 2.2 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 31.5 ของประชากรโลก แบ่งเป็ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกประมาณร้อยละ 50 นิกายโปรแตสแตนท์ นิกายแองกลิคัน และนิกายกรีกออร์โธดอกซ์ รวมกันร้อยละ 37 ส่วนนิกายออร์โธดอกซ์ รวมกันร้อยละ 12



อันดับ 2 ศาสนาอิสลาม สำหรับประชากรชาวมุสลิมทั่วโลกขณะนี้มีอยู่ประมาณ 1.6 พันล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 23 ของประชากรโลก ซึ่งคิดเป็นศาสนาอิสลามนิกายซุนนีย์ถึงร้อยละ 87 ถึง 90 ส่วนมุสลิมชีอะฮ์ คิดเป็นร้อยละ 10 ถึง 13



อันดับ 3 สำหรับผู้ที่ระบุว่าไร้ศาสนา หมายถึง ผู้ที่แสดงตนว่าไม่ได้นับถือศาสนาใด ๆ เลย เช่น ผู้ที่ปฏิเสธการมีพระเจ้า หรือไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง หรือผู้ที่มีศรัทธาในจิตวิญญาณซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับศาสนาใด มีจำนวน 1.1 พันล้านคนทั่วโลก และกว่า 700 ล้านคนในจำนวนนี้ หรือคิดเป็นร้อยละ 62 อาศัยอยู่ในประเทศจีน ซึ่งจำนวนดังกล่าวนี้คิดเป็น 52.2 เปอร์เซ็นต์ของชาวจีนทั้งประเทศ รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น โดยมากกว่า 72 ล้านคน หรือคิดเป็น ร้อยละ 57 ของประชากรทั่วโลก อันดับ 3 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 51 ล้านคน คิดเป็นร้อละ 16.4 ของชาวอเมริกันทั้งประเทศ


อันดับ 4 ศาสนาฮินดู เป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือกระจุกอยู่เพียงในอินเดียมากที่สุดในโลก ถึงร้อยละ 94 ผู้คนที่นับถือศาสนาฮินดูมีอยู่มากในประเทศอินเดีย เนปาล และบังคลาเทศ



อันดับ 5 ศาสนาพุทธ ครึ่งหนึ่งพุทธศาสนิกชนทั่วโลกอาศัยอยู่ในประเทศจีน รองลงมาคือประเทศไทย ร้อยละ 13.2 และอันดับ 3 คือที่ญี่ปุ่น ร้อยละ 9.4%



อันดับ 6 กลุ่มศาสนาเล็ก ๆ เช่น บาไฮ ลัทธิเต๋า เจนไน ชินโต ซิกข์ เทนริเคียว วิคคา และโซโรอัสเตอร์ มีผู้นับถือรวมกันประมาณเกือบร้อละ 1 หรือ 58 ล้านคนทั่วโลก ส่วนมากอยู่ในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิค



อันดับ 7 กลุ่มผู้ที่นับถือธรรมชาติ กราบไหว้ภูติผีและเทพเจ้าอื่น ๆ ตามความเชื่อของบรรพบุรุษ มีประมาณ 405 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของประชากรทั้งโลก โดยส่วนใหญ่พบในทวีปแอฟริกา ประเทศจีน หรือชาวอินเดียนแดง และอะบอริจิ้น




อันดับ 8 ศาสนายิว มีผู้นับถือศาสนานี้ในประเทศอิสราเอล โดยคิดเป็นร้อยละ 40.5 ของชาวยิวทั่วโลก ส่วนชาวยิวในประเทศสหรัฐฯ มีอยู่ถึงร้อยละ 41.1

 

ถ้าเราสามารถช่วงชิงตลาด 1.1 พันล้านคนทั่วโลก มาสัก 10 เปอร์เซนต์
ก็ไม่ใช่น้อยเลยนะครับ


การตลาดส่วนนี้ เราต้องไม่ไปเล่าพวกอภินิหารต่างๆ
เดิน7ก้าวอะไรนี่ เป็นต้น
ยิ่งไปทางนั้นเขายิ่งแอนตี้ในใจแต่แรก
ต้องมาทางปรัชญาเข้าว่าครับ อย่างแนวท่านพุทธทาส
ชวนมาทำสมาธิลดความเครียดด้วย
ก็จะค่อยๆโนมน้าวพวกเขามาได้
ถ้าเทียบจุดขายนี้เราเป็นแต้มต่อพวกที่
เป็นลัทธิเทวนิยมที่มีแต่สวดขอและอ้อนวอนอยู่แล้น

ต้องมีผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลอย่างผู้ที่เผยแผ่ศาสนาคริสต์
ที่ส่งมิชชั่นนารีไปทั่วโลก เราส่งพระธรรมฑูตไปได้ผลเหมือนกัน
แต่วงก็ยังจำกัด เพราะยังถูกมองเป็นศาสนาอยู่
ต้องส่งธรรมฑูตฆราวาสครับ ไปช่วยเขาพัฒนา ส่งหมอไปรักษาเขา
ถ้าเราเอาแต่ hard sell มันไม่ได้หรอกครับ
เราต้องใช้แบบ Corporate Ad ครับ




จากนั้นเขาก็สร้างเทศกาลคริสมาสขึ้นมา---จริงๆพระเยซูประสูติตอนหน้าีร้อนนะครับ
แต่เพราะ 25 ธันวาคม มันห่างปีใหม่แค่อาทิตย์เดียว เลยตั้งเสียวันนั้นเพื่อหยุดยาวได้

ทีนี้เทศกาลคริสมาสก็ไปทั่วโลกเลยเห็นม่ะ แม้แต่ประเทศไทยที่บอกศาสนาพุทธเป็น
ศาสนาประจำชาติ เรายังเออออห่อหมกไปกับเขา
นั่นเขาทำการตลาดสำเร็จ

เขาขายคริสมาสได้ เขาทำการตลาดคริสมาสได้ สินค้าต่างๆการ์ดต่างๆในเทศกาลนี้
เงินหมุนเวียนไม่น้อย

เหมือนอย่างพวกเกาหลีสร้างแดจังกึมมา คราวนี้ร้านอาหารเกาหลีนิยมกันใหญ่เห็นม่ะ

--------------------------------------------------------------
ไปปั่นจักรยานแล้วนะครับ บ๊ายบาย

 

คิดดีครับ แต่สำคัญที่วิธีการเผยแพร่ด้วย ถ้าไปเผยแพร่โดยบิดเบือนคำสอน อย่างที่บางสำนักทำกันอยู่ในประเทศไทย คือเน้นปริมาณ ไม่เน้นคุณภาพ ถึงจะได้ 1.1 พันล้านคนนั้นมา แต่เชื่อเถอะครับ ว่าศาสนาพุทธไม่ได้เจริญรุ่งเรืองขึ้น แต่กลับเสื่อมลงซะอีก

กับการที่เราไปเผยแพร่ศาสนาพุทธอย่างถูกต้อง แก่คนทั้ง 1.1 พันล้านคน โดยไม่บิดเบือน เพราะศาสนาพุทธเป็นปรมัธสัจจะไปแล้ว พ้นจากสภาวะสัจจะทั้งปวง ไม่ต้องไปคิดให้เป็นปรัชญา

และถ้ามีคนศรัทธาที่มีความเห็นถูกต้อง เห็นตรง ในคำสอนของศาสนาพระบรมศาสดา เพิ่มขึ้นมาซัก 1,100 คน คิดเป็น 1/1,000,000 ผมว่าจะส่งผลดีต่อศาสนามากกว่าในกรณีแรกอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย

 

เห็นด้วยกับคุณ jt ครับ

เราจะเอาไปทำไม พันล้าน เอามาทำไมเรามีอะไรได้เสียกับเขาเหรอ เราจะเอาอะไรกับเขาเหรอ มีคนมากแล้วคนไทยจะได้อะไร พระพทุธเจ้าจะได้มีคนเชียร์เยอะๆเหรอ

ต่อให้ทั้งโลกมีพระอรหันต์อยู่องค์เดียวกับพุทธศาสนิกชนแค่สองคน ยังดีกว่ามีอลัชชีร้อยล้าน แสนล้าน เรื่องบอกว่าพระสมณทูตไทยสอนเรื่องไม่เข้ากับชาวตะวันตก ตะวันตกเลยไม่เชื่อ ผมว่าคงไม่นะ ที่ไม่เชื่อเพราะมันเป็นธรรมดาจิตคนมันแล้วแต่สติปัญญา เราจะสอนให้คนรู้ความจริง หรือว่าสอนให้คนมานับถือกันแน่ พระพุทธเจ้าสอนยังไงก็สอนยังงั้นแหละดี

ถ้าไปปรับคำสอนให้เข้ากับโลกตามใจตน ไม่สอนความจริงแล้วพระพุทธศาสนาจะเหลืออะไรดี

คุณstabilo จะประชดหรืออะไรไม่รู้แต่ว่า ความเห็็นที่แสดงออกมันไปในทางหลงผิดนะครับ เอาศาสนามาหากิน คนอื่นเขาจะทำอย่างไรก็ชั่งเขา เราทำของเราให้ดีก่อนดีกว่านะครับ

 

จะฝืนคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไปทำไมกันละครับ?...คัดค้านตรงไหนละ?
ก็ตรงที่ที่ว่า "ทุกสรรพสิ่ง มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และแล้วก็ ดับไป" ยังไงละ
การที่เราต้องการช่วงชิงมาสัก 10 เปอร์เซ็น เพื่อ....
1.อยากให้พุทธศาสนามีศาสนิกเพิ่มขึ้น ก็ฝืนหรือเยื้อการเกิดดับ
2.ต้องการเลื่อนอันดับศาสนาที่มีคนนับถือขึ้นไปอยู่ต้น ๆ ก็ฝืนการเกิดดับ หรือเพื่ออะไร?......
พระบรมศาสดาทรงพยากรณ์อายุพุทธศาสนานี้อยู่แค่ 5,000 ปี จะจริงเท็จยังไง เราก็ฟังเอาแค่นี้ไว้ก่อนครับ
พุทธศาสนานี้สำคัณตรงที่พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่พระธรรมคำสอน พระบรมศาสดาทรงเน้นตรง "คุณภาพ" มากกว่า "ปริมาณ" ครับ...แล้วเอาคำสอนตรงไหนเป็นตัววัดละ? "กาลามสูตร" ไงครับ จะเห็นได้ว่าถ้าเราศึกษาพระสูตรนี้จะเข้าใจได้ว่าพระบรมศาสดา "คัดกรอง กลั่นกรอง" บุคคลต่าง ๆ ได้แค่ไหน อย่างไร แค่พระสูตรนี้พระสูตรเดียวก็ "คัดคน" ออกไปตั้งมากมายนะครับ นี่ยกมาแค่พระสูตรเดียวนะครับ... เพราะฉะนั้นในความเห็นของผม
ปล่อยไปตาม "ธรรมชาติ" ดีกว่า ไม่ต้องไปแข่งขันแย่งชิงเพื่อต้องการ10เปอร์เซ้นที่ว่า กับศาสนาอื่นหรอกครับ พระพุทธศาสนาเดินทางผ่านกาลเวลามายาวนาน จาก "เกิดขึ้น" มาจนขณะนี้ก็ยังคง "ตั้งอยู่" แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ "ดับไป" (พระพุทธศาสนามีดีตรงนี้แหละครับ ตรงที่ไม่ฝืนธรรมชาติ ไม่ฝืนการเกิดดับ)
และแน่นอนที่ ทุก ๆ ศาสนาย่อมมีปัญหาเรื่อง "คุณภาพ" และ "ปริมาณ" เหมือน ๆ กัน (กฏธรรมดา)

 

พิว.....ผู้จัดทำสถิติไม่ทราบถึงความแตกต่างของผู้นับถือศาสนาพุทธ ครับ

เถรวาทและการปฏิบัติของบ้านเราแตกต่างจากประเทศอื่นๆค่อนข้างมาก

ทางจีน/ญี่ปุ่น นับถือกันแบบอัตตลักษณ์ไม่เข้าใจความหมายของพุทธะ มีจำนวนมากก็มากแค่จำนวน ผู้ปฏิบัติจริงตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มีน้อย

ส่วนประเทศอื่นๆข้างเคียงบ้านเราก็ผิดแผกกันไปอีกเช่น พระพม่าบิณฑบาตรได้ถึงเวลาเย็น พระศรีลังกาเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองอย่างเปิดเผย

ส่วนตัวต้องนับกันว่ามีผู้ปฏิบัติจริงๆเท่าไหร่ต่างหาก นับจำนวนผู้อริยะจ้า นับผู้สำเร็จเป็นอริยะบุคคล นับจำนวนผู้ปฏิบัติจริงตามพระธรรมคำสั่งสอน เหล่านี้เป็นเครื่องหมายของชาวพุทธที่แท้จริง ซึ่งจะนำพาให้พระพุทธศาสนาดำรงไปได้ถึง 5000 ปี