ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    วันนี้มาต่อกัน แต่ก่อนจะต่อ สรุปคร่าวๆ ก่อน

    มนุษย์มีหลายตัวตนในอดีต จะมาแวะเวียน และส่งพลังงาน มีทั้งดีและไม่ดี
    ทำให้ตัวตนหรือกายหยาบปัจจุบันมีสภาวะเปลี่ยนแปลง ทั้งขึ้นและ
    ลง ยกเว้นพวกที่มาใหม่ๆ (ตามภาระกิจที่ได้รับ การเปลี่ยนแปลงจะ
    มีน้อยมาก เพราะยังหลงหรือสร้างกรรมไม่ดี ยังน้อยอยู่ และแต่ส่วน
    ใหญ่ผู้มีภาระกิจจะมีกายทิพย์สีทองของพระผู้สร้างอยู่ จึงจะหลงไป
    ทำชั่วได้ยาก)

    ตัวตนในอดีต นี่คือเหตุที่ทำให้เหล่ามีอภิญญา ได้รู้อดีต หากมาน้อยก่จะ
    ระลึกอดีตได้น้อย หากมามากก่ จะระลึกอดีตได้มาก

    อย่างกรณีของ ท้าวสักกะ ก่ มีมาเกิดเหมือนกัน .... ตัวตนปัจจุบันไม่ใช่ท้าวสักกะ มาเกิด โดยมีท้าวสักกะ ตัวจริงคอยต่อเชื่อมอยู่เท่านั้น .....
    เมื่อมีท้าวสักกะ ต่อเชื่อมเป็น ตัวตนในอดีต (ขณะที่ทรงอยู่ในขันธ์เท่านั้น)
    ก่จะถือเสมอว่าเป็นท้าวสักกะ ก่ ได้ ...ใครมีอะไรมาต่อเชื่อม สามารถเป็น
    ตัวตนเหล่านั้นได้ .... เขาจะรู้สึกมีพลังงานชนิดเดียวกันมาหา
    (ตอนนั้นเขาไม่รู้ตน กลับด่าผมกลับมาอีก ว่าส่งพลังงานอะไรไปหาเขา
    หนอย... ตอนนั้นก่ไม่รู้เหมือนกันแต่ ก่ กล่าวบอกไปเป็นพลังงานของเขาเอง )

    ดังนั้นหากเป็นพลังงานของตนเอง เขาจะเข้าๆ ออกๆ ขันธ์ได้อย่างสบายหากไม่ใช่ ก่ จะชักดิ้นชักงอไป (สั่นๆ) พวกครอบร่างอยู่นอกขันธ์
    ปิดทางเข้าทางออก (เหมือนปิดทาง ช่อง remote ทีวี นั่นล่ะคล้ายกัน)

    พวกครอบร่าง เหล่า อมนุษย์ชั้นสูง ชอบทำก่เป็นแบบนี้ บังสัญญาณ แต่ส่งสัญญาณของตนมายังร่างแทน

    กายขันธ์ ก่ คล้ายกับที่บัญชาการ ร่างมนุษย์ (มีรหัสตรงก่ สามารถเข้าออกได้)

    สำหรับธาตุความดี คือ อะไร ธาตุความดี คือ มโนธาตุ
    มีบางคนว่าผม ใช้ ศัพท์ อะไรที่สูง และ เลียนแบบตำราไตรปิฏก
    ความจริงเป็นอย่างนี้ ก่ พูดไปตามที่ความจริงว่า สิ ....

    มโนธาตุ คือ ธาตุความดีในตัวมนุษย์ ธาตุเหล่านี้
    คืออีกกลุ่มหนึ่งที่มนุษย์ต้องเข้าถึงให้ได้ เพราะเป็น
    ธาตุที่ถูกกำหนดมาให้มนุษย์ เพราะเป็นพลังงานสำหรับตัวตนที่แท้ เพื่อพัฒนาไปเป็น กายธรรม ต่อไป
    จะมีสีขาว หรือ สีทอง
    สีทองสำหรับ มนุษย์ที่ถูกมอบภาระกิจ จากพระผู้สร้าง (มีเชื้อของท่านอยู่)
    เรียกว่ามีสถานะความศักดิสิทธิ์คอยต่อเชื่อมอยู่
    สีขาวก่มนุษย์ ธรรมดา เกิดขึ้นตามลำดับ จากชั้นของพรหม นอกวัฎฎ
    นอกวัฎฎคือ ผู้ไม่หลงในกาม (แต่ไม่ได้หมายถึง เป็นอรหัน
    แยกจำแนกให้ถูก .... ยุแย่ให้โกรธ ก่ มีโกรธ มีงอนได้ แต่
    เขาไม่ทำร้าย ใครจนเป็นนิสัย เหมือนยักษ์)

    ศีลนี่มีคุณลักษณะ คล้ายกับอะไร .... เข้าเรื่องเสียที

    ศีลที่เราแนะนำคือ (เปรียบ)ผิวกายของกายทิพย์ ที่จะห่อหุ้มมิให้ มโนธาตุ
    หลุดหายไป มโนธาตุหลุดหายไป ก่ จะสีจางลง

    สีทอง ก่ ไม่ใช่ทองเข้ม
    สีขาว ก่ ไม่ใช่ขาวเข้ม

    หากมโนธาตุหลุดหายไปหมด ที่ไปคือ อบายภูมิ

    กายทิพย์ กายหยาบ แยกกันอยู่
    กายหยาบ ก่ เป็นหุ่นยนต์ ตัวหนึ่ง หากไม่มีการกระตุ้น

    โลกมืด คือ ความมืดบอดสำหรับเหล่าอมนุษย์ชั้นสูง ที่มาเบียดเบียนมนุษย์
    มีความคิดอันต่ำทรามที่มาเบียดเบียนมนุษย์ มองเห็นว่าอนาคตของมัน
    มืดบอด ..... มนุษย์ยังไม่ตาย เพราะตัวตนจริง ยังอยู่ ทำหน้าทีในขันธ์

    ก่ ตรองดูก่ แล้วกัน มนุษย์จะมีความธรรมดา แต่มนุษย์บางตน
    จะวิเศษ มีเห็นอะไร แปลก นั้นแสดงว่ากำลังมีอะไร แฝงมาด้วยหรือเปล่า

    จึงได้ทำนายทายทัก แต่เรื่องแปลกๆ โลกดับ โลกมืด โลกวิบัติ
    นั่นล่ะ.... ส่วนใหญ่ก่จะทำนายเรื่องของตัวตนที่มาครอบร่าง (กาฝาก)
    มองเห็น(หรือเปล่า) .....แต่ไม่ใช่เจ้าของร่างจริง

    ดังนั้น การรักษาศีล คือ การรักษาความดี

    ในภาษาของผม การรักษาศีล คือ การรักษามโนธาตุ ให้คงอยู่สถาพรต่อไป

    ที่นี้มาดูว่า การ Synchronize จึงต้อง ซ่อมแซม ศีลของแต่ละ
    ตัวตนให้ดีก่อน (ศีล เปรียบเสมือน ผิวหนังของกายทิพย์
    ดูที่ต้นไม้ ศีล เปรียบเสมือน เปลือกและกระพี้ของต้นไม้)
    และเพิ่มพลังให้กับกายทิพย์ที่มีกำลังอ่อน เสียก่อน

    หากไม่ซ่อมแซม ศีลให้ดีและเพิ่มพลังงาน ก่่ จะผสานใจ ผสานตัวตนเองไม่ได้

    ยังมีต่อแค่นี้ก่อน.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2012
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    รับขันธ์ ไม่ต้องทำ มีอยู่แล้ว ห้องควบคุมร่าง

    ครอบขันธ์ ก่ คิดเอา จะเอาอมนุษย์ มาปิดบัง การ remote ของตัวตนหรืออย่างไร
    ก่ จะเจริญง่าวๆ ล่ะ ที่นี้

    ร่างมนุษย์ เมื่อครอบขันธ์ ความคิดเปลี่ยน พฤติกรรมเปลี่ยน แต่ความรู้สึกตัวตน
    ยังมีชีวิตอยู่ เป็นเรื่องธรรมดา

    ลำดับต่อไปนี้ .....

    เหล่า พรหม ทั้งหลาย จะถูกริบ พลังงาน

    โลกมืด โลกบอด โลกวิบัติ คือ โลก ของพรหม

    ที่มันมาครอบร่าง มันทำนายอะไร ออกมา คือ โลกของมัน

    คือ วิถีของมันมืดบอด

    เหล่านัก ทำนาย หรือ เหล่าที่ มีอมนุษย์ครอบร่างเช่นพรหม

    จะไม่มีพลังอีกต่อไป......

    ต่อไปทำนายอะไร จะไม่ถูก ทำนายตามความเคยชิน

    ไม่มี ยง ไม่มี ยาน (ไม่ใช่ญาณ) อีกต่อไป

    ยกเว้นตัวตนที่มาหลายตัวตน จริงๆ มาเล่าให้ฟัง

    พวกกาฝาก ดับสิ้น ฤทธิ์

    (สำหรับฤทธิ์ การรักษาคนยังมีอีกหรือไม่ เด๋วขอเวลาตรวจสอบหน่อย)
     
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มันก็เป็นความบังเอิญที่เหลือเชื่อ หรือ synchronicity ดีเหมือนกันนะครับ
    ที่ข้อความจากต่างมิติพวกนี้ มันมาตรงกับสิ่งที่ผู้มี ญาณ อย่างพี่ Phudit999
    ตรวจสอบได้จริงๆ แม้ว่ารายละเอียดปลีกย่อยของมันจะแตกต่างกันอยู่บ้าง
    แต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่า ยอมรับได้ เพราะว่ามันเป็นธรรมดาของการสื่อสารข้ามมิติ
    หรือการรับรู้ข้อมูลข้ามมิติอะไรแบบนั้น

    นอกจากนี้ คือนอกจากพี่ phudit999 แล้ว ผมจำได้คร่าวๆว่ายังมีคนไทยเรานี่แหละ
    อีกหลายคน ที่เคยเข้ามาโพสต์ในกระทู้ของพวกผม ว่าพวกเขาก็ตรวจสอบได้
    ข้อมูลมาแบบนี้ หรือ ในทำนองนี้เหมือนกัน หมายถึงการเลื่อนระดับขึ้นของโลก
    ในยุคใหม่นี้หนะนะครับ..นี่ไงผมถึงบอกว่า..ข้อมูลที่พวกผมแปลและโพสต์อยู่นี่
    มันน่าจะมีเค้าความจริงบ้างหละ ไม่มากก็น้อย
    เพราะฉะนั้น พวกผมก็เลยยังคงแปลอยู่ต่อไปไงครับ

    ปล.เมื่อวันที่ 7/12/12 ที่ผ่านมา ผมได้ไปงานวิทยาศาสตร์ทางจิตกับเขาด้วย
    ได้ไปถ่ายรูปออร่ากับอาจารย์สถิตธรรม ซึ่งผมจะไปถ่ายรูปออร่ากับอาจารย์ท่านนี้
    เกือบจะทุกปีอยู่แล้วหนะนะครับ..อาจารย์ก็อ่านออร่าให้ผมตรงประเด็นอีกแล้ว
    เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพ เรื่องทางจิตใจ
    และเรื่องทางพลังงานด้วย ดูเหมือนจะรู้หมดเลย ถูกหมดซะด้วย น่าอัศจรรย์

    และที่ผมกล่าวถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่า อาจารย์สถิตธรรม ก็พูดตรงกัน
    กับข้อมูลในกระทู้ของพวกผมด้วยนะครับ ว่า ยุคพลังงานใหม่ ยุคศิวิไลซ์
    กำลังจะมาถึงแล้ว อะไรแบบนั้น เสียดายผมไม่ได้อ่านหนังสือที่อาจารย์เขียนไว้
    แค่ฟังอาจารย์พูดให้ฟังคร่าวๆเท่านั้นเอง แต่ดูเหมือนว่ารายละเอียดปลีกย่อย
    มันจะมีส่วนที่แตกต่างกันอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ใจความหลักก็เหมือนกัน
    คือการเลื่อนระดับขึ้นทางจิตสำนึกของมนุษย์ และดาวเคราะห์โลก
    และการเปลี่ยนไปสู่มิติใหม่ ยุคใหม่ของโลก อะไรแบบนั้นครับ

    ท่านใดมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ ก็เอามาแชร์กันหน่อยนะครับ

    ปล.2 ผมกำลังแปลข้อความล่าสุดของท่านเทพมิคาเอลอยู่ครับ แปลเสร็จแล้วหละ
    เหลือแต่ส่วนของวิธีฝึกหายใจแบบต่างๆ ที่ Ronna รวบรวมแนบท้ายเอาไว้
    เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้ว ผมก็จะเอามาโพสต์ให้อ่านนะครับ จากนั้น ผมก็จะแปลของท่าน
    เทพกาเบียลต่อ เพราะว่าเห็นว่าน่าสนใจดีหนะครับ
    ..............................................................
     
  4. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แต่รู้มั๊ยว่า เวลาอื่นๆ ผมไม่อ่านข้อมูลจากท่าน ชยุต
    แต่จะอ่านคร่าวๆ ... เพราะไม่อยากจะให้ข้อมูลมันตีกัน

    คือจะ เอาข้อมูลท่านชยุต ไปผนวกกับข้อมูลที่ได้รับ (ขณะที่ได้รับ)

    จึงไม่ได้อ่านทั้งหมด ดังนั้นที่เขียนมา ไม่ได้ลอกจากท่าน

    ไม่ได้เอาของท่านชยุต มาเสริมแต่ง เน้อ ท่านชยุต
     
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    พลังงานการเปลี่ยนยุค อยู่ในเมืองไทยนี่ ล่ะ รอดูต่อไป ก่ะ

    อยู่ตรงไหน...แม้นรู้ ก่ไปหาไม่ได้ เพราะลำพังคนธรรมดา

    ไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันยังโดน หางเลข เลย....ต่อให้ มี มนตด

    ดุร้ายอย่างไร ก่ เข้าไม่ถึงพลังสัมบูรณ์ชุดนี้ ....

    รอความสมบูรณ์ ทุกระบบก่อน...
     
  6. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    อ่านแล้วตะลึงมาก ผมคิดว่าผมเพิ่งพบ light worker ท่านหนึ่ง ด้วยประสพการณ์การพูดคุย(ที่ไม่)ธรรมดากับเขา แต่กลับช่วยยกระดับความคิดของผม และความรู้สึกในใจ การมองโลก มันประหลาดมากที่จุดเริ้มต้นนั้นเกิดในช่วงวันที่ 11-13 นี่เอง ตามที่บอกข้างบนเด๊ะเลย
     
  7. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    (ตอนต่อจากข้อความที่ 6499 หน้าที่ 325)


    TRIP TO THE MOTHERSHIP PART XII

    MYTRE AND KEPIER 10



    By Suzanne Lie – DECEMBER 8, 2012
    http://suzanneliephd.blogspot.co.uk/


    Time to Remember Bi-location Part 2

    My Merkaba self was ready to blink off to the co-ordinates of any given reality, but knew that the Mytre self did not feel ready to experience that degree of separation. My humanoid heard my Merkaba say, “When will Mytre remember that separation is the biggest illusion of all?”

    ตัวตนเมอร์คาบาของผมมีความพร้อมที่จะกระพริบออกสู่พิกัดของความเป็นจริงใดๆ, แต่รู้ว่าตัวตน Mytre ยังไม่รู้สึกพร้อมที่จะมีประสบการณ์อนุญาตให้ตัวมันเองมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนในระดับหนึ่ง. รูปมนุษย์ของผมได้ยินรูปเมอร์คาบาพูดว่า, เมื่อไหร่ Mytre จะจำได้ว่าการแบ่งแยกก็คือมายาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดามายาการทั้งปวง?

    MYTRE CONTINUES:

    I AM ready NOW to release the illusion of separation. I had no idea that that illusion was still hiding in my subconscious. Old limitations can hide in the subconscious when they are not flushed out by novel experiences. Of course, my bi-location is only new to this version of my Multidimensional SELF. With that said, I am ready to bi-locate.


    ผมพร้อมแล้วในขณะนี้เพื่อปลดปล่อยมายาการของการแบ่งแยก. ผมไม่มีความคิดที่ว่ามายาการยังคงหลบซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกของผม. ข้อจำกัดเก่าๆสามารถหลบซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก ถ้าหากมันไม่ถูกล้างออกโดยประสบการณ์ใหม่. แน่นอน, การอยู่ในสองสถานที่พร้อมกันของผมเป็นเพียงของใหม่สำหรับตัวตนรุ่นหลากมิติของผม. อย่างที่พูด, ผมพร้อมแล้วที่จะอยู่ในสองสถานที่พร้อมกัน.


    For this initial experience, I know that I needed to bi-locate to a place or person to which I have an emotional attachment. Hence, I joyously chose to bi-locate to Mytria. I decided to hold my beloved in my Heart-Mind as I went about my daily duties. I shouldn’t say this, but there were things I needed finish up, just in case.

    สำหรับการเริ่มต้นประสบการณ์นี้, ผมรู้ว่าผมจำเป็นต้องไปสู่สถานที่หรือบุคคลที่ผมมีการแนบติดในอารมณ์. ดังนั้น, ผมมีความสุขที่เลือกจะอยู่ในสองสถานที่กับ Mytria. ผมตัดสินใจที่จะกุมที่รักของผมไว้ในหัวใจ-จิตใจของผม เมื่อผมไปทำหน้าที่ประจำวัน. ผมไม่ควรพูดเรื่องนี้, แต่มีบางสิ่งที่ผมจำเป็นต้องทำให้จบ, เพียงในกรณีนี้เทานั้น.

    I spent my day going about my business with the knowing that I would see Mytria and Alycia at the end of my day. This calm acceptance of my impending adventure helped me to stabilize my thoughts and emotions and built my confidence. That day, I was sure to look into the eyes of each of my crewmates and give them a moment of my attention and appreciation.


    ผมใช้เวลาแต่ละวันของผมในการทำภารกิจด้วยการรับรู้ที่ว่า ผมจะได้เห็น Mytria และ Alycia ในตอนสิ้นวันของผม. การยอมรับอย่างสงบเกี่ยวกับการผจญภัยที่กำลังจะมาถึง ช่วยให้ความคิดและอารมณ์ของผมมั่นคงและช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ผม. วันนั้น, ผมมีความมั่นใจที่จะสบตากับเพื่อนลูกเรือแต่ละคนของผม และให้ความสนใจและชื่นชมชั่วขณะแก่พวกเขา.

    I walked through every moment of my day with gratitude and joy. I had been so very blessed in being a member of this wonderful Mothership. I arranged to have dinner with Kepier to tell her of my plans. However, before I could tell her, she gave me her blessings and full support regarding my bi-location. Hence, I thanked her, and we casually spoke as if bi-location was common.


    ผมใช้เวลาทุกๆขณะของวันด้วยความรู้สึกขอบคุณและมีความสุข. ผมรู้สึกว่าได้รับพรอย่างมากในการเป็นลูกเรือของยานแม่ที่น่าอัศจรรย์นี้. ผมวางแผนที่จะทานอาหารเย็นกับ Kepier และบอกเธอเกี่ยวกับแผนการของผม. อย่างไรก็ตาม, ก่อนที่ผมจะบอกเธอ, เธอก็อวยพรให้ผมแล้ว และสนับสนุนอย่างเต็มที่เกี่ยวกับการอยู่ในสองสถานที่ของผม. ดังนั้น, ผมจึงขอบคุณเธอ, และพวกเราก็พูดกันสบายๆราวกับว่าการอยู่ในสองสถานที่พร้อมๆกันเป็นเรื่องปกติ.

    After dinner with Kepier, I wanted to tell the Arcturian. However, I was pretty sure it already knew. I had not seen it all day, which was quite unusual, but I thought nothing of that. However, when I could not contact the Arcturian, I became concerned. I had always been able to merely feel Arcturian’s Essence beside me. Perhaps, this was another thing that I had to do on my own.

    หลังจากทานอาหารเย็นกับ Kepier, ผมอยากจะบอกชาวอาร์คทูเรี่ยน. อย่างไรก็ตาม, ผมมั่นใจว่าเขารู้แล้ว. ผมไม่ได้เห็นเขาเลยทั้งวัน, ซึ่งค่อนข้างผิดปกติ, แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้น. อย่างไรก็ตาม, เมื่อผมไม่สามารถติดต่อกับชาวอาร์คทูเรี่ยนได้, ผมเริ่มกังวล. ผมสามารถรู้สึกได้ถึงสาระสำคัญของชาวอาร์คทูเรี่ยนอยู่เคียงข้างผมเสมอ. บางที, นี่จะเป็นเรื่องอื่นที่ผมต้องทำด้วยตัวผมเอง.

    Pushing my disappointment aside, I went to my quarters, left a note about my endeavor, made sure everything was neat and organized and sat down to meditate. Instantly, the Arcturian filled my Heart-Mind.

    ปล่อยความผิดหวังของผมทิ้งไป, ผมไปที่ส่วนของผม, ทิ้งโน้ตเกี่ยวกับสิ่งที่ผมจะพยายามทำไว้, ตรวจดูทุกอย่างให้แน่ใจว่าเรียบร้อย แล้วนั่งลงทำสมาธิ. ทันใดนั้น, ชาวอาร์คทูเรี่ยนก็เติมหัวใจ-จิตใจของผม.

    “Were you looking for me outside of your SELF again?”

    “คุณมองหาผมจากภายนอกตัวคุณอีกแล้ว?”

    I smiled and sent the Arcturian my deepest gratitude and unconditional love.

    ผมยิ้มและส่งความขอบคุณในจิตใจส่วนลึกและความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของผมให้แก่ชาวอาร์คทูเรี่ยน.

    “Thank you,” it whispered into my Soul.

    “ขอบคุณ”, เขากระซิบเข้าสู่วิญญาณของผม.

    Then I set my intentions on the FEEL of Mytria. This was a simple task as she had eternally been in my heart since I had left her. However, now I felt joy whereas before I felt sadness.

    จากนั้นผมก็ตั้งความมุ่งหมายอยู่ที่ความรู้สึกของ Mytria. นี่เป็นงานง่ายๆเนื่องจากเธออยู่ในหัวใจของผมตั้งแต่ผมจากเธอมา. อย่างไรก็ตาม, ขณะนี้ผมรู้สึกมีความสุขในขณะที่เมื่อก่อนผมรู้สึกมีความเศร้า.

    Then, I relaxed deeply into my meditation and allowed the inner lights to gradually create the outline of the Merkaba. I sent down a grounding cord through my Mytre self and projected my consciousness into the Merkaba. My Merkaba energy field was much calmer now and filled with my intention to be with Mytria.

    จากนั้น, ผมผ่อนคลายลึกๆเข้าสู่สมาธิของผม และอนุญาตให้แสงสว่างในภายในค่อยๆสร้างโครงร่างของเมอร์คาบา. ผมวางสายดินไว้ที่ร่างกาย Mytre และฉายความตระหนักรู้ของผมเข้าสู่เมอร์คาบา. สนามพลังเมอร์คาบาของผมมีความสงบลงมากขึ้นในขณะนี้ และเต็มไปด้วยความมุ่งหมายของผมที่จะอยู่กับ Mytria.

    I took a long moment to perceive my room from both perspectives of my Mytre self and my Merkaba self. I sent a quick request out to the Arcturian to guard my Mytre form and focused my attention inside of the Merkaba. With most of my attention focused on my Merkaba I could fully sense my self in a unique way.

    ผมใช้เวลาชั่วขณะยาวๆเพื่อรับรู้ห้องของผมจากทั้งตัวตน Mytre และจากตัวตนเมอร์คาบาของผม. ผมส่งการร้องขออย่างรวดเร็วออกไปสู่ชาวอาร์คทูเรี่ยนให้ช่วยปกป้องร่างกาย Mytre ของผม และเพ่งความสนใจภายในเมอร์คาบา. ด้วยความสนใจส่วนใหญ่ของผมที่เพ่งไปที่เมอร์คาบา ผมสามารถรู้สึกถึงตัวตนของผมอย่างเต็มที่ในหนทางเฉพาะตัว.

    I had always thought of my self as my form, but now I was experiencing my self as energy. At first I contained my energy inside the Merkaba, but then I allowed it to move beyond the Merkaba and out into my quarters. I then pulled it back into the Merkaba and then projected it again to fill the room. After practicing controlling my Merkaba energy field, I focused my attention on the FEEL of Mytria.

    ผมคิดถึงตัวตนของผมในฐานะร่างกายของผมอยู่เสมอ, แต่ขณะนี้ผมกำลังมีประสบการณ์ตัวตนของผมในฐานะพลังงาน. ตอนแรกผมบรรจุพลังงานของผมเข้าไปในเมอร์คาบา, แต่หลังจากนั้นผมก็อนุญาตให้มันเคลื่อนที่ไปไกลกว่าเมอร์คาบา และออกเข้ามาสู่ส่วนของผม. หลังจากนั้นผมก็ดึงมันกลับเข้าสู่เมอร์คาบา จากนั้นก็ฉายมันอีกครั้งเพื่อเติมเต็มห้อง. หลังจากฝึกฝนการควบคุมสนามพลังงานเมอร์คาบาของผม, ผมก็เพ่งความสนใจไปที่ความรู้สึกของ Mytria.

    Instantly, I felt a deep love, as well as a feeling of welcoming. Did she know I was on my way to see her? “Of course; I think of you daily, just as you think of me,” I heard her sweet voice echo throughout the Merkaba. I was fully calibrated for my destination. Now, I had to completely trust my SELF and totally surrender – to what? What should I surrender to?

    ในทันทีทันใด, ผมรู้สึกถึงความรักในส่วนลึก, เช่นเดียวกับความรู้สึกของการต้อนรับ. หรือเธอจะรู้ว่าผมอยู่ในหนทางที่จะได้พบเธอ? “แน่นอน; ฉันคิดถึงคุณทุกวัน, เช่นเดียวกับที่คุณคิดถึงฉัน”, ผมได้ยินเสียงหวานๆของเธอก้องผ่านมาทางเมอร์คาบา. ผมปรับตัวเต็มที่สำหรับเป้าหมายของผม. ตอนนี้, ผมจำเป็นต้องเชื่อถือตนเองอย่างสมบูรณ์และยอมอย่างเต็มที่ - ต่ออะไร? อะไรที่ผมควรจะยอมต่อสิ่งนั้น?

    “Surrender to your Soul,” came the inner direction of the Arcturian.

    “ยอมให้กับวิญญาณของคุณ”, มาจากภายในโดยตรงของชาวอาร์คทูเรี่ยน.

    I had not thought of the concept of my Soul for quite a while, but I instantly could feel that energy. Since my Soul had all the Wisdom, Power and Love of all my myriad incarnations in form, it knew exactly what I was doing and why. Therefore, I let go into the FEEL of my Soul with the destination of Mytria inside my heart.

    ผมไม่ได้คิดถึงหลักการของวิญญาณของผมชั่วขณะหนึ่ง, แต่ผมสามารถรู้สึกได้ถึงพลังงานนั้นในทันที. เนื่องจากวิญญาณของผมมีทั้งหมดของ ปัญญา, พลังอำนาจ และความรัก ของการเกิดในรูปกายทั้งหมดนับชาติไม่ถ้วนของผม, มันรู้อย่างแน่นอนว่าผมกำลังทำอะไรและทำไม. ดังนั้น, ผมจึงไปสู่ความรู้สึกของวิญญาณของผมพร้อมกับเป้าหมายคือ Mytria ภายในหัวใจของผม.

    As I totally surrendered to my Soul, the energy field of my Merkaba became alert and centered. It had coordinates and permission. I tried to split my attention between my Mytre and Merkaba self, but as I felt an unusual sense of moving while also staying still, I could only focus on the Merkaba.

    เมื่อผมยอมให้กับวิญญาณของผมอย่างเต็มที่, สนามพลังงานของเมอร์คาบาของผมกลายเป็นตื่นตัวและรวมศูนย์. มันได้รับตำแหน่งและได้รับอนุญาต. ผมพยายามที่จะแยกความสนใจของผมระหว่างตัวตน Mytre ของผมและตัวตนเมอร์คาบา, แต่ผมรู้สึกถึงความรู้สึกที่ไม่ปกติของการเคลื่อนที่ในขณะที่กำลังอยู่นิ่งๆ, ผมสามารถทำได้เพียงเพ่งไปที่เมอร์คาบาเท่านั้น.

    With all my attention on the Merkaba, the slow movement shifted into high gear. Suddenly, I sensed a movement that felt faster than light, but my perception stayed focused only on the energy field around me. Thus, I felt as though I was moving, but my sense of sight and hearing did not register a shift. On the other hand, I did feel the intense movement both kinesthetically and emotionally. However, my thoughts were only on my destination and registered no change.

    ด้วยการใส่ใจทั้งหมดไปที่เมอร์คาบาของผม, การเคลื่อนไหวช้าๆก็เพิ่มความเร็วขึ้น. ทันใดนั้น, ผมรู้สึกถึงการเคลื่อนที่ที่รู้สึกว่าเร็วกว่าความเร็วแสง, แต่การรับรู้ของผมยังคงเพ่งไปที่สนามพลังงานรอบๆตัวผมเท่านั้น. ดังนั้น, ผมรู้สึกราวกับว่าคิดว่ากำลังเคลื่อนที่, แต่ความรู้สึกทางสายตาและทางหูไม่ได้ยกระดับตามไปด้วย. ในอีกด้านหนึ่ง, ผมรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและอารมณ์. อย่างไรก็ตาม, ความคิดของผมอยู่ที่เป้าหมายเท่านั้นและไม่เปลี่ยนแปลง.

    Then, almost instantly, I was at the lake in the wilderness where I first met Mytria. I remember that the first time we met there I had been sent to find her because her friends were concerned about her disappearance. It was almost dark, just like the first time. However, that time I was quite upset that she had alluded me for so long. But, this time my heart burst with joy to see her beautiful body swimming in the cool lake.

    จากนั้น, แทบจะทันทีทันใด, ผมก็อยู่ที่ทะเลสาบในป่าที่ผมพบ Mytria ครั้งแรก. ผมจำได้ว่าครั้งแรกเราพบกันที่นั่น ผมถูกส่งไปค้นหาเธอเพราะเพื่อนของเธอกังวลเกี่ยวกับการหายตัวไปของเธอ. มันเกือบจะมืดแล้ว, คล้ายกับครั้งแรก. อย่างไรก็ตาม, เวลานั้นผมค่อนข้างเสียใจที่เธอพาดพิงถึงผมเป็นเวลานาน. แต่เวลานี้ หัวใจของผมระเบิดออกมาด้วยความสุขที่ได้เห็นร่างกายที่สวยงามของเธอ กำลังว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบ.

    I felt like two people, actually three people. One person was in my quarters in the Ship, the other was the person I had been when I first met Mytria, as well as the one who was bi-locating. My presence on the Ship felt as if it was a person in a dream. At the same time, I could feel the old version of me as if it were an echo of the bi-locating version.

    ผมรู้สึกเหมือนเป็นสองคน, อันที่จริงสาม. คนหนึ่งอยู่ในส่วนของผมบนยาน, อีกคนเป็นผมที่พบกับ Mytria เป็นครั้งแรก, เช่นเดียวกับอีกคนที่กำลังอยู่ในสองสถานที่. ตัวผมที่อยู่บนยานรู้สึกราวกับว่ามันเป็นบุคคลในความฝัน. ในเวลาเดียวกัน, ผมสามารถรู้สึกได้ถึงตัวตนรุ่นเก่าของผมราวกับว่ามันเป็นเสียงสะท้อนของตัวตนรุ่นที่อยู่ในสองสถานที่.

    With all the myriad experiences of my self, I almost forgot about Mytria. That is until she came to me and said, “Mytre? Is that you?” The sound of her voice pulled me out of my analysis and into the emotional moment of our reunion. I instantly pulled her into my arms and hugged her so tight that we became one person.

    ด้วยประสบการณ์ทั้งหมดนับไม่ถ้วนของตัวตนของผม, ผมแทบจะลืมเกี่ยวกับ Mytria. จนกระทั่งเธอมาถึงผมและพูดว่า, “Mytre นั่นคุณหรือเปล่า?” เสียงของเธอดึงผมออกจากการวิเคราะห์ของผม และเข้าสู่ชั่วขณะอารมณ์ของการอยู่ร่วมกันของพวกเรา. ผมดึงเธอเข้ามากอดในทันทีทันใดและกอดเธอแน่นมากจนพวกเรากลายเป็นคนคนเดียวกัน.

    Mytria began to cry and I joined in. We had not known if we would ever see each other again. It seemed like forever that we stood frozen to that spot and held each other as tightly as we could. Finally, we pushed away, just a bit, to see each other’s face in the fading light. We kissed and held each other again.

    Mytria ร้องออกมาและผมก็มีส่วนร่วมในสิ่งนั้น. พวกเราไม่รู้ว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้ง. มันดูเหมือนเป็นตลอดกาลที่พวกเรายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นและกอดกันแน่นเท่าที่ทำได้. ในที่สุด, พวกเราก็แยกจากกัน, ชั่วครู่, เพื่อมองหน้ากันและกันในแสงสลัวๆ. พวกเราจูบกันแล้วกอดกันอีก.

    Finally, we sat down on the rocks by the lake and talked until the Moons rose high in the sky. We had so much to say, and neither one of us knew how long I could stay there. Mytria also told me that she had to open the Portal to the Core of the Mother where we first met in Spirit. Then, we each looked at each other with the same look of surprise.

    ในที่สุด, พวกเราก็นั่นลงที่ก้อนหินข้างทะเลสาบและพูดกันจนกระทั่งพระจันทร์ขึ้นมาบนท้องฟ้า. พวกเรามีเรื่องราวมากมายที่จะพูด, และไม่มีใครในสองเรารู้ว่ามันนานเท่าใดที่พวกเราอยู่ด้วยกันที่นั่น. Mytria บอกผมเช่นกันว่าเธอจำเป็นต้องเปิดประตูสู่แก่นของพระแม่โลก(ของเธอ) ที่ที่พวกเราได้พบกันครั้งแรกในโลกวิญญาณ. จากนั้น, พวกเราก็มองซึ่งกันและกันด้วยสีหน้าที่แปลกใจเหมือนกัน.

    “Have we met like this before?” we said simultaneously. We then laughed and hugged again. Mytria looked the same age, and she said I did too. However, I was simultaneously experiencing being the one I was long ago and the one I was now. Mytria said that she felt the same way. We were both quite confused, but did not care because we were so happy to be together again.

    “พวกเราเคยพบกันอย่างนี้หรือเปล่า?” พวกเราพูดพร้อมกัน. จากรั้นพวกเราก็หัวเราะและกอดกันอีก. Mytria ดูเหมือนอายุเท่าเดิม, และเธอบอกว่าผมก็เหมือนกัน. อย่างไรก็ตาม, ผมกำลังมีประสบการณ์พร้อมๆกันของการเป็นคนหนึ่งที่ผมเป็นเมื่อนานมาแล้ว และอีกคนหนึ่งที่ผมเป็นในขณะนี้. Mytria พูดว่าเธอรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกัน. พวกเราทั้งคู่ค่อนข้างสับสน, แต่ไม่สนใจเพราะว่าพวกเรามีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง.

    “How is our daughter, Alycia,” I asked.

    “Alycia ลูกสาวของเราเป็นอย่างไรบ้าง?” ผมถาม.

    “Oh, she is wonderful. Do you think you can stay until tomorrow to see her?”

    “โอ, เธอยอดเยี่ยมมาก. คุณคิดว่าคุณสามารถอยู่จนถึงพรุ่งนี้เพื่อจะได้เห็นเธอหรือเปล่า?”

    “I do not know. This is my maiden voyage, but if I cannot stay, I will return.”

    “ผมไม่รู้เหมือนกัน. นี่เป็นการเดินทางครั้งแรก, แต่ถ้าหากผมไม่สามารถอยู่ได้, ผมจะกลับมาอีก.”

    “I have to open the Portal now,” said Mytria. “Will you come with me?”

    “ตอนนี้ฉันได้เปิดประตูแล้ว”, Mytria พูด. “คุณจะมากันฉันมั้ย?”

    I told her that of course I would, and we walked to the Sacred Rock hand-in-hand. As we walked, I was not sure if she was in the same timeline as when we met before, or if she, too, had moved into another version of her SELF in a distant future. I did not want to say too much for fear I would negatively affect her timeline.

    ผมบอกเธอว่าแน่นอนผมจะไป, แล้วพวกเราก็เดินไปด้วยกันสู่ก้อนหินศักดิ์สิทธิ์จับมือกัน. ในขณะที่เดินไป, ผมไม่แน่ใจว่าเธอจะอยู่ในเส้นเวลาเดียวกันกับที่พวกเราได้พบกันมาก่อนหรือเปล่า, หรือบางทีเธอก็เหมือนกับผม, ได้เข้าไปสู่ตัวตนอีกรุ่นหนึ่งของเธอในอนาคตแล้ว. ผมไม่ต้องการพูดมากเกินไปเนื่องจากกลัวว่าผมจะมีผลกระทบในทางลบต่อเส้นเวลาของเธอ.

    All I knew was that she remembered my assisting her before, but I did not know if that memory was a déjà vu experience or another version of her life. I decided to release my thinking and focus totally on how wonderful it felt to be with her again. When we arrived at the Sacred Rock, I felt myself fading away, just like the first time.

    ทั้งหมดที่ผมรู้ก็คือเธอจำได้ว่าผมเคยช่วยเหลือเธอมาก่อน, แต่ผมไม่รู้ว่าความทรงจำนั้นเป็นประสบการณ์ที่ผมเคยอยู่ในเหตุการณ์นั้นแต่จำไม่ได้ หรือจะเป็นรุ่นอื่นของชีวิตของเธอ. ผมตัดสินใจที่จะปลดปล่อยความคิด และให้ความสนใจอย่างเต็มที่กับความน่ามหัศจรรย์กับความรู้สึกที่ได้อยู่กับเธออีกครั้ง. เมื่อพวกเรามาถึงก้อนหินศักดิ์สิทธิ์, ผมรู้สึกว่าผมกำลังจางลง, เหมือนกับเป็นครั้งแรก.

    I pulled Mytria to me once more and told her that I felt myself leaving. I was able to kiss her once more and promise her that I would return, and then I faded away…

    ผมดึง Mytria เข้ามากอดอีกครั้งและบอกเธอว่า ผมรู้สึกว่าผมต้องไปแล้ว. ผมสามารถจูบเธอได้อีกครั้งและสัญญาว่าผมจะกลับมา, แล้วผมก็จางหายไป.

    My eyes flew open, and I was in my quarters. I looked at the clock and found that no time had passed. Had that been real? Had I had a very vivid meditation, or had I actually bi-located? However, if I had been meditating, time would have passed, right?? Since no time had passed, and I had appeared to be there quite a while, does that mean that I really bi-located? I was extremely cold. So I stood up to get my jacket.

    ตาของผมเปิดขึ้น, และผมอยู่ใส่วนของผมบนยาน. ผมมองไปที่นาฬิกา พบว่าเวลายังเหมือนเดิม. นั่นมันจริงหรือเปล่า? หรือว่าผมมีสมาธิที่แจ่มชัดมาก, หรือว่าผมได้อยู่ในสองสถานที่จริงๆ? อย่างไรก็ตาม, ถ้าหากผมทำสมาธิ, เวลาควรจะเดินไป, ถูกมั้ย? เนื่องจากเวลาไม่เดิน, และผมดูเหมือนจะอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่ง, หรือว่ามันหมายความว่าผมอยู่ในสองสถานที่จริงๆ? ผมรู้สึกหนาวมาก. ดังนั้นผมจึงยืนขึ้นเพื่อไปหยิบเสื้อแจ๊กเก็ต.

    However, my legs would not hold me, and I fell to the ground. I had to slowly stand and carefully walk around my room to accustom myself to this body. Perhaps, I had bi-located, but I could only hold my consciousness in one version of my SELF.

    อย่างไรก็ตาม, ขาของผมไม่ได้ตอบสนองผม, ผมตกลงไปบนพื้น. ผมต้องค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆและเดินอย่างระมัดระวังไปรอบๆห้องเพื่อให้คุ้นเคยกับตัวเองในร่างกายนี้. บางที, ผมจะอยู่ในสองสถานที่พร้อมกัน, แต่ผมไม่สามารถรักษาความตระหนักรู้ในอีกรุ่นหนึ่งของตัวผม.

    “That was a good start,” said the Arcturian as it appeared before me. “Now follow me. There is something you need to see.”

    “นั่นเป็นการเริ่มต้นที่ดี”, ชาวอาร์คทูเรี่ยนพูดเมื่อเขาปรากฏขึ้นตรงหน้าผม. “ทีนี้ตามผมมา. มีบางอย่างที่คุณต้องดู”.


    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
    (ตอนต่อไปข้อความที่ 6578 หน้าที่ 329)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2012
  8. Tatisaetae

    Tatisaetae สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +11
    ช่วงนี้เกิด เดจาวู บ่อยมาก ไครเป็นเหมือนผมบ้างครับ
     
  9. NaCl

    NaCl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +289
    ผมไม่เจอเดจาวู แต่เจอคล้ายๆ กันครับ คือ เหตุการณ์พ้องสองครั้งติดกันเป็นคู่ๆ ตลอด

    เช่น ออกมาขึ้นรถตอนเช้า เจอรถสายเดียวกันสองคันแซงกัน ณ จุดเดียวกัน สองวันติดๆ และผมขึ้นคันหลังเหมือนกันทั้งสองวัน
     
  10. Water Lily

    Water Lily เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +738
    วีดีโอ

    21 Dec 2012 New Message from the Star Nation

    อธิบายเรื่องการ upgrade vibration ของโลกเข้าสู่ยุคที่ 5
    และ DNA ของมนุษย์เพื่อปรับเข้ากับความถี่ใหม่ :cool:

    21 December 2012 - NEW Message from the Star Nations - YouTube
     
  11. ศารทวิศุวต

    ศารทวิศุวต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    249
    ค่าพลัง:
    +368
    ไม่มี V.บรรยายไทยเหรอครับ เน็ทผมช้ามาก:z16
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    กลับมายืนยัน ในสิ่งที่กล่าว

    ตกลงยืนยันว่า เหล่า พรหมทั้งหลายที่มีอำนาจ

    แห่งฌาน จะถูกริบอำนาจแห่งฌานด้วย พลังงาน

    เก่าจะค่อยๆ สูญสิ้นไป เหล่าพรหมฤษีตนใดที่มา

    ครอบร่าง ก็จะหมดฤทธิ์ อำนาจลง ไม่มีคุณวิเศษ

    แสดงฤทธิ์ ต่างๆ ได้อีกต่อไป ไม่สามารถรักษาคน

    ได้ตามเดิม (หากร่างใดมีพรหม มาครอบร่าง)

    ไม่มีตาทิพย์ ไม่มีหูทิพย์ ไม่มีการพยากรณ์

    หมดฤทธิ์ หมดอำนาจ ที่จะนำไปใช้ในทางที่ผิด

    เพราะ พลังงานใหม่ จะเริ่มถูกปล่อยออกมาแสดงผล

    (แต่จริงๆ แล้ว พลังงานใหม่ได้ถูกครอบไว้หมดแล้ว

    ก่อนที่จะถูกถอดถอนพลังงานเก่า เพื่อดำรงรักษา

    สิ่งที่จำเป็น สิ่งที่ถูกต้อง .... สิ่งที่ไม่ถูกต้องเมื่อ

    พลังงานเก่าถอดถอนออกหมด ก่จะถูกทำลาย เสื่อม

    เสีย ทรุดโทรม แตกพังไป)

    นี่ล่ะคือผลของการเปลี่ยนยุค จะมีบางสิ่งที่ไม่จำเป็น

    แตกหักผุพังไปอย่างรวดเร็ว.....ยุคเปลี่ยนโดยสมบูรณ์

    จะกลับมาบอกใหม่ ....
     
  13. caring

    caring เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +199
    เจอกระทู้นี้ด้วยความบังเอิญในวันหนึ่ง
    ติดตามอ่่านมาเกือบจะหนึ่งปีแระ
    อยากขอบคุณคุณชยุตและทีมแปลทุกท่าน ที่นำเรื่องราวที่น่าสนใจนี้มาแปลให้อ่านกัน
    จะติดตามกระทู้นี้ต่อไปค่ะ
     
  14. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากท่านซาลูซ่า แห่ง The Galactic Federation

    ผู้รับสาส์น : Mike Quinsey
    ที่มา : Galactic Channelings - English


    SaLuSa, December 14, 2012

    As days come and go 12.12. was a perfect success, how else could it be when it is beyond the control or interference of anyone upon Earth. Higher powers have ensured that you are prepared for your Ascension with Mother Earth. Now you count off the days to 12.21 that will be a most profound time, one that will be the experience of a lifetime, indeed many lifetimes. Through Ascension you will learn where your creative powers have placed you. The future is yours and in this lifetime in particular you have worked towards the ideal level, that is consistent with your state of consciousness. You will all end up exactly where you are best suited to continue your experiences. Lightworkers will naturally find themselves with their own kind, in the most uplifting vibrations.

    หลายวันที่ผ่านมาและผ่านไป วันที่ 12/12 เป็นความสำเร็จอย่างสมบูรณ์, มันจะเป็นอื่นไปได้อย่างไรในเมื่อมันเหนือกว่าการควบคุมหรือแทรกแซงของผู้ใดบนโลก. พลังอำนาจที่สูงกว่าได้รับประกันคุณว่า คุณได้รับการเตรียมพร้อมสำหรับการยกระดับของคุณพร้อมกับพระแม่โลก. ขณะนี้คุณนับถอยหลังไปสู่วันที่ 21/12 ซึ่งนั่นจะเป็นวันที่ลึกซึ้งที่สุด, วันหนึ่งที่จะเป็นประสบการณ์ของทั้งชีวิต, อันที่จริงของหลายๆชาติที่คุณเกิดมา. ผ่านทางการยกระดับคุณจะได้เรียนรู้ว่า ที่ไหนที่พลังอำนาจการสร้างสรรค์ของคุณจะนำคุณไปไว้. อนาคตเป็นของคุณและโดยเฉพาะในชีวิตนี้คุณจะได้ทำงานในระดับที่เหมาะสม, ที่สอดคล้องกับระดับความตระหนักรู้ของคุณ. คุณทั้งหมดจะลงท้ายอย่างแน่นอน ในที่ที่คุณเหมาะสมที่สุดที่จะมีประสบการณ์ต่อไป. ไลท์เวิร์คเกอร์จะค้นพบตนเองอย่างเป็นธรรมชาติกับผู้คนประเภทเดียวกับพวกเขา, ในส่วนใหญ่ของการยกระดับความถี่.

    There are some beautiful souls of compassion and love who know nothing about Ascension, and they will also join up with the Lightworkers. As the changes are put in hand there will be much to do for those who are enlightened and wish to serve others. For a while needs such as healing will be handled in many different ways, until you all have access to local centers with modern healing facilities. Some difficulties may arise until your society has been fully integrated into the new way of life. Having been brought up in the Space Age you will of course adapt to it very quickly. New technologies will overcome most of your problems in quick time, and we are urging our Earth allies to push forward with the promotion of free energy devices.

    มีบางวิญญาณที่งดงามเห็นอกเห็นใจผู้อื่นและมีความรัก ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการยกระดับ, และเช่นกันพวกเขาเข้าร่วมกับไลท์เวิร์คเกอร์. เมื่อการเปลี่ยนแปลงถูกนำไปสู่มือ จะมีหลายสิ่งที่ต้องทำสำหรับผู้ที่ตื่นรู้แล้วและปรารถนาจะรับใช้ผู้อื่น. สำหรับชั่วขณะที่จำเป็น เช่น การฟื้นฟูจะได้รับการจัดการในหลายหนทางที่แตกต่างกัน, จนกว่าคุณจะเข้าถึงศูนย์ประจำถิ่นพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยในการฟื้นฟูรักษา. ความยุ่งยากบางอย่างอาจจะเพิ่มขึ้นจนกระทั่งสังคมของคุณ ได้รวมกันเข้าอย่างเต็มที่กับหนทางใหม่ของชีวิต. ด้วยการนำเข้าสู่ยุคอวกาศคุณจะปรับตัวเข้าสู่มันอย่างรวดเร็ว. เทคโนโลยีใหม่ๆจะเอาชนะปัญหาส่วนใหญ่ของคุณในเวลาที่รวดเร็ว, และพวกเรากำลังสนับสนุนพันธมิตรโลกของพวกเราเพื่อผลักดันไปข้างหน้า กับการส่งเสริมอุปกรณ์พลังงานฟรี.

    General conditions on Earth are getting worse due to weather variations, and also interference in markets that are being manipulated for gain. Whether it be food or money, speculators continue to bring misery in a world that is already in a turmoil. However, these conditions will not last very long and not allowed to be repeated. Big business and especially the banks will be totally re-organized, so as to ensure there is never again a collapse like you recently experienced. Monetary systems will in any event change, and a fairer system of valuation introduced. It will result in honest trading and put an end to corrupt practices. As we have told you many times, wealth also will be re-distributed and we are already starting to recover hidden caches of valuable metals. Add to it St. Germain's World Trust Fund, and you will have sufficient to ensure that everyone is above the poverty levels that so many are experiencing now.

    บรรยากาศโดยทั่วไปของโลกกำลังเลวร้ายจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ, และเช่นเดียวกับการแทรกแซงตลาดที่ถูกจัดการเพื่อผลกำไร. ไม่ว่าจะเป็นตลาดอาหารหรือตลาดเงิน, นักเก็งกำไรยังคงนำความทุกข์ยากมาสู่โลกที่วุ่นวายอยู่แล้ว. อย่างไรก็ตาม, บรรยากาศเหล่านี้จะไม่คงอยู่นานนักและไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นซ้ำอีก. ธุรกิจขนาดใหญ่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารจะได้รับการปรับโครงสร้างใหม่อย่างเต็มที่, เพื่อที่จะรับประกันว่ามันจะไม่พังทลายลงอีกครั้งเหมือนกับประสบการณ์ในเร็วๆนี้ของคุณ. ระบบการเงินจะเปลี่ยนแปลง, และระบบการประเมินมูลค่าอย่างยุติธรรมจะถูกนำมาใช้. มันจะเป็นผลในการค้าที่ซื่อตรงและนำไปสู่จุดจบของการทุจริต. พวกเราได้บอกคุณมาหลายครั้งแล้ว, ความมั่งคั่งจะได้รับการกระจายใหม่ และพวกเราก็เริ่มได้โลหะมีค่าที่ถูกซ่อนไว้คืนมาแล้ว. เพิ่มเติมสำหรับเรื่องนี้ กองทุนโลกของ St. Germain, และคุณจะมีเพียงพอที่จะทำให้ทุกๆคนพ้นจากระดับความยากจน ที่ผู้คนมากมายกำลังประสบอยู่ในขณะนี้.

    Money and valuables acquired honestly will be kept in possession of the bona fide owners. However, anything else that has been obtained dishonestly will be recovered. A feature of your future lives will be that criminality will disappear, as such actions will not enter the minds of those who have ascended. Consciousness levels will be so high that honesty in all dealings can be taken for granted. Plus the fact that people that are cared for and have their needs covered, are happy and at One with everyone else. Yes, Dear Ones so much is about to change that you have nothing to worry about, but please exercise patience while matters are being sorted out. Our absence so far is not to be seen as a deliberate act on our part, as we would have liked to come out openly some time ago. However, what you are achieving by your own endeavors is a credit to your intent to see the way clear to Ascension. We have helped of course to stop interference that would seriously hamper your work.

    เงินและของมีค่าที่ได้มาอย่างสุจริตจะยังเป็นของเจ้าของ. อย่างไรก็ตาม, สิ่งอื่นที่ได้มาโดยไม่ถูกต้องจะถูกยึดคืน. คุณลักษณะของชีวิตคุณในอนาคตจะเป็นว่า อาชญากรรมทั้งหลายจะหายไป, ซึ่งกิจกรรมประเภทนี้จะไม่เข้ามาสู่จิตใจของเหล่าผู้ที่ยกระดับไปแล้ว. ระดับของความตระหนักรู้จะสูงพอที่มีความซื่อตรงในทุกๆการตกลงที่ทำขึ้น. รวมทั้งความจริงที่ว่าผู้คนจะได้รับการเอาใจใส่และได้รับในสิ่งที่พวกเขาต้องการ, มีความสุขและเป็นหนึ่งเดียวกันกับทุกๆคน. ใช่แล้วที่รักทั้งหลายมีสิ่งต่างๆมากมายที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่มีอะไรที่คุณต้องกังวล, แต่กรุณาใจเย็นๆในขณะที่สาระต่างๆกำลังทยอยออกมา. การห่างหายไปของพวกเราเป็นเวลานานไม่ได้ถูกมองว่าเป็นความจงใจของพวกเรา, ซึ่งพวกเรามีความยินดีที่จะออกมาอย่างเปิดเผยในบางเวลาที่ผ่านมา. อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่คุณได้รับด้วยความพยายามของคุณเองเป็นความดีความชอบของความมุ่งหมายของคุณที่จะเห็นหนทางชัดเจนสู่การยกระดับ. แน่นอนพวกเราช่วยเหลือที่จะหยุดยั้งการแทรกแซงที่อาจจะขัดขวางงานของคุณ.

    Peace is coming to Earth very soon and not before time, as it was offered to your leaders many, many years ago but rejected. Now it comes to you as a permanent peace not dependent on countries signing agreements. It is God's peace and Love that you have earnt by rising above the lower vibrations, and for those souls of Love able to be present in the higher dimensions. It is not of course that God does not Love all other souls, as they will continue their lives at the level best for them and their continued evolution. God's Unconditional Love is with you at all times and given without any judgment at all.

    สันติภาพกำลังมาสู่โลกในเร็วๆนี้และไม่ก่อนเวลา, ซึ่งมันได้เสนอต่อเหล่าผู้นำของคุณหลายหลายปีมาแล้วแต่ถูกปฏิเสธ. ขณะนี้มันมาสู่คุณในฐานะสันติภาพถาวรที่ไม่ขึ้นกับการลงนามข้อตกลงของประเทศ. มันเป็นสันติภาพของพระเจ้าและความรัก ที่คุณได้รับด้วยการยกระดับขึ้นเหนือความถี่ระดับต่ำ, และสำหรับเหล่าวิญญาณแห่งความรัก สามารถที่จะอยู่ในมิติระดับสูง. มันไม่ใช่ว่าพระเจ้าไม่รักวิญญาณอื่น, ซึ่งพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปในระดับที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา และการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของพวกเขา. ความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าอยู่กับคุณตลอดเวลา และให้โดยปราศจากการตัดสินใดๆทั้งสิ้น.

    The legal removal of the cabal members is in hand, and will be enacted when they are placed out of the way. There are special reasons why you do not have much awareness of it, as it is being carried out to avoid any fuss or unwanted publicity. The exact nature of our actions are best kept secret, but very soon you shall learn about what has been happening. Indeed, we want you to be aware of our intentions, and there will come a time soon when we shall keep you regularly informed. It will tie in with disclosure which we are keen to get out to the masses. It is in fact quite difficult to accomplish a situation where all countries are agreed on disclosure. We would like to go ahead now as we cannot hold back much longer, but it will follow other changes that now take priority such as those of a governmental nature.

    การกวาดล้างตามกฎหมายต่อสมาชิกของฝ่ายมืดกำลังอยู่ในมือ, และจะมีการประกาศเมื่อพวกเขาถูกนำออกจากทาง. มีเหตุผลพิเศษที่ทำไมคุณจึงไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก, ซึ่งมันต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากใดๆหรือการประชาสัมพันธ์ที่ไม่พึงประสงค์. ธรรมชาติที่แท้จริงของการดำเนินการของพวกเราได้เก็บเป็นความลับอย่างดีที่สุด, แต่ในไม่ช้าคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น. อันที่จริง, พวกเราต้องการให้คุณรู้ถึงความมุ่งหมายของพวกเรา, และในไม่นานมันจะถึงเวลาที่พวกเราจะให้คุณทราบอย่างสม่ำเสมอ. มันขึ้นอยู่กับการเปิดเผยที่พวกเรากระตือรือร้นที่จะออกไปสู่มวลชน. มันเป็นความจริงที่ค่อนข้างยากที่จะประสบความสำเร็จในสถานะที่ทุกประเทศเห็นด้วยกับการเปิดเผย. พวกเราปารถนาที่จะก้าวหน้าไปในขณะนี้ ซึ่งพวกเราไม่สามารถจะถ่วงเวลาได้นานไปกว่านี้, แต่มันจะตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงอื่นๆที่ขณะนี้ได้รับความสำคัญ เช่นเดียวกับธรรมชาติของรัฐบาล.

    Your Earth looks beautiful at this time, as along with the Light and love created by the Lightworkers, there is also additional Light as the Season of Goodwill brings out the best from many people. It is a time when old friends, or absent friends are thought of in a loving manner, along with those who may not have relatives at all. This is Love at work when caring and compassion are felt by so many for the underprivileged who are often homeless and without support. In the future these situations will not exist, it will be quite impossible with so much Light and Love in existence. Heaven is a real place such as you imagine it, in fact you will probably find it far more astounding and wonderfully beautiful than you could ever have thought.

    โลกของคุณมองดูสวยงามในเวลานี้, ควบคู่ไปกับแสงสว่างและความรักที่สร้างขึ้นโดยไลท์เวิร์คเกอร์, ยังมีแสงสว่างเพิ่มขึ้นจากฤดูแห่งความปรารถนาดีที่นำสิ่งที่ดีที่สุดจากผู้คนมากมาย. มันเป็นเวลาที่เพื่อนเก่าหรือเพื่อนที่ห่างหายไปจะคิดถึงในหนทางของความรัก, พร้อมกับเหล่าผู้ที่อาจมีความสัมพันธ์ทั้งหลาย. นี่คือความรักที่ทำงานเมื่อการเอาใจใส่และความเห็นอกเห็นใจจะรู้สึกได้โดยผู้คนจำนวนมาก ต่อผู้ที่ไร้สิทธิ์พิเศษผู้ที่ไร้ที่พักพิงและไม่ได้รับการสนับสนุน. ในอนาคตสถานการณ์เหล่านี้จะไม่มีอีกต่อไป, มันค่อนข้างเป็นไปไม่ได้กับแสงสว่างและความรักจำนวนมากที่ดำรงอยู่. สวรรค์เป็นสถานที่จริงเช่นเดียวกับที่คุณคิด, อันที่จริงคุณอาจจะค้นพบว่ามันน่าประหลาดใจและมีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์กว่าที่คุณเคยคิด.

    Once we commence the changes there will be almost non-stop activity, but be assured you shall be kept fully informed as to what is happening. 2013 promises to be a most active year, and it will be also for many of you. When you incarnated it was with Ascension in mind, knowing that you could participate in it. Some of you have skills that are useful to us, and you will know when we are ready to use you. There are a number of ways it can be done, and some of you will be the early visitors to our ships.

    เมื่อพวกเราเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง มันแทบจะเป็นกิจกรรมที่ไม่มีหยุด, แต่ให้มั่นใจว่าคุณจะได้ทราบอย่างเต็มที่ในสิ่งที่เกิดขึ้น. ปี 2013 สัญญาว่าจะเป็นปีที่กระตือรือร้นที่สุด, และมันจะเป็นเช่นเดียวกับพวกคุณจำนวนมาก. เมื่อคุณมาเกิด คุณมาเกิดด้วยการยกระดับในจิตใจ, ให้รู้ว่าคุณสามารถมีส่วนร่วมในสิ่งนี้. พวกคุณบางคนมีทักษะที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา, และคุณจะรู้ว่าเมื่อไหร่พวกเราพร้อมที่จะใช้คุณ. มันมีหลายหนทางที่สามารถทำได้, และพวกคุณบางคนจะเป็นผู้มาเยือนรุ่นแรกสู่ยานของพวกเรา.

    I am SaLuSa from Sirius, and love you for your dedication to your work, to see that everything is set for Ascension.

    I am SaLuSa from Sirius, และรักคุณสำหรับการอุทิศตนทำงานของคุณ, เพื่อให้ได้เห็นว่าทุกสิ่งทำขึ้นเพื่อการยกระดับ.

    Thank you SaLuSa.
    Mike Quinsey

    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข ขอบคุณครับ
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ใครที่ยังคงมีนิมิต ภัยพิบัติเกิดขึ้น

    (หลัง วันที่ 12 ยังคงมีนิมิตอยู่)

    ผมขอ เตือนเลย ว่า ท่านได้ถูก

    ครอบร่าง โดย เหล่าฤษี มานานแล้ว

    หากท่านคล้ายว่าได้รับสาร ให้ทำโน้น

    ทำนี่ ให้สวดมนต์ ไม่ต้องทำเสียเวลา

    ภัยพิบัติ ที่เกิดขึ้นคือ เหล่า พรหมฤษี

    ครอบร่างของท่าน

    มันกำลังจะหมดอำนาจ....

    และสิ่งที่ปฏิบัติผ่านมา เดินผิดเส้นทาง

    มาโดยตลอด ยังไม่ต้องแย้งผมตอนนี้

    ให้ถึงวันที่ 21 ก่อน หากท่านโชคดี

    คือ หมดสิ้นนิมิตภัยพิบัติ

    โชคร้ายคือ เหล่าพรหมฤษี นิสัยอหังการ

    ถามว่ามันยังอยู่ไหม ยังอยู่ แต่หมดฤทธิ์

    ท่านจะรู้ได้อย่างไร ....หมดเสียงกระซิบ

    หมดเสียงในโสต จะได้รู้ ได้ตื่น เสียที

    ครูที่ท่านว่า "ฉันมีครู" คือ กาฝาก มาอาศัยร่าง

    แต่ถ้าหากใคร ที่ยังมีปกติ นั่นเป็น ของ ๆ ตนเอง

    ตัวตนของตน เป็นผู้กล่าว เป็นผู้ชี้นำ

    คือ ยังโชคดี

    แต่ใครหายไป เลย คือ ที่ผ่านมา ซวยมาตลอด




    ท่านชยุต ยืมเนื้อที่ หน่อยเด้อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  16. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เอาง่ายหากจะให้สังเกต ว่าใครที่

    ว่ามีนิมิตภัยพิบัติ และถูกครอบ ....

    พวกนี้ จะระลึกว่าตนเองยิ่งใหญ่

    ดังนั้น พวกอหังการมีครู สอนไม่ได้

    พวกนี้ ร่างกายจะ อ้วนใหญ่ หนาๆ

    เป็น นิสัยของเหล่าอหังการ กระเดียก

    ไปทางยักษ์ หรือ เรียกว่า มารพรหม

    ในวํฎฎ

    เหตุที่อ้วนใหญ่ เพราะ ใช้อำนาจจาก

    พรหมฤษี มาใช้งานมาโดยตลอด

    ใช้งานมาก ก่ อ้วนมาก ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  17. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    สวัสดีครับเพื่อนรักนักอ่านที่รักทุกท่าน แปลข้อความเพลินๆมาหลายวัน ผมก็ลืมไปเลยว่าจะถึงวันที่ 21 ธันวาคม แล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ผมตื่นมาตอนเช้า ไม่ใช่ความฝันครับ ผมรู้สึกถึงสิ่งที่น่าทำมาก หลังจากพลังงานใหม่ของโลกมีความพร้อมอย่างสมบูรณ์ มันเป็นความรู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน มันมีความชัดเจน มันมีขั้นตอน ทำให้ผมรู้ว่า ได้เวลาที่ผมจะต้องไปทำงานชิ้นใหม่แล้ว


    อยากจะแจ้งให้เพื่อนรักนักอ่านทั้งหลายทราบว่าหลังจากวันที่ 21 ธันวาคมไปแล้ว ผมจะหยุดแปลข้อความแล้วนะครับ เริ่มที่ข้อความของท่านซาลูซ่าก่อน ส่วนข้อความของชาวอาร์คทูเรี่ยนนั้น ผมยังอ่านอยู่ ก็คงจะแปลต่อไป แต่ว่าวันนี้มีข้อความของชาวอาร์คทูเรี่ยนมาใหม่ เนื้อหาไปถึงมิติที่ 8-10 แล้ว ข้อความของการเยือนยานแม่ของอาร์คทูเรี่ยนจะอธิบายไปจนถึงมิติที่ 12 แสดงว่าใกล้จบแล้ว เป็นไปได้ว่าจะจบพร้อมๆกันกับวันที่ 21 ธันวาคม เมื่อถึงมิติที่ 12 แล้ว ผมก็ขอหยุดแปลเช่นเดียวกัน


    ต่อจากนี้ไปผมก็จะไม่โพสข้อความแปลอีกแล้ว เพราะผมมีเรื่องอื่นที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนอีกมาก แต่จะแวะเวียนมาแบ่งปันประสบการณ์กับพวกท่านบ้าง ซึ่งก็อาจจะไม่บ่อยนัก เพราะว่าประสบการณ์ใหม่ๆมันคงจะไม่เกิดขึ้นทุกวันเป็นแน่ ประสบการณ์ออร่ามิติที่สี่ของผมที่ได้มาเดือนกว่าเกือบสองเดือนแล้ว ก็ไปของมันเรื่อยๆมันเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เดือนหนึ่งมาแบ่งปันกันซักครั้งก็ยังพอเห็นความแตกต่างได้ ไม่จำเป็นต้องแบ่งปันกันทุกวัน


    ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับพลังงานใหม่ ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ฝึกฝน ถ้าไม่รู้ว่าจะถามใคร ปรึกษาใคร ผมขอแนะนำให้พวกท่านถามและปรึกษากับเทพนำทางของท่านเองนั่นแหละเหมาะสมที่สุด เพราะพวกเขารู้จักท่านดีกว่าตัวท่านเองซะอีก ไม่จำเป็นต้องไปถามคนอื่นเพราะว่าแต่ละคนต่างก็มีระดับของวิวัฒนาการของตนเอง ซึ่งอาจจะไม่ใช่ระดับเดียวกับท่าน หรือไม่ใช่ความท้าทายเดียวกับท่าน การปรึกษากับพวกเขาอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อท่านอย่างที่ควรจะเป็น พวกท่านแต่ละคนมีหนทาง มีวิถีชีวิตเป็นของตนเอง ถ้าใครยังไม่ได้ติดต่อกับเทพนำทางของตนเอง เริ่มได้แล้วครับ


    ด้วยรักที่ไม่มีเงื่อนไข สวัสดีครับ

    Mr empty
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  18. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +433

    ยังไงก็แวะเวียนมาเรื่อย ๆ นะครับ เดือนละครั้ง สองเดือนครั้งก็ยังดี ประสบการณ์ของแต่ละท่าน เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อคนที่ต้องการอยากจะรู้ว่า จริง ๆ เราคือใคร เราเป็นอะไร (กันแน่) ???

    ขอให้ก้าวหน้า ๆ ยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับ


    (kiss)
     
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    คำกล่าวของคุณ Mr empty มันมา synchronicity
    กับสิ่งที่ผมกำลังจะทำอยู่พอดีเลยครับ..
    คือ..มีสิ่งใหม่ที่จะต้องทำมากมายเหลือเกิน
    แต่ก็ไม่คิดว่าจะยากเกินไปนักหรอกนะครับ
    เพราะว่าก็ทำอยู่เนืองๆอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่เต็มที่เท่านั้นเอง

    ผมหมายถึง ตอนนี้ผมกำลังแปลข้อความของท่านมิคาเอลอยู่
    และพอดีว่าในข้อความนี้ มีการกล่าวถึง "เทคนิก" ต่างๆ
    ที่ท่านมิคาเอลได้ให้ไว้แล้วทั้งหมด เพื่อเป็นเครื่องมือ
    สำหรับช่วยเหลือพวกเราในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้

    แต่เพราะว่าบางเทคนิก ผู้รับสาส์น ก็ไม่ได้เอามาสรุปไว้ให้
    เพียงแต่กล่าวถึงเท่านั้นเอง ดังนั้น ผมก็เลยจำเป็น
    ต้องกลับไปแปลข้อความที่กล่าวถึงเทคนิกอันนั้นก่อน
    เพื่อที่จะให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนหนะนะครับ
    เพื่อที่พวกเราทุกๆคน ผู้ที่เชื่อ และสนใจข้อความเหล่านี้
    จะได้ลองเอาไปฝึกกันจริงๆจังๆดูบ้าง ในยุคพลังงานใหม่
    ที่กำลังจะมาถึงนี้

    ส่วนใหญ่มันก็เป็นเทคนิกการหายใจแบบต่างๆนั่นแหละครับ
    เช่น
    - เทคนิกการหายใจแบบ Infinity
    - เทคนิกการหายใจแบบ Binary
    - เทคนิกการสร้าง Flower of Life
    - เทคนิกการสร้างปิระมิดแห่งแสงสว่างส่วนตัวของเรา ขึ้นในมิติที่ 5
    - เทคนิกการหายใจแบบ Accordion
    - Scripting Your Destiny
    - Becoming an Alpha Master
    - the Universal Laws of Manifestation
    - Living Each Day as a Master technique

    เทคนิกที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ มีบางส่วนที่พวกผมเคยแปลและโพสต์ไปแล้ว
    แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วน ที่ยังไม่ได้แปลเลย
    ดังนั้น ผมคงต้องขอเวลาแปลสักระยะหนึ่งก่อนนะครับ
    แล้วผมจะรวบรวมมาโพสต์ให้อ่านกันอย่างครบถ้วนนะครับ

    .........................................................
     
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ปีใหม่นี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจากที่วางแผนเอาไว้
    ผมว่าจะไปสร้างกระท่อมไว้ริมแม่น้ำซักหลัง
    เพื่อเอาไว้นอน และนั่งสมาธิทั้งตอนเช้าและตอนเย็น
    และใจก็อยากจะเลี้ยงสุนัขซักตัวด้วย แต่ไม่รู้จะได้หรือเปล่า
    เพราะว่าอยู่ที่เวียดนามนี่ ผมพักในโรงงาน
    ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหาร เลยห้ามมีสัตว์เลี้ยง
    แม้ว่าจะไปเลี้ยงไว้นอกรั้วโรงงานก็ตาม ก็ยังมีคนคัดค้านอยู่

    แต่ว่าเรื่องสร้างกระท่อมนี่ ไม่น่ามีปัญหาอะไร
    ผมก็จะได้ปฏิบัติจิต และ ฝึกฝนเทคนิกการหายใจแบบต่างๆ
    ตามที่ท่านมิคาเอลสอนไว้ ได้อย่างเต็มที่ซะที
    เพราะว่าที่นั่นอยู่นอกโรงงาน และริมแม่น้ำ บรรยากาศจะดีกว่า
    และก็จะได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าด้วย

    ผมได้รับแรงบันดาลใจที่จะทำแบบนี้มาพักหนึ่งแล้วหละครับ
    แต่ก็เพิ่งไม่ถึงเดือนมานี้เอง..

    ทิ้งห้องแอร์..ไปนอนในกระท่อมน้อยริมน้ำ

    ในขณะเดียวกัน ก็ยังได้ทำงานประจำไปด้วย
    เพราะว่ากระท่อมอยู่ห่างจากโรงงานไม่กี่สิบเมตรเอง
    เป็นที่ดินของบริษัทนั่นแหละครับ เป็นที่ว่างเหลือจาก
    การสร้างโรงจอดรถของบริษัท
    ตอนนี้ก็เลยใช้ปลูกต้นกล้วยเต็มไปหมดเลย

    ตอนเย็น ผมก็กะว่าจะยังคงไปออกกำลังกายในเมืองอยู่เหมือนเดิม
    แต่เสร็จแล้ว ก็จะกลับมาอาบน้ำอาบท่า
    แล้วลงไปนอนในกระท่อมหนะครับ

    ตอนนี้กำลังหาแบบกระท่อมสวยๆแต่ประหยัดอยู่หนะครับ
    ท่านใดเชี่ยวชาญทางด้านนี้ แนะนำด้วยนะครับ
    แบบในภาพนี้ก็ดีเหมือนกันนะ แต่อยากได้หลังคาเป็นรูปปิระมิด

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    ...................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...