เสี้ยววินาทีก่อนบรรลุธรรม จะพิจารณาได้อย่างไรว่า "แจ้งแล้วจริง"?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย น้องหน่อยน่ารัก, 2 กันยายน 2007.

  1. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    [bw-cry] [bw-cry]

    ฮือๆๆ อ่านแล้วน้ำลายไหล เอ้ย น้ำตาไหล ต่อมน้ำตาแตก คิดถึงพระพุทธเจ้าค่า
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่ ถามจริงๆ เถอะ ผมอ่านแล้วไม่รู้ว่า ด่าผมหรือด่า ปราบไตรจักร
    ผมจะได้สรุปถูก ถ้าด่าผมผมจะได้เถียงต่อ แต่ถ้าด่าปราบไตรจักรผมจะได้โมทนาสาธุด้วย
    หรือถ้าด่าทั้งสองคน ผมจะได้เถียงแล้วชวนปราบไตรจักรมาเถียงด้วย

    จะว่าผมโง่ที่ไม่รู้ว่าด่าใครก็เอาเถอะ ช่วยระบุให้ชัดอีกนิดนึง
     
  3. ฟิล์มนรกภูมิ

    ฟิล์มนรกภูมิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2007
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +669
    5555


    ด่าๆๆๆๆ .... นะซี ด่าๆๆๆๆๆ ..... นะซี


    55555
     
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สงสัยจะด่าผม คราวหน้า ถ้าจะด่า ช่วยด่าตรงๆ หน่อย ผมเป็นคนไม่ค่อยปรุงแต่ง เลยไม่ได้ตีความ
     
  5. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    ถึงคุณฟิล์มนรกภูมิ ถูกใจผมจริงๆครับ ชอบๆ

    ธรรมะของพระพุทธองค์ใช้เพื่อการฝึกปฏิบัติธรรมครับไม่ใช่เอาไว้คุยข่มกัน
     
  6. หมูอวตาร

    หมูอวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +65
    ที่คุณปราบไตรจักรยกมาน่าจะนำมาจากคิริมานนทสูตร

    คิริมานนทสูตรในพระไตรปิฎกไม่ได้ยาวขนาดนี้

    ลักษณะการใช้คำพูดไม่เหมือนคำตรัสของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก
    หมายความว่ามีอาจารย์แต่งต่อเติมเพิ่มคำในพระสูตรที่ยกมาจนยาวขนาดนี้

    ตัวอย่าง คำว่า

    นิพพานสุก นิพพานดิบ โลกุตตรนิพพาน นิพพานโลกีย์ นิพพานพรหม

    ดูกรอานนท์ คฤหัสถ์ก็ดี นักบวชก็ดี มากล่าวว่าตัวรู้ ตัวเห็นและได้พูดจากับด้วยผี
    ดังนี้ ก็พึงให้รู้ว่าคนจำพวกนั้น ไม่ใช่ลูกศิษย์ของเราตถาคต
    เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิภายนอก
    พระศาสนา ไม่ควรเชื่อถือเอาเป็นครูเป็นอาจารย์
    เพราะเขา เป็นคนเจ้าอุบายเจ้าเล่ห์เจ้ากลเท่านั้น


    เป็นคำของผู้แต่งเติมเสริมเข้าไป ไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้าแน่นอน

    เหตุผลก็คือ ไม่มีการใช้ในพระไตรปิฎก ลักษณะการใช้คำพูดไม่เหมือน
    คำตรัสของพระพุทธเจ้า

    เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่ใช่คำของพระพุทธเจ้าล้วนๆ

    จะนำมายกเป็นพระเอกของเรื่องไม่ได้
     
  7. จอกแหน

    จอกแหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +873
    ตาบอดคลำช้าง ?? มองต่างมุม !!
     
  8. กังขา ณ ปลาย

    กังขา ณ ปลาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +1,763

    พระเอกเรื่องอะไร คุณกำลังจะบอกอะไร
    แล้วอะไรคือพระเอกเรื่องนี้


    ดิฉันเห็นแต่ว่า หลายข้อความ คุณฟิล์มนรกภูมิ (อืม ชื่อนี้ก็ดีนะ ตลกดี)
    เขาประทับใจ จนยกออกมาเท่านั้น


    (i)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  9. หมูอวตาร

    หมูอวตาร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +65
    คุณปราบไตรจักรเคยยกคำหลวงปู่ดูลย์ ใน #96 แสดงว่าศรัทธาหลวงปู่ดูลย์

    ผมจะยกมาบ้าง

    ปฏิปุจฉา ข้อความในหนังสือ หลวงปู่ฝากไว้

    ถามว่า พระปุถุชนธรรมดายังหนาด้วยกิเลส แต่มีความสามารถสอนคนอื่นให้
    เขาบรรลุถึงอรหันต์ เคยมีบ้างไหมครับหลวงปู่ ฯ

    ท่านตอบว่า "หมอบางคน ทั้งที่ตัวเองยังมีโรคอยู่ แต่ก็เคยรักษาคนอื่นให้
    หายจากโรคได้ มีอยู่ทั่วไปไม่ใช่หรือ."


    ซึ่งคำตอบของหลวงปู่จะแย้งกับข้อความใน # 77 ของคุณปราบไตรจักรที่ว่า

    ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ไม่รู้ ไม่แจ้งไม่เข้าใจในพระ นิพพาน ไม่ควรจะสั่งสอนพระ
    นิพพานแก่ท่านผู้อื่น ถ้าขืน สั่งสอนก็จะพาท่านหลงหนทาง จะเป็นบาปเป็นกรรม
    แก่ตน


    ถ้าไม่ใช่พระพุทธพจน์แท้ๆ(มีหลักฐานในพระไตรปิฎก)จะยกมาเป็นพระเอกใน
    การโต้แย้งกันไม่ได้
     
  10. กังขา ณ ปลาย

    กังขา ณ ปลาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +1,763
    อืม มันก็ถูกทั้งสองข้อเลยทีเดียว
    เพียงแต่ปุถุชน ก็ควรเป็นพหูสูตร หรือรู้จริง สอนถูก มีความรู้จริง
    ไม่งั้น ก็ควรให้เป็นผู้เข้าถึงนิพพานความจริง มาสอน (ไม่ใช่พวกแอบอ้าง)
    <O:p
    แต่พุทธพจน์ก็ดี คำครูบาอาจารย์ก็ดี ล้วนเกิดขึ้นในสถานที่หรือเหตุการณ์อันเหมาะสม

    ถ้ายกมาในที่เหมาะ ก็ประสบผลถูก
    ยกมาผิดจังหวะ ก็อาจบิดเบือนไป


    คุณปราบฯ ยกมา ดิฉันรู้เหตุที่ยกมา เพราะกำลังมีพันธะอยู่กับอีกฝ่าย
    และดิฉันเชื่อว่า มีพุทธพจน์ตรัสเช่นนี้จริง.. เพราะคุ้นอยู่

    (i)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  11. ปราบไตรจักร

    ปราบไตรจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +104
    คิริมานนทสูตรที่เอามาลงนี้ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) ปราชญ์แห่งภาคอีสาน ได้ประพันธ์เอาไว้ แปลจากปรมัตถโชติกา คัมภีร์ลังกาวงศ์ สมัยเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเผยแพร่การปฏิบัติธรรมให้ถูกทาง เป็นสัมมาทิฏฐิ อันนี้ใครจะโต้แย้งก็ได้นะครับ ถ้าจะโต้แย้งเรื่องเนื้อหา ก็ไปสนทนากันท่านได้เลยครับ เพราะมีที่มาของพระสูตรนี้
    <O:p</O:p
    คุณขันธ์...ถ้าคนรู้ธรรมอย่างคุณ พูดจาก้าวร้าว ด่าทอคนอื่น...เหมือนกับแม่ค้าตลาดสดจริงๆเลยนะครับ ท่าทางจะบรรลุธรรม มากไปกว่าพระพุทธองค์ จริงๆ อันนี้ผมคงด่าคนไม่เก่งนะครับ เพราะไม่ได้บรรลุธรรม รู้เสี้ยวแห่งการบรรลุธรรม
    <O:p</O:p
    วัวสันหลังหวะ...ก้อ...ตกใจ...นะ ขันธ์.... 5555... กลัวคนด่าทอด้วยหรือครับ ...สรรเสริญ นินทา อยู่คู่โลก
    <O:p</O:p
    งานนี้ บุญทำ กรรมแต่ง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม....ยิ่งเตือน ยิ่งอวดว่าตนเองรู้ตนเองเห็น
    <O:p</O:p
    คุณหมูอวตาร...ผมศรัทธาทุกคนแหละครับ ไม่เคยเลือกพระเลือกเจ้า ถ้าท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมพระพุทธองค์ แสดงธรรมพระพุทธองค์ รู้ธรรมตามเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่มั่น หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ท่านพุทธทาส ท่านเจ้าคุณนรฯ สมเด็จพระสังฆราชฯ อาจารย์วศิน อินทสระ อาจารย์สุชีพ ปุญญานุภาพ ถ้าท่านเหล่าแสดงธรรมตามเป็นจริง เป็นพหูสูตรจริง และปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ก็ศรัทธาหมดแหละครับ
    <O:p</O:p
    สังเกตให้ดีนะครับ ท่านเหล่านี้ ไม่เคยโอ้อวดตนเอง ไม่เคยพูดจาด่าทอใคร ไม่แสดงตนเองว่าตนเองบรรลุธรรม กล่าวแต่ธรรมที่นำไปสู่ความพ้นทุกข์จริงๆ รู้จริง อธิบายได้ชัดเจน ชัดแจ้ง
    <O:p></O:p>
    ในโลกนี้ ไม่ได้มีผู้ปฏิบัติเพียงคนๆเดียวหรือที่เข้าในอ่านและศึกษาในเว็บนี้ ยังมีอีกมากมายครับ อย่าชอบทำตัวเป็นกบในกะลาเลย
    <O:p></O:p>
    เหนือฟ้า ยังมีฟ้า เหนือ คุณขันธ์ ยังมีเส้นผม 55555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  12. ปราบไตรจักร

    ปราบไตรจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +104
    จริงอยู่หลวงปู่ดุลย์ ท่านเคยกล่าวไว้อย่างนั้นว่า ผู้ไม่เคยเห็นนิพพาน สามารถแสดงธรรม ให้คนอื่นสามารถรู้แจ้ง เห็นจริงได้ อันนี้ต้องพิจารณาให้ละเอียดครับว่า ผู้แสดงธรรมนั้นเป็นพหูสูตรมั้ย แสดงธรรมโดยเอาธรรมพระพุทธองค์มาแสดงหรือเปล่า หรือตามความคิดเห็นตนเอง อันนี้ต้องพิจารณาให้ชัดเจนครับ

    และผู้ฟังธรรม นั้น สะสมบุญบารมีมากพอที่จะสามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามธรรมที่แสดงนั้นได้หรือเปล่า
    <O:p
    ทีนี้ เรา ดูตามเป็นจริงครับ ในสมัยนี้ ผู้แสดงธรรม หรือกล่าวธรรมที่ตนเองคิดว่ารู้จริง (99% คิด คาดคะเนเอาเองนะครับ เห็นกันมากมายในยุคนี้ และตั้งตนเป็นครูอาจารย์กันมาก) เป็นพหูสูตรมั้ย กล่าวธรรม แสดงของพระพุทธองค์จริงๆมั้ยละครับ ส่วนใหญ่ก็กล่าว ธรรม แสดงธรรม ที่เป็นของพุทธตนเองทั้งนั้นแหละครับ
    <O:p></O:p>
    จริงหรือไม่ ทุกท่านย่อมสามารถทราบได้ด้วยตนเอง พิสูจน์ได้ด้วยตนเองครับ
    <O:p></O:p>
    แต่อย่างว่าละนะครับ....ผมศึกษาธรรมะพระพุทธองค์ท่าน ยิ่งศึกษามากเท่าไหร่ยิ่งรู้ศึกว่าตนเองโง่ลงทุกวัน ทุกวัน ไม่ได้รู้อะไรมากขึ้นเลย และไม่รู้อะไรเลย

    ก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไร ไปเถียงสู้คนอื่นได้นะครับ ก็ต้องอ้างพระพุทธพจน์ และคำสอนครูอาจารย์ท่านต่างๆละครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2007
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่ ปราบไตรจักร ยังไม่เลิกอีกเหรอเนี่ย ผมเลิกไปนานแล้วนะ มีคุณ อ่อนมาถามเรื่องโคตรภูญาณ ผมก็อธิบายไป
    คุณ ปราบไตรจักรก็มาพูดในเรื่องเดิมๆ
    นี่ผมถามอย่างหนึ่งเลยนะ
    1 คุณเอาตรรกะอะไรมาพิสูจน์ว่าผมไม่รู้ธรรม หรือ ผมรู้ธรรม
    2 รู้ได้อย่างไรว่า ผมบรรลุธรรมหรือไม่บรรลุธรรม

    การที่ออกมาด่าทอคนอื่น อันนี้ขอตอบว่า ถึงจะพูดแรงๆ แต่ไม่ได้ด่าอะไรเลย การที่ผมกล่าวว่า คุณ กังขา ผู้ยังกังขา อยู่ในธรรม นี่ก็ยกคำพูดของ พระพุทธองค์มาพูด ว่ามีแต่มูตรแต่คูตร เพราะไม่ให้หญิงนั้นประมาท
    การที่ผมกล่าวว่ามี ฝีที่หน้าอก ก็ยกคำพระโมคคัลลานะ(ถ้าจำไม่ผิด)มาพูด เพื่อไม่ให้หญิงนั้นประมาท เพราะธรรมชาติเพศหญิงนั้น เป็นเพศที่ประมาทและเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งเสมอ แม้ว่าหญิงนั้นจะเกลียด แต่อย่างน้อยก็ ยังมีข้อคิดไปบ้าง แต่ถ้าพูดว่า คุณปราบไตรจักร ดีอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่า คุณ กังขารู้ธรรมมากอย่างนั้นอย่างนี้ หรือว่า ประเสริฐ แบบนี้เรียกว่า พูดเอาใจกิเลส เพราะกิเลสมันชอบให้ยกยอปอปั้น

    เว้นแต่เมื่อเสียกำลังใจมากนั่นแหละจึงค่อยยก

    คุณไม่รู้หรอกว่า ผู้ที่ปฏิบัตธรรม ตามปฏิปทาพระอาจารย์มั่นนั้น โดนหนักกว่านี้มาก ใครพูดพล่อยๆ ยิ่งพวกรู้มากนี่ โดนไล่เลยหละ ในที่นี้ ใครเป็นลูกศิษย์สายพระอาจารย์มั่นก็จะทราบดี
    แล้วคุณจะไม่ได้เจอที่ไหน นอกจากไปบวชในสำนักของท่านเท่านั้น

    ผมบอกตามตรง กิเลสในใจคุณ ยังมีอยู่มากซึ่งคุณก็ไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยได้ มีสติตามรู้และละมัน
    ถ้าอยากจะขัดเกลา ผมจะปรับให้
     
  14. ปราบไตรจักร

    ปราบไตรจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +104
    เห็นกิเลสคนอื่นมากมาย แต่เห็นกิเลสตนเองไม่มีหรืองัยครับ คุณขันธ์ แหมคุยกับผู้บริสุทธิ์ ผู้มีญาณ ยานโตงเตง ละมั้ง 5555<O:p</O:p
    <O:p></O:p>
    ความผิดคนอื่นเห็นมากมายเท่าภูเขา แต่ความชั่วตนกลับไม่มี 55555
    <O:p></O:p>
    ขำ ขำ ขำ จริงๆ คุยกับคนบรรลุธรรม รู้ธรรม ไปหม้ด ฮะ ฮะ ฮะ
    <O:p></O:p>
    คุณขันธ์ คงมีร่างกายบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่มีมูตร คูถไหล ออกจากทวารทั้ง 9 แหมพูดไปได้ว่า ตนเองไม่ประมาท คนอื่นประมาท ถามจริงๆเหอะ ใช้มาตรฐานอะไร ไปกำหนดชี้ชัดว่า คนนี้เป็นอย่างนี้ คนนั้นเป็นอย่างนั้น มีกิเลสมาก กืเลสน้อย ประมาท ไม่ประมาท รู้ธรรม ไม่รู้ธรรม มั่วหรือเปล่า พวกนั่งเทียนมีมากนะ พวกเดาสุ่มสี่สุ่มห้า
    ช่วยขัดเกลากิเลสให้หน่อยซิครับ พระพุทธองค์ยังทำให้คนอื่นไม่ได้ ถ้าคุณทำได้นับถือๆ ทำไมไม่ทำให้กับคนรอบข้างคุณขันธ์ด้วย เช่า ญาติพี่น้อง บริวาร ภูมิเจ้าที่ที่บ้าน ขัดเกลาให้เขาเหล่านั้นด้วยนะ อย่าลืม
    <O:p></O:p>
    อย่ามั่วนิ่ม เลย คุณขันธ์ เฉไฉไปเรื่อย ข้างๆ คูๆไปเรื่อย ถามอีกอย่าง ตอบอีกอย่าง ตนเองรับรองแล้วว่า ตนเองรู้เสี้ยวแห่งการรบรรลุธรรมว่าจริง คุณพูดเองนะครับ แล้วทีนี้ จะให้เข้าใจอย่างไร ละครับ ถ้าคุณไม่บรรลุธรรม ผู้บรรลุธรรมเท่านั้นสามารถอธิบายได้ ...ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นพวกมั่วนิ่มมากกว่าครับ พวกรู้น้อย แต่อวดฉลาด อยากทำตัวเป็นนักปราชญ์ ให้คนนิยมชมชอบ
    <O:p></O:p>
    คุณขันธ์ผู้มีร่างกายไม่มีมูตร คูถ 5555555555555555555555555555555555555555555555555555555
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สำหรับ ผู้ที่บอกว่า ตาบอดคลำช้าง จะมาพูดแบบนี้ไม่ได้หรอก เพราะผมไม่ได้ตาบอด

    สำหรับ ปราบไตรจักร ผมไม่รู้ว่าจะต้องพูดสักกี่ครั้งดี มันถึงจะยุติได้
    กิเลสมากจริงๆ คุณนี่ ผิดพลาดตั้งหลายหนหลายครา ยั้ง..จะมาเถียงดื้อๆด้านๆ

    สุดท้ายแล้ว ผมจะได้ไปทำมาหากินอย่างอื่นซะที คนอ่านเขาก็เบื่อละครน้ำเน่าเรื่องนี้เต็มทีแล้ว ไม่จบซักที ผู้ร้าย จะตายๆ ก็ไม่ตายซักที เผยอ ปากมาทุกที เอาหละคราวนี้ผมจะเอาให้จบแล้ว พระเอกอย่างผมจะได้มีแต่คนสรรเสริญ หรือ ไม่ก็ด่าจมดินไปเลย

    ดวลปืนกันคนละนัดไปเลย

    1 ห็นกิเลสคนอื่นมากมาย แต่เห็นกิเลสตนเองไม่มีหรืองัยครับ คุณขันธ์ แหมคุยกับผู้บริสุทธิ์ ผู้มีญาณ ยานโตงเตง ละมั้ง 5555<o>:p
    ตอบ ผมไม่เคยบอกว่าผมบริสุทธิ์ และผมก็เห็นกิเลสตนเองเสมอ แล้วจะบอกว่ายังไงหละ เห็นกิเลสตัวเองเนี่ย

    2 </o>
    ขำ ขำ ขำ จริงๆ คุยกับคนบรรลุธรรม รู้ธรรม ไปหม้ด ฮะ ฮะ ฮะ
    ตอบ อันนี้ต้องคุณแล้วหละ เพราะคุณจะมาลองภูมิผม พอผมตอบ หาว่ารู้ธรรมไปหมด พอเถียงไม่ออกก็มาพูดจาเป็น ละครช่องเจ็ด

    3
    คุณขันธ์ คงมีร่างกายบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ไม่มีมูตร คูถไหล ออกจากทวารทั้ง 9 แหมพูดไปได้ว่า ตนเองไม่ประมาท คนอื่นประมาท ถามจริงๆเหอะ ใช้มาตรฐานอะไร ไปกำหนดชี้ชัดว่า คนนี้เป็นอย่างนี้ คนนั้นเป็นอย่างนั้น มีกิเลสมาก กืเลสน้อย ประมาท ไม่ประมาท รู้ธรรม ไม่รู้ธรรม มั่วหรือเปล่า พวกนั่งเทียนมีมากนะ พวกเดาสุ่มสี่สุ่มห้า
    ช่วยขัดเกลากิเลสให้หน่อยซิครับ พระพุทธองค์ยังทำให้คนอื่นไม่ได้ ถ้าคุณทำได้นับถือๆ ทำไมไม่ทำให้กับคนรอบข้างคุณขันธ์ด้วย เช่า ญาติพี่น้อง บริวาร ภูมิเจ้าที่ที่บ้าน ขัดเกลาให้เขาเหล่านั้นด้วยนะ อย่าลืม

    ตอบ ผมพูดข้อธรรมไปทั้งหมด ไม่ได้แก้ต่างว่าตนเองไม่ใช่แบบนั้น หรือ ว่าผมดีตลอด

    อย่ามั่วนิ่ม เลย คุณขันธ์ เฉไฉไปเรื่อย ข้างๆ คูๆไปเรื่อย ถามอีกอย่าง ตอบอีกอย่าง ตนเองรับรองแล้วว่า ตนเองรู้เสี้ยวแห่งการรบรรลุธรรมว่าจริง คุณพูดเองนะครับ แล้วทีนี้ จะให้เข้าใจอย่างไร ละครับ ถ้าคุณไม่บรรลุธรรม ผู้บรรลุธรรมเท่านั้นสามารถอธิบายได้ ...ถ้าอย่างนั้น ก็เป็นพวกมั่วนิ่มมากกว่าครับ พวกรู้น้อย แต่อวดฉลาด อยากทำตัวเป็นนักปราชญ์ ให้คนนิยมชมชอบ

    ตอบ ยังไม่ได้มั่วอะไรเลย และไม่ได้เฉไฉด้วย เหตุผลคงไม่ต้องพูดแล้ว อย่าทำตัวเป็นผีดิบ ตายยากหน่อยเลย จำนนด้วยเหตุผลหน่อย ดื้อด้านแบบนี้ แทนที่จะจบอย่างสมเกียรติเดี๋ยวมันจะกลายเป็น นางอิจฉา สุดท้ายเป็นบ้า ตามละครช่องเจ็ด

    บายๆ ผมถือว่าหนังจบแล้ว ผมเป็นคนชั่ว ไม่ดี ชอบด่าแล้วชิ่งหนี แล้วก็ ชอบอวดตัวให้คนนับถือ ผมชอบด่าคนอื่น มากด้วยโทสะจริต ผมเป็นคนที่ยังต้องปรับปรุงอีกมาก ผมเป็นคนที่กิเลสดองอยู่ในสันดาน ผมเป็นคนสารพัดความชั่ว ผมเป็นคนเฉไฉ ผมเป็นคนมีแต่มูตรแต่คูตร ผมคนโง่ เอาหละ ถ้ายังมีมากกว่านี้ช่วย ด่ามาอีกที เอาให้สะใจไปเลย พ่อพระเอก ปราบไตรจักร
    (แค่ชื่อ ก็บอกแล้วว่า ช่องเจ็ด)
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มาเริ่มเรื่องใหม่ดีกว่า ผมจะถามคุณปราบไตรจักรว่า
    1 มรรค เป็น ทุกข์ การกล่าวเช่นนั้นเพราะเหตุใด
    2 ทำไมนิโรธ จึง เป็น ทุกข์ ทั้งที่ชื่อก็บอกว่าดับทั้งปวง และเป็น ไวพจน์กับคำว่า พระนิพพาน
    เอาสองข้อนี้ ก่อน ถามแบบนี้เผื่อว่าจะมีประโยชน์บ้าง กับผู้อ่านท่านอื่นๆ

    จิตใจที่เรียกกันว่า จิตเดิมแท้นั้นบริสุทธิ์ ทำไมผู้บรรลุธรรมจึงกล่าวเช่นนั้น
     
  17. ปราบไตรจักร

    ปราบไตรจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +104
    คนไม่เชื่อ ก็ต้องบังคับให้เชื่อ คนอย่างนี้ก็มีด้วยนะ ถ้าเป็นไปได้คงเอาปืนมาขู่ให้เชื่อละมั้ง แถมบอกคนอื่นว่าเป็น ผีดิบอีก คุณขันธ์เป็นผีที่โดนย่างสุก แล้วใช่มั้ยครับ ต้มสุกด้วยหรือเปล่านะสิครับ ฮะ ฮะ ฮะ
    แหม...เป็นแฟนละครช่องเจ็ด เผอิญว่าที่บ้านยากจนนะ ไม่มีโทรทัศน์ คงไม่มีโอกาสทราบว่า นางอิจฉาเป็นอย่างไร และ ก็ไม่รู้จะไปอิจฉาอะไรคุณขันธ์ มีความดี ความชอบ แก่แผ่นดิน ให้อิจฉาด้วยหรือครับ ถ้ามีก็บอกหน่อยก็แล้วกัน จะได้อิจฉา 555555

    คงตอบไม่ได้หรอก คำถามที่ผ่านมา เพราะไม่ได้รู้เสี้ยวแห่ง การบรรลุธรรม ถามคนที่ไม่รู้อะไร จะตอบอะไรได้อย่างไรเล่าละครับ
    <O:p></O:p>
    มรรค ผมก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ทุกข์ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ถ้ามรรคเป็นทุกข์ ไม่ใช่ทางแห่งความพ้นทุกข์ แล้วจะดำเนินมรรคไปทำไมกัน มันจะไม่ทุกข์ไปกันใหญ่หรือครับ อันนี้ไม่ขัดกับหลักคำสอนพระพุทธองค์หรือครับ

    อ้อ...ลืมไป มีคนรู้มากกว่าพระพุทธองค์อยู่สามารถอธิบายวิสัยแห่งพระพุทธองค์
    <O:p
    นิพพาน อันนี้ยิ่งไม่ต้อง ถามเลย นิโรธ เป็นไวพจน์ กันหรือไม่ กับ นิพพาน อันนี้ไม่ทราบ เพราะไม่เคยนิโรธ ไม่เคยนิพพาน
    <O:p
    นิโรธกับนิพพานเป็นไวพจน์กัน คุณขันธ์....บัญญัติศัพท์ขึ้นมาเอง หรือว่า ลอกคนอื่นมา มรรค ทุกข์ นิโรธ และ นิพพาน พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้นทั้งนั้น แต่คุณขันธ์บอกว่า ไม่สนใจปริยัติ ไม่เอาพระไตรปิฎกเป็นที่ตั้ง ไม่เอาคำพูดคนอื่นมาใช้ ....คุณขันธ์....ก็ควรที่จะบัญญัติศัพท์ตนเองขึ้นมาใช้เองซิครับ ไปลอกเลียนแบบพระองค์ท่านทำไม ทำไมยังอ้างอิงศัพท์พระพุทธองค์เล่า บัญญัติสิ่งทีตนเองรู้ขึ้นมาซิครับ ไปใช้ของคนอื่นทำไม<O:p</O:p
    <O:p
    จิตเดิมแท้นั้นบริสุทธิ์ หรือไม่ อันนี้ก็ตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้บรรลุธรรม
    <O:p
    ไม่รู้จริงๆ เพราะไม่รู้อะไร จึงไม่มี อะไรให้ตอบ
    <O:p
    รู้แต่อย่างเดียวว่า เข้าใจอย่างเดียวว่า บริสุทธิ์ หรือไม่ยริสุทธิ์ รู้อยู่แก่ตน รู้ธรรม หรือ ไม่บรรลุธรรม รู้อยู่แก่ตน
    <O:p</O:p
    ธรรมที่แท้มีให้บรรลุด้วยหรือครับ จิตเดิมแท้บริสุทธิ์อยู่แล้ว ทำไมต้องไปบรรลุธรรมละครับ....คุณขันธ์
    <O:p</O:p
    ธรรมอะไรที่คุณบรรลุ ยังไม่อธิบายเลย เสี้ยวแห่งการบรรลุธรรม ธรรมที่บรรลุคืออะไร ถามมาตลอดเลยนะครับ
    และคุณขันธ์ก็ไม่เคยซักที <O:p</O:p
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    อะไรก็ตามที่เป็นบัญญัติ เป็นทุกข์ ทั้งสิ้น
    ที่เกิด มรรค ขึ้น ก็เพราะว่ามีเหตุปัจจัย อันเป็นเหตุให้มรรค เกิดขึ้นและดับไปได้
    ที่เกิด นิโรธ ก็มีเหตุปัจจัย อันเป็นการที่ทำให้ นิโรธ เกิดขึ้นและ ดับไปได้

    เมื่อ ถึงจิตเดิมแท้ อันปราศจากการปรุงแต่งด้วยกิเลส ก็จะทราบว่า ดับไปทั้งหมดเป็นอย่างไร ก็คือ พระนิพพาน แจ้งอยู่ แต่ด้วยการที่บอกว่า ถึงแม้นิพพานนี้ จะปรากฎ แต่ก็เป็นลักษณะของนิโรธ คือ ยังเกิด ขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ตราบใด ที่ยังไ่ม่เข้าถึง อรหัตผล อันเป็นที่สุดของทุกข์ นิโรธ และ มรรค ก็ยังเป็น ทุกข์อยู่ จะหยุดทุกข์ทั้งปวงก็ต่อเมื่อเข้าสู่สภาวะพระนิพพาน


    ผมไม่อยากพูดว่า ผมบรรลุธรรมอะไร เพราะว่า ธรรมที่บรรลุนั้น ดับไปแล้ว รู้แล้วดับลง
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทุกข์ คือ มองตามจิต เห็น จิตไหว
    สมุทัย ทราบ สายปฏิจสมุบาทนั้น
    เมื่อ มองตามติด ทั้งหมด เกิด โคตรภูญาณ ก็คือ นิโรธ
    แล้วจึงเห็น มรรค

    ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึง บัญญัต ว่า นิโรธ มาก่อนมรรค มรรคนั้น มีขึ้นเพื่อ ถอนอนุสัย และต้องเห็น พระนิพพานก่อน จึงจะเกิดสัมมาทิฎฐิ ไม่มีทางที่จะเกิดสัมมาทิฎฐิก่อนเห็น พระนิพพาน
    การเห็นพระนิพพานนี้ ชั่วแวบ นั่นแหละ โคตรภูญาณ

    สำคัญคือ การมองทุกข์ด้วย สติ คือ ตามอาการไหว ที่ตัวเราเอง
    ตามติดให้ตลอด เมื่อสายของทุกข์ขาดลงแวบใด นั่นแหละ จะเจอเอง
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มาอีกแล้ว กังขาจอมสนับสนุน
    ใครไม่เคยเห็นเด็กงอแง เล่นพรรคเล่นพวกก็มาดูทีนี่ได้
    ในโลกนี้บุคคล 4 จำพวก
    คือ รักเพราะรัก คือ รักกันเพราะรักคนคนเดียวกัน
    รักเพราะเกลียด คือ รักกันเพราะเกลียดคนคนเดียวกัน ( กังขากับปราบไตรจักร อ้อ กับ นายtouru อีกคน)
    เกลียดเพราะรัก คือ เกลียดกันเพราะว่าคนหนึ่งรักคนที่อีกคนหนึ่งไม่ชอบ
    เกลียดเพราะเกลียด คือ เกลียดคนที่เกลียดคนที่ตนรัก

    กังขา ผู้ยังกังขาอยู่ในธรรม ยังสับสนปนเป
    ยังวังวนอยู่ใน ช่องเจ็ดเหมือนกัน ผมแนะนำให้ กังขาไปเปลี่ยนชื่อ เป็น กังขาอัปสร จะได้คู่กับ ปราบไตรจักร
    พอดีแหละ จูงมือกันไปเล่นละครจักรๆ วงศ์ๆได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...