21/12/2012 วันสิ้นยุคของคนไร้ศีลธรรม

อ่านเป็นนิยายเรื่องนึงนะครับ^^

16/12/12 วันธรรมดาๆวันหนึ่ง ผู้คนกำลังตื่นเต้นกับผลสลากกินแบ่ง ทุกชีวิตกำลังดำเนินไปตามทางอย่างที่มันเคยเป็นมาตลอดหลายร้อยปี หลายคนไม่สนใจอะไร ทำงาน หาเงิน กลับบ้าน กินข้าว นอน

ไกลออกไปหลายพันล้านปีแสงตรงสู่แกนกลางของจักรวาลในเส้นเวลาสามมิติ ย้อนไปในวันที่ 23/11/12 เวลา 11.11ได้เกิดแรงระเบิดของพลังงานแสงขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อกำเนิดจักรวาลมา ลำแสงสีทองขนาดใหญ่กำลังวิ่งผ่านสนามพลังในดวงอาทิตย์ตามกาแลกซี่ต่างๆนับพันดวง พลังงานอันมหาศาลได้ถูกสะสมอยู่ในเส้นลำแสงนั้น ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าแสงปกติมากแต่ก็ยังช้ากว่าคลื่นจิต ด้วยระยะทางที่ผ่านมาเกินครึ่งทางแล้ว เป้าหมายปลายทางของลำแสงนี้คือ โลก

ย้อนกลับมาที่โลกอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการนับเวลาแบบสามมิติน้อยคนนักที่ได้รับรู้ว่ามันคือการนับถอยหลังสู่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านยุคของโลก เรื่องราวของภัยพิบัติทางธรรมชาติอันเลวร้ายจำเป็นจะต้องถูกลืมไปทั้งหมด มนุษย์ได้ก้าวผ่านการตัดสินใจในทางเลือกใหม่ พระแม่โลกคือสิ่งที่สวยงาม ธรรมชาติของเราเป็นสิ่งที่วิเศษสุดที่เคยมีมา มนุษย์มีความรักเป็นพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะมนุษย์ถือกำเนิดมาจากความรักและความรักนี้เองคือคำตอบของมนุษย์ พระแม่โลกจึงได้อยู่ในเส้นทางที่จะไม่ทำร้ายตนเอง แต่จะกำจัดพลังงานลบที่ฝังตัวอยู่บนโลกให้หมดสิ้นไป

ในทุกตำนานได้มีการกล่าวถึงช่วงเวลานี้ทั้งสิ้นและเป็นเรื่องที่สำคัญและยิ่งใหญ่ โบราณสถานหลายแห่งถูกสร้างไว้อย่างยิ่งใหญ่ในทั่วโลกเพื่อเป็นเครื่องรับและส่งสัญญาณรวมถึงคลื่นพลังงานอันมหาศาลด้วย ในวันที่ 6/12/12 พีระมิดที่กีซ่าได้ส่งสัญญาณสำคัญสุดท้ายกับระบบจักรวาลว่ามนุษยชาติพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

และแล้ว วันศุกร์ที่ 21/12/12 ก็มาถึงทุกสิ่งทุกอย่างในตอนเช้ายังคงเป็นปกติทุกคนยังเดินทางไปทำงาน ชงกาแฟ ตอกบัตร เริ่มงาน จนถึงเวลาเที่ยงๆ ทานข้าวกลางวัน หลายๆคนเริ่มเอาเรื่องวันสิ้นโลกมาพูดคุยกันอย่างขบขัน สนุกสนาน แถมยังแซวคนที่มีความเชื่อเรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องตลก แต่เมื่อทุกคนเริ่มกลับเข้าทำงาน หลายๆคนจะเริ่มมีอาการมึนหัว บางคนก็ว่ามึนแดด หายาทานตามปกติ หารู้ไม่ว่าวันนี้พระอาทิตย์ดวงเดิมของพวกคุณได้เปลี่ยนไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว ลำแสงที่ส่องลงมานั้นมีความเข้มที่เห็นตามปกติแต่พลังงานภายในนั้นคือพลังงานของพระอาทิตย์หลายพันดวงที่เจาะจงส่งมาถึงโลกโดยเฉพาะ พลังงานที่จะมีผลโดยตรงต่อผู้ที่ไร้ศีลธรรม มีพลังงานลบสะสมอยู่ในใจ จ้องเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ไร้ความเมตตา แต่สำหรับคนที่ดีมีศีลธรรม จะไม่รู้สึกอะไรเลยแถมจะรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย

ตกเย็นวันนั้นเหล่าคนไร้ศีลทั่วทุกมุมโลกย่อมออกไปหาความสุขใส่ตัวเป็นธรรมดาเพราะเป็นเย็นวันศุกร์ ทุกคนยังมีอาการมึนหัวกันอยู่แต่ก็คาดว่าไปเที่ยวสักหน่อยก็น่าจะดีขึ้น แต่เปล่าเลยอาการปวดหัวยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ความสนุกในวันนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยาก อาการนอนไม่หลับร้อนรุ่มแม้จะเปิดแอร์แรงสุดก็ตาม แม้ว่าจะกินยาหรือไปหาหมอก็ไม่สามารถรักษาให้หายได้ คลื่นพลังงานที่ส่งลงมาทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีมนุษย์คนไหนได้เจอกับสิ่งนี้มาก่อนมันคือคลื่นพลังงานที่คัดเลือกคนดีกับคนเลวออกจากกันอย่างเท่าเทียมและยุติธรรมที่สุด จนในที่สุดมนุษย์ไร้ศีลผู้นั้นก็ต้องจากโลกนี้ไปด้วยวิธีต่างๆหลายคนปวดหัวมากจากการปั่นป่วนของคลื่นอันทึบตันในสมองเขาได้คว้าปืนที่เก็บไว้ระเบิดสมองจบชีวิตตนเอง มนุษย์ไร้ศีลที่เห็นส่วนใหญ่เป็นคนที่มีหน้ามีตาในสังคม มีบ้านเรือนใหญ่โต ด้วยรายได้ที่มาจากการทุจริต ขูดรีดผู้คนหมู่มากให้ได้รับความทุกข์ทรมาน แต่ไม่ต้องกลัวที่คุณจะมีเพื่อนๆไร้ศีลธรรมร่วมทางกับคุณไปเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 24/12/12 จนมั่นใจได้ว่าได้มีการกวาดล้างได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

วันที่ 25/12/12 วันคริสต์มาสก็ได้ผ่านมาถึง พระแม่โลกรวมถึงระบบแห่งจักรวาลได้กวาดล้างพลังงานลบบนโลกออกไปจนหมดสิ้น สิ่งที่เหลืออยู่คือมนุษย์ผู้มีแต่ความรัก ความเมตตา มีศีลธรรม ทั้งสิ้น ทุกคนมีทางเลือกที่จะได้ทำความดีและนำแสงสว่างสู่จักรวาลต่อไป ในเวลานี้อารยะธรรมที่เคยหลบซ่อนอยู่ก็จะเปิดเผยตัวออกมาอย่างเป็นทางการให้ทุกคนได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด โลกได้เคลื่อนเข้าสู่มิติใหม่อย่างสวยสดงดงาม มนุษย์ได้ก้าวผ่านยุคมาได้ด้วยความเชื่อในการทำความดีมาตลอด กลุ่มมนุษย์ที่มีศีลธรรมจึงรวมเข้าสู่สมาพันธ์แห่งจักรวาลเป็นเผ่าพันธุ์สุดท้ายที่ 47 ต่อไป

หลังจากวันนั้นถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ของโลกยุคใหม่อย่างแท้จริง โลกยูโทเปียได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่ทำลายตนเองและสิ่งแวดล้อมที่มีการถ่ายถอดมาจากทุกอารยะธรรมที่เฝ้ารอคอยเราอยู่ ผู้คนมีแต่ความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะสามารถมีให้เห็นได้ในทุกที่ที่คุณเดินผ่านไป ทุกๆคนในสังคมมีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง พระแม่โลกได้กลับคืนสู่สภาวะที่สวยงามที่สุดเหมือนดั่งในยุคแอตแลนติสอีกครั้ง เหล่ามนุษย์ที่มีการพัฒนาทางจิตวิญญาณสูงสุดได้มีการเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อถ่ายทอดความรู้และวิทยาการอันสูงส่งแห่งการก้าวผ่านทวิภาวะบนพื้นโลกให้กับเผ่าพันธุ์อื่นสืบต่อไป ^^

 

เป็นเรื่องเล่าที่น่าสนใจมากๆ ผมยังหวั่นๆว่า วันศุกร์นี้จะกลับบ้านให้ถึงก่อนค่ำได้ยังไง ก็ระยะทาง สองร้อยกว่ากิโลเมตร

 

แสงสว่าง น้ำ อาหารแห้ง ดำเนินชีวิตปรกติมีสติรู้ตัวตลอดเวลา ควบคุมตัวเองให้ได้ถ้าเกิดขึ้นจริง ถ้าไม่เิกิดก็แสดงว่าพลังงานความเย็นยังเยอะอยู่บนโลกใบนี้ (ทำสมาธิและแผ่เมตตาไปสู่สรรพสัตว์ทั้งหลายบนโลกใบนี้)

ขอให้ทุกคนโชคดี และปลอดภัย.....

 

ขอให้จริงเหอะ
ผมจะรอดู
เพราะ
ผมเป็นคนดี

 

ว้าวโลกใหม่ในอุดมคติ

 

ถ้า 21/12/12 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็คงไม่ต้องเชื่ออะไรอีกต่อไป เรื่องราวนี้ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ตลอดชีวิตที่ผ่านมายังเฝ้ารอว่าจะเกิดอะไรขึ้นไหม วันนั้นจะเป็นยังไง มันทำให้ผมสิ้นศรัทธากับคำทำนายต่างๆ และทำให้ตัวผมรู้สึกว่ามนุษย์นี้แหละที่สามารถจัดการอะไรต่างๆได้ อนาคตนั้นคงไม่มีใครรู้จริง ผมว่ามาช่วยกันลดภาวะโลกร้อนกันดีกว่านะครับ

 

เ่อ่อออ... คือว่า พวกที่ไม่ตายก็ต้องมาคอยดูแลเก็บจัดการศพพวกที่ตายน่ะสิครับเนี่ย
ออกแนวๆ"ทุกขลาภ"เนอะ แต่ก็คงดีที่รอดไปสู่ยุคแห่งฟาร์มสุข

แล้วยังจะมีเวบโป็ หนังโป๊ดูอีกป่าวครับ คือว่า ถ้ากระผมชอบดู... แล้วกระผมจะรอดมั๊ย

แล้วก็... คนที่รอดจะมียานอวกาศใช้ด้วยใช่มั๊ยเนี่ย แหะๆ

คนตายเยอะๆ แล้วผีจะดุหรือเปล่า


สัตว์โลกที่กวนตีนและลามกแบบผมคงรอดยาก
คงนั่ง นอน ยืน เดิน คิดๆเครียดๆ ว่าตัวเองจะตายยังไงอีกหลายวันเลย ยังไงก็ฝากทำศพด้วยนะครับ

ใครกดไม่เห็นด้วย แสดงว่าอยากให้ผมรอด ขอบคุณล่วงหน้านะคร๊าบบบ จุ๊กกรู กิ๊วๆ

 

ผมคนเลว ไร้ศิลธรรม คงไม่รอดแน่แล้ว

 

ยังไงก็ต้องตายอยู่วันยังค่ำ
ตายก่อนก็หมดทุกข์
ถ้ายังไม่ตายก็ต้องดิ้นรนต่อไปสู้ต่อไป

 

จขกท...ไม่พูดถึงภัยธรรมชาติ แต่บอกว่าทำให้คนปวดหัวแล้วไปฆ่าตัวตาย

ตกลงฆ่าตัวตายกันเกือบหมดโลกเลยว่างั้นเหรอ

 

วิธีนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เริ่มเวียนหัวแล้วสิผม

 

มันก็ตรงกับเรื่องของศาสนาเหมือนกันนะครับ ตรงกันอย่างไร เคยได้ยินเรื่องสวรรค์ชั้นต่างๆใหมครับ ถ้าจำไม่ผิดในเรื่อง"โลกทิพย์"ที่เขียนโดยชาวต่างชาติ น่าจะชื่อแอนโทนี่ ฟอร์เทีย แล้วแปลโดยอาจารย์ศิริ พุทสุข ถ้าพิมพ์ชื่อผิดขออภัยด้วยครับ ก็ได้กล่าวไว้เหมือนกันว่าสวรรค์แต่ละชั้นนั้น ใครทำบุญมาได้แค่ใหนก็จะสามารถอยู่ได้เฉพาะชั้นนั้นๆไม่สามารถขึ้นไปชั้นที่สูงๆกว่าได้ นอกจากบางกรณีหรือได้รับอนุญาติเท่านั้น ด้วยมิติแห่งภพภมูิที่ปิดกั้นไว้ตามบุญกุศล ตามเหตุที่ตนสะสมไว้เท่านั้น อย่างมนุษย์จะขึ้นไปชั้นสวรรค์นานๆก็ไม่ได้ ต้องรีบกลับลงมาทั้งเรื่องเวลาที่ต่างกันก็ดี ทีนี้ลองเปรียบเทียบเรื่องที่เจ้าของกระทู้บรรยายให้อ่านกัน ก็จะเป็นแบบว่า พลังที่ส่งลงมาเป็นพลังงานที่สูง เทียบได้กับพลังมิติภพภมูิของสวรรค์เบื้องบนชั้นใดชั้นหนึ่ง หรืออาจจะเป็นพลังมิติที่ 5 อย่างที่เคยได้ยินกันมาแล้วก็ได้ว่า โลกเราจะเปลี่ยนไปจากมิติที่3 เป็นมิติที่ 5 ซึ่งเป็นมิติที่สูงกว่าแน่นอน แล้วด้วยเหตุนี้นี่เองกะมั้งครับ ใครคนใดที่มิได้เคยฝึกหรือทำจิตใจหรือจิตวิญญาณของตนให้สูงขึ้น ไม่เคยสะสมความดีงาม บุญกุศลทั้งหลายมาอย่างต่อเนื่อง ก็เท่ากับจะไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ได้ในพลังงานมิตินั้นที่กำลังจะมาถึง ตามที่เจ้าของกระทู้ได้กล่าวบรรยายไว้เหมือนนิยายที่อ่านกันนั้นแหละครับผม......ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมกันมากๆนะครับ....สาธุ....สาธุ

 

ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความคิดเห็น กับสิ่งที่เรียกว่า-นิยาย-เรื่องนี้นะครับ เรื่องนี้แต่งขึ้นจากการประมวลผลรวมกันจากหลากหลายข้อมูล รวมความเป็นไปได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ปัจจุบันและวิทยาศาสตร์ทางจิต กลุ่มของผมทำงานร่วมกันหลายคน ในกลุ่มมีหลายสาย แต่ละท่านจะมีความสามารถต่างกัน หลายท่านสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆโดยใช้จิต ซึ่งข้อมูลที่อยู่ในนิยายเรื่องนี้ก็ตรงกับข้อมูลที่หลายๆท่านได้รับเช่นกัน ซึ่งในที่สุดแล้วการทำความดี คิดแต่สิ่งที่ดี นั้นจะสร้างสนามพลังงานบวกคุ้มครองเจ้าของความคิดนั้น แนวคิดเรื่องภัยพิบัติจะต้องลืมไปทั้งหมด อารยะธรรมชั้นสูงที่มีความรู้สูงกว่าเรานั้นผมขอบอกทุกท่านเลยว่า จงเชื่อเถอะครับว่าพวกเขามีอยู่จริง พวกเขามาเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ ถ้ามนุษย์ไม่ยอมรับเราจะแทบไม่รอดกันเลย ผมมีสื่อสัมผัสกับพวกเขามาตั้งแต่เด็กๆ การเห็นจานบินหรือพวกเขาเองเป็นสิ่งที่ปกติมาก ระบบพลังงานของเขาส่วนตัวผมเองมีเก็บไว้กับตัวเลยเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นด้านพลังงาน ผมเขียนเรื่องแนวนี้มาตั้งแต่ 2006 ทุกครั้งผมจะออกตัวว่ามันเป็นนิยาย ไซไฟ เรื่องหนึ่งในนามแฝง vincent308 ทุกครั้ง แต่เบื้องหลังมันคือประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผมทั้งสิ้น สิ่งที่ผมเขียนลงไปเพียงแค่อยากจะบอกในสิ่งที่ผมรู้ให้ทุกคนได้รับรู้ อย่างน้อยก็อาจจะสร้างแนวคิดด้านบวกให้เพิ่มขึ้นให้กับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม นิยามยเรื่องนี้ผมอาจจะเขียนเป็นเรื่องสุดท้ายแล้ว เพราะผมรู้สึกว่า หมดแล้วหมดจริงๆ ไม่รู้จะเขียนอะไรออกมาอีกแล้ว มันเหมือนละครที่มีจุดเริ่ม มีจุดจบ ซึ่งในวันนั้น มันอาจจะเกิดอะไรขึ้น หรือไม่เกิดอะไรขึ้นก็ได้ตามทางเลือกที่ได้ถูกวางไว้ ทุกคนจะได้รับรู้พร้อมกันด้วยความเท่าเทียมจริงๆ ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ ขอความรักจงเผยแผ่ไปทั่วกาล vincent308

 

ไม่ทราบได้เขียนเรื่องการปรากฎ เทคโนโลยี บ้างหรือเปล่า หากมี ช่วยทบทวน...
มีเทคโนโลยี ใดบ้างปรากฎ ที่จำเป็น (ถ้ามี .... คงอ่านยาว) เอาสั้น ๆ


มีเทคโนโลยี ประเภท สร้างมนุษย์จำลอง(ร่างอมตะใหม่) เพื่อโยกย้ายกายธรรม (หลังจากพัฒนา กาย ขันธ์ ธาตุ สมบูรณ์บริบูรณ์ แล้วหรือ ไม่)

 

แวะเอารูปสวยๆมาฝาก เผื่อใช้ประกอบในเรื่องราวครับ















ที่มา ประมวลภาพ กรุงเทพ วันโลกาวินาศ 2012 วันโลกแตก

 

ผมว่าเหตุที่คนตายเยอะ ก็เพราะว่าเหตุการณ์มันเกิดแบบตูมเดียวแรงๆเลย ไม่ใช่ค่อยๆเกิดทีละนิด ดังนั้นคนที่เชื่อจึงรอดเพราะเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว(จำนวนน้อย) แต่คนไม่เชื่อ ก็จะไม่ทันตั้งตัว ทำใจยอมรับไม่ได้ คิดว่าเป็นความฝัน แล้วก็ไปฆ่าตัวตายเพื่อหนีปัญหา(จำนวนมาก)

ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้ทุกท่านตั้งสติ อยู่กับปัจจุบัน พยายามแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละอย่าง ที่สำคัญเอาชีวิตรอดไปให้ได้ครับ

ขอให้ทุกท่านโชดดี และปลอดภัยครับ

 

ท่านเจ้าของกระทู้ มีสิ่งใดก็ช่วยนำมาเผยแพร่เถิด
สมาชิกเวปแต่ละท่านมีภูมิจิต ภูมิธรรมต่างๆกัน
เรื่องราวที่เคยนำมาลงนานแล้ว เช่นเรื่องของผู้หญิงที่มีนามว่า ลูน่า
หลายอย่างก็ตรงกับที่ผมเองรู้ แต่เป็นปัจจัตตัง ไม่อาจเผยแพร่เป็นสาธารณะ
แม้แต่เรื่องพลังงานที่ใช้ในอนาคต(ชาร์ตด้วยแสงอาทิตย์ได้) ไม่รู้ยังพอจำได้หรือไม่
ครูบาอาจารย์ปัจจุบันของผมก็เล่าให้ฟัง ใครได้ครอบครองก็จะเป็นมหาอำนาจ(ผู้ถูกเลือก)
แต่เป็นเรื่องของอนาคตข้างหน้า ไม่แน่ว่าเราจะอยู่ทันหรือไม่
หลายอย่างไม่สามารถอ้างอิงด้วยหลักวิทยาศาสตร์ รู้ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ทางจิต
ปัจจุบันคนไม่ชอบค้นคว้าและพัฒนาทางจิต เขาหาเปิดตำราอ้างอิงสะดวกกว่า
....ขอบคุณอีกครั้งที่นำสิ่งมีประโยชน์มาเผยแพร่ แล้วแต่ใครจะมองเห็นและหยิบไปพิจารณา

 

21/12/2012 คนไร้ศีลธรรม จะยังคงอยู่ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น

 

ความฝันนี้ไม่รู้ว่าจะสอดคล้องกับกระทู้บ้างหรือเปล่า แต่อยากจะเล่าว่าเมื่อสองสามวันก่อนฝันว่า กดลิฟจะขึ้นลิฟชั้นที่จำได้ มีเลข 4 ตัว 223 ตัวแรกจำไม่ได้ พอลิฟมาถึงก็เข้าไปในลิฟมีแต่ผู้หญิงเข้าไปสัก 4-5 คน ตัวลิฟเหมือนเป็นโชฟาหวายวงกลมมีเบาะรองนั่งไม่เหมือนลิฟทั่วไปเหมือนเป็นกระเช้ามองเห็นวิวรอบๆตัวแต่ภายนอกมืดมากมองไม่เห็นอะไร ผู้หญิงคนหนึ่งจัดแจงที่นั่งให้นั่ง พอลิฟวิ่งขึ้นรู้สึกเสียวๆ แล้วก็ขนลุก เป็นคนสมาธิสั้นก็จำได้แค่นั้น

 

ดี น่ะ ที่ได้ฝันขึ้น